ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Dark Paradise (No.7)

    ลำดับตอนที่ #1 : Death

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 337
      1
      26 มิ.ย. 59

    [04.06.2558]

    Dark Paradise (NO. 7)

    ‘Death’

    ผมสงสัยมาตลอดว่า “ความตาย” คืออะไร : ฮันบิน

     

    มันทั้งมืด และเงียบ ถึงดวงจันทร์จะทอแสงลงมาแต่มันก็ไม่ได้ทำให้บรรยากาศในสุสานตอนเกือบเที่ยงคืนน่ากลัวน้อยลงเลย มองไปทางไหนก็มีแต่ความมืดกับหลุมฝังศพเรียงรายรอบตัว



    ฮันบินวางดอกกุหลาบสีขาวลงบนหลุมศพตรงหน้า ดอกไม้ที่แม่ของเขาชอบ เหลือบมองคนข้างๆที่ยืนยิ้มอย่างอ่อนโยนให้กับหลุมศพที่อยู่ข้างกัน



    “นานแล้วนะ”



    “อื้อ”



    แทฮยอนพูดเสียงเบา แต่ในความเงียบมันทำให้ฮันบินได้ยินชัดเจน



    ความเจ็บปวดที่ยากจะลืมมันไม่เคยจางหายไปจากใจ แม้จะผ่านมาหลายปีแล้วก็ตาม แต่เมื่อไหร่ที่คิดถึงมันก็ยิ่งเหมือนความมืดที่เกาะกุมหัวใจ ฉุดรั้งให้หัวใจที่เต้นอยู่ห่อเหี่ยวลงแม้จะพยายามปลอบใจตัวเองแค่ไหนก็ตาม


    แต่อย่างน้อยก็ไม่ได้อยู่ตัวคนเดียวบนโลกใบนี้



    แทฮยอนหันมายิ้มให้กับน้องชายอย่างอ่อนโยน บ่อยครั้งที่พยายามทำเข้มแข็ง ทั้งๆที่ในใจกำลังร้องไห้ มันเหนื่อยแต่เพราะเขาเป็นทุกอย่างของฮันบินในตอนนี้มันทำให้เขาต้องเข้มแข็ง



    “กลับกันเถอะ”



    ฮันบินพยักหน้าให้กับพี่ชายที่กำลังชวนกลับแล้วหันไปมองหลุมศพที่อยู่คู่กันอีกครั้ง อยากจะภาวนาให้มันเป็นแค่ความฝัน แต่มันก็คือเรื่องจริง



    ทุกวันตอนดึกๆพวกเขาจะมาที่นี่เพื่อมาเยี่ยมพ่อกับแม่ที่จากไปเพราะอุบัติเหตุเมื่อหลายปีก่อน กว่าแทฮยอนจะเลิกงานก็เย็นมากแล้ว กว่าฮันบินจะกลับถึงบ้านหลังเลิกเรียนอีก พวกเขาเลยต้องมาที่นี่เวลาดึกๆแบบนี้ แต่มันก็ดีอย่างหนึ่งเพราะมันมีแค่พวกเขาในสุสาน



    ถึงมันจะน่ากลัวแต่อย่างน้อยพ่อกับแม่น่าจะได้ยินเสียงของพวกเขาชัดเจน







     

    แทฮยอนขับรถออกมาจากสุสาน จู่ๆฝนก็เทลงมาทั้งๆที่ตอนแรกฟ้าสว่างแถมยังมีพระจันทร์อีก เขาขับช้าๆไปเรื่อยๆเพราะมองไม่เห็นทางข้างหน้า แถมถนนยังลื่น เพราะเป็นทางเรียบไปตามเขาคดเคี้ยวทำให้ยิ่งอันตราย



    “น่าแปลกจังแฮะ!



    “อะไรเหรอ?”



    ฮันบินหันมาถาม เขาเห็นสีหน้าแทฮยอนที่กำลังกังวลกับทางข้างหน้า เพราะกลัวจะมองไม่เห็นแล้วเผลอไปชนหรือเลี้ยวไม่ทันเข้า



    “จู่ๆฝนก็ตกลงมาทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ฟ้าเปิด”



    “อากาศแปรปรวนมั้ง”



    ฮันบินเองก็ไม่รู้หรอกว่าทำไม เขามองไปทางข้างหน้าที่ตอนนี้แทบจะมองไม่เห็นอะไรนอกจากสายฝน แทฮยอนขับรถสลับกับหยุดนิ่งเวลาที่รู้สึกว่าฝนสา แต่พอเหยียบออกไปก็กระหน่ำเทลงมาอีก แถมอากาศก็เริ่มจะเย็นลงแล้วด้วย



    เอี๊ยด!!



    “เสียงอะไรน่ะ



    แทฮยอนหยุดรถแล้วพยายามมองผ่านสายฝนไป เขาได้ยินเหมือนเสียงรถที่พยายามเหยียบเบรกจนล้อลากไปกับพื้นถนน



    เอี๊ยด!!



    “เดี๋ยวนะ”



    ฮันบินพยายามจ้องออกไปข้างนอก เขาเห็นแสงไฟที่สาดมาจากข้างหน้ามันส่ายไปมาเหมือนกับกำลังเสียหลัก แทฮยอนจับพวงมาลัยในมือแน่นเพราะถ้าหากว่ามันส่ายมาใกล้อันตรายแน่



    “ถอยก่อนมั้ย”



    ฮันบินบอก เขากลืนน้ำลายอึกใหญ่เพราะความกลัวนิดหน่อย แสงไฟใกล้เข้ามา มันยังส่ายไม่หยุดและใกล้เข้ามาเรื่อยๆ แทฮยอนถอยหลังแล้วพยายามหลบเข้าข้างทางให้มากที่สุด แต่ไม่ทันจะหยุดรถ แสงไฟจากคันข้างหน้าก็สาดเข้ามาอย่างจัง มันเลี้ยวไปมาเพราะเสียหลักจากความลื่นของถนน



    “เฮ้ย!



    “อันตราย!!



    เอี๊ยด!!



    ปี๊กกกกกกกกกกก!



    โครม!



    ชั่ววินาทีเดียวที่เห็นแสงไฟใกล้ๆกับรถยนตร์สีดำคันใหญ่ วิ่งเข้ามาด้วยความเร็วจนเบรกไม่ทัน ชนเข้ากับรถสีขาวคันเล็กที่ข้างทาง จนพลิกคว่ำไปหลายตลบเพราะพยายามจะสะบัดออก เสียงโครมดังลั่นท่ามกลางความมืดและสายฝน เศษซากที่หลุดออกกระจายไปทั่วพื้นก่อนทุกอย่างจะสงบลง



    รถสีดำคันใหญ่หลุดออกจากรั้วกั้นชนเข้ากับก้อนหินใหญ่ข้างทางและใช้มันเป็นที่หยุดความเร็ว กระโปรงหน้ายุบเข้าไปและเปิดออก ควันลอยคลุ้งขึ้นมาและได้กลิ่นไหม้



    เมื่อกี้มันเหมือนกับสติหลุดออกไป รถสีขาวคันเล็กพลิกคว่ำหงายท้องอยู่ไม่ไกล กลิ่นน้ำมันที่ไหลออกมาจากตัวถังมันไหลไปทั่วพื้นปนกับน้ำฝน เศษกระจกกระจายไปทั่ว



    ร่างของคนสองคนที่อยู่ใต้ซากรถหนึ่งในนั้นกำลังพยายามเอาตัวเองออกมา



    ฮันบินนอนหายใจแผ่วเพราะความเจ็บและจุก เลือดกำลังไหลออกมาจากหัวอาบไปทั่วหน้า พยายามใช้แรงที่เหลือดันตัวเองออกมา แต่ยิ่งขยับมันก็ยิ่งเจ็บ เจ็บเหมือนจะขาดใจ เหลือบมองแทฮยอนที่นอนแน่นิ่งอยู่ข้างๆ เขาสลบไปแล้วแถมยังมีเลือดไหลออกมาจนเปื้อนไปทั้งตัว ฮันบินพยายามจะเอื้ออมือไปสะกิดพี่ชาย



    มันเจ็บ...เจ็บจนขยับไปไหนไม่ได้ ตอนนั้นพ่อกับแม่จะรู้สึกเหมือนกับเขาหรือเปล่า



    ตึก ตึก !



    เสียง...เสียงเหมือนมีคนกำลังเดิน ฮันบินพยายามเงยหน้ามอง



    ใครน่ะ...



    รองเท้าหนังสีดำกับกางเกงขายาวสีดำ กำลังหยุดยืนอยู่บนหัว ฮันบินพยายามจะมองและขอความช่วยเหลือ แต่ตอนนี้เรี่ยวแรงแม้กระทั่งจะหายใจ  ใครบางคนกำลังยืนมองเขาและก้มลงมาใกล้ ฮันบินหรี่ตามองแต่ก็ยังมองไม่ชัดเห็นเพียงแค่เงาดำๆของคนๆนั้น เขาสวมชุดสูทดูดีสีดำในมือถือร่มมาด้วย เขากำลังมองมาที่ฮันบิน กำลังกางร่มเพื่อบังฝนให้



    ใคร...ใครน่ะ



    พ่อเหรอ?



    มารับผมใช่มั้ย



    พ่อครับ...



     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×