ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    .Idea Cage.

    ลำดับตอนที่ #3 : Warm young man

    • อัปเดตล่าสุด 14 พ.ค. 62



    APPLIATION





    _____________________________________________________________________




    “ถ้าไม่รังเกียจมีเรื่องอะไรก็บอกพี่ได้เลยนะครับ”

    “เป็นผู้หญิงก็อย่ากลับบ้านดึกๆนะ พี่เป็นห่วงนะรู้มั้ย?

    “เราน่ะตัวดีเลย ถ้าทำแบบนี้อีกเดี๋ยวคราวนี้พี่จะลงโทษแล้วนะ

    _____________________________________________________________________

    บทบาท :: [9] The Surrogate | I might trick you

     

    ชื่อ-นามสกุล :: เจฟฟรีย์ ลีโอคาดิโอ | Jeffrey Leocadio

     

    ชื่อเล่น :: เจฟ | Jef

     

    ความหมาย ::

    เจฟฟรีย์ | Jeffreyของขวัญแห่งสันติสุข

    ลีโอคาดิโอ | Leocadio – สดใสเป็นประกาย

    เจฟฟรีย์ ลีโอคาดิโอ | Jeffrey Leocadio – ของขวัญแห่งสันติสุขที่สดใสเป็นประกาย

     

    อายุ :: 19 ปี (เขาแก่เดือน)

     

    เพศ :: ชาย

     

    ส่วนสูง | น้ำหนัก :: 186 cm. | 75 kg.

     

    เผ่าพันธุ์ :: Wizard

     

    รูปร่างลักษณะ ::

    เจฟเป็นชายหนุ่มที่จัดได้ว่าตัวสูงและค่อนข้างจะติดกำยำเล็กน้อยแต่ก็ไม่ได้มากเกินจนน่ากลัว ร่างกายที่ประดับประดาไปด้วยกล้ามเนื้อ ลาดไหล่กว้างหนาน่าพึ่งพิง แผ่นหลังยืดสง่า สรีระบ่ากว้างแต่เอวคอดเป็นรูปพีระมิดหัวกลับ รูปร่างที่สูงใหญ่แต่ไม่ได้ดูเทอะทะมากจนเกินไป โดยสรุปแล้วก็คือเขามีหุ่นแบบนายแบบผสมนักกีฬาที่ชายหนุ่มหลายๆคนใฝ่ฝันนั่นเอง อีกทั้งท่วงท่าอิริยาบถการวางตัวล้วนเต็มไปด้วยบรรยากาศแบบสบายๆอบอุ่นน่าเข้าหาเสมอ

    เจฟมีใบหน้าหล่อเหลาเปี่ยมล้นด้วยเสน่ห์ ด้วยกรอบหน้าของชายหนุ่มเรียกได้ว่าคมคายได้รูป ทว่าอีกมุมหนึ่งก็เรียกได้ว่าหวานหยดแม้ไม่ถึงขั้นสตรีเพศแต่ก็จัดว่าดูดีทุกองศา เขามีเรือนผมสีบลอนด์ทองอ่อนๆตัดสั้น ผมหน้าปล่อยสบายลงมาปรกหน้าผากมนสวย เรียวคิ้วหนาที่งอนงามดังพระจันทร์ครึ่งซีกในวันข้างแรมรับกับดวงตาคมคายล้อมกรอบด้วยแพขนตาเป็นเส้นระเบียบงดงาม นัยน์ตาสีฟ้าครามดูลึกลับน่าค้นหาและฉายแววอบอุ่นไปพร้อมๆกัน สันจมูกโด่งรองรับแว่นทรงวงลีกรอบเล็กสีดำได้อย่างพอเหมาะ จรดลงมาถึงริมฝีปากหยักเรียวสีเนื้อไร้ร่องรอยแห้งแตกน่าจุมพิต ทุกองค์ประกอบบนใบหน้าของเขาล้วนดูได้รูปชวนเหลียวมองรวมไปถึงผิวกายที่ขาวสะอาดหมดจดของเขาด้วย

    อีกสิ่งที่มีเสน่ห์ไม่น้อยไปกว่ารูปร่างและหน้าตาในตัวเจฟก็คือบริเวณแขนและมือเพราะหลังมือของเขานั้นมีเส้นเลือดนูนขึ้นมาเล็กน้อยเสริมให้ดูสีรีระแกร่งกล้าและอบอุ่นมากขึ้น บวกกับลำแขนที่มีเส้นเลือดผุดให้เห็นพองามด้วยแล้วยิ่งทำให้เขามีเสน่ห์ไปอีกแบบจนใครหลายๆคนก็อยากจะเข้าไปอยู่ในอ้อมแขนนั้นสักครั้งบ้างล่ะ

     

    อุปนิสัย ::

                เจฟเป็นชายหนุ่มที่ใจกว้างมากจนมหาสมุทรคงต้องยอมแพ้พ่วงติดมากับความมีเมตตาเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ เพราะไม่ว่าจะเห็นใครก็ตามที่ลำบากหรือต้องการความช่วยเหลือเขาก็มักจะยื่นมือเข้าไปช่วยเสมอต่อให้ไม่ใช่เพื่อนมิตรหรือญาติโกโหติกาก็ตาม เหตุผลก็สั้นๆอย่าง สงสารบ้างล่ะ อยากช่วยเฉยๆบ้างล่ะ มันไม่เชิงว่าเขาปฏิเสธใครไม่เป็นแต่เพราะถ้าเขาคิดว่าตัวเองสามารถช่วยอะไรได้ก็จะทำทันที และถ้าอีกฝ่ายไม่ได้เข้าหาเขาก่อน ทุกๆครั้งก็จะเข้าไปถามเสียเอง แน่นอนว่าถ้าเขาช่วยได้เขาก็จะช่วยอย่างเต็มที่ถ้าไม่ก็จะคอยเป็นกำลังใจให้จนอีกฝ่ายทำสำเร็จนั่นแหละ

                ยิ่งถ้ากับคนที่เด็กกว่าหรือเด็กน้อยตัวเล็กๆด้วยแล้วเจฟก็ดูเหมือนจะแปลงร่าง(?)กลายเป็นพ่อของพวกเขาได้ทันที เพราะการพูดการจาจะดูอบอุ่นอ่อนโยนทั้งยังชอบซื้อนู่นซื้อนี่ให้อีกฝ่ายจนท่วมท้นมือ แม้อีกฝ่ายจะเกรงใจแค่ไหนแต่เขากลับคิดว่ามันก็แค่เรื่องปกติที่ติดเป็นนิสัยของเขาไปแล้วโดยสรุปคือเขาเป็นที่ชอบดูแลคนอื่นนั่นแหละ

                เขาเป็นคนอบอุ่นและอ่อนโยนเสมอทำให้ใครอยู่ด้วยกันกับเขาก็มักจะพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าเขาน่ะเป็นคนที่อยู่ด้วยแล้วสบายใจดี ทั้งยังพูดจานุ่มนวล ฟังรื่นหูชวนหลงใหล ยิ่งถ้าพูดกับผู้หลักผู้ใหญ่ก็จะยิ่งมีความถ่อมตนแต่ก็อาจจะมีมุมขี้อ้อนสำหรับคนที่สนิทชิดเชื้อเพื่อให้น่ารักน่าเอ็นดูน่าหยิบน่าบีบ(?)บ้างทว่าหากเขาใช้ไม้นี้กับคนที่ไม่สนิทบางครั้งก็อาจทำสาวๆใจอ่อนยวบยาบได้เช่นกัน

                โดยส่วนมากแล้วถ้าหากคุยกับคนอายุน้อยๆเขาก็จะแทนตัวเองด้วยคำว่า พี่และแทนคนอายุน้อยกว่าด้วยคำว่า เราเช่น นั่นเราจะไปไหนน่ะ ให้พี่ไปด้วยไหมครับ หืม?” หรือบางครั้งก็อาจจะแทนพวกเขาเหล่านั้นว่า หนูหรือ น้อง(ชื่อ)’ น้ำเสียงที่ใช้ในการพูดก็อย่างที่กล่าวไปนุ่มนวลชวนฟังและทำเอาขวยเขินได้ง่ายๆ ซึ่งเขาก็มักจะพูดออกมาพร้อมกับรอยยิ้มที่ประดับบนใบหน้าส่งผลให้ลำแสงออร่าความเป็นเทพบุตรสุดอ่อนโยนสาดกระจาย(?)มากขึ้นไปอีก แบบนี้ถ้าหากเด็กๆไม่ชอบเขาก็คงพิลึกแล้วล่ะ

    ✿✿✿

                เพื่อนๆมักบอกว่าเจฟเป็นคนแก่(?) อ่าไม่ได้หมายถึงหน้าตาหรือร่างกายอะไรหรอกแต่หมายความว่าเขาเป็นพวกกูรูทางด้านประสบการณ์ชีวิต ไม่ว่าใครถ้าต้องการคำแนะนำก็วิ่งโร่ไปหาเขาแทบทุกรายแล้วเขาก็ดันให้คำปรึกษาได้ดีเสียด้วย คำพูดของเขามักเป็นทั้งกำลังใจและแรงบันดาลใจในชีวิตของคนที่เข้ามาปรึกษาด้วย และเจฟก็เป็นชายหนุ่มที่สันทัดในการมองดูผู้คนอย่างมาก ฉะนั้นเขาจึงมีวิธีการให้คำปรึกษาที่ต่างกันออกไป บางคนอาจจะพูดแบบกะทันรัดสั้นๆเข้าใจง่าย บางคนอาจไปอย่างเนิบนาบช้าๆ ค่อยๆเอาน้ำลูบไปเรื่อยๆอย่างไม่รีบร้อน

                อีกเรื่องที่ทำให้เจฟถูกเพื่อนหาว่าเป็นคนแก่ก็เพราะไม่ว่าจะถามอะไรเขาก็สามารถให้คำตอบได้ไปซะหมดนี่แหละ ไม่ว่าจะคำถามยากๆหรือง่ายๆก็ตาม ไม่เว้นแม้แต่คำถามที่ว่าใครชอบกินอะไรและไม่ชอบกินอะไรจนทำให้ใครหลายๆคนมองว่านี่เขาผ่านประสบการณ์ชีวิตมาเยอะแล้วรึเปล่านะ? หรือเรียนไปหมดทุกวิชาแล้ว? เขาก็แค่เป็นที่ช่างสังเกตมักรับรู้การเปลี่ยนแปลงของสิ่งต่างๆรอบตัวได้อย่างรวดเร็ว และมักใส่ใจกับรายละเอียดเล็กๆน้อยๆเสมอและมีความจำที่ดี ทำให้เขาสามารถจดจำไปเองโดยอัตโนมัติว่าคนนั้นคนนี้ชอบกินอะไร เวลาจะเอาใจเขาก็มักทำได้ดีเยี่ยมเสมอ

                และเพราะเขาเป็นที่ชอบหมั่นศึกษากวาดความรู้เข้าหาตัวเขาจึงเป็นเหมือนกูเกิ้ลเคลื่อนที่(?)ที่ไม่ว่าอยากรู้อะไรก็ให้ลองไปถามเขาได้เลย เขามักให้เหตุผลและความสมดุลได้เสมอ แม้แต่รายละเอียดยิบๆย่อยๆเขาก็จำได้และสามารถบรรยายสาธยายออกมาได้ทั้งหมดราวกับเป็นคำพูดปกติในชีวิตประจำวันอย่างนั้นล่ะ

                เพราะเป็นคนที่มีกระบวนการคิดที่ดี ความจำเยี่ยมจนเหมือสารานุกรมฉบับคน(?)มันยังพ่วงมาด้วยไหวพริบการเอาตัวรอด ความมีสติและการคุมสถานการณ์ต่างๆได้ดีอีกด้วย กระบวนการคิดของเขาทำงานไวเสมอเพราะเขาเป็นคนฉลาดอยู่แล้วดังนั้นไม่ว่าจะเกิดเรื่องร้ายอะไรขึ้นสายตาของเขาก็จะมองไปรอบๆหาทางหนีทีไล่ สมองก็ขบคิดไปเองโดยฉับพลัน ทุกอิริยาบถล้วนเป็นไปอย่างใจเย็นแต่ก็ปลอดภัยไม่บุ่มบ่ามทั้งยังสามารถปกป้องคนใกล้ๆได้ด้วย

                เขาชอบศึกษาแน่นอนว่ามันจะต้องมีการทดลอง และถ้าทดลองมีความเสี่ยงเขาก็ต้องกล้าเสี่ยงกล้าลุยไปกับมันเพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่วางเอาไว้ แต่เขาก็คงไม่ได้เสี่ยงไปแบบไม่คิดอะไรเลยหรอกนะมันต้องมีแผนในหัวเขาแล้วเขาถึงได้ลองเสี่ยง ลองทำและลงมือ เมื่อมีอะไรเกิดขึ้นเขาจะได้คุมสถานการณ์อยู่และเอาตัวรอดได้

    ✿✿✿✿

                เพราะเป็นคนที่ยึดหลักเหตุผลค่อนข้างมากเลยอาจทำให้เขาดูเหมือนเป็นคนพูดมาก จุกจิกและขี้บ่นไปหน่อย ประมาณว่า อย่างนั้นไม่ดีนะเพราะแบบนั้นเพราะแบบนี้ อย่างนี้ไม่ได้นะเพราะมันจะเป็นแบบนั้นจะเป็นแบบนี้ นั่นทำให้หลายครั้งที่เขาทำให้เด็กๆงอนตุบป่องเพราะความบ่นมากนี่แหละ แต่ถ้าถามว่าเขาจะง้อไหม? ตอบได้เลยว่าเขา ง้อแน่ๆเพราะเขาไม่ได้ชอบให้ใครโกรธนานนักหรอก ที่บ่นไปก็เพราะห่วงต่างหากล่ะ และเวลาง้อก็ดันทำหน้าทำตาเว้าวอนพูดจาออดอ้อนเล่นเป็นเด็กๆจนทำให้อีกฝ่ายใจอ่อนเอาได้ง่ายๆซะด้วย

                เจฟไม่ใช่คนที่จะถกเถียงกับใครสักเท่าไหร่ เพราะเขาเป็นคนที่รับฟังคนอื่นเสมอๆ เขาเป็นได้ทั้งผู้ฟังที่ดีและผู้พูดที่ดี และมักจะใช้เหตุผลในการพิจารณาไม่ยึดเอาใครเป็นหนึ่งเพราะความชอบส่วนตัว และเหตุผลนั้นๆก็ต้องผ่านกระบวนการคิดมาแล้วว่ามันมีน้ำหนักมากพอถึงแม้อาจทำให้คนภายนอกที่ไม่รู้เรื่องราวมองไม่ดีก็เถอะแต่เขาก็ต้องพร้อมที่จะรับมือเมื่อเหตุผลนั้นมันดีมากพอจะลองเสี่ยงที่จะเชื่อ

    ✿✿✿✿✿

                เจฟเป็นคนที่รักความยุติธรรม เชื่อมั่นในความถูกต้องเสมอ และเคารพกฎระเบียบที่มี และไม่ชอบมีปัญหาหรือทะเลาะวิวาทกับใครกล่าวได้ว่าเขาเป็นพวกรักสงบ ใจเย็นและไม่มีทางที่จะยั่วโมโหเขาได้ง่ายๆเลย ต่อให้มาด่าว่าเขาปาวๆเขาก็นิ่งและฟังอยู่เงียบๆไม่อาละวาดไม่ตอบโต้อะไรกลับไปนอกจากเขาจะเป็นน้ำเย็นในขณะที่อีกฝ่ายเป็นน้ำร้อน หลายคนมองว่าเขานั้นใจเย็นและมีความอดทนสูงมากจนไม่เคยโกรธเลย แต่ความจริงแล้วเขาก็โกรธได้เหมือนคนทั่วไปเพียงแต่ไม่แสดงออกมาให้ใครเห็น เขานั้นเก็บอาการได้ดีและคิดว่าการที่จะมาร้อนเป็นไฟเหมือนกับอีกฝ่ายที่ร้อนเป็นไฟเหมือนกันมันรังแต่จะทำให้เรื่องแย่ลง เพราะงั้นเขาจึงเลือกที่จะอดทน ทนและทนเข้าไว้จนกระทั่งสงบจิตสงบใจให้ตัวเองได้ในที่สุ(เวลาเขาโกรธจะสังเกตได้ว่ายิ้มน้อยลงและสีเงียบมากขึ้นน่ะนะ)

                เขามีความเป็นผู้ใหญ่และมีความเป็นผู้นำอยู่มากจึงมักจัดการกับเรื่องต่างๆได้ดีทั้งการรับมือกับอารมณ์คนอื่นๆและการควบคุมอารมณ์ของตัวเองว่าอะไรควร อะไรไม่ควร ทั้งยังเป็นคนที่รักษาสัญญา มีความรับผิดชอบต่อหน้าที่การงานดังนั้นไว้วางใจเขาได้เลยหากจะฝากฝังงานอะไรไว้กับเขา

                โดยส่วนมากแล้วเขาไม่ค่อยถกเถียงกับใครเท่าไหร่ แต่ถ้าต้องให้มาเจรจากับคนที่ไม่ไหวจะเคลียร์จริงๆ สิ่งที่เขาจะหยิบยกมาใช้ก็คือ เหตุผลเหตุผลทุกๆอย่างร้อยล้านพันแปดอะไรก็ได้ที่จะทำให้อีกฝ่ายเงียบสนิทไปเอง

                แม้เขาจะเป็นคนจริงจังกับงานเอามากๆแต่ก็มีบางเวลาที่ขี้เล่นได้เหมือนกัน อย่างตอนเล่นกับเด็กหรือการสร้างบรรยากาศให้ผ่อนคลายน่ะเพราะเขารู้ดีว่ากับเด็กจะให้มาทำหน้ามุ่ยขมวดคิ้วหรือนิ่งเป็นศพใส่ก็คงไม่ได้หรอก

    ✿✿✿✿✿✿

                ข้อเสียอีกอย่างของเจฟก็คือเขาไม่ค่อยคุยเรื่องส่วนตัวจริงๆของตัวเองกับใครเท่าไหร่ ไม่ใช่เพราะไม่ไว้ใจแต่มันก็มีหลายๆเหตุผล อย่างแรกคือเขาไม่ชอบนักแต่ก็ไม่ได้แสดงออกมาตรงๆเวลาถูกถามจึงมักหาวิธีหลีกเลี่ยงอยู่ร่ำไป อย่างที่สองบางเรื่องเขาก็ชอบที่จะเก็บงำมันไว้กับตัวเองคนเดียว ที่คุยได้ก็คงจะเป็นเรื่องจิปาถะเล็กๆน้อยๆที่ไม่ได้ลงลึกอะไร แม้จะเป็นซะแบบนี้แต่เขาก็ดันให้คำปรึกษากับคนอื่นๆได้ดีมากจนเหมือนตายแล้วเกิดมาหลายภพหลายชาติแล้วจำทุกช่วงชีวิตได้อย่างนั้นแหละ

     

    ชีวประวัติ :: None

     

    ความสามารถ ::

    วิชาการต่างๆ : ความสามารถทางวิชาการทั้งการคิด คำนวณ วิเคราะห์และถอดรหัสเจฟล้วนเป็นศูนย์กลางของเรื่องพวกนี้เสมอ รวมไปถึงความรู้ทางด้านประวัติศาสตร์กับภาษาด้วยนะ

    ความจำ : แค่เห็นปราดเดียวเขาก็สามารถจดจำได้แล้ว ไม่ว่าเรื่องเล็กเรื่องใหญ่ จริงจังหรือเรื่องเล็กๆน้อยๆจิปาถะก็ตาม ทุกรายละเอียดล้วนอยู่ในหัวเขาหมด

    งานพ่อบ้านพ่อเรือน : แน่นอนว่าทำได้ทุกอย่างไม่ว่าจะทำอาหาร ทำงานบ้าน แดกวาดเช็ดถู จัดดอกไม้ ถักเย็บ ร้อยลูกปัด—ฯลฯ แต่เห็นแบบนี้เขาก็ยังแมนเต็มร้อยนะ!

     

    พลังพิเศษ ::

    ۞ ศาสตร์เวทมนตร์ธาตุต่างๆ : เขาสามารถควบคุมธาตุต่างๆรอบตัวได้ เช่น ควบคุมแหล่งน้ำที่อยู่ใกล้ๆ ควบคุมเปลวไฟ ควบคุมผืนแผ่นดินให้แตกแขนง หรือควบคุมลมให้พัดโหมกระหน่ำ ฯลฯ แต่ทั้งหมดทั้งมวลถ้ายิ่งรุนแรงเขาก็ยิ่งต้องใช้เวลานานในการร่ายมนต์ทั้งยังต้องใช้สมาธิอีกบวกกับมันจะทำให้ร่างกายของเขาอ่อนแรงลงเรื่อยๆจนทำให้สลบได้ถ้าหากใช้มากเกินไป ดังนั้นสิ่งที่เขาทำได้แบบสบายๆโดยแทบไม่มีผลข้างเคียงก็คงจะเป็นการทำสิ่งเล็กๆน้อยๆอย่างจุดไฟด้วยมือ ทำให้ลมพัดแรงขึ้น หรือทำให้ฝนตกแบบหยิมๆ

    ۞ การควบคุมแรงผลักและแรงดูดรอบๆตัว : เขาสามารถผลักสิ่งต่างๆที่พุ่งเข้าตัวรวมถึงดูดอะไรก็ได้ที่ต้องการเข้าหาตัวเองได้แต่ถ้าเป็นสิ่งของที่มากกว่าหนึ่งชิ้นก็จะทำให้ร่างกายเหนื่อยไวขึ้น อาจทำให้ปวดตาหรือแข้งขาอ่อนแรงไปเองได้

     

    สิ่งที่ชอบ ::

    หนังสือ : หนังสือเป็นสิ่งที่ให้ความรู้เขาชอบมันหมดแทบทุกชนิด(เว้นหนังสือ18+ไว้หน่อย…) ไม่ว่าจะเป็นนวนิยายหรือวิชาการต่างๆเขาก็ชอบที่จะอ่านมัน และบางครั้งก็จะอ่านซ้ำๆถ้าติดใจเนื้อหามากจริงๆ

    เด็กๆและสัตว์น่ารัก : เพราะน่ารักน่ะน่ารักไปหมดและในสายตาของเขา แล้วเขาก็อดไม่ได้ที่จะเข้าไปเล่น เข้าไปทักทายด้วยพร้อมกับของฝากในมือ

    การเล่าเรื่องผีให้เด็กฟัง : มันน่ารักดีนะอาการของเด็กๆที่กลัวผีน่ะ เขามันอมยิ้มและกลั้วหัวเราะอยู่บ้างเมื่อเด็กๆต่างพากันกลัวขนหัวลุกไปหมด

    รอยยิ้ม : มันทำให้โลกดูสดใสดีนี่นะ ใครยิ้มมาเขาก็ยิ้มตอบกลับไป

    ขนมปังกรอบ : ไม่รู้สิ..แต่มันอร่อยดีนะ ได้กินทีเขาก็คงเคี้ยวแก้มตุ้ยๆเป็นเด็กๆเลยล่ะ เป็นหนึ่งในไม่กี่อย่างที่เขาจะทำตัวเป็นเด็กๆให้คนอื่นเห็น

     

    สิ่งที่ไม่ชอบ ::

    เรื่องทะเลาะวิวาท : ใจจริงก็อยากจะเดินหนีแต่ก็จะปล่อยไว้แบบนั้นก็คงจะใจร้ายไปหน่อย เขาจึงเลือกที่จะเข้าไปห้ามและช่วยยับยั้งสถานการณ์เท่าที่จะทำได้

    การถูกจี้ถามเรื่องส่วนตัว : เขาไม่ชอบเท่าไหร่ถ้าถูกจี้มากๆแต่การแสดงออกไปก็มีแค่รอยยิ้มกับการพูดปัดๆไปเรื่องอื่นเท่านั้น

     

    สิ่งที่เกลียด ::

    โดยปกติแล้วเขาไม่มีอะไรที่เกลียดเป็นพิเศษแต่เอาเข้าจริงๆเขาก็ค่อนข้างเกลียดอะไรก็ตามที่ตัวเขาไม่สามารถหาเหตุให้ได้ มันทำให้เขารู้สึกหดหู่แปลกๆจนแสดงความหมองผ่านทางสีหน้าเลยล่ะ

    บุคคลที่รังแกเด็กกับสัตว์โดยไม่มีเหตุผล : เริ่มแรกเขาอาจเริ่มเตือนดีๆแต่ถ้ายังไม่ฟังเขาก็จะแสดงสีหน้าทะมึนทึงใส่ แล้วข่มขู่ให้อีกฝ่ายกลัวไปด้วยอ่า ถึงความจริงเขาจะยังสามารถควบคุมตัวเองได้ดีก็เถอะแต่ที่แสดงสีหน้าแบบนั้นออกไปก็เพราะต้องการจะจบเรื่องไวๆต่างหาก

     

    สิ่งที่กลัว ::

    การที่เขาล้มเหลวและทำให้คนอื่นๆเดือดร้อนล่มจมตามไปด้วย : มันเป็นความกลัวลึกๆในใจ ที่เขาเองก็ไม่แน่ใจว่าถ้ามันเกิดขึ้นจริงๆแล้วเขาจะเป็นยังไง ก็คงสิ้งหวังเกินจะทน แสดงสีหน้าออกมาชัดเจน ระบายอารมณ์ด้วยการกรีดร้องยามไม่มีผู้คนมั้งนะ

     

    แพ้ :: None

     

    งานอดิเรก ::

    การอ่านหนังสือและหาความรู้ใหม่ๆเข้าตัว : เพลินดีนะสำหรับเขาน่ะ

    คุยเล่นกับเด็กๆ : สำหรับเขามันทั้งเพลินแล้วก็ผ่อนคลายดีนะ เด็กๆก็น่ารักด้วย

    ออกกำลังกาย : แม้จะไม่ใช่คนที่มีความสามารถในด้านการต่อสู้ระยะประชิดเป็นเลิศ แต่เขาก็พอมีติดตัวบ้าง และมันก็ต้องพ่วงมาด้วยการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ

     

    ลักษณะการพูด ::

    เจฟมักใช้สรรพนามแทนตัวเองว่า ผมและแทนคนอื่นๆ(ที่อายุเท่าๆกันว่า นาย/เธอตามเพศจิตใจ แต่ถ้าหากคนที่อายุมากกว่าจะเป็น คุณและจะมีหางเสียงรองรับรูปประโยคเสมอ  แต่ถ้ายังไม่สนิทก็จะเป็น คุณ(ชื่อ)’

    แต่หากเป็นกับเด็กสรรพนามก็จะต่างกันออกไป เช่น เรา/หนู/น้อง/น้อง(ชื่อ)’ แน่นอนว่าเขาจะแทนตัวเองว่า พี่เสมอกับคนที่อายุน้อยกว่า

    น้ำเสียงที่เขาใช้ก็จะเป็นน้ำเสียงที่ทุ้มนุ่มนวลชวนฟัง และเป็นมิตรไม่มีพิษมีภัยอะไรทำให้เขาสามารถผูกมิตรกับคนอื่นได้เร็วโดยเฉพาะกับเด็กๆน่ะ

    ตัวอย่างสถานการณ์

                “สวัสดีครับเจฟฟรีย์เอ่ยทักทายเด็กสาวที่อยู่ตรงหน้าด้วยรอยยิ้มอ่อนโยนขณะย่อตัวลงให้ส่วนสูงอยู่ในระดับเดียวกับเธอ ใบหน้าของเด็กสาวฉาบไปด้วยสีแดงทันทีเมื่อชายหนุ่มเอ่ยทักแล้วใช้สายตานั่นมองมาที่เธอ ร่างเล็กๆเกาะเสาแน่นแล้วเบี่ยงกายหลบอยู่ด้านหลังก่อนจะชะเง้อมองเขาอย่างเหนียงอาย

                ไม่ต้องกลัวพี่นะ พี่ไม่ใช่คนไม่ดีอะไรหรอกเจฟเอ่ยอีกครั้งพร้อมกับผายมือออก แสดงให้เห็นว่าเขาไม่มีอาวุธอะไรแต่มีตุ๊กตาหมีสีชมพูตัวน้อยอยู่ในมือ หนูหลงกับแม่รึเปล่าครับ ให้พี่ช่วยอะไรไหม หืม?”

                คะคือเด็กสาวเริ่มลังเล จนสุดท้ายก็เดินไปหาชายหนุ่มแล้วก็เล่าว่าเธอพลัดลงจากพ่อแม่ให้ฟัง

                เจฟอมยิ้มก่อนจะยีหัวเธออย่างเอ็นดูแล้วพูดอีกครั้ง

                หยุดร้องก่อนนะครับ ไม่งั้นพี่ไม่ให้คุณหมีนะ เขาพูดพร้อมกับโยกตุ๊กตาหมีในมือไปมา

     เก่งมาครับ เด็กดี คราวนี้ก็จับมือพี่ไว้นะครับ พี่จะอยู่เป็นเพื่อนหนูจนกว่าพ่อแม่จะมาเลย เจฟยิ้มอีกครั้งเมื่อการหลอกล่อด้วยตุ๊กตาสำเร็จ จากนั้นเขาคงต้องพาเธอไปพบเจ้าหน้าที่เพื่อนประกาศหาพ่อแม่ต่อไปล่ะ

    ❀❀

                เจฟนิ่งเงียบและรับฟังวาจาของอีกฝ่ายที่กำลังเดือดพล่านอย่างใจเย็น พยายามจับใจความและขบคิดว่ามันมีอะไรที่สมเหตุสมผลไหม แต่ก็ไม่ฉะนั้นเขาจึงช่วงชิงโอกาสที่อีกฝ่ายเผลอพูดขึ้นบ้าง

                โอเคคุณเฮเลน่า ผมรู้ว่าคุณไม่ชอบใจนะที่ผมแบ่งงบประมาณของชมรมให้อย่างเท่าเทียมกันทั้งๆที่บางชมรมก็ไม่ได้สร้างผลงานออกมาทุกๆปีแบบคุณเจฟสูดลมหายใจเข้าลึก ขยับแว่นและสบตาอีกฝ่าย

                “แต่คุณก็ต้องเข้าใจด้วยว่าอะไรเป็นอะไร การที่พวกเขาไม่ประสบความสำเร็จในปีนี้มันก็ไม่ได้เป็นตัวตัดสินสำหรับปีหน้าเสมอไป ผมว่าคุณควรคิดให้ดีๆก่อนนะครับก่อนจะมาเรียกร้องอะไรที่ดูไร้น้ำหนักแบบนี้ และผมก็ต้องขอโทษด้วยจริงๆถ้าทำให้คุณไม่พอใจแต่ผมก็แค่อยากพูดในสิ่งที่ควรเท่านั้น

    ❀❀❀

                “เข้าใจแล้วครับ ไว้ผมจะทำตามหน้าที่ให้ดีที่สุด เจฟขานรับอย่างหนักแน่นเมื่อคุยกับบุคคลระดับสูงในเรื่องหน้าที่การงานต่างๆ ฝ่ายพูดคุยกับเขาอีกสักพักแน่นอนว่าเจฟต้องวางตัวอย่างสุภาพอ่อนโยนเสมอ

                ทว่ามันก็มีบางเวลาที่อีกฝ่ายเปิดประเด็นชวนให้ผ่อนคลาย เจฟจึงต่อยอดให้บ้างแต่ก็พยายามจะไม่ก้าวก่ายมากเกินไป

                โอ้ คุณพูดแบบนี้จะบอกว่าผมคงโสดไปตลอดชีวิตเหรอครับ ไม่เอาน่า อย่าพูดอะไรใจร้ายแบบนั้นสิครับแล้วเขาก็หัวเราะน้อยๆอย่างสำรวม

    ❀❀❀❀

                เป็นแบบนั้นเองเหรอเจฟพยักหน้าเข้าใจ เมื่อเพื่อนหนุ่มตรงหน้าเปิดปากเล่าความในใจที่ตนเพิ่งเลิกกับแฟนให้ฟัง ชายหนุ่มตั้งใจฟังและคิดตามไปด้วยก่อนจะวางมือลงบนบ่าอีกฝ่ายแล้วเอ่ยต่อ

                ไม่เป็นไรหรอก รู้ไหมว่าผู้หญิงส่วนมากน่ะซับซ้อนแล้วก็เข้าใจยากแบบนั้นแหละ แต่ถ้าเราทำความเข้าใจกับเธอได้เราก็คงจะสามารถคงความรักได้อย่างยาวนานแน่นอน ครั้งนี้มันอาจผิดพลาดแต่ก็อาจเป็นการปูทางให้นายได้พบเจอสิ่งใหม่ๆก็ได้นะเจฟยิ้ม เรื่องของความรักมันเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนเพราะงั้นการที่คนเราจะผิดพลาดก็คงไม่แปลก แต่ถ้าผิดพลาดไปแล้วนายก็อย่าจมอยู่กับมันสิ ให้เรียนรู้กับมันและเดินหน้าต่อไป โอเคมั้ย?”

                พูดจบเจฟก็ชูกำปั้นขึ้น เป็นการปลุกใจให้กับเพื่อนที่เพิ่งอกหัก และแล้วมันก็ทำให้เพื่อนของเขาคล้อยตามไปด้วยซะอย่างนั้น

     

    เพิ่มเติม ::

    -เขาอาจดูเหมือนคนที่มองโลกในแง่ดีมากเกินไปหน่อยแต่จริงๆแล้วเขาเองก็มองโลกในแง่ร้ายได้เหมือนกันเพียงแต่เลือกที่จะอยู่ตรงกลางและแสดงออกมาด้านบวกมากกว่า

    -เขาไม่ใช่คนที่ชอบสอดรู้สอดเห็นอะไรนัก ดังนั้นถ้าเขารู้ว่าคุณไม่ชอบให้ยุ่งเขาก็จะถอยห่างออกไป

    -เพราะอ่านหนังสือมากไปจนสายตาเสียเขาเลยใส่แว่นแต่ไม่ใส่คอนแทคเลนส์เพราะมันเป็นผมเสียกับดวงตา

    -เขาไม่ใช่คนที่มองอะไรด้านเดียว เเต่จะมองในหลายๆด้าน หลายๆแง่มุม

    -เจฟมีความสามารถและคุณสมบัติในการเป็นผู้นำที่ดีได้แต่ก็สามารถเป็นผู้ตามที่ดีได้เช่นกัน

    -แม้ว่าร่างกายจะแข็งแรงแต่เขาก็ไม่ได้เป็นเลิศด้านการต่อสู้ระยะประชิดนัก แค่พอมีทักษะอยู่บ้างให้สามารถเอาตัวรอดได้ยามคับขัน

    -รู้สึกว่าเขียนมาน้อยมากเพราะรีบมากๆค่ะ ถ้ามีอะไรอยากให้เพิ่มก็บอกได้นะคะ ;—;

    _____________________________________________________________________


    TALK WITH CHARACTER


    “ยินดีต้อนรับสู่โรงเรียนซิลวาเนีย กรุณาแนะนำตัวด้วยชื่อ นามสกุลและเผ่าพันธุ์ของคุณเพื่อยืนยันตัวตนด้วยค่ะ”

    ANS ::

    "ผมเจฟครับ เจฟฟรีย์ ลีโอคาดิโอ" เจฟเอ่ยด้วยรอยยิ้มอย่างเป็นมิตรพร้อมกับยืดหลังขึ้นตรงแล้วเอ่ยต่อจากที่พูดค้างเอาไว้ "แล้วก็เป็นพ่อมดครับ"


    “ขอทราบทัศนคติเกี่ยวกับเผ่าพันธุ์ของคุณได้มั้ยคะ?”

    ANS ::

    "อ่า...คงถามความคิดเห็นจากผมสินะครับ"ชายหนุ่มขยับเเว่น ในหัวเริ่มคิดทบมวนคำตอบ และไม่นานนักมันก็ถูกกลั่นกรองออกมา

    "ทุกๆเผ่าพันธุ์จะสามารถอยู่ร่วมกันได้หากเข้าใจกันและกัน ยอมรับกันและกัน รับรู้ถึงชีวิตความเป็นอยู่ของอีกฝ่ายที่ไม่เหมือนกันน่ะครับ สรุปง่ายๆก็คือ...พวกเราทุกเผ่าพันธุ์จะสามารถอาศัยอยู่ด้วยกันได้ก็ขึ้นอยู่กับตัวเองเป็นอันดับแรก จากนั้นลำดับถัดไปก็คือคนรอบข้าง..สังคม ความเป็นอยู่แล้วก็ความคิดเห็นจากฝ่ายอื่น...ผมคิดว่าอย่างนั้นนะครับ"


    “คำว่ามนุษย์มีความหมายว่าอะไรและเป็นอย่างไรในความคิดคุณ”

    ANS ::

    "มนุษย์งั้นเหรอครับ" เจฟฟรีย์เลิกคิ้วขึ้น ในหัวพลันครุ่นคิดอีกคราก่อนจะเอ่ยตอบเมื่อได้คำตอบในใจเเล้ว "จะเรียกว่าเป็นสิ่งมีชีวิตที่ทั้งซับซ้อนเเล้วก็สวยงามก็ได้ครับ... พวกเขามีทั้งด้านมืดและด้านสว่ง มีทั้งโหดร้ายและดีงามขึ้นอยู่กับว่าคุณจะมองเขาเเค่ด้านเดียวหรือ...สองด้านในเเบบที่ผมมอง แต่เอาเข้าจริงๆก็ไม่มีสิ่งมีชีวิตไหนๆดีไปหมดหรือร้ายไปหมดหรอกครับ :)"


    “ตามประวัติศาสตร์ คุณคิดว่าการกระทำของท่านเป็นอย่างไรที่สร้างอีเดนนี้ให้กับเรา”

    ANS ::

    "หากกล่าวถึงท่านแล้ว...ผมก็เชื่อว่าท่านคงไม่กระทำการอะไรโดยไร้มูลเหตุหรอกครับ" เจฟฟรีย์เอ่ย ในหัวยังคงขบคิดเช่นเดิม "ทุกอย่างย่อมมีเหตุผลในตัวมันครับ ไม่ว่าจะเรื่องเล็กน้อยหรือเรื่องใหญ่ก็ตาม มันย่อมต้องมีเหตุผลเเละคุณค่าในตัวเองครับ ผมเชื่อแบบนั้น"


    “คำถามสุดท้าย คุณคิดไว้หรือยังว่าอนาคตอันใกล้นี้จะเลือกอยู่หรือไปจากอีเดน”

    ANS ::

    "ขอโทษนะครับ แต่ในเมื่อคุณบอกว่ามันเป็น 'อนาคต' ผมก็คงจะตัดสินอะไรตอนนี้ไม่ได้หรอก" เจฟฟรีย์ส่ายหน้ายิ้มๆ "แต่ถ้าให้พูดจริงๆ... ผมเองก็อยากออกไปเปิดโลกทัศน์ใหม่ๆอยู่เหมือนกัน ยังมีอะไรอีกมากที่ผมไม่รู้จักและรอให้ผมได้เรียนรู้ ฉะนั้นถ้าให้เลือก ผมก็คงเลือกอย่างหลังนะครับ"


    _____________________________________________________________________


    TALK WITH PARENTS


    สวัสดีอีกครั้งนะคะ ฮันนี่เองค่า ผปค.ชื่ออะไรกันเอ่ย

    ANS :: กรายสวัสดีด้วยความเคารพรัก(?)ค่ะ ชื่อเด็กอ้วนนะคะ! (ชื่อที่บ่งบอกสภาพร่างกาย...)


    เหตุผลที่เลือกบทนี้มีอะไรเป็นพิเศษมั้ยคะ?

    ANS :: ไม่มีอะไรมากนะคะนอกจากชอบตัวละครออกแนวพี่ชายอบอุ่น ออกเเนวเป็นผู้นำแบบนี้เลยค่ะ บั่บอยากได้เขาอ่ะค่ะ อยากด้ายยยยยยยยยยยยยยย (สติหลุด---ค่อก)


    ถ้าน้องไม่ติดบทหลัก สนใจบทเสริมหรือรับกลับคะ?

    ANS :: เอาบทเสริมก็ได้ค่ะ ไหนๆก็ปั่นมาแล้วแม้จะไม่มั่นใจก็เถอะ5555//คือพอปั่นเสร็จเพิ่งเห็นค่ะว่าบทนี้มีคนส่งมาแล้ว ฮือ จะร้องไห้ ต้องไปแข่งกับเขาอีก แง้


    ขอคำนิยามให้น้องหน่อยค่ะ

    ANS ::"ที่ใส่แว่นเพราะไม่อยากมองกล้องเพราะจะเก็บตาไว้จ้องมองเธอ~" --แค่ก ล้อเล่นค่ะ 5555555

    "การเรียนรู้ย่อมไม่มีที่สิ้นสุด ขณะเดียวกันแม้แต่นักปราชญ์ก็คงไม่อาจรู้ไปหมดทุกเรื่อง และความรู้ที่เราเห็นมันก็คงไม่ได้มีอยู่ด้านเดียว เราควรหมุนโลกทัศน์แล้วมองมันหลายๆด้าน" --- โดนสรุปคือเขาก็คงเหมือนนก...ที่ชอบที่โบยบินไปยังโลกอันกว้างใหญ่ และเรียนรู้สิ่งต่างๆด้วยตัวเองล่ะมั้งนะ


    เรื่องนี้ไม่ได้เน้นเรื่องคู่เท่าไหร่ แล้วแต่การจับคู่ของเราซะส่วนใหญ่ อยากทราบว่าโอเคกับ Normal, Yaoi, Yuri มั้ยคะ

    ANS :: โอเคค่ะ เด็กอ้วนออกจะชอบหมดเลยด้วย 5555


    เรื่องนี้เน้นดาร์กมากค่ะ ถ้าน้องมีโอกาสตายปานกลางค่อนไปทางสูงจะโอเครึเปล่าคะ

    ANS :: รับทราบค่ะ ทางนี้ก็บริหารตับไตไส้พุงมาดีเเล้ว สบ๊ายยยยย


    สุดท้ายนี้ก็ขอขอบคุณที่มาสมัครเรื่องนี้ รักทุกคนนะคะ <3

    ANS :: รักเช่นกันค่ะ ขอคุณที่เปิดนิยายดีๆมานะคะ ยินดีที่ได้รู้จักค่า คุณฮันนี่ >_<




           
    Z Y C L O N
     EDEN
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×