คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : Hypocrisy and danger.
ส่วนที่ 1
สวัสดีจ้า นี่พี่พลอยขวัญเอง ตัวเองชื่อไร: เด็กอ้วนคนเดิมเพิ่มเติมคือส่งคนที่สามแล้วค่ะ แฮะๆ
อายุจ้า: 17เท่าเดิมค่ะ555555
เวิ่นเว้อกับพล็อตนิดนึงค่ะ ทำไมถึงสนใจเรื่องนี้นะ: เหมือนเดิมเลยค่ะ มีความชอบอะไรแนวๆแฟนตาซีโบราณนิดๆหน่อยดูมีความขลังและศักดิ์สิทธิ์ค่ะ เป็นปลื้มมากกกกก
**ตัวละครต้องเป็นตัวละครที่คิดขึ้นใหม่เท่านั้น หลังจากกรอกใบสมัครและส่งเรียบร้อยแล้ว ตัวละครจะตกเป็นของพี่พลอยขวัญโดยสมบูรณ์ ไม่สามารถปั้นและนำไปส่งเรื่องอื่นได้อีก ไม่ว่าจะได้บทตามที่สมัครหรือไม่ และพี่พลอยขวัญมีสิทธิ์เปลี่ยนแปลงข้อมูลของตัวละครได้ทุกกรณี ท่านยินดียกตัวละครนี้ให้พลอยขวัญหรือไม่: ได้เลยค่ะ!
ส่วนที่ 2
ที่มาของภาพ :: จิ้ม
1. ชื่อ: Ethan || อีธาน
* อีธาน แปลว่า คล่องแคล่ว, โชคดี
2. สกุล: Mordretta || มอร์เดร็ตต้า
3. สีของดวงตา: สีเขียว
4. เมือง: เมืองมอดูร์ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ
5. อาชีพ: อัศวินฝึกหัด/เด็กทำงานในฟาร์ม
6. เผ่าพันธุ์: มนุษย์-
7. อายุ: 17 ปี
8. ประวัติส่วนตัว:
'อีธาน มอร์เดร็ตต้า' เด็กหนุ่มปริศนาที่อาศัยอยู่ในเมืองมอดูร์ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ เขาอาศัยอยู่ในบ้านหลังเล็กๆทรงลูกบาศก์ในเขตของป่าชาร์โดว์วู้ด ไม่มีใครรู้จักพ่อแม่เขา ไม่มีใครรู้ว่าประวัติความเป็นมาของเขาเป็นยังไง รู้เพียงแค่ว่าเด็กหนุ่มวัยแปดขวบที่เดินเข้ามาในหมู่บ้านท่ามกลางฝนพรำวันนั้น เป็นเด็กหนุ่มผู้มีดวงตาสีเขียวเป็นประกายวิบวับสวยงามราวกับอัญมณีพร่างพราวทว่ากลับอ่านไม่ออกจนน่ากลัวเกินวัยเด็ก...
"อีธาน มอร์เดร็ตต้า" นั่นเป็นคำพูดแรกที่เด็กหนุ่มเอื้อนเอ่ยเมื่อมีผู้คนในหมู่บ้านเข้ามารายล้อมและถามไถ่อาการ---เนื่องจากตามตัวของเขามีบาดแผลสดปรากฏขึ้นเกือบทั่วทั้งตัว หบาดโลหิตสีแดงสดไหลซึมออกมานอกเนื้อผ้า สายพิรุณกระหน่ำเทลงมานั่นทำให้ของเหลวสีแดงปนเปไปกับน้ำฝนสีใสไหลลงมาตามตัวเด็กหนุ่ม
แต่แม้เลือดจะไหลออกมามากเขาก็ยังยิ้มทักทายราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น นั่นเป็นอีกสิ่งที่อีธานทำให้ผู้คนในหมู่บ้านต่างก็นึกฉงนสนเท่ห์ในตัวเขา
ครานั้นด้วยความที่นึกสงสารหรืออาจด้วยเหตุที่ว่าเพราะเด็กหนุ่มคนนี้มีแรงดึงดูดบางอย่าง คนในหมู่บ้านจึงร่วมด้วยช่วยกันฟื้นฟูบาดแผลและอุ้มชูเลี้ยงดูอีธาน นั่นทำให้อีธานไม่ได้อยู่บ้านของใครเป็นหลักเป็นแหล่งสักเท่าไหร่ เขาโยกย้ายไปบ้านนั้นบ้านนี้ได้เรื่อยๆเพราะทุกคนที่นี่...ต่างก็รู้ว่าเขาไม่มีที่จะไป และไม่มีบ้านให้อยู่ เป็นเด็กหนุ่มที่ไหนก็ไม่รู้
ผู้คนมองว่าอีธานเป็นเด็กที่ค่อนข้างจะแปลก เพราะหลายครั้งที่พวกเขาเดาทางเด็กหนุ่มไม่ออก ไม่รู้ด้วยซ้ว่าเขาคิดอะไรอยู่กันแน่ อีธานไม่เคยพูดเรื่องของตัวเองให้ใครฟัง และแม้จะมีคนถามเขาก็มักพูดปัดอยู่ร่ำไป เขาดูเจ้าเล่ห์แสนกล ฉลาดแกมโกงและมีความเล่ห์เหลี่ยมแฝงอยู่ในตัวไม่น้อย--ซึ่งมันดูมากเกินกว่าวัยด้วยซ้ำ
"ถ้าอยากรู้ก็ลองเดาเอาสิครับ" น้ำคำเหล่านี้มักหลุดออกมาจากเด็กหนุ่มยามที่ถูกถามถึงเรื่องพ่อแม่และความเป็นมาของเขา ใบหน้าของอีธานมักจะประดับไปด้วยรอยยิ้มเสมอแต่นั่นก็ไม่ได้ช่วยให้เขาดูเป็นเด็กหนุ่มที่น่ารักสมวัยนักหรอก
"เธอนี่น่ารักนะ" เขาพูดได้อย่างไม่อายปากทั้งยังมองเด็กสาวที่อยู่ตรงหน้าตรงๆอีกด้วย "มาเป็นเพื่อนกันมั้ยล่ะ?"
อีธานทำตัวเป็นเด็กร่าเริง ยิ้มแย้มและเข้าหาง่ายติดที่ว่า...เขาออกจะเจ้าเล่ห์และขี้แกล้งคนไปบ้าง แม้จะไม่ได้แกล้งรุนแรงอะไรแต่ก็ต้องยอมรับเลยว่าเขาปั่นหัวผู้คนได้เก่งมาก ถึงขั้นวางแผนต่างๆนาๆได้ดีเลยทีเดียว ซึ่งผู้คนในหมู่บ้านบางคนก็ยังคงเชื่อมั่นในตัวเขาบางคนก็ริเริ่มที่จะระแวงในตัวเด็กหนุ่มคนนี้---เด็กหนุ่มปริศนาที่นับวันยิ่งดูฉลาดเจ้าเล่ห์จนอันตราย
พอเริ่มโตพอจะทำอะไรด้วยตัวเองได้ ในตอนที่อีธานอายุได้12ปีเขาก็ไปทำงานในฟาร์ม บ้างก็รีดนมวัว บ้างก็แบกฟาง บ้างก็ให้อาหารหมูเพื่อหาเงินให้ตัวเองบ้าง จากนั้นพอย่างเข้าสู่วัยหนุ่มเขาก็ไปสมัครเป็นอัศวินจนกระทั่งได้เป็นอัศวินฝึกหัดในปัจจุบัน
เรื่องราวก่อนหน้านั้นของอีธาน---ที่บางทีคุณอาจจะไม่อยากรู้ก็ได้ เพราะมันไม่ได้สำคัญอะไรขนาดนั้นหรอก เชื่อสิ เขาก็แค่เด็กหนุ่มลูกครึ่งเอล์ฟธรรมดาๆคนหนึ่งเท่านั้นเอง
แม่ก็แค่เป็นเอล์ฟสาวสุดสวยที่ถูกกล่าวขานในนามกบฏต่อบ้านเมือง หญิงที่ถูกใส่ร้ายว่าจะทำลายหมู่บ้านให้มอดไหม้ หญิงที่ถูกกล่าวขานว่าจะใช้เวทมนตร์ดำในทางที่ผิดมิบังควร หญิงสาวผู้งดงามทว่าน่าสงสาร...หญิงสาวที่มากไปด้วยคุณธรรมทว่ากลับถูกนายอัศวินเมาเหล้าไม่เอาการเอางานข่มขืน---เธอที่ทนไม่ไหวจึงหนีออกมาจากเมือง หนีออกมาและใช้ชีวิตอยู่ไกลออกไปจากหมู่บ้านเดิมมากจนถึงขั้นไม่มีใครหาพบเลยเมื่อเธอคลอดบุตร---บุตรที่เธอได้มาอย่างไม่เต็มใจ
เธอมีนามว่า 'เอวา มอร์เดร็ตต้า' เธอผู้นี้ไม่ได้รังเกียจเด็กหนุ่มที่คลอดออกมาเลยแม้แต่น้อย แม้ว่าเขาจะเกิดมาด้วยความไม่เต็มใจก็ตาม แต่เธอก็ยังคงเลี้ยงดูเขาด้วยความรักจากหัวใจ พยายามจะหาของในป่า และพล่ามสอนเขาในสิ่งที่ดีเสมอรวมไปถึงบอกกล่าวถึงความอันตรายของโลกภายนอกอีกด้วย
"โลกใบนี้มันอันตราย...ลูกจะต้องไม่เชื่อใจใครง่ายๆนะรู้มั้ย" เอวาพล่ามสอนเด็กหนุ่ม เพราะความเชื่อใจ...จึงทำให้เธอถูกใส่ร้าย "และลูกก็ต้องรู้จักเรียนรู้ทุกๆสิ่งรอบตัว หัดสังเกตสิ่งต่างๆเสมอ"
อีธานเชื่อฟังเธอ และเพราะเขาเป็นเด็กฉลาดจึงเรียนรู้อะไรๆได้ไว ถึงแม้บางครั้งอีธานจะตีความคำพูดของเอวาออกนอกเส้นทางไปหน่อยก็เถอะ ทำให้บางครั้งเขาก็คิดว่าการเอาตัวเองเป็นที่หนึ่งน่ะ ดีที่สุด
ชีวิตของเขาในช่วงวัยเด็กจัดว่าสงบสุขดี แม้ว่าจะลำบากยากจนอดอยากปากแห้งเป็นบางวัน และมีสัตว์มุ่งหวังทำลายตัวเขาอยู่แทบทุกวันก็เถอะ แต่ถ้าเอาตัวรอดมาได้ก็ถือว่าสงบดีนั่นแหละ..
จนกระทั่งเรื่องน่าเศร้าก็เกิดขึ้น---เมื่อพวกทหารบุกเข้ามาในบ้านหลังเล็กๆที่เขาอาศัยอยู่กับแม่ อีธานหลบซ่อนตัวอยู่ในตู้เสื้อผ้า และมองลอดผ่านรูเล็กๆของบานประตูไม้---มองดูมารดาของตนถูกฆ่าอย่างที่เขาไม่อาจจะทำอะไรได้เลย และหากพรวดพราดออกไปตัวเขาก็จะต้องตาย แล้วเขาก็ตระหนักดีว่าการกระทำเช่นนั้นมันโง่เง่าสิ้นดี
หลังจากพวกอัศวินลากศพแม่ของเขาออกไปแล้วอีธานจึงได้โอกาสออกมาจากตู้เสื้อผ้า
อืม... แม่ของเขาบอกว่าให้เอาตัวรอดในโลกที่แสนอันตรายนี้ให้ได้ แบบนี้มันก็คงใกล้เคียงแล้วงั้นสิ?
ภายใต้จิตใจของเด็กหนุ่มนั้นยังคงมีความหวาดกลัวและสับสนอละหม่านอยู่มากท่ว่าเขาก็เลือกที่จะกดทับมันเอาไว้ แล้วเดินหน้าต่อไปเรื่อยๆโดยถือคติว่า 'แค่เรียนรู้ และเอาตัวเองให้รอดก็พอแล้ว' อยู่แบบนั้น
เขายังเด็ก...แต่ก็เจออะไรโหดร้ายเกินกว่าจะรับมือไหว เขาดูแลตัวเองไม่ได้และต้องการความอบอุ่น
แต่เด็กหนุ่งก็ไม่ได้ยอมรับเหตุผลนั้นเสียทีเดียว--เขาคิดแค่ว่าตัวเองต้องการที่พึ่ง 'เเค่ชั่วคราว' เท่านั้น
จะเรียกว่าภายใต้จิตใจเขาค่อนข้างบิดเบี้ยวก็คงไม่ผิดอะไร เพราะอีธานไม่ได้ฝ่าฟันพวกสัตว์ป่าและอุปสรรค์ออกจากป่าแล้วตรงไปที่หมู่บ้านเพราะต้องการให้ใครดูแล แต่แค่ต้องการที่พึ่งเอาไว้ซุกหัวนอน---และตัวเขาก็มั่นใจในตัวเองมากเสียด้วยว่าจะไม่ผูกพันกับใครให้ยุ่งยากทั้งสิ้น
เพราะแม่ของเขามักบอกว่าโลกนี้มันอันตราย... เขามองทุกคนเป็นศัสตรู เพียงเเต่เล่นละครแสดงออกเสมอว่าตัวเองไม่มีพิษภัยอะไร เขามองดูผู้คนและขบคิดเสมอ สนุกกับการได้ปั่นหัวผู้คนบ่อยๆจนทำให้บางครั้งก็ถูกเกลียดขี้หน้าไปบ้าง แต่อีธานก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรนัก ตั้งแต่ที่เขาแวบเข้ามาในหมู่บ้านเขาก็ใช้ชีวิตแบบเรื่อยๆเปื่อยๆ เป้าหมายในชีวิตก็ไม่ได้ชัดเจนแจ่มแจ้งอะไรขนาดนั้น แต่...ถ้าจะบังคับให้คิดมันก็พอมีอยู่บ้าง
คนเดียวที่เขารักก็คือแม่ของเขาเอง แม่ที่ตายไปแล้วโดยที่เขาไม่รู้ว่าใครเป็นคนใส่ร้ายเธอ ข่มขืนเธอ---อ่า นี่แหละ เป้าหมาย เขาจะอยู่เพื่อสืบค้น แก้แค้นและเอาคืนสักหน่อยก็ได้
จนถึงปัจจุบันอีธานก็ไม่ได้ไว้เนื้อเชื่อใจใครเเบบจริงๆจังๆนัก เขาค่อนข้างรักสนุกและวนเวียนไปเรื่อย ไม่ค่อยสนใจใครแม้ว่าตัวเองจะเป็นพวกร่าเริงเฟรนลี่แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนที่จะชอบเขา
"ทำไมถึงมาสมัครเป็นอัศวินล่ะ" ฝ่ายถามมองอีธานตั้งแต่หัวจรดเท้า สายตาดูเหยียดหยามชายหนุ่มที่มีรูปร่างกำยำเล็กน้อยสมวัย หน้าตาดูหล่อเหลาเกลี้ยงเกลา---แต่ก็ยังเป็นแค่เด็กอยู่ดี แถมเด็กมากซะด้วย แล้วเด็กแบบนี้จะไปทำอะไรได้เล่า?
"อืม... ตอบยากนะเนี่ย" อีธานทำเสียงยียวนขณะยกยิ้มแล้วเอ่ย "ผมคิดว่ามันคงเท่ดีล่ะมั้ง ...แล้วท่านพี่ล่ะครับ ทำไมวันๆถึงไม่ทำงานทำการซะบ้าง เอาแต่กินเหล้าผลาญงบประชาชนไปทำไมล่ะ หืม?" ---แล้วนั่นก็เป็นประโยคพูดที่ทำเอาอีกฝ่ายช็อกและเกือบจะซัดเบ้าหน้าชายหนุ่มให้หายโกรธเคือง
แต่มีเหรอที่คนอย่างอีธานจะสนใจ---ช่างสิ ก็เขาพูดเรื่องจริงนี่หว่า
แล้วการจะเป็นอัศวินนี่ก็คงไม่ได้เลวร้ายอะไรด้วย แถมยัง...พกพาอาวุธเท่ๆประจวบกับได้หาตัวไอ้เลวที่ข่มขืนแม่ของเขาได้ในเวลาว่างๆอีก
ยอดเยี่ยมซะไม่มี :)
9. ลักษณะนิสัย:
10. เพิ่มเติม:
- ไม่ได้จริงจังกับการแก้แค้นแม่อะไรขนาดนั้น เพียงแต่เอามาเป็นข้ออ้างเพื่อที่หาอะไรทำยามว่างเท่านั้น เขาไม่ได้แค้นฝังหุ่นใครแค่ความจำแม่นและจะเอาคืนแน่ถ้ามีโอกาส
- เป็นพวกพูดตรงๆจนขวานฝ่าซาก แต่บางทีก็ตั้งใจจะกวนประสาทเลยพูดอ้อมค้อมอ้อมโลก และไม่สนใจด้วยว่าใครจะโกรธหรือไม่
- ตัวละครนี้ปั่นมาแบบมึนๆของจริงเลยค่ะ ถ้าไม่โอเคจริงๆก็ตัดออกได้นะคะ ;--; แถมยิ่งปั่นส่งยิ่งสั้นขึ้นในแต่ละคน ขออภัยในความขี้เกียจนี้ด้วยค่ะ แง55555
ส่วนที่ 3 สัมภาษณ์ตัวละคร
11. ท่านคาดหวังสิ่งใดที่สุดในชีวิตนี้ เพราะเหตุใดจึงหวังเช่นนั้น
"เล่นถามแบบนี้เลยเหรอ"
ชายหนุ่มเลิกคิ้วขึ้น สีหน้ายียวนพลันฉายแววสงสัยยามได้ยินคำถาม---สิ่งที่ต้องการเหรอ? อืม...มีเยอะซะด้วยแฮะ
"ผมไม่ได้เป็นพ่อพระอะไรหรอกนะ แต่...แค่มีชีวิตอยู่ในทุกวันนี้ก็ดีถมไปแล้ว แต่ถ้าจะถามถึงความต้องการจริงๆผมก็คงตอบได้ว่า..."
ชายหนุ่มลากเสียงยาว ปล่อยให้อีกฝ่ายลุ้นก่อนจะเอ่ยต่อ
"การที่ได้มองดูผู้คนอยู่ในกำมือมั้งครับ หรือก็คืออำนาจนั่นแหละ...ใครๆก็บอกว่ามันดีนี่ครับ :)"
12. หากอนาคตของท่านคือความมืดนิรันดร์ ท่านหวาดกลัวหรือไม่ เพราะเหตุใด
"ความมืดเหรอ"
เขาทวนคำ ในใจวูบแรกของชายหนุ่มที่ยังอายุไม่เยอะมากแอบหวาดกลัวแต่เเล้วเขาก็กดมันลงไปได้อย่างรวดเร็วก่อนจะตอบไปว่า
"ถ้าผมมัวแต่กลัว ผมก็หมดสนุกกับการยิ้มแย้มแล้วมองดูคนอื่นวุ่นวายโกลาหนกันพอดีสิ"
13. สงครามจะเริ่มขึ้นแล้ว ท่านจะทำอย่างไร
"ผมฝึกเป็นอัศวิน...คงจะนั่งดีดมะกอกอยู่บ้านมั้งครับ"
อีธานหัวเราะ และในเวลาต่อมาเขาก็ปรับสีหน้าให้เคร่งขรึมเหมือนเดิมก่อนจะเอ่ยต่อ
"ก็ทำตามหน้าที่ของอัศวินนั่นแหละครับ อยากสู้เดี๋ยวผมก็สู้เองเเหละ"
...และแล้วน้ำคำแสนยียวนก็หลุดออกมาอีกจนได้
14. หากความรักคือพันธนาการ ท่านจะเลือกกรงขังหรือโบยบินสู่อิสรเสรี เพราะเหตุใด
"ผมมีความสุขกับตรงไหนก็จะอยู่ตรงนั้นแหละ"
ชายหนุ่มไหวไหล่ เดิมทีเขาก็ไม่ได้นึดมั่นกับอิสระอะไรขนาดนั้นแค่ค่อนข้างจะเคยชินกับมัน...เขาไม่มีครอบครัวที่อบอุ่นตั้งแต่เล็กๆนี่นะ ต่อให้ถูกขังในกรงแล้วถูกมอบความรักจริงๆให้เด็กอย่างเขาก็คงต้องยอม
หากแต่...เขาก็ไม่อยากจะยอมรับง่ายๆหรอกว่าแท้จริงแล้วตัวเองก็ค่อนข้างขาดความอบอุ่นน่ะ
ยอมรับให้คนอื่นได้ก็บ้าแล้ว--เขาต้องเรียบรียงประโยคให้ดีกว่านี้
"จะถูกพันธนาการก็ช่างประไรสิ...ผมค่อยหนีออกมาก็ได้ถ้าต้องการ"
15. เลือกบรรทัดละหนึ่งอย่างด้วยการทำตัวหน้าหรือเน้นข้อความ (เลือกดีๆ นะคะ ข้อนี้จะเป็นชะตาตัดสินว่าท่านจะกลายเป็นคนของภาคีหรือไม่)
หัวใจ / ความคิด / จิตวิญญาณ
กลีบดอกไม้ / ดาบ / คัมภีร์
น้ำตา / โลหิต / น้ำ
โซ่ตรวน / กระดานหมากรุก / กำแพง
ความพ่ายแพ้ / อิสรภาพ / อำนาจ
โต๊ะไม้ / หอคอย / ภูเขาน้ำแข็ง
มังกร / หมาป่า / ราชสีห์
คนบาป / ปีศาจ / หายนะ
มงกุฎ / แสงเทียน / กล้าอ่อนพันธุ์ไม้
สัจจะ / ศรัทธา / สันติสุข
ขอให้ท่านโชคดี
ความคิดเห็น