ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Dark Paradise (No.7)

    ลำดับตอนที่ #10 : I'm with you

    • อัปเดตล่าสุด 26 มิ.ย. 59


     

     

    Dark Paradise (NO. 7)

    I’m with you

     

             

    “เอ๋! ร้านกาแฟ ?”


    “ครับ”


    ฮันบินพยักหน้าตอบ หลังจากบอกพี่ชายว่าอยากมีร้านกาแฟ ถึงจะเรียนจบแล้วก็จริงแต่เพราะเหตุการณ์อะไรหลายๆอย่างที่ผ่านมาทำให้ไม่อยากห่างกัน


    “ผมมีทุนไว้อยู่แล้ว ไม่รบกวนพี่หรอก”


    “นั่นไม่ใช่สิ่งที่พี่ห่วงหรอกนะ”


    “ไม่เป็นไรหรอก เพราะมีจินฮวานเป็นหุ้นส่วนด้วย”


    “แล้วแน่ใจเหรอว่าไม่อยากทำงานอย่างอื่น ?”


    “ผมไม่อยากอยู่ไกลน่ะ”


    แววตาจริงจังที่พยายามแสดงออกมาให้เห็นว่าน้องชายคนนี้โตมากพอที่จะต้องเรียนรู้สิ่งรอบข้างแล้ว แทฮยอนไม่ได้คัดค้านอะไร เขาแค่ห่วงที่ฮันบินจะเริ่มทำงานหนักโดยที่ไม่มีเขาเข้าไปมีส่วนร่วม


    “อื้อ พพี่เอาใจช่วย”


    บรรยากาศบนโต๊ะอาหารเป็นแบบนี้มานานแล้ว บรรยากาศที่มีแค่สองคนพี่น้องนั่งพูดคุยเรื่องราวต่างๆที่ผ่านเข้ามาแค่สองคน แม้จะไม่รู้สึกเหงาแต่ลึกๆแล้วพวกเขายังต้องการคนที่เป็นที่พึ่ง






     

    นี่จะเรียกว่าเป็นก้าวแรกของการเป็นผู้ใหญ่ได้หรือเปล่า ?


    “ฉันเกรงใจพี่แทฮยอนจัง”


    จินฮวานว่าพรางมองไปรอบๆอาคารขนาดกลางชั้นเดียวแต่กว้างพอจะรองรับลูกค้าได้หลายคน


    “ฉันก็บอกแล้วนะว่าเดี๋ยวพวกเราจะทยอยจ่ายเอง”


    “ผมว่าพี่แทฮยอนคงไม่อยากให้พวกพี่ลำบาก”


    ก็อาจจะจริงอย่างที่จุนฮเวพูดก็ได้


    หลังจากที่พูดเรื่องที่อยากเปิดร้านกาแฟไป แทฮยอนก็จัดการซื้ออาคารหลังนี้ให้โดยให้เหตุผลว่า


    นี่เป็นของขวัญสำหรับการเรียนจบ


    ถึงจะพยายามปฏิเสธไปหลายสิบครั้งแต่พี่ชายที่แสนใจดีคนนั้นก็ยังยืนยันที่จะซื้อให้ สุดท้ายคนที่เป็นฝ่ายแพ้ก็ทำได้แค่ยอมรับมาแต่โดยดี


    “ถ้าพวกเราทำมันเจ๊งคงรู้สึกผิดมากแน่เลย”


    “งั้นเรามาพยายามกันเถอะ”


    เพราะไม่อยากเป็นภาระให้พี่ชาย แต่ในขณะเดียวกันก็ไม่อยากจากไปไหน นี่คงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดแล้ว


    จินฮวานกับจุนฮเวเดินไปจนทั่วแม้จะเป็นแค่พื้นที่โล่งๆ เพราะต้องตกแต่งร้านอีกเยอะเพื่อให้ดูน่าสนใจ ฮันบินรับหน้าที่ดูแลเมนูและวัสดุในการทำกาแฟและของหวาน


    ไม่ง่ายเลยที่ต้องเริ่มต้นด้วยมือตัวเองตั้งแต่ 1




     

    “วันนี้คงพอแค่นี้แหละ เดี่ยวพรุ่งนี้ให้ช่างมาดูว่าต้องทำตรงไหนก่อน”


    จินฮวานบอกหลังจากที่เปลี่ยนแบบกันมาทั้งวัน ทั้งจุนฮเวเองก็เอาแต่บอกให้เพิ่มตรงนั้นตรงนี้แถมบางครั้งยังชอบเถียงอีก แต่ก็เป็นการเถียงที่ได้ไอเดียดีๆเพิ่มขึ้นมา


    “พวกนายกลับก่อนเลย ฉันอยากคิดเมนูเพิ่มอีกหน่อย”


    “นี่ก็เยอะแล้วนะ”


    เมนูกาแฟและของหวานที่ฮันบินลองเขียนคร่าวๆออกมามากกว่าสิบอย่าง แต่ก็ใช่ว่าจะทำได้ทุกอย่าง ความจริงจะเอาไปให้แทฮยอนกับมินโฮช่วยเลือก เพราะสองคนนั้นชอบไม่เหมือนกัน คนนึงหวานคนนึงเข้ม


    “อีกสองสามเมนูก็จะกลับแล้ว”


    “อย่ากลับดึกล่ะ ถึงจะอยู่ใกล้ก็เถอะ”


    “อื้อ! พวกนายก็ขับรถดีๆล่ะ”


    “ต้องบอกคนขับที่ไปสตาร์ทรถรอแล้วล่ะ”


    คนขับที่หิวจนแทบจะกินคนรักได้ทั้งตัว ก็ทั้งวันเล่นไม่ยอมพักกันเลยนี่นา


    ฮันบินมองตามแสงไฟจากท้ายรถที่แล่นออกไปจากหน้าร้าน จริงอยู่ที่ว่าจินฮวานเป็นเพื่อนรักที่ดีมากคนนึง แต่บางครั้งก็อดที่จะเกรงใจจุนฮเวที่เป็นคนรักของเขาไม่ได้ แต่นับว่ายังโชคดีอยู่ไม่น้อยที่เด็กคนนั้นเข้าใจและยอมรับในสิ่งที่อีกคนเป็น


    บางครั้งก็อิจฉาเหมือนกันนะ คนที่อยู่ข้างๆเวลาที่เราไม่มีใครแล้วแบบนั้น





     

    เมนูสุดท้ายถูกเขียนในสมุดหน้าสุดท้าย เด็กหนุ่มที่มุ่งมั่นจนลืมแม้แต่ที่จะห่วงตัวเองยอมละสายตาจากหน้ากระดาษสีขาว เหลือบมองนาฬิกาที่แขวนอยู่ตรงผนังบอกเวลาเกือบสี่ทุ่ม


    แทบไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่านั่งอยู่ที่นี่เพียงลำพังนานแค่ไหน ฮันบินจัดการเก็บของใส่กระเป๋าแล้วปิดประตูร้าน ยืนมองอาคารขนาดกลางจากข้างหน้า


    จริงๆแล้วความฝันของเขาคืออะไรกันแน่


    แทฮยอนเลือกที่ที่อยู่ใกล้ๆบ้านเพื่อเวลากลับน้องชายจะได้ไม่ลำบาก ถึงจะเสนอให้ขับรถไปก็เถอะแต่เจ้าตัวเอาแต่ปฏิเสธ


    ไม่รู้ว่านานแค่ไหนแล้วที่ไม่ได้เดินกลับบ้านคนเดียวแบบนี้ เพราะทุกครั้งต่อให้ใกล้แค่ไหนแทฮยอนก็ยืนยันที่จะออกมารับ


    ถ้ามัวแต่ให้พี่ชายดูแลแล้วเมื่อไหร่จะโตสักที


    สองเท้าเล็กๆเดินย่ำไปบนทางเท้า สองข้างทางที่มีร้านของชำและร้านอาหารเล็กๆอยู่ห่างกันออกไป ทั้งๆที่บรรยากาศไม่น่าจะมีคนพลุกพล่านแต่กลับยังเปิดจนถึงเที่ยงคืน ห่างกันออกไปไม่มากมีร้านหนังสือที่ก่อนหน้านั้นฮันบินชอบเข้าไปอุดหนุนอยู่บ่อยๆ


    เวลาที่ได้อยู่กับตัวเองแบบนี้ทำให้เราได้ทบทวน ชีวิตที่ผ่านมาเราใช้มันคุ้มค่าแล้วหรือเปล่า


    ทว่าแวบนึงของความคิดกลับมีภาพของใครบางคนลอยเข้ามา คนที่อยู่ๆก็หายไป


    คนคนนั้น...


    “มนุษย์มักจะคิดว่าตัวเองเข้มแข็ง”


    เสียงทุ้มที่คุ้นเคย แม้จะได้ยินไม่บ่อยแต่จำได้ราวกับถูกบันทึกเอาไว้ในหู


    ยมทูตผู้เยือกเย็นราวกับน้ำแข็ง คิม จีวอน


    “ผมไม่เคยคิดว่าตัวเองเข้มแข็ง”


    “ไม่บอกก็รู้”


    ถ้าเป็นเมื่อก่อนคนต้องผวาตกใจแล้ววิ่งหนี แต่ตอนนี้ความรู้สึกแบบนั้นหายไปหมดแล้ว


    เหตุการณ์หลายๆอย่างทำให้เข้าใจอะไรๆมากขึ้น จากความกลัวกลายเป็นการยอมรับโดยสิ้นเชิง


    ยมทูตผู้เป็นดั่งเส้นชะตาของชีวิตปรากฎตรงหน้า ทุกครั้งที่เจอกันบรรยากาศรอบข้างมักจะเปลี่ยนไปคงเพราะชุดสูทสีดำและนัยน์ตาสีแดงของเขา


    “คุณหายไปนานเลยนะ”


    “คิดถึงฉันหรือไง ?”


    “ผมไม่ใช่ดวงวิญญาณนะที่จะได้คิดถึงยมทูตแบบคุณ”


    ฮันบินพูดติดตลกกลบเกลื่อนความเศร้าที่ซ่อนเอาไว้ภายใต้ดวงตากลมใสซื่อนั่น บทสนทนาเมื่อครู่ต่างไปจากเมื่อก่อนมาก เหมือนมนุษย์ที่คุยกับมนุษย์


    เด็กหนุ่มเดินต่อไปเรื่อยๆบนถนนเส้นเดิมโดยมียมทูตผู้เป็นเจ้าของดวงวิญญาณเดินอยู่ข้างๆ


    “คุณบอกผมได้ไหม ว่าผมจะตายเมื่อไหร่ ?”


    “ชีวิตคนเราเปลี่ยนแปลงได้เสมอ ฉันบอกไม่ได้หรอก”


    “คุณนี่ พูดอะไรเข้าใจยากจังเลยนะ”


    จีวอนหัวเราะหึในลำคอแล้วความเงียบก็เข้ามาแทนที่อีกครั้ง ไม่มีใครพูดอะไรออกมา เสียงฝีเท้าเล็กๆที่ยังเดินมีเพียงเสียงเท้าของคนๆเดียว แม้คนข้างๆจะยังเดินอยู่ด้วยก็ตาม


    มนุษย์กับยมทูตที่เดินเคียงคู่กันไปจนถึงจุดหมาย


    “คุณจะเข้าไปไหม ?”


    “ชวนยมทูตเข้าบ้านงั้นเหรอ ?”


    “มันเป็นมารยาทที่ดีของมนุษย์ไม่ใช่หรือไง ?”


    ไม่มีเสียงตอบกลับจากคนตรงหน้า มีเพียงรอยยิ้มที่ยากจะเดาความหมายส่งกลับมาแทน


    ร่างไร้เงาของคนที่เพียงแค่เดินมาเป็นเพื่อนค่อยๆหายไปในความมืด


    เขามาเพื่ออะไรกันแน่!


    ฮันบินละสายตาจากความว่างเปล่าแล้วเดินเข้าบ้านไป ขี้เกียจจะตั้งคำถามที่ไม่มีวันได้รู้คำตอบ เหนื่อยที่จะต้องดิ้นรนหาคำตอบที่ไม่ว่าจะยังไงก็ไม่มีทางหาเจอ แค่ปล่อยมันไปตามกาลเวลาเพราะไม่ว่ายังไงยมทูตตนนั้นก็เป็นคนกำหนดชะตาชีวิตของเขาอยู่ดี ขึ้นอยู่กับว่าจะช้าหรือเร็วแค่นั้นเอง


    “ทำไมกลับดึกจังล่ะ”


    แทฮยอนที่นั่งรอน้องชายมาตลอดถามทันทีที่ฮันบินเดินเข้ามาในห้องนั่งเล่น


    “มีหลายอย่างให้ทำเลยครับ”


    “มีปัญหาตรงไหนหรือเปล่า”


    “ไม่มีฮะ เพราะจินฮวานกับจุนฮเวช่วยกันคิดน่ะ”


    “งั้นก็ดีแล้ว”


    คนเป็นพี่ส่งยิ้มหวานให้ ไม่อยากจะเซ้าซี้อีกคนให้เหนื่อยที่จะต้องมานั่งตอบคำถามของตัวเอง


    “พี่ครับ”


    ฮันบินเอ่ยเรียกพี่ชายของตัวเองเสียงเบา


    “มีอะไร ?”


    “ถ้าเกิด...”


    “หือ ?”


    “ถ้าเกิดวันนึงไม่มีผม พี่จะอยู่ได้ไหม ?”


    “ฮันบิน...”





     

    ...





     

    “กฏข้อที่ 1432 ยมทูตห้ามผูกจิตกับดวงวิญญาณ”


    มินโอแกล้งอ่านกฎของยมทูตเสียงดังเมื่อน้องชายเข้ามาในบ้าน


    “ตอกย้ำตัวเองอยู่หรือไง ?”


    “เปล่า ฉันแค่ย้ำเผื่อนายจะลืม”


    “ลืมอะไร ?”


    “ลืมคำพูดของตัวเอง ถึงฉัจะทำผิดกฎก็จริงแต่อย่างน้อยฉันก็ยอมรับในสิ่งที่ฉันทำ”


    “อยากจะพูดอะไร ก็พูดมา”


    จีวอนทำเสียงเข้มจ้องพี่ชายของตัวเองที่เอาแต่ยียวนกวนประสาทตั้งแต่เมื่อกี้


    “นายน่าจะรู้ตัวเองดีนะ คิม จีวอน”


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×