ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [FIC EXO] ::Distorted DayTime ::KrisYeol

    ลำดับตอนที่ #48 : CHAPTER 46

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 6K
      19
      24 ต.ค. 56







    Distorted Daytime















    ไปแต่งตัวสิ



    คริสพูดขึ้นเมื่อเดินเข้ามาในห้องนอนที่เขามาอาศัยนอนในบางคืน เด็กหนุ่มร่างสูงโปร่งหน้าตาน่ารักนั่งอยู่บนเตียงกำลังอ่านหนังสือทบทวนความรู้ในวันหยุด ชานยอลเงยหน้าขึ้นมาจากกองหนังสือ มองคนที่เพิ่งเข้ามาใหม่ด้วยสายตาไม่เข้าใจ



    ไปไหนครับ?”



    ไปซื้อของไง



    ของอะไร?”



    มาถึงตอนนี้แล้วเขาก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดีว่าคุณคริสต้องการอะไร อยู่ๆก็เดินเข้ามาในห้องแล้วก็บอกให้เขาไปแต่งตัว



    เมื่อวาน..นายบอกว่ามีของที่ต้องซื้อไม่ใช่เหรอ?”



    อ่า..ใช่ครับ



    ร่างโปร่งร้องอ๋อ ลืมสิ่งที่ตัวเองโกหกไว้เสียแล้ว คิ้วเรียวขมวดเข้าหากันพยายามชั่งใจว่าจะไปดีหรือเปล่า ถ้าเขาปฏิเสธคุณคริสคงไม่ว่าอะไร แต่ถ้าทำอย่างงั้นเขาก็ต้องทนอุดอู้อยู่ในห้อง แต่เขาไม่อยากไปกับร่างสูงนี้นา เขาอยากไปกับพี่หลี่ฟงมากกว่าให้เขาไปคนเดียวไม่ได้หรือไง แล้วความคิดทั้งหมดของเขาก็หยุดชะงัก เมื่อได้ยินคำพูดต่อมาของคุณคริส



    เพ่ยฟางจะไปซื้อเสื้อคลุม เขาชวนนายไปด้วย



    ชานยอลทิ้งปากกาในมือลงกับพื้นเตียง ถอนหายใจออกมานึกแล้วไม่มีผิด ผู้ชายคนนี้น่ะเหรอจะใจดีพาเขาออกไปซื้อของข้างนอกถ้าไม่ใช่เพราะคนอื่นสั่ง มือเรียวหยิบเอกสารบนเตียงขึ้นมาอ่าน รู้สึกถึงความเจ็บที่เขาพยายามจะลืมแล่นขึ้นมาในอก



    พวกคุณไปเถอะ สมุด ดินสอ ปากกาผมยังพอมี ว่างๆจะไปซื้อเอง



    ไปแต่งตัว ฉันจะรอ



    คุณคริส..ผมไม่เข้าใจว่าคุณจะเอาผมไปด้วยทำไม พวกคะ..



    ถ้าฉันไปกับเพ่ยฟางสองคน คนอื่นจะสงสัย ลุก!ไปแต่งตัวได้แล้ว



    คริสเน้นประโยคสุดท้ายทีล่ะคำ ชานยอลถอนหายใจออกมาดังพรืด เขาก็มีประโยชน์แค่ตอนเวลาจะออกไปข้างนอกกับคนรักและเวลาอยู่บนเตียงเท่านั้นสินะ ก็ใช่สิ แต่งงานแล้วแต่กลับไปเดินซื้อของกับผู้หญิงคนอื่นแถมกำลังตั้งท้องเสียด้วยใครจะไม่สงสัย



    ร่างโปร่งลุกจำใจลุกขึ้นจากเตียง บอกตัวเองให้ท่องคำว่าเกาหลี แม่ และพี่ชายไว้ในใจ จะได้ไม่เผลออาระวาดออกไปอย่างใจนึก หยิบเสื้อผ้าออกมาจากตู้ไม่ได้พิถีพิถันในการเลือกนักหยิบตัวไหนได้เขาก็สวมลงไป คริสมองท่าทางนั้นอย่างไม่พอใจเอ่ยปากสั่งให้อีกฝ่ายทำตามความต้องการของตน



    ไม่เอาตัวนั้น เอาเสื้อเชิ้ตสีฟ้า



    แต่ว่า..



    สีฟ้า ชานยอล



    แล้วเขาจะขัดได้อย่างนั้นเหรอ มือเรียวเอื้อมไปหยิบเสื้อสีฟ้าตามที่คริสสั่งด้วยอาการกระแทกกระทั้น จัดการทุกอย่างให้เขาเรียบร้อยแล้วร่างสุงก็เดินนำออกไปจากห้องลงมายังชั้นล่างของบ้านที่มีเพ่ยฟางยืนรอด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม คงจะดีใจมากสินะที่จะได้ออกไปซื้อของกับสามีโดยไม่ต้องหลบๆซ่อนๆเหมือนเมื่อครั้งก่อนแถมมีเขาพ่วงท้ายเป็นไม้กันหมาไม่ให้นักข่าวสงสัยอีก ชายหนุ่มคิดอย่างอคติในใจ



    ลงมาแล้วเหรอคะพี่อู๋ฟาน คุณชานยอล



    อื้อ ไปสิ



    คริสตอบรับแล้วเดินนำทั้งสองออกไปหน้าบ้านรถซีดานสีดำจอดรออยู่โดยมีคุณลุงถังยืนเช็คตรวจความเรียบร้อยอยู่ไม่ห่าง คริสเดินอ้อมไปขึ้นรถตรงฝั่งคนขับ ปล่อยให้ชายหนุ่มหญิงสาวยืนอึกอักทำตัวไม่ถูกอยู่ข้างหลัง



    เธอไปนั่งหน้า



    แต่ว่า..



    ไปนั่ง!”



    ชานยอลพูดสั่งให้หญิงสาวที่กำลังยืนทำตัวไม่ถูกไปนั่งประจำที่ที่เคยเป้นของตน ก่อนจะเดินไปเปิดประตูด้านหลังสอดตัวเข้าไปนั่งในนั้น หันหน้ามองออกไปนอกหน้าต่าง คริสมองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างเบื่อหน่าย ถึงแม้จะบอกว่าจะยอมเชื่อฟังเขาทุกอย่างแต่เด็กคนนี้ก็ยังมีบทดื้ออยู่ดี เพ่ยฟางก้าวขึ้นไปนั่งบนรถข้างคนขับ ก้มหน้ามองมือตัวเองอย่างไม่สบายใจแล้วมือหนาก็เอื้อมมากุมมือหล่อนไว้ หญิงสาวชักมืออกอย่างตกใจเงยหน้าขึ้นมองกระจกหลังภาพสะท้อนจากกระจกทำให้หล่อนต้องใจหาย




    ชานยอลเบื้อนหน้าหนีจากภาพนั้น ฝ่ามือหนาอบอุ่นที่เขาเคยได้สัมผัสความรู้สึกดีใจเป็นล้นพ้นที่ได้รับมันเมื่อครั้งก่อนยังไม่จางหาย แต่ตอนนี้เขารู้แล้วว่ามันไม่ใช่ของเขา มันเป้นของหญิงสาวที่กำลังอุ้มท้องลูกของผู้ชายคนนั้นต่างหาก ศีรษะทุยเอนลงซบเบาะหนัง หันหน้าไปมองนอกหน้าต่าง ภาพผู้ชายที่เขาเฝ้าคิดถึงรอเข้ามาในสมอง พี่หลี่ฟงครับ ผมอยากเจอพี่เหลือเกิน








    ภายในห้างสรรพสินค้าแห่งใหญ่ใจกลางกรุงปักกิ่ง ชานยอลเดินตามหลังร่างชายหนุ่มและหญิงสาวสองคนที่กำลังเลือกเสื้อผ้าในโซนสตรีด้วยสีหน้าเบื่อหน่าย มองไปรอบก็เจอแต่เสื้อผ้าของผู้หญิง เขาอยากออกไปจากตรงนี้ใจจะขาด แต่ก็ติดที่มีสายตาเรด้าของร่างสูงคอยมองมา



    อุ้ย พี่อู๋ฟาน เพ่ยฟางขอไปรับโทรศัพท์ก่อนนะคะ



    อื้อ ไปสิ



    เพ่ยฟางมองโทรศัพท์อย่างยินดีเมื่อเห็นรายชื่อที่โทรเข้ามาเอ่ยขออนุญาตคนรักก่อนจะเดินออกไปจากบริเวณนั้นเมื่อได้รับอนุญาต คริสหันมามองเด็กหนุ่มร่างสุงโปร่งที่ยืนหันหน้าหันหลังอยู่ข้างๆ ชานยอลหันกลับมาเมื่อรู้สึกว่ากำลังถูกมอง สบสายตากับดวงตาคมที่จ้องมาทางเขาไม่กระพริบ



    ผมขอเดินลงไปดูหนังสือข้างล่างนะครับ


    เดี๋ยวจะพาไป



    ไม่ต้องก็ได้ครับ คุณพาเพ่ยฟางซื้อของเถอะ ผมลงไปดูเองก็ได้



    เด็กหนุ่มฉีกยิ้มกว้างหวังให้ร่างสูงใจอ่อน แต่แล้วก็คุณคริสก็พูดดับฝันเขาที่มีอยู่น้อยนิดเสียสนิทด้วยการยืนยันคำพูดเดิมของตน



    ฉันจะพาไป



    แต่ว่าผมอยากไปซื้อคนเดียวนี้นา



    ทำไมอยากไปคนเดียว!”



    มีอะไรกันเหรอคะพี่อู๋ฟาน..คุณชานยอล



    หญิงสาวที่เพิ่งกลับมาจากการรับสายเพื่อนสนิทจากทางไกลเอ่ยถามด้วยความสงสัย เมื่อเห็นสองหนุ่มกำลังจะก่อสงครามกลางห้างกันแทนที่บ้าน หล่อนมองหน้าพี่อู๋ฟ่านกับคุณชานยอลสลับกันไปมา ต่างฝ่ายต่างไม่ยอมพูดออกมาก่อน แล้วก็เป็นคริสที่ถอนหายใจออกมายุติปัญหาทั้งหมดด้วยคำพูดของตน



    ชานยอลจะลงไปซื้อของด้านล่าง



    อ้อ ถ้างั้นพี่พาคุณชานยอลไปสิคะ เดี๋ยวฉันซื้อของเสร็จจะตามลงไป



    เธออยู่ได้นะ



    ได้สิคะ อี้ชิงก็อยู่



    งั้นพี่ไปนะ



    แต่ฉัน..



    ชานยอลกำลังจะค้านขึ้นเมื่อไม่มีใครฟังความต้องการของเขาเลย เขาไม่ได้อยากไปกับคุณคริส ไม่เขาใจหรือไง แต่ข้อมือเขาก็ถูกเกาะกุมพร้อมแรงดึงที่กระชากให้เขาเดินตามตัวเองไป



    ตามมา



    ผมเดินเองได้!.......ไม่ต้องจับครับ



    ร่างโปร่งผ่อนเสียงประโยคสุดท้ายลงเมื่อเห้นสายตาถมึงทึงที่ร่างสูงใช้มองตน ยอมเดินตามแผ่นหลังกว้างลงไปยังชั้นล่างของห่างเงียบๆ เมื่อถึงร้านขายอุปกรณ์เครื่องเขียนคุณคริสก็ยื่นตะกร้าใส่ของในมือให้เขา มือเรียวรับมันมาอย่างเสียไม่ได้ ขาเรียวเดินไปที่แผนกขายสมุดเป็นอันดับแรก



    เอาแบบนั้นสิ เขียนดีนะ



    ผมชอบแบบนี้มากกว่า



    คุณคริสพูดขึ้นเมื่อพวกเขาเดินมายังแผนกเครื่องเขียน ปากกาในมือที่ตนอยากได้ถูกดึงออกไปแทนที่ด้วยปากกาด้ามที่ร่างสุงแนะนำ ชานยอลหันไปมองใบหน้าหล่อเหลาตาขวาง เรื่องแค่นี้ทำไมต้องบังคับกันด้วย



    แบบนี้ดีกว่า



    ถ้าไม่ใช่เพราะอยากกลับบ้านเขาไม่มีทางยอมเด็ดขาด ชานยอลคิดในใจหยิบปากการุ่นที่ร่างสูงเลือกให้ลงในตะกร้าสองสามด้าม ก่อนจะเดินไปคิดตังค์ คุณคริสชำระเงินทุกอย่างด้วยเงินสดเมื่อทุกอย่างเรียบร้อยจึงเดินออกมาสมทบกับเพ่ยฟางที่ยืนรออยู่กับอี้ชิง



    เรียบร้อยแล้วใช่มั้ย ได้ครบทุกอย่างหรือเปล่า



    ครบค่ะ แล้วคุณชานยอลล่ะคะ



    ครบ



    ร่างโปร่งตอบเสียงสั้นห้วน ใบหน้าหวานบึ้งตึงคล้ายไม่พอใจ หญิงสาวหันกลับมามองหน้าคนรักของตัวเองเหมือนจะถามว่ามีอะไรกันหรือเปล่า แต่คริสก็หลบสายตานั้นเดินนำออกไปเป็นคนแรก



    เราจะไปไหนกันคะ



    หาอะไรกินไง ถือหิวหรือยัง



    หิวแล้วค่ะ เราจะทะ...



    งั้นผมกลับบ้านนะ พวกคุณกินเถอะ ผมไม่ค่อยหิวเท่าไหร่



    ชานยอลโพล่งออกมาทันทีเมื่อได้ยินว่าคริสกำลังจะพาไปทานข้าวต่อ ทั้งเพ่ยฟางและคุณคริสหันกลับมามองเขาด้วยสีหน้าต่างอารมณ์ คริสมองดูเด็กหนุ่มที่คอยแต่จะขัดใจเขาทุกอย่างผิดกลับที่เคยว่าไว้ว่าจะเชื่อฟังเขาด้วยสายตาไม่พอใจ หญิงสาวคนเดียวในกลุ่มจึงต้องตัดปัญหาที่กำลังจะเกิดขึ้นด้วยการบอกให้กลับทานข้าวที่บ้านเพราะเห็นใจร่างโปร่งที่ต้องออกมาทานข้าวพร้อมกันสามคนนอกบ้าน



    งั้นเรากลับไปทานข้าวที่บ้านกันนะคะ



    แต่มันดึกแล้วนะเพ่ยฟาง



    ยังไม่ดึกหรอกค่ะ แค่2ทุ่มเอง



    กลับไปจะมีอะไรกิน เราบอกคุณยายว่าจะทานข้าวข้างนอก ที่บ้านไม่ได้เตรียมอะไรไว้หรอก



    พวกคุณจะเถียงกันทำไม ให้ผมกลับบ้านคนเดียวก็พอแล้ว พวกคุณอยากทานอะไรก็ไปทานเถอะ



    ร่างโปร่งพูดขึ้นอย่างเหลืออดเดินออกไปจากบริเวณนั้นมุ่งหน้าไปยังประตูทางออกของห้างทำไมต้องทำเหมือนเขาเป็นตัวปัญหาด้วย เขาแค่ไม่อยากเป็นก้างขวางคอใครเวลาสวีทกันจะได้ไม่ต้องมานั่งเกรงใจเขาไง โอ๊ะ ใช่สิ สองคนนั้นทำอะไรก็ไม่เคยเกรงใจเขาอยู่แล้ว จะมีไม่มีก็คงไม่ต่างกัน



    ตามคุณชานยอลไปสิคะพี่อู๋ฟ่าน



    ช่างมัน!”



    อี้ชิง ไปตามคุณชานยอลที



    เมื่อบอกคนรักตัวเองไม่ได้ผล หญิงสาวจึงหันไปบอกอี้ชิงที่ยืนหันรีหันขว้างอยู่เพราะทำตัวไม่ถูก แต่คำสั่งของเจ้านายก็ทำให้เขาต้องหันกลับมามองสบตาหญิงสาวที่กำลังยืนทำหน้าตกใจที่เห็นคุณชานยอลเดินหายออกไปจากห้างเพียงลำพัง



    ไม่ต้องไป!มันอยากไปไหนก็ให้มันไป



    แต่ว่าพี่คะ คุณชานยอล..



    ไปกินข้าวเพ่ยฟาง เลยเวลาอาหารมานานแล้ว



    คริสเดินนำออกไปอย่างหัวเสีย โดยมีเพ่ยฟางเดินตามหลังไปติดๆเสียโต้เถียงกันดังไปตลอดระยะทางจนถึงร้านอาหาร ความเห็นที่ต่างกันทำให้อาหารมื้อนี้ไม่อร่อยอย่างที่คิด











    ชานยอลโยนสิ่งของที่เพิ่งซื้อมาลงบนเตียงในห้องนอนด้วยความโมโห เขายืนรอแท็กซี่อยู่นานนับชั่วโมงกว่าจะหาคนที่ว่างแล้วพาเขามาส่งที่บ้านได้ หิวจนไส้แทบขาดเพราะยังไม่มีอะไรตกถึงท้อง ก่อนจะเดินขึ้นมาบนบ้านเขาก็เดินไปที่ห้องครัวแล้วแต่ก็ไม่มีใครอยู่เลย เพราะวันนี้เจ้านายไม่อยู่ทุกคนคงเข้านอนหมดแล้ว




    ร่างโปร่งเดินไปหยิบผ้าเช็ดตัวเตรียมจะอาบน้ำเขาเหนียวตัวเต็มที คืนนี้คงต้องงดอาหารเย็นไปก่อน พรุ่งนี้เช้าค่อยทานแล้วกันใช่ว่าจะไม่เคยทำเสียหน่อยคิดอย่างหงุดหงิดเพราะความโมโหและความหิวที่มีแล้วเดินเข้าห้องน้ำไป



    ชานยอลเดินออกมาจากห้องน้ำร่างโปร่งสวมชุดนอนเตรียมตัวเข้านอน เขาตั้งใจว่าจะอ่านหนังสือเรียนสักสองสามบทแล้วค่อยนอนแต่ไม่รู้ว่าจะทนอ่านได้นานขนาดนั้นหรือเปล่า เพราะตอนนี้เขาก็ง่วงจนตาจะปิดอยู่แล้ว และก็เป็นอย่างที่เขาคาด อ่านไปได้สองสามหน้าก็ทนกับความง่วงไม่ไหว มือเรียวเอื้อมไปปิดสวิตโคมไฟบนหัวเตียงแสงสว่างในห้องดับลงพร้อมกับสติที่ค่อยจางหายไป



    แล้วอยู่ๆแสงไฟในห้องก็สว่างจ้าขึ้น ชานยอลเงยหัวขึ้นจากเตียงด้วยความงุดงงตากลมหรี่เล็กเพราะยังปรับตัวให้เข้ากับแสงไม่ได้ แล้วร่างของเขาก็ถูกกระชากให้ลุกขึ้นจากเตียง ไม่ต้องคิดเขาก็รู้ว่าใครที่เป็นคนเข้ามาในห้องเขายามวิกาลแบบนี้



    ไม่ต้องกลับแล้วนะบ้าน!”



    อะ..อะไรนะครับ คุณคริส



    ความง่วงหายไปทันทีที่ได้ฟังประโยคนั้นจบ ไม่ได้นะ ที่เขายอมทำทุกอย่างตามที่ร่างสูงสั่งก็เพราะอยากกลับบ้านไม่ใช่เหรอ คุณคริสจะทำกับเขาแบบนี้ไม่ได้



    ไม่ต้องกลับบ้าน ไม่ให้กลับแล้ว!”



     “ไม่ได้นะครับ คุณทำแบบนั้นไม่ได้ คุณสัญญากับผมแล้ว



    ทำไมจะไม่ได้ ก็แกขัดใจฉัน ไหนบอกว่าจะยอมทำตามทุกอย่างไง แล้วหนีกลับบ้านทำไม!”



    คริสตะวาดเสียงห้วนไม่พอใจอย่างที่สุดที่อีกฝ่ายกล้าขัดใจเขา แล้วยังทำให้เขาต้องทะเลาะกันกับเพ่ยฟางตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกันในร้านอาหารและบนรถเพราะความดื้อรั้นของเด็กคนนี้คนเดียว



    ผมแค่อยากกลับบ้าน ผม...ผมไม่หิว  อยากกลับมาอ่านหนังสือมากกว่า



    จะไม่หิวได้ยังไง อย่ามาโกหก แกโกหกฉันหลายเรื่องแล้วนะชานยอล!”



    คุณคริสตะคอกเสียงดังทุกประโยคที่พูดกับเขา ชายหนุ่มเริ่มขวัญเสียเพราะเขามีหลายเรื่องที่โกหกตามที่อีกฝ่ายพูดจริงๆชานยอลพยายามสงบสติอารมณ์ตั้งสติไว้คิดในใจว่าเหลือเวลาอีกแค่3วันเท่านั้นเขาก็จะได้กลับบ้านต้องอดทนให้มาก



    เปล่านะครับ ผมไม่ได้โกหก หนังสืออยู่บนเตียงนั้นไง อีกสองอาทิตย์ผมมีสอบเทสย่อย ผมยังไม่เข้าใจมัน

    เลย จริงๆนะครับ คุณคริส อย่าโกรธผมเลยนะครับ



    ชานยอลระล่ำระลักออกมามือเรียวเกาะแขนที่พยายามสะบัดเขาออกไว้แน่น ใบหน้าหวานอ้อนวอนขอร้องให้อีกฝ่ายเชื่อในสิ่งที่เขาพูด



    นายทำแบบนี้ ฉันไม่ชอบ



    ขอโทษครับ ขอโทษจริงๆ



    ชานยอลพูดพร้อมกับซบหน้าลงบนไหล่กว้างเบียดตัวเข้าหาแผ่นอกหนาอย่างออดอ้อน ช้อนสายตาขึ้นมองอีกฝ่ายขอให้เห็นใจยกโทษให้ในสิ่งที่เขาทำคงมีแค่วิธีนี้เท่านั้นคุณคริสจึงจะยอมยกโทษให้เขา




    คริสมองคนที่กำลังเชิญชวนเขาด้วยร่างกายแววตาคมวูบไหว ใจอ่อนไปกว่าครึ่ง เอื้อมมือคว้าร่างนุ่มเข้ามากอดไว้แนบอกกดจูบลงไปบนแก้มนิ่มสูดกลิ่นหอมเหมือนผิวเด็กที่โชยเข้ามาในจมูก ชานยอลเอียงแก้มให้อีกฝ่ายสูดดมกลิ่นกายของตัวเองให้เต็มที่ จมูกโด่งไล้ลงมาถึงลำคอขาวกดเม้มเบาๆย้ำอยู่อย่างนั้นจนมันขึ้นสี



    คุณคริสครับ



    ชานยอลเรียกให้คนที่กำลังง่วนอยู่กับซอกคอเขาให้เงยหน้าขึ้นสบตากับตน คริสมองใบหน้าหวานที่กำลังขยับเขามาใกล้ เสียงเรียกชื่อเขาช่างหวานหู หลับตาลงช้าๆ เมื่อความอ่อนนุ่มทาบทับลงมาบนริมฝีปากของตน



    อื้อ



    ชานยอลกดจูบลงไปบนริมฝีปากหนาที่กำลังเผยอตอบรับสัมผัสของตนอยู่ดูดดึงริมฝีปากนั้นซ้ำไปมาเหมือนเป็นของหวานชิ้นโปรด เรียวลิ้นเล็กสอดเข้าไปในโพรงปากนุ่มที่ตอบรับเขาเป็นอย่างดีเขายอมทำทุกอย่างเพื่อให้ร่างสูงใจอ่อนแม้จะต้องใช้ร่างกายให้ได้มาก็ตาม



    อืม ชานยอล



    คริสร้องครางออกมาอย่างพอใจ มองดูใบหน้าหวานที่ขยับอยู่ห่างจากใบหน้าเขาไม่ถึงคืบ ชานยอลกำลังทำให้เขาละลายไปกับจูบแสนหวานที่ร่างโปร่งเป็นฝ่ายเริ่มก่อน เรียวปากทั้งสองจูบย้ำอยู่อย่างนั้น มือเรียวปลดกระดุมเสื้อเชิร์ตออกทีละเม็ดลูบแผ่นอกกว้างที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อสะกิดยอดอกจนคนถูกกระทำต้องสั่นสะท้าน



    ชานยอล..




    ชอบมั้ยครับ?”











    TBC.....................










    ชอบมั้ยคะ? ชอบมั้ยคะทุกคน 555 มาต่อจนได้ แบบเลทมาก ช้าสุดๆ ขอโทษนะคะ 

    ตอนนี้ชานยอลเปลืองตัวไปมั้ย? ตอนหน้าเตรียมแปะเมลนะคร้าาา




    ร่วมสกรีมในทวิตเตอร์รบกวนติด #DDT 

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×