คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #132 : CHAPTER 125
Distorted Daytime
“อื้ออออ”
ร่างโปร่งครางอื้อเมื่อแสงแดดยามเช้าเล็ดลอดผ่านผ่าม่านสีขาวกระทบเข้ากับม่านตาสีมุก มือเรียวยกขึ้นมาขยี้ดวงตาของตัวเอง อ้าปากหาววอด ยกหัวขึ้นมาจากแผ่นอกแสนอุ่นของสามีที่ยังคงหลับอยู่
“เช้าแล้วเหรอ ง่วงจัง”
ชายหนุ่มบ่นพึมพำกับตัวเองเงยหน้าขึ้นมองใบหน้าหล่อเหลาของคริสที่ยังคงหลับสนิทอยู่ นิ้วสวยลุบไล้ปลายคางของคนใต้ร่างด้วยสายตาแสนรัก เขาอยากตื่นขึ้นมาเจอคุณคริสแบบนี้ทุกเช้าจัง ชายหนุ่มพูดกับตัวเองในใจก่อนจะกระซิบเรียกชื่อของคนที่ยังคงนอนหลับสนิทอยู่เสียงแผ่ว
“คุณคริส คุณคริสครับ”
“อื้อ อย่ากวน”
ชานยอลส่งเสียงหัวเราะคิกคักเมื่อเห้นอาการขี้เซาของเด็กตัวโต ดุท่าแล้วคุรคริสคงไม่ยอมตื่นขึ้นมาง่ายๆ ชายหนุ่มบิดตัวลุกขึนมาจากอ้อมแขนของคริสที่กอดตนไว้ทั้งคืนช้าๆ เพราะกลัวว่าจะรบกวนเวลาพักผ่อนของคนป่วย ขาเรียวก้าวลงจากเตียงไปยังกระเป๋าเสื้อผ้าที่ยังคงกองอยู่หน้าห้องนั่งเล่น เขาต้องจัดการทุกอย่างให้เสร็จก่อนที่คุณคริสจะตื่น
“เรียบร้อย ทีนี้ก็เหลือแต่อาหารเช้า”
ชานยอลพูดกับตัวเองเมื่อจัดเสื้อผ้าเข้าตู้เรียบร้อยแล้ว ชายหนุ่มหันไปมองคนที่กำลังหลับอยู่บนเตียงแวบหนึ่งก่อนจะหันหลังเดินออกไปยังห้องครัว เพื่อดูว่าในตู้เย็นมีอะไรที่พอจะนำมาประกอบเป็นอาหารเช้าได้บ้าง
“อ่า เหลือแค่นี้เหรอ มีแค่นี้เหรอ เฮ้อออ”
ชายหนุ่มถอนหายใจออกมาเมื่อเปิดประตูตู้เย็นแล้วไม่พบอะไรเลยนอกจากนมเพียงครึ่งขวดที่กำลังจะหมดอายุในวันพรุ่งนี้เสียด้วย นมเพียงแค่นี้คงไม่สามารถนำมาประกอบอาหารให้เขากับคุณคริสอิ่มได้ คิดแล้วชานยอลก็หันหลังกลับเดินไปยังห้องนอน จะโทรไปหาอี้ชิงก็กลัวจะเป็นการรบกวนเกินไปเขาคงต้องลงไปซื้อของที่ซุปเปอร์มาร์ทใกล้ๆคอนโดนี้เอง
“โอ้ย แย่จริงๆ ลืมอะไรไม่ลืมดันลืมกระเป๋าตังค์เสียนี้”
แล้วเมื่อกลับเข้าห้องเปิดกระเป๋าของตัวเองเพื่อหาเงินลงไปซื้อของมาทำอาหารชานยอลก็ต้องอารมณ์เสียยิ่งกว่าการเปิดตู้เย็นแล้วเจอนมเพียงแค่1ขวด เขาลืมหยิบกระเป๋าตังค์ออกมาจากที่บ้าน มีเพียงโทรศัพท์ที่เขาถือติดมือมาเท่านั้น
“ทำไงดีเนี้ย แล้วจะเอาอะไรกินว่ะชานยอล อ๊ะ...”
ชายหนุ่มบ่นกับตัวเองเสียงไม่ดังนักเพราะกลัวว่าคนป่วยที่กำลังนอนหลับอยู่จะตื่น ก่อนที่สายตาจะไปปะทะเข้ากับกระเป๋าเงินสีดำ มันวางอยู่บนหัวเตียง
“ของคุณคริส อ่า คงไม่เป็นไรมั้ง”
ร่างโปร่งเดินไปหากระเป๋าใบนั้นอย่างกล้าๆกลัวๆ ได้แต่ปลอบใจตัวเองว่าคงไม่เป็นไรเพราะคุณคริสเคยแม้แต่ให้เขาเล่นโทรศัพท์ที่เคยหวงนักหนา และตอนนี้คุณคริสคงไม่มีความลับอะไรกับเขาอีกแล้ว แค่จะหยิบกระเป๋าตังค์ไปซื้อของโดยไม่ขอก่อนคุณคริสคงไม่ว่าอะไร
“ขอโทษนะครับคุณคริส”
ชายหนุ่มพูดกับคนบนเตียงเบาๆ เปิดกระเป๋าสีดำออกดู มีธนบัตรอยู่บรรจุอยู่หลายวอน รู้สึกผิดนิดๆที่หยิบเงินของสามีไปซื้อของโดยไม่บอกกล่าว แต่มันเป็นเรื่องจำเป็น ถ้าไม่หยิบไปตื่นขึ้นมาคุณคริสคงต้องโมโหหิวน่าดู
ร่างโปร่งเดินไปเปิดประตูตู้เสื้อผ้า หยิบเสื้อแขนยาวขึ้นมาสวมทับเสื้อยืดของตัวเอง ก่อนจะเดินออกไปซื้อของที่ซุปเปอร์มาร์ทไม่ไกลจากคอนโด มีเพียงกระเป๋าเงินของสามีที่เขาถือติดมือมาด้วย ส่วนโทรศัพท์นั่นถึงหยิบมาก็ไร้ประโยชน์เพราะมันดับเนื่องจากแบตหมดแล้วนั้นเอง
ชานยอลเดินเลือกซื้อของในซุปเปอร์มาร์ทอย่างเร่งรีบเพราะกลัวว่าผู้ชายที่นอนรออยุ่ในห้องจะตื่นขึ้นมาแล้วไม่เจอใคร เขาเลือกข้าวผัดเบค่อนเป็นเมนูอาหาร เพราะมันอร่อยและทำง่ายที่สุด ไม่ลืมหยิบไส้กรอก ไข่ไก่ และขนมปัง ติดมือมาด้วยเผื่อคุณคริสจะอยากทานอาหารเช้าก่อนไปขึ้นเครื่องพรุ่งนี้ ส่วนอาหารกลางวันที่อาจจะไปหิวในตอนบ่ายพวกเขาอาจจะออกไปทานข้างนอกไม่ก็ดทรสั่งมากินที่คอนเพราะเขาขี้เกียจจะไปไหนจริงๆ
เมื่อเลือกซื้ออุปกรณืทำครัวและเครื่องปรุ่งเสร็จแล้วชายหนุ่มก็เดินไปยังแผนกเครื่องดื่มหยิบน้ำส้มและกาแฟใส่รถเข็น ก่อนจะเดินไปที่ตู้แช่หยิบเบียร์ขึ้นมา1แพคใหญ่ ไอศครีมอีก1ถัง แวะแผนกอาหารสัตว์ซื้ออาหารเม็ดให้ปิ๊ปโป้ แล้วจึงเดินไปคิดตังค์ที่เคาร์เตอร์
ชานยอลที่มีถุงข้าวของที่ซื้อมาเต็มมือทั้งสองข้างเดินเข้าไปในคอนโดอย่างทุลักทุเล จะเรียกแท็กซี่ก็ใกล้เกินไป เดินมาเองก็เหนื่อยใช่เล่นโชคดีที่วันนี้อากาศค่อนข้างดีไม่อย่างนั้นเขาคงได้หน้ามืดเพราะหิวและร้อนแน่ๆ
“ถึงสักที”
ร่างโปร่งถอนหายใจออกมาเมื่อประตูห้องพักปรากฏอยู่ตรงหน้า ไม่รู้ว่าป่านนี่คุรคริสจะอยู่หรือยัง มือเรียวผลักบานประตูเข้าไปช้าๆ แล้วเสียงของคนที่เขาคิดถึงตลอดเวลาที่เดินทางไปซุปเปอร์ก็ดังขึ้นทันที
“ชานยอล ไปไหนมา!”
“อ้าว ตื่นแล้วเหรอครับ”
ชานยอลร้องทักคนที่เดินหน้ายุ่งออกมาจากห้องนอนก่อนจะวางข้าวของที่ซื้อมาลงบนโต๊ะ
“อื้ออ ไปไหนมา ฉันตื่นมา กระเป๋าตังค์ก็หายคนก็หาย โทรศัพท์ก็ไม่เอาไป”
“ไปซื้อของมาทำอาหารเช้าครับ ขอโทษนะครับที่หยิบกระเป๋าตังค์ไปโดยไม่ได้บอก พอดีพี่หลับผมเลย....”
ร่างโปร่งทำหน้ายุ่ยเมื่อเห็นคนเพิ่งตื่นมีสีหน้าไม่พอใจนัก ก่อนจะยื่นกระเป๋าคืนให้เจ้าของ แต่คุรคริสกลับดึงแขนเขาเข้าไปใกล้ วาดวงแขนโอบกอดร่างของเขาไว้
“มันไม่ใช่เรื่องสำคัญหรอก พี่แค่เป็นห่วงชานยอลนึกว่าจะทิ้งพี่ไปแล้วซะอีก”
“โธ่ คิดอะไรอย่างนั้นล่ะครับ”
ชานยอลหัวเราะออกมากับความคิดของคนรัก เงยหน้าขึ้นสบตาร่างสูงทาบฝ่ามือลงบนแก้มคร้าน กดจูบลงไปบนกลีบปากสีเข้มเพียงชั่วครู่ เพียงแค่นั้นคนที่ทำหน้าหงอยก็คลี่ยิ้มออกมาอย่างพึงใจ
“แล้วซื้ออะไรมาบ้างล่ะ”
“หลายอย่างเลยครับ ผมว่าจะทำข้าวผัดเบค่อน พี่อยากทานมั้ยครับ?”
“อะไรก็ได้ทำเถอะ พี่ขอไปอาบน้ำก่อนนะ”
“เดี๋ยวผมเช็ดตัวให้”
“ไม่ต้อง ชานยอลทำอาหารเถอะ ถ้ามีอะไรพี่จะเรียกก็แล่วกัน”
พูดจบคริสก็ปล่อยร่างของคนรักให้เป็นอิสระแล้วเดินเข้าห้องนอนไป จึงถึงเวลาที่ชานยอลจะได้ลงมือเข้าครัวเสียที ชายหนุ่มหุงข้าวเป็นอันดับแรกก่อนจะหันไปหั่นเบค่อนเตรียมไว้ รอประมาณ20นาทีข้าวก็สุก ร่างโปร่งทำอาหารเช้าสำหรับ2ที่อย่างไม่มั่นใจนัก เขาไม่เคยทำอาหารจริงๆจังๆแบบนี้มาก่อน ทุกครั้งที่ทำมักจะมีคุณยายหลี่ไม่ก็นมเยจินอยู่ข้างๆเสมอ พอได้ลงมือทำเองเขาจึงไม่ค่อยมั่นใจนัก เขาไม่ได้คาดหวังว่าข้าวผัดเบค่อนที่เขาทำจะออกมาน่าทาน ขอแค่ไม่ให้มันห่วยจนกินไม่ได้ก็พอ ผัดต่อไปอีกสักพักข้าวผัดเบค่อนของเขาก็ได้ที่ชายหนุ่มจัดการปิดวาวแก๊ส
“อื้ม ใช่ได้นี้ เดี๋ยวไว้ทำให้แม่กับพี่กินบ้างดีกว่า”
ชายหนุ่มพูดกับตัวเองอย่างพอใจเมื่อตักข้าวผัดเบค่อนที่กำลังร้อนฉ่าในกระทะขึ้นชิม ก่อนรอยยิ้มอยู่บนใบหน้าหวานจะค่อยๆเลือนหายไป แม่กับพี่ เขาจะมีโอกาสได้ทำให้ทั้งสองทานอีกมั้ยนะ คิดแล้วน้ำตาก็พาลจะไหล แรงฝ่ามือที่กระทบบนใบหน้าไม่ได้ทำให้เขารู้สึกเจ็บเท่ากับคำพูดคัดพ้อไร้เยื่อใย ไม่มีแม่กับพี่แล้วต่อไปชีวิตนี้เขาจะทำยังไง
“ชานยอล”
“คะ..ครับ”
ร่างโปร่งถึงกับสะดุ้งเอือกเมื่อได้ยินเสียงเรียก รีบยกมือขึ้นปาดน้ำ หันไปแกยิ้มให้ร่างสูงที่เพิ่งเดินออกมาจากห้องนอน คริสมองหน้าของคนรักอย่างไม่สบายใจ รอยยิ้มของชานยอลมันดูไม่สดใสอย่างที่เคย
“เป็นอะไร พี่เรียกตั้งานาน”
“เปล่าครับ ผมกำลังคิดอะไรเพลินๆ”
“คิดถึงคุณแม่เหรอ”
คริสพูดพร้อมกับวางมือบนศีรษะทุย แล้วเขาก็รู้ว่าสิ่งที่เขาคิดนั้นมันไม่ได้ผิดไปเมื่อใบหน้าหวานที่ดูเศร้าหมองก้มหลบสายตาของเขา ชานยอลพยักหน้าออกมาอย่างจำนน เขาคิดถึงแม่มากจริงๆ
“.....................ครับ ผมคิดถึงแม่”
“ชานยอล กลับไปอยู่กับพี่ไม่ได้เหรอ”
คริสพูดด้วยน้ำเสียเว้าวอน ถึงแม้ว่าจะเข้าใจเหตุผลที่ชานยอลไม่ยอมกลับไปกับเขาดี แต่จะให้คนรักอยู่คอนโดคนเดียวแบบนี้เขาก็เป็นห่วงเหลือเกิน
“.........................”
“นะชานยอล ถ้าพี่กลับไปชานยอลจะอยู่ยังไง”
“ผมจะอยู่ที่นี้ ที่คอนโดของเรา จนกว่าแม่จะหายโกรธ จะรอพี่กลับมา พี่กลับมารับผมนะครับ”
ชานยอลพูดออกไปด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ มันอยากเหลือเกินที่คนขี้เหงาอย่างเขาจะต้องอยู่คนเดียว ความจริงที่ว่าเขาไม่มีบ้านให้กลับอีกแล้วตอกย้ำความเจ็บปวดให้เขาซ้ำแล้วซ้ำเล่า คริสมองใบหน้าที่เปื้อนไปด้วยน้ำตาของชานยอลด้วยความสงสาร ที่ชานยอลต้องเป็นแบบนี้มันเป็นเพราะเขา เพราะเขาคนเดียว
“ชานยอล”
“ไปกินข้าวเถอะครับ หิวแล้วใช่มั้ย ข้าวผัดเสร็จพอดี พี่ไปนั่งรอที่โต๊ะนะครับ เดี๋ยวชานยอลยกไปให้”
ชานยอลรีบตัดบท ผลักร่างสูงให้ถอยห่างก่อนที่หัวใจของเขาจะอ่อนยอมเก็บกระเป๋าหนีตามคุณคริสไป คริสถอนหายใจออกมาในเมื่อชานยอลเลือกที่จะทำอย่างนี้ก็ยากที่เขาจะบังคับ ร่างสูงเดินไปนั่งบนโต๊ะอาหารมองดูร่างโปร่งเดินหยิบจานชามภายในครัวอย่างเพลินตา รอไม่นานข้าวผัดหอมฉุยพร้อมกาแฟร้อนก็มาวางลงตรงหน้าเขา
“อาจจะไม่อร่อยนะครับ ผมเพิ่งเคยทำ”
“อร่อยหมดนั้นแหละ ถ้าชานยอลทำ”
คริสพูดพร้อมกับส่งยิ้มหวานไปให้คนรัก ความจริงที่ว่าพรุ่งนี้เขาต้องกลับแล้วยิ่งคิดยิ่งทำให้เขาใจหาย ตอนไหนจะได้เจอกัน
“อร่อยก็ต้องทานให้หมด จะได้กินยานะครับ”
“ครับผม”
ชานยอลมองดูร่างสุงตักข้าวผัดข้าวปากด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้มก่อนจะก้มทานของตัวเองบ้าง แต่ทานไปได้แค่2-3คำเท่านั้นเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นเสียก่อน ชานยอลวาช้อนแล้วลุกขึ้นจากเก้าอี้เดินไปหยิบโทรศัพท์ที่ไม่ใช่ของเขายื่นให้สามี คริสเอื้อมมือไปรับมองดูรายชื่อแวบหนึ่งก่อนจะกดรับแล้ววางมันแนบหู
“ครับคุณแม่ ครับ ดีขึ้นมากแล้วครับ อีก1เดือนครับ ไปถอดที่จีน อยู่กับชานยอครับ……….”
พอเห็นคุณคริสคุยโทรศัพท์เขาถึงนึกขึ้นมาได้ว่าโทรศัพท์ของตัวเองยังนอนนิ่งไร้พลังงานอยู่บนหัวเตียง เขาควรจะชาร์ตแบตมันเสียทีคิดแล้วขาเรียวก็เดินเข้าไปในห้องหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเสียบสายชาร์ตไฟ ดวงตากลมมองหน้าจอจัดการเปิดเครื่องแล้วจึงวางมันลงบนโต๊ะ หันหลังเดินออกจากห้องเพื่อจะไปกินข้าวต่อแต่เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นแทบจะทันที
“ใครโทรมานะ แม่…”
เพียงแค่เห็นรายชื่อคนที่โทรเข้ามามือเขาก็สั่นจนแทบจะทำโทรศัพท์ล่วงหลุดจากมือ ชานยอลกดรับสายด้วยมือสั่นเทา เขาอยากได้ยินเสียงแม่ ถึงแม่จะโทรมาด่าเขาก็จะฟัง
“………….”
“ฮัลโหล ชานยอล”
“แม่….”
“ชานยอล ตื่นแล้วเหรอลูก”
“แม่ ฮึก แม่ครับ”
แต่สิ่งที่ได้ยินนั้นต่างจากสิ่งที่เขาคิด เสียงเรียกชื่อเขาอ่อนหวาน จนเขารู้สึกอุ่นวาบในหัวใจ ไม่ใช่น้ำเสียงโกรธเกี้ยวเหมือนวันนั้น
“ร้องไห้ทำไมลูก อยู่กับคริสใช่มั้ย”
“ฮึก ครับ”
ชานยอลยกมือขึ้นปิดปากของตัวเอง น้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความห่วงใยของแม่ทำให้น้ำตาเขาไหล
“ดีแล้ว แม่จะได้ไม่เป็นห่วง”
“ฮึก ฮึก”
ชานยอลพูดอะไรไม่ออกมีเพียงเสียงสะอื้นที่หลุดออกมาจากปาก คำพูดของแม่สร้างความยินดีให้ยิ่งนัก เรื่องเมื่อคืนเขาแค่ฝันร้ายไปใช่มั้ย
“ชานยอล ถ้าคุณคริสกลับจีนแล้ว ชานยอลก็...กลับบ้านเรานะลูก”
“ฮื่ออ แม่ แม่ครับ ฮื่ออ”
เพียงแค่ได้ยินคำว่ากลับบ้านเรานะจากปากมารดา ความอดทนของชานยอลก็ทลายลง กลั้นออกมาเป็นหยาดน้ำตามากมาย จนคริสที่คุยดทรศัพท์อยู่อีกมุมหนึ่งต้องรีบวางสายแล้ววิ่งเข้ามาหา
“ชานยอล ร้องไห้ทำไม ใครทำอะไร!”
“หึ ชานยอลแม่ขอคุยกับคุณคริสได้มั้ยจ๊ะ”
ซอนยอลหัวเราะออกมาเมื่อได้ยินเสียงของลูกเขยลอดเข้ามาในสาย หญิงสาวผ่อนลมหายใจออกมา ก่อนจะขอพูดกับลูกเขยตัวดีที่หล่อนยังไม่สามารถทำใจยอมรับได้สนิท
“ครับ”
“ใคร ฮัลโหล”
คริสเอ่ยถามอย่างไม่เข้าใจเมื่อคนรักส่งโทรศัพท์มาให้ แต่ชายหนุ่มก้ยอมรับมันไว้ในมือวางมันลงแนบหู เขาอยากรู้ว่าใครกันที่ทำให้ชานยอลร้องไห้แต่เช้าแบบนี้ แต่เมื่อรู้ว่าปลายสายคือใครน้ำเสียงที่เคยแข็งกระด้างก็อ่อนลง อยากจะดึงร่างของคนรักที่กำลังร้องไห้อยู่เข้าสู่อ้อมกอดแต่ก็ติดว่ามือของเขายังใช้การได้แค่ข้างเดียว
“ครับ...ครับ ผมจะดูแลชานยอลให้ดีครับ ครับ ขอบคุณคุณแม่มากนะครับ สวัสดีครับ”
“ฮึก ฮื่อ”
“หยุดร้องได้แล้วครับคนดี”
แล้วคริสก็ได้ทำอย่างใจอยากเมื่อเขาวางโทรศัพท์ลงบนโต๊ะ ดึงร่างโปร่งเข้ามากอดด้วยมือข้างเดียว ชานยอลฟุบหน้าลงกับอกแกร่ง เรื่องที่เกิดขึ้นมันเหมือนความฝัน แม่โทรมาตามให้เขากลับบ้าน บ้านที่เขาเพิ่งจากมาทั้งน้ำตา
“ฮึก คุณ คริส ผมกำลังคิดว่าผมฝันไป ผมไม่ได้ฝันไปใช่มั้ยครับ แม่ยกโทษให้ผมแล้วใช่มั้ย”
“ฮ่าๆ ชานยอล ใช่ แม่ยกโทษให้เราแล้ว หายเศร้านะครับ”
“ผม..ผมงงไปหมดแล้ว ฮึก”
“ไม่มีอะไรต้องคิดแล้วน้า ไปกินข้าวได้แล้ว ข้าวผัดของชานยอลเย็นหมดแล้วนะ แล้วปิ๊ปโป้ก็กำลังรอแม่มันไปให้อาหารอยู่ หยุดร้องนะคนดี”
ชานยอลหัวเราะออกมาทั้งน้ำตาเมื่อริมฝีปากร้อนผ่าวจูบซับน้ำตาของเขาบนผิวแก้มก่อนจะไล่ขึ้นมาบนเปลือกตา ทั้งสองฉีกยิ้มกว้างให้กัน เป็นรอยยิ้มที่เปี่ยมไปด้วยความสุขท ความสุขที่กำลังคืนกลับมาหาเขาอย่างแท้จริง
ลมหนาวพัดผ่านเข้ามาทางช่องหน้าต่างกระทบกายบางที่มีเพียงชุดผ้าฝ้ายตัวบางคลุมทับอยู่ หญิงสาวหดกายเข้าสู่ผ้าห่มผืนหน้า สองแขนตะกองกอดร่างของลูกชายไว้แนบอก เอนหลังผิงหัวเตียงไม้ในห้องของหล่อนกับลูก
ตอนนี้จีนเข้าสู่หน้าหนาวแล้ว ลมพัดมาแต่ละครั้งช่างหนาวบาดจิต ดชคดีที่ตาหนูมีชุดสำหรับฤดูหนาวมากมาย แต่ละตัวล้วนถูกคัดสรรมาเป็นอย่างดี เพ่ยฟางก้มหน้าลงมองลูกชายในอ้อมแขนกดปลายจมูกจุมพิตแก้มแดงอย่างเด็กสุขภาพดีของเฟิงอี๋อย่างแสนรัก รักเหลือเกิน ลูกชายคนเดียวของหล่อนกับพี่อู๋ฟ่าน
พี่อู๋ฟ่านที่ไม่เคยโทรหาหล่อนเลยตั้งแต่วันนั้น วันแรกที่เครื่องบินจอดลงบนสนามบินอินชอน ข่าวสุดท้ายที่หล่อนได้รับจากคุณชานยอลคือพี่อู๋ฟ่านประสบอุบัติเหตุ และมีใครบางคนอยู่เคียงข้าง คนรักของอู๋ อี้ฟ่าน ปานนี้คงจะดีขึ้นมากแล้ว
“เพ่ยฟาง เพ่ยฟาง..”
“คะ...คะยาย”
“เป็นอะไร ยายเรียกตั้งนาน”
คุณยายหลี่ที่เพิ่งเดินเข้ามาในห้องพร้อมถาดน้ำส้มเอ่ยทักขึ้นเมื่อหล่อนเรียกหญิงสาวที่กำลังนั่งเหม่ออยู่บนเตียงมีลูกในอ้อมกอดไม่ยอมขานรับหล่อนสักที เพ่ยฟางถึงกับสะดุ้งรีบดึงสติกลับเข้าร่าง ส่งยิ้มฝืดๆให้คุณยายคลายความกังวล
“เปล่าค่ะ ฉันกำลังคิดอะไรเพลินๆ”
“คุณหนูหลับไปแล้วเหรอ”
“ค่ะ เพิ่งทานนมแล้วหลับไป เฟิงอี๋ ชอบกินนมอุ่นๆ เขาจะหลับสบาย เขาชอบทานนมกับน้ำส้มคั้นที่สุด ก่อนนอนเขาชอบฟังนิทานถึงจะยังฟังไม่รู้เรื่องก็เถอะ ฮ่าๆ เขาชอบตื่นขึ้นมาร้องหานมตอนดึก ตอนนี้หน้าหนาว ยายอย่าลืมใส่เสื้อผ้าหนาๆให้เขานะคะ ”
หญิงสาวพุดด้วยดวงตาและสีหน้าเหม่อลอยอย่างที่ช่วงนี้ชอบทำให้คนในบ้านเห็นเป็นประจำ ใบหน้าหวานบิดเบี้ยวน้ำตาคลอที่หน่วยตาเรียว เสียงสะอื้นแผ่วทำให้คนฟังอย่างคุรยายต้องใจหาย คำพูดที่เหมือนเป็นคำลา
“เพ่ยฟาง พูดอะไร เธอจะไปไหน แล้วหนาวขนาดนี้ทำไมไม่ใส่เสื้อแขนยาว”
“ไม่ค่ะ เพ่ยฟางจะใส่เสื้อตัวนี้ ฮึก เสื้อตัวนี้พี่อู๋ฟานซื้อให้เพ่ยฟาง พี่เขาชมว่าสวย อึก ทุกครั้งที่เพ่ยฟางใส่ พี่อู๋ฟ่านจะชมเพ่ยฟางตลอด ฮื่ออ ยาย”
หญิงสาวพูดอย่างดื้อดึง กระชับเสื้อผ้าฝ้ายสีขาวแนบชิดกับร่าง กอดร่างของลูกชายไว้ในอกร้องไห้สะอื้นฮักเหมือนกำลังจะขาดใจจนคุณยายต้องดึงร่างบางมากอดไว้ด้วยความสงสาร
“โธ่ เพ่ยฟาง”
“ทำไมยาย ทำไมพี่อู๋ฟานไม่กลับมา ทำไม ฮื่ออ”
พี่อู๋ฟ่านรู้มั้ยในขนาดที่พี่มีความสุขกับภรรยาของพี่มีผู้หญิงคนหนึ่งที่พี่เคยบอกว่ารักนักหนากำลังจะตายเพราะขาดความรักจากพี่
TBC..........................
สวัสดีค่ะ
มาอัพช้าอีกแล้ว มัวแต่ยุ่งกับงาน ต้องขออภัยด้วยนะคะ
เพ่ยฟางจะรีเทินร์เต็มตัวแล้วน้าาา
ใครสนใจรวมเล่มช่วยไปโหวตด้วยนะคะ เราจะเปิดจองวันที่ 23 มีนาคม
แล้วน้าา เย้ 5555
รายละเอียดตามลิงค์นี้เลยค้าา
http://ppdiary92.blogspot.com/2015/02/ddt.html
ขอบคุณค่ะ
ร่วมสกรีมในทวิตเตอร์รบกวน #DDT ขอบคุณค่ะ
ความคิดเห็น