คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #114 : CHAPTER 109
Distorted Daytime
ความจริงแล้วคริสเองก็อยากจะปล่อยให้ชานยอลฟูมฟายอยู่อย่างนี้เหมือนกันเผื่อเขาจะได้รู้อะไรเกี่ยวกับความรู้สึกที่ร่างโปร่งมีต่อเขาให้มากกว่านี้ แต่ดูท่าแล้วถ้าปล่อยไปแทนที่ความสัมพันธ์ของเขากับชานยอลจะดีขึ้นกลับจะแย่ลงยิ่งกว่าเดิมจึงหันไปพูดกับแบคฮยอนที่กำลังยืนมองเหตุการณ์อยู่เงียบๆอย่างขอความช่วยเหลือ
“นี้ก่อนจะง้อกันช่วยจ่ายค่าเสียเวลามาให้ฉันก่อนได้มั้ย”
แต่ก่อนที่แบคฮยอนจะได้พูดอะไรหญิงสาวที่ยืนทำหน้าเซ็งอยู่นานแล้วก็พูดขึ้นก่อน ชายหนุ่มหยิบกระเป๋าสตางค์ออกมาก่อนจะยื่นธนบัตรนับสิบใบให้ส่งๆ เมื่อได้รับสิ่งตอบแทนแล้วหญิงสาวในชุดสีแดงเพลิงก็เดินออกไปจากตรงนั้นทันทันท่ามกลางสายตาของชานยอลที่มองมาอย่างตกตะลึง
“แบคฮยอน นี้มันอะไรกัน..!”
“ขอโทษนะชานยอล”
“แบคฮยอนแกทำอย่างนี้ทำไม! แกก็รู้ว่าฉันไม่ชอบ แบคฮยอน ฮื่ออ”
ชานยอลอ้าปากค้างกับความจริงที่ได้ประจักษ์ก่อนจะปล่อยโฮออกมาอีกครั้งเมื่อเข้าใจเหตุการณ์ทั้งหมด ทำไมทุกคนถึงทำกับเขาแบบนี้ ทำไมถึงทำกับความรู้สึกของเขาเหมือนของเล่น ทั้งที่รู้ว่าเขาเกลียดเรื่องพวกนี้ของคุณคริส ทั้งๆที่แบคฮยอนรู้เรื่องของเขาดีที่สุด ทำไมถึงหักหลังกันแบบนี้
“ไม่เอานะ ไม่ร้องไห้นะชานยอล”
“ทำไม ทำไมทำแบบนี้ ฮื่ออ”
คริสดึงร่างของคนที่กำลังร้องไห้เป็นเผ่าเต่าเช้ามากอดไว้ มาถึงตอนนี้ชานยอลก็ไม่มีแรงจะขัดขืนอะไรอีกแล้ว ได้แต่ปล่อยตัวเองไปตามแรงดึงของร่างสูง ชายหนุ่มซบหน้าลงกับอกหนาสะอื้นออกมาไม่อายสายตาของใครที่มองมา
“ชานยอล อย่างร้องนะเว้ย ขอโทษจริงๆ เดี๋ยวจะพูดทุกอย่างให้ฟังนะ ขอโทษนะชานยอล”
“ไม่เอา ไม่ฟัง แกโกหกฉัน แกหลอกฉัน แกกับคุณคริสรวมหัวกันหลอกฉัน”
“เออ ยอมรับ ขอโทษ ฉันตั้งใจจะหลอกแกจริงๆแต่ถ้าไม่ทำฉันและแกก็จะไม่รู้ใจตัวเองว่าแกอ่ะรักเค้าแค่ไหน ฉันพูดอะไรมากตอนนี้ไม่ได้ ไปเจอกันที่สนามบินนะเว้ย ฝากชานยอลด้วยนะครับคุณคริส อย่าโกรธนะเว้ยชานยอล”
แบคฮยอนถึงกับหน้าเสียเมื่อเห็นชานยอลร้องไห้ออกมาอย่างหนัก ไม่รู้ว่าจะทำไงดีจึงได้แต่พูดว่าขอโทษก่อนชิ่งไปรอที่สนามบินพร้อมกับเพื่อนคนอื่นที่กำลังยืนงงไม่รู้เรื่องอยู่หน้าร้าน ปล่อยให้ต้นเรื่องจัดการเรื่องนี้เองเพียงลำพัง
“แบคฮยอน อย่าหนีนะ ฮึก กลับมานี้นะ!”
“ชานยอล ไม่เอาน้า อย่าร้องนะ คนมองใหญ่แล้ว”
“มองก็ช่างเค้า ! ปล่อย อย่ามาจับ จะไปไหนก็ไป!”
เมื่อได้ยินเสียงคนข้างกายชานยอลจึงตั้งสติได้ว่าตนกำลังตกอยู่ในอ้อมแขนของใคร เมื่อรู้ตัวร่างโปร่งจึงสะบัดออกเงยหน้าขึ้นสบตาเจ้าของรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ด้วยความเกลียดชัง
“ไม่ไปไหนหรอก ไปเที่ยวกับชานยอลดีกว่า”
“ผมไม่ให้คุณไป!”
ชานยอลร้องออกมาทั้งที่น้ำตายังเต็มใบหน้า มองใบหน้าของคริสที่ยังยิ้มอยู่อย่างแค้นใจ มาแกล้งกันแบบนี้ยังหน้าด้านจะไปกับเขาอยู่หรอ
“ไม่ไปได้ยังไง ซื้อตั๋วไว้แล้ว”
“เรื่องของคุณ! แต่ผมไม่ให้คุณไป ถ้าคุณไปผมไม่ไป”
“ไม่เอาน่า ชานยอลใจเย็นๆนะ ค่อยๆคุยกัน”
คริสที่เอาแต่ยิ้มเริ่มหน้าเสียลงเรื่อยๆเมื่อเห็นชานยอลไม่ยอมสงบลงอย่างที่ควรจะเป็น ร่างสูงพยายามเดินเข้าไปหาแต่ชานยอลก็คอยเอาแต่ขยับนี้ น้ำตาของชานยอลยังทำให้เขาปวดใจได้ทุกครั้ง
“ผมไม่คุย ผมเกลียดคุณ คุณกับแบคฮยอนสนุกมากใช่มั้ยที่ได้แกล้งผมเล่น ได้เล่นสนุกกับความรู้สึกของผม สนุกมากใช่มั้ย ฮื่ออ”
“ไม่สนุกเลย ไม่สนุกเลยสักนิด ชานยอลคิดว่าพี่สนุกมากเหรอกับการที่ต้องทนคิดถึงชานยอลทุกคืนทุกวันห่างคนที่รักเป็นเดือน จะโทรหาก็ไม่ได้”
คริสพูดด้วยสีหน้าเจ็บปวด ทุกคืนเขาต้องนอนคนเดียว คอยมองโทรศัพท์อยาจะโทรหาแต่ก็ทำไม่ได้ทั้งที่โทรศัพท์อยู่ใกล้มือแค่นั้น เพื่อรอวันนี้วันที่พวกเขาสองคนจะได้เจอกันได้ใช้เวลาอยู่ด้วยกันปรับความเข้าใจกัน เขาเองก็ทรมานไม่แพ้กัน
“ฮื่ออ แล้วคุณทำทำไม หายไปทำไม ฮื่ออ”
ชานยอลร้องไห้โฮออกมาเมื่อนึกถึงวันคืนที่เขานั่งมองโทรศัพท์คอยว่าตอนไหนอีกฝ่ายจะโทรหา จะหลอกให้เขาคิดถึงแล้วจากไปเหมือนทุกครั้งหรือเปล่า แต่ทุกคืนเขาก็ได้แค่คอยเพราะคุณคริสไม่เคยโทรหาเขาเลย ไม่มีแม้แต่ข้อความ
“ก็ถ้าไม่ทำ พี่จะรู้เหรอว่าชานยอลก็รัก ก็คิดถึงพี่เหมือนกัน”
“ใครคิดถึงคุณ!”
คริสพูดด้วยใบหน้าเปื้อนรอยยิ้ม เขาไม่เคยรู้สึกดีใจเท่านี้มาก่อน ยิ่งเมื่อได้เห็นแก็มเปื้อนน้ำตาขึ้นสีก่อนเจ้าตัวจะส่งค้อนให้เขาอย่างเขินอาย เขารู้สึกเหมือนเวลาที่เขาอดทนมาเป็นเดือนกำลังตอบแทนเขาอย่างสวยงาม เพราะช่วงเวลาที่ขาดหายเขาได้รู้ว่าชานยอลเองก็คิดถึงเขามากไม่แพ้กัน
“ชานยอลนั้นแหละ”
“ผมไม่ได้คิดถึงคุณ!”
ก่อนที่คริสจะเข้าใจถูกไปมากกว่านี้ชานยอลก็รีบปฏิเสธออกมาเป็นพัลวัน แต่ก็ช้าไปเสียแล้วเมื่อคริสสัมพัสธ์ถึงความจริงข้อนี้ได้เป็นอย่างดีผ่านแก็มสีแดงทั้งสองข้าง
“อย่าโกหกเลย มาเถอะ เดี๋ยวจะไม่ทันเครื่องเอา”
“ปล่อยนะคุณคริส ใครให้คุณไป โอ้ะ!”
ชานยอลที่กำลังร้องโวยวายกับแขกที่ไม่ได้รับเชิญต้องร้องเหวอออกมาเมื่ออยู่ๆร่างของเขาก็ลอยขึ้นจากพื้นด้วยฝีมือของคริสที่ถือวิสาสะอุ้มเขาขึ้นด้วยแขนทั้งสองข้าง คริสก็มหน้าลงพูดกับร่างโปร่งที่ได้แต่อ้าปากค้างพูดอะไรไม่ออกกับเหตุการณ์หน้าอายหน้าผับด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม
“ปล่อยผมนะคุณคริส!”
“ถ้าไปถึงพี่สัญญาว่าจะพูดความจริงทุกอย่างที่ชานยอลอยากรู้ให้ชานยอลฟัง”
“สัญญานะครับ”
“พี่สัญญา”
ไม่ใช่แค่ชานยอลเท่านั้นที่กำลังวุ่นวายอยู่กับงานแบคฮยอนก็กำลังจมกองเอกสารหัวฟูอยู่เช่นกัน ร่างเล็กในชุดทำงานสวมแว่นสายตาประจำกายมือหนึ่งกำลังถือปากกาจดลงบนเอกสารการประชุมที่เลขาเพิ่งนำมาให้ เหลือเวลาแค่ชั่วโมงเดียวก็จะเลิกงานแต่แฟ้มที่เขาต้องเคลียร์ยังวางอยู่บนชั้นนับสิบเล่ม
“ตอนไหนจะเสร็จว่ะเนี้ย”
ชายหนุ่มบ่นพึมพำกับตัวเองทั้งที่ยังไม่ยอมเงยหน้าขึ้นจากงาน เขาอยากกลับไปนอนบนเตียงนุ่มๆที่คอนโดจิบเบียร์เย็นๆสักกระป๋องแทนกาแฟขมๆที่กำลังจะหมดนี้เต็มแก่แล้ว แต่มันก็คงเป็นได้แค่ฝันลมๆเพราะเหลือเวลาอีกแค่2วันเท่านั้นวันหยุดยาวของเขาก็จะมาถึง
“เฮ้ออ แชริน ช่วยเอากาแฟมาให้ผมที”
“ได้ค่ะ”
สั่งเครื่องเดิมแก็ง่วงที่เขาต้องการแล้วแบคอยอนก็ก็มหน้าทำงานอีกครั้งไม่นานเลขาสาวก็กลับมาพร้อมกับกาแฟหอมกลุ่นแถมชีสเค้กแก็หิวอีกหนึ่งชิ้นเมื่อเห็นว่าเจ้านายของเธอคงไม่ได้กลับไปที่บ้านง่ายๆก่อนจะเดินออกไปพร้อมแก็วกาแฟถ้วยเก่า
“ก๊อกๆ”
“เข้ามา”
“คุณแบคฮยอนคะ มีแขกมาขอพบค่ะ”
แบคฮยอนเงยหน้าขึ้นจากเอกสารเมื่อเลขาเดินเข้ามาในห้อง คิ้วเรียวขมวดเข้าหากันเมื่อรู้ว่ามีคนมาขอพบทั้งที่ใกล้เวลาเลิกงานเต็มแก่ งานของเขายังไม่เสร็จถ้าไม่ใช่แขกสำคัญคงต้องขอพลัดไปก่อน
“ใครกัน”
“มาจากบริษัท WU China International ค่ะ”
“ห๊ะ ห๊า!”
แต่เมื่อรู้ว่าใครมาขอพบแบคฮยอนถึงกับตาเหลือก เขาจำชื่อบริษัทนี้ได้ดี บริษัทของสามีชานยอล บริษัทของคุณคริสมีธุระอะไรกับเขา หรือว่า! ไอ้พี่แบคบอมมันไปก่อเรื่องอะไรไว้ปแล้วเขาจะมาเทคโอเวอร์ ไม่นะ ก่อนที่เจ้าตัวจะมโนอะไรไปมากกว่านี้แชริมก็ทำหน้าที่เรียกสติของเขาให้กลับคืนมา
“คุณแบคฮยอนมีอะไรหรือเปล่าคะ หรือถ้าไม่ต้องการพบให้ดิฉันบอกว่า..”
“ไม่ๆ ให้เขาเข้ามาพบเดี๋ยวนี้เลย”
“ค่ะ ค่ะ”
“สติ สติ แบคฮยอน”
เมื่อเลขาออกไปแล้วร่างเล็กก็ลุกขึ้นจากเก้าอี้ทำงานหันหลังให้ประตูจัดชุดที่ยับยู่เพราะนั่งทำงานมาทั้งวันให้เรียบร้อยดึงสติของตัวเองที่มีอยู่น้อยนิดเต็มทีให้กลับมาด้วยการถูใบหน้าด้วยฝ่ามือแรงๆ2-3ที เมื่อได้ยินเสียประตูถูกเปิดออกอีกครั้งชายหนุ่มจึงหันตัวกลับไปเพื่อพบกับแขกที่น่าตกใจที่สุด
“คุณคริส!”
“สวัสดีครับ คุณแบคฮยอน”
เจ้าของห้องทำงานถึงกับอุทานชื่อผู้มาเยือนด้วยความตกใจ เขาตกใจมากเมื่อรู้ว่าคนจากบริษัท WU China International มาขอพบ แต่มันเทียบกับการที่เห็นคุณคริสตัวเป็นๆยืนอยู่กลางห้องนี้ไม่ได้เลย
“อ่ะ สวัสดีครับ เชิญนั่งก่อนครับ”
“ขอบคุณมากครับ สบายดีนะครับ”
ก่อนที่เขาจะทำตัวเสียมารยาทไปมากกนี้ชายหนุ่มจึงรีบทำตัวเป็นเจ้าของบริษัทที่ดีรีบเชิญให้แขกนั่งทานกาแฟที่เลขาเพิ่งนำมาให้แขกตามมารยาท คริสนั่งลงตามคำเชิญคำทักทายของเขาเป็นคำพูดธรรมดาอย่างที่คนทั่วไปใช้ทักทายกัน
“สบายดีครับ คุณเองก็คงจะสบายเช่นกัน?”
“ไม่ครับ ไม่เลยสักนิด”
ถึงจะพยายามทำตัวให้เป็นผู้ใหญ่ยังไงแต่แบคอยอนก็ยังคงความเป็นตัวของตัวเองไว้อย่างเสมอต้นเสมอปลาย ถึงคุณคริสจะดูน่าเกรงขามมากเวลาอยู่ในชุดสูทสีดำแต่เขาก็เคยได้เห็นมุมอ่อนโยนที่ชายหนุ่มรูปหล่อคนนี้เคยมีให้เพื่อนของเขา และการมาครั้งนี้ของคุณคริสคงมีเรื่องให้เขาช่วย ถ้าเขาคิดไม่ผิดการเจอกันครั้งนี้เขาถือไพ่เหนือกว่า
“ทำไมเป็นอย่างนั้นล่ะครับ”
“คนก็น่าจะรู้...ผมคิดถึงเพื่อนของคุณ”
แบคฮยอนถามออกไปทั้งๆที่รู้คำตอบดีเมื่อดูจากสีหน้าเหมือนคนพักผ่อนไม่พอของผู้มาเยือน คริสเองก็เลือกที่จะตอบออกไปตามความจริง
“คุณมาหาผมครั้งนี้ก็คงจะเป็นเพราะเรื่องของชานยอลสินะครับ”
“ครับ ผมขอพูดตรงๆเลยนะครับคุณแบคฮยอน ผมอยากให้คุณช่วยเรื่องชานยอล”
“ทำไมผมต้องช่วยด้วยล่ะครับ เรื่องทั้งหมดคุณเป็นคนก่อขึ้นเองไม่ใช่เหรอ”
แบคฮยอนอยากจะหัวเราะออกมาดังๆเมื่อได้ยินสิ่งที่อีกฝ่ายพูด ตอนที่ทำทำไมไม่คิด คงคิดว่าไม่มีทางจะรักเพื่อนของเขาสินะ หึ ช่างน่าสมเพสเสียจริง
“ผมรู้ครับ ผมเลวเอง ที่ชานยอลทิ้งผมมาก็เพราะตัวผมเอง ผมไม่โทษใครทั้งนั้น”
“แล้วมีเหตุผลอะไรที่ผมต้องช่วยคุณ”
คริสก็มหน้ายอมรับความจริงที่ตัวเองเป็นคนก่อ ทำหน้าเฉยไม่โต้ตอบเมื่อเห็นร่างเล็กตรงหน้ากำลังยิ้มหยันให้เขาก่อนจะพูดความจริงให้อีกฝ่ายได้อึ้ง
“เพราะผมรักชานยอล และเพื่อนของคุณก็รักผม”
“……………….”
แบคฮยอนถึงกับอึ้งเมื่อคริสพูดคำนั้นออกมา ความจริงตีแสกหน้าเขาเข้าอย่างจัง
“ผมไม่อยากบังคับชานยอลด้วยกำลังหรือด้วยอะไรก็ตาม ผมอยากไถ่โทษให้ชานยอลด้วยตัวผมเอง ผมแค่ขอโอกาสให้ผมมีโอกาสได้แสดงออกถึงความรักความจริงใจที่ผมมีให้เขา ผมแค่ขอให้คุณช่วยเปิดทาง ช่วยหาโอกาสให้ผมบ้าง ลำพังแค่ผมชานยอลไม่ยอมออกมาพบง่ายๆแน่ ปิ๊ปโป้ข้ออ้างเดียวที่ผมมีอยู่ชานยอลก็พาไปอยู่ด้วยแล้ว ผมไม่เหลืออะไรจริงๆ ได้โปรดเถอะครับคุณแบคฮยอน ได้โปรดช่วยเมตราคนโง่เง่าอย่างผมด้วยเถอะครับ”
คริสพรั่งพรูความในใจออกมาทั้งหมดอย่างคนหมดสิ้นหนทาง เขาเหมือนสุนัขที่กำลังจนตรอก ไพ่ใบสุดท้างของเขาได้ทิ้งไปแล้ว ปิ๊ปโป้คงมีความสุขดีกับชานยอลต่างจากเขาที่ต้องทนนอนคิดถึงชานยอลทั้งวันทั้งคืน เขากำลังเจ็บปวดตรอมตรมกับผลความลวของตัวเอง แล้วเข่าทั้งสองข้างของเขาก็ทรุดลงกับพื้น
“คุณคริส! อย่าทำอย่างนี้”
“ได้โปรดเถอะครับ”
แบคฮยอนร้องออกมาด้วยความตกใจ ร่างเล็กลุกขึ้นจากเก้าอี้ยืนทำตัวไม่ถูกอยู่กลางห้อง เมื่อเห็นคริสคุกเข่าลงกับพื้นน้ำตาของร่างสูงที่ไหลลงมาอาบน้ำทำให้สมองของเขาตื้อไปหมด นี้เขากำลังฝันไปใช่มั้ย อู๋ อี้ฟาน นักธุรกิจมาเฟียอันดับหนึ่งของจีนกำลังคุกเข่าร้องไห้อ้อนวอนเขา ชายหนุ่มถอนหายใจออกมาเมื่อลงทุนหยิกตัวเองแล้วรู้สึกเจ็บเขาจึงรู้ว่านี้ไม่ใช่ความฝัน
“คุณรักเพื่อนผมจริงๆใช่มั้ย?”
“ผมรักชานยอลครับ”
“รักแค่ชานยอลคนเดียว?”
ชายหนุ่มร่างเล็กถามย้ำเอาคำสัญญาอีกครั้งเขาอยากแน่ใจเสียก่อนที่จะทำอะไรลงไป เขากลัวว่าการตัดสินใจของเขาครั้งนี้จะผิดพลาด เพราะถ้ามันเป็นอย่างนั้นจริงๆคนที่จะเสียใจยิ่งกว่าเขาก็คือเพื่อนของเขา ชานยอล เขาไม่อยากให้มันเสียใจอีกแล้วแค่นี้มันก็เจ็บมามากพอแล้ว
“ต่อไปนี้ผมจะรักชานยอลคนเดียว”
“........ตอนที่ผมไปหาชานยอลที่บ้านของคุณแล้วรู้ข่าวว่าเขาโดนคุณทำร้ายร่างกายจนต้องไปนอนที่โรงพยาบาล ผมเคยพูดไว้ว่าต่อให้คุณมากราบเท้าอ้อนวอนขอให้ชานยอลกลับมายังไงผมก็จะไม่มีวันให้ชานยอลกลับไปกับคุณเด็ดขาด”
“..........”
“แต่เมื่อได้เห็นคุณคุกเข่าต่อหน้าผมและยืนยันว่ารักชานยอลและจะรักแค่ชานยอลคนเดียวผมก็คิดว่าคุณคงจะเป็นลูกผู้ชายพอที่จะไม่คิดเสียสัตย์ต่อคำพูดของตัวเอง”
“……….”
“ผมจะช่วยคุณ”
“ขอบคุณนะครับคุณแบคฮยอน ขอบคุณจริงๆ”
คริสเงยหน้าขึ้นจากพื้นดวงตาคมหมองคล้ำมีประกายความหวังขึ้นมาอีกครั้ง ชายหนุ่มรวบมือเล็กของเพื่อนสนิทชานยอลขึ้นมากุมไว้ก่อนจะพร่ำคำขอบคุณออกมาจากใจ เขาจะไม่มีวันลืมบุญคุณเพื่อนคนนี้เลย
“ผมไม่ได้ทำเพื่อคุณหรอกนะคุณคริส ที่ผมทำก็เพื่อชานยอล”
“ที่เป็นอยู่ตอนนี้ชานยอลมันไม่ได้มีความสุขหรอกนะครับ คุณพูดถูก ชานยอลรักคุณและก็รักมากด้วย ผมทนให้มันเสียใจไม่ได้จริงๆ สัญญากับผมนะครับคุณคริส อย่าทำให้ชานยอลเสียใจอีก ถ้ามีอีกครั้งผมจะไม่ช่วยคุณแล้วจริงๆ”
“ผมสัญญา”
“เรื่องทั้งหมดมันก็เป็นแบบนี้แหละชานยอล”
“.......”
“ชานยอล ดัมโบ้ อย่าโกรธนะ อย่าโกรธเพื่อนที่รักแกที่สุดคนนี้เลยนะ ฮื่ออ”
แบคฮยอนพูดทุกอย่างที่เกิดขึ้นเมื่อสองวันก่อนให้คนที่เอาแต่นั่งนิ่งปล่อยให้น้ำตาไหลลงมาฟัง โดยมีคุณคริสนั่งอยู่เป็นเพื่อนด้วยอีกคน เขาไม่คิดว่าชานยอลจะโกรธมากแบบนี้ ก็รู้อยู่หรอกนะว่าการที่ได้เห็นคุณคริสไปกับผู้หญิงคนอื่นเป็นภาพที่ฝั่งอยู่ในสมองของชานยอล เป็นรอยแผลในใจที่ต้องการเวลารักษา เขาแค่หวังดีอยากให้เพื่อนมีความสุขอีกครั้งไม่รู้ว่าชานยอลมันจะรับรู้ความหวังดีที่เขามีข้อนี้หรือเปล่า
“ชานยอล อื่อ”
“พอเถอะ ฮึก แบคฮยอน”
ชานยอลยกมือขึ้นเช็ดน้ำตาของตัวเอง สูดลมหายใจเข้าปอดก่อนจะยกมือปัดมือที่กำลังพยายามจะเอาผ้าเช็ดหน้าซับน้ำตาให้เขา กลิ่นเหล้าจากตัวเจ้าของผ้าทำให้เขาอยากจะอ้วก และเสียงร้องไห้ของแบคอยอนที่กำลังเอาหน้าถูกับไหล่ของเขากำลังทำให้เขาปวดหัว
“อย่าโกรธเลยนะชานยอล”
“แกเป็นคนคอยบอกคอยเตือนฉันเรื่องคุณคริส แล้วทำไมแกถึงไปช่วยเค้าแบบนั้น?”
ร่างโปร่งถามแบคฮยอนเสียงสั่น เขาไม่เข้าใจแบคฮยอนเลยสักนิดว่าทำไมถึบงต้องไปช่วยคนๆนั้นทั้งที่เป็นคนคอยบอกคอยเตือนให้เขาตัดใจ
“แล้วฉันบอกไปแกทำได้มั้ยล่ะ แกมีความสุขมั้ย ก็ไม่ ถ้าเอาตามความรู้สึกฉันอยากให้แกทิ้งเขาไปไกลๆ ไกลเท่าไหร่ได้ยิ่งดี แต่แกรู้ตัวเหลือเปล่าว่าแกทำหน้าเหมือนจะตายทุกครั้งเวลาที่ฉันบอกให้แกตัดใจ ทำไมฉันจะไม่รู้แกต้องนอนร้องไห้คิดถึงเค้าเกือบทุกคืน แล้วเมื่อฉันเห็นช่องทางที่จะทำให้แกมีความสุขทำไมฉันจะไม่ช่วย”
“ชานยอล รักก็บอกว่ารัก อย่าถือฐิทิเลยนะ คุณคริสเค้ายอมลงให้แกทุกอย่าง เขาทำให้ฉันเชื่อว่าเค้ารักแกจริงๆ”
ชายหนุ่มพูดความจริงในใจออกมาทั้งหมดด้วยน้ำเสียงจริงจัง เอื้อมมือไปกุมมือเรียงของชานยอลไว้ เขามั่นใจว่าเขาตัดสินใจไม่ผิด หยดน้ำตาและคำสัญญาของคุณคริสที่เขาได้เห็นได้ฟังมันทำให้เขาเชื่อมั่นว่าผู้ชายคนนั้นรักเพื่อนของเขาจริงๆและจะมีเพียงแค่ชานยอลตลอดไป
“แล้วทำไมต้องเป็นวิธีนี้ ทำไมแกต้องเลือกวิธีนี้ ฮึก”
“ก็ ..มันเป็นความคิดของ...”
“อย่าโกรธคุณแบคฮยอนเลยนะชานยอล เรื่องทั้งหมดพี่เป็นคนคิดเอง”
“แน่นอน ผมน่าจะรู้ เรื่องเลวๆแบบนี้คงมีแต่คุณที่คิดได้”
ชานยอลตวัดหางตาไปมองคนข้างๆให้เจ้าตัวได้หน้าเจื่อนเล่น ชายหนุ่มกลืนน้ำลายลงคอพยายามควบคุมอารมณืให้เป็นปกติเมื่อเห็น กงจู ซองแจ ซังฮุน ยืนอยู่มุมหนึ่งของสนมบินกำลังมองพวกเขาอยู่ด้วยสายตาเป็นห่วง พวกเขากำลังจะไปเที่ยวด้วยกัน เขาไม่ควรทำให้การไปเที่ยวของเพื่อนๆต้องเสียบรรยากาศเพราะเรื่อวส่วนตัวของพวกเขา
“ขอโทษนะชานยอล”
“ช่างมันเถอะแบคฮยอน เรากำลังจะไปเที่ยวกันอย่าทำให้บรรยากาศเสียเลย ไปกันเถอะ”
“มาเดี๋ยวพี่ถือกระเป๋าให้”
“ไม่ต้องตามมา ผมไม่ให้คุณไป!”
ชานยอลหันไปตวาดคนที่กำลังจะแย่งกระเป่าะพายของเขาไปเล่นเอาคริสถึงกับหน้าเสียต้องหันไปขอความช่วยเหลือจากตัวช่วยเบอร์หนึ่งซึ่งก็กำลังจะเอาชีวิตไม่รอดเช่นกัน
“………….”
“ชานยอล คือว่า คุณคริสไม่ไปคงไม่ได้ เพราะการไปเที่ยวครั้งนี้ หมายถึง ทั้งค่าตั๋ว ทั้งค่าห้องพัก คุณคริสเป็นสปอนเซอร์ทั้งหมด แหะๆ”
แล้วคำตอบของเพื่อนรักก็ทำให้ชานยอลต้องเดือดขึ้นอีกรอบ ชายหนุ่มตวัดสายตาไปมองร่างสุงที่เอาแต่ส่งยิ้มมาให้เขาอย่างไม่รู้ร้อนรู้หนาวอย่างเจ็บใจก่อนจะกระทืบเท้าเดินออกไปไม่พูดกับใครสักคำ
“หวังว่าการไปเที่ยวครั้งนี้คงจะสนุกนะคุณคริส”
“ผมภาวนาให้มันเป็นอย่างนั้นทุกวันเลยล่ะครับคุณแบคฮยอน”
TBC...................
สวัสดีค่ะ
มาเฉลยแล้วนะคะว่าทำไมแบคฮยอนถึงช่วยผู้ชายคนนั้น 555555
ตอนที่แล้วมีคนด่าแบคฮยอนเยอะเลยวง่าช่วยคริสทำไม ตอนนี้พอจะเข้าใจมั้ยคะ 555
แล้วทำไมพี่คริสถึงสัญญาอะไรแบบนั้น แล้วผู้หญิงคนนั้นล่ะ อะไรยังไง ติดตามกันต่อไปนะคะ
พูดเหมือนการ์ตูนญี่ปุ่นเลย ฮ่าๆๆ ขอบคุณค่ะติดตามค่ะ
ขอบคุณค่ะ
ร่วมสกรีมในทวิตเตอร์รบกวน #DDT ขอบคุณค่ะ
ความคิดเห็น