ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [FIC EXO] ::Distorted DayTime ::KrisYeol

    ลำดับตอนที่ #54 : CHAPTER 51

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 6.35K
      27
      7 พ.ย. 56










    Distorted Daytime










     

     

    พี่ พี่อย่าไปเลยค่ะ



    ปล่อยฉันเพ่ยฟาง ถ้าไม่กำราบ มันก็จะทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ มันเห็นพี่เป็นหัวหลักหัวตอหรือไง พี่เป็นผัวมันนะ!”



    พี่ ฉันขอล่ะ พี่อย่าไปเลย



    ปล่อย บอกให้ปล่อย!”



    คริสหันไปตะคอกคนรักด้วยสายตาดุดัน จนหญิงสาวต้องยอมปล่อยแขนนั้นออก พี่อู๋ฟานน่ากลัวเหลือเกิน ร่างสูงก้าวเท้าไปยังห้องครัวด้วยใจที่สั่นระรัว โมโหอย่างที่สุด มือหนากำเข้าหากันแน่น เด็กคนนั้นกำลังคิดจะลองดีกับเขาชายหนุ่มคิดอย่างโมโห แค่ไม่ได้กลับบ้านมันจะตายหรือไง



    ความจริงที่ว่าชานยอลไม่อยากเห็นหน้าตนไม่แม้แต่จะสามารถทานข้าวร่วมโต๊ะได้กำลังทำให้เลือดในกายเขาเดือดพล่านเพราะความโกรธ  มาทำเหมือนเขาไม่ตัวตนได้ยังไง ความโมโหที่กำลังพลุ่งทะยานทำให้ร่างสูงเมินเฉยต่อเสียงร้องเรียกของคนรัก ยิ่งเมื่อเห็นภาพร่างโปร่งต้นเหตุของอารมณ์โกรธกำลังนั่งอยู่บนโต๊ะอาหารในห้องครัวด้วยสีหน้ายิ้มแย้มยิ่งทำให้เขาคุมอารมณ์ไว้ไม่อยู่



    เพล้ง!”



    กรี๊ดดด!”



    ห้องอาหารดีๆมีทำไมมึงไม่กิน!”



    สิ้นเสียงพูดถ้วยรามยอนที่เขายังไม่แตะเลยสักคำก็ถูกมือหนาปัดหล่นกระจายลงกับพื้น ตากลมมองเศษถ้วยและเส้นบะหมี่ด้วยแววตาตื่นตระหนก น้ำซุปสีเข้มเจิ่งนองยู่บนแผ่นกระเบื้องรามยอนที่คุณยายทำให้เขาถูกคนใจร้ายทำลายมันจนไม่เหลือชิ้นดี เช่นเดียวกันกับหัวใจของตน



    ฮึก ฮื่ออ



    ถ้ามันยากนักก็ไม่ต้องกิน! อดให้มันตายไปเลย!”



    โฮ ................



    ร่างโปร่งปล่อยโฮออกมาอย่างขวัญเสียยกมือปิดหน้าตัวเองไว้สะอื้นฮัก ความรู้สึกโกรธและเสียใจกำลังตีกันไปหมด ตั้งตัวไม่ทันกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น



    ทำไมคุณคริสต้องทำแบบนี้จะไม่ปล่อยให้เขามีที่ยืนในบ้านหลังนี้เลยหรือไง ขอแค่ได้นั่งกินข้าวแบบมีความสุขแค่นี้ก็ให้เค้าไม่ได้ใช่มั้ย



    พี่คะ พอเถอะ ฮื่ออ พอเถอะ



    หญิงสาวดึงแขนของคนรักไว้น้ำตานองหน้า ยิ่งเห็นคุณชานยอลที่เอาแต่นั่งปิดหน้าร้องไห้อย่างคนขวัญเสียหล่อนก็รู้สึกเจ็บไปด้วย ทำไมพี่อู๋ฟานทำแบบนี้ โกรธโมโหอะไรมากมายทำไมต้องทำร้ายจิตใจกันแบบนี้ด้วย



    ไม่ต้องมาร้อง!จำไว้คราวหน้าถ้าไม่อยากกินข้าวในบ้านก็ไสหัวออกไปไกลๆ จะไปไหนก็ไป!”



    ฮื่ออออออ ...



    คริสพูดด้วยความโมโหใบหน้าหล่อเหลาเจือสีแดงเพราะความโกรธ ขายาวยกถีบเก้าอี้ที่ว่างอยู่จนล้ม กระทืบเท้าเดินออกไปจากห้องโดยมีร่างของเพ่ยฟางวิ่งตามไปติดๆ คุณยายหลี่ยืนตัวสั่นอยู่กลางห้องทำอะไรไม่ถูก ตกใจกับการกระทำและคำพูดของคนที่ตัวเองเลี้ยงมากับมือ คุณยายหลี่รั้งตัวคนที่นั่งปิดหน้าร้องไห้สะอื้นจนตัวโยนเข้ามากอดไว้แนบอก น้ำตาไหลออกมาจากดวงตาสีหม่น สงสารร่างในอ้อมกอดจับใจ



    ไม่เป็นไรนะคะ ฮื่ออ ไม่เป็นไร เดี๋ยวยายทำให้ใหม่นะ ฮื่อ



    ฮื่ออ ยายครับ ฮื่ออ ผมเกลียดเค้า ผมเกลียดเค้า ฮื่ออ



    อย่าร้องค่ะ ฮึก อย่าร้องนะคะ ยืนทำอะไรอยู่ฮะ!เก็บของสิ



    คุณยายหลี่ปลอบคนที่กำลังร้องไห้ทั้งน้ำตา ก่อนจะหันไปตะวาดสาวใช้ที่ยืนทำอะไรไม่ถูกอยู่หลังห้องครัว จนบรรดาเด็กรับใช้ต้องรีบวิ่งกรูเข้ามาทำความสะอาดพื้นให้เสร็จ เสียงร้องไห้ยังคงดังก้องอยู่ในห้อง ไม่มีทีท่าว่าคุณชานยอลของพวกหล่อนจะยอมหยุดร้องง่ายๆ โดยมีร่างของคุณยายยืนอวบรัดร่างนั้นไว้ร้องไห้ไปด้วยกัน



    ผมจะทำยังไงดี ผมอยากหนีออกไปจากที่นี้เหลือเกินครับยาย ฮึก เมื่อวานเขาก็เพิ่งขู่ฆ่าผม วันนี้เค้าก็ไล่ผม ฮื่ออ



    คุณคริสแค่โมโห เธอไม่ยอมให้คุณไปไหนหรอกค่ะ เธอแค่กำลังโกรธ หยุดร้องนะคะคนดีของยาย



    ผมเกลียดเขา ฮื่ออ



    อย่าพูดแบบนั้นนะคะ หยุดร้องไห้ คุณต้องไปเรียนไม่ใช่เหรอ เดี๋ยวยายให้ลุงถังไปส่ง



    ไม่เอาครับ ผมจะไปเอง ฮึก



    ชานยอลส่ายหน้าปฏิเสธเช็ดน้ำตาออกจากใบหน้า ยิ้มให้คุณยายทั้งน้ำตา วันนี้เขาคงต้องงดอาหารเช้าอีกหนึ่งวัน



    คุณร้องไห้แบบนี้จะขับรถไหวเหรอคะ ให้คุณลุงไปส่งไม่ดีกว่าเหรอ



    ไม่ครับ ผมจะออกไปข้างนอกด้วย ผมยังไม่อยากกลับบ้าน เกรงใจคุณลุงถ้าต้องขับรถไปมา



    ไปได้ค่ะ แต่อย่ากลับค่ำนะคะ คุณคริสยิ่งป็นอย่างนี้อยู่ด้วย ยายกลัวว่า..



    คุณยายหลี่พูดอย่างเข้าใจถึงดเหตุผลที่เด็กหนุ่มไม่อยากกลับบ้าน จะให้มานั่งอุดอู้อยู่แต่ในห้องก็คงเหงาและเบื่อน่าดู แต่ก็กลัวว่าคุณชานยอลจะกลับมาไม่ทันเวลาจนเป็นต้นเหตุให้โดนดุอีก


    ผมเข้าใจแล้วครับยาย ขอบคุณนะครับ



    ร่างโปร่งลุกขึ้นยืนหยิบหนังสือกับพวงกุญแจไว้ในมือ วันนี้เขามีเรียนตอนเช้าวิชาเดียวส่วนตอนบ่ายเขาคงต้องไปอาศัยห้างสรรพสินค้าหรือร้านอาหารสักแห่งเพื่อฆ่าเวลา กะเวลาให้พอเหมาะย้ำกับตัวเองว่าต้องกลับมาให้ทันเวลาก่อนที่คนเจ้าอารมณ์จะกลับถึงบ้าน ถ้าพี่หลี่ฟงว่างก็คงดี



    ชายหนุ่มยืนรออยู่ในห้องครัวพร้อมกับทานนมในแก้วที่คุณยายหลี่นำมาให้กินรองท้องไปด้วย มองดูนาฬิกาข้อมือเมื่อเข็มบอกว่าถึงเวลาที่คุณคริสต้องไปทำงานแล้วจึงเดินออกมาข้างนอกก็เจอกับร่างบางของเพ่ยฟางที่ยังยืนอยู่ตรงระเบียงหน้าบ้านเพื่อรอพบกับเขาอยู่ขาเรียวหยุดชะงักทั้งสองเผชิญหน้ากัน



    คุณชานยอลคะ...ขอโทษนะคะ ขอโทษแทนพี่อู๋ฟานด้วย



    ชานยอลเดินออกไปจากตรงนั้นทันทีที่หญิงสาวพูดคำนั้นจบ ถึงแม้คุณชานยอลจะไม่ได้ตอบรับในสิ่งที่หล่อนพูด แต่เธอก็พอจะรับรู้ได้จากแววตาที่อ่อนลงอย่างน้อยก็ไร้แววเกลียดชังเหมือนแต่ก่อน หญิงสาวมองตามร่างโปร่งที่กำลังเดินไปขึ้นรถรอยยิ้มบางๆปรากฏอยู่บนใบหน้าอย่างน้อยในความโชคร้ายก็ยังมีเรื่องดีๆอยู่









    ร้องไห้อีกแล้วเหรอครับ?”



    นี้คือประโยคแรกที่พี่หลี่ฟงพูดกับเขา เรียวคิ้วเข้มสวยขมวดเข้าหากันไม่รู้ว่าร่างสูงมารอเขาอยู่ตั้งแต่เมื่อไหร่ วันนี้มีเรียนบ่ายไม่ใช่เหรอ



    ครับ แต่ผมไม่ได้เป็นอะไรมาก แค่ปวดหัวนิดหน่อย แล้วพี่ล่ะครับ มาทำไม? วันนี้มีเรียนบ่ายไม่ใช่เหรอ



    พี่อยากเจอเรา ไม่ได้เจอหน้ากันตั้งนานตั้งแต่วันนั้น คิดถึงนะ



    คริ คริ พี่ปากหวานจัง



    ร่างโปร่งหัวเราะคิกกับคำพูดหวานที่อีกฝ่ายพูดขึ้นเมื่อนั่งลงบนโต๊ะม้าหินอ่อนหน้าตึก ใช่ว่าเขาจะไม่เคยได้ยินนั้นออกมาจากปากร่างสูง แต่พอได้ยินซึ่งๆหน้าก็ทำให้อดรู้สึกเขินไม่ได้



    พี่พูดจริงๆ แล้วชานยอลล่ะ ไม่คิดถึงพี่เหรอ



    คิดถึงสิครับ



    น่ารักจัง



    หลี่ฟงพูดพร้อมกับวางมือลงบนศรีษะที่ปกคลุมด้วยเส้นผมนุ่มลื่นมือ ขยี้มันไม่แรงนักแต่ก็เรียกเสียงร้องจากเด็กน่ารักได้ ใบหน้าหวานก้มงุดเพราะความเขินอาย ทั้งสองพูดคุยและแลกเปลี่ยนเรื่องราวต่างๆที่เกิดขึ้นเมื่อไม่ได้เจอหน้ากันสองสามวัน โดยไม่ทันสังเกตว่ามีสายตาสองคู่กำลังมองมา



    เธอ นั้นมันพี่หลี่ฟงปีสองหรือเปล่า โทปีสองอ่ะ



    อ๋อ ใช่สิ หล่อๆแบบนั้นฉันจำได้อยู่แล้ว แล้วนั้นกำลังคุยอยู่กับใครเหรอ



    แฟนพี่เขามั้ง



    แต่เอะ นั้นหน้าคุ้นๆนะ เหมือนเคยเห็นที่ไหนมาก่อน คนเกาหลีหรือเปล่านะ



    ใช่แล้ว ในหนังสือพิมพ์ไงแก ปาร์ค ชานยอลไง ที่แต่งงานกับอู๋ อี้ฟานนักธุรกิจไง เมื่อต้นปีอ่ะ จำได้มั้ย?”



    อ้อ จำได้ๆ เอะ แต่เขาสองคนเหมือนแฟนกันเลยนะ ดูสิแก!จับแก้มกันด้วย



    ฉันก็ว่า เอ เรื่องนี้มันยังไงๆอยู่นะ สงสัยมีเรื่องให้เม้าท์ใหม่แล้วเรา คึคึ

     










    ภายในห้องทำงานบนตึกสูงกว่า50ชั้นของบริษัท WU China Internationalร่างสูงนั่งอยู่บนเก้าอี้ทำงานเอนหลังชนกับเบาะ เขากำลังมีปัญหาให้คิดไม่ตกทั้งเรื่องงานและเรื่องครอบครัว มือหนายกบุหรี่ในมือขึ้นสูบ หวังว่าสารนิโคตินในมวลบุหรี่จะทำให้เขาผ่อนคลายได้บ้างแต่มันก็ช่วยได้ไม่มากนัก สุดท้ายชายหนุ่มก็ต้องยอมแพ้



    เรียกอี้ชิงเข้ามาหาฉันด้วย เดี๋ยวนี้



    ค่ะ คุณคริส



    คริสเน้นประโยคสุดท้ายก่อนจะกระแทกโทรศัพท์ลงกับแป้น ชายหนุ่มยกขายาวขึ้นพาดกับโต๊ะใช้มือขยี้เส้นผมของตัวเองอย่ากลัดกลุ้ม เขาเบื่อกับปัญหาที่เกิดขึ้นภายในบ้านเต็มที การที่ต้องทะเลาะกับชานยอลแทบทุกวันมันพลอยทำให้เขาต้องเอาอารมณ์ที่ค้างคามาระบายใส่ลูกน้องที่บริษัทแทบทุกครั้ง จนตอนนี้ไม่มีใครเข้าหน้าเขาติดสักคนแม้แต่อี้ชิง



    ครับ คุณคริส



    มาแล้วเหรอ



    ครับ คุณต้องการอะไรหรือเปล่า?”



    นายคิดว่าฉันพอจะไปเกาหลีอีกครั้งได้มั้ย?”



    ยังไงเหรอครับ?”



    ชริ! มีงานอะไรติดค้างอยู่หรือเปล่า ถ้าฉันจะไปเกาหลีพรุ่งนี้ สักสองสามวัน มันพอจะเป็นไปได้มั้ย?”



    คริสสบถออกมาก่อนจะพูดทุกอย่างออกไปตามที่ใจคิด อี้ชิงร้องอ๋อออกมาเบาๆ ชายหนุ่มผู้มีฐานะเป็นลูกน้องคลี่ยิ้มออกมาเล็กน้อย คุณคริสคงเบื่อการที่ต้องทะเลาะกับคุณชานยอลแล้วสินะถึงได้หาวิธีง้อแบบนี้ ชายหนุ่มคิดเหมือนรู้ว่าเจ้านายจะไม่เดินทางไปต่างประเทศครั้งนี้คนเดียว



    ได้ครับ ถ้าสองสามวันเพราะหลังจากที่คุณเซ็นสัญญาซื้อขายช่องสัญญาทีวีกับทาง TBS เสร็จก็หมดงานที่สำคัญแล้วครับ



    งั้นเหรอ ถ้างั้นนายช่วยจองตั๋วเครื่องบินให้ฉันด้วยแล้วกัน



    กี่ที่ครับ?”



    2



    จองในชื่อใครครับ



    คริสเงยหน้าขึ้นมองสบตากับลูกน้องคนสนิทที่กำลังยืนอมยิ้มอยู่ สายตาคุมดุนั้นเล่นเอาคนที่ถูกมองต้องหน้าจ๋อยสนิท อี้ชิงยิ้มออกแหยๆออกมาก่อนจะขออนุญาติออกไปจัดการธุระตามคำสั่งเมื่อลูกน้องออกไปแล้วร่างสูงก็ถอนลมหายใจออกมา หวังว่ากลับมาจากเกาหลีเขาคงไม่ต้องทะเลาะกับเด็กคนนั้นอีกแล้ว






    ชานยอลยืนอยู่ในลานจอดรถของมหาลัย โดยมีร่างสูงของหลี่ฟงยืนทำหน้าบึ้งอยู่ข้างๆ ถึงแม้จะอยากทำตัวงี่เง่าแต่บางทีเขาก็อดน้อยใจไม่ได้เมื่อคนน่ารักบอกว่าวันนี้อยู่ทานข้าวเย็นกับเขาไม่ได้ เพราะต้องรีบกลับ

    พี่อย่างอนนะครับ เดี๋ยววันหน้าเราค่อยไปกินข้าวด้วยกันก็ได้



    เราไม่ได้เจอกันนานแล้วนะชานยอลแต่ก็ได้..พี่เข้าใจว่าชานยอลมีธุระ



    ขอบคุณมากนะครับพี่ เดี๋ยวเอาไว้คราวหน้าเราไปทานข้าวกันแล้วต่อด้วยดูหนังดีมั้ยครับ?”



    ดีสิ ชานยอลเลี้ยงพี่นะ



    ง่ะ…”


    พี่ล้อเล่น ฮ่าๆๆ ไป ขึ้นรถได้แล้วเดี๋ยวจะค่ำเสียก่อน มันอันตราย



    มือหนาวางลงบนศีรษะกลมของเด็กหนุ่มขยี้เส้นผมนุ่มลื่นไม่แรงนัก ส่งยิ้มให้กันเป็นครั้งสุดท้าย ร่างโปร่งก้าวขึ้นรถโบกมือลาร่างสูงที่ยืนรอส่งเขาอยู่ รถสีดำพุ่งทยานไปข้างหน้าตรงไปยังคฤหาสน์ตระกูลอู๋ที่เขาเพิ่งจากมาเมื่อเช้า ชานยอลถอนหายใจออกมาเบาๆ ไม่รู้ว่าคืนนี้เขาต้องเจอกับอะไรอีก ขอให้กลับบ้านไปแล้วไม่เจอผู้ชายคนนั้นทีเถอะ เขาเบื่อที่จะต้องทะเลาะเต็มทีล่ะ ชายหนุ่มรำพันในใจ

     







    กลับมาแล้วเหรอคะคุณชานยอล



    กับมาแล้วครับ ยายทำอะไรอยู่เหรอให้ผมช่วยมั้ย?”



    ร่างโปร่งที่ยืนอยู่หน้าห้องครัวเอ่ยถามคุณยายที่กำลังนั่งหันผักอยู่บนโต๊ะในห้องครัว วันนี้เขากลับบ้านก่อนพระอาทิตย์ตกดินเป็นครั้งแรกตั้งแต่เปิดเทอมมา ตามคำขอของคุณยายเมื่อเช้านี้เมื่อกลับมาถึงบ้านเขาก็ไม่เจอใครเลยจึงเดินเข้ามาในห้องครัวเพราะคิดว่าทุกคนคงรวมตัวกันอยู่ในนั้นและมันก็เป็นอย่างที่เขาคาด



    ไม่เป็นไรค่ะ คุณมาเหนื่อยๆไปอาบน้ำเถอะ เดี๋ยวยายจะทำอาหารเย็นรอ วันนี้อยากทานอะไรเป็นพิเศษมั้ย

    คะ
    ?”




    หญิงชราเอียงคอถามเด็กร่างสูงที่กำลังหยิบชิ้นแอปเปิ้ลในจานขึ้นเคี้ยว ชานยอลส่ายหน้าปฏิเสธเมื่อไม่มีอะไรที่นึกอยากทานในใจ ก่อนจะรีบกลืนชิ้นแอปเปิ้ลลงคอเมื่อคิดอะไรได้ เขามีงานที่ต้องทำนี้นา



    คุณยายครับ วันนี้ผมขอทานข้าวเร็วกว่าเวลาได้มั้ยครับ



    ทำไมคะ?คุณจะหลบหน้าคุณคริสเหรอ ยายว่า..



    ไม่ใช่...ทั้งหมดครับ พอดีผมมีรายงานที่ต้องส่งอาจารย์วันพรุ่งนี้เลยอยากรีบทานข้าวให้เสร็จแล้วขึ้นไปทำงานเลย



    เขาไม่กล้าปฏิเสธคำพูดของคุณยายได้เต็มปาก เพราะนั้นก็เป็นส่วนหนึ่ง ใช่เขาไม่อยากเจอหน้าคุณคริส แต่ความจริงแล้วเขาอยากทำรายงานให้เสร็จมากกว่า และหนังสืออีกหลายเล่มที่เขาไปยืมมาจากห้องสมุดกำลังรอให้เขาไปทำความเข้าใจกับมันอยู่



    ถ้าอย่างนั้นก็ได้ค่ะ เดี๋ยวคุณขึ้นไปอาบน้ำรอก่อนนะคะ ถ้าอาหารเสร็จยายจะให้เด็กขึ้นไปตาม



    ขอบคุณมากครับคุณยาย



    ชายหนุ่มยิ้มร่าเมื่อได้คำตอบอย่างที่ใจต้องการ คว้าโทรศัพท์กับหนังสือเรียนขึ้นมาจากโต๊ะวิ่งออกไปจากห้องครัวขึ้นไปยังห้องนอนของตน ผ่านร่างของเพ่ยฟางที่กำลังยืนจัดแจกันดอกไม้อยู่บนหน้าห้อง ตอบรับเสียงร้องทักด้วยรอยยิ้มบางก่อนจะวิ่งเข้าไปในห้องวางหนังสือลงบนเตียงพยายามทำทุกอย่างให้เร็วที่สุดก่อนที่คุณคริสจะกลับมา



    ร่างโปร่งนั่งอยู่บนเตียงในห้องนอนของตัวเองหลังจากที่ทานข้าวผัดหยางโจวแสนอร่อยที่คุณยายทำให้เขาเป็นพิเศษหมดไปสองจาน กองเอกสาร หนังสือ และกระดาษวางกระจัดกระจายทั่วเตียง ใบหน้าหวานก้มลงแทบชิดกับหนังสือ ดวงตากลมมองสลับไปมาระหว่างตัวอักษรสีดำและจอโทรศัพท์มือถือเปรียบเทียบข้อมูลที่พี่หลี่ฟงส่งมาให้เขาเพื่อให้การทำรายงานชิ้นแรกผ่านไปได้ด้วยดี



    ทำไมมันยากอย่างนี้นะ



    ชายหนุ่มบ่นกับตัวเองปากอิ่มยู่เข้าหากันผ่อนลมหายใจออกมาสุดท้ายก็ต้องยอมแพ้กับอาการปวดหัวตุบของตัวเอง วางดินสอไม้ไว้ข้างตัว ขาเรียวเหยียดออกเต็มความยาวไล่ความเมื่อยขบที่กำลังรุมเร้า แล้วร่างโปร่งก็ต้องสะดุ้งตกใจเมื่อได้ยินเสียงไขประตูห้องที่เขาเป็นคนล็อคเองกับมือ คนที่จะทำแบบนี้ได้มีแค่คนนั้นคนเดียวเท่านั้น ...คุณคริส



    คุณคริส..เข้ามาทำไม ออกไปนะ!!”



    ตากลมเบิกโพลงเมื่อเห็นร่างสูงที่เขาไม่อยากเจอก้าวเข้ามาในห้อง ตะโกนเรียกชื่อเจ้าของร่างด้วยความตกใจ ออกปากไล่คนใจร้ายที่กำลังเดินตรงมาหาเขาด้วยความหวาดกลัว เขาไม่อยากให้คุณคริสแตะต้องเขาอีกแล้ว ที่ผ่านมามันก็มากเกินไปแล้วที่เขายอม



    อย่าเข้ามา บอกว่าอย่าเข้ามา!!”



    ฟรึบ!”



    แม่ง!”



    คริสสบถออกมาอย่างหัวเสียเมื่อกระดาษรายงานปึกไม่เล็กลอยมาปะทะหน้า ตามด้วยหนังสืออีกเล่มที่โดนเขวี้ยงตามมาเพราะความกลัวของคนโยน ชานยอลก้าวเท้าลงจากเตียงหลังจากที่โยนหนังสือใส่คนตัวโตออกไปอีกครั้ง ทำไปแล้วก็นึกหวาดกลัวต่อสิ่งที่ตัวเองจะได้รับ



    หยุดเดี๋ยวนี้นะ!”



    ไม่ออกไป คนสาระเลว ออกไปนะ!”



    ร่างโปร่งหวีดร้องอย่างขวัญเสีย เขากับคุณคริส ในห้องนอน ไม่มีทางไหนเลยที่เขาจะชนะ แล้วแขนทั้งสองข้างของเขาก็ถูกกระชากจนตัวลอย ชานยอลพยายามดึงแขนตัวเองให้หลุดออกจากอุ้งมือหนาน้ำตาไหลลงมาเปรอะแก้มทั้งสองข้าง แต่เขาก็ไม่สำเร็จกลีบปากอิ่มพ่นคำระคายหูคนฟังออกมาไม่หยุดจนคริสสุดจะทานทน



    หุบปากเดี๋ยวนี้นะ!”



    ไม่หยุด ออกไป ฮื่ออ



    จะเอาหรือไม่เอาห๊ะ ไอ้ตั๋วเครื่องบินนี้ จะไปมั้ย!”



    คริสผลักร่างโปร่งสุดแรง ชานยอลถลาลงไปนอนกองกับพื้นขาเรียวถดหนีพยายามออกไปให้ห่างจากร่างสูงมากที่สุด แต่เมื่อเขาเงยหน้าขึ้นมาแผ่นกระดาษไม่แข็งไม่อ่อนนักก็ลอยเข้ามาปะทะหน้าปลิวลงกับพื้น ชายหนุ่มมองข้อความบนแผ่นกระดาษนั้นนัยน์ตาลุกวาว



    ตั๋วเครื่องบิน?”



    พึมพำประโยคนั้นออกมาปากอิ่มฉีกยิ้มกว้าง ตะครุบมันไว้ในมือมองมันเหมือนของล้ำค่า แต่แล้วเรียวปากอิ่มก็หุบยิ้มลงฉับพลันความสงสัยเข้ามาแทนที่ เงยหน้าขึ้นมองใบหน้าหล่อเหลาที่ประดับด้วยรอยยิ้มร้ายกาจ



    ตั๋ว2ใบหรือว่า



    ใช่ ฉันจะไปด้วย แกคิดเหรอว่าฉันจะยอมให้แกกลับบ้านคนเดียว



     










    TBC.............................





    สวัสดีค่ะ ตอนแรกว่าจะไม่ลงมาลงให้จนได้ แฮ่ๆๆ


    ได้อ่านทุกคอมเม้นแล้วนะคะ ขอบคุรที่ชอบและก็ขอบคุณที่เป็นกำลังใจให้กันมาตลอด คำติชมก็ได้อ่านแล้วนะคะ 

    ต่อไปนี้คงไม่ใส่ความรู้สึกตัวเองในทอคอีกแล้ว TT ไม่ได้โกรธหรืออะไรนะคะ แต่กลัวคนอ่านไม่พอใจแค่นั้น แหะๆ

    ตอนหน้า ...ไปเที่ยวเกาหลีกันค่ะ (จะได้ไปมั้ย? ฮี่ๆๆ)

     



    ช่วยเม้นและโหวตด้วยนะคะ





    สกรีมในทวิตรบกวนติด #DDT 

     


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×