ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Way For Love[Super Junior's Fiction::SiHan]

    ลำดับตอนที่ #4 : Chapter 4..ความเจ็บปวด

    • อัปเดตล่าสุด 26 ม.ค. 51









    Credit...@ Sweet Kitkat

    "ยุนอา!!!!"
    "ไงชีวอน เห็นฉันแล้วทำยังกับเห็นผีงั้นแหละ"เดินนวยนาถเข้ามาหาพร้อมกับคว้าแขนของอีกคนไปกอดไว้
    "เอ่อ...มาได้ยังไงหน่ะ" ตกใจไม่น้อยที่จู่ๆคนที่เป็นคนบอกเลิกเค้าไปเมื่อหลายเดือนก่อนมาปรากฎตัวตรงหน้าแล้วยังมาทำตัวเป็นเจ้าเข้าเจ้าของเค้าอีก
    "อ๊า~~~รุ่นพี่ฮันคยอง มาเที่ยวที่นี่เหมือนกันเหรอคะ บังเอิญจัง"ยิ้มออกมาอย่างร้ายกาจ กระชับหน้าอกให้เบียดแน่นเข้าไปที่แขนแกร่งอีกจนอีกคนรู้สึกได้ ไม่สนใจว่าคนตัวโตจะทำหน้าอึดอัดเพียงใด
    "นี่....ยุนอา พอได้แล้ว"สะบัดแขนให้หลุดจากการเกาะกุม พร้อมกับหันมามองหน้าอีกคนที่ยืนทำหน้าปั้นไม่ถูกอยู่
    "แหม คนเป็นแฟนกันเค้าทำกันอย่างนี้เหรอชีวอน"เหยียดยิ้มร้ายกาจออกมา ก่อนที่จะหันไปมองบุคคลที่สามที่ยังยืนนิ่งอยู่
    "เราเลิกกันนานแล้วนะ ยุนอา"ตะคอกเสียงดัง แต่ก็ไม่ได้ทำให้ร่างเล็กกลัวเลยแม้แต่น้อย
    "ฉันขอโทษ....ที่ฉันบอกเลิกนาย แต่ตอนนี้ฉันคิดได้แล้ว เรากลับมาคบกันเหมือนเดิมเถอะนะ" ซุกใบหน้าเข้ากับอกแกร่ง ตั้งใจยั่วให้อีกฝ่ายเกิดอารมณ์
    "ไม่ !!คือ....ฉัน ขอโทษนะ เราคงกลับไปเป็นเหมือนเดิมไม่ได้แล้วหล่ะ" จับไหล่บางให้ออกไปจากแผ่นอก
    "ทำไมหล่ะ หรือว่า...."ตวัดหางตาอย่างมาดร้ายไปมองบุคคลที่ร่างสูงเพิ่งเดินไปหาพร้อมกับกุมมือเอาไว้แน่นไม่ยอมปล่อย
    "แย่งแฟนชาวบ้านนี่มันสนุกมั๊ยคะ รุ่นพี่!!!"จงใจเน้นคำว่าแฟน เพื่อให้ฮันคยองได้ยินมันอย่างชัดเจน
    "คือ...ยุนอา"
    "เสียแรงที่ฉันหลงนับถือพี่มานาน ไม่นึกว่าจะมาตีท้ายครัวกันแบบนี้  พี่ยังมียางอายอยู่บ้างมั๊ย" สบถออกมาอย่างบ้าคลั่ง ไม่ยอมหรอก หล่อนจะแพ้ผู้ชายคนนี้ไม่ได้ เพราะนั้นมันเป็นเหมือนการตอกย้ำว่าหล่อนสู้รุ่นพี่หน้าหวานคนนี้ไม่ได้ เสน่ห์ของหล่อนไม่สามารถมัดใจชายหนุ่มตรงหน้าได้อีกต่อไป
    "หยุดบ้าซะที ยุนอา" กลับเป็นชีวอนเองที่ทนดูหญิงสาวด่าทอคนรักของตนต่อไปอีกไม่ไหว จนต้องเข้าไปเขย่าแขนบางให้หยุดพูดก่อนที่จะเพ้ออะไรไปมากกว่านี้
    "พอเถอะ..ชีวอน"หันมามองคนตรงหน้าอย่างไม่เข้าใจ ทั้งๆที่โดนด่าให้เจ็บช้ำขนาดนั้น ทำไมถึงต้องมาช่วยผู้หญิงมารยาอย่างนี้อีก
    "ฮัน..."
    "ฉันขอโทษนะยุนอา....สบายใจได้ เพราะพี่ไม่ได้คิดอะไรกับชีวอนเกินไปกว่าพี่น้องกันเลย"ฝืนพูดออกไปทั้งๆที่ภายในใจนั้นเจ็บช้ำปางตาย
    "อะ...อะไรนะ เมื่อกี้พี่พูดว่าอะไรนะ"ถามอย่างไม่อยากจะเชื่อหูของตัวเอง กับประโยคที่ออกมาจากปากของคนที่เค้ารักสุดหัวใจ
    "ผมบอกว่า ผมไม่เคยคิดกับชีวอนไปมากกว่าน้องชายคนหนึ่ง" พูดย้ำอีกครั้งในน้ำเสียงที่หนักแน่นมากขึ้นกว่าเดิม พยายามกลั้นน้ำตาที่ร้อนผ่าวบริเวณขอบตาไม่ให้มันไหวออกมาให้ชีวอนเห็น
    "แล้วตลอดเวลาที่เราอยู่ด้วยกันหล่ะ ฮันคยอง...อย่าบอกนะว่าพี่ไม่เคยคิดอะไรกับผมเลย"
    "ใช่..."กัดริมฝีปากล่างจนแดงช้ำ พยายามสะกดกลั้นอารมณ์ที่พรั่งพรูออกมาอย่างยากลำบาก เจ็บเหลือเกินที่ต้องโกหกใจตัวเอง
    "เป็นอย่างนี้นี่เอง" ทอดสายตามองมาอย่างร่างไร้วิญญาณก่อนที่จะหัวเราะออกมาอย่างบ้าคลั่ง เป็นเค้าคนเดียวที่คิดเองเออเองไปฝ่ายเดียว แค่ร่างบางตรงหน้าทำดีเข้าหน่อยก็เหมารวมไปว่าเค้ามีใจให้ ช่างโง่เขลาเหลือเกิน...ชีวอน
    "ได้ยินแล้วใช่มั๊ย.....พี่ฮันคยองเค้าไม่ได้จริงจังอะไรกับนายสักนิด" ยิ้มออกมาอย่างผู้ชนะ ทำไมหล่อนจะดูไม่ออกว่า ทำไมฮันคยองถึงได้พูดอะไรแบบนั้นออกมา และหล่อนก็ไม่ได้โง่พอที่จะดูไม่ออกว่าสองคนนี้รักกันมากขนาดไหน แต่เป็นเพราะความอ่อนโยนและเป็นคนดีเกินไปของรุ่นพี่ ทำให้สิ่งนั้นมันกลับเป็นเครื่องมือชั้นดีในการที่จะแยกสองคนนี้ให้ออกจากกันได้
    "ไม่มีอะไรแล้ว เห็นทีพี่จะต้องกลับบ้านแล้วหล่ะ" ฝืนยิ้มให้คนทั้งสองก่อนจะเดินจากไป....เดินออกไปจากความเจ็บปวดนั้น
    .
    .
    .
    "เฮ้ย!!!ไปเมาที่ไหนมาวะ เหม็นเหล้าหึงเลย" เบ้ปากพร้อมกับพยุงเพื่อนเจ้าปัญหาให้เข้ามาในบ้าน แปลกใจเสียจริงเมาขนาดนี้แต่ก็ยังขับรถมาถึงบ้านเค้าในสภาพที่ครบ 32 แบบนี้ได้
    "ฉานนนนม๊ายเหลืออารายแล้ว~~"พูดพร้อมกับหยาดน้ำตาที่ไหลอาบแก้มทั้งสอง
    "เฮ้ย!!!ชีวอนเอาดีๆ เกิดอะไรขึ้น" เห็นสภาพเพื่อนสนิทที่เหมือนคนบ้าใกล้ตายแบบนี้แล้วอดเป็นห่วงไม่ได้ หรือว่าทำเลาะกับฮันคยองกัน???
    "ฮันเค้าไม่ได้รักฉาน ....นายได้ยินมั๊ย  เค้าไม่ได้รักฉัน" พูดพร่ำเพ้อราวคนบ้า น้ำตายังคงไหลต่อไปไม่มีทีท่าว่าจะหยุดเอาง่ายๆ เจ็บเหลือเกิน.........
    "เค้าบอกว่าเค้าคิดกับฉันแค่น้องชายคนหนึ่งเท่านั้น....เค้าพูดมันออกมา ทำไม...ทำไม"หยุดทั้งเสียงคร่ำครวญเหลือไว้แต่อาการสะอื้นไห้....ชีวอนผู้ที่ไม่เคยเสียน้ำตาให้กับความรัก แต่วันนี้กลับหมดท่าเอาเสียง่ายๆเพราะคนๆนั้นคนเดียว คังอินมองเสี้ยวหน้าของพี่สนิทที่ร้องไห้หนักจนผล็อยหลับไปอย่างยากที่จะเข้าใจ เกิดอะไรขึ้นกับสองคนนั่นกันแน่
    .
    .
    "พี่เหรอ หลับรึยังหน่ะ"
    "ยังหรอก ว่าแต่มีอะไรรึป่าว โทรมาซะดึกดื่นเชียว"ถามคนรักกลับไป เพราะเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อนก็คุยกันไปทีหนึ่งแล้ว
    "คือผมอยากให้อีทึกช่วยอะไรหน่อยหน่ะ"
    "อืม....ว่ามาสิ"
    "คืองี้นะ............."
    .
    .
    "ฮันมาเช้าจังเลย"ร่างบางเข้ามากอดคอเพื่อนที่นอนฟุดอยู่กับโต๊ะอย่างสนิทสนม
    "อื้ม...."ขยับตัวเล็กน้อยเมื่อสัมผัสถึงน้ำหนักที่กดลงมาบนคอระหง
    "อ้าว...หลับอยู่เหรอ ขอโทษนะ"รีบขอโทษออกไป แต่ก็ต้องแปลกใจเมื่อเห็นหน้าของอีกคนอย่างชัดๆ
    "ร้องไห้เหรอ"
    "ป่าวซะหน่อย" หันหน้าหนีกลบเกลื่อน ไม่ไห้อีกคนได้เห็นดวงตาที่บวมช้ำหลังจากผ่านการร้องไห้มาอย่างหนัก
    "นายโกหกคนอื่นไม่เก่งจริงๆเลยนะ ฮันคยอง ดูสิที่แก้มยังมีคราบน้ำตาอยู่เลย" จับคางของอีกคนให้หันมาสบตา พร้อมกับปาดคราบน้ำตาออกจากแก้มใสอย่างอ่อนโยน ทำเอาทำนบน้ำตาที่มันเพิ่งจะเหือดแห้งไป เกือบจะพังทะลายออกมาอีกครั้ง
    "พอจะเล่าให้ฉันฟังได้มั๊ย"จ้องเข้าไปในดวงตาคู่สวยอย่างชั่งใจก่อนจะตอบออกไปอย่างเลี่ยงๆ
    "ไม่มีอะไรหรอก"ฝืนยิ้มออกไปเพื่อให้อีกฝ่ายเลิกซักไซ้เค้าสักที
    "ไม่เป็นไร ถ้านายไม่อยากบอกก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าหากนายอยากจะระบายเรื่องที่มันทำให้นายต้องเสียน้ำตากับมันเมื่อไร ฉันพร้อมเสมอนะ ฮันคยอง" กระชับอ้อมกอดให้แน่นเข้าไปอีก และมันก็ทำให้อีกคนรู้สึกดีขึ้นอย่างบอกไม่ถูก
    "ขอบใจนะอีทึก" กอดตอบพร้อมกับซุกหน้าหวานเข้ากับแผ่นอกบาง
    "ดูสิเมื่อคืนคงไม่ได้นอนเลยใช่มั๊ยเนี่ย ตาคล้ำอย่างกับหมีแพนดาเป็นตาแดงอย่างนั้นแหละ" นิ้วเรียวจิ้มเข้าที่แก้มใสเป็นผลให้อีกคนยิ้มออกมาได้
    "อะไรของนายเนี่ย...หมีแพนด้าเป็นตาแดง เอามาจากไหนกัน" เฮ้อ ลอบถอนหายใจอย่างโล่งๆในที่สุดก็ยิ้มออกมาได้ซะที่นะ
    "ก็นายไง นายหมีแพนด้า"ยีผมเพื่อนรักเบาๆก่อนจะสวมกอดอีกครั้งหนึ่งอย่างเป็นห่วง ถึงนายจะยิ้มออกมา แต่ข้างในนายคงไม่ได้ยิ้มตามใบหน้านายหรอกใช่มั๊ย...ฮันคยอง......
    .
    .
    เป็นไงบ้างอ่ะ ฮันคยองเป็นไงบ้าง" ถามอย่างร้อนรน เมื่อคนรักของเค้าเดินมานั่งลงข้างๆ
    "ก็อาการหนักพอดูเลยหล่ะ แล้วชีวอนหล่ะ"
    "เหมือนกัน รายนั้นเอาแต่เพ้อไม่หยุด  ขนาดหลับมันยังระเมอเลย"รายงานอาการไข้ใจของเพื่อนซี้ให้อีกฝ่ายได้รู้
    "ฮันก็มาร้องไห้ต่อที่มหาลัยเหมือนกัน เราจะเอายังไงกันดีหล่ะ"หันไปถามคนรักที่ทำท่าคิดไม่ตกเหมือนกัน เหนื่อยใจกับคู่นี้เหลือเกิน
    "อันดับแรกเราต้องรู้สาเหตุให้ได้ก่อนว่าทำไม สองคนนั้นถึงเป็นอย่างนั้นไปได้"
    "งั้นก็....จะรออะไรอยู่อีกหล่ะ" พยักเพยิดให้อีกคนลุกขึ้นตาม
    "แล้วอีทึกไม่มีเรียนเหรอ" ถามอย่างสงสัย ดูท่าทางร่างบางจะกระตือรือร้นอยากจะช่วยเพื่อนซะเหลือเกิน
    "มี แต่ไม่เรียน มีอะไรมั๊ย"ตอกกลับไปอย่างขัดใจ
    "ไม่มีจ้ะ ทึกกี้ว่าไง หมีคังก็ว่างั้นแหละ"ไม่บอกก็รู้ว่ากลัวเมียมากขนาดไหน แค่เห็นคนสวยส่งรังสีอัมหิตมาให้แค่นิดเดียว จากหมีควายกลายเป็นเท็ดดี้แบร์ไปซะได้
    "ฉันจะพยายามถามฮันเค้าอีกรอบ ส่วนนาย ชี้ไปที่อกแกร่ง ก็พยายามเรียบๆชีวอนมัน เผื่อมันจะยอมเปิดปากพูด เฮอะ...เบื่อจิงๆไอ้พวกปากหนักเนี่ย" คังอินได้แต่พยักหน้าหงึกๆ โดยไม่มีปากมีเสียงอะไร ปล่อยให้แฟนหนุ่มคนสวยพร่ำต่อไปเรื่อยๆ แล้วอย่างนี้แก่ตัวลงไปจะขี้บ่นแบบนี้มั๊ยเนี่ย
    .
    .
    ตั้งแต่ที่เกิดเรื่องขึ้น ชีวอนก็หายหน้าไป ไม่แม้ที่จะยืนรอร่างบางไปร้านด้วยกันเหมือนอย่างเคย จะเอาอะไรอีก ในเมื่อปฏิเสธเค้าไปอย่างไร้เยื่อใยแบบนั้นแล้ว นายยังหวังให้เค้าเป็นเหมือนเดิมอีกเหรอ ยิ้มสมเพชให้กับตัวเองตัวเอง
    ถึงแม้งานที่ร้านจะดำเนินไปอย่างเรื่อยๆ แต่ดูท่าแล้วเจ้าของร้านไม่มีกะจิตกะใจจะทำมันเอาเสียเลย คิดถึงวันเวลาที่แสนหวาน ที่ๆมีร่างสูงของอีกคนอยู่ข้างกาย คงไม่มีวันนั้นอีกแล้วสินะ ซบหน้าลงบนเคาน์เตอร์สะกดกลั้นน้ำตาที่พาลจะไหลเมื่อคิดถึงเรื่องของอีกคน
    ในทางตรงกันข้าม ฮันคยองจะรู้มั๊ยนะว่าไม่ใช่เพียงเค้าที่ทรมานแบบนั้นเหมือนกัน หากแต่ถ้าสังเกตไปยังฝั่งตรงข้ามร้านตัวเองสักนิด ก็คงจะเห็นคนตัวโตนั่งมองมายังร้านของอีกคนจนกระทั่งปิดร้านกลับบ้านไปนั่นแหละ ก็เพื่อจะมั่นใจว่าร่างบางที่เค้าแต่คิดถึงกลับถึงบ้านอย่างสวัสดิภาพ!!
    .
    .
    "ชีวอน....ฉันโทรหานายตั้งหลายหนแน่ะ ทำไมไม่ยอมรับสายหล่ะ"พูดอย่างงอนๆ ใส่จริตมารยาลงไปอีกนิดเพื่อให้ร่างสูงตรงหน้าหันมาสนใจ
    "เอาแขนออกไปนะยุนอา"เหลือบมองด้วยหางตา พลางดึงแขนบางออกจากเอวอย่างไม่ใยดี
    "อย่าทำอย่างนี้สิ ชีวอน.. นายจะไปคิดถึงเค้าอีกทำไมทั้งๆที่เค้าทำนายเจ็บซะขนาดนั้น"
    "ถึงเค้าจะทำให้ฉันเจ็บขนาดไหน แต่เค้าก็เป็นคนเดียวที่ฉันจะรักและจะไม่มีวันเปลี่ยนใจไปรักใครอีกนอกจากฮันคยองคนเดียวเท่านั้น" ตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงเย็นชาจนอีกคนต้องกรีดร้องออกมาอย่างเจ็บแค้น
    "นายมันบ้า โง่ที่สุด ฉันอุตส่าห์ลดตัวมาง้อนาย แต่นายก็ยังปฏิเสธมันอีก"สบถออกมาอย่างเดือดดาน ไม่เข้าใจว่ามันจะอะไรกันนักหนา
    "อยากจะกลับมาคบกับฉันจริงๆเหรอ"ถามออกไป ยิ้มเยาะเล็กๆ ที่ริมฝีปากที่อีกคนไม่เห็นมัน
    "งั้นเราก็กลับมาคบกันเถอะ ยุนอา"ดึงร่างบางเข้ามาประทับริมฝีปากเข้ากับริมฝีปากของร่างบางที่ดูจะตกใจไม่น้อยกับอารมณ์ที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วของคนตรงหน้า ร่างสูงขบเม้มริมฝีปากล่างสลับกับริมฝีปากบนอย่างย่ามใจแต่ไม่ได้ล่วงล้ำเข้าไปภายใน แต่นั้นก็เพียงพอที่จำทำให้ร่างบางในอ้อมกอดอ่อนระทวยไปกับรสจูบที่อีกคนสรรสร้างมันขึ้นมาเพื่อจะประชดใครคนหนึ่งที่กำลังเดินใกล้เข้ามาให้เห็นก็เท่านั้น
    .
    .
    .
    TBC.......
    Talk......
    ขอบคุณนะที่เม้นท์กันมา ความจริงก็ไม่คิดว่ามันจะยาวมาถึง 4 ตอนแบบนี้หรอก เหอๆ แต่พิมพ์ไปก็คิดถึงเรื่องซีฮันไป เฮ้อเครียด....พอรู้ว่าฮันที่รักจะต้องร้องเพลงคู่กับเจ๊จาง แล้วมันเครียด ไม่ได้แอนตี้หรอก แต่แค่ไม่ชอบเฉยๆ หึหึหึ
    ฟิคพักหลังๆมานี่ อินิ่ก็เลยแต่งมันด้วยความเก็บกดเล็กน้อยถึงปานกลาง (คิดไม่ออกด้วยแหละ)จะเรียกว่าแอบจิตก็ว่าได้ แต่ใกล้จะจบแล้วแหละ (ถ้าอิคนแต่งมันไม่เพิ่มอะไรเข้าไปอีกอ่ะนะ)
    พักหลังๆรู้สึกว่าเรื่องซีฮันจะเงียบๆอ่ะ (รึป่าว)เฮ้อ........
    ป.ล. รักซีฮันแล้วก็คนอ่านมากที่สุดในโลก
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×