ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [FIC EXO] ::Distorted DayTime ::KrisYeol

    ลำดับตอนที่ #158 : CHAPTER134

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 3.4K
      16
      24 ส.ค. 58

    Distorted Daytime

    ประชาสัมพันธ์ก่อนอ่าน
    -เรามีโปรเจ็กจะแต่ง #DDTหลังแต่งงาน คือหลังจากที่เรื่องนี้จบลงแล้วเป็นการเล่าเรื่องชีวิตหลังจากที่ทั้งคู่รักกัน เป็นชีวิต3คนปะป๊า อาป๊า และเฟิงอี๋ ตั้งใจจะแต่งควบคู่กับฟิคอวด แต่งได้สัก5ตอนแล้วจะเอามาลงให้อ่านนะคะ ขอฝากไว้ในอ้อมใจอีกเรื่องนะคะ ><
    -รวมเล่ม #DDT ครั้งที่2นี้เราพิมพ์เผื่อ3ชุดนะคะ ใครสนใจมัดจำไว้ก่อน จองไว้ก่อน โอนมาซื้อเลย สามารถสอบถามที่line PP_diary ทวิตเตอร์ @PPdiary92 หรือทางเพจ PPciary92 ได้เลยค่ะ






    เมื่อจัดการเรื่องของเฟิงอี๋ได้แล้ว ทั้งสามก็ลงมากินอาหารเย็นข้างล่าง ปล่อยให้คุณยายหลี่รับผิดชอบทำหน้าที่ดูแลเฟิงอี๋ต่อไป หลังจากทานข้าวเสร็จแล้วคุณคริสก็ทำท่าจะออกไปที่โบสถ์อีกครั้ง


    เขาจะไม่ขัดอะไรเลยถ้าไม่ติดว่าตั้งแต่เกิดเรื่องคุณคริสยังไม่ได้นอนหรือทำแม้แต่พักผ่อนเขาจะไม่ห้ามเลยสักนิด เมื่อเขาเอ่ยเตือนว่าให้ไปพักผ่อน นอนหลับสักงีบก่อน รุ่งเช้าค่อยไปก็ไม่สาย คุณคริสจึงเปลี่ยนเป็นขึ้นไปพักผ่อนบนห้องแทน


    คุณแม่จะไปพักผ่อนเลยมั้ยครับ เดี๋ยวผมจะเดินไปส่ง


    ไม่เป็นไรจ๊ะ คริสขึ้นไปก่อนเลย เดี๋ยวแม่จะไปพร้อมกับชานยอล


    หญิงสาวพูดพร้อมกับดึงมือของลูกชายที่กำลังทำหน้ามึนมาจับไว้  ชานยอลส่งยิ้มแหยๆให้ร่างสูงที่ยืนทำหน้างงอยู่ตรงหน้า คริสครางชื่อคนรักออกมาเบาๆอย่างไม่เข้าใจ ชานยอลจะต้องนอนกับเขาไม่ใช่หรือ


    ชานยอล...


    ผมจะนอนกับคุณแม่นะครับ


    ชานยอลพูดเอ่ยออกมาเสียงอ่อย ความจริงเขาก็เป็นห่วงคุณคริสอยู่เหมือนกัน เพิ่งผ่านเรื่องเศร้ามาคงต้องการกำลังใจไม่ใช่น้อย แต่เขาเป็นห่วงคุณแม่มากกว่า


    แม่ขอตัวชานยอลนะคริส ถ้าทิ้งให้แม่นอนคนเดียวแม่คงนอนไม่หลับ


    อ้อ ครับ


    ในเมื่อคุณแม่พูดออกมาขนาดนี้แล้ว แล้วคริสจะทำอะไรได้ ชายหนุ่มได้แต่ส่งยิ้มให้คนรัก ดึงร่างนั้นเข้ามากอดต่อหน้าแม่ของเด็กหนุ่มอย่างไม่อาย ก่อนจะเดินขึ้นไปข้างบนเงียบๆปล่อยให้ชานยอลโดนคุณแม่ล้ออยู่อย่างนั้นคนเดียว



    ดึกมากแล้วแต่เขาก็ไม่สามารถข่มตาหลับได้ถึงแม้จะมีร่างของมารดานอนให้ความอบอุ่นอยู่ข้างๆแต่ในใจของเขาก็รู้สึกเงียบเหงาอย่างบอกไม่ถูก หลับตาลงครั้งใดก็มีแต่ภาพของคนที่เพิ่งจากไปปรากฏขึ้นในความมืด


    ภาพเหตุการณ์ที่เขาเคยมีเพ่ยฟางคอยช่วยเหลืออยู่ข้างๆตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้เจอกัน ไปเที่ยวด้วยกัน ทำอาหารด้วยกัน หรือเมื่อตอนทะเลาะกันฉายซ้ำวนเวียนอยู่อย่างนั้น รอยยิ้มของเธอ น้ำตาของเธอ เขายังจำมันได้ติดตา และจะไม่มีวันลืมเพื่อนที่ดีที่สุดคนหนึ่งของเขา คิดแล้วน้ำตาก็พาลจะไหล แล้วแสงไฟก็สว่างวาบขึ้นมาในความมืด


    หลับหรือยัง ฝันดีนะ


    เมื่อชานยอลเอื้อมมือหยิบต้นตอแสงสว่างนั้นขึ้นมาดู ข้อความจากโปรแกรมแชทก็ปรากฏสู่สายตา ชายหนุ่มฉีกยิ้มกว้างพร้อมกับน้ำตาที่ไหลลงมาจากขอบตา มือเรียวกดตัวอักษรส่งข้อความตอบกลับไป


    ยังครับ ผมนอนไม่หลับ


    ออกมาเจอกันหน่อยมั้ย?’


    เมื่อข้อความถูกเปิดอ่าน ข้อความจากปลายทางก็ถูกส่งกลับมาแทบจะทันที ชานยอลตอบตกลงโดยไม่ต้องคิด แล้วข้อความจากคุณคริสก็ทำให้เขาต้องลุกขึ้นจากเตียงทันที


    พี่ยืนอยู่หน้าห้องชานยอลแล้ว


    ข้อความที่เขาได้อ่านเป็นจริงทุกอย่าง เมื่อเปิดประตูห้องออกมาก็เจอเข้ากับร่างของคุณคริสที่อยู่ในชุดนอนยืนรออยู่หน้าประตู


    มาตั้งแต่เมื่อไหร่ครับ?”


    สักพักแล้ว พี่นอนไม่หลับน่ะ เลยออกมาเดินเล่น


    ชานยอลถามด้วยความแปลกใจ ก่อนจะทำหน้าเหมือนไม่เชื่อเมื่อได้ยินคำตอบ เขาคงแสดงออกทางสีหน้ามากเกินไปจนคุณคริสต้องหัวเราะออกมา


    เรื่องนอนไม่หลับก็มีส่วน แต่จริงๆแล้วพี่คิดถึงชานยอลน่ะ


    อ่า...


    ชานยอลครางออกมาเมื่อได้ยินคำสารภาพชวนเขินของคนรัก ถึงแม้คุณคริสจะชอบพูดกับเขาแบบนี้บ่ยอๆแต่เขาก็ยังไม่ชินอยู่ดี ก็เวลาที่อยู่ด้วยกันมา1ปีเคยคุยกันดีๆซะทีไหน จีบเขาคุณคริสก็เพิ่งมาจีบตอน3เดือนสุดท้ายของปีนี้แหละ


    หนาวมั้ย?”


    นิดหน่อยครับ


    คริสเอ่ยถามขึ้นเมื่อพวกเขาเดินฝ่าความมืดออกมาที่สวนหน้าบ้าน โชคดีที่เขาหยิบเสื้อคลุมติดตัวมาด้วยจึงไม่ทรมานเพราะอากาศหนาวมากนัก แต่คนถามเขานี้สิใส่แค่ชุดนอนตัวเดียวยังกล้ามาถามเขาอีก


    คุณหนาวมั้ย?”


    ไม่อ่ะ กอดชานยอลก็หายหนาวแล้ว


    ไม่พูดเปล่าคุณคริสยังดึงร่างของเขาเข้าไปกอดทันที ชานยอลหัวเราะออกมาเบาๆ กุมมือร่างสูงที่โอบกอดเขาไว้จากทางด้านหลัง พวกเขายืนให้สายลมขับกล่อมอยู่อย่างนั้น ต่างฝ่ายต่างตกอยู่ในความคิดของตัวเอง


    ชานยอล..


    ครับ


    เพ่ยฟางอยู่บนสวรรค์จริงๆใช่มั้ย


    เงียบอยู่นาน คุณคริสจึงเป็นคนเอ่ยทำลายบรรยากาศขึ้น ชานยอลพรูลมหายใจออกทางจมูก หมุนกายไปเผชิญหน้ากับร่างสูง ดวงตาวูบไหวหวาดสะท้อนความกลัวของคุณคริสทำให้เขารู้ว่าหัวใจของคุณคริสมันเจ็บปวดมากเพียงใด ก่อนที่สภาพจิตใจของอีกฝ่ายจะแย่ไปกว่านี้


    ครับ เพ่ยฟางอยู่บนสวรรค์ เธอกำลังเฝ้ามองคุณกับเฟิงอี๋อยู่ พี่อย่างห่วงนะครับ บนนั้นมีแต่ความสุข ไม่มีเรื่องทุกข์ให้ร้อนใจ จะไม่มีใครทำอะไรเธอได้


    เหรอ ดีจัง


    แล้วเขาก็ทำให้คุณคริสยิ้มออกมาได้อีกครั้ง มือหนาดึงมือเรียวขึ้นมาจูบ รู้สึกดีใจที่แหวนของตนยังอยู่บนมือสวยนั้น ชายหนุ่มดึงร่างของคนรักเข้ามากอดหลับตาลงซุกหน้าลงบนไหล่บาง เขากลัว กลัวว่าเพ่ยฟางจะได้อยู่ในภพภูมิที่ไม่ดี ตอนมีชีวิตอยู่เพ่ยฟางต้องทุกข์เพราะเขามามากพอแล้ว เมื่อตายไปเขาขอให้วิญญาณของเธอได้อยู่อย่างมีความสุขจริงๆด้วยเถอะ


    ครับ เธอไปสบายแล้ว พี่ก็อย่าทำหน้าเศร้าอีกได้มั้ย ผมใจคอไม่ดีเลย คุณยังมีผม มีเฟิงอี๋อยู่นะครับ ยิ้มให้ผมบ่อยๆหน่อยสิ


    พี่ก็ยิ้มให้ชานยอลตลอดไม่ใช่เหรอ


    ใช่ แต่แววตาของคุณมันไม่ได้ยิ้มตามเลยสักนิด ชายหนุ่มคิดในใจ ถึงปากจะยิ้มกว้างแต่แววตากลับเศร้าจนคนมองอย่างเขาอยากร้องไห้ แต่ทุกอย่างต้องใช้เวลา เพ่ยฟางจากไปเขายังเสียใจ คุณคริสที่ต้องเสียผู้หญิงที่รักไปย่อมเสียใจมากกว่า แต่เขาเชื่อว่าไม่นานคุณคริสต้องกลับมายิ้มได้ทั้งหัวใจอีกครั้ง


    ดึกแล้ว ไปนอนเถอะ เดี๋ยวคุณแม่ตื่นขึ้นมาไม่เจอชานยอลเข้าจะโกรธพี่อีก


    พี่ก็ต้องนอนให้หลับเหมือนกันนะ


    อื้อ พรุ่งนี้พี่ต้องไปโบสถ์แต่เช้า ญาติของเพ่ยฟางจะทยอยมา พี่ต้องไปรับแขก


    ครับ เดี๋ยวถ้าผมกับคุณแม่ทำธุระเสร็จแล้วจะรีบตามไปนะ


    ชานยอลพูดขึ้นเมื่อพวกเขาเดินขึ้นบันไดมาตามทางเดิน พรุ่งนี้เขาคงอยู่ช่วยที่งานศพทั้งวัน พอพูดถึงงานศพชานยอลก็นึกขึ้นมาได้จึงถามคนรักออกไป


    อ้อ แล้วงานศพมีกี่วันเหรอครับ


    “3วัน


    มะรืนนี้ก็ต้องฝังแล้วสินะครับ


    คริสพยักหน้าช้าๆ ความจริงเขาอยากเก็บร่างของเพ่ยฟางไว้ให้นานกว่านี้ แต่ทุกอย่างต้องเป็นไปตามพิธีทางศาสนา ไม่รู้ว่าถึงวันฝังจริงๆเขาจะทำใจได้หรือเปล่า


    เลิกคิดแล้วไปนอนให้หลับได้แล้วครับ


    หึ ฝันดีนะชานยอล


    ครับ ฝันดีครับ


    คุณคริสบอกลาเขาด้วยรสจูบผะแผ่วที่ริมฝีปาก ก่อนจะยืนมองเขาเดินหายเข้าไปในห้องนอนจนประตูปิดลง ชานยอลมองร่างของมารดาที่กำลังนอนหลับสนิทอยู่บนเตียงอย่างโล่งใจ คืนนี้ถ้าเขานอนหลับได้เหมือนคุณแม่ก็คงดี


    เช้านี้เขาคิดว่าเขาตื่นแต่เช้ามากแล้วแต่ก็ยังช้ากว่าคุณคริสอยู่ดี เมื่อเขากับคุณแม่เดินลงมาข้างล่างคุณคริสก็ไปถึงงานศพแล้ว พวกเขาสองแม่ลูกจึงตกเป็นภาระของอี้ชิงที่ถูกเจ้านายสั่งให้คอยมาดูแลเขากับคุณแม่แต่เช้าเป็นคนพาไปที่โบสถ์


    ตลอดเส้นทางการเดินทางรถยนต์ค่อนข้างติดขัด กว่าจะมาถึงงานก็เกือบชั่วโมงแล้ว บริเวณรอบโบสถ์ไม่ได้เงียบเหงาเช่นวันแรก รถยนต์หลายคันจอดอยู่ตามข้างทาง แขกคงเริ่มทยอยมากันแล้ว


    มาแล้วเหรอ


    ครับ ง่วงมั้ยครับ เดี่ยวผมไปเอากาแฟให้


    ไม่ต้องหรอก พาคุณแม่ไปนั่งเถอะ เดี๋ยวพี่รับแขกก่อน


    ครับ เดี๋ยวผมมาช่วยนะ


    หลังจากที่อี้ชิงจอดรถแล้วชานยอลกับคุณแม่ก็เดินตรงไปหาคริสที่หน้าโบสถ์ ใบหน้าของคุณคริสดูอิดโรยเล็กน้อยคล้ายคนไม่ได้นอน เมื่อพาแม่ไปนั่งเรียบร้อยแล้วร่างโปร่งจึงเดินไปช่วยสามีตอนรับแขกที่หน้างาน ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นเพื่อนสมัยเรียนของเพ่ยฟางหรือคริสที่รู้จักกันสมัยเรียนมหาลัย ส่วนญาติผู้ใหญ่มีไม่มากเพราะเพ่ยฟางมีญาติพี่น้องที่ไหนจะมีแค่คนที่สนิทเท่านั้น


    คุณคริสครับ


    หืม มีอะไรเหรอ


    ชานยอลสะกิดเรียกคนรักที่กำลังมองดูความเรียบร้อยรอบๆงานให้หันไปมองผู้หญิงรูปร่างสง่างามในชุดสีดำคุ้นตาที่เขามองปาดเดียวก็รู้ว่าคนนั้นเป็นใคร


    คุณแม่มาแล้วครับ

     

    คริส ชานยอล


    หญิงสาวร้องเรียกชื่อลูกชายกับลูกสะใภ้ด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ ทันทีที่รู้ข่าวหล่อนก็รีบจองตั๋วเครื่องบิน บินกลับจีนทันที แต่เนื่องจากรัสเซียโดนพายุเข้าทำให้หล่อนต้องเดินทางล่าช้าไปหนึ่งวัน


    สวัสดีครับคุณแม่


    จ๊ะลูก คริสมันเกิดเรื่องนี้ขึ้นได้ยังไง เล่ามาให้หมดนะ


    เหม่ยหลิงหันไปส่งยิ้มให้ลูกสะใภ้ ก่อนจะหันไปซักถามเอารายละเอียดจากลูกชาย คริสเล่าทุกอย่างให้มารดาฟังอย่างยากลำบากเพราะต้องคอยกลั้นน้ำตาไม่ให้ไหล จึงเป็นอู๋ เหม่ยหลิงเองที่ทำหน้าที่ร้องไห้แทนลูกชาย


    ฮึก ฮึก เพ่ยฟาง ไม่น่าเลย


    หญิงสาวร้องไห้ออกมาสงสารเด็กสาวที่หล่อนรักเหมือนลูกจนไม่รู้จะบรรยายยังไง ชีวิตของเพ่ยฟางช่างน่าสงสารเหลือเกิน ทำไมเรื่องร้ายๆแบบนี้ต้องเกิดกับเพ่ยฟางด้วย อู๋ เหม่ยหลิงหยิบผ้าเช็ดหน้าที่ชานยอลส่งให้ขึ้นมาเช็ดน้ำตา ก่อนจะหันไปหาชายหนุ่มทั้งสอง


    คริสลูกอย่าได้คิดโทษตัวเองเลยนะ มันเป็นอุบัติเหตุ


    คริสพยักหน้ารับคำพูดปลอบใจของคุณแม่ หล่อนรู้ดีว่าหลังจากเกิดเรื่องลูกชายของหล่อนคงเอาแต่คิดโทษตัวเอง โชคดีเหลือเกินที่คริสมีชานยอลอยู่ข้างๆ หญิงสาวเอื้อมมือไปจับมือลูกสะใภ้ขึ้นมากุมไว้ ก่อนจะพูดทุกอย่างออกมาจากใจ


    ชานยอล ขอบใจมากๆนะลูกที่อยู่ข้างคริส ถ้าคริสไม่มีลูกอยู่ข้างๆอีกคน แม่ก็ไม่รู้ว่าป่านนี้ลูกชายของแม่จะเป็นยังไง


    ไม่เป็นไรหรอกครับคุณแม่ เพ่ยฟางก็เหมือนเพื่อนของผมคนหนึ่ง ผมจะอยู่นี้ไม่ไปไหนหรอกครับ


    ขอบใจมากจ๊ะ แล้วนี้คุณซอนยอลอยู่ไหน ได้มาที่งานด้วยหรือเปล่า พาแม่ไปหาแม่ของหนูที


    ทางนี้ครับคุณแม่


    ถึงหล่อนจะมางานศพล่าช้าไป1วันแต่หล่อนก็ทราบทุกการเคลื่อนไหวของคนทางนี้ หญิงสาวถามหาแม่ของลูกสะใภ้ มีหลายเรื่องที่หล่อนต้องพูดกับคุณซอนยอล


    สวัสดีค่ะคุณซอนยอล


    อ้าว สวัสดีค่ะคุณเหม่ยหลิง มาถึงตั้งแต่เมื่อไหร่ค่ะ



    เมื่อชานยอลพาเหม่ยหลิงมาหาแม่ของตน ทั้งสองก็เอ่ยทักทายกันเหมือนไม่เคยมีเรื่องผิดใจกันมาก่อน และนั้นก็ทำให้เขาโล่งใจที่สุด เขาคิดว่าแม่กับคุณเหม่ยหลิงคงได้คุยกันก่อนหน้านี้แล้ว ถึงคุณเหม่ยหลิงจะแข็งกร้าวแต่ก็ไม่ใช่คนแข็งกระด้าง แม่ของคุณคริสพร้อมจะขอโทษเสมอเมื่อรู้ว่าตนเป็นคนผิด


    ร่างโปร่งเดินออกมาจากบริเวณนั้นปล่อยให้คุณแม่ทั้งสองได้คุยกันตามประสาผู้ใหญ่ กำลังจะเดินกลับไปหาคุณคริสแต่แขกผู้ชายสูงวัยท่าหนึ่งก็เดินเข้าไปหาคุณคริสเสียก่อน ดูท่าแล้วคงเป็นแขกผู้ใหญ่ของทางเพ่ยฟาง ชานยอลไม่อยากรบกวน ร่างโปร่งจึงเลือกที่จะยืนอยู่เงียบๆคนเดียวในมุมหนึ่งของงาน


    แขกที่มาร่วมงานทยอยกลับไปทีละคนสองคน เหลือแต่คนที่สนิทจริงๆเท่านั้น เพื่อนของเพ่ยฟางและคุณคริสยืนจับกลุ่มคุยกันที่มุมหนึ่ง มองมาทางเขาบ้างเป็นระยะ ชานยอลก็ได้แต่ส่งยิ้มไปให้ เขาไม่รู้ว่าในสายตาของเพื่อนๆของสามีจะคิดกับเขายังไง จะคิดว่าเขาเป็นคนมาแย่งคุณคริสจากเพ่ยฟางหรือเปล่านะ ชายหนุ่มเค้นยิ้มให้ตัวเองนึกขำกับความเหลวไหลที่วนเวียนอยู่ในสมอง


    อ่ะ จริงด้วยสินะ


    ภาพเพื่อนๆที่มาร่วมงานศพทั้งชายและหญิงทำให้ชานยอลคิดถึงผู้ชายคนหนึ่ง คนที่เคยมีความทรงจำร่วมกันมากว่าครึ่งชีวิตของเพ่ยฟาง คนๆนั้นที่เป็นเพื่อนสนิทของคุณคริส หวัง หลี่ฟง ป่านนี้พี่หลี่ฟงจะรู้หรือยังว่าเกิดอะไรกับผู้หญิงที่ตนเคยรักจนต้องผิดใจกับเพื่อนรักอย่างคุณคริส ถ้าเขาโทรบอกพี่หลี่ฟงให้มาส่งเพ่ยฟางเป็นครั้งสุดท้ายคุณคริสจะโกรธเขาหรือเปล่า


    ชานยอลควักโทรศัพท์มือถือออกมาจากกระเป๋ามองมันอย่างชั่งใจ เบอร์ที่ถูกเมมชื่อว่าพี่หลี่ฟงอยู่แค่ปลายนิ้ว ชายหนุ่มสูดลมหายใจเข้าปอด ตัดสินใจกดโทรออกไป ถ้ามีเรื่องอะไรเกิดขึ้นเขาก็จะเป็นคนรับผิดชอบในสิ่งที่เขาทำเอง


    พี่หลี่ฟง นี้ชานยอลเองนะครับ


    หลี่ฟงคิดว่าทั้งชีวิตของตัวเองเขาไม่เคยขับรถเร็วขนาดนี้มาก่อน ทันทีที่ได้ฟังข่าวร้ายจากปากชานยอลเขาก็รีบบึ่งรถมาตามเส้นทางของสถานที่จัดงานศพตามคำบอกเล่าทันที มือที่กำพวงมาลัยชื้นไปด้วยเหงื่อ เช่นเดียวกันกับใบหน้า


    เขาไม่อยากจะเชื่อว่าเรื่องที่เขาได้ฟังจากชานยอลจะเป็นเรื่องจริง แม้จะรู้ว่าชานยอลไม่มีทางเอาเรื่องนี้มาพูดเล่นก็ตาม คิดถึงข้อนี้แล้วน้ำตาของชายหนุ่มก็ไหลออกมาจากหางตา ภาพของเพ่ยฟางวนเวียนอยู่ในสมองเธอจากไปแล้วจริงๆเหรอเพ่ยฟาง ทิ้งพี่ไปอีกแล้วเหรอ..


    แล้วภาพตรงหน้าก็ยืนยันคำพูดของชานยอลทั้งหมด หลี่ฟงอ้าปากค้างกับภาพที่ได้เห็น ผู้คนมากมายเดินผ่านร่างของเขาตรงไปยังบริเวณที่มีโลงศพตั้งอยู่ ภาพถ่ายของเพ่ยฟางวางอยู่ตรงนั้น ข้างๆโลงศพมีผู้ชายสองคนยืนอยู่ ขายาวก้าวไปข้างหน้าช้าๆน้ำตาพรั่งพรูออกมาจากดวงตา ไม่มีอีกแล้ว ไม่ได้เจออีกแล้ว รักแรกของเขาเธอจากไปแล้วตลอดกาล...


    พี่หลี่ฟง


    ไอ้เหี้ยคริส!”


    ป็นชานยอลที่เห็นเขาก่อน ร่างโปร่งเรียกชื่อของคนที่ตนแอบโทรหาออกมาเบาๆ คริสหันไปตามสายตาของคนรัก แล้วคอเสื้อเขาก็ถูกกระชากอย่างแรงก่อนที่หวัง หลี่ฟงจะประเคนหมัดใส่หน้าเขาอย่างไม่ออมแรง


    โครม!!”


    พี่คริส! พี่หลี่ฟงอย่า! อย่าครับ


    ชานยอลร้องเรียกชื่อคนรักสลับกับผู้มาเยือนออกมาเสียงดัง ร่างสูงของคริสกระแทกเข้ากับเก้าอี้ในงาน หลี่ฟงรัวหมัดใส่ใบหน้าอดีตเพื่อนรักไม่ยั้งแม้จะมีชานยอลคอยดึงตัวเขาไว้ก็ไม่สามารถหยุดยั้งอารมณ์โกรธของเขาได้


    คุณหลี่ฟง พอแล้วครับ


    ไอ้เหี้ยคริส มึงทำให้เพ่ยฟางต้องตาย ไอ้ชั่ว อย่าอยู่เลยมึง


    อี้ชิงที่เพิ่งวิ่งฝ่าบรรดาแขกที่เข้ามามุงดูเหตุการณ์ไว้ได้ ดึงร่างของอดีตเพื่อนสนิทเจ้านายไว้ แม้จะเป็นคนทำร้ายร่างกายของคริสแต่น้ำตาของหลี่ฟงก็ไหลออกมาเป็นสาย มองชานยอลที่กำลังร้องไห้อย่างขวัญเสียกอดร่างของคริสไว้ด้วยความเจ็บปวด


    อย่าพี่ อย่า อย่าทำคุณคริส ฮื่อ


    เพ่ยฟางรักมึง เลือกมึง แต่มึงทำให้เขาต้องตาย ชานยอลที่เป็นเมียมึง มึงก็ทำร้ายเขาสารพัด มึงมันเลว มึงต้องทำร้ายคนที่รักมึงกี่คนมึงถึงจะพอใจ ห๊ะ! ไอ้เหี้ย!”


    หลี่ฟงระบายความเจ็บปวดในใจออกมาทั้งน้ำตา มองดูคริสที่ไม่ได้ตอบโต้เขาหรือแม้กระทั้งการป้องกันตัวด้วยสายตาเครียดแค้น ระบายความเจ็บปวดเป็นหมัดใส่หน้าของคริสอีกครั้ง ร่างสูงปล่อยให้หลี่ฟงประเคนหมัดใส่หน้าตนจนกว่าอีกฝ่ายจะพอใจ


    พี่อย่า พอแล้ว พอแล้ว อื่ออ


    หยุดนะหลี่ฟง แม่บอกให้หยุด!”


    ชานยอลลุกขึ้นยืนช่วยอี้ชิงดึงร่างของคนที่กำลังทำร้ายคนที่เขารักออกมาทั้งน้ำตา คริสมองภาพนั้นตาขวาง สัมผัสได้ถึงกลิ่นคาวเลือดในปาก แล้วอู๋ เหม่ยหลิงก็หยุดอารมณ์ของหลี่ฟงไว้ ถึงจะเกลียดคริสมากแค่ไหนแต่ความเคารพต่อคุณแม่ก็ยังมีอยู่


     พี่ครับ กลับไปก่อนนะครับ ฮื่อ ผมขอ กลับไปก่อน


    เมื่อพายุอารมณ์สงบลงชานยอลก็เอ่ยขอร้องหลี่ฟงทั้งน้ำตา ชายหนุ่มมองภาพตรงหน้าด้วยสายตาร้าวร้าน ก่อนจะพูดบางอย่างออกมาสร้างแผลเป็นในใจของคริสให้ใหญ่กว่าเดิม


    จำไว้ไอ้คริส คนอย่างมึงมันไม่สมควรให้ใครมารัก คนเห็นแก่ตัวอย่างมึงไม่สมควรได้รับความรักจากใคร

     

     

     


    TBC.........






    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×