คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : Vividness
ชื่อ - นามสกุล: แฮร์รี่ แมนเดน [Harry Manden]
อายุ: 19 ปี
รูปร่างลักษณะ: แฮร์รี่เป็นชายหนุ่มหน้าตาทะเล้น
ดวงหน้ามักประดับประดาไปด้วยรอยยิ้มขี้เล่นทำให้ใบหน้าดูสุกใสตลอดเวลา
เขาเป็นคนผมสีน้ำตาลอ่อนอมทองซอยระต้นคอดูนุ่มนิ่มน่าจับมาขยี้(?)โครงหน้ารูปไข่ ดวงตาสีเดียวกับผมดูซุกซนและขี้สงสัย
เรียวคิ้วโค้งตัวอย่างพอดี ขนตายาวสวยเป็นแพ
จมูกโด่งรับกับริมฝีปากสีลูกพีชอย่างเป็นธรรมชาติ
ผิวขาวออกสีน้ำผึ้งเล็กน้อยดูสุขภาพดีไร้รอยแผลเป็น
แฮร์รี่มีส่วนสูงอยู่ที่ 180 เซนติเมตรและน้ำหนักอีก
67 กิโลกรัม
ลักษณะนิสัย:
♥
แฮร์รี่เป็นชายหนุ่มที่ร่าเริงมาก
ขี้เล่นและทะเล้นแทบตลอดเวลา เขาเป็นคนเฟรนลี่เข้าหาง่ายแต่เจ้าตัวก็มักวิ่งแจ้นเข้าหาคนอื่นก่อนเสมอโดยไม่สนใจภาพลักษณ์ว่าคนคนนั้นจะดูน่ากลัวและบรรยากาศไม่น่าเข้าใกล้สักเพียงใด
ขอแค่ได้คุยสักสองสามคำก็ยังดีเพราะเขาชอบที่จะได้รู้จักกับคนเยอะๆดีกว่าการไม่กล้าเข้าไปทักทายและจบลงด้วยการที่ไม่ได้มีโอกาสได้คุยกันเลยน่ะ
และเพราะใบหน้าของเขามักประดับไปด้วยรอยยิ้มเป็นมิตรพร้อมทั้งแผ่ออร่าด้านบวกออกมาได้ตลอดเวลาจนแสบตา(?)เขาเลยเป็นบุคคลที่ดูแล้วไม่อันตรายสักเท่าไหร่
ไม่สิ ดูไม่มีพิษมีภัยเลยด้วยซ้ำ และนั่นก็เป็นเรื่องจริงเพราะแฮร์รี่เป็นมิตรกับทุกคนเสมอ
เขาทั้งใจดี และมักจะเป็นตัวสร้างสีสันให้ผู้อื่นดังเช่นการปล่อยมุกที่บ้างก็แป้กบ้างก็ฮา
ซึ่งเจ้าตัวก็ไม่สนใจว่าใครจะขำหรือเครียดแทนบ้าง… เพราะเขามีความสุขที่จะทำแบบนี้
มีความสุขที่ทำให้ผู้คนคลายเครียดหรือหัวเราะได้ มีความสุขที่ตัวเองได้ยิ้มให้กับคนอื่น…แค่นั้นแหละ
อีกอย่างคือแฮร์รี่เป็นชายหนุ่มที่อบอุ่นจนเหมือนออร่าของแดดประเทศไทยเดือยเมษายน(??) ใครก็ตามที่อยู่กับเขามักจะรู้สึกได้เสมอว่าเจ้าหนุ่มคนนี้เป็นคนดีจริงๆแม้จะชอบเล่นชอบแหย่จนน่ารำคาญไปบ้างแต่ก็ขอให้รู้ไว้เลยว่าเขาไม่ได้หวังมุ่งร้ายจริงๆนะ
แต่บางทีก็ให้ความรู้สึกเหมือนเขาทำตัวเป็นเด็กอยู่บ้างทั้งๆที่ก็โตเป็นหนุ่มแล้ว
♥♥
ถึงตรงนี้หลายคนอาจจะสงสัยว่าแฮร์รี่เคยเศร้าบ้างไหม? แน่นอนว่าเขาที่เป็นมนุษย์ย่อมต้อง
“เคย” อยู่แล้วเพียงแต่เขาไม่เคยที่จะแสดงมันออกมาให้ใครได้เห็นนัก
สิ่งที่แสดงออกมาเมื่ออยู่ต่อหน้าผู้คนไม่ว่าน้อยหรือมาก จะคนเดียวหรือเป็นกลุ่มก็มักจะเป็นรอยยิ้ม
และการเล่นมุกกลบเกลื่อนไปเรื่อย ซึ่งต้องยอมรับเลยว่าเรื่องแบบนี้แฮร์รี่เก็บอาการได้เก่งมากๆ
มากถึงขั้นที่ดูแทบไม่ออกเลยหากไม่จ้องลึกเข้าไปในดวงตาเขาจริงๆ
สิ่งที่เขาทำได้เวลาเศร้าคือการกอดตัวเองในเวลาที่อยู่คนเดียว
พึมพำปลอบใจตัวเองไปเรื่อยๆและรอเวลาให้รู้สึกดีขึ้นจากนั้นค่อยกลับไปพบประผู้คนด้วยรอยยิ้มต่อ
เหตุที่ทำแบบนี้เหตุผลก็สั้นๆเลย—เพราะเขาไม่ชอบเลยที่ใครจะมาเห็นช่วงเวลาแย่ๆของเขา
เขาชอบแสดงด้านดี ด้านบวกออกไปมากกว่า ง่ายๆคือเขาไม่อยากสร้างบรรยากาศเศร้าๆหมองๆไปแปดเปื้อนใครและไม่อยากให้ใครมาลำบากปลอบใจเขาหรอก
แค่ตัวเขาคนเดียวก็ได้
♥♥♥
แฮร์รี่ไม่ใช่คนดื้อดึงอะไรแต่บางครั้งก็อยากทำในสิ่งที่ตัวเองต้องการบ้างแค่เล็กน้อยก็ยังดี ภายในครอบครัวเขาถูกกดดันค่อนข้างมากทำให้บางครั้งก็เกิดความกลัวอยู่ในใจแต่ก็ไม่มีความกล้าพอที่จะแหกปากร้องตะโกนออกไป—ก่อเกิดเป็นเสียงกรีดร้องที่เงียบงันจากภายนอกหากแต่มันดังอยู่ด้านในเหมือนกับพายุโหมกระหน่ำ
กล่าวโดยสรุปคือเขาแคร์คำพูดของทุกคนค่อนข้างมาก หากเป็นการพูดจาถากถางแบบเล่นๆกันเขาก็คงไม่คิดอะไรแต่ถ้ามานินทาให้เขาได้ยินหรือด่าแบบด้วยสีหน้าจริงๆจังๆเขาก็สลดได้นะแม้จะพยายามปั้นหน้ายิ้มอยู่ก็เถอะ
แฮร์รี่เป็นคนว่านอนสอนง่าย
ไม่ดื้อก็จริงแต่บางครั้งเขาก็ชอบฝืนเพราะเขาปฏิเสธอะไรใครไม่เป็นเรียกได้ว่าใจดีเกินไปก็คงไม่ผิดอะไร
และเขาก็ไม่ใช่คนที่พูดจาทำร้ายจิตใจใครได้ด้วย ดังนั้นแล้วอะไรที่ไม่ชอบเขาก็ไม่พูดอยู่ดีเว้นแต่จะมีคนมองเขาออก
เพราะทุกครั้งชั่ววินาทีแรกเขาก็จะแสดงสีหน้าออกมาก่อนจะกลบมันด้วยรอยยิ้ม
หากคุณมองเอาทันคุณจะรู้ว่าเขาชอบหรือไม่ชอบ
แฮร์รี่เองก็มีความชอบ
มีความต้องการเป็นของตัวเองเหมือนกันเพียงแต่ชอบที่จะทำเพื่อคนอื่นมากกว่าตัวเองน่ะ…
♥♥♥♥
เรื่องน่าเศร้าอีกเรื่องคือแม้ว่าแฮร์รี่จะเป็นคนร่าเริงสดใสใจดีขนาดไหนผู้คนกลับมองว่าเขามันบ้าที่ยิ้มได้ตลอดเวลา
บางครั้งก็คิดว่ามันน่ารำคาญแล้วถอยห่างจากเขา ทำให้เขาไม่มีเพื่อนสนิทจริงๆจังๆสักคนแม้จะเป็นคนเฟรนลี่ก็ตาม
เพราะคนอื่นๆดันมองว่าเขาเป็นแบบนั้นกันหมด หลายคนคิดว่าคนแบบเขาต่อให้อยู่คนเดียวก็ยังยิ้มได้
ไม่เห็นจะต้องไปใส่ใจเลย
ความจริงแล้วแฮร์รี่ไม่ได้บ้าแล้วก็ไม่ได้ชอบอยู่คนเดียวแต่เขาแค่ไม่ได้พูดออกไปเท่านั้น
บางครั้งหลายๆคนก็เลิกคบเขาเป็นเพื่อนเพราะมองว่าเป็นพวกบ้าที่เรียกร้องสายตาจากคนอื่น
บ้างก็มองว่าเป็นคนโลเลหาคนสนิทไม่ได้สักที
ทว่าพวกเขาไม่รู้หรอกว่าแฮร์รี่ก็แค่ชอบที่จะทำความรู้จักกับผู้คนแค่นั้นเอง
แฮร์รี่จึงต้องอยู่คนเดียวเป็นส่วนใหญ่
มีบางครั้งที่เข้าหากลุ่มอื่นแต่ไม่นานก็ถูกดีดออกมาเหมือนเดิม
แต่ถึงแม้จะอยู่คนเดียวเขาก็ยังคงยิ้ม
ยิ้มให้รู้ว่าเขาไม่เป็นไรถึงแม้ในใจจะกรีดร้องแทบคลั่งแล้วก็ตาม
♥♥♥♥♥
เพราะเป็นคนที่ไม่พูดอะไรด้านลบ
ชอบเก็บงำอะไรแย่ๆไว้คนเดียวนี่แหละเขาถึงเป็นคนเก็บกดอยู่มาก และที่ระบายก็คือไดอารี่ทุกๆครั้งก็จะอัดเสียงใส่เครื่องบันทึกเสียง
แน่นอนว่าเขาทำก่อนนอนตอนอยู่คนเดียว เขาจะเล่าเรื่องราวของวันนี้ทั้งหมด
เริ่มแรกเป็นเรื่องราวดีๆสดใสแต่ถัดมาจะเป็นความรู้สึกด้านในจริงๆ เช่น
‘วันนี้ผมเจอกระเป๋าเงินตกอยู่ข้างทางล่ะ!
พอเก็บไปส่งคุณตำรวจเขาก็ชมผมใหญ่เลย ดีใช่ไหมล่า!~ อ้อ! แล้วต่อจากนั้นนะผมก็เจอร้านไอศกรีมร้านเดิมที่ลดราคาด้วยเลยเผลอเข้าไปซื้อกินจนเกือบไปเรียนไม่ทันเลยแหน่ะ!
แต่ไอศกรีมอร่อยมากๆนะ บอกไว้ก่อนโดยเฉพาะรสช็อกโกแลตผสมกล้วยน่ะ
ตั้งแต่เข้าเรียนผมก็ตอบคำถามจากคุณครูคนสวยถูกด้วยนะ
เธอชอบผมด้วยล่ะ ผมดีใจสุดๆเลย อ้อ! นอกจากนั้นยังได้คะแนนเพิ่มอีก
แบบนี้เรียกว่ายิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัวรึเปล่านะ?
…….
….แต่วันนี้ก็มีเรื่องน่าเศร้าด้วยล่ะ
แมรี่บอกว่าผมน่ารำคาญน่ะ
แล้วเธอก็เลิกเป็นเพื่อนกับผมโดยให้เหตุผลว่าผมไอศกรีมเลอะปากและพูดมากเกินไปจนทำให้เธออาย
บางทีผมอาจผิดเองก็ได้ที่ทำแบบนั้นแต่ผมก็แค่อยากสร้างรอยยิ้มเองนะ แค่นั้นเอง
แค่นั้นเองจริง….’
ในบางครั้งมันก็อาจจะมีเสียงสะอื้นตามมา…แต่ก็แค่บางครั้งเท่านั้น ความจริงแล้วลึกๆในใจนั้นเขาจะรู้สึกดีมากๆถ้ามีใครมาปลอบใจ
และเพราะเขาไม่ใช่คนดื้อด้านอะไรนักหากใครสักคนเข้ามาปลอบใจแล้วบอกให้เขาระบายเขาก็คงทำ
ติดที่ว่าตั้งแต่เด็กจนถึงปัจจุบันนั้นมัน “ไม่มีเลยสักคน” (แม้เเต่พี่ชายเขาก็ยังไม่อยากเกาะติดเป็นภาระให้อีกฝ่ายเหนื่อยเล่นมันก็เลยเป็นเอาซะแบบนี้)
♥♥♥♥♥♥
แม้ว่าแฮร์รี่จะดูเป็นหนุ่มน้อยอินวันเดอร์แลนด์(?)เหมือนกับคนโลกสวยขนาดไหนแต่เขาก็ไม่ใช่คนที่มองโลกในแง่ดีขนาดนั้น
เขาเองก็มองโลกในด้านลบเป็นเหมือนกันแค่เขามักพูดจาในแง่ดี
ทำให้ทุกคนมองโลกในแง่ดีเสมอ ปลุกใจบ้างล่ะ เล่นมุกใส่ให้หัวเราะ(หรือเครียดกว่าเดิม?)บ้างล่ะ ทุกๆอย่างที่ทำไปเพราะเขาอยากสร้างสีสันมากกว่าทำให้บรรยากาศมันกดดันเท่านั้น
บางทีมันก็ทำให้คนอื่นรำคาญไปบ้าง
ทว่าทุกๆครั้งที่แฮร์รี่มองโลกในแง่ร้ายเขาก็มักขบคิดแล้วทาบทับด้วยการมองโลกในแง่ดีสุดท้ายก็มองให้มันอยู่ตรงกลางให้ได้แค่นั้นเอง
เพียงแต่ถ้าบรรยากาศมันหดหู่มากไปตัวเขาก็พร้อมจะพรีชีพ(?)สร้างสีสันเสมอ
แฮร์รี่เองก็มองคนเป็นแต่ก็มองไม่ออกทุกคนหรอกเพียงแต่ช่างสังเกต
ขี้สงสัยและชอบสืบอะไรเล็กๆน้อยๆด้วยตัวเองเลยทำให้รู้ดีอยู่เยอะกว่าใครชอบกินอะไร
ชอบอะไรแบบไหน(แต่ก็ไม่รู้ทั้งหมดหรอก…) ถามว่าเขาสืบได้กับทุกคนไหม? ก็ไม่…เพราะเขาได้เกิดมาเป็นโคนันนี่นะ
♥♥♥♥♥♥♥
แฮร์รี่เองก็โกรธคนเป็น…เพียงแต่มักแสดงออกด้วยรอยยิ้มซะส่วนใหญ่
เขาเป็นคนใจเย็นและโกรธยากมากๆ แต่ถ้าทำให้โกรธหรือเคืองเข้าจริงๆเขาก็จะไม่เสวนาด้วย
ไม่ยุ่งย่ามด้วยเลยล่ะนะ นั่นเป็นหนึ่งสิ่งที่เขาแสดงออกมาชัดเจนจริงๆ
อีกเรื่องคือกาลเทศะ
แฮร์รี่เองก็มีมารยาทเหมือนกันกับผู้ใหญ่ ผู้อาวุโสต่างๆเพียงแต่อาจมีเอ่ยปากหยอดเล่นบ้างกับคนที่(เขาคิดว่า)ไม่น่ากลัวอะไร แต่ถ้ากับคนที่(เขาคิดว่า)น่ากลัวจริงๆอย่าง ผอ. หรือ แก๊งยากูซ่า
แก๊งมาเฟียอะไรก็คงไม่กล้าหยอดหรอก…
♥♥♥♥♥♥♥♥
เห็นแบบนี้แต่เขาก็เป็นคนจริงจังกับหน้าที่และงานที่ได้รับมอบหมายนะ
อีกอย่างเขาเป็นคนที่รักษาสัญญาได้ดีมากอีกด้วย อะไรก็ตามที่เขารับปากไปแล้วเขาก็ไม่ผิดคำพูดแน่นอนแม้ว่าท่าทางที่แสดงออกมาจะดูเล่นๆไปซะหมดก็เถอะแต่เขาก็ไม่ชอบก่อปัญหาหรือสร้างเรื่องให้ใครมาตามแก้เช่นกัน
ประวัติความเป็นมา:
แฮร์รี่เป็นลูกชายคนกลางของบ้านที่เป็นตระกูลที่ค่อนข้างมีหน้ามีตาในสังคม
ฐานะร่ำรวยอยู่มากเนื่องจากเป็นนักธุรกิจเกี่ยวกับแบรนด์เครื่องประดับชั้นนำ เขามีพี่ชายอยู่หนึ่งคน
และมีน้องสาวอีกหนึ่งคน รวมตัวเขาด้วยบ้านหลังนี้ก็มีลูกกันสามคนแล้วพวกเขาก็รักกันดี
พี่ชายของเขา ‘โคเรย์ แมนเดน [Koray
Manden]’ เป็นชายหนุ่มรูปหล่อผู้มากความสามารถในทุกๆด้าน เขาแก่กว่าแฮร์รี่สามปี
และน้องสาวของเขา ‘เนสต้า แมนเดน [Nesta
Manden]’ เป็นเด็กสาวหน้าตาจิ้มลิ้นน่ารัก แต่ก็แอบเอาแต่ใจอยู่บ้าง
เธออ่อนกว่าแฮร์รี่สามปี
หลายครั้งที่แฮร์รี่ถูกเอาไปเทียบกับพี่ชายของตัวเองที่เก่งไปซะทุกเรื่อง
เช่น
“ทำไมถึงทำไม่ได้แบบโคเรย์ล่ะ?”
“โคเรย์ยังทำได้เลยนะ
ทำไมแฮร์รี่ถึงทำไม่ได้ล่ะ?”
“เด็กคนนี้เป็นน้องของโคเรย์จริงๆรึเปล่าเนี่ย?”
[ทว่าสิ่งที่แฮร์รี่ทำกลับไปก็คือรอยยิ้มร่าเริงเสมอ]
เขาถูกละเลยไปบ้างเนื่องจากการเอาอกเอาใจตกไปอยู่กับน้องสาวคนเล็ก
และความดูแลดีๆตกไปอยู่กับพี่คนโตหมด หลายครั้งที่ทุกสิ่งทุกอย่างที่แฮร์รี่ได้นับมันมักขาดๆหายๆไป
มันไม่ได้สมบูรณ์เพอร์เฟคร้อยเปอร์เซ็นต์
แต่แฮร์รี่ก็พยายามจะไม่โวยวายอะไรกับเรื่องนี้
เขายังคงใช้ชีวิตอยู่ต่อไปได้จนเริ่มเติบโตไปพร้อมๆกันกับพี่น้อง
แม้จะแอบเศร้าเสียใจอยู่บ้างก็ตาม แฮร์รี่ไม่ได้มีความสามารถด้านการเรียนโดดเด่นนักแต่ก็ไม่ได้โง่จนเกินไปเพียงแค่พี่ชายของเขานั้น ‘ทำได้ดีกว่ามากถึงมากๆ’
เขาเลยไม่ค่อยได้รับคำชมเมื่อได้คะแนนเต็มในวิชาที่ชอบเพราะพี่ชายของเขามัก
‘ทำได้ดีเยี่ยมไปหมดทุกวิชา’
สิ่งที่แฮร์รี่ทำได้โดดเด่นที่สุดมักเป็นอะไรก็ตามที่ต้องลงมือปฏิบัติ
กีฬาหรือกิจกรรมต่างๆเพราะเขาชอบที่จะพยายาม ลงมือและรอดูผลที่รับเอามากๆ (แน่นอนว่าไม่ค่อยมีใครสนใจเขาเท่าไหร่…)
แต่แล้วเรื่องน่าเศร้าสลดก็เกิดขึ้นเมื่อครั้งหนึ่งตอนที่เขาอายุได้ราวๆ13ปี
เขาและครอบครัวเดินทางไปเที่ยวทะเลและขึ้นเรือชมวิวกัน
ตกกลางคืนน้องสาวของเขาวิ่งมาเล่นที่ระเบียงซึ่งพ่อแม่และพี่ชายยังอยู่ในห้องอาหารด้านใน
แฮร์รี่วิ่งตามมาเพราะเป็นห่วงบวกกับถูกฝากฝังมาจากโคเรย์
แต่แล้วเขาก็ตามน้องสาวไม่ทันเพราะเธอได้ปีนขึ้นไปเล่นบนระเบียงกั้นขณะที่เขาตะโกนห้ามแล้วเรือก็โครงเครงกะทันหันทำให้ร่างเล็กๆนั้นพลัดตกลงไป
ตอนนั้นแฮร์รี่ยังว่ายน้ำไม่เป็น
และเนสต้าเองก็ว่ายน้ำไม่เป็นเช่นกัน
ด้วยความเป็นเด็กและตื่นกลัวแฮร์รี่จึงทำได้แต่ล้มลุกคลุกคลานเข้าไปขอความช่วยเหลือจากพ่อแม่และพี่ชายที่นั่งอยู่ด้านใน
แต่แล้วมันก็สายเกินไป… เนสต้าจมน้ำและถูกพบตัวอีกทีเป็นศพไปแล้ว
เนสต้าตายแล้ว
นั่นเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ทำให้แฮร์รี่เศร้าสลดใจเป็นที่สุด
เขาทั้งโทษตัวเองและคิดวกไปวนมา ว่าทำไมเขาถึงไม่ลองกระโดดลงไปช่วยเธอนะ? หรือถ้าเขาทำตัวเป็นพี่ชายของเธอให้ดีกว่านี้เธออาจจะยอมเชื่อฟังเขาก็ได้…
ถ้าหากเขาย้อนเวลาได้เขาคงไม่อยากให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นหรอก
หลังจากนั้นแฮร์รี่และครอบครัวก็ใช้ชีวิตตามปกติแม้จะมีบรรยากาศเศร้าๆอยู่บ้างเมื่อนึกถึงเด็กสาวที่จากไป
แม้จะไม่มีใครต่อว่าเขาเรื่องที่ห้ามน้องไม่ได้แต่แฮร์รี่รู้สึกผิดมากแม้ตัวเองจะไม่ใช่คนผิดอะไรแต่เขาก็พยายามจะทำอะไรก็ตามเพื่อเป็นการขอโทษกับครอบครัว
ทั้งตั้งใจเรียน เข้าสถาบันดีๆ—ทำทุกๆอย่างเว้นแต่เปิดใจคุยกัน
เพราะมันเป็นสิ่งเดียวที่เขาไม่กล้ามากพอจะทำ
พี่ชายของเขาอย่างโคเรย์เองก็พยายามจะปลอบใจ
ให้กำลังใจเขาเสมอ สอนเขาด้วยถ้อยคำดีๆและอ่อนโยนทำให้แฮร์รี่อดคิดไปไม่ได้ว่านี่พี่ชายเขาเป็นคนหรือเทพบุตรกันเนี่ย? ทำไมถึงได้สมบูรณ์แบบหมดจดยันนิสัยขนาดนี้นะ?
และแล้วแฮร์รี่ก็ทำตามที่พี่ชายบอก
เขายังคงใช้ชีวิตต่อไปอย่างมีความหวังว่าสักวันเขาอาจทำให้บรรยากาศในครอบครัวดีขึ้น
หรือเขาอาจจะทำให้พ่อแม่หันมามองเขามากกว่านี้
ช่วงชีวิตต่อจากนั้นไม่ได้เลวร้ายแต่ก็ไม่ได้สวยหรูมากสักเท่าไหร่
ตัวแฮร์รี่เองก็ต้องสู้ต่อไปเหมือนกับพี่ชาย จนแล้วจนรอดเขาก็เข้าไปในสถาบันมาร์รอธแบบพี่ชาย…อา
อาจเพราะอยากพบเจออะไรใหม่ๆและอยากจะฝึกฝนตัวเองไปด้วยล่ะนะ
ต่อจากนี้เขาก็คงต้องพยายามให้มากขึ้นล่ะ!
ผมชอบที่จะพยายาม
ผมรักที่จะพยายามและดีใจที่ได้มองผลของมันไม่ว่าจะเป็นยังไงก็ตามแต่มันก็รู้สึกดีที่เขาได้ลองพยายามทำอะไรสักอย่าง ☻ By::Harry
ชอบ / เกลียด / กลัว / แพ้:
→ชอบ←
การพบเจออะไรใหม่ๆ : เขาชอบเพราะมันน่าตื่นตาตื่นใจ
น่าตื่นเต้นและน่าค้นหาดีนะ! อีกอย่างเพราะเป็นคนขี้สงสัยอยากรู้อยากเห็นไปหมดด้วยเลยชอบอะไรแบบนี้
การได้ทำความรู้จักกับคนอื่นๆ
: แน่นอนว่าเหตุผลคล้ายๆกับด้านบนเลย
เขาชอบที่จะเจออะไรใหม่ๆ และเปิดโลกให้ตัวเองเสมอ
ติดที่ว่าบางคนอาจไม่ชอบหน้าเขาก็ได้…
การสร้างสีสันและรอยยิ้มให้ผู้คน
รวมถึงการยิ้มด้วย : มันเป็นนิสัยที่ติดตัวเขาไปแล้วล่ะ…
จะให้เลิกยิ้มก็คงยากหน่อย
การพยายาม : เขาชอบที่จะมองดูผลของมันแม้จะล้มเหลวก็ตาม
ช็อกโกแลต : หอมหวานอร่อย…
แมว : มันน่ารักน่ะ...แล้วเขาก็เป็นทาสแมวด้วย!
→เกลียด←
การถูกด่าทอหรือถูงมองเหยียดใส่
: เขาไม่ชอบมัน แต่แน่นอนว่าเขาจะแสดงออกด้วยรอยยิ้มเสมอ
กรเทียม : มันไม่อร่อยน่ะ…
→กลัว←
การที่สักวันเขาจะไม่เหลือใครเลยแม้แต่พี่ชาย
: แม้สถานะตอนนี้ที่ไม่มีเพื่อนสนิทจริงๆจังเลยสักคนมันจะใกล้แล้วก็ตามแต่เขาก็ยังเชื่อว่ามันคงมีหวัง…
ทว่าถ้าหากทุกคนรอบๆตัวพากันเกลียดและหมางเมินเขาไปหมดเขาก็ไม่ไหวหรอกนะ
→แพ้←
เขาไม่มีอะไรที่แพ้เป็นพิเศษ
อาหารก็กินได้หมด ยิ่งฟรียิ่งกินเยอะ…
สายเวทย์: Worshipper 2 (ถ้าหากทางไรท์เตอร์เห็นสมควรแก่กรรม(?)ก็สามารถปรับเปลี่ยนได้นะคะ =w=)
อาวุธ : มีดคู่ (เห็นสมควรก็เแลี่ยนได้นะคะ..)
ความสามารถพิเศษ:
๏ ความสามารทาวด้านร่างกาย : เพราะเขาค่อนข้างเก่งกีฬาและกิจกรรมเลยร่างกายแข็งแรงเป็นพิเศษ
และยังมีความอดทนดีอีกด้วย
๏ การทำอาหาร : เห็นแบบนี้แต่เขาก็ทำอาหารได้ดีนะ… แค่มองเมนูกับวิธีทำแว้บเดียวเขาก็เรียนรู้ได้แล้ว
๏ ช่างสังเกตและความจำดี : เพราะงี้เขาถึงขี้เสือ—ขี้สงสัยตลอดเวลา
บท: นักเรียน
เพิ่มเติม:
-พ่อกับแม่ของแฮร์รี่ก็เริ่มรับรู้ว่าตนละเลยลูกชายไปก็ตอนที่แอบได้ยินเจ้าตัวอัดเสียงเป็นไดอารี่นี่แหละ(เป็นเหตุการณ์หลังจากเนสต้าเสียไปแล้ว) แต่ทั้งคู่ก็ไม่รู้จะขอโทษยังไงนอกจากพยายามดูแลส่งเสียเขาให้ดียิ่งขึ้น
-แฮร์รี่เป็นคนขี้สงสัย แต่ถ้าอีกฝ่ายไม่ชอบให้จู้จี้จุกจิกเขาก็จะยอมถดถอยเเล้วมองอยู่ห่างๆ
-ลึกๆแล้วเขาต้องการคนคอยปลอบใจแต่ไม่แสดงออกมาเลยไม่มีใครอยู่กับเขาเลย...แล้วเขาก็ไม่อยากเกาะพี่ชายไปตลอดด้วยมันน่าเศร้านะ
-พี่ชายของเขาเรียนจบจากสถาบันไปเเล้ว
Brother Harry
โคเรย์ แมนเดน [Koray Manden]
Age : 22
Sister of Harry
เนสต้า แมนเดน [Nesta Manden]
Age : 10 (Dead)
ถ้าลูกของคุณติด แต่ไม่ติดในบทที่ต้องการ อยากให้เราใส่บทอื่นให้
หรือว่าจะรับกลับคะ? : ตามแต่กำลังศรัทธา(?)เลยค่ะ ยัดๆบทให้น้องไปเถอะนะคะ 5555555
คิดอย่างไรกับการที่สภานำคทาบรุดเวิร์ธที่โด่งดังนั้นมาเก็บไว้ในโรงเรียน
คิดว่าทำถูกแล้วหรืออันตราย? แล้วอยากจะเห็นมันกับตาซักครั้งในชีวิตไหม?
- "คฑาเหรอครับ" ชายหนุ่มทำตาโตทันทีที่ได้ยินคำถาม และแล้วใบหน้าก็ฉาบไปด้วยความตื่นเต้นอย่างปิดไม่มิด ริมฝีปากยกยิ้มกว้างก่อนจะรีบรุดพูดต่อ
"อยากเห็นสิครับ! แค่เห็นครั้งเดียวก็ได้ ผมไม่เคยเห็นมันมาก่อนเลยนะนั่นน่ะ" แฮร์รี่พูดเร็วๆจนลิ้นแทบพันกัน "ที่ว่าถูกต้องหรืออันตรายผมไม่รู้หรอกครับ แต่...มันน่าตื่นเต้นสุดๆเลยไม่ใช่เหรอ! อย่างกับหนังระทึกขวัญสืบสวนแหน่ะ! เท่เป็นบ้าเลย!"
อาหารที่ชอบกินที่สุดคืออะไร เพราะอะไร?
- "ของฟรีครับ อร่อยมากๆเลย" พูดจบแฮร์รี่ก็ปล่อยหัวเราะออกมาซะเองเเม้ว่าบรรยากาศรอบๆจะมาคุๆแล้วก็เถอะ ทว่าสักพักเขาก็ยอมสงบลงแล้วเอ่ยตอบใหม่ด้วยคำตอบที่ดูจริงจังมากกว่าเดิม
"ผมชอบของหวานนะ แต่ถ้าอาหารคาวก็..." ชายหนุ่มลากเสียงยาวพร้อมกับกลอกตาขึ้นอย่างครุ่นคิด
"พวกเนื้อย่างน่ะครับ แต่ไม่เอาผักเยอะนะ" เขาฉีกยิ้มหลังจากตอบออกไปแล้ว
ความคิดเห็น