ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    .Idea Cage.

    ลำดับตอนที่ #5 : Hypocrisy and danger.

    • อัปเดตล่าสุด 14 มิ.ย. 62



    ส่วนที่ 1

    สวัสดีจ้า นี่พี่พลอยขวัญเอง ตัวเองชื่อไร: เด็กอ้วนคนเดิมเพิ่มเติมคือส่งคนที่สามแล้วค่ะ แฮะๆ

    อายุจ้า: 17เท่าเดิมค่ะ555555

    เวิ่นเว้อกับพล็อตนิดนึงค่ะ ทำไมถึงสนใจเรื่องนี้นะ: เหมือนเดิมเลยค่ะ มีความชอบอะไรแนวๆแฟนตาซีโบราณนิดๆหน่อยดูมีความขลังและศักดิ์สิทธิ์ค่ะ เป็นปลื้มมากกกกก

    **ตัวละครต้องเป็นตัวละครที่คิดขึ้นใหม่เท่านั้น หลังจากกรอกใบสมัครและส่งเรียบร้อยแล้ว ตัวละครจะตกเป็นของพี่พลอยขวัญโดยสมบูรณ์ ไม่สามารถปั้นและนำไปส่งเรื่องอื่นได้อีก ไม่ว่าจะได้บทตามที่สมัครหรือไม่ และพี่พลอยขวัญมีสิทธิ์เปลี่ยนแปลงข้อมูลของตัวละครได้ทุกกรณี ท่านยินดียกตัวละครนี้ให้พลอยขวัญหรือไม่: ได้เลยค่ะ!

     

    ส่วนที่ 2



     

    ที่มาของภาพ :: จิ้ม

    1.      ชื่อ: Ethan || อีธาน

                 * อีธาน แปลว่า คล่องแคล่ว, โชคดี


    2.     สกุล: Mordretta || มอร์เดร็ตต้า


    3.     สีของดวงตา: สีเขียว


    4.     เมือง: เมืองมอดูร์ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ


    5.     อาชีพ: อัศวินฝึกหัด/เด็กทำงานในฟาร์ม


    6.     เผ่าพันธุ์: มนุษย์-เอลฟ์


    7.     อายุ: 17 ปี


    8.     ประวัติส่วนตัว: 

                     'อีธาน มอร์เดร็ตต้า' เด็กหนุ่มปริศนาที่อาศัยอยู่ในเมืองมอดูร์ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ เขาอาศัยอยู่ในบ้านหลังเล็กๆทรงลูกบาศก์ในเขตของป่าชาร์โดว์วู้ด ไม่มีใครรู้จักพ่อแม่เขา ไม่มีใครรู้ว่าประวัติความเป็นมาของเขาเป็นยังไง รู้เพียงแค่ว่าเด็กหนุ่มวัยแปดขวบที่เดินเข้ามาในหมู่บ้านท่ามกลางฝนพรำวันนั้น เป็นเด็กหนุ่มผู้มีดวงตาสีเขียวเป็นประกายวิบวับสวยงามราวกับอัญมณีพร่างพราวทว่ากลับอ่านไม่ออกจนน่ากลัวเกินวัยเด็ก...

                     "อีธาน มอร์เดร็ตต้า" นั่นเป็นคำพูดแรกที่เด็กหนุ่มเอื้อนเอ่ยเมื่อมีผู้คนในหมู่บ้านเข้ามารายล้อมและถามไถ่อาการ---เนื่องจากตามตัวของเขามีบาดแผลสดปรากฏขึ้นเกือบทั่วทั้งตัว หบาดโลหิตสีแดงสดไหลซึมออกมานอกเนื้อผ้า สายพิรุณกระหน่ำเทลงมานั่นทำให้ของเหลวสีแดงปนเปไปกับน้ำฝนสีใสไหลลงมาตามตัวเด็กหนุ่ม

                     แต่แม้เลือดจะไหลออกมามากเขาก็ยังยิ้มทักทายราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น นั่นเป็นอีกสิ่งที่อีธานทำให้ผู้คนในหมู่บ้านต่างก็นึกฉงนสนเท่ห์ในตัวเขา

                     ครานั้นด้วยความที่นึกสงสารหรืออาจด้วยเหตุที่ว่าเพราะเด็กหนุ่มคนนี้มีแรงดึงดูดบางอย่าง คนในหมู่บ้านจึงร่วมด้วยช่วยกันฟื้นฟูบาดแผลและอุ้มชูเลี้ยงดูอีธาน นั่นทำให้อีธานไม่ได้อยู่บ้านของใครเป็นหลักเป็นแหล่งสักเท่าไหร่ เขาโยกย้ายไปบ้านนั้นบ้านนี้ได้เรื่อยๆเพราะทุกคนที่นี่...ต่างก็รู้ว่าเขาไม่มีที่จะไป และไม่มีบ้านให้อยู่ เป็นเด็กหนุ่มที่ไหนก็ไม่รู้

                     ผู้คนมองว่าอีธานเป็นเด็กที่ค่อนข้างจะแปลก เพราะหลายครั้งที่พวกเขาเดาทางเด็กหนุ่มไม่ออก ไม่รู้ด้วยซ้ว่าเขาคิดอะไรอยู่กันแน่ อีธานไม่เคยพูดเรื่องของตัวเองให้ใครฟัง และแม้จะมีคนถามเขาก็มักพูดปัดอยู่ร่ำไป เขาดูเจ้าเล่ห์แสนกล ฉลาดแกมโกงและมีความเล่ห์เหลี่ยมแฝงอยู่ในตัวไม่น้อย--ซึ่งมันดูมากเกินกว่าวัยด้วยซ้ำ

                     "ถ้าอยากรู้ก็ลองเดาเอาสิครับ" น้ำคำเหล่านี้มักหลุดออกมาจากเด็กหนุ่มยามที่ถูกถามถึงเรื่องพ่อแม่และความเป็นมาของเขา ใบหน้าของอีธานมักจะประดับไปด้วยรอยยิ้มเสมอแต่นั่นก็ไม่ได้ช่วยให้เขาดูเป็นเด็กหนุ่มที่น่ารักสมวัยนักหรอก

                    "เธอนี่น่ารักนะ" เขาพูดได้อย่างไม่อายปากทั้งยังมองเด็กสาวที่อยู่ตรงหน้าตรงๆอีกด้วย "มาเป็นเพื่อนกันมั้ยล่ะ?"

                     อีธานทำตัวเป็นเด็กร่าเริง ยิ้มแย้มและเข้าหาง่ายติดที่ว่า...เขาออกจะเจ้าเล่ห์และขี้แกล้งคนไปบ้าง แม้จะไม่ได้แกล้งรุนแรงอะไรแต่ก็ต้องยอมรับเลยว่าเขาปั่นหัวผู้คนได้เก่งมาก ถึงขั้นวางแผนต่างๆนาๆได้ดีเลยทีเดียว ซึ่งผู้คนในหมู่บ้านบางคนก็ยังคงเชื่อมั่นในตัวเขาบางคนก็ริเริ่มที่จะระแวงในตัวเด็กหนุ่มคนนี้---เด็กหนุ่มปริศนาที่นับวันยิ่งดูฉลาดเจ้าเล่ห์จนอันตราย

                     พอเริ่มโตพอจะทำอะไรด้วยตัวเองได้ ในตอนที่อีธานอายุได้12ปีเขาก็ไปทำงานในฟาร์ม บ้างก็รีดนมวัว บ้างก็แบกฟาง บ้างก็ให้อาหารหมูเพื่อหาเงินให้ตัวเองบ้าง จากนั้นพอย่างเข้าสู่วัยหนุ่มเขาก็ไปสมัครเป็นอัศวินจนกระทั่งได้เป็นอัศวินฝึกหัดในปัจจุบัน


                       เรื่องราวก่อนหน้านั้นของอีธาน---ที่บางทีคุณอาจจะไม่อยากรู้ก็ได้ เพราะมันไม่ได้สำคัญอะไรขนาดนั้นหรอก เชื่อสิ เขาก็แค่เด็กหนุ่มลูกครึ่งเอล์ฟธรรมดาๆคนหนึ่งเท่านั้นเอง

                       แม่ก็แค่เป็นเอล์ฟสาวสุดสวยที่ถูกกล่าวขานในนามกบฏต่อบ้านเมือง หญิงที่ถูกใส่ร้ายว่าจะทำลายหมู่บ้านให้มอดไหม้ หญิงที่ถูกกล่าวขานว่าจะใช้เวทมนตร์ดำในทางที่ผิดมิบังควร หญิงสาวผู้งดงามทว่าน่าสงสาร...หญิงสาวที่มากไปด้วยคุณธรรมทว่ากลับถูกนายอัศวินเมาเหล้าไม่เอาการเอางานข่มขืน---เธอที่ทนไม่ไหวจึงหนีออกมาจากเมือง หนีออกมาและใช้ชีวิตอยู่ไกลออกไปจากหมู่บ้านเดิมมากจนถึงขั้นไม่มีใครหาพบเลยเมื่อเธอคลอดบุตร---บุตรที่เธอได้มาอย่างไม่เต็มใจ

                      เธอมีนามว่า 'เอวา มอร์เดร็ตต้า' เธอผู้นี้ไม่ได้รังเกียจเด็กหนุ่มที่คลอดออกมาเลยแม้แต่น้อย แม้ว่าเขาจะเกิดมาด้วยความไม่เต็มใจก็ตาม แต่เธอก็ยังคงเลี้ยงดูเขาด้วยความรักจากหัวใจ พยายามจะหาของในป่า และพล่ามสอนเขาในสิ่งที่ดีเสมอรวมไปถึงบอกกล่าวถึงความอันตรายของโลกภายนอกอีกด้วย

                      "โลกใบนี้มันอันตราย...ลูกจะต้องไม่เชื่อใจใครง่ายๆนะรู้มั้ย" เอวาพล่ามสอนเด็กหนุ่ม เพราะความเชื่อใจ...จึงทำให้เธอถูกใส่ร้าย "และลูกก็ต้องรู้จักเรียนรู้ทุกๆสิ่งรอบตัว หัดสังเกตสิ่งต่างๆเสมอ"

                       อีธานเชื่อฟังเธอ และเพราะเขาเป็นเด็กฉลาดจึงเรียนรู้อะไรๆได้ไว ถึงแม้บางครั้งอีธานจะตีความคำพูดของเอวาออกนอกเส้นทางไปหน่อยก็เถอะ ทำให้บางครั้งเขาก็คิดว่าการเอาตัวเองเป็นที่หนึ่งน่ะ ดีที่สุด

                     ชีวิตของเขาในช่วงวัยเด็กจัดว่าสงบสุขดี แม้ว่าจะลำบากยากจนอดอยากปากแห้งเป็นบางวัน และมีสัตว์มุ่งหวังทำลายตัวเขาอยู่แทบทุกวันก็เถอะ แต่ถ้าเอาตัวรอดมาได้ก็ถือว่าสงบดีนั่นแหละ..

                        จนกระทั่งเรื่องน่าเศร้าก็เกิดขึ้น---เมื่อพวกทหารบุกเข้ามาในบ้านหลังเล็กๆที่เขาอาศัยอยู่กับแม่ อีธานหลบซ่อนตัวอยู่ในตู้เสื้อผ้า และมองลอดผ่านรูเล็กๆของบานประตูไม้---มองดูมารดาของตนถูกฆ่าอย่างที่เขาไม่อาจจะทำอะไรได้เลย และหากพรวดพราดออกไปตัวเขาก็จะต้องตาย แล้วเขาก็ตระหนักดีว่าการกระทำเช่นนั้นมันโง่เง่าสิ้นดี

                        หลังจากพวกอัศวินลากศพแม่ของเขาออกไปแล้วอีธานจึงได้โอกาสออกมาจากตู้เสื้อผ้า

                        อืม... แม่ของเขาบอกว่าให้เอาตัวรอดในโลกที่แสนอันตรายนี้ให้ได้ แบบนี้มันก็คงใกล้เคียงแล้วงั้นสิ?


    ภายใต้จิตใจของเด็กหนุ่มนั้นยังคงมีความหวาดกลัวและสับสนอละหม่านอยู่มากท่ว่าเขาก็เลือกที่จะกดทับมันเอาไว้ แล้วเดินหน้าต่อไปเรื่อยๆโดยถือคติว่า 'แค่เรียนรู้ และเอาตัวเองให้รอดก็พอแล้ว' อยู่แบบนั้น

    เขายังเด็ก...แต่ก็เจออะไรโหดร้ายเกินกว่าจะรับมือไหว เขาดูแลตัวเองไม่ได้และต้องการความอบอุ่น

    แต่เด็กหนุ่งก็ไม่ได้ยอมรับเหตุผลนั้นเสียทีเดียว--เขาคิดแค่ว่าตัวเองต้องการที่พึ่ง 'เเค่ชั่วคราว' เท่านั้น


                      จะเรียกว่าภายใต้จิตใจเขาค่อนข้างบิดเบี้ยวก็คงไม่ผิดอะไร เพราะอีธานไม่ได้ฝ่าฟันพวกสัตว์ป่าและอุปสรรค์ออกจากป่าแล้วตรงไปที่หมู่บ้านเพราะต้องการให้ใครดูแล แต่แค่ต้องการที่พึ่งเอาไว้ซุกหัวนอน---และตัวเขาก็มั่นใจในตัวเองมากเสียด้วยว่าจะไม่ผูกพันกับใครให้ยุ่งยากทั้งสิ้น


                         เพราะแม่ของเขามักบอกว่าโลกนี้มันอันตราย... เขามองทุกคนเป็นศัสตรู เพียงเเต่เล่นละครแสดงออกเสมอว่าตัวเองไม่มีพิษภัยอะไร เขามองดูผู้คนและขบคิดเสมอ สนุกกับการได้ปั่นหัวผู้คนบ่อยๆจนทำให้บางครั้งก็ถูกเกลียดขี้หน้าไปบ้าง แต่อีธานก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรนัก ตั้งแต่ที่เขาแวบเข้ามาในหมู่บ้านเขาก็ใช้ชีวิตแบบเรื่อยๆเปื่อยๆ เป้าหมายในชีวิตก็ไม่ได้ชัดเจนแจ่มแจ้งอะไรขนาดนั้น แต่...ถ้าจะบังคับให้คิดมันก็พอมีอยู่บ้าง

                         คนเดียวที่เขารักก็คือแม่ของเขาเอง แม่ที่ตายไปแล้วโดยที่เขาไม่รู้ว่าใครเป็นคนใส่ร้ายเธอ ข่มขืนเธอ---อ่า นี่แหละ เป้าหมาย เขาจะอยู่เพื่อสืบค้น แก้แค้นและเอาคืนสักหน่อยก็ได้

                         จนถึงปัจจุบันอีธานก็ไม่ได้ไว้เนื้อเชื่อใจใครเเบบจริงๆจังๆนัก เขาค่อนข้างรักสนุกและวนเวียนไปเรื่อย ไม่ค่อยสนใจใครแม้ว่าตัวเองจะเป็นพวกร่าเริงเฟรนลี่แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนที่จะชอบเขา

                        "ทำไมถึงมาสมัครเป็นอัศวินล่ะ" ฝ่ายถามมองอีธานตั้งแต่หัวจรดเท้า สายตาดูเหยียดหยามชายหนุ่มที่มีรูปร่างกำยำเล็กน้อยสมวัย หน้าตาดูหล่อเหลาเกลี้ยงเกลา---แต่ก็ยังเป็นแค่เด็กอยู่ดี แถมเด็กมากซะด้วย แล้วเด็กแบบนี้จะไปทำอะไรได้เล่า?

                       "อืม... ตอบยากนะเนี่ย" อีธานทำเสียงยียวนขณะยกยิ้มแล้วเอ่ย "ผมคิดว่ามันคงเท่ดีล่ะมั้ง ...แล้วท่านพี่ล่ะครับ ทำไมวันๆถึงไม่ทำงานทำการซะบ้าง เอาแต่กินเหล้าผลาญงบประชาชนไปทำไมล่ะ หืม?" ---แล้วนั่นก็เป็นประโยคพูดที่ทำเอาอีกฝ่ายช็อกและเกือบจะซัดเบ้าหน้าชายหนุ่มให้หายโกรธเคือง

                      แต่มีเหรอที่คนอย่างอีธานจะสนใจ---ช่างสิ ก็เขาพูดเรื่องจริงนี่หว่า

                      แล้วการจะเป็นอัศวินนี่ก็คงไม่ได้เลวร้ายอะไรด้วย แถมยัง...พกพาอาวุธเท่ๆประจวบกับได้หาตัวไอ้เลวที่ข่มขืนแม่ของเขาได้ในเวลาว่างๆอีก

                      ยอดเยี่ยมซะไม่มี :)


    9.     ลักษณะนิสัย: 

    ◤Crafty◢
                  อีธานนั้นมีความเจ้าเล่ห์พิรากลอยู่อย่างล้นหลามในตัวจนเกินกว่าวัยไปแล้ว เขาน่ะทั้งฉลาดและมีไหวพริบดี เอาตัวรวดเก่งทั้งยังไม่หวั่นเกรงต่ออะไรง่ายๆอีกด้วย ทำให้เขาดูเป็นชายหนุ่มที่แสนจะอันตรายหากเข้าหาด้วยความมิชอบด้วยคุณก็อาจจะถูกตอกกลับเอาคืนอย่างแสนสาหัสก็ได้ ใบหน้าที่มักจะยิ้มแย้มเสมอของเขาก็มักจะทำให้ไม่มีใครเดาออกว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ เขาน่ะปกปิดอารมณ์ความรู้สึกของตัวเองได้เก่งกว่าอะไรทำให้ไม่มีใครเข้าถึงตัวเขาได้เลย---กลับกันเป็นตัวเขาต่างหากที่เข้าหาคนอื่นและสามารถเจาะลึกถึงจิตใจของอีกฝ่ายได้ในเวลาไม่นาน นั่นทำให้เขาสามารถเล่นเล่ห์กับจิตใจคนอื่นได้ยามที่ต้องการโดยที่ไม่มีใครเอาคืนเข้าได้เลยสักคนเพราะต่างคนต่างก็มองอีธานไม่ออกทั้งนั้นว่ากลัวอะไร ไม่ชอบอะไร ชอบอะไร อ่า...จะเรียกว่าเกือบทุกเรื่องเลยก็ได้ที่ไม่มีใครรู้เกี่ยวกับตัวอีธานเอง
                  ไม่ว่าจะกระทำการอะไรอีธานก็มักคิดอะไรไว้แล้วเสมอ เขามีแผนการระบบทุกอย่างไม่ว่าจะเรื่องเล็กเรื่องใหญ่อะไรก็ตาม และเพราะแบบนั้นเขาเลยไม่ค่อยผิดพลาดนักเวลาจะกระทำการอันใด ไม่เว้นเเม้เเต่การก่อกวนผู้คนเล่นๆด้วย เขามักหนีเอาตัวรอดได้ทุกเมื่อจนคนตามจับคร้านจะไล่ล่าไปแล้ว ยังดีที่เขาไม่ได้เล่นถึงขึ้นเลือดตกยางออกผู้คนเลยปล่อยๆเขาไป
                   ทั้งคำพูดและประโยคที่อีธานเอื้อนเอ่ยออกมาบ้างครั้งก็เต็มไปด้วยความกำกวม ปริศนา ปรัชญา เจ้าเล่ห์และอะไรอีกหลายๆอย่างที่พอจะปั่นประสาทคนได้ และนั่นแหละที่เขาชอบที่จะทำ เขาค่อนข้างสนุกทีเดียวกับการเห็นผู้คนหัวเสียเพราะเขาเนี่ย---ทำไมน่ะเหรอ? ...อา ก็คงเพราะชีวิตนี้มันน่าเบื่อล่ะมั้ง หาเรื่องสนุกเข้าตัวคงจะดีกว่า :)
    ◤Calmly
                 อีธานเป็นคนใจเย็นชนิดที่ว่าไม่เคยโมโหให้ใครเห็นเลย ก็อย่างที่บอกนั่นแหละว่าเขาเก็บอารมณ์ได้เก่งจะตายไป บางทีภายใต้ใบหน้ายิ้มๆนั่นก็อาจกำลังโมโหใครอยู่ก็ได้เพียงเเต่ไม่มีใครมองออกก็เท่านั้น... เขาน่ะมักจะควบคุมอารมณ์ของตัวเองได้ดีเสมอ แต่ก็ไม่วายแสดงออกผ่านคำพูดโดยจะออกมาในการจิกกัดให้ปวดแสบเล่นๆ ซึ่งนั่นก็เป็นสิ่งที่เขาทำเป็นปกติอยู่แล้วเลยไม่ค่อยมีใครเดาออกอยู่ดีว่าเขากำลังโมโหอยู่ 
                   เพราะความที่อีธานถือคติว่า โกรธคือโง่ โมโหคือบ้า เขาจึงไม่คิดที่จะทำแบบนั้นให้ใครเห็นเด็ดขาด---ตรงกันข้าม เขาชอบที่จะทำให้ผู้คนกลายเป็นทั้งคนโง่และคนบ้า ในขณะที่เขาเป็นต้นเหตุแล้วมองอย่างใจเย็น แน่ล่ะถ้าไม่ใจเย็นจะกระทำการใดๆสำเร็จได้ยังไงกัน ถึงจะมีการเสียเวลาไปบ้างเเต่เขาก็ยอมที่จะเสียเวลาเพื่อให้แผนการของตัวเองสำเร็จได้เสมอ เขายินยอมให้มันผิดพลาดไปไม่ได้หรอก และอีกอย่าง...ถ้าเขาไม่ใจเย็นก็โดนยั่วโมโหได้ง่ายๆสิ ถึงเขาจะโมโหยากก็เถอะนะ แต่เขาก็ไม่ใช่ก่อนหินสักหน่อยที่โดนยั่วโมโหมากๆแล้วจะไม่รู้สึกอะไรเขา เขารู้สึกโมโหได้เพียงเเต่มีสติมากพอจะไม่แว้ดว้ายโวยวายให้มันวุ่นวายเท่านั้น
    Within the heart
                หลายคนอาจมองว่าอีธานเป็นเด็กไม่ดี ปากเสียแถมยังอันตรายจนไม่เข้าใกล้อีก แต่เอาเข้าจริงๆเเล้วอีธานก็ไม่ได้แย่ขนาดนั้นหรอก... เขาแค่เจอเรื่องร้ายๆมาแล้วมันก็กระทบจิตใจเขาเท่านั้นผนวกกับการที่เขาไม่ค่อยชอบยอมรับความอ่อนแอของตัวเองเท่าไหร่ด้วยเลยขีดเส้นคั่นใหญ่ๆเอาไว้ว่าไม่ให้ใครเข้ามาในใจเขาได้ โลกที่เขามองมันเป็นสีหม่นๆไม่น่าอยู่นัก ตามจริงแล้วเขาค่อนข้างชอบมองโลกในแง่ร้ายมากกว่าการมองโลกในแง่ดีเสียอีก อีกทั้งยังกลัวที่จะไว้วางใจใครเพราะเขาอยู่แค่กับแม่ แล้วแม่ก็มองเสมอว่าอย่าไว้ใจใครง่ายๆ ทุกๆคนล้วนมีด้านมืดที่น่ากลัวในใจเสมอ---มันเลยฝังรากลึกของไปในสมองอีธานจนยากจะขุดออกมา
                  อีธานเลือกที่จะปั่นป่วนผู้คนเพื่อดึงเอาด้านมืดเหล่านั้นออกมา มองดูว่ามันจะมากน้อยแค่ไหนจนติดเป็นนิสัยไปแล้ว เขาชอบแกล้งคน ชอบหยอกล้อคน และชอบที่จะทำตัวเป็นตัวร้ายคอยสร้างความวุ่นวายให้ผู้คนหัวหมุนเล่น ถ้าถามว่าเขาทำไปเพื่อเรียกร้องความสนใจรึเปล่า? ..คำตอบก็คงเป็น "เกือบใช่" เพราะเอาเข้าจริงๆแล้วเขาก็ยังเป็เด็กที่ต้องการความรักความสนใจเหมือนกัน แค่เขาทำผิดวิธี และค่อนข้างจะหัวดื้อ หัวรั้นไปบ้างเลยไม่ยอมรับใครแม้เเต่ตัวเอง
                  การจะดัดสันดานของอีธานอาจดูเหมือนยากแต่เอาเข้าจริงๆแล้วมันก็ไม่ได้ยากเย็นอะไรขนาดนั้น เพราะอย่างน้อยจิตใจของอีธานก็ยังมีความเป็นมนุษย์ แค่เพราะเขาดื้อรั้นเลยทำเป็นหมางเมินต่อความใจดีที่มีคนมอบให้ไปบ้างเท่านั้นเอง หากว่าใส่ใจและอดทนกับเขาสักหน่อยมันก็ไม่ยากที่จะละลายทิฐิในตัวเขาหรอก ขอแค่คุณไม่โมโหมาดร้ายใส่เขาเวลาถูกเขายั่วโโหก็พอแล้วล่ะสำหรับการจะเริ่มเข้าถึงจิตใจของเขา
                 อีธานน่ะไว้ใจคนยาก แต่ถ้าได้ไว้ใจเข้าจริงๆเเล้วก็จะปกป้องคนคนนั้นด้วยชีวิตเลยทีเดียว---ติดที่ว่าปัจจุบันไม่มีใครเข้ามาในใจเขาได้ และไม่มีใครเลยที่เขาไว้ใจน่ะสิ...


    10. เพิ่มเติม: 

                       - ไม่ได้จริงจังกับการแก้แค้นแม่อะไรขนาดนั้น เพียงแต่เอามาเป็นข้ออ้างเพื่อที่หาอะไรทำยามว่างเท่านั้น เขาไม่ได้แค้นฝังหุ่นใครแค่ความจำแม่นและจะเอาคืนแน่ถ้ามีโอกาส

                        - เป็นพวกพูดตรงๆจนขวานฝ่าซาก แต่บางทีก็ตั้งใจจะกวนประสาทเลยพูดอ้อมค้อมอ้อมโลก และไม่สนใจด้วยว่าใครจะโกรธหรือไม่

                        - ตัวละครนี้ปั่นมาแบบมึนๆของจริงเลยค่ะ ถ้าไม่โอเคจริงๆก็ตัดออกได้นะคะ ;--; แถมยิ่งปั่นส่งยิ่งสั้นขึ้นในแต่ละคน ขออภัยในความขี้เกียจนี้ด้วยค่ะ แง55555

     

    ส่วนที่ สัมภาษณ์ตัวละคร

    11.   ท่านคาดหวังสิ่งใดที่สุดในชีวิตนี้ เพราะเหตุใดจึงหวังเช่นนั้น

    "เล่นถามแบบนี้เลยเหรอ"

    ชายหนุ่มเลิกคิ้วขึ้น สีหน้ายียวนพลันฉายแววสงสัยยามได้ยินคำถาม---สิ่งที่ต้องการเหรอ? อืม...มีเยอะซะด้วยแฮะ

    "ผมไม่ได้เป็นพ่อพระอะไรหรอกนะ แต่...แค่มีชีวิตอยู่ในทุกวันนี้ก็ดีถมไปแล้ว แต่ถ้าจะถามถึงความต้องการจริงๆผมก็คงตอบได้ว่า..."

    ชายหนุ่มลากเสียงยาว ปล่อยให้อีกฝ่ายลุ้นก่อนจะเอ่ยต่อ

    "การที่ได้มองดูผู้คนอยู่ในกำมือมั้งครับ หรือก็คืออำนาจนั่นแหละ...ใครๆก็บอกว่ามันดีนี่ครับ :)"


    12.  หากอนาคตของท่านคือความมืดนิรันดร์ ท่านหวาดกลัวหรือไม่ เพราะเหตุใด

    "ความมืดเหรอ"

    เขาทวนคำ ในใจวูบแรกของชายหนุ่มที่ยังอายุไม่เยอะมากแอบหวาดกลัวแต่เเล้วเขาก็กดมันลงไปได้อย่างรวดเร็วก่อนจะตอบไปว่า

    "ถ้าผมมัวแต่กลัว ผมก็หมดสนุกกับการยิ้มแย้มแล้วมองดูคนอื่นวุ่นวายโกลาหนกันพอดีสิ"


    13. สงครามจะเริ่มขึ้นแล้ว ท่านจะทำอย่างไร

    "ผมฝึกเป็นอัศวิน...คงจะนั่งดีดมะกอกอยู่บ้านมั้งครับ"

    อีธานหัวเราะ และในเวลาต่อมาเขาก็ปรับสีหน้าให้เคร่งขรึมเหมือนเดิมก่อนจะเอ่ยต่อ

    "ก็ทำตามหน้าที่ของอัศวินนั่นแหละครับ อยากสู้เดี๋ยวผมก็สู้เองเเหละ"

    ...และแล้วน้ำคำแสนยียวนก็หลุดออกมาอีกจนได้


    14.  หากความรักคือพันธนาการ ท่านจะเลือกกรงขังหรือโบยบินสู่อิสรเสรี เพราะเหตุใด

    "ผมมีความสุขกับตรงไหนก็จะอยู่ตรงนั้นแหละ"

    ชายหนุ่มไหวไหล่ เดิมทีเขาก็ไม่ได้นึดมั่นกับอิสระอะไรขนาดนั้นแค่ค่อนข้างจะเคยชินกับมัน...เขาไม่มีครอบครัวที่อบอุ่นตั้งแต่เล็กๆนี่นะ ต่อให้ถูกขังในกรงแล้วถูกมอบความรักจริงๆให้เด็กอย่างเขาก็คงต้องยอม

    หากแต่...เขาก็ไม่อยากจะยอมรับง่ายๆหรอกว่าแท้จริงแล้วตัวเองก็ค่อนข้างขาดความอบอุ่นน่ะ

    ยอมรับให้คนอื่นได้ก็บ้าแล้ว--เขาต้องเรียบรียงประโยคให้ดีกว่านี้

    "จะถูกพันธนาการก็ช่างประไรสิ...ผมค่อยหนีออกมาก็ได้ถ้าต้องการ"


    15. เลือกบรรทัดละหนึ่งอย่างด้วยการทำตัวหน้าหรือเน้นข้อความ (เลือกดีๆ นะคะ ข้อนี้จะเป็นชะตาตัดสินว่าท่านจะกลายเป็นคนของภาคีหรือไม่)

    หัวใจ / ความคิด / จิตวิญญาณ

    กลีบดอกไม้ / ดาบ / คัมภีร์

    น้ำตา / โลหิต / น้ำ

    โซ่ตรวน / กระดานหมากรุก / กำแพง

    ความพ่ายแพ้ / อิสรภาพ / อำนาจ

    โต๊ะไม้ หอคอย ภูเขาน้ำแข็ง

    มังกร หมาป่า / ราชสีห์

    คนบาป / ปีศาจ หายนะ

    มงกุฎ / แสงเทียน / กล้าอ่อนพันธุ์ไม้

    สัจจะ ศรัทธา / สันติสุข

     

    ขอให้ท่านโชคดี


    The Order of the Blue

    B
    E
    R
    L
    I
    N
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×