ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [FIC EXO] ::Distorted DayTime ::KrisYeol

    ลำดับตอนที่ #4 : CHAPTER 3

    • อัปเดตล่าสุด 26 ต.ค. 55










    Distorted DayTime



     











    ตึกสูงเสียดฟ้าตั้งอยู่ใจกลางธุรกิจย่านกรุงเซี่ยงไฮ้เป็นที่ตั้งของบริษัท WU China International 
    ภายในห้องทำงานที่ถูกตกแต่งด้วยสไตล์จีนโอเรียนทัล อู๋ เหม่ย หลิง กำลังไม่พอใจอย่างที่สุดกับข่าวที่ลูกชายคนเดียวของตนนำมาบอก



    “แค่บางส่วนงั้นเหรอ ?”



    “ครับแม่”



    “ไม่! แม่ต้องการทั้งหมด หุ้นแค่หยิบมือมันจะไปมีค่าอะไร” 

     

    “…………………”



    “หวังจะเอาเงินที่ขายหุ้นนี้ได้ไปใช้หนี้ธนาคารสินะ แล้วเงินที่ต้องนำมาลงทุนภายในบริษัทล่ะ จะไปเอามาจากที่ไหน นี้คุณซอนยอลเขาคิดจะทำอะไรอยู่ ไม่มีบริษัทบ้าที่ไหนเขาคิดจะเสี่ยงมาลงทุนกับบริษัทที่กำลังจะโดนฟ้องแบบนี้หรอกนะ”


    ชายหนุ่มได้แต่นั่งเงียบ ฟังสิ่งที่มารดาของตนพูด ก่อนจะเอ่ยปากพูดออกมาเมื่อเห็นว่าผู้เป็นแม่ไม่กล่าวอะไรต่อ



    “คุณซอนยอลเขาคงไม่อยากขายบริษัทที่สามีเป็นคนสร้างขึ้นมา แต่คงลืมคิดไปว่าธุรกิจสมัยนี้มันเปลี่ยนไปแล้ว ธุระกิจอาหารถ้าเราบริหารจัดการดีๆ มีแผนการตลาดที่ชัดเจน มันจะกลายเป็นธุระกิจที่สร้างรายได้ให้กับเราอย่างมหาศาล”



    “แม่ก็คิดเหมือนลูก แล้วตกลงการเจรจาไม่สำเร็จใช่มั้ย”



    “ทาง PK Group ยืนยันกับเราว่าจะขายหุ้นแค่บางส่วนเท่านั้นครับ”



    คริสตอบคำถามของผู้เป็นมารดา เอนกายลงกับเก้าอี้ด้วยท่าทางสบายๆ ไม่ได้เดือดเนื้อร้อนใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น



    “ลูกว่างหรือเปล่าช่วงนี้”



    “สัปดาห์นี้ผมมีนัดเซ็นสัญญากับทางบริษัทจิวเวอร์รี่ของสวิสครับ เรื่องการเปิดสาขาใหม่ที่เซินเจิ้น”



    “งั้นเหรอ ถ้างั้นแม่ฝากให้ลูกเข้าร่วมการประชุมบอร์ดบริหารแทนแม่ด้วยก็แล้วกัน”



    “คุณแม่จะไปไหนเหรอครับ”




    คริสเอ่ยถามมารดาอย่างนึกสงสัย นี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่ชายหนุ่มในวัย24ปีได้รับมอบหมายให้เข้าประชุมแทนมารดาของตน การประชุมบอร์ดบริหารที่ต้องใช้ความน่าเชื่อถือของคนเข้าร่วมการประชุมเป็นอย่างสูง




    “แม่จะไปเกาหลีเพื่อคุยกับคุณซอนยอลด้วยตัวเอง”















    ร่างของนายหญิงของบ้านก้าวลงจากเมอร์เซเดส-เบ็นซ์ สีดำ สาวใช้ที่ยืนคอยอยู่แล้วเมื่อได้รับโทรศัพท์จากคนขับรถประจำตำแหน่งว่านายหญิงกำลังจะถึงบ้านภายใน20นาที




    “กลับมาแล้วเหรอคะ คุณน้า”



    “อืม เพ่ยฟางช่วยจัดกระเป่าให้น้าทีนะ”



    ประมุขของบ้านเอ่ยกับเด็กสาวที่หล่อนรักเหมือนลูกเหมือนหลาน เพ่ยฟางเป็นลูกสาวของเพื่อนรักตั้งแต่สมัยเรียนของเธอ แต่น่าเสียดายที่ต้องลาจากโลกใบนี้ไปพร้อมสามีตั้งแต่เพ่ยฟางอายุได้เพียง2ขวบ ทิ้งเพียงบ้านหลังไม่เล็กไม่ใหญ่นักให้เป็นสมบัติของลูกสาวคนเดียว เหม่ยหลิงจึงรับเพ่ยฟางมาอุปการะด้วยนึกถึงความดีของเพื่อนสาวที่เคยช่วยเหลือกันมาตั้งแต่สมัยเรียน



    “คุณน้าจะไปไหนเหรอคะ เพ่ยฟางจะได้เตรียมเสื้อผ้าให้ถูก”



    เด็กสาวรับกระเป๋าของผู้เที่ตนันบถือเหมือนน้ามาถือไว้เอง ด้วยเพราะเหม่ยหลิงต้องเดินทางไปต่างประเทศหลายประเทศต่อปี แต่ล่ะประเทศสภาพภูมิอากาศก็ไม่เหมือนกันนัก ทำให้เพ่ยฟางต้องออกปากถามคุณผู้หญิงของบ้านทุกครั้งก่อนไป เพื่อที่จะเตรียมเสื้อผ้าให้ถูกต้องตามสภาพภูมิอากาศ




    “ไปเกาหลีน่ะ ไปทำธุระแค่2-3วันเดี๋ยวก็กลับ”




    เหม่ยหลิงตั้งใจไว้หนักหนาว่าการเดินทางไปเกาหลีครั้งนี้หล่อนต้องได้บริษัท PK Group ไว้ในครอบครอง ไม่ว่าจะต้องใช้วิธีไหนก็ตาม

















    กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้





    ซอนยอลกำลังนั่งอยู่ในห้องทำงานของตน หญิงสาวมีสีหน้าเคร่งเครียดแบบนี้มาเป็นเวลาหลายวันแล้ว เธอจะทำยังไงดี จะต้องทำยังไงถึงจะหาเงินมาใช้หนี้ก้อนโตให้ธนาคารได้ หลายบริษัทที่เข้ามาติดต่อ ก็ต้องการจะซื้อหุ้นของบริษัทไปทั้งหมด รวมถึงบริษัท WU China International 





    บริษัทของตระกุลอู๋ที่มีลูกชายบริหารเหมือนกันกับบริษัทของตน แต่ทำไมมันช่างแตกต่างกันเหลือเกินทคุณคริสที่ได้รับการยอมรับจากนักธุระกิจทั่วโลกว่าเป็นเด็กหนุ่มรุ่นใหม่ไฟแรง ที่จะมาพลิกวงการธุระกิจของ WU China International ให้เติบโตและยิ่งใหญ่ยิ่งขึ้นกว่าเดิม 
    ถ้าPK Groupได้คนอย่างคุณคริสมาบริหารงาน…ไม่..หล่อนไม่มีวันจะขายบริษัทที่สามีเป็นคนสร้างมันขึ้นมาเด็ดขาด มันต้องมีทางออกสักทาง 





    ตอนนี้ฉันพร้อมจะทำทุกอย่างขอเพียงแค่บริษัทไม่ต้องตกไปอยู่ในมือของคนอื่น ฉันพร้อมจะทำทุกอย่าง คุณกูนยอน เป็นกำลังใจให้ฉันด้วยนะคะ’





    หญิงสาวหลับตาลงนึกคำนึงถึงผู้เป็นสามีที่สร้าบริษัทนี้ขึ้นมาด้วยความยากลำบาก มันจะต้องหล่มสลายด้วยฝีมือของหล่อนกับลูกชายหรือนี้ 





    “แม่ครับ....”




    “ชานยอลมาทำอะไรเหรอลูก”




    ซอนยอลลืมตาขึ้น เอ่ยถามอย่างแปลกใจเมื่อเห็นว่าใครเป็นคนเปิดประตูเข้ามาในห้องทำงาน หญิงสาวส่งยิ้มไปให้ลูกชายคนเล็ก เป็นรอยยิ้มที่ฝืนเต็มที




    “ชานยอลคิดถึงแม่ฮะ ไม่มีเรียนชานยอลเลยแวะเข้ามา ชานยอลซื้อขนมมาฝากแม่ด้วยนะ ร้านนี้อร่อยมากๆเลย เดี๋ยวชานยอลเอาไปจัดใส่จานให้นะฮะ”



    ไม่รอฟังคำตอบของผู้เป็นแม่ร่างของบุตรชายคนเล็กก็วิ่งออกไปนอกห้องทันที หญิงสาวมองตามแผ่นหลังของบุตรชายริมฝีปากบางอมยิ้มกับท่าทางเหมือนเด็ก 




    ลูกชายคนเล็กของหล่อนกำลังจะจบการศึกษาในเส้นทางที่ตัวเองเลือกเอง ชานยอลเป็นเด็กสดใสร่าเริง พูดไม่หยุด เข้ากับคนได้ง่าย แต่เมื่อถึงเวลาเงียบก็เงียบจนน่าใจหาย ใบหน้าที่ใครๆต่างก็บอกว่าน่ารักน่าชัง พวงแก้มกลม ริมฝีปากอิ่มสีแดงสดอย่างคนสุขภาพดีช่างขัดกับส่วนสูงของตน มากเหลือเกิน 




    “เอ่อ ท่านประธานค่ะ คุณอู๋ เหม่ยหลิง ประธานบริษัท WU China International ขอเข้าพบค่ะ”




    “ตายจริง รีบเชิญท่านเข้ามาเลยนะอินฮยอน”













    สิ่งที่เลขาสาวนำมาบอกทำให้ซอนยอลต้องเลิกคิดฟุ้งซ่าน นี้ท่านประธานบริษัท WU China International เดินทางมาเจรจากับหล่อนด้วยตัวเองเลยหรือนี้






    ไม่นานร่างของอู๋ เหม่ย หลิง ประธานบริษัทยักษ์ใหญ่ของจีนก็ยืนอยู่ตรงหน้าหล่อน ซอนยอลยืนมือไปจับมือบางที่ยืนมาหาตนก่อนหน้านี้แล้วเพื่อเป็นการทักทาย หญิงสาวทั้งสองนั่งอยู่บนโซฟารับแขกภายในห้องทำงานประธานบริษัท




    “คุณรู้ใช่มั้ยคะ คุณซอนยอลว่าดิฉันมาหาคุณที่นี้ด้วยเรื่องอะไร”




    “ดิฉันพอจะทราบค่ะ แต่ก็ต้องขอยืนยันคำตอบเดิมนะคะว่าดิฉันต้องการจะขายหุ้นแค่บางส่วนเท่านั้น”




    เหม่ยหลิงสบตากับประธานบริษัทPK Groupที่นั่งอยู่ตรงข้าม มือเรียวหยิบแก้วกาแฟที่เลขานำมาให้มือสักครู่ขึ้นดื่ม




    “ข้อนี้ดิฉันทราบจากลูกชายของดิฉันแล้วค่ะ แต่ทางเราต้องการจะซื้อหุ้นทั้งหมด หรือไม่ก็ส่วนใหญ่ ไม่ใช่แค่บางส่วน”




    “ถ้างั้นดิฉันขอถามหน่อยสิคะ อย่าหาว่าอย่างงั้นอย่างงี้เลย ถ้าคุณไม่ขายหุ้นให้เราคุณจะหาเงินที่ไหนมาใช้หนี้ธนาคารคะ นี้มันก็ใกล้ถึงกำหนดชำระของธนาคารแล้วไม่ใช่หรือ?”




    “………………………”




    เมื่อหญิงสาวจากเมืองจีนเอ่ยประโยคนั้นจบซอนยอลถึงกับพูดไม่ออก มันคือความจริง ใกล้กำหนดชำระเข้ามาทุกที แต่หล่อนก้ยังไม่สามารถหาทางออกให้เรื่องนี้ได้




    “คือ...”




    “แม่ฮะ ขนมมาแล้วฮะ...”



    “…………………..”



    “ขอโทษครับ ชานยอลไม่เห็นพี่อินฮยองเลยไม่รู้ว่ามีแขก”




    “ไม่เป็นไรจ๊ะ ออกไปรอข้างนอกก่อนนะ”



    เมื่อเห็นท่าทางเก้อเขินของลูกชาย ถึงแม้เรื่องราวที่กำลังเผชิญอยู่จะเครียดมากแค่ไหน ซอนยอลก็อดจะยิ้มออกมาอย่างเอ็นดูไม่ได้




    “งั้นชานยอลเอาขนมวางไว้ตรงนี้นะครับ เผื่อคุณแม่จะใช้รับรองแขก”




    “ขอบใจมากจ๊ะ”




    กิริยาทุกอย่างตกอยู่ในสายตาของผู้มาเยือน อู๋ เหม่ยหลิงมองดูลูกชายของตระกูลปาร์คอย่างสำรวจ พลางคิดในใจ รูปร่างสูงโปร่ง ผมสีน้ำตาลถูกปล่อยเป็นธรรมชาติ พวงแก้มกลมสีแดงระเรื่อเหมือนเจ้าตัวกำลังเขินอาย จมูกโด่งได้รูป ริมฝีปากอิ่มสีแดงสด โดยเฉพาะดวงตากลมโตที่สะดุดตาของหล่อนเหลือเกิน




    “ลูกชายเหรอคะ”




    เหม่ยหลิงเอ่ยถามออกมาเมื่อร่างของเด็กหนุ่มหายลับออกไปจากห้อง




    “ใช่ค่ะ ชานยอลเป็นลูกคนเล็กของดิฉันเอง”




    “ยังเรียนอยู่เหรอคะ” ถามขึ้นเมื่อนึกขึ้นได้ว่าเด็กชายที่เพิ่งเข้ามายังใส่ชุดนักศึกษาอยู่เลย




    “ค่ะ แต่ว่าเดือนหน้าก็จะจบแล้ว”




    “จบแล้วก็คงมาช่วยแม่ทำงานบริษัทใช่มั้ยคะ”




    เหม่ยหลิงเอ่ยถามขึ้นเหมือนเป็นเรื่องปกติ เรื่องราวเกี่ยวกับ PK Group หล่อน พอจะรู้มาบ้างจากคำบอกเล่าของลูกชาย ซูโฮผู้เป็นลูกชายคนโตเมื่อเรียนจบแล้วก็เข้ามาทำงานในบริษัททันที คนเล็กก็คงจะเหมือนกัน




    “ไม่หรอกค่ะ ชานยอลไม่ได้เรียนบริหาร เขาเลือกจะเรียนนิเทศน่ะค่ะ”




    “งั้นเหรอคะ แปลกจัง”




    ริมฝีปากบางคลี่ยิ้มออกมาเมื่อได้ฟังคำตอบ เรียนนิเทศศาสตร์ แสดงว่าไม่มีความรุ้เกี่ยวกับงานบริหารเลยสินะ ครอบครัวนี้มันยังไงกัน ลูกชายคนโตก็บริหารงานผิดพลาดจนบริษัทต้องประสบกับปัญหา ลูกชายคนเล็กก็เลือกที่จะเรียนคณะอะไรก็ไม่รู้ แทนที่จะเรียนบริหารเพื่อมาช่วยงานบริษัท นี้ถ้าเป็นลูกชายของหล่อน คงจะมีแตกหักไปข้าง




    “ตกลงว่าคุณจะไม่ยอมขายบริษัทนี้ให้เราใช่มั้ยคะ”


    เหม่ยหลิงเอ่ยปากถามอีกครั้ง ดวงตาสีเข้มจ้องมองแก้วกาแฟที่อยู่บนโต๊ะแก้วบางใส สมองกำลังครุ่นคิดอะไรบางอย่าง บางอย่างที่จะทำให้ได้มาซึ่งสิ่งที่ต้องการ ปาร์ค ชานยอล




    “…………คงจะเป็นอย่างนั้น ในเมื่อความต้องการของเราทั้งสองคนไม่ตรงกัน”


    ซอนยอลยืนยันคำพูดของตัวเองด้วยการมองสบตาสีเข้มนั้น ฝืนยิ้มออกมาเพื่อกลบเกลื่อนความหวั่นไหวของตัวเอง




    “พรุ่งนี้ดิฉันยังอยู่ที่โซลจนถึงตอนเย็น”


    หญิงสาวพูดน้ำเสียงเรียบ ใบหน้าของหล่อนประดับด้วยรอยยิ้มที่อีกคนยากจะเข้าใจ 




    “มีธุระต้องทำต่อที่เกาหลีเหรอคะ ?”



    ซอนยอลเอ่ยถามอย่างนึกสงสัย ก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าบริษัทของตระกูลอู๋มีมากมาย คงจะมาติดต่อธุระเรื่องอื่นด้วย




    “เปล่าค่ะ ดิฉันมาที่นี้ด้วยเรื่องบริษัทของคุณโดยเฉพาะ”




    “เอ๋...............”




    ในเมื่อมีธุระกับบริษัทหล่อนแค่บริษัทเดียวทำไมคนที่มีงานรัดตัวอย่างอู๋ เหม่ย หลิงต้องเสียเวลาอยู่ที่เกาหลีต่อ




    “คุณซอนยอลคะ ถ้าไม่อยากขายบริษัท หรือไม่ต้องการเสียหุ้นที่อยู่ในมือออกไปแม้แต่วอนเดียว สนใจจะเป็นทองแผ่นเดียวกันมั้ยคะ”
    ดวงตาสีดำเข้มดูสงบเมื่อเอ่ยประโยคนี้




    “อะไรนะคะ !”





    เมื่อได้ฟังคำพูดของอู๋เหม่ยหลิงจนจบ ปาร์ค ซอนยอลแทบจะยืนไม่ติดกับพื้น เป็นทองแผ่นเดียวกัน หมายถึง........แต่งงานงั้นเหรอ?




    “คุณฟังไม่ผิดหรอกค่ะ ดิฉันหมายความว่าดิฉันขอยื่นขอเสนอที่ดีที่สุดให้กับคุณและบริษัทที่กำลังจะโดนฟ้องล้มละลายแห่งนี้ ด้วยแต่งงานของคนทั้งสองตระกูล”




    “ตะ..แต่ว่า ลูกทั้งสองคนของดิฉันเป็นผู้ชายนะคะ มันคงเป็นไปไม่ได้หรอกค่ะ”



    คุณเหม่ยหลิงคงจะเข้าใจผิด หล่อนมีลูกสองคน และทั้งสองคนก็เป็นเพศชายตั้งแต่กำเนิด รวมถึงลูกของคนที่ยื่นข้อเสนอด้วย คุณคริสเป็นผู้ชาย แล้วจะให้แต่งงานได้ยังไง




    “ข้อนั้นดิฉันทราบดี ”




    “แล้วมันจะเป็นไปได้ยังไงล่ะคะ”




    “ถ้าคุณตกลงใจจะให้มีการแต่งงานเกิดขึ้น ดิฉันจะให้ทั้งสองคนจดทะเบียนสมรสกันที่แคนนาดา คริสเขาเคยไปอยู่ที่นั้นตอนเป็นเด็ก ที่แคนนาดาเขาให้สิทธิเพศเดียวกันสามารถจดทะเบียนสมรสกันได้ มีสิทธิเทียบเท่ากับคู่สมรสทั่วไปทุกประการ ขอแค่ลูกชายของคุณมีพาสปอร์ตนักท่องเที่ยวก็พอ ข้อนั้นคงไม่มีปัญหา อ้อ ฉันบอกไปหรือยังค่ะว่าฉันต้องการให้ลูกชายของฉันแต่งงานกับลูกชายคนเล็กของคุณ ปาร์ค ชานยอล”



    “ชานยอล.......”




    ซอนยอลถึงกับต้องกลืนน้ำลายลงคอ นี้มันเรื่องบ้าอะไรกัน อยู่ๆท่านประธานบริษัท WU China International ก็พูดถึงการแต่งงานระหว่างลูกชายของตัวเองกับลูกชายของหล่อน และดูเหมือนว่าหญิงสาวจากเมืองจีนจะจริงจังกับมันมากเสียด้วย




    “ใช่ค่ะ เมื่อจดทะเบียนกันแล้ว ดิฉันจะให้คริสส่งคนเข้ามาบริหารงานใน PK Group คุณคงจะทราบถึงผีมือการบริหารงานของลูกชายของดิฉันแล้วนะคะ”




    “……………….”คุณคริส ใช่ หล่อนทราบดีว่าลูกชายของคนตรงหน้ามีฝีมือมากแค่ไหน เผลอๆบริษัทของหล่อนที่มีคุณคริสบริหารงานอาจจะไปได้ไกลกว่าที่เป็นอยู่ทุกวันนี้




    “คนของคริสจะเข้ามาบริหารงานของที่นี้ โดยที่บริษัทยังเป็นชื่อของคนในตระกูลปาร์ค แต่ฉันขอเพียงข้อเดียวคือหุ้นของบริษัททั้งหมดจะต้องเป็นชื่อของ ปาร์ค ชานยอล” 



    พูดจบร่างของเหม่ยหลิงก็ลุกขึ้นยืนทันที หญิงสาวจากเมืองจีนหยิบกระเป๋าส่วนตัวขึ้นมา ส่งยิ้มให้ผู้หญิงอีกคนที่เพิ่งเรียกสติของตัวเองกลับมาได้ 






    “ช่วยรับข้อเสนอของฉันไว้พิจารณาด้วยนะคะ ดิฉันคิดว่าทางเลือกนี้คงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดของเราทั้งสองคน”




    “ดิฉันขอปฏิเสธค่ะ ฉันยอมไม่ได้ที่จะให้ลูกชายต้องแต่งงานเพราะธุระกิจ ที่สำคัญคนที่เขาต้องแต่งงานด้วยเป็นผู้ชายเหมือนกัน ฉันไม่อยากทำร้ายจิตใจลูกค่ะ หวังว่าคุณคงเข้าใจ”




    “สมัยนี้โลกมันเปลี่ยนไปแล้วค่ะ อย่างเพิ่งปฎิเสธเลยนะคะ เก็บไว้คิดดูก่อน พรุ่งนี้ดิฉันจะเข้ามาเอาคำตอบอีกที แต่ถ้าคุณคิดได้เร็วกว่านั้นก้สามารถโทรหาฉันได้ เบอร์ของฉัน ฉันจะให้เลขาของคุณเก็บไว้ให้ ขอตัวนะคะ”




    “……………………”




    “อ้อ หวังว่าคนที่รออยู่ข้างนอก จะทำให้คุณตัดสินใจได้เร็วขึ้นนะคะ”



    เหม่ยหลิงก้าวเท้าออกไปจากห้องทันทีที่พูดจบ หญิงสาวเปิดประตูออกมาเพื่อจะพบกับคนของธนาคารที่มารออยู่ก่อนหน้าหล่อนแล้ว หญิงสาวส่งยิ้มให้เป็นการทักทาย






    “ขอให้โชคดีนะคะ คุณแฮซู”















    ประตูลิฟต์เปิดออกเมื่อมาถึงชั้นล่างสุดของตัวอาคาร ร่างบางของเหม่ยหลิงก้าวออกมาจากตัวลิฟต์พร้อมลูกน้องคนสนิท ทันใดนั้นร่างของเด็กหนุ่มลูกชายคนเล็กของคุณซอนยอลก็ปรากฏเข้าสู่สายตา 



    “อ้าว จะกลับแล้วหรือฮะ”




    ชานยอลเอ่ยทักพร้อมรอยยิ้มสดใส เด็กหนุ่มมีแก้วน้ำเลม่อนปั่นถือไว้ในมือ เห็นพี่อินฮยองบอกว่าคุณแม่มีแขกมาขอเข้าพบต่อจากหญิงสาวที่ชานยอลเพิ่งรู้ว่าชื่อ อู๋ เหม่ย หลิง เขาเลยลงมาเดินเล่นข้างล่างเป็นการฆ่าเวลา




    “จ๊ะ ฉันคุยธุระกับแม่หนูเสร็จแล้ว”




    “ให้ชานยอลไปส่งมั้ยฮะ”



    “ไม่เป็นไรจ๊ะ คนขับรถมาถึงแล้วฉันขอตัวก่อนนะ”



    “ฮะ สวัสดีฮะ”



    เหม่ยหลิงปฏิเสธความหวังดีจากเด็กหนุ่ม หญิงสาวจ้องมองรอยยิ้มกว้างสดใสของคนตรงหน้าแล้วอดจะยิ้มตามไม่ได้ ขาเล็กเดินออกมาจากบริเวณนั้นก่อนจะชะงักเหมือนเพิ่งนึกอะไรขึ้นได้



    “ชานยอลจ๊ะ”




    “ฮะ”



    “หวังว่าเราจะได้เจอกันอีกนะ”













    “อู๋ฟาน แม่กลับไปจีนคราวนี้ ลูกเตรียมตัวแต่งงานได้เลย”










    TBC......

















    talk.. ยังมีคนอ่านมั้ยคะ แม่พี่คริสนี้ร้ายจริงๆ
    อยู่ๆก็มาขอลูกชายเก๊า แม่ชานยอลแทบเป็นลม
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×