ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    '- BIGBANG FICLET -'

    ลำดับตอนที่ #1 : [OS] On The Ground , In The Cafe

    • อัปเดตล่าสุด 19 ส.ค. 55


     

      
    On The Ground , In The Cafe

    by KetChup


    กระดิ่งเล็กๆเหนือประตูส่งเสียงสั่นกระทบเมื่อบานประตูใสถูกผลักเข้ามา

    เสียงฝนที่ดังอึกทึกผ่อนเสียงลงเมื่อประตูปิดเช่นเดิม

    รองเท้าหนังยี่ห้อหรูย่ำบนพรมจนเช็ดความชื้นแห้งสนิท

    ร่มสีดำวาวด้วยหยาดฝนถูกสะบัดสองสามทีก่อนจะวางลงบนพื้น

     

    “เหมือนเดิมใช่ไหมคะ”

     

    เสียงใสดังขึ้นหากแต่ไม่ใช่คำทักทาย

    ถ้อยคำเดิมๆที่ชินหูถูกตอบกลับเพียงใบหน้าอันคุ้นเคยเช่นทุกวัน

    กระจกใสไม่สามารถถ่ายทอดวิวใดๆให้เห็นเมื่อไอชื้นเข้าบดบัง

    จ้องมองออกไปยังคงเห็นแต่ละอองน้ำสีขาวลอยคละคุ้ง

    เสียงฝนซาถูกกลบด้วยบทเพลงคลอเบาๆพอให้ผ่อนคลาย

    ใครว่าวันเวลาไม่เคยหยุด

     

    วันที่ในปฏิทินหมุนเวียนผลัดไปจนเข้าเดือนที่สาม

    หากแต่จะขึ้นวันใหม่ เวลายังย้อนกลับมาหยุดอยู่ที่เดิม

    เจ้าของใบหน้าคมซื่อสัตย์กับเวลาเสมอ

    ..

    ...เข็มนาฬิกาเลยไปเพียงนาทีก็อาจคลาดกัน

     

    เก้าอี้นวมสีขาวสองตัวตั้งอยู่ตรงข้ามกันแต่กลับมีตัวเดียวที่ถูกนั่ง

    โต๊ะไม้สีอ่อนวางคั่นกลางเอาไว้

    ไอเย็นลอยรอบแก้วกาแฟใบสูง

    เจือจางด้วยกลิ่นเอสเพรสโซ่...

     

    รสขมยังติดอยู่ปลายลิ้น

    เปลือกตาปิดลงพร้อมขนตายาว

    ดนตรีขับกล่อมร่วมกับเสียงฝนซา

    สัมผัสความเหนียวข้นของน้ำตาลไซรับ

     

    วางลง...

     

    ยังอยู่เพียงลำพัง

     

    วันเวลาจำต้องพัดผ่าน

    ความเปลี่ยนแปลงจำต้องคืบคลาน

    ตามกาลเวลาที่หมุนเวียนเช่นทุกวัน

     

    เชื่องช้า...

    ยาวนาน...

    จับจ้องไปยังสายนาฬิกาบนข้อมือ

    ยังไม่ล่วงเลยแต่คงต้องรอคอย...

     

    หนังสือเล่มเล็กถูกเปิดหน้ากระดาษคาไว้เพื่อฆ่าเวลา

    คนสองคนกับที่นั่งข้างๆปลุกให้หลุดจากห้วงความคิด

    ความสนใจถูกเบี่ยงเบนจากหนังสือในมือ

    สายตาเริ่มเหลือบมองดูเหตุการณ์

     

    เงียบงัน...

    เฉยชา...

    บนใบหน้าของอีกฝ่าย

     

    หวาดหวั่น...

    เศร้าสร้อย...

    จากแววตาของอีกคน

     

    ไม่อาจคาดเดาสิ่งใดได้

    ตาคมได้แต่ลอบมองคนสองคนที่นิ่งงันราวตุ๊กตา

    ก่อนที่ริมฝีปากจากใบหน้าที่เย็นชากำลังเอื้อนเอ่ยถ้อยคำ

    บรรยากาศโดยรอบสลับกับเสียงฝนที่ตกลงไม่ขาดสาย

    ...

    คำพูดที่ได้ยินหดหู่ยิ่งกว่า

     

    เจ้าของแววตาที่หวั่นกลัวกำลังสั่นไหว

    น้ำตาร่วงหล่นจากใบหน้าหยดลงบนโต๊ะไม้

    แม้เพียงคำพูดกลับบีบไปทั้งหัวใจ

    เจ็บหนักยิ่งกว่าโดนต่อย...

    รวดร้าวดั่งแก้วที่แตกหัก

     

    แค่ลอบมองก็สัมผัสได้

     

    หยดน้ำตาที่ร่วงหล่น ใบหน้านั้นจำต้องเงยขึ้นอีกครั้ง

    แผ่นหลังของอีกคนกำลังลุกเดินจากไป

    เสียงเท้ายังดังก้องอยู่ทุกจังหวะที่ก้าวเดิน

    คำพูดก่อนหน้ายังทวนอยู่ในใจแม้ไม่อยากฟัง

     

    บานประตูที่ถูกผลักกำลังปิดลง

    เหลือทิ้งไว้เพียงความเงียบงันที่แสนเย็นชา

    สายฝนภายนอกตอกย้ำทุกบาดแผลในใจ

     

    สับสน...

    โดดเดี่ยว...

     

    ติดอยู่ในทะเลทรายเวิ้งว้างแม้ทุกสิ่งรอบข้างกำลังเคลื่อนไหว

    มือหนานั้นยกขึ้นเช็ดน้ำตาก่อนที่จะลุกขึ้นเดินจากไปเช่นกัน

    ทิ้งไว้เพียงเก้าอี้สองตัวที่กลับมาว่างเปล่า

    ภาพจากความทรงจำจางหายไปในคลื่นอากาศ

     

    ความเงียบเข้าเกาะกุมอีกครั้ง

    หยดน้ำไหลรวมเป็นกลุ่มข้างแก้วกาแฟ

    น้ำแข็งละลายเจือจางกับรสขมของเอสเพรสโซ่

    หนังสือในมือวางลงกับโต๊ะ

     

    นาฬิกาข้อมือถูกยกขึ้นมาดูอีกครั้ง

    เวลาเพิ่งล่วงเลยผ่านไป

     

    แต่ยังไร้วี่แววของคนที่รอคอย

     

    หยาดน้ำฝนกระเซ็นมาเกาะกระจกบานใส

    ความมืดเริ่มแผ่กว้างก่อนจะไร้เงาของดวงตะวัน

    ละอองน้ำกระทบเข้ากับอากาศเย็นเฉียบ

    เห็นเพียงแสงไฟจากรถราส่องผ่านม่านน้ำสีขาว

    ตาคมหันกลับมามองรอยสลักบนขอบโต๊ะไม้อีกครั้ง

    ...

    .....

    ชเวซึงฮยอน & ควอนจียง...

     

     

     

    แววตาที่สั่นเทา

     

     

     

     

     

    ใบหน้าที่เรียบเฉย

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    “นายมาช้านะ”

     

     

     

     

    เบาะนวมสีขาวกลับมาคืนรูปเช่นเดิม

     

     

     

     

    ซึงฮยอนหันกลับมามองเก้าอี้ตัวตรงข้ามกับที่เขานั่ง

     

     

     

     

     

     

     

     

    ....

     

     กระดิ่งเล็กๆเหนือประตูเกิดเสียงกระทบกันขึ้นอีกครั้ง

    ร่มสีดำที่หมาดด้วยน้ำถูกกางออกรับหยาดฝนที่ร่วงหล่น

    รองเท้าหนังคู่เดิมย่ำน้ำที่ขังบนพื้นถนนเดินไปตามทาง

    ฝนที่ตกลงมาดูท่าจะหนาเม็ดขึ้น

    ...

     

     

     

     

     

      

     

     

     

     

     

    เก้าอี้ตัวนั้นยังคงว่างเปล่า



    End.


    _____________________________________

    Post it : อ่านแล้วงงมั้ย 55555 เชื่อว่า 95% ต้องงงๆแน่อ่ะ แต่สิ่งที่เป็นสเน่ห์ของตอนนี้คือการเดาค่ะ ....โอเค ยอมรับก็ได้ว่าแถ = =;; ที่ลงเพลงมาด้วยเพราะมันทำให้ฟิคงงๆมึนๆเรื่องนี้ ดูดีขึ้นมาอีกนิดดดนึง
    *เคยลงที่บ้านแดงแล้วทีนึงนะคะ
     


    Ps.ไม่เม้นไม่ว่าเลย แค่หลงเข้ามาอ่านก็ดีใจแล้วค่ะ ^^

     nu eng

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×