คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : [OS] On The Ground , In The Cafe
On The Ground , In The Cafe
by KetChup
กระดิ่งเล็กๆเหนือประตูส่งเสียงสั่นกระทบเมื่อบานประตูใสถูกผลักเข้ามา
เสียงฝนที่ดังอึกทึกผ่อนเสียงลงเมื่อประตูปิดเช่นเดิม
รองเท้าหนังยี่ห้อหรูย่ำบนพรมจนเช็ดความชื้นแห้งสนิท
ร่มสีดำวาวด้วยหยาดฝนถูกสะบัดสองสามทีก่อนจะวางลงบนพื้น
“เหมือนเดิมใช่ไหมคะ”
เสียงใสดังขึ้นหากแต่ไม่ใช่คำทักทาย
ถ้อยคำเดิมๆที่ชินหูถูกตอบกลับเพียงใบหน้าอันคุ้นเคยเช่นทุกวัน
กระจกใสไม่สามารถถ่ายทอดวิวใดๆให้เห็นเมื่อไอชื้นเข้าบดบัง
จ้องมองออกไปยังคงเห็นแต่ละอองน้ำสีขาวลอยคละคุ้ง
เสียงฝนซาถูกกลบด้วยบทเพลงคลอเบาๆพอให้ผ่อนคลาย
…
ใครว่าวันเวลาไม่เคยหยุด
วันที่ในปฏิทินหมุนเวียนผลัดไปจนเข้าเดือนที่สาม
หากแต่จะขึ้นวันใหม่ เวลายังย้อนกลับมาหยุดอยู่ที่เดิม
เจ้าของใบหน้าคมซื่อสัตย์กับเวลาเสมอ
..
...เข็มนาฬิกาเลยไปเพียงนาทีก็อาจคลาดกัน
เก้าอี้นวมสีขาวสองตัวตั้งอยู่ตรงข้ามกันแต่กลับมีตัวเดียวที่ถูกนั่ง
โต๊ะไม้สีอ่อนวางคั่นกลางเอาไว้
ไอเย็นลอยรอบแก้วกาแฟใบสูง
เจือจางด้วยกลิ่นเอสเพรสโซ่...
รสขมยังติดอยู่ปลายลิ้น
เปลือกตาปิดลงพร้อมขนตายาว
ดนตรีขับกล่อมร่วมกับเสียงฝนซา
สัมผัสความเหนียวข้นของน้ำตาลไซรับ
วางลง...
ยังอยู่เพียงลำพัง
วันเวลาจำต้องพัดผ่าน
ความเปลี่ยนแปลงจำต้องคืบคลาน
ตามกาลเวลาที่หมุนเวียนเช่นทุกวัน
เชื่องช้า...
ยาวนาน...
จับจ้องไปยังสายนาฬิกาบนข้อมือ
ยังไม่ล่วงเลยแต่คงต้องรอคอย...
หนังสือเล่มเล็กถูกเปิดหน้ากระดาษคาไว้เพื่อฆ่าเวลา
คนสองคนกับที่นั่งข้างๆปลุกให้หลุดจากห้วงความคิด
ความสนใจถูกเบี่ยงเบนจากหนังสือในมือ
สายตาเริ่มเหลือบมองดูเหตุการณ์
…
เงียบงัน...
เฉยชา...
บนใบหน้าของอีกฝ่าย
หวาดหวั่น...
เศร้าสร้อย...
จากแววตาของอีกคน
ไม่อาจคาดเดาสิ่งใดได้
ตาคมได้แต่ลอบมองคนสองคนที่นิ่งงันราวตุ๊กตา
ก่อนที่ริมฝีปากจากใบหน้าที่เย็นชากำลังเอื้อนเอ่ยถ้อยคำ
บรรยากาศโดยรอบสลับกับเสียงฝนที่ตกลงไม่ขาดสาย
...
คำพูดที่ได้ยินหดหู่ยิ่งกว่า
เจ้าของแววตาที่หวั่นกลัวกำลังสั่นไหว
น้ำตาร่วงหล่นจากใบหน้าหยดลงบนโต๊ะไม้
แม้เพียงคำพูดกลับบีบไปทั้งหัวใจ
เจ็บหนักยิ่งกว่าโดนต่อย...
รวดร้าวดั่งแก้วที่แตกหัก
แค่ลอบมองก็สัมผัสได้
หยดน้ำตาที่ร่วงหล่น ใบหน้านั้นจำต้องเงยขึ้นอีกครั้ง
แผ่นหลังของอีกคนกำลังลุกเดินจากไป
เสียงเท้ายังดังก้องอยู่ทุกจังหวะที่ก้าวเดิน
คำพูดก่อนหน้ายังทวนอยู่ในใจแม้ไม่อยากฟัง
บานประตูที่ถูกผลักกำลังปิดลง
เหลือทิ้งไว้เพียงความเงียบงันที่แสนเย็นชา
สายฝนภายนอกตอกย้ำทุกบาดแผลในใจ
สับสน...
โดดเดี่ยว...
ติดอยู่ในทะเลทรายเวิ้งว้างแม้ทุกสิ่งรอบข้างกำลังเคลื่อนไหว
มือหนานั้นยกขึ้นเช็ดน้ำตาก่อนที่จะลุกขึ้นเดินจากไปเช่นกัน
ทิ้งไว้เพียงเก้าอี้สองตัวที่กลับมาว่างเปล่า
…
ภาพจากความทรงจำจางหายไปในคลื่นอากาศ
ความเงียบเข้าเกาะกุมอีกครั้ง
หยดน้ำไหลรวมเป็นกลุ่มข้างแก้วกาแฟ
น้ำแข็งละลายเจือจางกับรสขมของเอสเพรสโซ่
หนังสือในมือวางลงกับโต๊ะ
นาฬิกาข้อมือถูกยกขึ้นมาดูอีกครั้ง
…
เวลาเพิ่งล่วงเลยผ่านไป
แต่ยังไร้วี่แววของคนที่รอคอย
หยาดน้ำฝนกระเซ็นมาเกาะกระจกบานใส
ความมืดเริ่มแผ่กว้างก่อนจะไร้เงาของดวงตะวัน
ละอองน้ำกระทบเข้ากับอากาศเย็นเฉียบ
เห็นเพียงแสงไฟจากรถราส่องผ่านม่านน้ำสีขาว
ตาคมหันกลับมามองรอยสลักบนขอบโต๊ะไม้อีกครั้ง
...
.....
ชเวซึงฮยอน & ควอนจียง...
…
แววตาที่สั่นเทา
ใบหน้าที่เรียบเฉย
“นายมาช้านะ”
เบาะนวมสีขาวกลับมาคืนรูปเช่นเดิม
ซึงฮยอนหันกลับมามองเก้าอี้ตัวตรงข้ามกับที่เขานั่ง
....
กระดิ่งเล็กๆเหนือประตูเกิดเสียงกระทบกันขึ้นอีกครั้ง
ร่มสีดำที่หมาดด้วยน้ำถูกกางออกรับหยาดฝนที่ร่วงหล่น
รองเท้าหนังคู่เดิมย่ำน้ำที่ขังบนพื้นถนนเดินไปตามทาง
ฝนที่ตกลงมาดูท่าจะหนาเม็ดขึ้น
...
เก้าอี้ตัวนั้นยังคงว่างเปล่า
End.
_____________________________________
Post it : อ่านแล้วงงมั้ย 55555 เชื่อว่า 95% ต้องงงๆแน่อ่ะ แต่สิ่งที่เป็นสเน่ห์ของตอนนี้คือการเดาค่ะ ....โอเค ยอมรับก็ได้ว่าแถ = =;; ที่ลงเพลงมาด้วยเพราะมันทำให้ฟิคงงๆมึนๆเรื่องนี้ ดูดีขึ้นมาอีกนิดดดนึง
*เคยลงที่บ้านแดงแล้วทีนึงนะคะ
Ps.ไม่เม้นไม่ว่าเลย แค่หลงเข้ามาอ่านก็ดีใจแล้วค่ะ ^^
nu eng
ความคิดเห็น