คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #81 : CHAPTER 77
Distorted Daytime
ชานยอลมองร้านอาหารกึ่งผับที่ประดับตกแต่งอย่างสวยงามอยู่ตรงหน้าอย่างคุ้นตา ก่อนจะร้องอ๋อออกมาเมื่อจำได้ว่าคุณคริสเคยพาเขามาที่นี้ครั้งหนึ่งเมื่อนานมาแล้ว นี้เป็นสถานที่จัดงานเลี้ยงลูกค้าของคุณคริสในคืนนี้
หลังจากที่อี้ชิงพูดคำนั้นออกไป คุณคริสก็รีบดึงเขาขึ้นรถไม่ได้ต่อปากต่อคำกับลูกน้องของตนอีก ชานยอลคิดว่าตัวเองคงตาฝาดไปเพราะเห็นแก้มทั้งสองข้างของสามีมีสีแดงสดคล้ายคนกำลังเขินอาย และเขาที่รู้สึกเหมือนคนทำตัวไม่ถูกเมื่อได้ยินคำนั้น คุณคริสจะหึงหวงเขาอย่างที่อี้ชิงพูดหรือเปล่านะ แต่คุณอย่างคุณคริสน่ะเหรอ ไม่มีทางเสียหรอก ชานยอลจมอยู่ในความคิดของตัวเองจนเผลอหลับไป รู้ตัวอีกทีรถก็จอดอยู่หน้าร้านแล้ว
“ลงมาสิ”
กำลังคิดอะไรอยู่เรื่อยเปื่อยประตูฝั่งเขาก็ถูกเปิดออก ชานยอลก้มหัวให้คริสเล็กน้อยก่อนจะก้าวลงมา แขนทั้งข้างซ้ายของเขาถูกดึงรั้งจากคนตัวสูงให้เดินเข้าไปในร้านอาหาร ชานยอลเดินตรามไปเงียบๆไม่โต้เถียงอะไรถึงแม้จะปวดหัวและแขนที่โดนจับมากก็ตาม ข้างหลังมีอี้ชิงเดินตามมาไม่ห่าง
“ขึ้นไปรอบนห้อง ให้อี้ชิงพาไป อย่าออกไปไหนถ้าฉันไม่ได้สั่ง เข้าใจมั้ย?”
“ครับ”
คริสหันมากำชับร่างโปร่งเสียงแข็งเมื่อได้ยินคำตอบที่พอใจแล้ว ร่างสูงก็เดินออกไปพร้อมลูกน้องอีกคนที่เป็นคนดูแลร้าน ชานยอลจึงเดินขึ้นไปชั้น3โดยมีอี้ชิงเป็นคนนำทางให้
“ที่ร้านนี้คนเยอะมั้ยอี้ชิง”
“เยอะครับ ร้านนี้เป็นร้านยอดฮิตของคนปักกิ่งเลยก็ว่าได้ อาหารที่ร้านเราอร่อยจนขึ้นชื่อ ตอนเย็นก็เป็นผับที่วัยรุ่นและวัยทำงานชอบมาสังสรรค์กัน”
ชานยอลถามออกไปเมื่อขึ้นมาถึงชั้นสองของร้าน ที่นี้ดูใหญ่โตโอ่อ่า แสดงว่าผลประกอบการของร้านนี้คงดีมากพอสมควร และคำตอบของอี้ชิงก็เป็นอย่างที่เขาคิด นอกจากเป็นร้านอาหารเป็นผับ แล้วยังเป็นสถานที่ขายบริการอีกด้วยสินะ ชายหนุ่มนึกในใจ เขาไม่ชอบสถานที่แบบนี้เลย
“ถึงแล้วครับ”
“อื้อ ไม่เป็นไร เดี๋ยวฉันเปิดเอง”
ชานยอลค้านขึ้นเมื่อเห็นอี้ชิงกำลังจะเปิดประตูให้ตัวเองเดินเข้าไปในห้องทำงานของคุณคริสที่เขาเคยมาเมื่อครั้งก่อน แค่คิดถึงเหตุการณ์วันนั้นก็ทำให้แก้มขาวร้อนผ่าว
“คุณเป็นอะไรหรือเปล่าครับ หน้าแดงๆ”
“อ่ะ เปล่า”
“ไม่สบายใช่มั้ยครับ นอนพักดีกว่ามั้ย ถ้ามีอะไรผมจะมาตาม”
ชานยอลพยักหน้าตอบรับอย่างอายๆจริงอยู่ที่เขาไม่ค่อยสบาย แต่ที่หน้าแดงเมื่อครู่ไม่ใช่เพราะพิษไข้อย่างที่อีกฝ่ายเข้าใจ ร่างโปร่งเอนนั่งลงบนโซฟาสีครีมตัวใหญ่ที่ตั้งอยู่ข้างพนัง เอนกายบงพัก หลับตาผ่อนลมหายใจออกมาเบาๆ เขาเหนื่อยเหลือเกิน เพราะความเพลียจึงเผลอหลับปอีกครั้ง
“ก๊อก ๆ คุณชานยอลครับ”
“อ่ะ..อี้ชิง เข้ามาสิ”
ร่างโปร่งที่นอนหลับไปนานสะดุ้งตื่นเมื่อได้ยินเสียงเคาะประตู ตามด้วยเสียงเรียก เมื่อได้รับอนุญาตอี้ชิงก็เปิดประตูเข้ามาเจอกับชานยอลที่กำลังลุกขึ้นนั่งอยู่พอดี ชายหนุ่มถามออกไปด้วยความเกรงใจ ถ้าไม่ติดว่าเจ้านายให้มาตามเขาอยากให้คุณชานยอลได้พักผ่อนต่อมากกว่า
“พักผ่อนอยู่หรือเปล่าครับ”
“อื้ออ แต่ตื่นแล้วล่ะ มีอะไรหรือเปล่า”
“คุณคริสให้มาตามครับ ลูกค้ามาแล้ว”
“อ่ะ กี่โมงแล้ว”
ชานยอลถามเวลาจากอีกคนพลางยกมือขึ้นลูบใบหน้าขับไล่ความง่วง การนอนตอนหัวค่ำทำให้เขารู้สึกไม่ค่อยดีนัก ร่างโปร่งลุกขึ้นจากโซฟาเมื่อได้ยินว่าตอนนี้กี่โมงแล้ว ตอนนี้ก็เกือบสองทุ่มแล้วมิน่าล่ะ เขาถึงได้หิวมากขนาดนี้ ขาเรียวเดินตามหลังของมือขวาคริสลงไปชั้นสองซึ่งเป็นสถานที่จัดงานเลี้ยงเพราะเคยมาที่นี้มาก่อนเลยทำให้เขารู้สึกไม่ดีนัก
หญิงสาวหลายคนในชุดเสื้อผ้าสีสันฉูดฉาดยืนอยู่ตามมุมอาคาร ใบหน้าของผู้หญิงพวกนั้นถูกแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางค์ราคาแพงดูสวยงาม แต่งานที่พวกหล่อนทำไม่ได้สวยงามนัก ทำไมคุณคริสถึงเลือกที่แบบนี้จัดงานเลี้ยงให้ลูกค้ากันนะ ชายหนุ่มคิดอย่างสงสัยแต่ก็ต้องสลัดความคิดนั้นไปเมื่อสายตาไปสบเข้ากับดวงตาคมกริบของคริสที่ยืนรอพวกตนอยู่
“มาแล้วเหรอ”
“ครับ”
“ลูกค้ามาแล้ว เดี่ยวฉันจะแนะนำให้รู้จัก”
โดยไม่รอฟังคำตอบคริสดึงแขนเรียวให้เดินตามตัวเองเข้าไปในห้องกระจกที่ตกแต่งอย่างเลิศหรู โต๊ะอาหารตัวยาวถูกตั้งอยู่กลางห้อง เป็นโต๊ะอาหารแบบนั่งพื้น อาหารมากมายถูกตกแต่งอย่างสวยงามถูกยกมาวางไว้บนโต๊ะไม้สีน้ำตาล ชายหนุ่มวัยกลางคนนั่งอยู่บนหัวโต๊ะ มีหญิงสาวหน้าตาสะสวยนั่งอยู่ข้างกาย และแขกอีกนับสิบท่านนั่งอยู่บนเบาะนั่ง กำลังมองมาทางเข้าด้วยสายตาอยากรู้อยากเห็น
“คุณหลิวครับ นี้ปาร์ค ชานยอล คู่สมรสของผมเอง ชานยอลนี้คุณหลิว ท่านเป็นแขกสำคัญของเราในคืนนี้”
“สวัสดีครับ”
“ตามสบายๆ นั่งสิ แหม เป็นผู้ชายที่หน้าตาน่ารักน่าเอ็นดูจริงๆนะ ฮ่าๆๆ เหมาะสมกันจริงๆ”
“ขอบคุณครับ”
ชานยอลโค้งตัวให้ลูกค้าคนสำคัญของคริสอีกครั้ง ใบหน้าหวานก้มหลบสายตากรุ่มกริ่มที่มองมาทางเขาด้วยความอึดอัด ร่างโปร่งนั่งลงบนเบาะข้างๆคริสที่มีสีหน้าเรียบนิ่งไม่แสดงอาการอะไรออกมา ทันทีที่เขากับคุณคริสนั่งลงบนโต๊ะอาหาร การรับประทานอาหารก็เริ่มต้นขึ้น
“หิวมากเลยเหรอ”
“อ่ะ..ครับ”
คริสที่หลบเลี่ยงบทสนทนาบนโต๊ะอาหารกระซิบข้างหูชานยอลที่กำลังตักซูชิเข้าปากรีบวางตะเกียบในมือลง นี้เขาหิวมากจนแสดงอาการไม่ควรออกไปหรือเปล่า ใบหน้าหวานช้อนตาขึ้นมองร่างสูงที่นั่งอยู่ข้างๆ แต่เมื่อเขาเห็นคุณคริสไม่พูดอะไรต่อจึงตักอาหารเข้าปากอีกครั้ง
“ทานนี้สิ”
“ขอบคุณครับ”
“กินข้าวแล้วก็กินยาซะ เข้าใจมั้ย?”
“ครับ”
ชายหนุ่มขานรับอย่างว่าง่าย มองดูซูชิในจานที่อีกฝ่ายคีบมาวางไว้ให้อย่างงงๆ วันนี้ดูคุณคริสใจดีกับเขาเป็นพิเศษ ร่างโปร่งก้มหน้าทานข้าวของตัวเองต่อไป โดยไม่ทันได้รู้ว่าชายหนุ่มข้างกายกำลังตกเป็นเป้าสนใจของใครบางคน ทั้งคู่สบตากันอย่างมีความนัย ริมฝีปากที่แต่งแต้มด้วยลิปสติกสีสดฉีกยิ้มอย่างมีจริต คริสเหลือบมองหญิงสาวที่มีฐานะเป็นลูกสาวของคุณหลิวโดยไม่ให้ชายหนุ่มข้างกายรู้ตัว แกยิ้มที่มุมปากส่งไปให้หญิงสาวใจสั่นเล่น
มือหนาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดข้อความ ส่งมันไปให้ลูกน้องคนสนิทนอกห้องให้จัดการทุกอย่างที่เขาต้องการ ไม่นานข้อความก็ถูกตอบกลับ พร้อมกับหมายเลขโทรศัพท์ของหญิงสาวคนเดียวในห้องอาหารวันนี้ ทุกอย่างเป็นไปตามที่คิดคาด ข้อความนัดแนะสถานที่ในการพบในค่ำคืนนี้ของเขาถูกตอบกลับอย่างรวดเร็วในเวลาไม่กี่นาที ค่ำคืนนี้ยังอีกยาวไกล
“กินข้าวแล้วขึ้นไปรอฉันอยู่บนห้อง เสร็จงานเมื่อไหร่ฉันจะให้คนขึ้นไปตาม”
“ครับ”
“ไปได้แล้ว”
ร่างโปร่งลุกขึ้นตามคำสั่ง ชานยอลเดินออกไปข้างนอกก็พบเข้ากับร่างของอี้ชิงที่ยืนรอเขาอยู่ก่อนแล้ว
“อาหารอร่อยมั้ยครับ” อี้ชิงถามขึ้นเป็นการชวนคุย
“อร่อย อี้ชิงทานหรือยัง”
“ยังเลยครับ คงต้องรอหลังเสร็จงาน ทานข้าวแล้วอย่าลืมกินยานะครับ”
“เข้าใจแล้ว หลังจากเสร็จงานแล้วคุณคริสมีงานต้องทำอีกมั้ย ฉันอยากกลับบ้านแล้ว”
ชานยอลถามขึ้นถึงรู้ว่ามันไม่ควรก็ตาม แต่เพราะอาการไข้ทำให้เขารู้สึกไม่สบายนัก อี้ชิงที่ยังไม่กล้าเงยหน้าขึ้นสบตาร่างโปร่งถึงกับอึ้งเมื่อได้ยินคำตอบ ก่อนจะฝืนยิ้มโกหกคำโตออกไป
“มีงานอีกนิดหน่อย ไม่นานหรอกครับ ผมจะพาคุณขึ้นไปส่งที่ห้องเดิม นอนพักสักหน่อยนะครับ คุณคริส
เสร็จงานเมื่อไหร่เดี๋ยวผมขึ้นไปตาม”
“อื้อ ขอบใจมากนะ”
ชานยอลเดินกลับเข้าไปในห้องอีกครั้ง ถึงจะอยากกลับบ้านมากเท่าไหร่แต่ก็ไม่อยากทำตัวเหมือนเด็ก เขารู้สึกไม่สบายใจแปลกๆยังไงก็ไม่รู้ แต่ก็คิดว่าตัวเองอาจจะคิดมากเกินไป ร่างโปร่งล้มตัวลงนอนอีกครั้งเพราะความอ่อนเพลียใช้เวลาไม่นานเขาก็หลับไป
“อื้ออ”
ชานยอลรู้สึกตัวขึ้นมาเพราะรู้สึกอยากเข้าห้องน้ำ ภายในห้องมีแสงสว่างจากหลอดไฟนีออนกระทบพนังห้องสีขาวสว่างจ้าจนคนที่เพิ่งตื่นจากความฝันต้องหลับตาลง กี่ทุ่มแล้วนะ ชายหนุ่มคิดในใจก่อนจะหันไปมองนาฬิกาที่แขวนอยู่บนพนังห้อง
“จะเที่ยงคืนแล้วเหรอ ทำไมคุณคริสยังไม่กลับมา หรือว่าทิ้งเราไว้อีกแล้ว”
ชายหนุ่มระแวงในใจ ทุกความเจ็บช้ำยังย้ำเตือนอยู่ในความทรงจำ เจ้าของใบหน้าหวานลุกขึ้นจากโซฟาอย่างเกียจคร้าน ขาเรียวก้าวไปเปิดประตูเดินไปเข้าห้องน้ำที่อยู่ไม่ไกลจากห้องทำงานของคริสนัก ทำธุระส่วนตัวเสร็จเรียบร้อยแล้วร่างโปร่งก็เดินออกมาตามทางเดิน กวาดตามองหาร่างของอี้ชิงจนทั่วแต่ก็ไม่เจอ
“หรือว่าอยู่ข้างล่าง”
ชายหนุ่มพึมพำกับตัวเอง เขาอยากกลับบ้านแล้วคุณคริสทำอะไรอยู่ ลงไปถามข่าวกับอี้ชิงด้านล่างคงจะไม่เป็นไร ชานยอลคิดเสร็จก็เดินลงบันไดไปทันที แล้วเขาก็เจออี้ชิงอย่างที่คาด ชายหนุ่มในชุดสูทกำลังนั่งอยู่บนโซฟาหน้าประตูห้องห้องหนึ่งของชั้นสอง ซึงเขาไม่รู้ว่ามันคือห้องอะไร อี้ชิงกำลังคุยกับลูกอย่างออกรสมีกระป๋องเบียร์อยู่ในมือ
“อี้ชิง”
“ห๊ะ..อ่ะ คุณชานยอล ลงมาทำไมครับ”
“ฉันอยากกลับบ้าน คุณคริสไปไหน ยังทำงานไม่เสร็จเหรอ”
ชานยอลถามออกไปด้วยสีหน้าแปลกใจเมื่อเห็นอาการของอี้ชิงที่ดูตกใจมากที่เห็นเขา ชายหนุ่มวางกระป๋องเบียร์ในมือลงยืนขึ้นเต็มความสูง มองใบหน้ายับยู่ของคนป่วยด้วยความไม่สบายใจคิดไม่ตกว่าจะแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้านี้ยังไงดี
“ยะ..ยังไม่เสร็จครับ คงอีกสักพัก”
“’งั้นเหรอ..งั้นอี้ชิง..”
ชายหนุ่มตอบออกไปอย่างตะกุกตะกัก หันหน้ามองหาทางหนีทีไล่เขาต้องพาคุณชานยอลที่กำลังยืนอยู่ออกไปจากตรงนี้ให้ได้ ร่างโปร่งพยักหน้าเข้าใจในสิ่งที่อี้ชิงพูด กำลังจะบอกให้อีกฝ่ายไปบอกคุณคริสว่าเขาขอตัวกลับก่อนให้อี้ชิงไปส่งเขาทีแต่เสียงอะไรบางอย่างที่หลุดลอดออกมาจากห้องก็ดังขึ้นดึงความสนใจจากเขาไปเสียก่อน
“อื้ออ อ่า~~”
“เสียงอะไร..?..เสียงใครเหรอ”
“คือ..คือ”
ชานยอลร้องถามขึ้นด้วยความแปลกใจเล่นเอาอี้ชิงถึงกับหน้าซีดเผือก ได้แต่อ้ำอึ้งไม่รู้ว่าจะตอบออกไปยังไง ร่างโปร่งเบิกตากว้างด้วยความตกใจประสบการณ์ที่ผ่านมาหลายครั้งต่อหลายครั้งทำให้เขาพอจะรู้ว่าเสียงเมื่อกี้คือเสียงอะไร แต่ประเด็นมันอยู่ที่ว่าใครและใครอยู่ในห้องนั้น ห้องที่มีอี้ชิงนั่งเฝ้าอยู่หน้าประตู
เหตุการณ์ที่บ้านพักต่างอากาศฉายซ้ำในสมอง คุณคริสกับเพ่ยฟาง เขาที่ยืนอยู่หน้าห้อง น้ำตาและความเจ็บปวด ความรู้สึกที่ของคนที่ถูกหักหลังยังฝังลึกในจิตใจ ไม่ใช่ มันต้องไม่ใช่แบบนั้น ชานยอลบอกกับตัวเอง ได้โปรด ....แต่พระเจ้าก็ไม่เคยเมตราคนอย่างเขา
“อี้ชิง ไปส่งคุณจิวซือ....”
เสียงคุณคริสตามด้วยเสียงปลดล็อก บานประตูที่เปิดออก ภาพของคุณคริสที่เดินออกมาห้องนั้น สภาพของร่างสูงที่ใครได้เห็นก็ต้องรู้ว่าเพิ่งไปทำอะไรมาทำให้หัวใจของเขาแทบหยุดเต้น แต่นั้นก็ไม่เท่ากับการได้เห็นผู้หญิงอีกคนเดินตามหลังร่างสูงออกมาจากห้องนั้นด้วย สภาพทั้งสองคนมองแวบเดียวก็รู้ว่าเพิ่งผ่านอะไรมา
“คุณ..คริส”
“ชานยอล”
คริสครางชื่อผู้ชายที่กำลังยืนตัวสั่นน้ำตานองอยู่หน้าประตูเสียงแผ่ว ผู้ชายที่ได้ชื่อว่าเป็นเมียของเขาอย่างถูกต้องตามกฎหมาย คนที่เขาไม่อยากให้มาเห็นตัวเขาในตอนนี้ที่สุด ทั้งที่พยายามปิดบังปกป้องชานยอลจากเกมส์ธุรกิจโสมมพวกนี้ แต่สุดท้ายเขาก็ปิดบังมันต่อไปไว้ไม่ได้
“ทำไม..ทำไม ฮึก”
“ชานยอล ..ชานยอล”
ชานยอลรู้สึกเหมือนแสงสว่าในโลกนี้กำลังจะดับลง ร่างโปร่งยืนช็อคค้างอยู่กับที่ แขนขาเย็นเชียบ คริสดึงร่างที่กำลังจะล้มเข้าสู่อ้อมกอด หันหน้าไปสั่งลูกน้องให้จัดการกับหญิงสาวที่ยืนทำตัวไม่ถูกอยู่ด้านหลัง ก่อนจะหันมามองร่างโปร่งที่กำลังเริ่มต้นร้องไห้สะอึกสะอื้นอยู่ในอ้อมแขน
“คุณมี..อะไรกับผู้หญิงคนอื่น..ทั้งที่ ฮึก ผมรอคุณอยู่หน้าห้อง ฮึก คริส คุณทำแบบนี้ได้ยังไง ทำได้ยังไง”
ร่างโปร่งทิ้งตัวลงในอ้อมอกหนาอย่างหมดแรงพูดออกมาแทบไม่เป็นภาษา ความรู้สึกทั้งหลายมันจุกแน่นในอก ในหัวมีแต่คำว่าทำไมและทำไมคุณคริสต้องทำร้ายกันถึงขนาดนี้
“กลับบ้านนะ เดี๋ยวฉันจะพานายกลับบ้าน”
“ฮื่อๆ”
พูดจบคริสก็ประคองร่างโปร่งให้เดินออกมาจากบริเวณนั้น เขาอยากจะออกไปจากร้านนี้ให้เร็วที่สุด ชายหนุ่มรับกุญแจรถจากลูกน้องที่นำรถมาให้มาถือไว้เอง ประคองร่างโปร่งที่เอาแต่ร้องไห้ให้เข้าไปนั่งในรถฝั่งคนขับ
คริสเคลื่อนรถออกไปช้าๆพยายามขับให้นุ่มนวลที่สุด เมื่อไหร่กันนะที่เสียงร้องไห้ของชานยอลทำให้เขารู้สึกเจ็บปวดได้ขนาดนี้ ทุกอย่างที่เกิดขึ้นในค่ำคืนนี้เป็นไปตามเกมส์ของธุรกิจ ความสัมพันธ์ชั่วคืนที่เกิดขึ้นจะทำให้การเจรจาทางการค้าของทั้งสองบริษัทเป็นไปได้ด้วยดีโดยไม่มีเงื่อนไขต่อรอง เพราะเขารู้ว่าฝ่ายหญิงพอใจในตัวเขามาก เขาไม่ได้ตั้งใจให้ทุกอย่างมันเป็นแบบนี้ เขาไม่ได้ตั้งใจจะทำร้ายชานยอลแม้แต่นิดเดียว
“คุณรู้มั้ย ทำไมผมถึงมีคนอื่น”
“…..”
เมื่อรถเคลื่อนออกมาไกลแล้วอยู่ๆคนที่เอาแต่นั่งร้องไห้ก็พูดขึ้น คริสหุบปากของตัวเองไว้ไม่โต้ตอบอะไรออกไปเพราะรู้ว่าเรื่องนี้ตัวเองผิดเสียเต็มประตูและที่สำคัญเขาอยากจะรู้ว่าชานยอลจะพูดว่ายังไงกับเรื่องที่เกิดขึ้น
“ เพราะคุณเป็นแบบนี้ยังไงล่ะ เลว เลวไม่เคยเปลี่ยน มักมากนอนกับคนอื่นไปทั่วเหมือนสัตว์เดรัจฉานไม่มีผิดแล้วยังมีหน้ามาว่าให้ผมอีก คนจัญไร!”
“ชานยอล!”
คริสร้องออกมาอย่างไม่เชื่อหู ไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะกล้าใช้คำพูดแบบนี้กับตนชายหนุ่มหักพวงมาลัยจอดรถชิดขอบถนน ความรู้สึกผิดที่มีอยู่ในอกถูกแทนที่ด้วยควันกรุ่นของความโกรธ
“ทำไม! หรือที่ผมพูดมามันไม่จริง เคยโทษตัวเองบ้างมั้ย! ว่าทำไมเมียถึงมีชู้ ถ้าคุณดีผมจะมีชู้ทำไม”
“ชานยอล!”
“ไม่ต้องมาเรียก….! คุณจำได้มั้ย ว่าคุณนอนกับใครมาบ้าง เอาผู้หญิงมากี่คน เอาผู้ชายมากี่คน เคยจำชื่อพวกนั้นได้มั้ย!”
“นายก็มีคนอื่นเหมือนกันนั้นแหละ!”
เรื่องราวผิดพลาดที่ผ่านมาถูกหยิบยกขึ้นมาใช้เป็นอาวุธทำร้ายกัน คริสคิดถึงเรื่องนั้นด้วยความเจ็บปวด แค่คิดว่าชานยอลไปนอนกับใครมาเขาก็เจ็บจนแทบรับไม่ได้ ร่างโปร่งส่ายหน้าทั้งน้ำตาพูดความจริงออกมาจนหมดเปลือก
“แต่ผมไม่เคยนอนกับใครนอกจากคุณ ได้ยินมั้ย! ผมไม่เคยนอนกับใครนอกจากคุณ ฮื่อออ”
“…………………..”
“กับพี่หลี่ฟงแค่กอดผมยังไม่เคยทำ จะจับมือผมยังต้องคิด ฮื่ออ แต่คุณไม่ใช่อย่างนั้น ฮื่ออ คุณมีใครต่อใครนับไม่ถ้วน ฮื่ออออออ”
“……………….”
“ที่ผมคบกับพี่หลี่ฟงเพราะเค้ารักผม เค้ารักผมคุณได้ยินมั้ย ฮื่อออ ผมแค่ต้องการความรักจากใครสักคน เวลาที่ผมเหงา ผมว้าเหว่ ผมอยากได้รับการปกป้องจากคนที่รักผม ความรักที่ผมไม่เคยได้มันจากคุณ ทำไมคุณถึงไม่รักผมเลย ทำไมถึงไม่รักผม ผมไม่ดีตรงไหน ฮื่ออ”
“...........เพราะฉันรักเพ่ยฟาง รักแค่เพ่ยฟางคนเดียวเท่านั้น”
สิ้นคำพูดนั้นหัวใจของเขาเหมือนถูกกระชากออกมาทั้งดวง ชานยอลกรีดร้องออกมาสุดเสียงยกมือขึ้นปิดหน้าตัวเองไว้ปล่อยโฮออกมาอย่างไม่คิดจะกลั้น พูดว่าไม่รักกันยังจะดีเสียกว่า พูดแบบนั้นมันเหมือนกับว่าหัวใจของคุณคริสไม่มีที่ว่างแม้แค่ปลายเล็บให้เขาได้ยืน ไม่มีเลย คุณคริสไม่เคยคิดที่จะรักเขาเลยสักนิด ชายหนุ่มคิดอย่างชอกช้ำใจ เอนตัวพิงกับเบาะ ฟุบหนาลงบนเข่าร้องไห้ออกมาปานจะขาดใจ
“ชะ..ชานยอล”
คริสมองร่างโปร่งที่กำลังก้มหน้าร้องไห้จนตัวสั่นเทิมด้วยความสะเทือนใจ หนึ่งเดือนที่ผ่านมาชานยอลดูบอบบางจนน่าใจหายเหมือนแก้วร้าวที่กำลังจะแตกเป็นเสี่ยงๆ อยากจะดึงร่างนั้นเข้ามากอด อยากจะบอกว่าขอโทษที่ยอมให้ความโกรธควบคุมอารมณ์จนเผลลอพูดแบบนั้นออกไปและตอนนี้เขาก็กำลังเจ็บปวดกับคำพูดของตัวเอง
“ชานยอล..ฉัน..”
คริสเอื้อมมือไปอย่างที่ใจคิด หวังจะดึงร่างนั้นเข้ามากอดอยากจะซับน้ำตาบนแก้มนวลให้เลือนหาย อยากจะกระซิบลงไปข้างหู ว่าอู๋ อี้ฟานคนนี้ก็รักปาร์ค ชานยอลไม่น้อยไปกว่าใคร แต่ชานยอลก็ปัดมันออกไปด้วยมือสั่นเทา ร่างโปร่งเงยหน้าที่เต็มไปด้วยคราบน้ำตาขึ้นพูดขอออกไปอย่างยากลำบากเพราะก้อนสะอื้นที่จุกอยู่ในอก
“อย่า ..อย่าจับ ได้โปรด อย่ายื่นมือคู่นั้นมาทำร้ายผมอีกเลย”
TBC.........................
สวัสดีค่ะ มาอัพแล้วนะคะ ช้าไปไหมเอ้ยย ฮ่าๆๆ เพิ่งสอบเสร็จค่ะ เลยวุ่นวายนิดหน่อย ขอบคุณทุกกำลังใจ ทุกแรงเชียร์ตอนที่แล้วนะคะ ฮี่ๆๆ
แดงเดือดที่มีความสุขสุดๆ
ตอนนี้เราไม่มีอะไรจะพูดมาก บอกได้แค่ว่าสำหรับเราแล้ว เราสงสารชานยอลสุดๆ แต่พี่คริสไม่ได้ตั้งใจนะคะ จริงๆ ฮื่อออ
พรุ่งนี้อาจจะมาอัพให้อีกตอนนะคะ ถ้าา เชลซี แพ้ ฮ่าๆๆ #บนค่ะ ช่วยๆกันนะคะ ถ้าอยากให้อัพ เอิ๊กก อ๊ากก
อ่านตอนนี้จบ อยากด่าใครด่าไปนะคะ แต่อย่าด่าคนแต่ง ฮื่อออ
ขอบคุณค่ะ
ทูบีคอนตินิ๊วววววววว
ร่วมสกรีมในทวิตรบกวนติด #DDT ขอบคุณค่ะ
ความคิดเห็น