คุณว่าความรักเป็นสิ่งที่เจ็บปวดรึเปล่า?
หรือว่าความรักคือความสวยงามที่คู่ควรกับชีวิต
“ขอโทษนะครับ!”เสียงฝีเท้าดังต่อเนื่องกันไม่มีหยุดและดูเหมือนจะทวีคูณความเร็วเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ใจเขาตอนนี้ไม่คิดที่จะสนใจผู้คนรอบข้างเลยแม้แต่น้อย มีเพียงแต่คำขอโทษที่หลุดออกมาจากปากเขาเมื่อไปชนใครเข้า แต่ก็ไม่มีที่จะเหลียวหลังกลับไปดูว่าใครจะแสดงสีหน้าท่าทางกับเขายังไง แม้ว่าจะมีคนเตือนไม่ให้เขาวิ่ง หรือจะเป็นเสียงผู้คนร้องตกใจเวลาที่เขาวิ่งผ่านกลุ่มคนพวกนั้นไปอย่างรวดเร็ว เกือบชนบ้าง เกือบเฉี่ยวบ้าง จนข้าวของตกหล่น แต่เสียงพวกนั้นที่ปนรวมกันมันยังไม่ดังเท่าคำพูดที่ก้องอยู่ในหูตลอดเวลา
เหมือนเขาจะเป็นคนสุดท้ายที่ได้รู้เรื่องเหล่านี้ เขาจำเป็นต้องรีบ รีบให้เร็วที่สุด รีบไปให้ทันเวลาก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไปและย้อนกลับมาสมน้ำหน้าตัวเขาเอง
꿈결같은 사랑 거둬들일때가 내게도 찾아오네요
ผมรู้ว่าเวลาที่จะต้องปล่อยวางความรักซึ่งเหมือนฝันได้มาถึงแล้ว
아픔을 알게 되겠죠
ผมน่าจะได้รู้ว่าความเจ็บปวดคืออะไร
สำหรับบางคนพยายามวิ่งหาความรักแทบตาย
ตามหาความรักเหมือนกับเป็นสิ่งที่เกิดมาให้โหยหา
หญิงสาวที่ใบหน้าเปื้อนยิ้มอยู่ตลอดเวลานั่งลงกับเก้าอี้เพื่อรอคอยใครบางคน เสียงฝีเท้าที่เคยส่งเสียงดังเมื่อก่อนหน้านี้ได้เงียบลงหยุดอยู่ตรงข้างๆเธอในทันใด ไม่รอช้าเธอเงยหน้าหันไปมองร่างนั้นก่อนจะเอ่ยคำพูดออกมา
เขาหวังว่าเธอจะไม่พูดคำๆนั้น
เขาหวังตลอดว่าทุกอย่างจะไม่สายเกินไป
เขาเชื่อว่าพระเจ้าจะไม่โหดร้ายกับเขา
และเขาก็เชื่อเสมอว่าพระเจ้าจะไม่พรากอะไรไปจากเขาเป็นครั้งที่สอง
.
.
“มาสายไปนะคะ”
ทว่าพระเจ้ากลับไม่เมตตาเขาอีกครั้ง
내게 슬픔 주러 다가온 이별을 난 준비 못했죠
ผมไม่ได้เตรียมใจกับการเลิกรา ซึ่งมาให้ความโศกเศร้าแก่ผม
가지 말라고 대뇌는 나를 그대는 모르나요
คุณไม่รู้เลยหรือ? เกี่ยวกับผมคนนี้ที่มันพร่ำเอ่ยซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่าอย่าไป
แต่ผลสุดท้ายก็โบยบินหนีไปเหมือนดั่งผีเสื้อ
บางคนหลีกหนีความรักแทบตายเหมือนกัน
เกลียดความรักจนไม่กล้าแม้แต่จะเผชิญ
คำพูดที่ถูกพัดผ่านหูไปไม่กี่วินาทีก่อนหน้านี้ ถึงจะไม่ได้พูดตรงๆให้ฟังอย่างเข้าใจ แต่มันกลับทำลายกำแพงแห่งความหวังที่เขาพยายามจะก่อมันขึ้นมา แม้ก้อนอิฐเปราะบางไม่ต่างจากผลึกแก้วจะทลายลงมาสักกี่ครั้ง เพราะความเป็นจริงที่รอคอยอยู่ตรงหน้าเป็นจุดจบที่บอกให้เขารู้ตั้งแต่เริ่มต้นว่าสิ่งที่เขาได้แต่ภาวนาให้มันเป็นจริงให้ตายยังไงมันคงไม่มีวันเป็นไปได้ ทั้งๆที่รู้อยู่ในใจว่าร่างที่เป็นเจ้าของหัวใจที่เต้นอย่างอ่อนแรงโดยไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะถูกพรากไปตั้งเมื่อไร ชีวิตที่ตื่นมาแล้วรับรู้ได้ว่าเหลืออยู่เพียงสิบลมหายใจเท่านั้นสำหรับการใช้ชีวิตก่อนจะต้องจากไปอย่างไม่มีวันกลับมาอีกครั้ง รอเพียงแต่ปาฏิหารย์ที่ดูท่าว่าจะไม่มีวันเกิด นำร่างที่ปราศจากหัวใจมาพบเขาให้รู้ว่าไม่มีคำว่าสายสำหรับการจากไปในครั้งนี้
แต่เข็มนาฬิกาที่คอยเดินไปโดยไม่สนใจว่าอาจจะมีใครร้องตะโกนขอให้ช่วยหยุดมัน ขอให้ช่วยผ่านไปอย่างช้าๆ ขอให้เวลาเคลื่อนไปอย่างรวดเร็วพร้อมกับนำความเจ็บปวดผ่านไปด้วย เวลาที่ขึ้นชื่อว่าไม่เคยรอใคร และไม่หยุดให้ใครรอ เขาเข้าใจแล้วจริงๆกับประโยคนี้ว่ามันเป็นยังไง
“น่าเศร้านะคะ ทั้งๆที่รู้ว่าอะไรจะเกิด แต่ก็
ช่วยอะไรไม่ได้เลย”
มันแย่ยิ่งกว่าพยายามอย่างเต็มที่แล้วแต่ไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้น ซ้ำมันยังหนักกว่าเดิมอีกหลายเท่า
ไร้ซึ่งคำพูดใดๆที่หลุดออกมาจากปากเขาในตอนนี้ ไม่ใช่ว่าไม่รู้สึกอะไร ไม่ใช่ว่าไม่ได้คิดอะไรเลย แต่หากมันยากเกินกว่าจะกลั่นเป็นคำพูดออกมา เขาไม่รู้ว่าแค่เพียงเอ่ยอะไรออกไปมันจะทำให้ทุกอย่างที่แย่อยู่แล้วแย่กว่าเดิมรึเปล่า ภายในความคิดของเขามันเกินกว่าจะนึกอะไรออกมาเลยจริงๆ เขาไม่กล้าแม้แต่จะนึกถึงภาพนั้น ภาพก่อนหน้านั้น ภาพที่เขาหวังว่าจะมาทันได้เห็นมัน
“พี่โอ๋ครับ..”เอ่ยเพียงชื่อเบาๆให้พอรู้ว่าเขายังรับรู้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแม้ในตาที่ว่างเปล่านั้นจะดูเหมือนว่าไร้ซึ่งการตอบสนองอะไรอีกแล้ว
มันยากเกินกว่าที่จะทำใจ
ยากเกินกว่าที่จะรับได้
“ผมมาสายไปจริงๆใช่มั้ย”
“พลาดไปเพียงวินาทีเดียวก็เท่ากับคำว่าช้า”
“การตายและการลาจาก..ไม่เคยปราณีใครหรอกจ้ะ”
ความจริงที่โหดร้ายมันมาถึงแล้วจริงๆ
그대 떠나고 난 빈자리내 눈물들로
คุณได้จากไปแล้ว และแม้ว่าผมต้องเติมเต็มที่อันว่างเปล่าด้วยน้ำตาของผมเอง
채워야 하지만 우리 사랑했던 그만큼 난 그대위해 행복을 빌어요
มากเท่าที่เรารักกัน ผมขอให้คุณมีความสุขมากดังเช่นช่วงเวลานั้น
หรือบางคนเฝ้ารอความรักด้วยความหวัง
แม้อาจจะเป็นความรักที่จากไปไกลแสนไกล
โหดร้ายเกินไปแล้ว
ไม่ใจร้ายเกินไปหน่อยเหรอ
ไม่มีแม้แต่ น้ำตา ออกมาสักหยด..
ทำไมกัน..
ทั้งๆที่รู้สึกอยากร้องไห้ใจจะขาด
เขาหันไปมองเตียงขาวสะอาดนั้น ยังมีร่างเย็นเฉียบที่นอนหลับตาแน่นิ่ง มือเรียวที่แนบข้างกายนั้นเกินกว่าที่จะหวังให้ขยับอีกครั้ง ก็ในเมื่อ
ลมหายใจที่เคยมีได้หมดลงไปแล้ว
หมดลงไป
ไม่กี่นาทีที่เขาจะมาถึง
..
.
ไม่มี..
แม้แต่จะบอกลากันสักคำ
หญิงสาวได้แต่ยืนมองพร้อมกับยกยิ้มจางๆที่เต็มไปด้วยความเศร้าก่อนจะเอ่ยปากเรียกชื่อ มีแต่เสียงตอบรับเบาๆหลุดลอดออกมาจากปากเขา สายตาว่างเปล่านั้นยังคงจับจ้องไปยังร่างที่ไร้ลมหายใจไม่ละไปไหน
ไม่รู้ว่าร่างนั้นจะรู้บ้างมั้ย
ว่ามีสองสายตาที่จับจ้องเธออยู่
มีแต่คำถามที่ติดคั่งค้างอยู่ในใจ
“เอนมินจ๊ะ”
“ครับ
”
ของบางสิ่งบางอย่างที่อยู่ในมือเธอถูกยกยื่นใส่ในมือเขา เขาได้แต่ก้มหน้านิ่ง ละสายตาที่เคยมองเตียงขาวสะอาดนั้นมามองของที่อยู่ในมือแทน ไม่มีแม้แต่สียงใดๆที่ดังขึ้นต่อจากนั้นอีก ทุกอย่างตกอยู่ในความเงียบ และความเศร้าที่ยังไม่เลือนหายไปจากห้องๆนี้
“เธอฝากบอกอะไรไว้ด้วยนะคะ”
เขาเงยหน้ามองก่อนจะเอ่ยปากถามด้วยใจที่อยากรู้ “อะ..อะไรเหรอครับ”
“ลืมฉันไป”
ไม่มีอะไร
ลืมฉันไป..
..
.
แล้วผมจะลืมได้ยังไงกัน
มองไม่เห็น..สักวิธี
얘기하지 말아요 미소만 주고 가요
ไม่ต้องเอ่ยคำใดๆ เพียงแค่ยิ้มให้ผมสักครั้งและไปเสีย
세상 가장 슬픈 말 듣지 않아도 이젠 알아요
แม้ว่าผมจะไม่ได้ยินคำซึ่งน่าเศร้าที่สุดในโลกนี้ก็ตาม แต่ในเวลานี้ผมก็ได้รู้แล้ว
ราวกับความหวังที่ไม่มีวันเป็นจริง
แต่ก็เฝ้ารอโดยไม่รู้ว่าปฏิทินได้เปลี่ยนเดือนไปแล้ว
ยังมีอีกหลายคนที่เจอความรักแตกต่างกันไป
ความรักมันก็แค่ความรู้สึกอย่างหนึ่งเหมือนกับความรู้สึกทั่วๆไป
แต่ทำไมมันเป็นต้นเหตุของเรื่องราวแห่งความทรงจำ
ปะปนรวมเหล่าทั้งความทุกข์ความสุขหลายๆอย่างเข้าไว้ด้วยกัน
ทั้งๆที่มันเป็นแค่
ความรู้สึก
แค่ความรู้สึกที่พระเจ้าอยากให้เราได้เรียนรู้
เพื่อจะได้ใช้ชีวิตกับการชดใช้บาปบนโลกใบนี้
เก็บเกี่ยวมันเอาไว้ให้ได้มากที่สุด
แม้ว่ามันจะเจ็บปวดจนไม่อยากรับเข้ามาไว้ในใจ
หรือมันจะมีความสุขเสียจนลืมอะไรหลายๆอย่างไป
ความรักก็แค่ความรู้สึก
เท่านั้นเอง
เท่านั้นเองจริงๆ
ความคิดเห็น