คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #24 : CHAPTER 23
Distorted Daytime
คริสยังคงไล่บี้ถามจะเอาคำตอบกับคนที่กำลังยืนตัวสั่นให้ได้ จะทำให้รู้ว่าเขาไม่ชอบคนที่ชอบยุ่งกับเรื่องชาวบ้าน ครั้งหน้าจะได้ไม่เป็นปัญหากับเขาอีก
“มีคนโทรเข้ามาหาคุณ หลายสายแล้ว แต่คุณยังอยู่ในห้องน้ำอยู่ ผมกลัวว่าจะมีเรื่องสำคัญจะคุยกับคุณ เลย เลย..”
“เลยอะไร!!”
“เลยคิดว่าจะรับแทนคุณ โธ่! คุณคริสครับอย่าโกธรผมเลยนะครับ ได้โปรดเถอะ”
มาถึงตอนนี้แล้วชานยอลก็กลั้นน้ำตาไว้ไม่ได้อีกต่อไป มันร่วงพรูออกมาจากขอบตา ยิ่งเห็นดวงตาสีดำของอีกฝ่ายที่ไร้แววความเห็นใจ ยิ่งทำให้เขากลัวว่าจะไม่ได้รับการให้อภัย วิ่งถลาเข้าไปกอดร่างนั้นไว้แน่น สะอื้นฮักขอความเห็นใจจากอีกฝ่าย
“ฮื่อ ผมผิดไปแล้วอย่าโกธรผมเลยนะครับ ฮื่ออ ผมจะไม่ทำอีกแล้วครับ จะไม่ยุ่งกับโทรศัพท์คุณอีกแล้ว ฮื่ออ”
คริสมองคนที่กำลังกอดเขาร้องไห้ด้วยสีหน้าเบื่อหน่าย แต่เวลาผ่านไปสักพักคนที่กำลังร้องไห้ก็ไม่ยอมหยุดเสียที จนเขาอดสงสารไม่ได้ ยันร่างโปร่งให้ถอยห่างออกไปจากตัว ใบหน้าหวานเปื้อนไปด้วยน้ำตาปรากฏอยู่ตรงหน้า
“ครั้งหน้าอย่าทำอีก เข้าใจมั้ย?”
“ฮึก..เข้าใจครับ”
ชานยอลพยักหน้ารับ กลืนน้ำลายลงคอ ใช้มือเช็ดคราบน้ำตาออกจากใบหน้า ดวงตากลมบวมช้ำเป็นสีแดงน่ากลัวจนคนมองต้องรู้สึกใจหาย คริสถอนหายใจออกมากับความขี้แยของเด็กตัวโต ดึงร่างที่ยังคงสั่นเพราะก้อนสะอื้นมากอดไว้ด้วยแขนข้างเดียว
“หยุดร้องไห้ได้แล้ว เช็ดน้ำตาออกซะ น้ำตาของนายมันจะทำให้ฉันอารมณ์ไม่ดีกว่าเดิม”
“ครับ”
ชายหนุ่มใช้หลังมือปาดน้ำตาออกจากใบหน้าให้หมด กระพริบตาถี่ๆไล่หยาดน้ำที่ยังคลออยู่บนหน่วยตากลมให้จางหายไป ตามคำสั่งของเจ้าของอ้อมกอด คริสมองการกระทำของเด็กหนุ่มอย่างพอใจ ก่อนจะถามออกมาถึงเหตุผลที่อีกฝ่ายมายืนอยู่ในห้องนี้
“ขึ้นมาทำไม ลงไปแล้วไม่ใช่เหรอ”
“ผมขึ้นมาตามคุณลงไปทานข้าวครับ อาหารเสร็จแล้ว”
คริสพยักหน้าเข้าใจกับคำตอบ หันไปมองใบหน้าเจ้าของดวงตาใสแจ๋วกดจูบลงไปบนขมับ ปล่อยร่างนั้นให้เป็นอิสระหันไปจัดการแต่งตัวให้ตัวเองจนเสร็จเรียบร้อยเหมือนกับปกติ
มีเพียงความรู้สึกของปาร์ค ชานยอลเท่านั้นที่เปลี่ยนไป เขารู้สึกแปลกๆคล้ายจะไม่พอใจในสิ่งที่คุณคริสปฎิบัติกับเขา มันเหมือนกับว่า...คุณคริสพอใจเพียงแค่ร่างกายของเขา ส่วนเรื่องจิตใจ..
“เสร็จแล้ว ลงไปสิ”
มันไม่ได้สำคัญอะไรเลย
ทั้งสองเดินลงมาชั้นล่างของตัวบ้านต่างฝ่ายต่างไม่พูดอะไร เงียบจนคริสต้องรู้สึกแปลกใจ เมื่อคนช่างพูดไม่ยอมปริปากพูดอะไรกับเขา หรือว่ายังกลัวกับเรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้นอยู่ ยื่นมือไปแตะคนที่ยืนอยู่ข้างกาย เพียงนิดเดียวร่างนั้นก็สะดุ้งสุดตัว
“เป็นอะไรชานยอล?”
“เปล่าครับ ผมกำลังคิดอะไรอยู่ เลยตกใจนิดหน่อย”
ร่างบางปฏิเสธเสียงกระตุก ก้มหน้าลูบต้นแขนที่ถูกจับ เรียกสติให้คืนกลับมา คริสพยักหน้า เข้าใจในคำตอบ ดึงแขนเรียวให้เดินไปนั่งบนเก้าอี้เข้าชุดโต๊ะอาหารพร้อมกัน
“อาหารเสร็จแล้วใช่มั้ย”
“เสร็จแล้วครับ แต่ยังไม่ได้จัดโต๊ะเลย เดี๋ยวผมไปบอกให้นะครับว่าคุณคริสลงมาแล้ว”
พูดพร้อมกับยกตัวขึ้นจากเก้าอี้ แต่ก็ถูกคนที่นั่งอยู่บนหัวโต๊ะห้ามไว้เสียก่อน
“ไม่ต้อง เดี๋ยวถึงเวลาเขาก็จะจัดเองนั้นแหละ”
“ครับ”
ชานยอลทิ้งตัวนั่งลงที่เดิม วันนี้มีเพียงเขาและคุณคริสเท่านั้นที่อยู่บ้าน คุณเหม่ยหลิงก็ยังไม่กลับจากต่างประเทศเช่นเดียวกันกับเพ่ยฟางที่ไม่รู้ว่าหายไปไหน อยากจะเอ่ยถามกับคนที่กำลังนั่งดื่มชาที่เขารินให้ก็ใช่เรื่อง กลัวว่าจะถูกโมโหกลับมาอีก เขาคิดว่าควรจะเงียบไว้ดีกว่า
เมื่อเข็มนาฬิกาชี้ที่เลข 7 เป็นเวลารับประทานอาหารเย็นของคนในตระกูลอู๋ เหล่าคนใช้ก็ออกมาจากห้องครัวพร้อมกับอาหารที่เพิ่งปรุงเสร็จส่งกลิ่นหอมน่าทานให้คนนั่งรอต้องแอบกลืนน้ำลาย แน่นอนว่าขณะที่นั่งรอนั้น ไม่มีบทสนทนาระหว่างเขากับคุณคริสเกิดขึ้นอีกเลย
“อร่อยมั้ยคะ คุณชานยอล”
“อร่อยมากครับคุณยาย ผมชอบ”
คุณยายที่คอยดูแลเรื่องอาหารบนโต๊ะเอ่ยถามเด็กหนุ่มที่กำลังก้มหน้าก้มตาทานข้าวฝีมือตนอย่างเอร็ดอร่อยด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม ยิ่งได้รับคำตอบที่คนทำต้องชื่นใจยิ่งทำให้หล่อนแถมหุบยิ้มไม่ลง
ถึงแม่ว่าตอนแรกที่หล่อนเดินเข้ามาในห้องอาหารเพื่อจัดโต๊ะจะแปลกใจกับดวงตาช้ำๆของเด็กหนุ่ม ก่อนที่จะขึ้นไปยังร่าเริงอยู่ไม่ใช่เหรอ หรือว่าจะโดนคุณอู๋ฟ่านรังแกเอา แต่ก็อดใจไม่ถามอะไรออกไป เพราะตระหนักได้ว่ามันเป็นเรื่องของสามีภรรยา คนนอกอย่างหล่อนไม่ควรเข้าไปยุ่ง
“ถ้าอร่อยต้องทานเยอะๆนะคะ คุณชานยอลผอมลงมาก รู้ตัวมั้ย?”
“อ่า เหรอครับ ผมไม่รู้เลย”
พูดพร้อมวางมือจากตะเกียบจับใบหน้าของตัวเองไปมา ปากอิ่มยู่เข้าหากันเมื่อไม่รู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงของตัวเอง ก็ใช่สิ แก้มกลมๆนั้น มันไม่ยอมลดลงไปตามน้ำหนักของเจ้าของนี้น่า
“อยากรู้ทำไมไม่ถามฉันล่ะ ฉันตอบนายได้นะ”
คำพูดของคนที่เอาแต่นั่งเงียบอยู่นานทำให้หน้าของเขาร้อนฉ่า จนแทบจะระเบิด อ้าปากค้างพูดอะไรไม่ออก ยิ่งได้ยินเสียงบรรดาสาวใช้ที่ต่างหัวเราะคิกคัก ยิ่งทำให้เขาแทบอยากจะหายไปจากตรงนี้ คุณคริส พูดออกมาได้ยังไงกัน
“คุณคริสอ่ะ !! พูดอะไรก็ไม่รู้”
“หึหึ”
คริสหัวเราะออกมาเสียงดังเมื่อเห็นท่าทางนั้นของคนถูกแกล้ง เสียงหัวเราะที่นานๆทีชานยอลจะได้ยินมันสักครั้ง ใบหน้าหวานก้มลงมองจานข้าวที่อยู่ตรงหน้า ซ่อนรอยยิ้มอายๆของตัวเอง ไว้
บางที เขาอาจจะคิดมากไป
“อ้อ ชานยอล”
“ครับ มีอะไรเหรอครับ?”
เจ้าของชื่อเงยหน้าขึ้นมาจากจานข้าวของตัวเองเมื่อถูกเรียก คิ้วเรียวขมวดเข้าหากันอย่างแปลกใจ เมื่อเห็นคนที่นั่งบนหัวโต๊ะยกมือขึ้นสั่งสาวใช้ให้เติมข้าวในจานของตัวเอง ปกติคุณคริสไม่ทานเยอะขนาดนี้นี่นาหิวยังไงก้ต้องเว้นว่างให้กาแฟมื้อดึกอีกถ้วย แต่คำพูดต่อมาของคุณคริสก็ทำให้เขาโยนความสงสัยเรื่องก่อนหน้านี้ออกไปจากสมองจนหมด
“ฉันบอกนายหรือยัง ว่าอาทิตย์หน้าฉันจะพาไปเที่ยว”
“เอ๋? ไปเที่ยว! ยังครับ ยัง คุณยังไม่ได้บอกผม”
เด็กหนุ่มพูดออกมาอย่างแปลกใจ คุณคริสจะพาเขาไปเที่ยวอย่างนั้นเหรอ เขายังไม่ได้ไปไหนมาไหนกับร่างสูงอีกเลยหลังจากที่คุณคริสพาเขาไปเที่ยวครั้งนั้น เพราะมัวแต่ทำงาน แต่ตอนนี้คุณคริสว่างแล้วอย่างนั้นเหรอ แต่ความสงสัยของเขาก็ถูกเฉลยด้วยประโยคต่อมาจากร่างสูง
“อื้อ มันเป็นวันเที่ยวประจำปีของบ้านน่ะ วันหยุดพักผ่อนของคุณในตระกูล รวมถึงคนงานในบ้านด้วย”
“อ้อ เหรอครับ มีอย่างนี้ด้วยเหรอครับ”
คนที่เพิ่งเข้ามาอยู่ใหม่เอ่ยถามขึ้นอย่างแปลกใจ มีวันแบบนี้ด้วยเหรอ คงเป็นแค่ธรรมเนียมของตระกูลอู๋สินะ ดีจัง
“อื้อ นายก็เตรียมตัวไว้นะ จัดข้าวของให้ครบ ขาดเหลืออะไรก็จัดการได้เลย”
“ครับ แล้วเราจะไปเที่ยวที่ไหนกันเหรอครับ”
“ยังไม่รู้ คงจะเป็นทะเล ไม่ก็ภูเขา นายอยากจะไปที่ไหนล่ะ”
“ที่ไหนก็ได้ครับ ทะเลก็ได้ ผมชอบหมดนั้นแหละ”
เสียงทุ้มตอบอย่างร่าเริงตามอุปนิสัย รอยยิ้มแต่งเติมบนใบหน้าหวานยิ่งทำให้ใบหน้าชวนมองมากขึ้น จนทำให้คริสเผลอยิ้มออกมาได้
“ว่าง่ายจริงนะ อย่างนี้แหละ ดีแล้ว”
“ครับ”
คนถูกชมยิ้มออกมาอย่างเขินอาย คำชมของคุณคริสทำให้หัวใจของเขาพองโต นั่นแสดงว่าเขาทำให้คุณคริสพอใจมากใช่มั้ย
“ทานข้าวได้แล้ว จะได้ขึ้นไปผักผ่อน”
“ครับ คุณคริส”
วันคืนผ่านไปจนล่วงเลยมาถึงวันที่คนในตระกูลอู๋รอคอย วันเที่ยวประจำตระกูลนั้นเอง ชานยอลรู้สึกว่าสองสามวันที่ผ่านมาตระกูลอู๋ที่แสนจะเงียบเหงากลับคึกคักอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน อาจจะเพราะว่าทุกคนต่างตื่นเต้นกับวันเที่ยวที่กำลังจะมาถึง
ทุกคนในคฤหาสน์ต่างช่วยกันเตรียมข้าวของทั้งของตัวเองและของเจ้านายให้พร้อมสำหรับการเดินทางไปพักผ่อน3วัน2คืนที่ทะเลแห่งหนึ่งที่ชานยอลเองก็จำไม่ได้ว่าที่ไหนก่อนจะไปเขาคงต้องถามคุณคริสอีกครั้ง
คุณคริสที่ช่วงนี้รู้สึกว่าจะติดบ้านเป็นพิเศษ จะมีหายไปเพียงวันสองวันเท่านั้นเมื่อมีงานติดพันจนไม่สามารถปลีกตัวกลับมาได้ เช่นเดียวกันกับเพ่ยฟางที่กลับมาให้เขาเห็นหน้าอีกครั้งหลังจากสวนที่บ้านถูกจัดตกแต่งเรียบร้อยแล้ว
การใช่ชีวิตคู่ร่วมกันของเขากับคุณชายของบ้านไม่ได้เลวร้ายมากมายแต่ก็ใช่ว่าจะดี บางครั้งคุณคริสก็ไม่พอใจเขาอย่างไม่มีเหตุผล ซึ่งเขาเองก็ไม่รู้ว่าทำไม มันทำให้เขาต้องเสียน้ำตาอยู่บ่อยครั้ง และแทบทุกครั้งก็จะเป็นเพ่ยฟางที่คอยช่วยเหลือเขาเสมอมา นั้นทำให้เขายิ่งเพิ่มความรักความไว้ใจให้เพื่อนสาวคนนี้มากขึ้น
“คุณชานยอลคะ เสื้อตัวนี้คุณชานยอลจะเอาไปด้วยมั้ยคะ ผ้าเนื้อนิ่มคงใส่สบายตัวดี”
“อื้อ เอาสิ”
อย่างตอนนี้ก็เช่นกัน หญิงสาวร่างบางกำลังช่วยเขาจัดเสื้อผ้าสำหรับการเดินทางในพรุ่งนี้เช้า คุณคริสกำลังนั่งทำงานอยู่ในห้องทำงานข้างๆปล่อยให้เรื่องทุกอย่างเป็นหน้าที่ของเขา กระเป่าเสื้อผ้าสองใบวางอยู่กลางห้อง แน่นอนว่าข้าวของของคุณคริสถูกจัดเรียบร้อยก่อนใคร ทุกอย่างต้องไม่มีข้อบกพร่องสำหรับคุณคริส
“ขอบใจมากเลยนะเฟ่ยฟาง ที่มาช่วยฉันจัดของ ทั้งที่ของตัวเองก็ยังจัดไม่เสร็จแท้ๆ”
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ของเพ่ยฟางนิดเดียวเอง จัดแปปเดียวก็เสร็จแล้ว คุณชานยอลน่ะสิคะ ไหนจะจัดของตัวเองแถมยังต้องจัดให้พี่อู๋ฟ่านอีก ไม่รู้จะได้นอนตอนไหน”
หญิงสาววางเสื้อผ้าฝ่ายสีฟ้าตัวสุดท้ายบนกระเป๋าเดินทาง ปิดกระเป๋าตรวจดูความเรียบร้อย เงยหน้าขึ้นสบตากับชายหนุ่มที่นั่งอยู่บนเตียง ส่งยิ้มสดใสให้อีกฝ่าย
“ยังไงก็ต้องขอบใจมากอยู่ดี ทุกอย่างๆเลยนะ ฮ่าๆๆๆ ฉันมาอยู่ที่นี้คนเดียว ถ้าไม่ได้เพ่ยฟางฉันต้องแย่แน่ๆ”
“โธ่ คุณชานยอล เพ่ยฟางบอกแล้วว่าไม่เป็นไร ไม่ต้องคิดมากนะคะ คุณชานยอลแต่งงานกับพี่อู๋ฟานแล้วก็เหมือนเป็นพี่ชายของเพ่ยฟางคนหนึ่ง ยังไงก็ต้องช่วยอยู่แล้วค่ะ”
พูดพร้อมกับวางฝ่ามือลงไปบนหลังมือเรียวบีบเบาๆเพื่อย้ำว่ายังไงก็ยังมีตนคอยอยู่ข้างๆเสมอ ชานยอลตอบรับน้ำใจของอีกฝ่ายด้วยการส่งยิ้มให้ วางมือบนหลังมือบางเช่นกัน ก่อนที่ประตูห้องทำงานจะถูกเปิดออก ร่างของคริสเดินออกมาจากห้องนั้น
“อ้าว ทำงานเสร็จแล้วเหรอครับ”
“…….”
“พี่อู๋ฟ่านออกมาแล้ว ถ้างั้นเพ่ยฟางขอตัวไปนอนนะคะ พรุ่งนี้จะได้เดินทางแต่เช้า”
“อื้อ ฝันดีนะ ขอบใจมาก”
ชานยอลมองตามแผ่นหลังบางออกไปจนลับตาพร้อมกับประตูห้องถูกปิดลงอีกครั้ง ตากลมหันกลับมามองร่างสูงที่ยังคงยืนอยู่ที่เดิม มองมาทางเขาแววตาไม่สู้พอใจนัก เป็นสายตาที่อีกฝ่ายใช้มองเขาเป็นประจำ
“มีอะไรหรือเปล่าครับ?”
“เปล่า ไม่มีอะไร”
“ครับ คุณคริสจะอาบน้ำเลยมั้ยครับ”
“ทำไมถึงต้องนั่งใกล้กันขนาดนั้น”
ขาเรียวที่กำลังจะก้าวลงจากเตียงหยุดชะงัก คิ้วเรียวขมวดเข้าหากันกำลังทบทวนเรื่องที่อีกฝ่ายพูดถึง แล้วก็ต้องร้องอ๋อเมื่อเข้าใจว่าอีกฝ่ายต้องการจะสื่ออะไร
“ก็ไม่มีอะไรนิครับ ผมแค่ขอบคุณที่เพ่ยฟางมาช่วยจัดของจนเสร็จก็แค่นั้น”
“………..”
“ขอโทษนะครับ ถ้าทำให้คุณไม่พอใจ”
เมื่อเห็นสีหน้าของคุณคริสไม่สู้พอใจนัก ชานยอลก็ขอโทษออกมาตามความเคยชิน คำพูดนี้เขาต้องพูดมันประจำเมื่ออยู่กับอีกฝ่าย ดูเหมือนว่าสำหรับคุณคริสแล้วเขาทำอะไรก็ผิดไปเสียหมด
“อย่าทำอีกแล้วกัน เป็นผู้ชายผู้หญิงอยู่ใกล้กันมากมันไม่ดีเท่าไหร่หรอกนะ”
“ครับ”
ร่างบางขานรับ ลุกขึ้นจากเตียงเดินไปยังห้องน้ำเพื่อทำหน้าที่ของตนก่อนจะออกมาให้ร่างสูงเดินเข้าไปแทน ชานยอลหยิบชุดนอนออกมาจากตู้นั่งรอให้อีกฝ่ายทำธุระส่วนตัวจนเสร็จ จึงหยิบเสื้อผ้าที่เตรียมไว้ส่งให้อีกฝ่าย
“จะนอนเลยใช่มั้ยครับ”
“อื้อ”
ครางรับในลำคอทิ้งตัวนอนลงบนเตียงสีขาวฝั่งของตัวเอง ชานยอลมองดูคนที่กำลังนอนหลับตาพริ้มอยู่บนเตียงก่อนจะหันไปสำรวจห้องนอน ทุกอย่างเรียบร้อยแล้วจึงเอื้อมมือไปปิดสวิตไฟแสงสว่างถูกดับลง
มือเรียวดึงผ้าห่มคลุมทับร่างของต้องเองป้องกันอากาศหนาวยาวค่ำคืน แล้วร่างของเขาก็ถูกมือหนาดึงเข้าไปใกล้ก่อนจะวาดแขนโอบก่อนตัวของเขาไว้จนร่างของเขาเกยทับอีกฝ่าย ชานยอลซบหน้าลงกับแผ่นอกที่ขยับขึ้นลงตามจังหวะหายใจ
“พรุ่งนี้เราจะไปเที่ยวที่ไหนกันครับ?”
“หือ ฉันยังไม่ได้บอกนายอีกเหรอ”
“บอกแล้วครับ แต่ผมลืม ก็ชื่อมันเรียกยากนิครับ ผมจำไม่ได้”
เสียงหัวเราะแผ่วของคุณคริสดังเข้าหู ใบหน้าหวานยับยู่ แก้มกลมพองลมช้อนตาขึ้นมองใบหน้าหล่อเหลาของอีกฝ่ายในเงามืด ก่อนที่ฝ่ามือหนาจะกดศีรษะของเขาให้ซบลงบนแผ่นอกเช่นเดิม
“อ่าวซานย่าน่ะ สวยนะ เป็นชายหาดส่วนตัวคนไม่พลุกพล่านด้วย”
“อยู่ที่ไหนเหรอครับ? ผมไม่เคยได้ยิน”
“เกาะไห่หนาน มีร้านอาหารไทยด้วยนะ นายชอบมั้ย”
“มันเผ็ดครับ”
“หึหึ ขมก็ไม่ชอบ เผ็ดก็ไม่ชอบ กินยากจังนะเรา”
“ผมกินไม่ยากครับทานได้หมด ขอแค่อร่อย”
คำตอบของคนในอ้อมแขนทำให้เขาอดหัวเราะไม่ได้ จมูกโด่งกดลงบนกลุ่มผมนุ่มสูดความหอมอ่อนๆนั้นเต็มปอด มันทำให้เขารู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก ความเมื่อยล้าจากการทำงานหดหายไป ชานยอลกำลังทำให้เขารู้สึกดี
“หลับซะ พรุ่งนี้จะได้เดินทางแต่เช้า”
“ครับ ฝันดีนะครับ”
“อื้อ ฝันดี”
แดดยามเช้าสาดแสงเข้ามาภายในห้องนอนที่กำลังเย็นช่ำด้วยฝีมือของเครื่องปรับอากาศ บนเตียงหลังใหญ่มีร่างสองร่างที่นอนกอดกันกลมไม่รู้สึกตัวจนเมื่อนาฬิกาแผดเสียงดังขึ้น
“อื้ออ”
ชานยอลขยับตัวยุกยิก ควานหาต้นเสียงที่ปลุกเขาให้ตื่นขึ้นจากห้วงนิทรา แสงแดดยามเช้ากระทบรูม่านตาทำให้เขาต้องใช้หลังมือปิดบังแสงนั้นไว้ วันนี้คงเป็นวันที่อากาศสดใสอีกวัน ชายหนุ่มหันไปมองร่างที่ยังนอนหลับอยู่ข้างกาย ส่งยิ้มบางๆไปให้แม้จะรู้ว่าอีกฝ่ายจะไม่เห็นมันก็ตาม
เด็กหนุ่มลุกขึ้นมาจากเตียงทำหน้าที่ของตัวเองที่เคยทำอยู่ทุกวัน ทุกอย่างถูกเตรียมจนเสร้จจึงเดินกลับไปที่เตียงอีกครั้ง มองดูคนตัวโตขี้เซาที่ยังไม่ยอมตื่นขึ้นมาถึงแม้ว่าแสงแดดยามสายจะสาดส่องเข้ามาจนทำให้ห้องนอนเริ่มมีอุณหภูมิสูงขึ้นก็ตาม
“คุณคริสครับ ตื่นได้แล้วครับ สายแล้วนะ”
“อื้อ…”
คริสขยับตัวเบี่ยงกายหนีมือเรียวที่กำลังพยายามปลุกเขาให้ตื่น คิ้วดกหนาขมวดเข้าหากันความง่วงยังไม่จางหาย แต่ก็ต้องลืมตาตื่นขึ้นมาจนได้เมื่อนึกได้ว่าวันนี้ตัวเองจะต้องเดินทางไกล ร่างสูงยันตัวลุกขึ้นจากที่นอนใช้มือขยี้เส้นผมตัวเองไล่ความง่วงออกไปให้หมด
“ตื่นแล้วใช่ไหมครับ?”
“อื้อออ”
คริสครางรับพยักหน้าหงึกหงัก แต่ก็ยังไม่ลุกลงจากเตียง มองหน้าอีกคนที่อาบน้ำแต่งตัวเรียบร้อยสวมชุดผ้าฝ้ายสีขาวตัวบาง ตาคมมองสำรวจร่างกายอีกฝ่ายจนคนถูกจ้องต้องเอ่ยปากถาม
“มีอะไรหรือเปล่าครับ?”
“วันนี้นายแต่งตัวน่ารักจัง”
“เอ๋…”
ตากลมเลิกขึ้นอย่างแปลกใจ ก้มมองสำรวจตัวเอง เขาก็แต่งตัวปกตินี้น่า ไม่เห็นว่าจะแปลกไปตรงไหนเลย เสื้อผ้าฝ้ายีขาวกับกางเกงขาสามส่วนสีฟ้าที่เพ่ยฟางเป็นคนเลือกให้ตอนออกไปซื้อของด้วยกัน แต่แล้วแขนข้างซ้ายของเขาก็ถูกฉุดด้วยมือของคนที่นั่งอยู่บนเตียง ชานยอลร้องออกมาอย่างตกใจเมื่อร่างของเขาถูกคนตัวโตผลักให้นอนลงกับเตียง
“น่ารักแบบนี้ ขอหอมแก้มหน่อยสิ”
“คุณคริสอ่ะ สายแล้วนะครับ”
“ก็ให้หอมแก้มก่อนสิเดี๋ยวจะไปอาบน้ำแบบเร็วๆเลย”
ยิ่งคริสพูดมากเท่าไหร่แก้มกลมๆยิ่งพองขึ้นมากเท่านั้น แถมยังขึ้นสีจนเขาอดใจไม่ไหว ก้มลงฉกกลิ่นหอมจากแก้มย้วยๆนั่นจนเจ้าของแก้มต้องหัวเราะออกมาด้วยความจั๊กจี๊ ยอมให้อีกฝ่ายกดปลายจมูกลงบนแก้มนิ่มจนกว่าจะพอใจ ทุกอย่างที่ทำให้คุณคริสพอใจเขายินดีที่จะทำมัน
มาเข้าสู่โหมดหวานน้ำตาลเล็ดกันเถอะ แหม แต่งงานกันมันก้ต้องมีบ้างเนาะ 5555
1.เอ้อ เราเห้นคนแปะเมลกันใหญ่เลยตอนทีแล้วอ่ะ มันไม่มีฉากนั้นนะคะทุกคน ชานยอลปิดไฟเราก็เลยไม่เห็น แง้ง ขอโทษที่ทำให้เข้าใจผิดนะคะ ถ้ามีฉากนั้นเราจะบอกให้แปะเมลตอนที่โดนตัดค่ะ
2.ส่วนใครที่ยังไม่ได้ฉกานั้นกรุณาไปอ่านวิธีขอที่หน้าฟิคนะคะ
3.มีคนบอกเรื่องนี้ยาวจังเลย20กว่าตอนแล้วยังไม่รักกัน ลึกลับซับซ้อนเหลือเกิน มันยาวจริงๆค่ะ เราชอบฟิกยาวที่ค่อนข้างละเอียด ทนอ่านหน่อยนะคะ 5555 ฟิคเราภาษากากแต่ก็พยายามทำให้ดีที่สุดแล้วค่ะ ขอโทษด้วยนะคะ
ขอบคุณมากค่ะ เม้นเป้นกำลังใจให้ด้วยนะคะ
ความคิดเห็น