คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #58 : CHAPTER 55
“อื้ออ ดูแลตัวเองดีๆนะ เดี๋ยวพรุ่งนี้พี่ก็กลับ”
“เดี๋ยวจะซื้อของไปฝาก คิดถึงเธอนะ”
พออาบน้ำเสร็จแล้วเขาก็เดินออกมาจากห้องน้ำเพื่อจะให้คนที่เขาคิดว่านอนอยู่บนเตียงเข้าไปทำธุระส่วนตัวของตัวเองต่อ แต่แล้วขาเรียวก็หยุดชะงัก ถ้อยคำหวานหูที่ร่างสูงกรอกลงไปในโทรศัพท์ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าปลายสายคือใคร ชานยอลเดินกระทืบเท้าไปนั่งลงบนเก็าอี้โต๊ะเครื่องแป้ง คำพูดที่ได้ยินยิ่งตอบย้ำความคิดที่อยากจะหลุดออกจากวงจรบ้าๆนี้เสียที เขาไม่อยากตกอยู่ในสถานะที่คนอื่นเรียกว่าเมียหลวง
“เสร็จแล้วเหรอ”
“อื้ออ”
“เป็นอะไรอีกล่ะ!”
คริสถามเสียงห้วน โยนโทรศัพท์ในมือลงบนเตียง ไม่เข้าใจว่าร่างโปร่งที่กำลังนั่งหน้าบึ้งแปรงผมตัวเองอยู่เป็นอะไร อยากกลับบ้านเขาก็พากลับแล้ว ไม่พอใจอะไรอีก ไม่แค่คิด ร่างสูงยังสาวเท้าเข้าไปหาวาดวงแขนรัดร่างนั้นไว้แต่ชานยอลก็สะบัดออกไม่ยอมให้เขาเข้าใกล้ ชายหนุ่มสบถออกมาอย่างหัวเสีย
“ผมถามอะไรหน่อยได้ไหม?”
“อะไร”
“คุณจะให้ผมอยู่แบบนี้อีกนานเท่าไหร่”
“จะหาเรื่องทะเลาะกันให้ได้เลยใช่มั้ย!”
“ผมไม่ได้อยากทะเลาะ ผมแค่อยากจะรู้ว่า คุณจะให้ผมทนอยู่แบบนี้อีกนานแค่ไหน!”
“ไปหาเงินมาคืนให้ได้สักครึ่งก่อนไป ค่อยมาพูด!”
สุดท้ายบทสนทนาก็ลงจบลงด้วยเสียงทะเลาะ ชานยอลกำหวีในมือแน่นวางมันกระแทกลงกับโต๊ะด้วยความโมโห เขาโง่เองแหละที่ถามคำถามนั้นออกไป รู้ทั้งรู้ว่าคำตอบจะออกมายังไงผลประโยชน์เท่านั้นที่สำคัญกับครอบครัวนี้ ร่างโปร่งลุกขึ้นตั้งใจจะเดินออกไปจากห้องแต่แขนข้างหนึ่งก็ถูกดึงไว้
“จะไปไหน!”
“ข้างล่าง”
“ไม่ไปแล้วใช่มั้ยข้างนอก”
“ไม่ไป ไม่ได้อยากไป!”
พูดพร้อมกับสะบัดแขนออกจากการเกาะกุม เขาไม่ได้อยากออกไปข้างนอกตั้งแต่แรกแล้ว แค่คิดว่าจะต้องออกไปเดินเที่ยวข้างนอกกับร่างสูงเขาก็ขยาดเต็มที คริสกัดฟันกรอดเดินแกมวิ่งไปฉุดร่างโปร่งที่กำลังจะวิ่งไปเปิดประตูด้วยช่วงขาที่ยาวกว่าเขาจึงจับร่างนั้นไว้ได้ทัน
“ปล่อยนะ”
“อย่าคิดว่าอยู่บ้านฉันจะไม่กล้าทำอะไรแกนะ! เดี๋ยวจะตบโชว์แม่ให้ดู”
“คุณคริส!”
ชายหนุ่มเค้นเสียงรอดไรฟัน ทั้งโกธรทั้งโมโห เขาอุตส่าห์พากลับบ้านแล้วเชียว ยังกล้ามาทำแบบนี้กับเขาอีกเหรอ ชานยอลเองก็รู้สึกไม่ต่างกัน น้ำตาไหลออกมากหน่วยตาทั้งเจ็บทั้งแค้น ไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะกล้าพูดแบบนี้
“ปล่อย!”
ชายหนุ่มสะบัดแขนออกจากการเกาะกุมเดินผ่านร่างสุงที่กำลังโกธรไม่ต่างกันไปนั่งร้องไห้อยู่บนเตียง
“อย่ามาถามแบบนี้ได้มั้ย!”
“ก็เลิกพูดแบบนี้สักทีสิ เอะอะก็ใช้แต่กำลัง”
คริสมองใบหน้าหวานที่มีคราบน้ำตาอยู่เต็มหน้าถอนหายใจออกมาอย่างหัวเสีย เดินไปนั่งลงบนเตียงหวังจะดึงร่างนั้นเข้ามากอดแต่เจ้าของร่างกลับขยับถอยห่าง
“เลิกร้องได้แล้ว อยากกลับบ้านก็พากลับแล้วไง ทำไมต้องมาหาเรื่องทะเลาะกันอีก จะพาไปเที่ยวก็ไม่เอา หรือว่ากลัวฉันทิ้ง ฉันไม่ทิ้งนายหรอกน้า”
พูดพรางดึงร่างที่กำลังถอยห่างให้ขยับเข้ามาใกล้ฝังจมูกลงบนแก็มนวล ชานยอลหันหน้าออกห่างยังเจ็บปวดกับคำพูดร้ายกาจก่อนหน้าแม้คำพูดที่หลุดออกมาจากปากหยักนั้นจะอ่อนหวานเพียงใดเขาก็อยากจะลืมมันได้
“ชานยอล..”
“ไปอาบน้ำเถอะครับ ผมจะลงไปเตรียมอาหารเช้าไว้ให้”
“นายยังโกธรฉัน?”
“ผมไม่ได้โกธร”
ชายหนุ่มโกหก ถึงจะโกธรมากเพียงใดก็ได้แต่เก็บอารมณ์นั้นไว้ในใจ เพราะถ้าขืนยังฝืนทะเลาะกับคุณคริสแบบนี้มีแต่เขาเท่านั้นที่จะเป็นฝ่ายเสีย เผลอๆคุณคริสอาจจะโมโหจนลากตัวเขากลับจีนอย่างที่ขู่ก็ได้
“แต่ผม..แค่ไม่ชอบที่คุณพูดแบบนั้น พูดอะไรให้เกรียติผมบ้างเถอะ นี้มันในบ้านของผมนะ คุณพูดแบบนั้นได้ยังไง”
“ก็นายกวนโมโหฉัน ฉันก็ไม่ชอบให้นายพูดแบบนั้นเหมือนกันนั้นแหละ อย่าพูดแบบนั้นให้ฉันได้ยินอีกนะ”
เสียงทุ้มเอ่ยคล้ายจะบอกกล่าว แต่คนฟังอย่างชานยอลรู้ว่ามันคือคำเตือน ฟันสวยขบเม้มลงบนริมฝีปากตัวเอง สะกลั้ดกั้นอารมณ์และน้ำตาของตัวเองเอาไว้ พยักหน้าส่งๆอยากให้เรื่องนี้จบลงเสียที
“ครับ ไปอาบน้ำเถอะ”
“ก็ได้ อาหารเช้าฉันขอกาแฟก็พอ”
ไม่วายสั่งสิ่งที่ตัวเองต้องการก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำไป ชานยอลมองตามแผ่นหลังกว้างที่เดินเข้าไปในห้องน้ำ แล้วร่างโปร่งก็ลุกขึ้นจากเตียงเช่นกันเดินลงไปยังชั้นล่างของบ้านเพื่อทำตามความต้องการของใครอีกคน
หลังจากคุณคริสอาบน้ำแต่งตัวเสร็จแล้วพวกเขาก็ทานอาหารที่นมเยจินได้จัดเตรียมไว้ ยกเว้นกาแฟของคุณคริสที่เขาเป็นคนชงเองเพราะกว่าว่านมเยจินจะทำไม่ถูกใจจนทำให้คนเจ้าอารมณ์ต้องอารมณ์เสีย ส่วนเขานั้นมีเพียงข้าวต้มกับน้ำส้มคั้นเป็นอาหารมื้อเช้า
“เสร็จแล้วใช่มั้ย?”
“ครับ”
คริสพูดขึ้นเมื่อจัดการกาแฟหยดสุดท้ายในแก็วกาแฟหมด ร่างสูงลุกขึ้นจากเก็าอี้เดินนำหน้าเด็กหนุ่มออกไปยังหน้าบ้านถือกุญแจรถไว้ในมือ
“คุณคริสครับ”
“มีอะไร?”
“เอากุญแจรถมาครับ เดี๋ยวผมขับให้”
“ทำไม”
คริสถามห้วนตามประสาคนพูดน้อย ไม่เข้าใจในสิ่งที่อีกฝ่ายต้องการ
“คุณยังไม่คุ้นทาง เดี๋ยวผมขับให้เอง”
“..........ก็ได้”
ถึงแม้อยากจะค้านแต่คริสก็จำยอมด้วยเหตุผล เขาไม่ชินกับการจราจรของเกาหลีจริวๆถ้ารั้นจะขับเองก็กลัวว่าจะเกิดอุบัติเหตุจึงยอมยื่นกุญแจให้ร่างโปร่งตามที่เจ้าตัวต้องการ
“ไปมยองดงเลยใช่มั้ยครับ?”
“อื้มม ขับดีๆล่ะ”
ชานยอลพยักหน้ารับเดินไปเปิดประตูรถฝั่งคนขับ รถซีดานสีดำเคลื่อนตัวออกมาห่างจากรั้วบ้านตระกูลปาร์ค ชานยอลปล่อยให้รถเคลื่อนตัวไปข้างหน้าช้าๆไม่ได้รีบร้อนหนัก อากาศของกรุงโซลกำลังสบายไม่ร้อนไม่หนาวจนเกินไป เพราะตลาดมยองดงอยู่ห่างจากบ้านเขาพอสำควรและการจราจรในเมืองค่อนข้างติดขัดพวกเขาจึงใช้เลาเดินทางเดินเกือบ2ชั่วโมง โชคดีที่คนที่เอาแต่นั่งอยู่เงียบๆข้างๆเขาไม่แสดงอาการหงุดหงิดอย่างที่เคยเป็นมาเขาจึงดล่งใจไปเปราะหนึ่ง
"ถึงแล้วเหรอ?”
“ถึงแล้วครับ ที่มยองดงคนเยอะเดี๋ยวผมหาที่จอดรถก่อน”
“ระวังด้วยนะชานยอล”
“ครับ หึหึ”
ชายหนุ่มหน้าหวานหัวเราะออกมารู้สึกขำกับคำพูดของคนแก่กว่า เขาขับมาแถวนี้จนชินเสียแล้ว ก็มันเป็นแหล่งช๊อปปิ้งอันดับหนึ่งของเกาหลีเลยนี้นา เขากับแบคฮยอนและเพื่อนอีกสองคนชอบมาเดินเล่นที่นี้บ่อยๆถ้ามีเวลาว่างตรอก ซอบแถวนี้เขาเดินจนครบทุกซอยแล้วก็ว่าได้
“หัวเราะอะไร?”
“เปล่าครับ คุณช่วยดูข้างๆให้ผมหน่อย โอเคมั้ยครับ?”
“อื้มม ตรงไปเลย”
ชานยอลจอดรถในช่องจอดเรียบร้อยก็ก้าวลงมาจากรถ ยืนรอคนที่กำลังใส่หมวกให้ตัวเองอยู่สักพักคุณคริสก็เดินมาหยุดอยู่ข้างเขา ชายหนุ่มร่างสูงในเสื้อเชิ้ตสีขาวสวมแว่นตาดำยี่ห้อหรูคาดทับใบหน้า หมวกเองก็มีสีไม่ต่างจากแว่นตาแต่กระนั้นก็ไม่สามารถปกปิดความงดงามของใบหน้าคมนั้นได้
“มองอะไรเหรอ”
“อ่ะ เปล่าครับ ไปกันเถอะ”
คนที่เผลอมองใบหน้าสามีของตนเองต้องรีบเรียกสติให้คืนกลับมาเมื่อถูกทัก ชานยอลก็าวขาเดินออกไปข้างหน้าแล้วมือด้านขวาของเขาถูกกุมไว้ด้วยฝ่ามือของคุณคริสและเขาเองก็ไม่ได้ขัดอะไร
“หิวหรือยังครับ”
“ไม่ แล้วนายล่ะ”
“ยังครับ เดี๋ยวเราเดินเล่นกันก่อนก็ได้ ไปทางนี้ดีกว่าครับ ระวังนะฮะคนเยอะ”
ชานยอลพูดเสียงใสลืมเรื่อที่ทะเลาะกันมาก่อนหน้าไปเสียสิ้น บรรยากาศรอยตัวที่คุ้นเคยทำให้อารมณ์ขุ่นมัวเริ่มเบาบาง ร่างสูงจับมือเรียวในอุ้งมือตัวเองไว้แน่น มยองดงคนเยอะกว่าที่เขาคิด
“ชานยอล อะไรอ่ะ”
“ไหนครับ อ้อ dakkochi เป็นไก่ย่างซอสเสียบไม้ คุณอยากทานมั้ยครับ?”
“เดี๋ยวเราก็ไปกินไก่”
“อ่า นั้นสิครับ แต่ถ้าคุณอยากกินเราซื้อสักไม้ก็ได้นะครับ เดี่ยวผมไปซื้อให้ เจ้านี้อร่อยดี ผมทานบ่อยๆ”
ยืนยันคำพูดของตนด้วยการหันไปยิ้มให้คนข้างกาย เดินจุงมือร่างสูงตรงดิ่งไปยังร้านขายไก่ย่างที่มีคนมุงอยู่พอสมควร ชานยอลสั่งไก่ย่างกับพ่อค้า1ไม้มันค่อนข้างชิ้นใหญ่พอสมควรเขาแค่ต้องการชิมมันเท่านั้นไม่ได้จะกินให้อิ่มเลยทีเดียว ยืนรออยู่สักพักไก่ย่างราดซอสสีแดงส้มก็อยู่ในมือ เจ้าถิ่นเป่าไก่ชิ้นนั้นระบายความร้อนที่กำลังระอุให้เบาบางลง ยื่นมันไปตรงหน้าคนที่ยืนมองด้วยสีหน้าอยากรู้อยากลอง
“อ้าปากสิครับ”
คริสกัดไก่ชิ้นโตไปคำหนึ่งซูดปากเพราะความร้อนและรสชาติเผ็ดของอาหารเล่นเอาคนที่ยืนมองด้วยสีหน้าลุ้นๆต้องหัวเราะออกมา ก่อนที่ตัวเองจะชิมรสชาติของไก่ในมือบ้าง
“อร่อยมั้ยครับ?”
“ก็ดี แต่เผ็ดไปหน่อย นายทานได้ยังไง ไหนบอกว่าไม่ชอบเผ็ดไง?”
“ก็มันไม่เผ็ดสำหรับผมเสียหน่อย ไปครับ เดินเล่นกันดีกว่า เดินไปด้วยกินไปด้วยสนุกดี”
พูดพร้อมกับคว้ามือหนาให้เดินตามตัวเองไป คริสมองเด็กหนุ่มหน้าหวานที่กำบังกินไก่ในมืออย่างเอร็ดอร่อยด้วยสายตาเอ็นดู รอยยิ้มปรากฏขึ้นที่มุมปาก ก่อนจะรีบหุบลงเมื่อคนถูกมองเริ่มรู้ตัว ช้อนสายตาขึ้นมามองตัวเองบ้าง
“นายมาที่นี้บ่อยเหรอ” คริสเปลี่ยนเรื่องทันทีเมื่อถูกจ้อง
“ครับ ผมมาเดินเล่นกับเพื่อนๆบ่อยๆ”
“หลบเรียนมา?”
“ไม่ใช่เสียหน่อย”
คริสหัวเราะหึในลำคอเมื่อถูกเด็กข้างกายส่งค้อนให้ ปล่อยมือเรียวให้เป็นอิสระยกมือตัวเองขึ้นขยี้เส้นผมหนุ่มเบาๆ เรียกค้อนอีกวงใหญ่ให้ตัวเอง ยกแขนขึ้นพาดคอระหงดึงร่างนั้นให้เข้ามาแนบชิดโดยเจ้าของร่างเองก็ไม่ได้ว่ากล่าวอะไร ทั้งคู่เดินไปบนถนนมยองดที่คนเริ่มพลุกพล่านช้าๆไม่รีบเร่งนัก มองร้านรวงต่างๆที่เปิดอยู่เต็มสองข้างทางหยุดดูบ้างเมื่อเจอของที่ถูกใจ แต่ส่วนมากจะถูกใจคนอายุน้อยกว่ามากกว่า
“หมวก สวยจังเลย ขอดูก่อนนะครับ”
“อื้ออ เอาสิ”
ชานยอลหยุดยืนที่ร้านขายหมวกแฟชั่นมากมายหลายแบบ หยิบจับอยู่สักพักก็ได้อันที่ถูกใจสองใบชายหนุ่มยกมันขึ้นสวมมองดูตัวเองในกระจก แต่เขาก็เลือกมันไม่ได้อยู่ดีเลยหันไปถามคนข้างกาย
“คุณว่าตัวไหนสวยครับ?”
“ทั้งสอง”
“งื้ออ เลือกยากจัง ผมชอบสีดำ แต่สีขาวก็สวย”
“นายก็เอาทั้งสองอันเลยสิ ถอดออกมา ฉันซื้อให้”
“จริงนะครับ ดีจัง”
ชานยอลยิ้มร่าเมื่อได้คำตอบที่ถูกใจ ยื่นหมวกสีดำให้พ่อค้าที่กำลังยืนฉีกยิ้มเพราะได้ยอดขายทั้งแต่หัววัน โดยมีหมวกสีขาววางอยู่บนหัว คริสส่ายหน้ากับอาการดีใจเหมือนเด็กได้ของเล่นนั้นก่อนจะยื่นเงินสดให้คนขาย มองดูใบหน้าหวานที่กำลังส่งยิ้มมาให้ตนแล้วชานยอลก็ได้รอยยิ้มคืนมา
“เดินต่อสิ”
ทั้งคู่เดินออกไปจากบริเวณร้านขายใบหมวก สำรวจร้านค้าแทบทุกร้านที่ทั้งสองเดินผ่านก่อนที่ร่างโปร่งจะเป็นฝ่ายยอมแพ้ขอเดินหาร้านคอฟฟี่ช๊อปเพื่อนั่งพักหลังจากที่เนติดต่อกันมานานร่วมสองชั่วโมง
“อ่า เหนื่อยจัง”
ร่างโปร่งพ่นลมหายใจออกมาทางจมูกทิ้งตัวลงนั่งบนเก็าอี้ไม้สีขาวหน้าร้านขายเครื่องดื่มร้านแรกที่ปรากฏสู่สายตา โดยมีสายตาระอาของคนที่ยืนอยู่ จะไม่ให้หนื่อยได้ยังไงก็เล่นแวะซะทุกร้านแบบนี้ มือเรียวทุบท่อนขาตัวเองเบาๆไล่ความเมื่อยขบ เงยหน้าขึ้นมองคนที่ยังไม่ยอมนั่งด้วยสายตาสงสัย คุณคริสไม่เหนื่อยบ้างเหรอ
“คุณไม่เหนื่อยเหรอครับ?”
“ไม่เท่าไหร่ เดี๋ยวฉันไปซื้อเครื่องดื่มก่อน นายจะเอากาแฟมั้ย?”
“ไม่ครับ ผมไม่ชอบ”
ชานยอลพูดเสียงห้วน นึกหงุดหงิดในใจป่านนี้แล้วคุณคริสยังไม่รู้อีกเหรอว่าเขาไม่ชอบกาแฟ
“แล้วนายจะเอาอะไร บอกมาสิ”
“โกโก็ ผมขอโกโก็ปั่น”
คริสพยักหน้าเข้าใจพยายามมองผ่านใบหน้าบึ้งตึงแสดงอาการไม่พอใจของอีกฝ่าย วันนี้เขาพาเด็กคนนี้มาเที่ยว เพราะไม่อยากทะเลาะกันอีกถ้าไม่ใช่เรื่องสำคัญเขาก็จะพยายามมองข้ามมันไป ตามกลมมองตามร่างที่เดินหายเข้าไปในร้านกาแฟ ก่อนจะรีบก็มหยิบโทรศัพท์มือถือของตัวเองขึ้นมาเมื่อเห็นว่าร่างนั้นหายไปลับตา
“พี่หลี่ฟงหายไปไหน ปกติต้องโทรไม่ก็ส่งข้อความาเวลานี้นี่นา”
ชายหนุ่มพึมพำกับตัวเอง หลังจากเมื่อคืนพี่หลี่ฟงก็ไม่ติดต่อมาหาเขาอีกเลย ทั้บที่เคยดทรมาหาเขาเวลานี้แระจำ มือเรียวพิมพ์ข้อความลงไปในโปรแกรมแชทจะให้ดทรไปตอนนี้เขาก็ทำไม่ได้ด้วยเพราะมีใครบางคนอยู่ข้างกาย
“พี่ครับ”
“ครับ”
รออยู่สักพักเขาก็ได้รับข้อความตอบกลับมา ใบหน้าหวานฉีกยิ้มกว้างรีบพิมพ๋ข้อความตอบกลับไป
“ทำอะไรอยู่ครับ ไม่ว่างเหรอ”
“ไม่เห็นโทรหาผมเลย”
“เปล่าครับ พอดีพี่คิดว่าชานยอลคงไม่สะดวกเลยไม่ได้ทักไป”
“ทานอะไรหรือยังคนดี”
“อ่ะครับ ทานแล้วครับ แล้วพี่ล่ะฮะ”
“ทานแล้วครับ แล้วตอนนี้ทำอะไรอยู่เหรอ”
“ชานยอล โกโก็”
“อ่ะ ขอบคุณครับ คุณคริส”
กำลังจะพิมพ์ข้อความตอบกลับไปแต่แก็วโกโก็ปั่นทรงสูงประดับด้วยวิปครีมสีขาวก็ถูกยื่นมาตรงหน้าเงยหน้าขึ้นด้วยความตกใจก็เจอเข้ากับสายตาคม จำต้องรับแก็วโกโกปั่นมาถือไว้ในมือพร้อมกับก็มหน้าดื่มมันคล้ายจะหลบสายตา จนเมื่อคุณคริสทิ้งตัวนั่งลงข้างๆจิบอเมริกาโน่ในมือมองบรรยากาศรอบกายไปด้วยโดยไม่ได้สนใจเขา ชานยอลจึงก็มหน้าพิมพ์ข้อความตอบกลับไป
“ผมออกมาทำธุระกับแม่ครับ”
จะให้เขาบอกความจริงออกไปได้อย่างไร ถ้าบอกไปตามตรงพี่หลี่ฟงต้องไม่สบายใจแน่ๆ เขาจึงจำต้องโกหกอีกครั้ง
“ครับ แล้วจะกลับมาวันไหน พี่คิดถึงจัง”
“คิดว่าพรุ่งนี้ก็กลับแล้วครับ คิดถึงพี่เหมือนกัน”
“แต่ก็ไม่อยากกลับเลย คิดถึงคุณแม่ครับ”
ชานยอลอมยิ้มเมื่อได้อ่านข้อความหวานที่อีกฝ่ายคตอบกลับมา ก่อนจะส่งกลับไปว่าคิดถึงเหมือนกัน เผลอลืมไปเลยว่ามีใครนั่งอยู่ข้างตน
“มองทำไมโทรศัพท์ มันมีอะไรนักหนาห๊ะ ชานยอล นายถึงเล่นมันอยู่ได้!”
TBC.....
หวานกันไปก่อนนะคะ ....
สวัสดีค่ะ
ร่วมสกรีมในทวิตรบกวนติด #DDT
..
ความคิดเห็น