ลำดับตอนที่ #2
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ตอนที่2 มิลฟีโอเล่
“ท่านเบียคุรันครับ!! การค้าขายในตลาดมืดเป็นไปตามที่ท่านคาดการไว้เลยครับ!”
ฉันที่กำลังเคี้ยวมาชเมลโล่อยู่ในปากก็ยกยิ้มขึ้น การเติบโตของมิลฟีโอเล่ในตอนนี้ถือว่าก้าวกระโดดอย่างรวดเร็ว เพราะชาติก่อนฉันเป็นถึงผู้ปกครองโลกทุกโลกในพาราเรล-เวิร์ล แน่นอนว่าการที่จะขวนขวายความสามารถในการปกครองย่อมเป็นเรื่องธรรมดา นั้นทำให้มันถือเป็นหนึ่งในความสามารถของฉันจากการรับรู้จากโลกคู่ขนาน พาราเรล-เวิร์ล
รวมถึงการที่ฉันอ่านสปอยล่วงหน้าในสิ่งที่เกิดขึ้นในโลกต่างๆ รวมถึงข้อมูลของฝ่ายนั้นที่ได้จากพาราเรล-เวิร์ลทั้งหมด นั้นก็ทำให้ทุกอย่างวิ้งอยู่บนฝ่ามือของฉัน
ในคร่าวแรกก็ท้าทายไม่น้อยแต่เพียงพ้นช่วงแรกไปทุกอย่างก็ง่ายดายไปหมด เริ่มจากไปยึดอำนาจจากพ่อค้าที่มีอิทธิพลในแถบนั้นที่ฉันสามารถใช้งานได้ ฉันก็แค่ทำลายจิตใจของพวกเขาแล้วนำมาใช้เป็นหุ่นเชิดแบบยูนิจัง
แต่ยูนิจังนะพิเศษกว่านั้นนะ! เพราะเธอเป็นถึงผู้เล่นแบบเดียวกับฉันในชาติก่อน หลังที่สึนะโยชิคุงชนะศึกที่ต้องปะทะกับวองโกเล่
หลังจากยึดอำนาจทางการค้าจนใหญ่มากพอ ฉันก็ขยายมันจนเฟื่องฟูทำให้การหมุนเวียนเงินในตลาดมืดและการค้าผิดกฎหมายเป็นเป้าหมายหลัก สำหรับฉันมันก็ไม่ได้ยากอะไรหรอกนะ ก็แค่ฮีโร่นั้นมีจำนวนมากเกินไปจนทำอะไรก็มีอะไรขัดขาซะมากกว่า
และนั้นคือเหตุผลที่มุมมืดค่อยๆเจอจางลง นั้นทำให้ฉันจึงต้องสร้างเส้นสายขึ้นมาซึ้งเป็นอะไรที่ค่อนข้างยาก
แต่ฉันสร้างเส้นสายเอาไว้จำนวนหนึ่งไม่ให้ผิดสังเกตแล้วทำการแทรกซึม การสร้างความพักดีหรือการถวายชีวิตในตัวผู้คนให้แก่ฉันอย่างสุดหัวใจเป็นอะไรที่ฉันถนัดที่สุดเป็นอันดับต้นๆ
“แต่ก็แย่จังนะ~ แบบนี้ก็หน้าเบื่อแย่นะสิ~ ยิ่งไม่มีเป้าหมายเป็นหลักแหล่งอยู่ซะด้วยไม่ได้คิดว่าจะตรงที่ตัวเองขาดการไว้ขนาดนี้” ฉันถอนหายใจแล้วหยิบมาชเมลโล่ใส่ปากแล้วแหงนหลังด้วยท่าทางเบื่อหน่าย
ปัญหาใหญ่ๆก็คือบุคคลปริศนาที่ใช้นามแฝงว่า ‘All For One’ ฉันเคยเจอเขาอยู่ในพาราเรล-เวิร์ลอื่นอยู่ครั้งหนึ่งในมิติคู่ขนานนั้น ฉันตายทันทีที่เจอเขาคนนั้น ฉันเองก็ไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น
หมอนั้นมีพลังที่เรียกว่า ‘อัตลักษณ์’ เกี่ยวกับความเร็วรึไง แถมตัวยังลอยอากาศได้ สิ่งที่ฉันได้พบคือหมอนี้มีพลังหลักการเดียวกับฉันก็คือ หมอนี้มีความสามารถมากกว่าหนึ่งอย่างและหาเพิ่มได้ขึ้นเรื่อยๆ..
เพราะอย่างงั้นฉันจึงได้ทำการผูกมิตรกับเขาและความคิดที่จะไปเจอเขาตรงๆแล้วจับมาเป็นหุ่นเชิดจึงเป็นอันตกไป เราคุยกันผ่านในเว็บมืดซึ้งเป็นส่วนที่ลึกที่สุดที่ฉันหาเจอ แน่นอนว่ามันต้องใช้ทักษะเฉพาะด้านจริงๆแต่มันก็ไม่เคยเป็นอุปสรรคสำหรับฉันเลย
ฉันละรู้สึกจากใจจริงเลยว่า น่าจะมีเรื่องสนุกหลังจากนี้รอฉันอยู่ ตั้งแต่หลายช่วงปีมานี้ฮีโร่มีการคัดคนที่ยากขึ้นมาก แล้วก็เรื่องที่คุยกับเขาคนนั้นก็ได้เรื่องมาว่าเหล่าวิลเลินก็เตรียมพร้อมที่จะการใหญ่ที่จะฆ่า ‘สัญลักษณ์แห่งสันติภาพ’ ชายที่ขึ้นชื่อว่าฮีโร่อันดับหนึ่ง
แล้วก็ยังมีข้อมูลที่ว่ากันปากต่อปากอีกว่า ฮีโร่อันดับหนึ่งกำลังเป็นโรคร้ายด้วยโรคภัยนั้นทำให้เขาอยู่ในช่วงอ่อนแอและพลังน้อยลง
ฉันเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเป็นข้อมูลจริงเท็จกันแค่ไหน แต่นั้นก็ไม่ใช่เรื่องที่ฉันต้องแคร์เท่าไหร่ ยังไงเป้าหมายของฉันในตอนนี้ก็คือทำอาวุธชีวะภาพแบบเดียวที่ทำใส่ใน ‘อาวุธกล่อง’
ฉันสามารถเพาะพันธุ์เซลล์จากสัตว์โบราณหรือหาสิ่งมีชีวิตปริศนามาทำได้นั้นก็มากพอที่จะทำเอาวุธที่น่าจะทำกำไรเป็นกอบเป็นกำ และสร้างรากฐานให้มิลฟีโอเล่อย่างยั่งยืน
อย่างที่ฉันพูดไปนั้นละ ฮีโร่คือตัวปัญหาในโลกนี้และโดยเฉพาะญี่ปุ่นที่มีฮีโร่ระดับสูงกว่าทั่วโลก เพราะการประมวลกฎหมายที่ช้าเกินไปทำให้วิลเลินมีเกลื่อนกลาดตามท้องถนน
ทว่านั้นกลับมำให้ฮีโร่มีมากเป็นเท่าตัว คนที่อยากเป็นฮีโร่ก็เยอะพอกับดาวบนฟ้าในยามราตรี
“นี้กิลจังเลิกทำท่าตะกุกตะกักได้แล้วน่า~ รู้ไหมมันอึดอัดใช่เล่นเลยนะ” ฉันก็กล่าวขึ้นด้วยสีหน้ายิ้มแย้มก็หยิบดอกกล้วยไม้สีขาวขึ้นมา
“ขอโทษครับ!! กระผมมันงี่เง่าเอง!” ชายผมทองตรงหน้ากล่าวขึ้นก็ก้มหัวลงด้วยเสียงหวาดกลัว
ก็บอกแล้วไงว่าหยุดทำแบบนั้น....
“ไม่เอาน่า~ แล้วก็หยุดทำแบบนั้นเถอะมันจักจี้แก้มนะ ....แค่ทำงานให้ฉันอย่างจริงจังก็พอ” ฉันกล่าวแล้วยิ้มขึ้น
“ครับ...”
ฉันที่วางดอกไม้ลงแล้วก็ยกยิ้มขึ้น แล้วก็หยิบมาร์ชเมลโล่เข้าปากบนโต๊ะ แถบไม่อยากเชื่อนิดหน่อยว่าอีกฝ่ายคือบุคคลเดียวกับที่ฉันอ่านในเอกสารซองนั้น
..6บุปผาอาลัยแห่งอรุณ ราชาวีรชนที่ได้ต้นแบบจากมหากาฬกิลกาเมซ
อย่างที่บอกก็แค่ต้นแบบและก็เรื่องราวกับนิสัยโดยรวมที่เป็นทรราชนอกนั้นฉันไม่เห็นความคล้ายคลึงกันเลย แทนที่จะใช้อาวุธได้ทุกชนิดแต่กลับกลายเป็นว่ามีอาวุธทุกชนิดแต่ใช้ได้แค่ว่ามันโจมตีอย่างไร
แทนที่จะตัวกล้ามบึกก็เป็นชายผมบลอนทองที่สุขภาพดีคนหนึ่ง สิ่งที่น่ารำคาญกว่าคือความจำเสื่อม นอกจากชื่อก็ไม่รู้อะไรเลยขนาดวิธีการต่อสู้ยังลืมไปแล้ว
สาเหตุอาจเป็นเพราะฉันอ่านข้ามๆมากเกินไปเลยไม่ได้อ่านส่วนนั้นไว้ด้วย แหงละ เทคนิคเฉพาะตัวมันไม่ใช่อะไรที่คนปกติจะไม่รู้วิธีใช้ ฉันเลยไม่ได้อ่านมันมากนักนอกจากแค่เขามีประตูมิติเรียกอาวุธได้จำนวนมากแค่นั้น
แต่ที่น่าสนใจก็คือของในนั้นมีแต่อาวุธสุดยอดทั้งนั้น แต่มันคงสภาพไม่ได้ตลอดเพราะถูกดึงมาจากพลังเพราะงั้นหากเลิกใช้อาวุธก็หายไปทันทีอย่างอัตโนมัติ
....แต่เพราะเจ้าตัวหลงลืมเรื่องราวในอดีตนั้นก็ทำให้ฉันควบคุมได้ง่ายกว่าทรราชที่เต็มไปด้วยความทรนงและเย่อหยิ่ง
ค่อนข้างโชคดีแล้วก็โชคร้ายที่คนอื่นๆไม่ได้รับพลกระทบอะไรเลยแบบที่กิลจังเป็น ส่วนใหญ่ก็เป็นพวกที่ไม่ค่อยจะฟังที่ฉันพูดเท่าไรและก็ไม่ได้เป็นมนุษย์อีกต่างหาก
นิสัยก็ต่างกันมากเกินไปและชอบตัดสินใจเองแล้วทำเรื่องเกินเลยอยู่บ่อยๆ
ฉันเคยให้6บุปผาอาลัยแห่งวายุไปจัดการโจรบนภูเขาให้นิดหน่อย เขาก็ถล่มหมู่บ้านโจรทั้งหมู่บ้านซะอย่างงั้น ผู้ค้าของฉันเลยโดนเผาเป็นก้อนถ่านหินไปพร้อมกับหมู่บ้าน...
“รายงานวันนี้6บุปผาอาลัยปลอมที่ประกอบจากบุคคลระดับA ทำการเชื่อมสัมพันธ์กับพ่อค้าตลาดมืดที่ท่าส่งเรือต่างประเทศแล้วครับ ส่วน6บุปผาอาลัยคนอื่นก็ไม่ได้ติดต่อมาเลยครับ”
“ก็นะ.. พวกเขาค่อนข้างที่จะรักอิสระนี่ นั้นดูจะเป็นปัญหามากกว่าที่ฉันคิดเอาไว้นิดหน่อย” ฉันกล่าวขึ้น
การมีลูกน้องแล้วใช้ไม่ได้มันเป็นอย่างนี้นี่เอง เป็นครั้งแรกในชีวิตที่ต้องมาครุ่นคิดว่าจะทำยังไงให้ลูกน้องเชื่อฟัง ยิ่งกับฉันด้วยยิ่งไม่อยากเชื่อเข้าไปใหญ่..
อย่างที่รู้ว่าการสร้างความเคารพหรือทำให้ใครสักคนยอมทำตามที่ฉันสั่งนั้นเป็นเรื่องที่ฉันถนัด ในระดับที่ชี้นกเป็นนกชี้ไม้เป็นไม้ ฉันจึงไม่เคยกังวลเรื่องนี้มาก่อนเลย
ฉันที่เริ่มเบื่อหน่ายจึงขอปลีกตัวไปข้างนอกเพื่อไปสูดอากาศข้างนอกซะหน่อย เอาเข้าจริง มันก็นานแล้วนะที่ไม่ได้เดินในเมืองแบบนี้ ตั้งแต่เมื่อไรกันนะ..?
คงตั้งแต่ที่ได้รับแหวนมาเล่ริง แล้วมิลฟีโอเล่เริ่มเริ่มเป็นรูปเป็นร่างสร้างตัวขึ้น ฉันก็อยู่แต่ในห้องทำงานที่ส่วนใหญ่ฉันจะนั่งอยู่เฉยๆซะมากกว่า
ถึงไม่เท่ายุคที่ฉันอยู่แต่ของที่ขายก็อยู่ระดับพอใช้ได้ ตั้งแต่เมื่อไรไม่รู้ที่ฉันหลงลืมยานพาหนะที่ต้องระนาบกันพื้นคอนกรีต คิดถึงวันวานเมื่อ10ปีก่อนจัง ประเทศนี้ช่างขาดความเจริญมากกว่าที่ฉันคิดเอาไว้..(?)
ฉันที่ยืนอยู่น่าร้านของหวานสักพักก็พบกับเมนูของหวานบางอย่างเข้า เฮ้~ น่ากินดีนี้ “นี้ป้าครับเอาชูครีมกล่องหนึ่ง”
“ได้เลยจ๊ะ! ชอบของหวานเหรอ? มีไม่บ่อยหรอกนะที่ผู้ชายจะกินของแบบนี้”
“นิดหน่อยนะครับ โอ๊ะ!? ตรงนั้นครื้นเครงกันจังนะครับมีงานเทศการอะไรรึเปล่า?” ฉันที่กวาดสายตาไปพบกับคนที่กำลังมุ้งดูอะไรบางอย่างอยู่ที่ถนน
“คงมีวิลเลินอาละวาดมั่งจ๊ะ...ช่วงนี้เกิดเหตุแบบนี้บ่อยๆนะจ๊ะ”
ช่วงนี้งั้นเหรอ..? เหมือนจะได้กลิ่นอะไรน่าสงสัย จะว่าไปก็น่าสนุกดีหนิลองทำอะไรแบบนี้หน่อยก็ไม่เลว
ฉันยื่นเงินจ่ายค่าชูครีมสักพักก็เดินออกไปมองรอบนอกจากฝูงคนที่กำลังมุ้งดูบางอย่างก็พบกับสิ่งผิดปกติบางอย่าง
“อะไรละเนี่ย...นกต่อหรอกเหรอ?”
ให้คนหนึ่งไปหลอกล่อความสนใจผู้คนในจุดๆเดียวโดยอาศัยความสนใจของคนรอบข้างเพื่อการปล้นของมีค่า ถึงจะธรรมดาแต่ก็ฉลาดเลือกไม่น้อย
“อ๊ากกก!!!” เสียงกรีดร้องของชายคนหนึ่งดังขึ้น
เพียงไม่นานทุกคนก็หันมาทางฉันที่กำลังจับผู้ร้ายลักทรัพย์กดลงพื้นอยู่ วิลเลินคนนั้นที่กำลังต่อสู่อยู่นั่นเมื่อเขาเห็นว่าพวกของตนโดนเก็บเพราะฉันก็เผยช่องว่างจนโดนฮีโร่ใช้โอกาสนั้นจัดการ
เพียงไม่นานหลังจากตำรวจมาถึงก็ทำการจับกุมกลุ่มโจรที่สร้างความเดือดร้อนในแถวนั้น ส่วนฉันก็ได้รับคำชื่นชมจากวีรกรรมในครั้งนี้ แน่นอนว่ามันเป็นเรื่องหลอกหลวงทั้งเพ
แน่นอนว่าฉันแถบไม่ได้ลงทุนออกแรงอะไรเลย นอกจากแค่ใช้มังกรขาวธาตุนภาตัวน้อยของฉันจัดการทีละคนแล้วค่อยจัดท่าก็แค่นั้น แต่การใช้ความสามารถพิเศษโดยไม่ได้รับอนุญาตจะถูกจำคุกในฐานะวิลเลิน
แน่นอนว่าไม่มีใครรู้เรื่องนี้ต่อให้รู้ฉันก็ลบความทรงจำนั้นเมื่อไรก็ได้~
ไม่รู้ทำไหม..แต่ฉันนึกภาพตัวเองเป็นฮีโร่ไม่ออกจริงๆ
****************************************************
6บุปผาอาลัยแห่งอรุณ
กิลกาเมซ
สถานะ : ความจำเสื่อม(เนื่องผู้เขียนไม่เคยดูFateถึงดูก็ไม่ถึงตอนที่ไอนี้โผล่มาหรือข้ามไปเพราะตอนนั้นดูรายวัน)
*ไม่ได้มีไฟธาตุอรุณแต่อย่างใด*
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น