ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [FIC EXO] ::Distorted DayTime ::KrisYeol

    ลำดับตอนที่ #68 : CHAPTER 65

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 6.1K
      21
      9 ก.พ. 58





    Distorted Daytime






    ถ้าเขาจะทำคงทำไปตั้งนานแล้วล่ะ



    ชานยอลพูดกับเพื่อนสนิทที่ยืนทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้อยู่ปลายเตียง แบคฮยอนเดินเอาถ้วยรังนกไปเก็บแล้วหันมาถามเพื่อนเรื่องที่ตัวเองข้องใจ ถึงแม้ว่าอยากจะให้คนป่วยได้นอนพักแล้วก็ตาม



    พูดแบบนี้แสดงว่านายยอมให้อภัยผู้หญิงคนนั้นแล้วใช่มั้ย



    ไม่รู้สิ บางทีฉันก็เฉยๆ มันเจ็บจนชินแล้วแบคฮยอน แต่บางทีพอนึกขึ้นได้ ฉันก็นึกชังในสิ่งที่เขากับ..ทำกับฉัน



    ฉันไม่มีใครเลยนะแบคฮยอน ในบ้านหลังนั้น ฉัน...ฮึก



    เอ้า พอๆ ฉันเข้าใจ อย่าร้องไห้เลย นอนซะนะ พักเยอะๆ จะได้หายเร็วๆ



    แบคฮยอนรีบห้ามไว้เมื่อเห้นคนที่นั่งอยู่บนเตียงกำลังจะเริ่มต้นร้องไห้อีกครั้ง เขาเข้าใจดีว่าเพื่อนของเขาคงเหงามากจะพูดจะคุยกับใครก็ไม่ได้ สามีก็ไม่เคยคิดที่จะรับฟังซ้ำแล้วเพื่อนของเขายังก้าวพลาดทำในสิ่งที่ไม่น่าให้อภัยจนถูกทำร้ายต้องมานอนที่โรงพยาบาลแบบนี้ คิดแล้วก็รู้สึกสงสารจากคุณหนูชานยอลที่เคยมีทุกอย่างเพียบพร้อมทั้งรูปทรัพย์แต่ตอนนี้กลับมีเพียงคนใช้เท่านั้นที่คอยให้คำปรึกษา



    แล้วแกล่ะ?”



    ฉันก็นอนที่นี้ไง ไม่เป็นไรน่าฉันนอนได้นิ่วเรียวชี้ไปยังโซฟาที่ตั้งอยู่มุมห้อง หันไปยิ้มให้เพื่อนที่นั่งทำเจื่อนอยู่บนเตียงให้คนป่วยได้สบายใจ



    แบคฮยอน ขอบใจนะ ขอบใจนายมากจริงๆ






    แล้ววันที่ชานยอลต้องออกจากโรงพยาบาลก็มาถึง ชายหนุ่มร่างเล็กยืนอยู่หน้าตู้เสื้อผ้าสำหรับญาติคนไข้ แบคฮยอนกำลังเก็บเสื้อผ้าของตัวเองลงในกระเป๋าเขาเองก็ต้องกลับบ้านเหมือนกันถึงแม้ว่าจะเป็นห่วงคนที่นั่งตัวสั่นอยู่บนเตียงเพียงใดก็ตาม



    ชานยอลเป็นอะไรมั้ย? หนาวเหรอ หรือไม่สบาย



    ปะ..เปล่า



    แบคฮยอนถามเพื่อนด้วยความเป็นห่วงเมื่อเห็นร่างโปร่งนั่งตัวสั่นเหมือนกำลังเป็นไข้อยู่บนเตียง ตั้งแต่วันแรกที่เขามาถึงชานยอลก็มีไข้อยู่ตลอดเพิ่งมาหายก็เมื่อสองวันก่อนนี้เอง เขากลัวว่ามันจะกลับมาเล่นงานเพื่อนเขาอีกครั้ง



    แล้วเป็นอะไร ตัวสั่นเชียว



    แบคฮยอน ฉัน ฉันกลัว ฉันไม่อยากกลับบ้าน ฮื่อ



    กลัวอะไร? อ่า โธ่ ไม่ต้องกลัวนะ ไม่ต้องกลัว



    ตอนแรกเขาก็ไม่เข้าใจนักว่าเพื่อนของเขากลัวอะไร แต่เมื่อนึกขึ้นได้ว่าเพื่อนของเขากำลังจะกลับไปเผชิญกับอะไรเขาก็เข้าใจมันทันที ชายหนุ่มดึงร่างโปร่งเข้ามากอดไว้ด้วยอ้อมแขนทั้งสองข้าง ชานยอลซบหน้าลงบนไหล่บาง ร้องไห้ตัวสั่น



    ชานยอล ฟังฉันนะ กลับบ้านไปแล้วพยายามคุยกับคุณคริส คุยกับเขาดีๆ นายก็รู้ใช่มั้ย? ว่าเขาชอบอะไร ชอบให้นายทำแบบไหน



    ฮึก..”



    บอกเขาว่านายกับพี่หลี่ฟงไม่ได้มีอะไรเกินเลยกันนอกจากคำว่าเพื่อน นายแค่ไปเจอเขาตอนเรียน เลยสนิทกัน นายไม่กล้าบอกคุณคริสเพราะกลัวว่าคุณคริสจะโกธร บอกไปว่านายโมโหเลยพูดแบบนั้นกับเขา



    แบคฮยอน ฮึก…”



    ชานยอลดันแผ่นอกเพื่อนให้ห่างจากตัวเมื่อได้ยินอีกคนพูดถึงเรื่องนั้น เขายังจำทุกคำพูดของตัวเองได้ดี ตากลมปิดลงช้าๆ น้ำตาไหลออกมาเป็นสาย



    เพราะฉันโกรธ ฉัน..เลยพูดแบบนั้นออกไป ฉันเผลอพูดกับคุณคริสว่าฉันมีอะไรกับพี่หลี่ฟงแล้ว ฮื่อออ



    อะไรนะ!!”



    แบคฮยอนร้องออกมาอย่างตกใจเมื่อได้ยินสิ่งที่ชานยอลเล่า นี้มันอะไรกัน ชานยอลทำแบบนั้นจริงๆเหรอ เพื่อนเขาถลำลึกลงไปขนาดนั้นเลยเหรอ



    แกพูดจริงเหรอชานยอล แกนอนกับพี่หลี่ฟง โอ้ ไอ้..



    ไม่ ไม่ ฉันไม่ได้นอนกับเขา ฮื่ออ ฉันดมโหเลยพูดแบบนั้น ฮื่ออ คุณคริสโกรธ คุณคริสโกรธฉัน


    ไม่โกรธก็บ้าแล้วชานยอล โธ่ ทำไมแกโง่แบบนี้



    ชายหนุ่มร้องออกมาด้วยความผิดหวัง ทำไมชานยอลถึงก้าวหลาดซ้ำอยู่แบบนี้ ไปพูดแบบนั้นกับคนที่กำลังโมโหพร้อมจะเชื่อทุกอย่างที่ชานยอลพูดอย่างคุณคริสก็ต้องเชื่ออยู่แล้วสิ มิน่าถึงได้ทำร้ายเพื่อนของเขาปางตายแบบนี้



    ฮื่อออออ



    หยุดร้องแล้วฟังฉันนะ ไปบอกเขา อธิบายให้เขาฟังว่าที่พูดแบบนั้นเพราะแกโมโห



    ไม่ เขาไม่ฟังฉันหรอก เขาไม่ฟังฉันฮื่ออ



    แต่แกต้องพูด ชานยอล ไม่ว่าเขาจะฟังหรือไม่ก็ตาม ไม่อย่างงั้น เขาจะคิดว่าแกทำอย่างนั้นจริงๆ แกต้องเอาความบริสุทธิใจเข้าแลก เข้าใจมั้ย



    แบคฮยอนกำชับเพื่อนเสียงเข้ม ถึงจะไม่เชื่อยังไงก็ต้องพูด ดีกว่าให้เขาเข้าใจผิดแบบนี้ ชานยอลพยักหน้ารัว พูดกับเพื่อนเสียงสั่น ถึงแม้ว่าจะไม่มั่นใจนักก็ตาม



    ฉันจะพยายาม



    ดีมาก เดี๋ยวฉันไปตามแท็กซี่ให้นะ



    พูดจบร่างเล็กก็เดินห่างออกไปจากเตียงหยิบกระเป๋าขึ้นมาถือไว้ เขายังไม่ได้รับการติดต่อจากทางบ้านตระกูลอู๋เลยตั้งแต่วันนั้น และเขาเองก็ไม่คิดจะโทรไป คนพวกนั้นคงไม่รู้ด้วยซ้ำว่าชานยอลออกจากโรงพยาบาลวันนี้ ใจจริงนั้นเขาเองก็อยากพาเพื่อนกลับบ้านที่เกาหลีมากกว่า แต่มันคงเป็นไปไม่ได้ แค่ได้ไปส่งเองก็ยังดี



    อะ ลุงถัง



    สวัสดีครับ คุณคริสผมมารับคุณชานยอลกลับบ้านครับ



    ละ ลุง



    ชานยอลสะดุ้งกำผ้าปูเตียงไว้แน่นเมื่อเห้นว่าใครเปิดประตูเข้ามาในห้อง และยิ่งได้ยินชื่อที่หลุดมาจากปากของคุณลุงพร้อมกับรอยยิ้มเล็กน้อยที่มุมปากยิ่งทำให้เขาตื่นกลัว คุณคริสให้ลุงถังมารับเขางั้นหรือ



    ฮึก...



    ชานยอล ฮ่าๆ ดีสิ ลุงถังมารับ นายจะได้ไม่ต้องนั่งแท็กซี่กลับไง ป่ะ ลุก



    ร่างเล็กก้าวเท้าเข้ามาหาเพื่อนสนิทที่นั่งปากขอสั่นอยู่บนเตียง มือเรียวยกขึ้นบีบไหล่บางไว้ส่งผ่านกำลังใจไปให้ ชานยอลจับมือเพื่อนไว้แน่น ทั้งที่ไม่เคยสนใจ ไม่เคยให้ใครมาเยี่ยม คุณคริสต้องคิดจะทำอะไรเขาแน่ๆ ไม่งั้นไม่ให้ลุงถังมารับเขาหรอก



    ไม่เป็นไรนะ ค่อยๆลุก ให้ช่วยมั้ย



    แบคฮยอนเอ่ยถามเพราะถึงแม้ว่าอาการป่วยไข้จะหายไปแล้วแต่ตามเนื้อตัวของชานยอลก็ยังมีรอยฟกช้ำอยู่บ้าง แถมเฝือกอ่อนที่ข้อมือข้างขวาก็ยังไม่ถูกถอดออก หมอนัดให้มาถอดอาทิตย์หน้า หวังว่าคุณคริสคงไม่ใจร้ายให้ชานยอลนั่งแท็กซี่มาโรงพยาบาลคนเดียวหรอกนะ



    ไหว ไม่เป็นไร



    ชานยอลพูดเสียงแผ่วจับมือของเรียวของแบคอยอนไว้ค่อยๆก้าวเท้าลงจากเตียง ความเจ้บแล่นขึ้นมาตามแผ่นหลัง มันยังแสดงอาการอยู่ไม่หาย ชานยอลเงยหน้าขึ้นสบตากับผู้มายืน ดวงตากลมใสมีแววหวาดกลัว จนคนมองต้องรีบพูดออกมาให้คนป่วยได้สบายใจ



    คุณชานยอลไม่ต้องห่วงนะครับ กลับไปตอนนี้คุณคริสไม่อยู่บ้านครับ



    ขะ..เขาไปไหน ไปต่างจังหวัดเหรอชายหนุ่มถามขึ้น ประกายความหวังลุกโชน แต่มันก็ดับลงเมื่อได้ยินคำตอบจากชายสูงวัย



    เปล่าครับ แค่ไปทำงาน ตอนเย็นก็คงกลับ



    “…………..”



    ไม่เป็นไรหรอกชานยอล ถ้าเขาทำร้ายแก แกก็ร้องดังๆให้คุณยายกับเพ่ยฟางช่วย หรือไม่ก็โทรมาหาฉัน ฉัน
    จะแจ้งตำรวจไปจับมัน



    แบคฮยอนพูดขึ้นอย่างอาฆาตหวังให้เพื่อนสบายใจ ชานยอลส่ายหน้าจนเส้นผมปลิว น้ำตาปริมขอบตา รู้ดีว่าไม่มี ไม่มีใครช่วยเขาได้สักคน



    ไม่ ไม่มีใครช่วยฉันได้สักคน แบคฮยอน ฉันไม่มีดทรศัพท์ มันพังไปแล้ว ฮื่ออ



    โธ่..ช..



    คุณชานยอล คุณแบคฮยอนครับ รีบไปเถอะครับ เดี่ยวผมต้องโทรรายงานคุณคริสเมื่อคุณถึงบ้าน เดี๋ยวท่านจะสงสัย



    ลุงถังพูดขึ้นพรางยกนาฬิกาข้อมือขึ้นดู ใบหน้าเหี่ยวย่นมีแววหวั่นวิตกอย่างเห้นได้ชัด ชานยอลถึงกับหันไปมองหน้าเพื่อน แบคอยอนถอนหายใจออกมาดังพรืด นี้มันบ้าถึงขนาดนี้เลยเชียวเหรอ



    ไปเถอะลุง ฝากเพื่อนผมด้วยนะ อ้อนี้ เบอร์ผม มีอะไรเกิดขึ้นกับชานยอลรบกวนลุงช่วยโทรบอกผมด้วย

    นะครับ
    อ้อ ผมขอเบอร์บ้านหลังนั้นไว้ด้วยนะครับ



    ครับๆ รีบไปเถอะครับ



    ชานยอลหันมามองหน้าเพื่อนเลิกลัก แบคฮยอนพูดแบบนี้หมายความว่าไงจะไม่ไปส่งเขางั้นเหรอ ร่างเล็กดันหังเพื่อนให้เดินออกไปข้างหน้าตามหลังลุงถังไป บีบมือของเพื่อนรักไว้เบาๆเข้าใจว่าชานยอลคิดอะไรอยู่



    ฉันอยากไปส่งแกนะชานยอล อยากไปมาก แต่เครื่องจะออกอีกั่วดมงครึ่ง ฉันเลื่อนไม่ได้อีกแล้วชานยอล ขอโทษนะ



    ไม่เป็นไร ฮึก เข้าใจ



    เพราะแบคฮยอนต้องเลือนไฟท์บินมาแล้วครั้งหนึ่งเพราะต้องเฝ้าเขาที่ดรงพยาบาล ทั้งที่ตั้งใจว่าจะอยู่ที่จีนแค่3วัน แต่กลับต้องอยู่ถึง1อาทิตย์ แค่นี้เขาก็เกรงใจเพื่อนมากแล้ว ชานยอลเดินออกไปจากห้องพักช้าๆ น้ำตายังคงปริ่มอยู่ที่หางตา แต่มันก้ไม่ยอมไหล มือของเขาเย้นจนเพื่อนสัมผัสได้



    เข้มแข็งไว้นะชานยอล เดี๋ยวมันก็ผ่านไป



    ชานยอลนั่งนิ่งอยู่บนเบาะรถ ก้มหน้าลงมองมือบนตัก เม้มปากเข้าหากันแน่น  ภายในรถปราศจากบทสนทนา มีเพียงสายตาของคุณลุงถังที่คอยชำเลืองมองเขาเป็นระยะ ชายหนุ่มสูดลมหายใจเข้าปอด ควบคุมเสียงไม่ให้สั่น ใกล้ถึงคฤหาสน์ตระกูลอู๋เข้ามาทุกทีแล้ว



    ลุงครับ ชานยอลถามอะไรหน่อยได้มั้ย



    อะไรเหรอครับ



    คุณคริส....เป็นยังไงบ้างครับ เขาหายโกรธผมบ้างหรือยัง?”



    ...อันนี้ผมก็ไม่แน่ใจครับ คุณคริสเอาแต่เงียบไม่ยอมพูดยอมจากับใคร แม้แต่เพ่ยฟางก็เข้าหน้าไม่ติด ผมว่า

    คุณ..น่าจะรู้จักคุณคริสดี



    ครับ ขอบคุณมากครับลุง



    เพียงแค่ได้ยินประโยคบอกเล่าจากปากลุงถังเขาก็รู้แล้วว่าสถานการณ์ที่บ้านเป็นอย่างไร ชายหนุ่มกำมือเข้าหากันแน่น รู้สึกอึดอัดจนหายใจไม่ออก เขาอยากจะอาเจียนเหลือเกิน กายบางสั่นสะท้านทิ้งตัวพิงกับเบาะหนัง ร้องไห้เงียบๆคนเดียว




    แล้วประตูคฤหาสน์ตระกุลอู๋ก็ปรากฏสู่สายตา ชานยอลมองรั้วเหล็กสีทองราวกับว่ามันเป็นกรงขัง ประตูเหล็กดัดเป็นรูปสวยงามแต่มันกลับเป็นประตูนรกสำหรับเขา ชายหนุ่มกำชายเสื้อตัวเองไว้แน่น หอบหายใจถี่ หวาดกลัวจับใจ รถค่อยๆเคลื่อนตัวเข้าไปข้างในช้าๆ ก่อนจะจอดสนิทลงที่หน้าประตูบ้าน ร่างท้วมของคุณยายยืนรอเขาอยู่ ชานยอลเปิดประตูด้วยแขนข้างซ้าย น้ำตาไหลพราก พุ่งตัวเข้าสู้อ้อมกอดอบอุ่นของคุณยายทั้งน้ำตา



    คุณชานยอล คุณชานยอลขา



    โฮ คุณยาย คุณยายของชานยอล ฮื่ออออ



    ชานยอลกอดร่างของคุณยายไว้แน่นทรุดตัวคุกเข่ากับพื้น ร้องไห้สะอื้นหนัก พร่ำพูดคำว่าขอโทษไม่รู้จักจบสิ้น ความรู้สึกหลากหลายประดังประเดเข้ามาในดวงใจบอบช้ำ เขารู้สึกผิดที่โกหกคุณยาย รู้สึกผิดที่ทำให้คุณยายผิดหวัง เขาอายตัวเองเหลือเกิน



    อย่าร้องนะคะ ฮื่ออ คุณเจ็บไหม เจ็บไหมคะ ฮื่ออ



    เจ็บ ฮื่ออ ชานยอลเจ็บเหลือเกินยาย เจ็บเหลือเกิน ฮื่ออ



    ร่างโปร่งตอบเสียงขาดหาย ยังคงกอดร่างของคุณยายไว้ร้องไห้ไม่ยอมหยุด คุณยายหลี่เองก็เช่นกัน ยิ่งได้เห็นใบหน้าหวานที่เคยสดใสแต่ตอนนี้กลับหม่นหมองไร้สีสัน ร่างกายที่เคยผอมอยู่แล้วกลับซูบผอมลงกว่าครั้งก่อน บ่งบอกว่าจิตใจของเจ้าของร่างเป็นเช่นไร



    ทำไม ฮื่ออ ทำไมยายไม่ไปหาชานยอลเลย ไม่ไปหาเลย ฮื่อออ



    ชายหนุ่มถามออกไปทั้งๆที่รู้คำตอบดีอยู่แล้ว เขาแค่อยากมั่นใจว่าที่คุณยายไม่ได้ไปหาเขาเพราะคุณคริสสั่งจริงๆ ไม่ใช่เพราะว่าโกรธเขาจนไม่อยากเห็นหน้า เขายังจำได้เมื่อครั้งเขาหนีกลับเกาหลี จำได้ว่าคุณยายโกรธเขาแค่ไหน



    ยายไปไม่ได้ค่ะ ฮึก คุณคริสไม่ให้ยายไป เพ่ยฟางก็จะไปเยี่ยมคุณแต่คุณคริสก็ไม่ให้ไป เธอขู่ไว้ ขู่ว่าจะทำร้ายคุณ ฮื่ออ คนดีของยาย อย่าร้องนะคะ



    ถึงแม้จะรู้ว่าคุณชานยอลจะต้องร้องไห้หนักกว่าเดิมถ้าหล่อนบอกความจริงไป แต่หล่อนก้อยากอธิบายให้เด็กคนนี้รู้ว่าที่หล่อนไม่ได้ไปเยี่ยมที่โรงพยาบาลไม่ใช่เพราะว่าไม่อยากไปแต่เพราะไปไม่ได้ต่างหาก เมื่อเหี่ยวย่นดึงรั้งร่างโปร่งที่นั่งคุกเข่าร้องไห้อยู่กับพื้นไม่ยอมไปไหนให้ลุกขึ้น ใช้มือซับน้ำตาออกจากดวงหน้ามนแผ่วเบา แต่น้ำตาของตัวเองก้ยังคงไหลไม่ต่างกัน



    กลับมาก็ดีแล้ว หายเจ็บแล้วใช่มั้ยคะ ฮึก อยากกินอะไรมั้ย ฮึก เดียวยายทำให้



    ยาย ฮื่ออ ชานยอลขอโทษ ชานยอลขอโทษ ฮื่อ ผมขอโทษจริงๆครับยาย



    ยิ่งได้ยินคำพูดอ่อนโยนคอยถามอาการเจ็บป่วยด้วยความเป็นห่วงเป็นใยยิ่งทำให้เด็กหนุ่มรู้สึกผิดมากขึ้น ชานยอลร้องไห้โฮเหมือนทำนบน้ำตาแตก กอดร่างของคุณยายไว้แน่น สำนึกผิดอย่างที่สุดว่าตัวเองทำอะไรแย่ๆไว้บ้างแต่คุณยายก็ไม่ถาม



    ไม่เป็นไรนะคะ ฮื่ออ รู้ว่าผิดก็ดีแล้ว อย่าทำอีกนะคะ อย่าทำ ฮื่ออ



    ฮื่ออ ไม่ทำแล้ว ไม่เอาแล้ว ฮื่ออ



    คะ..คุณชานยอล



    ชานยอลเงยหน้าขึ้นมาตามเสียงเรียก เป็นเพ่ยฟางที่เพิ่งกึ่งเดินกึ่งวิ่งพาท้องอุ้ยอ้ายออกมาจากหลังบ้าน ดวงตาสวยมีน้ำใสเคลือบอยู่ หญิงสาวยืนจับมือของตัวเองไว้ ก่ำกลืนก้อนสะอื้นลงคอ คุณชานยอลกลับมาแล้ว หล่อนอยากจะเข้าไปปลอบคนที่ยืนน้ำตาเต้มหน้าหลบหลังคุณยายอยู่แต่ก็ไม่กล้า ยิ่งเห็นสายตาหวาดระแวงของอีกฝ่ายก้ทำให้หล่อก้าวขาแทบไม่ออก



    กลับมาแล้ว ฮึก เหรอคะ



    ชานยอลก้มหน้านิ่งเมื่อหญิงสาวเอ่ยปากถามด้วยน้ำเสียงสั่นไหว รู้สึกอายอย่างบอกไม่ถูก คำพูดของคุณคริสลอยเข้าหู เขาเคยด่าเพ่ยฟางว่าเป็นชู้กับคุณคริส แต่เขากับพี่หลี่ฟงก็ทำตัวไม่ต่างกัน ร่างโปร่งก้มหน้าลงมองพื้นปล่อยให้น้ำตาไหลออกมากัดริมฝีปากตัวเองไว้แน่น เขาเคยว่าให้เพ่ยฟางยังไงตอนนี้เขาเองก็ไม่ต่างกัน บางทีอาจจะชั่วกว่าด้วยซ้ำ



    คุณชานยอลคะ ฮื่ออ เจ็บมั้ยคะ เจ็บมากมั้ย



    ไม่..อึก ไม่เป็นไร



    สุดท้ายก็เป็นหญิงสาวที่ทนไม่ไหวสาวเท้าเข้ามาหาร่างโปร่งที่ยืนก้มหน้าตัวสั่นร้องไห้อยู่เงียบๆ มือบางแตะเข้าที่ปลายศอกข้างขวา ร้องไห้ออกมาด้วยความสงสาร วันนั้นหล่อนเองก็ไม่ได้เห็นสภาพคุณชานยอลที่ลุงถังเป็นคนอุ้มลงมาชัดนัก แต่ก็ไม่คิดว่าจะเจ็บหนักถึงขนาดนี้ 



    ไม่เป็นไรก็ดีแล้ว ขึ้นไปพักนะคะ อยากกินอะไรหรือเปล่า เดี๋ยวเพ่ยฟางทำให้คุณเอง



    ไม่เป็นไร ฉันไม่หิวชานยอลปฏิเสธความหวังดีของอีกฝ่าย ยิ้มแหยไปให้ยกมือขึ้นเช็ดน้ำตาตัวเอง



    ขึ้นไปพักข้างบนนะคะ เดี๋ยวยายพาไป



    ครับ ฮึก



    ถึงจะตอบไปอย่างนั้นแต่เอาเข้าจริงเพียงแค่เดินผ่านประตูบ้านเข้าไปข้างในเขาก็ก้าวขาไม่ออก บรรยากาศเย็นยะเยือกจนน่าขนลุกทั้งที่ข้างนอกแดดแรงจัด ชายหนุ่มยกมือข้างซ้ายขึ้นกอดตัวเองไว้ กวาดตามในบ้านอย่างหวาดกลัว



    ไม่เป็นไรนะคะ เชื่อยาย



    ชานยอลหันไปมองคุณยายที่ยืนอยู่ข้างเขาทั้งน้ำตา เพ่ยฟางเองก็เดินตามมาไม่ห่าง ชายหนุ่มเดินขึ้นบันไดบ้านช้าๆ รู้สึกว่าทุกก้าวย่างช่างลำบากเหลือเกิน แล้วเขาก็มาหยุดยืนที่หน้าประตูห้องนอนของตัวเอง ประตูถูกเปิดออกด้วยฝีมือของหญิงสาวในชุดคลุมท้อง เพ่ยฟางส่งยิ้มให้เขา พร้อมกับเบี่ยงกายออกห่างให้เขาเดินเข้าไปในห้องได้อย่างสะดวก



    อึก



    ร่างโปร่งกลืนน้ำลายลงคอ ก้าวเท้าเข้าไปในห้องทีล่ะก้าว ภายในห้องมีเพียงแสงสว่างจากดวงอาทิตย์ ตากลมกวาดมองรอบตัว โต๊ะเครื่องแป้งอันเก่าที่พังไปแล้วถูกแทนที่ด้วยโต๊ะอันใหม่ เช่นเดียวกันกับดคมไฟบนหัวเตียงและข้าวของอีกหลายชิ้นที่ไม่คุ้นตา ชายหนุ่มหลับตาลงช้าๆ เดินตรงไปนั่งบนเตียงนอนหลังใหญ่ด้วยขาสั่นเทา รู้สึกเหมือนกำลังหูฟาด เขาได้ยินเสียงร้องไห้ของตัวเอง



     “อยู่คนเดียวได้มั้ยคะ? ให้ยายอยู่เป็นเพื่อนมั้ย



    ไม่เป็นไรครับยาย ผมอยู่คนเดียวได้ ขอบคุณนะครับยาย



    เมื่อได้ยินอย่างนั้นแล้วคุณยายหลีกับเพ่ยฟางจึงเดินออกไปจากห้องก่อนออกไปก็ไม่วายบอกให้เขาลงไปรับประทานอาหารเพราะต้องกินยาที่โรงพยาบาลจัดให้ ชายหนุ่มมองทั้งสองเดินออกไปจากห้องจนลับตา ก่อนจะหันหลังให้ประตูห้องนอนมองออกไปนอกหน้าต่างยกมือขึ้นกอดตัวเองไว้แน่น รู้สึกเปล่าเปลี่ยวใจเหลือเกิน



    นานเท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้ที่เขานั่งอยู่บนเตียงคนเดียวในห้อง รู้เพียงแต่แสงสว่างของกลางวันค่อยๆจางหายไปภายในห้องนอนมืดสนิท ร่างโปร่งยั่งคงนั่งอยู่ที่เดิมตากลมหม่อนหมองมองออกไปนอกหน้าต่าง ไหล่บางห่อเข้าหากัน ปล่อยความคิดล่องลอยไปไกล แล้วเสียงประตูห้องนอนก็ถูกเปิดออก พร้อมกับแสงสว่างจากภายนอกสาดเข้ามาในห้องก่อนจะดับลงอีกครั้งพร้อมกับประตูที่ถูกปิดลง



     กลิ่นน้ำหอมลอยเข้ามาในจมูก น้ำหอมที่เขาขำมันได้ดี น้ำหอมกลิ่นโปรดของผู้ชายคนนั้น



    คุณคริส



    ร่างโปร่งเกร็งตัวขึ้น วางมือลงบนฝูกที่นอนกำผ้าปูไว้แน่น ร่างกายเขากำลังสั่นจนรู้สึกได้ เขาไม่กล้าหันไปมอง ได้ยินเพียงเสียงฝีเท้าเดินเข้ามาใกล้ก่อนที่จะหยุดลงชั่วครู่ แล้วมันก็เริ่มดังขึ้นอีกครั้ง อีกครั้ง ชานยอลกลืนน้ำลายลงคอ น้ำตาไหลพราก ตัวสั่นเหมือนเจ้าเข้า รู้สึกเหมือนร่างโดนสตาฟไว้ด้วยน้ำแข็ง แล้วร่างของคุณคริสก็ยืนอยู่ตรงหน้าเขา



    ผ่านไปหลายนาทีแต่เขากลับรู้สึกว่ามันช่างยาวนานเหลือเกิน เขานั่งห้อยขาอยู่บนเตียง คุณคริสยืนอยู่ตรงหน้าแต่ก็ไม่พูดอะไรออกมา ไม่ได้ทำร้ายเขาอย่างที่เคย ชายหนุ่มค่อยๆเงยหน้าขึ้นมาจากอก ไล่ระดับสายตาขึ้นมาช้าๆจนสบเข้ากับดวงตาสีเหล็กกล้า มันแวววับน่ากลัว



    ฮึก ฮึก



    ชานยอลรู้สึกเหมือนร่างของเขาถูกตรึงไว้ด้วยสายตานั้น ร่างโปร่งสั่นสะท้าน น้ำตาไหลอาบแก้ม เรียนรู้จากเหตุการณ์หลายๆอย่างที่ผ่านมา ยิ่งเงียบยิ่งน่ากลัว หมดแล้วซึ่งหนทาง ยกมือข้างที่ไม่เจ็บขึ้นมาแนบอก ไหว้ขอร้องทั้งน้ำตา



    คะ.คุณคริส ผะ.ผม ขะ.โทษ ฮึก ขอโทษ ผมขอโทษ ฮื่ออ



    “………”



    ผมไหว้ล่ะ อย่าทำ ฮึก อะไร  ผมเลย



    ชานยอลพูดด้วยน้ำเสียงกระท่อนกระแท่น น้ำตานองเต็มหน้า หวาดกลัวสุดขีด ความเจ้บปวดเมื่อครั้งก่อนยังคงหลอกหลอนเขาอยู่ เสียงกรีดร้องซ้ำๆของตัวเองยังดังก้องในสมอง แต่เขาก็ได้รับเพียงดวงตาเย้นชากลับมา



    ฮึก อย่าทำอะไรผมเลย



    ชานยอลมองร่างสุงที่ยืนอยู่ตรงหน้า ยังคงพร่ำขอโทษทั้งน้ำตา ยกมือข้างเดียวขึ้นไหว้อย่างน่าเวทนา แล้วตากลมก็ต้องเบิกโพรงอย่างตื่นตะหนก เมื่อเห็นว่าคนที่เอาแต่ยืนนิ่งไม่ยอมพูดอะไรกำลังงทำอะไรบางอย่างกับซิบกางเกงของตัวเอง คริสดึงกางเกงแสลคเนื้อดีของตัวเองออกจากร่าง โยนมันทิ้งลงบนห้องตามด้วยชั้นในที่ต่อมาก็มีสภาพไม่ต่างกัน ก้าวเท้าเข้าไปหาร่างที่กำลังนั่งสั่นอยู่บนเตียงช้าๆ



    คะ..คุณคริส ได้โปรด ได้โปรด















    ......................................ตัดค่ะ แปะเมล ในทวิตเตอร์ หรือในหน้าเพจนะคะ อย่างใดอย่างหนึ่งนะคะ 


















    TBC...................







    สวัสดีค่ะคนอ่าน ปิ๊กหาไปนานเลยเพราะงานยุ่ง ขอโทษด้วยนะคะ

    มาลงให้อีกตอนแล้ว พี่คริสยังคงความโหดและบ้า มันบ้ามากๆอ่า คือบางทีที่เราลงช้าเพราะสงสารชานยอลจนแต่งไม่ออก หวังว่าทุกคนคงเข้าใจนะคะว่ามันเป็นแค่ฟิค แหะๆ 

    ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่าน เข้ามาทวง เข้ามาชม หรือติ ขอบคุณมากจริงๆค่ะ



    ขอให้มีความสุขในการอ่านฟิคนะคะ 






    ขอบคุณค่ะ






    ร่วมสกรีมในทวิตรบกวนติด #DDT




    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×