คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #39 : CHAPTER 37
Distorted Daytime
เสียงตะคอกจากปลายสายทำให้ชานยอลถึงกับผงะ เสียงที่เขาได้ยินมาตลอดเวลาเกือบ6เดือนที่อาศัยอยู่ในเมืองจีนลอดออกมาตามสายน้ำเสียงที่บ่งบอกว่าปลายสายไม่พอใจอย่างที่สุด ชานยอลเผลอกดตัดสายทิ้งโดยไม่รู้ตัว หันมามองหน้าเพื่อนสนิทด้วยใบหน้าซีดเผือด
“ใครโทรมาชานยอล”
“คะ..คุณคริส”
“เขาว่ายังไง? แล้วทำไมรีบตัดสายล่ะ”
แบคฮยอนถามอย่างแปลกใจ ดูเหมือนว่าเพื่อนของเขาตกใจมากหลังจากที่ได้รับสายคนจากเมืองจีน
“เขาบอกให้ฉันกลับบ้าน”
“แล้วแกจะกลับมั้ย?”
“ไม่! ให้ตายยังไงก็ไม่กลับ ที่นั้นไม่มีใครสนใจฉันเลย คุณคริสไม่เคยสนใจฉันทำไมฉันต้องกลับเพราะเขาบอก หึ นี้ไม่รู้ว่าไปเอาเบอร์ฉันมาจากไหน คงมาจากอี้ชิงสินะ”
“หมายความว่าไง?”
“ฉันแต่งงานกับเขามา6เดือนแต่เขาไม่เคยโทรหาฉันสักครั้งเลยแบคฮยอน เวลาที่เขาต้องการอะไรจะโทรสั่งผ่านลูกน้องของเขาที่ชื่ออี้ชิง เขาไม่มีเบอร์ฉันเช่นเดียวกับฉันที่ไม่มีเบอร์เขา”
“แย่ว่ะ”
“ก็ใช่ไง แล้วทำไมฉันต้องกลับไปตามคำสั่งเขา”
แบคอยอนมองหน้าเพื่อนสนิทพรางถอนหายใจออกมา นี้คงกำลังโกธรมากสินะ ฝ่ายนั้นก็คงจะเหมือนกัน ดูแล้วเพื่อนเขาคงออกมาจากบ้านนั้นโดยที่ไม่ได้บอกใครแล้วนี้จะเอายังไงต่อไป เขาคิดว่าทางคุณคริสคงไม่พอใจมากแน่
“แล้วแกจะทำยังไงต่อไป”
“ไม่รู้ ฉันไม่รู้”
ชานยอลพูดพร้อมส่ายหน้าเรื่องนี้ก็ทำให้เขาปวดหัวไม่น้อยไปกว่ากัน เขายังหาคำตอบให้แม่ไม่ได้เลย แบคฮยอนมองใบหน้าหงอยของเพื่อนสนิทพร้อมทำหน้าเซ็งไปกับเพื่อนด้วย
“แกบอกแม่ว่ายังไงที่กลับมา”
“คิดถึงบ้าน”
“อ่อนว่ะ”
“แล้วแกจะให้ฉันบอกว่ายังไง”
“บอกความจริง แกต้องบอกแม่นะชานยอล”
“ไม่ได้! ไม่บอก แม่จะไม่สบายใจ บริษัทกำลังเป็นไปด้วยดีแม่กำลังมีความสุขฉันรู้ตาของแม่เป็นประกายเมื่อพูดถึงมัน แม่ทำเพื่อฉันกับพี่ซูโฮมาตลอด ฉันจะทำให้แม่ทุกข์ใจอีกไม่ได้ แค่เรื่องครั้งนั้นก็มากพอแล้ว”
“แล้วแกจะทำยังไง หนีออกมาแบบนี้ จะบอกว่ามาเพราะคิดถึงบ้านแต่อยู่โดยที่ไม่มีทีท่าว่าจะกลับแม่แก
ต้องสงสัยแน่ๆ คิดซะบ้างสิ”
"แล้วจะให้ฉันทำยังไง ให้ฉันทนอยู่ที่นั้นงั้นเหรอ”
“ทนไม่ได้ก็หย่า”
“เขาจะหย่าให้ฉันมั้ย? ถ้าหย่ามันจะเป้นยังไงเหรอแบคอยอน”
“โอ้ย ไม่รู้วุ้ย ปวดหัวจังเลย เรื่องผัวเมียเนี้ย เฮ้อออ”
“แบคฮยอนช่วยฉันที ฮื่ออ ฉันกลัวว่าถ้าฉันขอหย่าเขาจะถอนการลงทุนกับบริษัทฉัน มันต้องแย่มากแน่ๆ หนี้ที่มีอยู่ฉันจะไปหามาจากไหน”
“ก็นั้นแหละ ฉันกำลังคิดอยู่ แต่มันคิดไม่ออก ดูเหมือนจะไปทางไหนก้มีแต่ทางตัน”
“ฮื่อออ”
“อย่าร้องไห้ รอดูไปก่อนว่าคุณคริสจะทำยังไง แล้วค่อยมาคิดกันดีมั้ย เพราะตอนนี้ทางนั้นก็ยังไม่มีความเคลื่อนไหวอะไรเราก็ยังจับทางไม่ถูก”
“อื้อออ”
ชานยอลเช็ดน้ำตาออกจากใบหน้า ขบปลายนิ้วอย่างใช้ความคิดเขาคงต้องทำอย่างที่เพื่อนบอก ซบหน้าลงกับไหล่บางของเพื่อนที่เข้ามาสวมกอดปลอบใจ ก่อนจะชักชวนกันออกไปข้างนอกเที่ยวเตร่สักหน่อยเผื่อเขาจะได้ลืมเรื่องทุกข์ใจที่มีอยู่บ้าง
ภายในห้องทำงานบริษัท WU China International คริสยืนอยู่ในห้องที่ไร้แสงสว่างข้าวของกระจัดกระจายเกื่อนพื้นโดยที่ไม่มีใครกล้าเข้ามาเก็บ ร่างสูงจุดบุหรี่ขึ้นสูบ ควันสีขาวพ่นออกทางจมูกกลิ่นบุหรี่ตลบอบอวนในห้อง คิ้วเข้มขมวดเข้าหากัน เขากำลังโมโหคริสรู้ตัวเองดี เส้นเลือดในกายเขากำลังเต้นตุบ เพราะเด็กคนนั้น ปาร์ค ชานยอล
ทั้งที่เขาโทรไปหาบอกให้กลับบ้านแต่กลับได้รับการตัดสายจากเด็กคนนั้นโดยที่ไม่คิดจะโทรกลับ มันทำให้เขาโมโหจนต้องโยนโทรศัพท์ในมือทิ้ง เขาจะปล่อยให้เป้นอย่างนี้อีกต่อไปไม่ได้ ต้องพาเด็กคนนั้นกลับมาตามคำสั่งของแม่ ไม่อย่างนั้นบริษัทที่ร่วมลงทุนจะเสียหายไม่มากก็น้อยและเขาจะไม่มีวันยอมให้มันเกิดขึ้น
“ตามอี้ชิงให้ฉันหน่อย”
“สักครู่นะคะคุณคริส”
“เดี๋ยวนี้!!”
คริสกระแทกโทรศัพท์ลงบนเครื่องเมื่อได้ยินประโยคที่ไม่พอใจ รออยู่ไม่ถึง5นาทีอี้ชิงก็เดินเข้ามาในห้องด้วยท่าทางเร่งรีบเพราะรู้ว่าช่วงนี้เจ้านายของตนอารมณ์ไม่ค่อยจะดีเท่าไหร่
“คุณคริส”
“มาแล้วเหรอ”
“ครับ ขออนุญาตเปิดไฟนะครับ”
เมื่อไม่ได้ยินเสียงคัดค้านจากเจ้านายอี้ชิงจึงเดินไปกดปุ่มสวิตไฟ ข้าวของกระจัดกระจายแตกหักปรากฏขึ้นสู่สายตา ชายหนุ่มในชุดสูทสีดำได้แต่มองมันโดยไม่กล้าก้มลงเก้บเพราะยังไม่ได้รับคำสั่งจากเจ้าของห้อง
“มีอะไรหรือเปล่าครับ”
“ฉันโทรไปหาเด็กคนนั้นแล้ว”
“ใครเหรอครับ ? คุณชานยอล”
“ก็ใช่น่ะสิ! จะมีใครเสียอีกที่ทำให้ฉันไม่ได้กลับบ้านมาสองวันแล้วถ้าไม่ใช่เด็กคนนั้น”
อี้ชิงก้มหัวลงเมื่อได้รับคำตอบ คริสหายใจฟึดฟัด ความจริงที่เขาไม่ได้เจอหน้าคนรักมาสองคืนแล้วยิ่งทำให้เขาโมโห ความคิดถึงลูกถึงเมียทำให้ใจเขาว้าวุ่น แต่ก็ยังหาทางจัดการกับตัวต้นเหตุไม่ได้
“บริษัทมันเป็นยังไงบ้าง”
“.......บริษัท..อ้อ pk group เหรอครับ ดีครับ เดือนที่แล้วทำกำไรได้หลายล้านวอน”
“งั้นเหรอ ทำตามคำสั่งในแฟ้มบนโต๊ะทำงาน แล้วจองตั๋วเครื่องบินให้ฉันด้วย”
“ไปไหนครับ”
อี้ชิงเดินไปหยิบแฟ้มสีดำบนดต๊ะทำงานตามคำสั่ง เปิดมันออกดูพรางถามถึงปลายทางการจองตั๋วเครื่องบินครั้งนี้แล้วข้อความในแห้มและคำตอบของเจ้านายก็ทำให้เขาถึงกับอึ้ง
“เกาหลี พรุ่งนี้ จะด้วยวิธีไหนก็ตามฉันต้องเอาตัวมันกลับมาให้ได้”
แล้วจัดการสั่งสอนอย่าให้กลาทำแบบนี้กับเขาอีก คริสพูดประโยคสุดท้ายกับตัวเอง มองออกไปนอกหน้าต่างดับบุหรี่ในมือทิ้งก่อนจะเดินผ่านร่างของลูกน้องที่กำลังยืนอึ้งออกไปจากห้องทันที
“ตื่นได้แล้วชานยอล”
“งื้อออ แม่อ่า”
“สายแล้วลูกลงไปทานข้าวได้แล้ว”
ชานยอลลืมตาขึ้นมาตามเสียงเรียก ใบหน้าของแม่คือภาพแรกที่เขาเห็นชายหนุ่มส่งยิ้มแรกของวันไปให้ผู้เป้นมารดา วันนี้วันเสาร์แม่ของเขาไม่ต้องไปทำงานพี่ซูโฮเองก็เหมือนกัน ชวนพี่ซูโฮเล่นเกมส์ดีกว่า คิดได้อย่างนั้นแล้วร่างโปร่งก็ดีดตัวลุกขึ้นจากเตียง
“ไปอาบน้ำได้แล้ว เมื่อวานไปเที่ยวไหนมา”
“ไปกินข้าวแล้วก็ดูหนังกับแบคฮยอนครับ”
“ไม่ได้แอบไปเที่ยวกลางคืนมาใช่มั้ย แม่ได้กินเหล้าจากหนูนะ”
“แม่อ่ะ นิดหน่อยเอง”
ชานยอลยู่ปากกอดเอวของแม่ไว้เมื่อโดนรู้ทัน ก็แบคฮยอนคะยั้นคะยอไม่ได้อยากไปเสียหน่อยแต่ก็ทนลูกตื้อไม่ได้ แต่ไปแล้วมันก็ไม่เลวเหมือนกันนะ ชานยอลหัวเราะกับตัวเองในใจก่อนจะลุกขึ้นหอมแก้มมารดาฟอดใหญ่
“เดี๋ยวชานยอลไปอาบน้ำก่อนนะ แม่ลงไปรอได้เลย แปปเดียวนะฮะ”
“จ๊ะ รีบอาบเถอะ พี่ซูโฮเขาบ่นว่าหิวแล้ว”
“โอเคคร๊าบบบ”
พูดจบก็วิ่งไปหยิบผ้าเช็ดตัวพุ่งเข้าห้องน้ำไปเพราะกลัวว่าพี่ชายจะโมโหหิวแล้วไม่ยอมเล่นเกมส์กับตน ซอนยอลมองตามร่างของลูกชายคนเล็กด้วยแววตาเอ็นดูหล่อนลงมือพับผ้าห่มให้ลูกชายก่อนจะเดินออกไปจากห้อง
ชานยอลใช้เวลาอาบน้ำไม่นานก็เดินออกมาพร้อมชุดสบายๆสำหรับอยู่บ้าน ร่างโปร่งยืนหมุนตัวอยี่หน้ากระจกตรวจดูความเรียบร้อยของตัวเอง เดินไปหยิบโทรศัพท์มือถือบนหัวเตียงแต่เสียงร้องดังโวยวายข้างล่างก็ทำให้เขาต้องหยุดชะงักก่อนจะรีบวิ่งลงไปชั้นล่างเมื่อได้ยินเสียงร้องของพี่ชาย
“กรี๊สสสสสสส คุณผู้หญิง”
“แม่! แม่เป็นอะไรครับ ทำใจดีๆนะครับ”
“พี่ซูโฮ แม่!”
ร่างโปร่งยืนตะลึงอยู่ปลายบันไดก่อนจะวิ่งถลาลงมาแทบก้าวสะดุดขาตัวเอง ร่างของแม่นอนคอพับคออ่อนอยู่ในอ้อมกอดของพี่ชายทำให้เขาร้องไห้ออกมาทันทีอย่างคนขวัญเสีย แม่เป้นอะไรเมื่อกี้ยังดีๆอยู่เลย ชานยอลเงยหน้าถามพี่ชายทั้งน้ำตา
“พี่แม่เป็นอะไร ทำไมเป้นแบบนี้”
“แม่เป็นลม”
“ทำไม ทำไมถึงเป็น ใครทำอะไร”
“ชานยอลทะเลาะกับคุณคริสใช่มั้ย ใช่มั้ย บอกพี่มา!!”
“อะไรครับพี่ เกิดอะไร มีอะไรครับ”
ชานยอลถามพี่ชายทั้งน้ำตา คิ้วเรียวขมวดเข้าหากันอย่างไม่เข้าใจใรสิ่งที่พี่ชายพูด แล้วคุณคริสมาเกี่ยวอะไรด้วยกับการที่แม่ไม่สบาย ซูโฮเองก็ไม่ต่างกันดวงตาอ่อนโยนมองสลบตาน้องชายผ่านม่านน้ำตา เอื้อมมือไปหยิบหนังสือพิมพ์ที่กระจายอยู่บนพื้นขึ้นมาส่งให้น้องชายดู
“ดูซะ ว่ามันเกิดอะไรขึ้น”
“อะไรครับพี่ ผมไม่รู้เรื่อง ผมดูไม่เข้าใจ”
ชานยอลรับหนังสือพิมพ์มาถือไว้ในมือ ตากลมมองดูมันอย่างไม่เข้าใจ ซูโฮกลืนน้ำลายลงคอมองดูร่างของมารดาในอ้อมแขนสาวใช้กำลังตามรถพยาบาล ชายหนุ่มหันกลับไปมองหน้าน้องชายที่กำลังมองหนังสือพิมพ์ในมืออย่างไม่เข้าใจ
“หุ้นบริษัทตกลงไปหลายจุด ...แถมจะอยู่รั้งท้ายในตลาดหุ้น ทั้งที่เมื่อวันก่อนยังพุ่งขึ้นสูงแทบจะเป็นอันดับหนึ่ง”
“ทำไมถึงเป็นแบบนี้ได้?”
ปากอิ่มพึมพำออกมาตายังจ้องหนังสือพิมพ์ในมือไม่กระพริบทั้งๆที่ไม่อาจจะเข้าใจในสิ่งที่มันจะสื่อได้ ซูโฮอุ้มร่างของมารดาขึ้นเมื่อสาวใช้มาตามว่ารถพยาบาลมาแล้ว หันไปพูดกับน้องชายเป็นการทิ้งท้ายก่อนจะเดินออกไปทันที
“พี่ควรจะถามชานยอลมากกว่ามั้ย เพราะคนที่ทำแบบนี้ได้มีแต่...”
“คุณคริส”
ชานยอลกำหนังสือพิมพ์ในมือจนยับ น้ำตาหยดลงบนกระดาษเป้นวงเจ้บแค้นใจอย่างที่สุด ผู้ชายคนนั้นเลิกใช้วิธีสกปรกบีบบังคับเขา ทำแบบนี้ทำไมทั้งที่เขาหลีกทางให้แล้วควรจะดีใจไม่ใช่เหรอ แต่เสียงรถพยาบาลก็ทำให้ชายหนุ่มต้องปัดความคิดในนั้นไปเขาต้องพาแม่ไปโรงพยาบาล
กลิ่นฉุนของยาฆ่าเชื้อลอยตลบในอากาศชานยอลนั่งอยุ่ข้างพี่ชายบนเก้าอี้สำหรับญาติคนไข้ ใบหน้าหวานซบลงบนไหล่หนาแขนเรียวเกาะเกี่ยวคนข้างกายหมายให้เป้นที่ยึดเหนี่ยวใจที่กำลังอ่อ่นล้า
“พี่ แม่จะเป็นไรมั้ย”
“ไม่หรอก แค่เป็นลม เดี๋ยวหมอก็ออกมา”
ซูโฮลูบหัวทุยปลอบใจน้องชายไม่ให้คิดมาก เมื่อความตกใจหายไปความสงสัยก็เข้ามาแทนที่ชานยอลบอกว่ากลับมาเพราะคิดถึงบ้านตอนแรกเขาก็ไม่อยากเชื่อนักแต่เมื่อเจ้าตัวยืนยันหนักแน่นตนเองเลยต้องเออออไปด้วย แต่เพราะข่าวเมื่อเช้านี้เขาคงต้องคุยกับน้องชายใหม่อีกครั้ง
“ชานยอล ทะเลาะกับคุณคริสเรื่องอะไร”
“......................”
“ทะเลาะอะไรกันทำไมไม่ปรึกษาพี่ นี้หนีมาใช่มั้ย?”
“ไม่มีอะไรหรอกครับ เราทะเลาะกันนิดหน่อย เดี๋ยวผมจะคุยกับเขาเอง ไม่เป็นไรนะครับพี่ไม่ต้องห่วง”
“จริงหรือเปล่า? ถ้ามีอะไรต้องบอกพี่นะครับ เขาดีกับชานยอลจริงๆใช่มั้ย”
“จริงซิฮะ ฮ่าๆๆ เดือนที่แล้วเรายังเที่ยวด้วยกันอยู่เลย แต่ผมงอนเขานิดหน่อยเลยหนีกลับมา เมื่อวานเขาก็ยังโทรมาหาผมอยู่เลย อย่าทำหน้าเครียดสิฮะ ฮ่าๆๆ”
ร่างโปร่งปล่อยเสียงหัวเราะออกมาพยายามทำให้ร่าเริงที่สุดทั้งที่เขาอยากจะร้องไห้ออกมาดังๆด้วยความขมขื่นใจ ชายหนุ่มกอดแขนพี่ชายไว้ซบหน้าลงกับอกอย่างที่ชอบทำเสมอ ซูโฮมองน้องชายของตนด้วยสายตาไม่สบายใจนัก เด็กคนนี้บทจะดื้อก็ดื้อน่าดู คงจะเค้นอะไรจากปากไม่ได้ถ้าเจ้าตัวไม่ยอมพูดเอง นั่งอยู่อย่างนั้นสักพักประตูห้องพยาบาลก็เปิดออก ร่างของคุณหมอประจำตระกูลเดินออกมาจากห้องด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม
“หมอ แม่เป็นยังไงบ้างฮะ”
“ปลอดภัยแล้วครับ คุณซอนยอลพักพ่อนหน่อยประกอบด้วยมีโรคความดันอยู่แล้ว เวลาตกใจหรือดีใจมากไปหน่อยอาจจะทำให้มีอาการหน้ามืดเป้นลมได้ ระวังอย่าให้คนไข้เครียดแล้วก็ต้องให้พักผ่อนเยอะๆแค่นี้ก็
พอครับ”
“โอ้ ขอบคุณมากนะครับ ชานยอล เข้าไปเยี่ยมแม่กันเถอะ”
ซูโฮโค้งขอบคุณคุณหมอก่อนจะหันไปชวนน้องชายให้เข้าไปเยี่ยมมารดากับตน
“พี่เข้าไปก่อนเถอะครับ ผมขอคุยโทรศัพท์ก่อนเดี๋ยวตามเข้าไป”
ชานยอลส่งยิ้มให้พี่ชายพร้อมกับชูโทรศัพท์ในมือให้ดู ซูโฮพยักหน้าเข้าใจแล้วหันหลังเดินเข้าไปในห้องที่มีร่างของแม่นอนอยู่ ร่างโปร่งทิ้งตัวนั่งลงบนเก้าอี้เพียงลำพังมองดูโทรศัพท์ในมือด้วยใจห่อเหี่ยว เลื่อนหารายชื่อในโทรศัพท์ อี้ชิงเป็นคนที่เขาเลือกที่จะโทรหาแทนที่จะเป็นคุณคริสอย่างที่ควรจะเป็น
“ฮัลโหล คุณชานยอล”
“อี้ชิง เจ้านายของนายอยู่มั้ย”
“เอ้อ ไม่อยู่ครับ เพิ่งขึ้นเครื่องเมื่อครู่นี้”
“เขาไปไหน”
“ไปเกาหลีครับ คิดว่าคงจะไปหาคุณ”
“เหรอ........ที่หุ้นของบริษัทฉันร่วงลงเป็นเพราะฝีมือเขาใช่มั้ย”
“…………..”
“เขาต้องการอะไรอี้ชิง”
“คุณคริสอยากให้คุณกลับมาครับ”
“เพื่ออะไร? จะให้ฉันกลับไปทำไม”
“เอ่อ อันนี้ผมก็ไม่ทราบครับคุณคงต้องคุยกับคุณคริสเอง อีกไม่เกินสองชั่วโมงก็น่าจะถึงอินชอนแล้ว”
“อื้อ แค่นี้นะ”
มือเรียวกดตัดสายโทรศัพท์วางมันไว้บนเก้าอี้ข้างกายซุกหน้าลงกับฝ่ามือตัวเอง น้ำตาค่อยๆไหลลงมาช้าๆเจ็บปวดกับความจริงที่ต้องเผชิญ เขาจะหนีมันไม่ได้อีกต่อไป ชายหนุ่มใช้มือปัดน้ำตาออกจากใบหน้า สูดลมหายใจเข้าปอดดึงสติตัวเองให้คืนกลับมา เขาจะร้องไห้ฟูมฟายไม่ได้แม่ที่กำลังนอนไม่สบายอยุ่ในห้องกำลังรอเขาอยู่ ขาเรียวเดินเข้าไปในห้องนั้นฉีกยิ้มให้กับตัวเองคงไม่มีอะไรเลวร้ายเท่าที่ผ่านมาอีกแล้ว
รถ BMW สีดำจอดลงที่หน้าคฤหาสน์ตระกูลปาร์ค คริสก้าวขาลงมาจากรถที่พนักงานบริษัทจัดหามาให้เขาที่สนามบินพร้อมกับคนขับรถ ตาคมมองดูคฤหาสน์สีขาวที่เขาเพิ่งเคยมาเยือนเป็นครั้งแรก ร่างของสาวใช้เดินออกมาจากบ้านเมื่อได้ยินเสียงรถมองดูชายหนุ่มร่างสูงใบหน้าหล่อเหลาในชุดสีดำอย่างแปลกใจก่อนจะรีบทักทายออกไปเมื่อนึกขึ้นไดว่าเคยเห้นหน้าในหนังสือพิมพ์คู่สมรสของคุณหนูชานยอลนี้เอง
“สวัสดีค่ะ”
“ชานยอลอยู่มั้ย?”
“ไม่อยู่ค่ะ”
“ไปไหน?”
คริสตวัดถามเสียงห้วนจนคนฟังต้องคอหดเพราะความกลัวยิ่งเมื่อชายหนุ่มถอดแว่นตาสีดำออกจากใบหน้าดวงตาคมสีดำดูมีพลังอย่างน่ากลัว
“ไปโรงพยาบาลค่ะ คุณผู้หญิงไม่สบาย”
“โรงพยาบาลไหน”
“ที่.....ค่ะ”
เมื่อได้ยินชื่อโรงพยาบาลคริสก็หันหลังเดินขึ้นรถทันทีบอกที่หมายกับคนขับ แล้วรถสีดำก็ทะยานออกไป
“หู้ยย แฟนคุณชานยอลนี้น่ากลัวชิบหายเลย”
หญิงสาวพูดกับตัวเองก่อนจะเดินกลับเข้าไปในบ้านเพื่อส่งข่าวให้คนในบ้านที่กำลังรออยู่ว่าใครเป็นผู้มาเยือน
TBC........
สวัสดีค่ะ มาอัพแล้วนะคะ ต่อจากตอนที่แล้วมีหลายคนบอกว่าค้าง ตอนนี้ค้างกันไหมเอ่ย 5555
เมื่อตินที่แล้วพี่คริสโชว์ความเทพ โผล่มาสี่คำ คนด่าเป็นร้อย ตอนนี้มาทั้งตัวค่ะ ขอให้มีความสุขในการอ่านนะคะ
ร่วมสกรีมในทวิตเตอร์รบกวนติด #DDT
ความคิดเห็น