คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #63 : CHAPTER 60
Distorted Daytime
ชานยอลปิดประตูรถคันใหม่ของตนเสียงดังปัง พรางกระทืบเท้าเดินออกมาจากบริเวณนั้น ใบหน้าหวานบูดบึ้งเพราะอารมณ์ที่เริ่มตึงโดยมีร่างสูงเดินลงมาด้วยสีหน้าที่ต่างกัน คริสเดินลงมาจากรถด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้มมองตามแผ่นหลังโปร่งเข้าบ้านไปเงียบๆ
จะไม่ให้เขาอารมณ์เสียได้ยังไงกันก็หลังจากที่เขาลงทุนหอมแก้มขอบคุณไปแล้วหลังจากนั้นคุณคริสก็ทำท่าเหมือนจะกดเขาอีกรอบ ทั้งที่เขาบอกแล้วเชียวว่าขอรอบเดียวพอแต่คุณคริสก็จะเอาให้ได้ตื้ออยู่อย่างนั้น จนเขาต้องต่อรองให้เหลือแค่การจูบ ถึงจะขอไปแบบนั้นแต่คุณคริสก็เล่นเอาเขาปากแทบเปื่อย จนต้องรีบผลักร่างสูงให้ถอยห่างแล้ววิ่งหนีลงมาแบบนี้แหละ
“คุณชานยอล เอ่อ เป็นอะไรหรือเปล่าคะ?”
ร่างบางที่เพิ่งเดินออกมาจากบ้านถามขึ้นเมื่อเห็นคุณชานยอลเดินหน้าบึ้งเข้ามาในบ้านทั้งที่เมื่อกี้ยังอารมณ์ดีอยู่เลย หรือว่าโดนพี่อู๋ฟานว่าให้อีกแล้ว ตาสวยสะดุดเข้ากับริมฝีปากอิ่มบวมช้ำแล้วหล่อนก็เข้าใจถึงอาการปั้นปึงนั้น ยิ่งเห็นร่างสูงที่เดินตามเข้ามาเหมือนอารมณ์ดีนักหนาต่างจากร่างโปร่งที่เดินนำหน้าเข้ามาลิบลับ เพ่ยฟางยิ้มออกมากับบรรยากาศดีๆระหว่างสามีภรรยาที่หล่อนไม่ได้เห็นนานแล้วด้วยความยินดี
“พี่อู๋ฟานกับคุณชานยอลจะรับอาหารกลางวันเลยมั้ยคะ?”
“อื้อ เอาสิ เธอกินหรือยัง”
“เพ่ยฟางทานแล้วค่ะ ก่อนพี่มาถึง”
“อ้อ ป่ะ ชานยอลไปกินข้าวกัน”
พูดพรางเอื้อมมือไปดึงข้อศอกคนหน้าบึ้งไว้ ตั้งแต่ลงจากเครื่องก็ยังไม่ได้ทานอะไรเลยแถมเมื่อกี้ยังใช้พลังงานไปเสียงเยอะ นี้จะบ่ายแล้วเลยเวลาอาหารมานานพอดู แต่เด็กดื้อก็ยังเป็นเด็กดื้อวันยังค่ำ ชานยอลชักศอกหนีออกจากการเกาะกุม ยังโมโหร่างสูงไม่หาย และเขาก็ยังไม่หิวด้วยเลยปฏิเสธอาหารกลางวันไป
“ผมไม่หิว คุณไปกินเถอะ”
“จะบ่ายแล้วนะ ทำไมไม่หิว ไปกินเถอะ หรืออยากกินอะไรเป็นพิเศษฉันจะให้คุณยายหลี่ทำให้”
“ไม่เอาครับ ไม่หิวจริงๆ ผมอิ่มโกโก้ปั่นไปแล้ว กินมากเดี๋ยวอ้วน”
“ชานยอล”
ชานยอลหยิบเรื่องที่สนามบินขึ้นมาล้อ แต่ก็ต้องหุบปากลงฉับพลันเมื่อเห็นสายตาคมกล้ามองมาทางต้นคล้ายจะเอาเรื่อง ปากที่ยื่นอยู่แล้วยิ่งยื่นออกมาข้างหน้ามากขึ้นเมื่อถูกดุ แขนเรียวคล้องแขนของร่างสูงเอาไว้กลัวว่าจะถูกโกธรขึ้นมาจริงๆเขายิ่งมีเรื่องจะต้องขอคนขี้โมโหอีกเยอะเสียด้วย ต้องรีบเอาใจไว้ก่อน
“ก็ผมไม่หิวจริงๆนะฮะ อย่าดุสิ อิ่มโกโก้แล้วจริงๆ แถมขนมบนเครื่องผมก็กินไปตั้งเยอะ อยากนอนพักมากกว่า ไม่ทานนะครับ”
“แต่ว่า..”
“นะครับ ผมเหนียวตัวมากจริงๆ”
ชานยอลพูดด้วยน้ำเสียงออดอ้อดต่างจากประโยคสุดท้ายที่เน้นหนักคล้ายจะเตือนอีกฝ่ายว่าทำไมเขาถึงเหนียวตัวขนาดนี้ คริสหัวเราะในลำคอเมื่อเข้าใจถึงความในที่อีกฝ่ายจะสื่อ
“ตามใจถ้าหิวบอกให้เด็กยกอาหารขึ้นไปให้เองก็แล้วกัน”
“คร้าบบบ”
พูดจับก็วิ่งขึ้นไปบนห้องทันที แม้จะรู้สึกหน่วงบริเวณสะโพกก็ตาม เขาอยากอาบน้ำเต็มที เพ่ยฟางยืนมองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตรงหน้าเงียบๆด้วยใบหน้าเปื้อนรอยยิ้มรู้สึกยินดีเหลือเกินที่พี่อู๋ฟานกับคุณชานยอลกลับมาคุยกันได้เสียที แค่ไม่โดนดุด่า หรือพูดจาร้ายๆใส่ แถมด้วยการตามใจอีกนิดหน่อยเด็กน่ารักอย่างคุณชานยอลก็พร้อมจะใจอ่อนแล้ว หวังว่าพี่อู๋ฟานจะรู้ถึงความจริงข้อนี้ด้วยเถอะ หล่อนไม่อยากให้ทั้งคู่ทะเลาะกันอีกแล้ว
“ดีจังเลยนะคะ แบบนี้”
“ฮือ?”คริสหันมามองหญิงคนรักด้วยสีหน้าไม่เข้าใจแล้วก็ได้รอยยิ้มบางๆพร้อมกับคำตอบที่ทำให้ตนต้องยิ้มออกมา
“ดีใจเลยนะคะ ที่พี่กับคุณชานยอลเป็นแบบนี้”
“อื้อ ดีจริงๆ”
คริสตอบรับคำพูดนั้น ใบหน้าหล่อเหลามีรอยยิ้มที่มุมปาก มองตามร่างโปร่งที่วิ่งปร๋อขึ้นบันไดบ้านไปเหมือนเด็ก ถ้าไม่ต้องทะเลาะกันอีกคงดี เขาอยากให้มันเป็นแบบนั้นจริงๆ
“คุณคริสครับ”
“หืมม”
คริสลืมตาขึ้นเมื่อได้ยินชื่อของตัวเองจากร่างในอ้อมแขน เสียงทุ้มห้าวดูออดอ้อนเหมือนทุกครั้งเวลาต้องการอะไรจากเขาเป็นพิเศษ ขยับกายสองสามครั้ง รั้งร่างในอ้อมกอดเข้ามาแนบอก ชานยอลเองก็ขยับกายเข้าหาอย่างว่าง่าย
“มีอะไร”
“คือว่า วันนี้อ่ะ”
คนในอ้อมกอดเงยหน้าขึ้นมองปลายคางแหลมของคริสสายตาวิบวับเหมือนเด็กเจ้าเล่ห์ คริสก้มหน้ามองใบหน้าหวานที่กำลังหลบสายตาเขาด้วยการสบหน้าลงบนแผ่นอกเปลือยเปล่าสีขาว หลังจากที่ปล่อยให้เขาเสพสุขบนร่างกายตัวเองแล้วหลายรอบเด็กคนนี้ต้องต้องการอะไรจากเขาแน่ๆ
“เมื่อวานผมเปิดหนังสือแต่งรถ แล้วไปเจอล้อแม็กของปอร์เช่ตัวหนึ่ง มันสวยมากเลยครับ แล้ว …แล้ว”
“แล้วไง..แล้วนายก็อยากได้งั้นเหรอ”
“มันสวยมากจริงๆนะครับคุณคริส จริงๆนะ”
ร่างโปร่งดีดตัวลุกขึ้นจากที่นอนเพื่อยืนยันคำพูดของตัวเองแล้วก้ต้องรีบตะครุบผ้าห่มไว้เมื่อมันเลื่อนไหลลงมาตามแรงโน้มถ่วงก่อนจะหันไปมองค้อนคนที่กึ่งนั่งกึ่งนอนหัวเราะอยู่บนเตียง
“ฮ่าๆๆ อยากได้เหรอ”
“ครับ อยากได้”
“แต่แบบเดิมก็สวยแล้วนี้”
“ก็สวยครับ แต่ว่าแบบนี้ก็สวยมากเหมือนกัน”
ชานยอลอ้อมแอ้มออกมาซบหน้าลงบนอกหนาตามเดิม เพียงแค่นี้คริสก็รู้แล้วว่าเขาต้องตามใจเด็กคนนี้อีกแน่ มือหนาลูบไล้ผิวกายนุ่มบริเวณเนินไหล่เพลินมือ กดจูบลงบนกลุ่มผมหอม หลับตาลงช้าๆ
“ตามใจ มันเป็นของนายแล้วนี้”
“จริงนะครับ! คุณใจดีจัง”
“หืมม ทีอย่างนี้แล้วรีบชมฉันเชียว”
คริสพูดทีเล่นทีจริงแกล้งเด็กตาโตที่กำลังเบิกตาตัวเองให้กว้างกว่าเดิม ชานยอลยิ้มแผล่เมื่อถูกหยอกด้วยคำพูด กดจูบลงบนปลายคางแหลมอย่างที่ช่วงนี้ตัวเองชอบทำกับร่างสูง เขาเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมชอบจูบปลายคางของคุณคริสนัก รู้แต่ว่ามันน่ากัดเสียจริง
“ขอบคุณนะครับ ถ้าอยากให้ผมชมมากๆคุณก็ต้องใจดีกับผมบ่อยๆสิ”
ร่างโปร่งต่อรองน้ำเสียงเจือหัวเราะ บ่งบอกว่าเจ้าตัวไม่ได้จริงจังกับคำพูดนั้นเท่าไหร่ ที่คุณคริสใจดีกับเขาตอนนี้แค่นี้ก็พอแล้ว มันเกินจากที่เขาคาดด้วยซ้ำ รถปอร์เช่คันนั้นราคามันแพงมากโข คุณคริสก็ซื้อให้เขาทั้งๆที่เขาไม่ได้เอ่ยขอ แถมช่วงนี้ยังชอบตามใจเขาบ่อยๆไม่ค่อยบังคับเขาอย่างที่เคย
“ได้ทีเอาใหญ่เลยนะ เพราะมัวแต่ดูหนังสือรถแบบนี้ใช่มั้ย นายถึงไม่ยอมไปเรียน”
“เอ่อ คือ”
คนหลบเรียนถึงกับพูดไม่ออก เป็นความจริงที่เขาไม่ได้ไปเรียนหลายสัปดาห์แล้วตั้งแต่กลับจากเกาหลีทั้งที่แต่ก่อนตัวเองเป็นฝ่ายร่ำร้องขอไปเรียนอยู่บ่อยๆแล้วกลับขาดเรียนแบบนี้ทำให้หลายคนแปลกใจไม่ได้แม้แต่คุณคริส แต่ไม่ใช่เพราะเหตุผลที่ว่าติดรถหรอกนะ มันอาจจะมีส่วน แต่เหตุผลจริงๆแล้ว เขายังไม่พร้อมจะเจอหน้าใครบางคนต่างหาก พี่หลี่ฟง
“ก็ใช่ครับ ส่วนหนึ่ง แต่จริงๆแล้วช่วงนี้ที่มหาลัยมีกิจกรรมด้วย ผมเลยไม่ค่อยได้ไป”
“เหรอ อื้ม”
ชานยอลตัดสินใจโกหกออกมาอีกครั้ง เขายังไม่กล้าบอกความจริงกับพี่หลี่ฟงในตอนนี้ เขากลัวว่าตัวเองจะทำให้คนดีๆอย่างพี่หลี่ฟงต้องเสียใจ แต่ถ้าเขาไม่พูดก็กลัวว่าสักวันหนึ่งคุณคริสจะจับได้ เขสทั้งไม่เป็นเรียน ทั้งปิดโทรศัพท์ ไม่ตอบข้อความที่อีกฝ่ายหมั่นส่งมาถามไถ่ด้วยความเป็นห่วง รู้ว่าสิ่งที่ตัวเองทำมันแย่ ได้แต่หวังว่าสักวันตัวเองจะรวบรวมความกล้าแล้วบอกกับพี่หลี่ฟงไปตรงๆ แต่ช่วงนี้เขาขอหลบหน้าหน่อยก็แล้วกัน
“แล้วคุณจะให้ผมเอารถไม่ทำวันไหนครับ”
“เอาไว้ก่อน เดี๋ยวฉันจะบอกให้อี้ชิงเอาไปทำให้นายจะได้ไม่ต้องไปเอง”
“ก็ได้ครับ ว่าแต่คุณยอมให้ผมเอารถไปเรียนได้แล้วใช่ไหมครับ”
ชานยอลถามอย่างกล้าๆกลัวๆก็ลงทุนซื้อรถให้เขาแบบนี้แล้วจะให้มาจอดทิ้งไว้เฉยๆได้ยังไง แล้วเขาก็ไม่เคยได้ออกไปไหนนอกจากเวลาไปเรียน คริสลืมตาขึ้นมาอีกครั้งสบเข้ากับดงตาใสแจ๋ว ถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่
“อื้อ แต่ขับดีๆนะชานยอล ห้ามกลับดึกด้วย กลับมา4ทุ่ม5ทุ่มแบบเดิมไม่เอานะ”
“ครับบ คิคิ รู้แล้วน๊า ทำตัวเป็นคนแก่ไปได้”
“อะไรนะ! นายว่าฉันแก่เหรอ มานี้เลย”
“เปล่าครับๆ ง่า คุณคริสอ่า”
แล้วชานยอลก้รู้ตัวว่าไม่ควรพูดแบบนั้นออกไป ผ้าห้มผืนหนาถูกสะบัดขึ้นคลุมหัวเสียงร้องห้ามกลายเป็นเสียงร้องครางแผ่ว นี้คุณคริสจะเอาให้เขาเดินไม่ได้เลยใช่มั้ยชายหนุ่มนึกบ่นในใจแล้วเขาก็ไม่มีเวลาคิดอะไรอีกเลย
“ใช่ มันสวยมากเลยล่ะ”
“ก็ต้องอย่างนั้นอยู่แล้ว ก็แกอยากได้มันนี้”
“คิคิ ใช่แล้ว ฉันเซอร์ไพรส์มากเลยตอนที่เห็นมันจอดอยู่หน้าบ้าน แล้วคุณคริสบอกว่าซื้อมันให้ฉันอ่า โหยย แบคฮยอน เคย์แมนสีขาวสวยมากเลยอ่ะ”
ชานยอลนอนคุยโทรศัพท์ทางไกลกับเพื่อนรักในเช้าวันหนึ่งที่คุณคริสไม่อยู่บ้านเพราะต้องออกไปทำงาน ร่างโปร่งทิ้งตัวนอนเกลือกกลิ้งอยู่บนเตียงใบหน้าที่ประกอบด้วยตากลมๆกับแก้มป่องๆ ปากอิ่มฉีกยิ้มออกกว้างอย่างอารมณ์ดีขับให้ใบหน้าหวานดูดียิ่งกว่าเดิม
เขายังไม่ได้ไปมหาลัยเลยตั้งแต่วันนั้น ทุกวันเอาแต่ขลุกตัวอยู่ในห้องอ่านแต่หนังสือรถจะลงไปข้างล่างบ้างเวลาหิว เขาเจอกับคุณคริสมากขึ้นทั้งช่วงเช้าและช่วงเย็น บางคืนร่างสูงจะค้างที่ห้องของเขาและมักจบด้วยเซ็กส์ทุกทีแต่บางครั้งคุณคริสก็จะกลับไปนอนที่ห้องใหญ่กับเพ่ยฟาง
เรื่องนั้นเขายังไม่ได้ทิ้งมันไปเสียทีเดียว ใช่ว่าจะไม่อยากพูดคุยเรื่องนี้ให้รู้เรื่องแต่เมื่อคุยกันแล้วก็ต้องจบด้วยการทะเลาะกันอยู่ดีเขาจึงไม่อยากพูด เขายังไม่มีอารมณ์จะทะเลาะกับใครในช่วงนี้ ขอมีความสุขกับรถคันใหม่ของตัวเองก่อนแล้วกัน
เรื่องพี่หลี่ฟงก็เหมือนกัน เขายังไม่กล้าสู้หน้าผู้ชายแสนดีคนนี้เลย ได้แต่ส่งข้อความออกไปในวันหนึ่งว่าเขาสบายดี แต่ที่ตระกูลอู๋มีปัญหานิดหน่อยถ้าวันไหนจะไปเรียนแล้วจะโทรหา พี่หลี่ฟงแสนดียังไงก็ยังดีอย่างงั้นชายหนุ่มส่งข้อความมาหาว่าเข้าใจและจะรอวันที่ได้เจอกันนั้นยิ่งทำให้เขาลำบากใจมากขึ้น
“โห ดีใจด้วยว่ะ ฉันอยากได้รถคันใหม่พ่อบอกจะซื้อให้ แต่ไอ้พี่แบคบอมบอกว่าให้ใช้คันเดิมไปก่อน ขัดลาภชะมัดเลย”
“ฮ่าๆๆ ก็นายเพิ่งซื้อใหม่นี้ ใช้ไปก่อนเหอะ เฮ้ออ มีความสุขจัง”
“ดีๆ มีความสุขก็ดี แล้วเรื่องนั้นเป็นยังไงบ้าง”
“เรื่องไหน?”
เพราะเรื่องราวในชีวิตเขาที่เกิดขึ้นมีมาเหลือเกินเขาเลยไม่รู้ว่าเรื่องที่เพื่อนพูดถึงคือเรื่องใด ชานยอลนอนหนุนแขนตัวเองอยู่บนเตียงตากลมมองออกไปหน้าตารอฟังสิ่งที่เพื่อนกำลังจะพูด
“เรื่องคุณคริสกับเพ่ยฟาง แกโอเคแล้วใช่มั้ย”
“ไม่อ่ะ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ฉันไม่อยากพูด พูดไปก็ทะเลาะกันเปล่าๆ แกรู้มั้ยฉันทะเลาะกับเขาตอนขากลับเพราะเรื่องนี้แหละ”
“เฮ้ออ ผัวแกนี้ก็เอาแต่ใจจริงๆ”
“พอเถอะ เปลี่ยนเรื่อง ไม่อยากฟัง”
“โอเคๆ ขอให้แกหาทางออกเองนี้ให้ได้เร็วๆก็แล้วกัน”
“อื้ออ”
“แล้วเรื่องพี่หลี่ฟงล่ะ ถึงไหนแล้ว”
“เอ่อ..”
แล้วเพื่อนรักก็ถามในเรื่องที่เขาตอบไม่ได้ ชานยอลลุกขึ้นจากเตียงหยิบหมอนใบโตขึ้นมากอดซุกหน้าลงบนนั้น
“ชานยอล..อย่าบอกนะว่าแกยังไม่ได้บอกเลิกพี่เค้า”
“อื้อ ฉันไม่กล้า ฉันกลัวพี่เขาเสียใจ”
“ไอ้บ้าเอ้ย! นี้แกกลัวอะไรฮะ กลัวอะไรไม่เข้าเรื่อง กลัวเขาจะเสียใจ แต่ไม่กลัวตัวเองจะตาย ไปบอกเลย
นะชานยอล อย่าให้ทุกอย่างมันยุ่งไปกว่านี้ ต้องรอให้คุณคริสจับได้ใช่มั้ย?”
“ฉัน..ฉันจะบอกเขา..แต่แกเลิกพูดเรื่องนี้ได้มั้ย ไม่อยากพูดแล้ว”
ชานยอลรีบตัดบทสนทนาชวนปวดหัวของเพื่อนสนิท เขายืนยันคำตอบเดิมว่าจะบอกพี่หลี่ฟงไปตรงๆแต่ตอนนี้เขาขอทำใจก่อนได้ไหม ทำไมตอนตอบรับมันไม่ยากเหมือนตอนบอกเลิกนะ
“เอ่อๆ แล้วมีไรอีกมั้ย นอกจากเรื่องรถ”
“มี ฮ่าๆๆ อย่าเพิ่งวางน่า ฉันมีอะไรจะอวด คุณคริสเขายอมให้ฉันไปเปลี่ยนล้อใหม่ด้วย นั้นล่ะ มันต้องเป็นรถในฝันของฉันแน่ๆเลย”
ชานยอลพูดด้วยสีหน้าเปี่ยมสุขเมื่อปัดเรื่องนั้นออกจากสมองก็มีแต่เพียงเรื่องรถที่เจ้าตัวกำลังเห่อออกมาจากปากอิ่ม แบคฮยอนส่งเสียงหัวเราะมาตามสาย รู้ได้เลยว่าสีหน้าของเพื่อนตอนนี้เป็นยังไง
“ก็ดีแล้ว เขาเอาใจแกมากเลยนะชานยอล ซื้อรถให้คันไม่ใช่ถูกๆ”
“อื้ออ ช่วงนี้เขาใจดีกับฉันสุดๆ สงสัยเพราะฉันไม่ดื้อกับเขามั้ง?”
“แกก็อย่าดื้อดิ ทนได้ก็ทนไป”
“รู้แล้วน่า”
“เอ้อ ชานยอล ฉันซื้อ…”
“อุ้ย แค่นี้ก่อนนะแบคฮยอน”
ชานยอลรีบลุกขึ้นจากเตียง กดตัดสายโทรศัพท์ในมือเมื่อได้ยินเสียงประตูถูกเปิดออกตามด้วยเสียงเรียกชื่อตนแบบที่ได้ยินแค่ประโยคแรกก็รู้ว่าใคร คุณคริสกลับมาจากที่ทำงานด้วยสภาพดูไม่ดีนัก บอกก็รู้ว่าคงทำงานเหนื่อยมาทั้งวัน
“ชานยอล! คุยกับใคร”
“กลับมาแล้วเหรอครับ”
“อื้อ คุยกับใคร”
คริสยังถามซ้ำคำเดิม เขากลับมาก็เห็นร่างโปร่งคุยโทรศัพท์หัวเราะต่อกระซิกกับปลายสายที่เขาไม่รู้ว่าใคร ภาพนั้นมันทำให้เขาหงุดหงิดอย่างไม่ทราบสาเหตุ หรือบางที่เขาอาจจะไม่ยอมรับมันก็ได้
“คุยกับแบคฮยอนครับ อย่าดุสิ ผมแค่พูดเรื่องรถให้เพื่อนฟังเฉยๆ”
ชายหนุ่มพูดพร้อมกับเดินไปรับสูทสีดำมาถือไว้ในมือ สงสัยเพ่ยฟางคงหลับกลางวันอยู่แน่ๆถึงไม่ได้ลงไปรับร่างสูงจนต้องถือทั้งสูทขึ้นมาแบบนี้ คิดแล้วขาเรียวก็เดินเอาของในมือไปวางไว้ในที่ที่ควรจะอยู่ แล้วร่างของเขาก็ถูกดึงไปกอดจากทางด้านหลัง คริสวางหน้าลงบนไหล่บางกดปลายจมูกลงบนซอกคอขาวกลิ่นหอมอ่อนๆทำให้เขารู้สึกผ่อนคลาย
“ก็ฉันเข้ามานายยังไม่รู้สึกตัวเลยนี้”
“ฮ่าๆๆ ขอโทษครับ คุณเป็นอะไรหรือเปล่า? เหนื่อยเหรอ”
“อื้อเหนื่อย ชานยอล..”
“ครับ?”
“พรุ่งนี้ฉันต้องไปดูงานที่ต่างจังหวัดนะ”
“เอ๋ ไปดูงาน นานมั้ยครับ ไปกับใคร อี้ชิงเหรอ?”
“3-4วันน่ะ ไปคนเดียว อี้ชิงต้องดูแลงานที่ปักกิ่งแทนฉัน”
“อ่า ครับ”
ชานยอลรับคำหน้ายู่ ในใจนึกระแวงกลัวว่าอีกฝ่ายจะแอบพาใครไปด้วยอย่างเคย ที่คุณคริสก็ไม่ได้ออกไปไหนอีกเลยตั้งแต่เกิดเรื่อง เขาจะลองเชื่อใจดูสักครั้งก็แล้วกัน
“เรื่องรถ เดี๋ยวฉันให้เขามาเอาไปทำให้พรุ่งนี้เลย”
“ครับ ขอบคุณมากนะครับ”
“ฉันไม่อยู่บ้าน ดูแลตัวเองดีๆนะชานยอล อย่าไปทำอะไรในที่สิ่งที่ฉันห้าม เพราะฉันจะไม่พอใจมากๆ”
“ครับ คุณคริส ผมจะไม่ทำ”
TBC....
จบตอนนี้แล้วคุณมีอะไรจะบอกชานยอลหรือเปล่าค่ะ
เจอกันอีกสองสามวันค่ะ
สวัสดีค่ะ
ความคิดเห็น