ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [FIC EXO] ::Distorted DayTime ::KrisYeol

    ลำดับตอนที่ #94 : CHAPTER 89

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 5.84K
      20
      8 พ.ค. 57




    Distorted Daytime









    ร่างโปร่งเดินออกมาจากโบสถ์ตรงไปขึ้นรถที่จอดรอเขาอยู่ใต้ต้นไม้ แขนทั้งสองข้างประคองกอดสิ่งมีชีวิตที่เกือบถูกทิ้งเมื่อครู่ไว้อย่างทะนุถนอม ไม่แม้แต่จะหันกลับไปมองร่างสูงที่วิ่งตามเขาออกมาแม้แต่นิด รถที่มีลุงถังเป็นคนขับเคลื่อนออกไปจากบริเวณโบสถ์ตามคำสั่งของเขา



     “เกือบโดนทิ้งแล้วมั้ยล่ะ ฉันขอโทษนะ ที่ทำแกเจ็บ



    ชานยอลก้มหน้าลงพูดกับลูกหมาบนตัก มันเลียมือเขาตอบรับอย่างรู้งาน ชานยอลยิ้มออกมาได้เป็นครั้งที่สองของวันเพราะความน่ารักของเจ้าลูกหมาตัวนี้ ร่างโปร่งหยอกล้อกับมันไปตลอดทางจนถึงบ้าน คุณยายหลี่ยืนรอเขาอยู่ที่ปลายบันไดพร้อมกับสาวใช้อีกสองคน



    เป็นยังไงบ้างคะไปโบสถ์ เอ๋..ลูกหมา



    น่ารักไหมครับยาย



    ชานยอลส่งยิ้มให้คุณยายพร้อมกับยื่นลูกหมาไปข้างหน้าตั้งใจจะอวดความน่ารักของลูกหมาในความปกครองให้คุณยายเห็น หญิงชรารับมันมาถือไว้ในมือ พลิกซ้ายทีขวาทีก็ตัดสินใจได้ว่าลูกหมาตัวนี้น่ารักน่าชังมากทีเดียว แต่คุณชานยอลเอามาจากไหนเอามาเลี้ยงแบบนี้คุณคริสจะว่าอะไรหรือเปล่าบ้านหลังนี้ไม่เคยเลี้ยงสัตว์เสียด้วย



    คุณจะเลี้ยงมันเหรอคะ?”



    ครับ คุณคริสซื้อมันมามันทำให้ผมนึกถึงตัวเอง



    เอ๋..”



    ถูกเจ้าของซื้อมาด้วยเงิน แต่ไม่เคยต้องการ



    ชานยอลพูดออกมาพร้อมรอยยิ้มหยัน น้ำตาที่คลออยู่บนหน่วยตากลมก็ยิ่งทำให้คนมองรู้สึกแย่ไปกันใหญ่ ชายหนุ่มเอื้อมมือไปรับลูกหมามาจากคุณยายหลี่อุ้มมันไว้ด้วยมือทั้งสองข้างของตัวเอง ก้าวเท้าเข้าไปในบ้านโดยที่ไม่ยอมพูดอะไรออกมาอีก



    คุณคริสต้องการคุณนะคะ



    กำลังจะก้าวพ้นประตูบ้านเสียงของคุณยายหลี่ก็ดังขึ้นพ้อมกับน้ำตาที่ไหลออกมา ชายหนุ่มหันไปยิ้มให้คุณยายอีกครั้งสีหน้าเป็นกังวลของคุณยายทำให้เขาไม่อยากพูดอะไรออกมาอีก ชายหนุ่มหันหลังเดินกลับเข้าไปในบ้านอีกครั้งแล้วเขาก็ต้องอึ้งเป็นคำรบที่สองของวัน



    คุณคริสจัดมันให้คุณค่ะ



    ไฟกระพริบถูกประดับตกแต่งอย่างสวยงาม ราวกับว่าลูกไฟเหล่านั้นกำลังแข่งกันอวดโฉมให้ผู้ได้พบเห็นได้ชื่นชมกับความงามของมัน ป้ายHBDมีชื่อของเขาห้อยท้ายขนาดใหญ่ถูกติดไว้บนผนังกลางบ้าน ชานยอลหลับตาลงช้าภาพนั้นทำให้เขารู้สึกปวดหนึบในอก คำว่าสายเกินไปคือคำเดียวที่ผุดขึ้นมาในสมอง



    ฝากขอบคุณเขาด้วยนะครับที่ยังมีแก่ใจคิดถึงผม ลูกไฟประดับเหล่านี้ติดมันไว้จนกว่าเพ่ยฟางจะออกมานะครับ เผื่อลูกชายเขาจะชอบ



    ชายหนุ่มพูดออกมาโดยไม่ยอมแม้แต่จะหันกลับไปมองคุรยายที่ยืนอยู่ด้านหลัง เขาไม่อยากให้คุณยายเห็นน้ำตาของเขาเองน้ำตาที่เขาไม่อยากจะยอมรับว่ามันเป็นน้ำตาแก่งความน้อยใจ ชายหนุ่มอุ้มลูกหมาที่กำลังดินประท้วงเพราะความไม่สบายตัวขึ้นไปบนห้องนอนของตัวเอง



    ถึงแล้ว เดี๋ยวจะได้ลงแล้ว อย่าเพิ่งดิ้นสิ



    ชายหนุ่มพูดกับเจ้าหมาน้อยที่กำลังดิ้นในอกด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ มือเรียวผลักประตูห้องนอนใหม่ของตนเข้าไปเขาชะงักเล็กน้อยกับสิ่งที่ลอยอยู่ตรงหน้า ลุปโปร่งมากมายหลากสีลอยอยู่เหนือเพดานห้องสีขาว ชานยอลถอนหายใจออกมากับความพยายามของคริส ร่างโปร่งว่าลูกหมาลงกับพื้นห้องมันหาวและบิดขี้เกียจก่อนจะเดินอุ้ยอ้ายไปนอนลงบนพรมเช็ดเท้าชานยอลหัวเราะเล็กน้อยกับการกระทำนั้น




    ใบหน้าหวานเงยหน้าขึ้นมองเจ้าลูกโปร่งพวกนั้น มันสวยแต่ไม่ได้เข้ากันกับห้องที่ว่างโล่งไม่มีแม้แต่กระจกหรือแจกันดอกไม้สวยๆ มีเพียงเตียงกว้างสีขาวกับโต๊ะอ่านหนังสือเท่านั้น มือเรียวหยิบลูกโป่งสีแดงมาถือไว้ จับปลายด้ายมาผูกเข้ากับขาหน้าของเจ้าตัวเล็ก มันเงยหน้ามองเขาอย่างสงสัยแต่ก็ยอมยื่นขาหน้าเล็กกระจ้อยให้เขาแต่โดยดี



    วันนี้ฉันจะถือว่าเป็นวันเกิดของแกกับฉันนะ..เอ้อ ใช่สิ แกต้องมีชื่อ



    ร่างโปร่งทิ้งตัวนั่งลงกับพื้นห้อง คงเป็นเพราะพิษไข้จึงทำให้เขารู้ล้าเหลือเกิน มือเรียวลูบขนนุ่มสีน้ำตาลเบามือ พลิกตัวมันขึ้นเพื่อสำรวจเพศ อ่า~ มันเป็นตัวผู้ชายสินะ ลิ้นเล็กตวัดเลียบนหลังมือเขาอย่างออดอ้อนก่อนเจ้าลูกหมาจะหลับตาลงราวกับว่ากำลังเคลิ้มไปกับสัมผัสของเขา



    ชื่ออะไรดี ขนสีน้ำตาล เป็นผู้ชาย ชื่อน้ำตาลมั้ย อ่า เชยจังไม่เอาหรอก



    ชานยอลพูดกับตัวเองมือก็ยังลุบขนนุ่มนั้นไม่หยุด ฟุบหน้าลงกับมุมเตียง ชื่อมากมายลอยเข้ามาในสมอง ไม่เข้าท่า ไม่มีชื่อไหนที่เขาชอบสักชื่อ



    ชื่ออะไรดีนะ เอาชื่อฝรั่งน้อยดีมั้ย จะได้อินเตอร์ไง หึหึ



    ชายหนุ่มหัวเราะคำกับตัวะเองเปลือกตาบางปรือปอย ความรู้สึกง่วงเข้าครอบงำแต่ก้ยังครุ่นคิดหาชื่อให้เพื่อนสี่ขาของตัวเองไม่หยุด สุดท้ายเขาก็ได้ชื่อที่ต้องการพร้อมกับสติที่ดับไป



    ปิ๊ปโป้ ชื่อปิ๊ปโป้นะ ปิ๊บโป้แกเป็นหมาของฉันนะ ของฉันคนเดียว..

     



    คริสยืนอยู่หน้าประตูห้องในบ้านของตนแต่เจ้าตัวกลับไม่กล้าเปิดเข้าไปแม้จะรู้ว่าประตูบานนั้นไม่ได้ล็อคก็ตาม หลังจากที่ตนถูกพูดของร่างโปร่งตอกจนหน้าหงายที่โบสถ์เขาก็ใช้เวลายืนปรับทุกข์กับลูกน้องคนสนิทอยู่นานกว่าจะได้กลับไปโรงพยาบาลเพื่อเยี่ยมเพ่ยฟางกับลูก ก็ปาเข้าไปบ่ายแล้ว เขาพูดทุกอย่างหเพ่ยฟางฟังแต่ก็ได้รับเพียงแค่คำปลอบใจกลับมา ไม่มีใครช่วยเขาได้ แต่อย่างน้อยเขาก็ได้รับข่าวดีว่าพรุ่งนี้เพ่ยฟางกับลูกจะออกจากโรงพยาบาลแล้ว เขาจะได้มีเวลาง้อชานยอลอย่างจริงๆจังๆเสียทีโดยไม่ต้องเป็นห่วงเมียกับลูกที่โรงพยาบาลทำยังไงนะชานยอลจึงจะยอมใจอ่อน ชายหนุ่มคิดในใจ



    เอาว่ะ บ้านก็บ้านเรา ห้องก็ห้องเมีย จะกลัวทำไม



    กลัวอยู่นานร่างสูงจึงใช้ความกลัวนั้นเป็นพลังใจผลักประตูห้องเข้าไป แล้วเขาก็เจอกับร่างของคนที่เขาต้องการเจอนอนหันหลังให้ประตูอยู่บนเตียง ขายาวก้าวเข้าไปในห้องพยายามเดินให้เบาที่สุดกลัวว่าคนป่วยจะตื่น คริสเดินอ้อมไปยังอีกฝั่งหนึ่งของเตียง เขาอยากเห็นหน้าชานยอลเพราะแค่ตอนหลับเท่านั้นที่ร่างโปร่งจะไม่โวยวายผลักไสให้เขาออกห่าง



    อุ้ย



    หงิง หงิง~”



    ชู่~~ อย่าร้องสิ เจ็บหรือไง



    แล้วคริสก็ต้องร้องออกมาด้วยความตกใจเมื่อเท่าของตนเผลอไปเตะก้อนกลมๆที่กำลังนอนหลับตาพริ้มไม่ต่างจากเจ้าของอยุ่บนพรมข้างเตียง ลูกหมาที่เขาเป้นคนซื้อร้องออกมาด้วยความตกใจ มันมองหน้าเขาเหมือนกำลังด่าเขาในใจ คริสอุ้มมันขึ้นมาด้วยมือทั้งสองข้าง อุ้มมันไว้มือใหญ่ขยี้ลงไปบนหัวเล็กของเจ้าสุนัขจอมจุ้น



    อย่ามองหาเรื่องแบบนั้นสิ ฉันเป็นคนซื้อแกมานะ



    หงิง~”



    เหมือนมันจะรับรู้ในสิ่งที่เขาพูด เจ้าลูกหมาส่งเสียงร้องครางออกมาตวัดลิ้นลงไปบนหลังมือออดอ้อนให้คนไม่ชอบหมาต้องยิ้มออกมา คริสชูมันขึ้นเหนือศีรษะก่อนจะลดลงเมื่อตัวเองสำรวจรูปร่างของมันจนพอใจ ชายหนุ่มก้นหน้าพูดกับมันอีกครั้งพยายามทำทุกอย่างให้เบาที่สุด



    ขอโทษนะเว้ย ที่ทำกับแกแบบนั้น ก็ถ้าไม่ทำชานยอลต้องไม่ยอมรับเลี้ยงแกแน่ๆ ฉันเลยต้องแกล้งทำแบบนั้น แล้วฉันก็โดนชานยอลด่าไปเต็มๆ เฮ้ออ อีกนานแค่ไหนนะชานยอลถึงจะยอมใจอ่อนให้ฉัน ฉันพยายามทำทุกอย่างแต่ดูเหมือนว่ายิ่งทำยิ่งผิดไม่ถูกใจเขาสักอย่างเลย



    งับ~”



    เอ้ย อย่างับสิ ฮ่าๆ



    คริสร้องออกมาด้วยความตกใจเมื่อลูกหมาตัวน้อยใช้ปากเล็กๆของมันงับลงบนหลังมือของตน ก่อนจะหัวเราะออกมาเมื่อมันเปลี่ยนจากการกัดเป็นการเลียมือด้วยความซุกซนจนทำให้ร่างสุงต้องเผลอตัวเสียงดังออกมาเมื่อรู้ตัวจึงพยายามปรับเสียงลงให้เบาที่สุด หันไปมองร่างโปร่งที่กำลังนอนหลับตาพริ้มอยู่บนเตียง ข้อมือด้านซ้ายที่มีผ้าพันแผลสีขาวแปะอยู่บาดแผลบนผิวกายรักษาได้แต่บาดแผลบนหัวใจชานยอลเขาจะรักษามันยังไงดี



    เฮ้ออ ไปกันเถอะ ไปกับฉัน ไปทำเค้กให้แม่แกกัน



    คริสเดินออกไปจากห้องพร้อมกับลูกหมาในมือโดยไม่รู้เลยว่าคนที่เขากลัวนักหนาว่าจะตื่นรู้สึกตัวตั้งแต่ได้ยินเสียงร้องของตนตั้งแต่แรก ชานยอลลืมตาขึ้นมาช้าๆถ้อยคำพูดของคนกับหมาเขาได้ยินมันทุกอย่าง ดวงตากลมแข็งกร้าวไม่ได้มีแววของความใจอ่อนสะท้อนออกมา





    ยาย แป้งนี้ตอนไหนมันจะใช้ได้



    ต้องตีให้มันฟูอีกนิดค่ะ มา เดี่ยวยายทำให้



    ไม่เป็นไรครับ ผมอยากทำเอง ยายช่วยบอกผมก็พอ



    คริสโวยวายขึ้นมากลางห้องเล่นเอาคุณยายที่กำลังเตรียมครีมอยู่ถึงกับสะดุ้งรีบเดินเข้ามาหาร่างสูงที่มีผ้ากันเปื้อนคาดทับชุดทำงานอยู่กำลังง่วนอยู่กับการตีแป้งให้ขึ้นฟูแต่ดูเหมือนความพยายามของร่างสูงยังไม่ประสบความสำเร็จเพราะแป้งในชามใบที่สามยังไม่ยอมเซทตัวเสียที แถมยังต้องแบ่งความสนใจไปให้เจ้าตัวจุ้นที่กำลังกินนมอยู่บนพื้นห้องครัว



    อีกนิดก็คงจะใช้ได้แล้วล่ะค่ะ พยายามต่อไปนะคะ



    คุณยายหลี่พูดออกมาเมื่อเห็นแป้งสีนวลในชามกำลังได้ทีพร้อมเป็นแป้งเค้กสำหรับวันเกิดของคุณชานยอล ใบหน้าเหี่ยวย่นเจือไปด้วยรอยยิ้มเมื่อเห้นความกระตือรือร้นบนใบหน้าหล่อเหลานั้น สาวใช้หลายคนยืนอออยู่ในห้องครัวรอช่วยเจ้านายที่ไม่เคยโผล่หน้ามาในห้องครัวเต็มที่แต่เจ้านายก็ไม่ได้ร้องขอ ยังคงทำด้วยตัวเองต่อไป หัดพยายามเสียบ้างจะได้รู้ถึงความรู้สึกของคุณชานยอลตอนที่พยายามเอาใจตัวเองดูว่ามันลำบากแค่ไหน  ทำไมไม่ทำแบบนี้ตั้งนานแล้วนะ คุณยายบ่นในใจ



    แล้วทำแป้งนี้เสร็จแล้วผมต้องทำยังไงบ้าง



    ร่างสุงหันไปถามคุณยายในสภาพดูไม่จืด ตามเนื้อตัวเต็มไปด้วยเศษแป้งสีขาว มือไม้เลอะเป็นคราบแต่ร่างสูงก็ไม่ได้สนใจพยายามทำเค้กต่อไป



    ก็ต้องเอาไปเข้าตู้อบ นอกนั้นยายจะทำเองคุณไปหันสตอร์เบอร์รี่…”



    ปิ๊ปโป้ ปิ๊ปโป้อยู่ไหน



    คุณยายหลี่เดินไปหยิบสตอร์เบอร์รี่ออกมาจากตู้เย็น คริสที่กำลังจะแย่งว่าเขาอยากทำเค้กทุกขั้นตอนด้วยตัวเองต้องอ้าปากค้าง เมื่อได้ยินเสียงของใครบางคนเอ่ยแทรกขึ้นมา ชานยอลเดินเข้ามาในห้องครัวมองหาลูกหมาของตัวเองเมื่อเห้นว่ามันกำลังทำอะไรอยู่ร่างโปร่งจึงย่อตัวลงนั่งคว้าร่างของมันขึ้นมาอุ้มไว้ ไม่ได้สนใจสักนิดว่าคนในห้องครัวกำลังทำอะไรกันอยู่



    มาอยู่นี้นี่เอง ตามหาเสียนาน ลงมาได้ยังไงห๊ะ



    พี่เป้นคนพามันลงมาเองแหละชานยอล มันหิวน่ะ



    ถึงแม้จะรู้ดีว่าใครเป้นคนพามันลงมาแต่ร่างโปร่งก็แสร้งทำเป้นไม่รู้ คริสที่ยืนมองเหตุการณ์อยู่จึงพูดขึ้น ใบหน้าหวานเงยหน้าขึ้นสบตาคม ใบหน้าของชานยอลเฉยชาจนรอยยิ้มกว้างที่อยู่บนใบหน้าคริสต้องหดลง



    ใครใช้ให้คุณมายุ่งกับของของผม


    พี่เห็นมันหิวเลยพามันลงมากินนม



    ถ้าอยากดูแลมันก็มาเอามันไปเลี้ยงสิ ผมจะคืนให้



    ชายหนุ่มพูดพร้อมกับยื่นลูกหมาไปข้างหน้า เขารู้ว่าปิ๊ปโป้มันต้องหิวตั้งใจไว้ว่าเมื่อถึงเวลาอาหารจะลงมาหานมให้มันกินแต่ร่างสุงก็มาตัดหน้าพามันลงมาเสียก่อน



    ชานยอล



    ถ้าอยากได้ก็จะคืนให้ แต่ถ้าดูแลไม่ได้ก็ไม่ต้องมายุ่ง จำไว้เลยนะ แล้วครั้งหน้าอย่ามายุ่งกับมันอีก




    พูดจบร่างโปร่งก็สะบัดหน้าเดินออกไปจากห้องครัวกระชับลูกหมาไว้แนบอก เขายอมรับว่าไม่อยากให้คุณคริสมายุ่งกับปิ๊ปโป้เพราะเขากลัวว่าลูกหมาจะเกิดความรู้สึกผุกพันธ์กับร่างสูงแล้ววันหนึ่งเจ้าปิ๊ปโป้ก็ต้องเสียใจเหมือนกับเขาเมื่อรู้ว่าเจ้านายของมันไม่ได้รักมันอย่างที่มันรักเค้าเลยสักนิด




    จำไว้นะปิ๊ปโป้ อย่าไปยุ่งกับผู้ชายคนนั้นอีก ถ้าเขามาแกต้องวิ่งหนีไปไกลๆ ไม่อย่างนั้น แกจะเจ็บเหมือนกันกับฉัน



    คริสยืนมองเค้กที่เขาทำเองกับมือด้วยใบหน้าเศร้าหมอง มันสวยใช้ได้แต่ไม่รู้ว่าเจ้าของวันเกิดจะชอบมันหรือเปล่า เขาใช้เวลาทำมันตั้งแต่บ่ายจนตอนนี้ค่ำแล้วมันจึงสำเร็จเป็นรูปเป็นร่าง คริสยกมันขึ้นอย่างบรรจงยัดมันเข้าไปเก็บไว้ในตู้เย็นรอเวลาอวดโฉมเมื่อชานยอลลงมาจากห้อง





    อาหารมากมายที่เขาสั่งมาจากภัตตราคารของโรงแรมล้วนเป็นของที่ชานยอลชอบทั้งนั้นกำลังถูกเด็กรับใช้จัดมันใส่จานอย่างสวยงามโต๊ะอาหารกลางบ้านถูกปูด้วยผ้าสีชมพูแทนที่จะเป็นสีขาวเหมือนแต่ก่อน เขาอยากให้ภายในบ้านดูสดใส ชานยอลจะได้รู้สึกสดชื่นไปด้วย เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยแล้วคริสจึงเดินออกมาจากห้องครัว ก่อนจะบอกสาวใช้ให้ขึ้นไปตามร่างโปร่งมาทานข้าว



    เก่งจังเลย ปิ๊ปโป้ อีกขั้นหนึ่ง  ฮ่าๆ เก่งจังเลย



    แต่ดูเหมือนว่าเขาคงไม่ต้องตามสาวใช้เสียแล้ว เมื่อร่างโปร่งที่เขากำลังนึกถึงเดินลงมาจากชั้นบนของบ้านด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้มที่เขาไม่ค่อยได้เห็น พร้อมเสียงหัวเราะสดใสกำลังมองดูเจ้าลูกหมาที่เจ้าตัวตั้งชื่อให้เสียน่ารักว่าปิ๊ปโป้ค่อยๆกระโดดลงมาจากบรรไดด้วยขาสั้นป้อมที่ล่ะขั้น เขาคิดไม่ผิดจริงๆที่ซื้อมันมา



    ชานยอลกินข้าว



    ไปห้องครัวกันเร็ว นมของแกรออยู่นะ



    ร่างโปร่งที่เพิ่งเดินลงมาจากชั้นบนทำเป้นหูทวนลมไม่ได้ยินเสียงเรียกของคริส เขาไม่ได้ตั้งใจจะลงมากินข้าว แค่จะพาปิ๊ปโป้มากินนมเพราะกลัวมันหิวกลางดึกแค่นั้น ชานยอลก้มตัวคว้าลูกหมาขึ้นมากอดขาเรียวเดินตรงไปยังห้องครัวอย่างที่ใจคิดแต่แขนของเขาก็ถูกฉุดไว้เสียก่อน.



    มากินข้าวก่อนเถอะ นมของปิ๊ปโป้เอาไว้ทีหลังก็ได้



    ปล่อย!ผมไม่กิน คุณกินไปเถอะ



    เพียงแค่เขาสัมผัสผิวกายชานยอลก็รีบสะบัดออกทันที กลิ่นหอมอ่อนๆที่ดชยออกมาจากร่างโปร่งบ่งบอกว่าชานยอลคงอาบน้ำเตรียมตัวเข้านอนแล้ว ถ้าชานยอลไม่กินข้าวแค่ทานเค้กที่เขาทำให้ก็ยังดี



    ถ้าไม่กินข้าวจะกินยาได้ยังไง นะชานยอล กินสักหน่อยก้ยังดีพี่สั่งกับข้าวที่ชานยอลชอบมาให้เยอะแยะเลย



    แรงเขาก็รั้งชานยอลไว้ไม่อยู่เมื่อร่างโปร่งหันมามองเขาตาขวางแสดงอาการไม่พอใจอย่างชัดเจน คริสจำต้องปล่อยแขนเรียวนั้นไปมองดูชานยอลเดินหายลับเข้าไปในห้องครัว ก่อนจะหันไปลอกให้สาวใช้เคลียร์อาหารบนโต๊ะออกไปแล้วให้เอาเค้กมาแทน ในเมื่อชานยอลไม่กินเขาก็คงกินไม่ลง



    ชานยอลจัดการเทนมใส่ถ้วยใบเล็ก ถาดอาหารประจำตัวของปิ๊ปโป้ยังไม่มีเขาเลยต้องใช้ถ้วยของที่บ้านแทน เอาไว้พรุ่งนี้เขาจะให้คนซื้อมาให้ก็แล้วกัน ก็เล่นมาอยู่ด้วยกันแบบไม่ตั้งตัวจึงขาดของใช้หลายอย่างสำหรับลูกสุนัข



    กินเยอะๆนะ ถ้าหิวกลางดึกฉันไม่ลุกขึ้นมาเอาให้แกกินจริงๆด้วย



    ชานยอลพูดกับลูกหมาน้อยที่กำลังจัดการกับนมในถ้วยอย่างขะมักเขม่น มือเรียวหยิบถ้วยอีกใบมาใส่น้ำเตรียมเอามันขึ้นไปไว้ในห้องนอกจากกินนมแล้วปิ๊ปโป้ยังต้องกินน้ำด้วยกลัวว่ามันจะหิวกลางดึก หันมาอีกทีนมเกือบเต็มถ้วยก็ถูกหมาน้อยวัย1เดือนจัดการเสียเกลี้ยง มีแววว่าจะอ้วนแต่เด็กแหะหมาของเขา



    เมื่อเก็บถ้วยเสร็จแล้วชานยอลก็จัดการจับหมาอ้วนขึ้นมาไว้แนบอก เขาง่วงแล้วถ้าจะปล่อยให้เจ้านี้เดินกลับห้องเองคงได้นอนพรุ่งนี้เช้าพอดี ร่างโปร่งเดินออกมาจากห้องครัวจนถึงห้องโถง คุณคริสยังอยู่ในห้องนั้นไม่ได้ขึ้นไปห้องนอนอย่างที่เคย คงจะออกไปหาเพ่ยฟางที่โรงพยาบาล




    ชานยอล มากินเค้กก่อนสิ พี่ทำไว้ให้



    คริสพูดด้วยใบหน้าเปื้อนรอยยิ้มแต่ชานยอลก็ทำเหมือนไม่ได้ยินเดินผ่านร่างนั้นไป จนร่างสุงที่ถูกเมินเป็นครั้งที่เท่าไหร่ก็ไม่รู้ของวันต้องรีบคว้าตัวไว้



    นะชานยอล กินอะไรรองท้องหน่อยนะ จะได้กินยาไง เดี๋ยวก็ไม่สบายขึ้นมาอีก



    ผมไม่สบายแล้วเกี่ยวอะไรกับคุณ อย่ามาแสร้งทำดีหน่อยเลย ผมไม่ซึ้งใจไปกับความดีของคุณหรอกนะ



    พี่ไม่ได้แสแสร้ง พี่ตั้งใจทำมันให้ชานยอล ทุกอย่างที่พี่ทำ พี่ตั้งใจ



    แต่ผมไม่ต้องการ หลีก ผมจะขึ้นห้อง



    กินหน่อยนะ สักคำก็ยังดี



    บอกว่าไม่!”



    ชานยอลตะคอกออกไปเสียงดัง คุณคริสไม่รู้หรือไงว่ายิ่งทำดีกับเขาเท่าไหร่มันยิ่งทำให้เขาคิดถึงเหตุการ์ที่ผ่านมา เขาเสียใจมาตั้งเท่าไหร่ล้วคุณคริสจะมาทำดีกับเขาง่ายๆแบบนี้หรือต่อให้ทำเค้กให้เขาร้อยก้อนเขาก็ไม่ดีใจหรอกนะ ตอนที่เขาต้องการทำไมคุณคริสไม่ทำ



    ชานยอล กินหน่อยเถอะ นะๆ



    ไม่ บอกว่าไม่ไง!”



    เขาจะบอกว่าไม่ยังไงคุณคริสก็ไม่ฟังยังคงดึงดันจะให้เขากินให้ได้ เค้กที่ถูกประดับตกแต่งด้วยครีมสีขาวตัดกับสตอร์เบอร์รี่อย่างสวยงามถูกยื่นมาตรงหน้า เพราะความโกรธ น้อยใจและอาการปวดที่แผลทำให้ชานยอลปัดเค้กก้อนนั้นออกจากตัว มันหล่นกระจายเลอะพื้นกระเบื้องเนื้อดีเสื้อของร่างสูงก็ไม่ต่างกันพลอยเลอะเนื้อครีมสีขาวของเค้กไปด้วย คริสยืนนิ่งอึ้งอยู่กับที่พร้อมกับความอดทนที่ของเขาขาดสะบั้นลง



    สมน้ำหน้า



     “ชานยอล!”



    ร่างโปร่งส่งยิ้มให้ร้ายมองร่างสูงหัวจรดเท้าดวงตาแยแววสะใจอย่างชัดเจน ก่อนที่ใบหน้าหวานจะซีดเผือดลงถนัดตาเมื่อคริสที่เคนเอาใจเขาตลอดระยะเวลาเกือบ1อาทิตย์ที่ผ่านมาตะคอกเรียกชื่อเขาเสียงดัง มือเรียวกระชับเจ้าปิ๊ปโป้ที่กำลังเงยหน้าขึ้นมองเหตุการณ์ด้วยความตกใจ ขาเรียวรีบวิ่งขึ้นไปยังชั้นบน เขาจำ
    ความโกรธของคุณคริสได้ดี



    ชานยอล หยุดวิ่งเดี๋ยวนี้นะ



    คริสตะคอกถามออกมาอย่างลืมตัว ชายาววิ่งขึ้นบันไดตามร่างชานยอลขึ้นไปด้วยความเร็วที่แตกตต่างกันแล้วเขาก็คว้าตัวร่างโปร่ง ชานยอลที่เริ่มรู้สึกกลัวร้องขึ้นมาด้วยความตกใจ แขนข้างที่ว่างฟาดลงไปบนแผ่นอกกว้าง คริสดึงร่างโปร่งให้เข้ามาใกล้กระชากเสียงถาม



    จะเอายังไงห๊ะ ต้องให้ทำเท่าไหร่ ทำแค่ไหนถึงจะพอใจ!”



    ปล่อยนะ! โอ้ย ปิ๊ปโป้!”



    ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเขาออกแรงกับต้นแขนขาวนั้นมากเกินไปหรือเป็นเพราะอะไรเจ้าหมาตัวน้อยในอ้อมแขนของร่างโปร่งที่กำลังดินหนีจากการเกาะกุมของเขาจึงกระโจนลงออกจากอ้อมแขนนั้น คงเพราะมันยังเยาว์เกินไปเจ้าปิ๊ปโป้จึงหงายหลังนอนเอ้งเม้งครางหงิงอยู่กับพื้นให้เจ้าของของมันต้องร้องออกมาออกมาอย่างขวัญเสีย คริสเองก็ตกใจไม่แพ้กันยิ่งได้เห็นน้ำตาของคนที่เขาเฝ้าเอาใจไหลลงมาเขาก็ยิ่งขวัญเสีย เผลอทำเรื่องบ้าๆอีกแล้ว



    ชานยอล เป็นอะไร เจ็บตรงไหนหรือเปล่าคริสพูดพร้อมกับดึงแขนเรียวให้ลุกขึ้น รอยสีแดงเป็นปื้นที่แขนเรียวยิ่งทำให้เขารู้สึกผิด



    เห็นมั้ย ผมบอกคุณแล้ว อย่าทำทุกอย่างให้มันแย่ไปกว่านี้เลย



    ชานยอลพูดพร้อมกับค่อยๆพยุงกายตัวเองให้ลุกขึ้นด้วยแขนทั้งสองข้าง แต่เพราะแผลที่ข้อมือทำให้ร่างโปร่งทรุดลงนั่งกับพื้นอีกครั้ง คริสไม่รอช้าก้มตัวไปพยุงร่างนั้นไว้ด้วยความเป้นห่วง พูดบางคำที่ทำให้ชานยอลต้องเงยหน้าขึ้นมองตนด้วยน้ำตา



    ถึงชานยอลจะพูดยังไงพี่ก็จะพยายามต่อไป ชานยอลห้ามพี่ไม่ได้ ห้ามหัวใจพี่ไม่ได้หรอก

     

     








    TBC....................



    สวัสดีค่ะ พี่คริสโมหดคนดี อ๊ายยย พี่คนน่ารัก ฮ่าๆๆ เพ้อไปคนเดียว

    เห็นด้วยหน่อยนะคะ สงสารพี่แก ยังต้องโดนอีกเยอะ

    กว่าจะมาลงตอนนีั้ได้ ร้างไปนาน ขอโทษนะคะ เราไม่ว่างจริงๆ

    ไปอ่านกันให้สนุกนะคะ สัญญาว่าตอนหน้าจะมาเร็วกว่านี้


    ขอบคุณค่ะ






    ร่วมสกรีมในทวิตเตอร์รบกวนติด #DDT ขอบคุณค่ะ 

     

     

     

     

     

     

     

     

     


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×