คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #129 : CHAPTER 122
Distorted Daytime
ชานยอลยืนอยู่หน้าห้องนอนของตัวเอง ร่างโปร่งทำใจอยู่สักพัก รอเวลาให้น้ำตาแห้งไปจากดวงตาบวมช้ำ ลองฉีกยิ้มกับตัวเองสักครั้ง เมื่อคิดว่าทุกอย่างเข้าที่จึงกล้าเปิดประตูเข้าไป
“คุณคริส กินข้าวครับ”
“กลับมาแล้วเหรอ ไปนานจัง”
เมื่อเปิดประตูเข้ามาเขาก็เห็นโทรทัศน์ที่ปลายเตียงถูกเปิดไว้แต่ตัวคุณคริสกลับไปนั่งอยู่บนพื้นข้างเตียง ข้างๆกันมีปิ๊ปโป้คอยเลียแข้งเลียขาประจบอยู่ไม่ไกล ร่างโปร่งวางถ้วยข้าวต้มลงบนโต๊ะหัวเตียง คริสละความสนใจจากลูกชายคนโตไปมองคนรักก่อนจะถามออกไป
“พอดีคุยกับพี่ซูโฮอยู่ครับ”
“ทะเลาะกันอีกหรือเปล่า”
ร่างสูงถามออกไปด้วยความเป็นห่วง เขาไม่อยากให้ชานยอลต้องลำบากทั้งกายและใจ แค่เรื่องไปเอาอาหารเขาคิดว่าแค่ชานยอลโทรลงไปบอกคนใช้ก็คงยกขึ้นมาให้แต่ที่เจ้าตัวลงไปเอาเองคงเป็นเพราะอยากเจอกับครอบครัวมากกว่า แต่เมื่อได้ฟังคำตอบพร้อมกับการส่ายหน้าเขาก็โล่งใจ ลุกขึ้นยืนเดินไปนั่งบนเตียง มองชามข้าวต้มที่ชานยอลเพิ่งว่างลงอย่างสงสัย
“ทำไมมีชามเดียวล่ะ? ของนายอยู่ไหน”
“ผมกินกับคุณไงครับ หรือกลัวว่าจะไม่อิ่ม”
ชานยอลตอบออกไปทันทีแทบไม่ต้องคิด เพราะเขาได้คิดไว้ก่อนหน้าแล้วว่าคุณคริสต้องถามถึงเรื่องนี้
“กลัวเรานั้นแหละจะไม่อิ่ม”
“อิ่มสิครับ ผมกินนิดเดียวเอง บอกแล้วไงว่าจะลดความอ้วน”
เมื่อได้ฟังคำตอบของคนรักคริสก็หัวเราะออกมา อ้าปากรับข้าวต้มที่อีกฝ่ายป้อนให้ถึงปาก ชานยอลยิ้มออกมาทั้งที่หัวใจกำลังร้องไห้ เขากำลังมีความสุขเมื่อได้อยู่กับคุณคริสแต่ถ้ามีแม่กับพี่อยู่ข้างๆเขาคงจะมีความสุขกว่านี้
“กินสิ”
“ครับ”
ชานยอลเอียงหน้าถามด้วยความสงสัยเมื่อร่างสูงดึงช้อนจากมือเขาไป
“เดี๋ยวป้อน อ้าปาก”
“ผมกินเองได้ครับ อย่าลำบากเลย”
“ไม่ลำบาก บอกแล้วไงต่อไปนี้จะดูแลชานยอลเอง อ้าปาก”
ชายหนุ่มพูดแกมบังคับ ชานยอลยิ้มออกมาก่อนจะอ้าปากกว้างรับข้าวต้มรสชาติที่เขากินมาตั้งแต่เด็กเข้าปาก ร่างโปร่งถึงกับน้ำตาซึมรสชาติข้าวต้มของนมยังอร่อยเหมือนเคยแต่ทำไมมันทำให้เขารู้สึกขมขื่นขนาดนี้
“ก๊อกๆ”
“ใครเหรอ”
“อึนนาเองค่ะ คุณซูโฮบอกให้ยกข้าวต้มขึ้นมาให้”
ชานยอลถึงกับชะงักไปชั่วครู่เมื่อรู้ว่าข้าวต้มถ้วยนั้นเป็นของใคร น้ำตาแห่งความตื้นตันปริ่มที่ขอบตาอย่างน้อยในบ้านหลังนี้ก็ยังมีพี่ที่เข้าใจเขา
ทั้งสองผลัดกันป้อนอยู่อย่างนั้นจนข้าวต้มหมดชาม ชานยอลจึงนำไปวางไว้หน้าห้องรอให้คนรับใช้ขึ้นมาเก็บ
“ชานยอล เราออกไปเดินเล่นกันมั้ย?”
“คุณอยากไปที่ไหนล่ะครับ”
คุณคริสพูดขึ้นหลังจากที่เขาเอายาให้ทานเสร็จ ความจริงเขาก็คิดจะชวนคุณคริสไปข้างนอกอยู่แล้วเพราะกลัวว่าอีกฝ่ายจะเบื่อ คุณคริสเคยไปทำงานทุกวันต้องมานั่งๆนอนๆในห้องสี่เหลี่ยมแคบๆแบบนี้คงจะอึดอัดแย่
“ไม่รู้สิ มยองดงดีมั้ย พอเที่ยงเราก็แวะกินไก่กัน”
“คุณอยากกินเหรอครับ แต่คนเยอะนะ ผมกลัวว่าแขนคุณจะเป็นอันตราย”
ชานยอลพูดด้วยความเป็นห่วง แขนหักอยู่ถ้าไปเดินเบียดกับคนดื่นโดนชนขึ้นมาคงไม่ดีนัก
“ไม่รู้จะไปไหน มาหานายทั้งทีฉันอยากให้เราได้ใช้เวลาสร้างความทรงจำดีๆด้วยกัน เวลาห่างนายจะได้คิดถึงฉันบ้าง”
คริสดึงมือคนรักมากุมไว้ รู้สึกใจหายทุกครั้งยามนึกถึงวันที่ต้องจากลา ชานยอลยิ้มออกมาเมื่อก่อนเขาไม่อยากจำว่าคุณคริสเป็นยังไงแต่ตอนนี้คุณคริสน่ารักจนทำให้เขาหลงรักอย่างถอนตัวไม่ขึ้น
“ผมก็อยากอยู่กับคุณ เอาอย่างนี้มั้ยล่ะครับ ไปเดินเล่นห้างใกล้ๆนี้กันผมจะไปซื้อเครื่องปรุงมาทำต๊อกโบกีให้คุณทานด้วย แล้วพอเย็นๆเราค่อยไปหาอะไรกินกันที่มยองดงกัน ช่วงเย็นคนไม่เยอะเท่าตอนกลางวัน ดีมั้ยครับ?”
“อื้ม เอาไงก็ได้”
พอตกลงกันได้แล้วชานยอลก็ลุกขึ้นไปเปลี่ยนเสื้อผ้าสำหรับไปข้างนอก ส่วนคุณคริสก็อยู่ในชุดสบายๆใส่ไปข้างนอกอยู่แล้วเขาจึงไม่ต้องแต่งตัวให้ ทั้งสองเดินมายังชั้นล่างของบ้าน แม่ไปทำงานแล้วเขาจึงไม่ได้กังวลอะไร ลงมาข้างล่างเขาก็เจอเข้ากับนมเยจินพอดีชานยอลจึงฝากนมให้บอกคนใช้ขึ้นไปเก็บถ้วยข้าวต้มบนห้องก่อนจะบอกว่าตัวเองกับคุณคริสจะออกไปเดินเล่นข้างนอกให้บอกแม่กับพี่ว่าไม่ต้องรอเขาทานข้าว
“มาเกาหลีทีไรชานยอลได้ขับรถให้พี่นั่งทุกที”
“ฮ่าๆ อย่าคิดมากสิครับ คุณครับหรือผมขับก็เหมือนกันนั้นแหละ”
ชานยอลหันไปพูดกับร่างสูงที่นั่งกุมมือเขาอยู่ข้างๆ ใบหน้าคุณคริสบ่งบอกว่ากำลังซีเรียสกับสิ่งที่พูด เรื่องขับรถนี้เป็นปัญหาที่ทำให้พวกเขาต้องมานั่งเถียงกันหลายครั้งเลยทีเดียว ชานยอลขับรถออกไปโดยมีคริสเป็นฝ่ายชวนคุยบางครั้งร่างโปร่งจึงจะเป็นฝ่ายถามขึ้นบ้าง
มันเปลี่ยนไปแล้วจากแต่ก่อนที่ชานยอลบจะเป็นฝ่ายชวนเขาคุย แต่คงเพราะมัวแต่กังวลเรื่องคุณแม่กับเขา ตั้งแต่กลับมาจากไทยดูชานยอลเงียบขรึมผิดวิสัยคนช่างพูด ไม่รู้ว่าตอนไหนเขาจะได้ชานยอลคนเดิมกลับมาเสียที
“ชานยอล พี่รู้นะว่าชานยอลคิดมากเรื่องคุณแม่กับพี่”
“ผม ผมไม่เคยทะเลาะกับแม่แรงๆแบบนี้เลย ผมไม่เคยขัดใจท่าน ผมทำให้แม่ได้ทุกอบ่าง แต่เรื่องของคุณผมทำไม่ได้”
สุดท้ายคริสก็ตัดสินใจพูดออกไปเมื่อพวกเขาจอดรถที่ลานจอดรถของห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง เขาดื้อรั้นอยากใช้เวลาอยู่ร่วมกันกับชานยอลมากกเกินไปจนลืมไปว่าทุกอย่างมันไม่ได้ง่ายอย่างที่เขาคิดเสมอ มันทำให้ชานยอลที่เคยอยู่ในโอวาทของแม่ต้องเดือดร้อนลำบากใจ เขาควรจะถอยห่างและใจเย็นมากกว่านี้
“พี่จะพยายามใจเย็นเรื่องความสัมพันธ์ของเรา ชานยอลจะได้ไม่ต้องอึดอัดใจแบบนี้อีก สักวันเถอะ แม่ต้องเห็นว่าพี่รักชานยอลจริงๆและยอมรับในความสัมพันธ์ของเรา”
“ขอบคุณนะครับพี่ ขอบคุณจริงๆ”
ชานยอลเอ่ยขอบคุณมองดูร่างสูงด้วยสายตาซึ้งใจ คุณคริสเคยพูดเคนรับปากเรื่องนี้กับเขาหลายครั้งแล้ว แต่พอเอาเข้าจริงคนใจร้อนอย่างคุณคริสก็ทำได้ยาก แต่อย่างน้อยก็ยังพยายามที่จะทำเพื่อเขาแค่ยี้ก็ดีใจแล้ว
“ชานยอลรู้ใช่มั้ย พรุ่งนี้พี่ก็จะกลับแล้ว”
“รู้ครับ”
ชานยอลพยักหน้ารับเสียงหงอย ทำไมเวลามันถึงผ่านไปเร็วแบบนี้นะ ไม่รู้ว่าอีกนานแค่ไหนที่พวกเขาจะได้เจอกันอีก
“มาใช้เวลาที่เหลือสร้างความทรงจำดีๆกันเถอะ”
ชานยอลยิ้มออกมาทั้งน้ำตา ทั้งสองเปิดประตูรถเดินลงไปพร้อมกัน เดินจับจูงมือกันออกไปตามทางเดิน ภายในห้างสรรพสินค้าผู้คนยังไม่มากนักเพราะเพิ่งถึงเวลาเปิดห้างได้ไม่นาน ชานยอลเดินลากร่างสูงเข้าร้านนั้นอออกร้านนี้ตามอำเภอใจอย่างที่อยากทำมานานแสนนาน
และคริสเองก็ไม่ได้ว่าอะไรยอมเดินตามร่างของคนรักไปโดยที่ไม่ปริปาก แค่ได้เห็นรอยยิ้มของชานยอลเขาก็คิดว่ามันคุ้มค่ามากแล้ว
“เสื้อตัวนี้สวยนะครับ”
หลังจากที่จับเสื้อหลายตัวขึ้นมาดู พลิกหงายอยู่หลายตลบชานยอลก็หันไปหาคนที่กำลังง่วนอยู่กับโทรศัพท์ คริสเงยหน้าขึ้นมาเมื่อได้ยินคนข้างกายพูดอย่างนั้น ใบหน้าสวยกำลังเอียงมองเขาสลับกับเสื้อเชิร์ตในมือ ชายหนุ่มยิ้มระยายยิ้มออกมาเล็กน้อยก่อนจะพูดคำพูดที่เขาพูดออกมานับสิบครั้งตลอดทั้งวันนี้
“สวยนะ เอาสิ เดี๋ยวพี่ซื้อให้”
“ไม่ครับ ผมจะซื้อมันให้คุณเอง”
คริสหัวเราะออมามองชานยอลที่กำลังฉีกยิ้มตาหยี ทาบเสื้อในมือลงบนอกคนที่คอยเอาแต่ใจเขามาทั้งวัน วางถุงเสื้อผ้ารวมถึงของใช้ต่างๆที่คริสเป็นคนซื้อให้ตามใจเจ้าของหรือบางทีก็ตามใจตัวเองบ้างไว้บนเก้าอี้ พินิจมันอยู่สักพักชายหนุ่มก็หันไปหยิบเสื้อแบบเดียวกันแต่คนล่ะสีขึ้นมา มองซ้ายมองขวาอย่างตัดสินใจไม่ได้ก่อนจะเอ่ยออกมาพรางทำหน้ายู่
“คุณชอบตัวไหนครับ สวยทั้งสองตัวเลย”
“ตัวไหนก็ได้ แล้วแต่ชานยอล”
“ได้ไง คุณพูดคำนี้มาทั้งวันแล้วนะ แล้วอีกอย่างผมซื้อให้คุณก็ต้องตามใจคุณสิ”
ชานยอลบ่นออกมาเบาๆ มันเป็นเรื่องดีจริงๆที่คุณคริสตามใจเขา คอยฟังที่เขาพูดทุกอย่างมันทำให้เขาคลายความเศร้าในใจเรื่องแม่ได้บ้าง แม้จะยุ่งกับงานในโทรศัพท์บ้างถึงจะมีแค่มือเดียวก็ตาม แต่บางครั้งเขาก็กลัว กลัวว่าการที่คุณคริสทำแบบนี้มันจะทำให้เขาเป็นคนเอาแต่ใจ ไม่น่ารัก อย่างไม่รู้ตัว
“ชานยอลชอบอะไรพี่ก็ชอบทั้งนั้นแหละ ก็พี่รักชานยอลนี้น้า”
“พี่อ่ะ ทำมาต้องมาหยอดตอนนี้ด้วย”
เมื่อสบโอกาสปลอดผู้คนคริสก็อดจะหยอดให้ร่างโปร่งใจสั่นเล่นไม่ได้ ชานยอลมอบค้อนวงใหญ่ให้เขา ก่อนจะง่วนกับการเลือกเสื้อผ้าต่อ คริสหัวเราะออกมาเบาๆแล้วจึงก้มหน้ามองโทรศัพท์ เขากำลังคุยอะไรบางอยุ่กับอี้ชิง เป็นเรื่องสำคัญ จนเขาไม่สามารถมองชานยอลตลอดเวลาได้อย่างที่ต้องการ
“เลือกไม่ๆได้อ่ะ สวยทั้งสองเลยครับคุณคริส เอาตัวไหนดี สีดำก็เหมาะ แต่คุณมีเยอะมากๆแล้วเสื้อสีดำอ่ะ สีขาวก็สวย แต่มันดูไม่เหมาะกับคุณเท่าสีดำ ทำไงดีครับ?”
“เอางี้ ชานยอลก็เสื้อทั้งสองตัวสิ ตัวหนึ่งให้พี่ อีกตัวชานยอลก็ใส่เอง ใส่คู่กันไง”
“อ่า จริงด้วย ฮ่าๆๆ ใส่คู่กัน”
ชานยอลหันมาถามร่างสุงเมื่อไม่สามารถตัดสินใจด้วยตัวเองได้ สุดท้ายคริสก็ต้องเป็นฝ่ายตัดสินใจให้ เขาเลือกทางออกอย่างชาญลาดและดูเหมือนชานยอลจะพอใจกับคำตอบของเขามาก ใบหน้าอิ่มมองเสื้อทั้งสองด้วยสายตาวาววับ เสื้อคู่เหรอ เขาไม่เคยคิดเลยว่าจะมีโมเม้นแบบนี้เกิดขึ้นระหว่างเขากับคุณคริส
“โอเคแล้วนะครับ ตัดสินใจได้แล้วใช่มั้ย”
“ครับ ได้แล้วครับ เดี๋ยวคิดเงินเลย”
ร่างโปร่งตอบก่อนจะหันไปส่งเสื้อให้พนักงานขายที่ยืนรอตนอยู่นานแล้ว ยื่นบัตรเครดิตให้เป็นสิ่งสุดท้าย
“ถ้างั้นเดี๋ยวฉันมานะ”
“ไปไหน?”
“คุยโทรศัพท์กับอี้ชิงครับ”
ชานยอลถามเสียงติดห้วน เขาไม่ได้บ่นอะไรเรื่องที่คุณคริสเอาแต่มองโทรศัพท์เวลาเขาเผลอเพราะเชื่อตามที่อีกฝ่ายบอกว่าเป็นเรื่องงาน แต่เมื่อได้ฟังคำตอบพร้อมเสียงหวานๆอารมณ์ที่เริ่มขุ่นก็ดีขึ้น ชายหนุ่มพยักหน้าให้ส่งๆก่อนที่คริสจะเดินจากไปชานยอลก็ใช้มือเกี่ยวแขนแกร่งไว้ มองอีกฝ่ายด้วยสายตาอ้อนๆ
“กลั[มาแล้ว ผมอยากกินเค้ก พาชานยอลไปกินนะพี่”
“ฮ่าๆๆ ได้สิ รอ5นาทีนะ”
คริสพูดออกมาด้วยน้ำเสียงกลั้วหัวเราะ ยกมือขึ้นขยี้เส้นผมนุ่มของเด็กหนุ่มที่กำลังใช้ศีรษะถูไถไหล่เขาอย่างออดอ้อน ชายหนุ่มปลีกตัวออกมาจากร้าน ยกโทรศัพท์ในมือที่กำลังสั่นขึ้นแนบหู
“ว่ายังไงอี้ชิง คุณจางยอมเลื่อนการเดินทางหรือเปล่า”
“การเจรจาเป็นไปด้วยดีครับ ทางคุณจางเพิ่งได้ทราบข่าวเรื่องอุบัติเหตุของคุณบนหน้าหนังสือพิมพ์ ทุกฝ่ายในบอร์ดบริหารเข้าใจเรื่องนี้ครับ”
“แสดงว่า....”
“เราสามารถเลื่อนการประชุมออกไปใน1-2วันเพื่อให้คุณที่เพิ่งประสบอุบัติเหตุได้พักฟื้นก่อนวันเดินทาง
ครับ”
“ดีมากอี้ชิง บอกคุณจางว่าแล้วฉันจะตอบแทนเข้าทีหลัง แค่นี้นะ”
คริสวางสายด้วยรอยยิ้มเต็มใบหน้าข่าวที่ได้รับจากอี้ชิงถือว่าเป็นข่าวที่ดีที่สุดในรอบสัปดาห์ ชายบหนุ่มก้าวเท้าทั้งสองข้างเข้าไปในร้านที่มีคนรักรออยู่อย่างเร็วรี่ ก่อนจะใช้แขนข้างเดียวของตนตวัดรอบเอวบางของคนที่กำลังสนใจอยู่แต่กับเสื้อผ้าบนราวโชว์
“นี้คุณ! อย่ารุ่มร่ามสิครับ คนอื่นเขามองอยู่นะ”
“ช่างสิ พี่มีข่าวดีจะบอก”
ชานยอบหันไปเอ็ดร่างโปร่งที่เพิ่งขโมยจูบแก้มเขาไม่สนใจสายตาพนักงานที่มองมา แต่คนอย่าคุณคริสมีหรือจะอาย ร่างสูงไหวไหล่ก่อนจะก้มหน้าชิดกับแก้มนวล ชานยอลเอียงคอถามด้วยความสงสัย ข่าวดีของคุณคริสคืออะไร
“อะไรเหรอครับ”
“การประชุมบอร์ดบริหารเรื่อง1วัน พรุ่งนี้พี่จะอยู่กับชานยอล”
“จริงเหรอฮะ ว้าวว”
เมื่อได้ฟังเรื่องที่อีกฝ่าจะพูดชานยอลก็รู้ว่ามันเป็นข่าวดีจริงๆ เขาจะได้อยู่กับคุณคริสอีก1วัน แม้จะเป็นแค่1วันแต่มันก็ยังดีกว่าเวลาๆสั้นที่มีอยู่แค่วันนี้
“อื้ออ ว่าแต่เราเถอะซื้อพอหรือยัง”
“พอแล้วครับ”
“งั้นเราไปกินเค้กกันเถอะ นายอยากกินไม่ใช่เหรอ”
“ไปครับ”
“กินเสร็จแล้วแวะดูหนังกันมั้ย ยังไงเราก็ไม่มีอะไรทำแล้วนี้ ชานยอลอยากดูหรือเปล่า”
“อยากครับอยาก ผมอยากดูหนัง”
ชานยอลเก็บคำว่ากับคุณไว้ในใจภายใต้ใบหน้าเปื้อนยิ้ม แต่งงานกันมา1ปีเขาไม่เคยดูหนังกับคุณคริสเลยสักครั้ง ร่างสูงยิ้มออกมาเมื่อเห็นท่าดีใจเหมือนเด็กๆของคนรัก ดวงตาใสเป็นประกายวาววับมองมาทางเขาอย่างคาดหวัง ชายหนุ่มเดินจูงมือร่างโปร่งเดินออกไปจากร้านไปยังร้านเค้กที่เจ้าตัวอ้วนบอกว่าอยากทานนักหนา ไม่ได้แคร์คำพูดของตัวเองว่ากลับเกาหลีแล้วจะลดความอ้วนเลยสักนิด
เมื่อชานยอลจัดการเค้กไป3ชิ้นกาแฟในแก้วของคริสก็หมดพอดี ทั้งสองลุกขึ้นจากเก้าอี้เดินไปจ่ายตังค์ที่หน้าเคาร์เตอร์ ก่อนจะเดินจูงมือกันไปยังส่วนที่เป็นโรงภาพยนตร์ โชคดีที่หนังที่พวกเขาอยากดูจะถึงเวลาฉายในไม่กี่นาทีข้างหน้าจึงไม่ต้องเสียเวลารอนาน จัดการซื้อตั๋วเรียบร้อยทั้งสองก็เดินเข้าไปในโรงหนังทันที
ตลอดเวลาที่อยู่ในโรงหนังพวกเขาจับมือกันไว้ตลอดเวลา มีกระซิบคุยกันบ้างเป็นบ้างครั้ง เรียวปากอิ่มสีสวยของชานยอลมีรอยยิ้มอยู่ตลอดเวลา คริสเองก็ไม่ต่างกันความสุขอบอวนอยู่รอบตัวทั้งสองจนหนังจบ
“ง่วงจังเลยครับ”
“แล้วหิวหรือยัง?”
ชานยอลเดินอ้าปากหาวลงมาตามขั้นบันไดของโรงหนัง หนังก็สนุกดีแต่ทำไมเขาถึงง่วงแบบนี้นะ แถมอาการหิวที่ควรจะมีก็ไม่มีเลยสักนิด ชานยอลส่ายหน้าพรืด เขาสิต้องเป็นฝ่ายถาม คุณคริสต้องทานยาหลังอาหารและตอนนี้ก็เลยเวลาอาหารเที่ยงมานานแล้วด้วย
“แล้วคุณล่ะ ตอนนี้มันบ่าย2แล้วนะ แวะกินอะไรก่อนมั้ยครับ?”
“ไม่หิวน่ะ งดกินยาคาบหนึ่งนะ อิ่มกาแฟแล้วจริงๆ”
“ไม่ดีเลยนะครับ ถ้าไม่กินข้าวแล้วเราจะทำอะไรต่อล่ะ”
“พี่ว่าจะไปซื้อของฝาก….ให้เพ่ยฟางกับเฟิงอี๋น่ะ”
“อ้อ”
“ไปเลือกช่วยพี่นะ เดี๋ยวพี่จะแวะซื้อเสื้อกับอาหารให้ปิ๊ปโป้ด้วย”
“ครับ”
ชานยอลตอบรับอย่าว่าง่ายก่อนจะเดินตามหลังร่างสูงไปยังแผนกชุดเด็กอ่อน ชุดเด็กน่ารักมากมายหลายแบบจนคนดูอย่างเขารู้สึกมึนหัวไม่รู้จะเลือกแบบไหนดี คุณคริสเองก็ไม่ต่างกันเพราะเป็นผู้ชายทังคู่จึงไม่รู้ว่าควรจะเลือกแบบไหนดี
“ชุดนี้ก็น่ารักดีนะครับ”
“น่ารัก แต่พี่กลัวมันจะไม่มีไซส์ฟลินท์น่ะสิ”
ร่างโปร่งหัวเราะออกมาเมื่อได้ยินคริสพูดแบบนั้น มองดูชุดเด็กอ่อนลายผึ้งน้อยในมืออย่างอิจฉา ชุดเด็กสมัยนี้น่ารักจัง เห็นแล้วเขาก็อยากมีลูกขึ้นมาบ้างเสียอย่างงั้น
“ลองถามพนักงานดูมั้ยครับ ชุดนี้ก็สำหรับวัยของเฟิงอี๋ เผื่อมันจะมี”
ร่างโปร่งหันไปมองหาพนักงานขายที่คาดว่าน่าจะยืนอยู่แถวนั้น ชุดนี้น่ารักเกินกว่าที่เขาจะตัดใจทิ้งได้ง่ายๆ เฟิงอี๋ได้ใส่คงจะน่ารักน่าดู มองหาอยู่สักพักพนักงานสาวคนหนึ่งก็เดินยิ้มเขามาหาพวกเขา ชานยอลบอกสิ่งที่ตัวเองต้องการออกไป พนักงานขายหายไปสักพักก็กลับมาพร้อมกับชุดผึ้งน้อยตัวใหญ่ในมือ
“ตกลงเอาชุดนี้ชุดหนึ่งนะครับคุณคริส”
“อื้อ น่ารักดีเอาชุดนี้แหละ”
คริสตอบรับไม่มีปัญหาถ้าชานยอลชอบเขาพร้อมจัดให้ทุกอย่าง ร่างสูงหยิบบัตรเครดิตออกมาจากกระเป๋ากำลังจะส่งให้พนักงานที่รอรับอยู่แต่มือของชานยอลก็หยุดเขาไว้ ร่างสูงเลิกคิ้วถามด้วยความแปลกใจ
“เดี๋ยวผมจ่ายเองครับ ของฝาก ผมซื้อให้.....”
“ครับ?”
“ลูกของเรา”
เห็นชานยอลเว้นคำพูดนานคริสจึงเอ่ยขึ้นกระตุ้นให้อีกฝ่ายบอกความในใจ ชานยอลตอบออกไปด้วยท่าทีเขินอาย ไม่รู้ว่าเขาพูดแบบนี้มันจะดูไม่ดีหรือเปล่า แต่คุณคริสบอกให้เขารักเฟิงอี๋เหมือนลูกถ้าเขาจะเรียกเด็กผู้ชายคนนั้นว่าลูกคงจะไม่เป็นไร
“ชานยอลน่ารักจริงๆ ไว้เรามีลูกด้วยกันอีกสักคนนะ”
“จะบ้าหรือครับ! ผมเป็นผู้ชายนะ”
“อ้าว ทำบ่อยๆบางทีพระเจ้าอาจจะเห็นใจ”
“บ้า คุณนี้!”
ร่างโปร่งถลึงตากลมๆของตัวเองใส่ร่างสูงที่กำลังทำหน้ามึนไม่รู้สึกรู้สาใส่เขาอย่างอายๆ โชคดีที่พนักงานมัวแต่คิดเงินจึงไม่ได้ยินเรื่องไร้สาระจากปากของคุณคริส พวกเขาเลือกชุดสำหรับเด็กอ่อนอีก2-3ตัวแล้วจึงเดินออกจากแผนกเด็กอ่อนเพราะชานยอลยังมีที่ที่ต้องไป
“ผมอยากไปซื้อของทำต๊อกโบกีอ่ะครับ ไปเดินแผนกอาหารกันนะ”
“เอาสิ พี่จะไปซื้อขนมกับซื้อเสื้อให้ปิ๊ปโป้ด้วย เสื้อที่ชานยอลซื้อให้ทันเริ่มจะเล็กแล้วนะ”
“แม่ซื้อให้ครับไม่ใช่ผม”
“อ่า ดีจัง แม่คงเอ็นดูมันมาก แล้วตอนไหนแม่จะเอ็นดูพี่สักที”
จากที่ยิ้มๆกันอยู่ใบหน้าของทั้งสองกลับกลายเป็นเครียดขึ้นมาทันที ชานยอลถอนหายใจออกมา เขากำลังเดินเที่ยวในห้างกับคุณคริส เขากำลังมีความสุขเพราะลืมเรื่องของคุณแม่ไปแล้วไม่อยากให้คุณคริสพูดมันขึ้นมาอีกเลย มือเรียวเอื้อมไปคว้าแขนคนรักมาคล้องไว้ ซบหน้าคลอเคลียไหล่กว้างเริ่มจะลืมอาการเขินอายสายตาคนมองไปหมดแล้ว
“ไปเดินดูของกันเถอะ ผมจะทำต๊อกโบกีให้พี่กินสุดฝีมือเลย”
แล้วมีหรือถ้าชานยอลร้องขอแล้วคริสจะไม่ทำตาม คริสเองก็พยายามจะทำในสิ่งที่ตัวเองพูดให้ได้เขาจะยอมให้ชานยอลทุกอย่างให้ได้ทุกอย่างแค่อีกฝ่ายเอ่ยปากร้องขอ ทั้งสองเดินไปยังแผนกซุปเปอร์มาร์ท ช่วยกันหยิบนั้นจับนี้ เลบือกสรรวัตถุดิบสำหรับอาหารเย็นวันนี้ที่ชานยอลบอกจะลงมือทำเอง
“ไปซื้อขนมให้ปิ๊ปโป้กันเถอะ ถ้ากลับบ้านโดยที่ไม่มีอะไรไปฝากลูกชายต้องงอนแน่”
“พี่ไปซื้อคนเดียวได้มั้ยครับ เดี๋ยวผมจะไปอีกแผนกหนึ่ง”
“ไม่เอาพี่จะไปกับเรา ทำไมหรือไม่อยากไปกับพี่”
“ไม่ใช่ครับ แค่อยากให้ประหยัดเวลาไง”
ชานยอลรีบควงแขนประจบเมื่อเห็นอีกฝ่ายเริ่มออกอาการงอแง คริสรวบมือบางเข้ามากุมไว้ พูดวาจาแสนเลี่ยนออกมาให้ชานยอลได้เขินอายอีกครั้ง
“ไม่เอา อยากอยู่ด้วยกัน ขาดชานยอลแล้วพี่เหมือนจะหายใจไม่ออกเลย”
“เว่อร์ ฮ่าๆ”
ร่างโปร่งหัวเราะลั่น เขาไม่เคยคิดเลยว่าคุณคริสที่เครียดแสนเครียดจะมีมุมเด็กๆแบบนี้เหมือนคนอื่นด้วย แล้วขายาวทั้งสองก็ออกเดินไปพร้อมกัน เพราะสำหรับชานยอลแล้วเขาก็ไม่อยากห่างจากคนรักไปแม้แต่เสี้ยววินาทีเดียว
TBC..........................
สวัสดีค่ะ าอัพแบบเลทๆ ฮ่าๆๆ ตอนนีั้หวานเลี่ยน คนอ่านอย่าถือสานะคะ ฮ่าๆๆ
เรามีข่าวดีจะบอก ตอนนี้เราเริ่มจัดหน้าฟิคแล้วนะคะ อีกไม่เกินหนึ่งเดือนคงจะได้เปิดจองเสียที
มีคนจะซื้อมั้ยน้อ 555555
ส่วนคนที่ต้องการฉากที่หายไปรบกวนไปที่ทวิตเตอร์ @PPdiary92 เพจ PPdiary92 นะคะ
เราจะอัพฉากที่หายไปไว้ในนั้น ตามไปเยอะๆนะคะ
ขอบคุณค่ะ
ร่วมสกรีมในทวิตเตอร์รบกวน #DDT ขอบคุณค่ะ
ความคิดเห็น