ลำดับตอนที่ #2
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : Love Inspired....Chapter 2
Love Inspired....Chapter 2
เสียงตะโกนร้องเพลงที่ดังขึ้น จนคิดว่าอีกไม่นานไอ้คนร้องมันคงจะกล่องเสียงอักเสบกันไปข้าง ทำให้ใครบางคนที่เพลิดเพลินกับการนอนกลางวันอย่างฮันคยองต้องจำใจตื่นขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้
"เลิกตะโกนแหกปากสักที คนจะนอนโว้ย" เดินกระทืบเท้าไปหยุดยืนตะโกนอยู่หน้าระเบียงที่อยู่ตรงกันข้ามกับห้องของไอ้เด็กกวนประสาท
วันหยุดแบบนี้แทนที่จะได้พักอย่างสบายใจ แต่ตราบใดที่ยังมีไอ้เด็กบ้านี้อยู่ข้างบ้านแล้วหล่ะก็
....มันก็คงเป็นวันหยุดที่สุดแสนจะทรมานที่สุดเลยก็ว่าได้.......
"พี่เลิกนอนได้แล้ว มาฟังผมร้องเพลงดีกว่า"ชีวอนตะโกนตอบกลับมากวักมือเรียก ไอ้เสียงที่มันแหกปากร้องอยู่ก็ไม่เท่าไรหรอก แต่ไอ้เสียงกลองที่มันทำดนตรีคลอไปด้วยนี่มันอาร๊ายยยย
......หนวกหูชะมัด!!!........
"ให้ฉันฟังหมามันเห่ายังดีกว่าให้ฉันฟังนายร้องเพลงซะอีก"ตอกกลับไปอย่างแสบๆคันๆ ชอบใจที่เห็นชีวอนยืนทำแก้มป่อง ปากยื่น คำด่าเมื่อกี้นี้คงจะได้ผลสินะ แต่อีกสักพักมันก็กลับมากวนเหมือนเดิม
"งั้นผมก็ยอมเป็นหมาก็ได้ พี่จะได้ฟังผมร้องเพลงไง" ไอ้คนที่ยืนทำหน้าบูดอยู่เมื่อตะกี้นี้สวนกลับมาซะจนฮันคยองต้องกระทืบเท้าเร่าๆอีกรอบ ไม่เคยเถียงชนะมันได้เลยให้ตายเถอะ!!
"จะคนหรือจะหมา ฉันก็ไม่ฟังทั้งนั้นแหละ หนวกหู แล้วก็หยุดแหกปากด้วย คนจะนอน" ชี้นิ้วขึ้นขู่อย่างอาฆาต ถ้าไม่ฟังกันก็มีเฮกันบ้างหล่ะทีนี้
"แหม คนสวยดุจัง"
"ไอ้ชีวอน อย่าเรียกฉันแบบนี้นะ" ถลึงตาใส่ไอ้คนปากดี แต่ดูท่ามันจะไม่กลัวเลยแหะ
"ก็ได้ พี่จะนอนก็นอนไปเถอะ ผมไม่กวนแล้ว ว่าแต่จะให้ผมไปนอนเป็นเพื่อนมั๊ย" ยืนยกมือขึ้นเท้าระเบียง ยกยิ้มมุมปากอย่างเป็นต่อ รู้ดีว่าอีกคนคงอยากจะหาอะไรเควี้ยงใส่หัวอยู่ลอมล่ออยู่แล้ว แต่คนมันสุขใจที่ได้แกล้ง เล็กๆน้อยๆก็ยังดี
"ฮึ้ย.......ไอ้บ้า"สะบัดหน้าเดินหนี ปล่อยให้ไอ้เด็กบ้ายืนชะโงกมองอยู่อย่างอารมณ์ดี วันพระไม่ได้มีหนเดียวหรอกนะไอ้ชีวอน ฝากไว้ก่อนเถอะ!!!!
.
.
.
"ฮันคยอง....ไปซื้อของให้ม๊าหน่อยสิจ๊ะ" เสียงผู้เป็นมารดาตะโกนมาจากข้างล่าง ทำเอาคนที่จะหลับแหล่มิหลับแหล่สะดุ้งตื่นขึ้นมาอย่างอารมณ์เสีย
"ฮะ...."ขานรับเสียงยานคาง ขยี้ผมอย่างขัดใจจนหัวฟู ยังไม่ทันได้นอนหลับเต็มตาก็ต้องมาโดนใช้อีกแล้ว เพราะไอ้ชีวอนคนเดียวแท้ๆ ที่ทำให้เค้าหลับไม่เป็นสุขแบบนี้
.
.
.
"โอ๊ย..ทำไมมันหนักอย่างนี้วะ เมื่อยแขนเป็นบ้า" บ่นเป็นกระสาย พลางเดินกระแทกเท้าอย่างพาลๆ นัยน์ตากลมเหล่ไปมองถุงข้าวของที่เพิ่งจะเลือกซื้อมันมาจากซุปเปอร์มาเก็ตที่อยู่ห่างจากบ้านที่เค้าอยู่ร่วม 800 เมตร งานนี้มีแต่เดินกับเดินลูกเดียว
ไอ้ขาไปมันก็ไม่เท่าไรหรอก แต่ขากลับนี่สิ มันมีของที่ถ้ารวมน้ำหนักแล้ว มันหนักรวมกันไม่น้อยกว่า 3 กิโลกรัม ผลมันก็เลยออกมาเป็นอย่างที่เห็น เดินเป๋ไปเป๋มาอย่างกะปูเดิน ไม่ตรงทางสักทีเพราะน้ำหนักที่มันคอยชุดรั้งแขนเล็กให้ลู่ตกลงไปแนบอยู่กับลำตัวชนิดที่ขยับไปไหนแทบไม่ได้เลยทีเดียว
ฟึ่บ.................................
จู่ๆ ก็มีมือปริศนามาดึงถุงข้าวของที่ฮันคยองถือไปจากมือเรียว ร่างบางหันไปมองข้างหลังอย่างตกใจ โจรขโมยกับข้าวงั้นเหรอ!!!!!
"ชีวอน!!"อุทานออกมาอย่างโล่งอก นึกว่าถูกโจรขโมยกับข้าวไปเสียแล้ว
"ก็ใช่หน่ะสิ คิดว่าเจ้าชายที่ไหนหล่ะ"ยังกวนประสาทอีกคนได้อย่างต่อเนื่อง มือหนากระชับถุงให้อยู่ในท่าที่ถือได้อย่างสะดวก
"ไอ้เด็กบ้า ฉันก็นึกว่าขโมยที่ไหนมา ฉกของฉันไปแล้วซะอีก ทีหลังมาหน่ะ หัดให้สุ่มให้เสียงกันบ้างสิ" ขมวดคิ้วเป็นโบว์สวย มือเรียวจิ้มไปที่ศีรษะทุยๆของอีกคนอย่างเอาเรื่อง
"ผมเรียกพี่แล้วนะ พี่นั่นแหละเอาแต่บ่นอยู่ ก็เลยไม่ได้ยินที่ผมเรียกเอง" เถียงขาดใจ จนอีกคนทำหน้างอ
"เอามานี่ ฉันถือเองได้" เชิดหน้าพลางยื่นมือไปแย่งถุงที่อีกคนถือมันไว้แน่นไม่ยอมปล่อย ไม่ได้ขอให้ช่วยสักหน่อย......ชิ
"เมื่อกี้นี้ ใครน๊า~~ บ่นว่าหนักอย่างนั้น เมื่อยแขนอย่างนี้มาตลอดทางเลย อย่าทำเป็นเก่งไปเลยน่า ดูสิมือแดงหมดแล้ว"คว้ามืออีกคนมาจับเอาไว้ พลางถูไปที่มือนิ่มอย่างหยอกล้อ
"ฮึ้ย...นี่นายตามฉันมาตลอดเลยเหรอ"หันขวับไปถลึงตาใส่ไอ้คนที่ยังจับมือเค้าไม่ยอมปล่อย ทั้งๆที่ในมือก็ยังถือถุงหนักๆไว้อยู่ มันสามารถ.....ชเว ชีวอนสามารถ!!!
"ก็ประมาณนั้น"ยักคิ้วให้อย่างมีเชิง แต่อีกคนกลับโกรธจนหน้าบิดเบี้ยว
"แล้วนายไม่คิดจะเดินเข้ามาช่วยถือเลยใช่มั๊ย ปล่อยให้ฉันถือไอ้พวกนี้มาตั้งแต่ซุปเปอร์ฯ โดยที่นายเดินมองเฉยๆ เนี่ยนะ ไอ้คนไม่มีน้ำใจ" ตะโกนใส่หน้าอีกคน ด้วยเสียงที่ชีวอนคิดว่าถ้าเค้ายกมือปิดหูไม่ทัน ทั้งกระดูกโกลน ทั่ง ค้อนในหูคงจะได้ย้ายมาเต้นระบำรวมกันอยู่ที่เดียวกันแน่ๆ....น่ากลัวชะมัด
"ก็ผมบอกแล้วว่าผมเรียกพี่ตั้งนาน พี่ก็ไม่ได้ยิน แล้วพอผมมาช่วยก็กลับโดนด่าอีก พี่นี่มัน....."มองหน้าอีกคนอย่างระอา ทำไมถึงอารมณ์ร้ายอย่างนี้นะ
"ฉันมันทำไม" ยืนเท้าเอวอย่างเอาเรื่อง ยิ่งขัดใจเข้าไปอีกเมื่ออีกคนทำท่าจะเดินหนี
"ชีวอน นายว่าฉันทำไม ฉันมันทำไมพูดให้เคลียร์" คว้าแขนของอีกคนไม่ให้เดินหนีไปอย่างใจหวัง พลางยืนกั้นกางแขนกันอย่างเอาแต่ใจ
"พี่...หยุดได้แล้ว ไร้สาระน่า รีบกลับกันดีกว่า เดี๋ยวคุณป้าจะรอนาน" เอาม่ามี๊สุดที่รักของอีกคนมาอ้าง ฮันคยองได้แต่ทำปากบ่นงุบงิบๆ แต่ก็ยอมถอยเปิดทางให้แต่โดยดี พอจะสงบศึกชอบเอาบุพการีมาอ้างทุกที ไอ้เด็กเจ้าเล่ห์
"ก็แค่นี้" บ่นกับตัวเอง ไม่ให้อีกคนได้ยิน เดี๋ยวมันจะเป็นเรื่องขึ้นมาอีกรอบ แล้วจะไม่ได้กลับกัน
.
.
.
"อ้าว...ชีวอน ไปเป็นเพื่อนพี่เค้าซื้อของเหรอจ๊ะเนี่ย" หันไปทักเด็กหนุ่มที่เดินเข้าบ้านมาพร้อมๆกับลูกชายตัวเอง ทั้งๆที่ มือเรียวยังซอยผักอยู่อย่างชำนาญ
"เปล่าหรอกครับ เราเจอกันกลางทางหน่ะฮะ"ยิ้มให้อย่างนอบน้อม จนอีกคนรู้สึกหมั่นใส้
"มาแล้วก็อยู่ทานข้าวด้วยกันเลยนะจ๊ะ วันนี้ป้าทำกับข้าวไว้เยอะเลย เหมือนรู้ว่าชีวอนจะมาทานด้วยเลยแหน่ะ" พูดอย่างมัดมือชก แต่ก็ทำเอาแขกพิเศษถึงกับยิ้มหน้าบานเป็นจานดาวเทียมเลยทีเดียว
"ดีเหมือนกันครับ ผมไม่ได้ทานฝีมือคุณป้ามานานแล้ว วันนี้คุณแม่ไปต่างจังหวัดด้วย งั้นผมขอฝากท้องไว้ที่นี้เลยนะครับ เดี๋ยวผมไปอาบน้ำก่อน แล้วจะรีบมาชิมฝีมือ" พูดอย่างประจบประแจงจนลูกชายแท้ๆอย่างฮันคยองอยากจะอ้วกออกมาเป็นภาษาจีน
"แหม....ปากหวานเหมือนเดิมนะจ๊ะ งั้นก็ตามสบายเถอะจ๊ะ"ลูบศีรษะเจ้าเด็กขี้ประจบอย่างเอ็นดู แล้วหันไปสั่งให้ลูกชายแท้ๆเดินไปส่งชีวอนที่บ้าน ทั้งๆที่หน้าบ้านก็หันหน้าชนกันแค่นี้
"แต่ม๊าฮะ บ้านชีวอนก็อยู่แค่นี้ ทำไมต้องให้ผมเดินไปส่งหมอนี่ด้วยหล่ะ" ชี้ไปที่ตัวคนที่ยืนยิ้มไม่หุบอยู่อย่างอารมณ์เสีย มีขาก็เดินไปเองสิฟระ!!!
"ฮัน อย่าดื้อสิลูก น้องเค้าอุตส่าห์ช่วยถือของ อย่าใจดำไปหน่อยเลย" ดุเสียงเข้ม จนฮันคยองที่หน้างออยู่แล้วยิ่งงอเข้าไปอีกเท่าตัว เวลานี้ทุกคนที่บ้านถูกเจ้าเด็กนี่ล้างสมองให้ไปเป็นพวกเดียวกับมันหมดแล้วรึไงนะ....อาป๊ากลับมาช่วยผมด้วย!!!
"ก็ได้ฮะ" สะบัดหน้าแล้วเดินนำไปโดยไม่หันกลับไปมองไอ้คนที่เดินตามต้อยๆ อยู่ข้างหลัง
"พี่...ไม่เข้าไปข้างในเหรอ" เดินมาดักข้างหน้า เมื่อเห็นว่าคนที่เดินมาส่งกำลังจะหันหน้าเดินกลับไปทันทีที่มาส่งถึงหน้าบ้านแล้ว
"ไม่!! ตอบอย่างเสียงดังฟังชัด จนอีกคนเบ้หน้าทำปากยื่น
"เข้าไปพักเหนื่อยก่อน" พยักหน้าเอื้อมมือไปรั้งแขนอีกคนจูงให้เดินตามเข้าไปในบ้านอย่างเอาแต่ใจ
"ไม่โว้ย!! บ้านก็อยู่แค่นี้ กะอีแค่เดินมาแค่นี้มันจะเหนื่อยอะไรกัน"สะบัดแขนให้หลุดออกจากการเกาะกุม แต่อีกคนกลับกระชับจับแน่นไม่ยอมให้ข้อมือเล็กหลุดหนีไปได้
"พี่นี่....พูดไม่เพราะเลยนะ พูดแบบนี้เดี๋ยวก็หาสามีไม่ได้หรอก พูดให้มันนุ่มนวลซะบ้างสิ"ทำดุเสียงเข้ม อ่อนใจกับการใช้คำพูดของคนเป็นพี่ซะเหลือเกิน หน้าตาก็ออกจะน่ารักขนาดนี้ แต่การพูดการจาทำไมมันไม่เหมือนใบหน้าหวานๆนี้เลย......ช่างเมะซะจนน่าอ่อนใจ
"อะไรของนาย พูดอะไรของนาย ฉันผู้ชายนะโว้ยจะมาหาสามงสามีอะไร...แล้วถ้าไม่พูดอย่างนี้แล้วจะให้พูดยังไง" ยืดอกยืนเถียงคำไม่ตกฝาก มันน่าจับมาจูบซะให้สิ้นฤทธิ์กันไปข้าง
"เหรอ...."ยกยิ้มมุมปากอย่างขบขัน ถ้ามีกระจกอยู่ในมือตอนนี้อยากจะส่องให้คนอวดดีได้เห็นหน้าตัวเองซะจริงๆว่าพยายามเก๊กแมนขนาดไหน ขอบอกไว้เลยว่าถึงจะพยายามขนาดไหนมันก็ไม่แมนขึ้นหรอกครับพี่!!!
"พี่จะไม่เข้ามาจริงๆใช่ม๊ะ" ถามขึ้นอีกรอบ ฮันคยองเลิกคิ้วให้อย่างกวนๆเป็นคำตอบ
"ดี....งั้นก็" ยังไม่ทันได้ตั้งตัว ก็ถูกเด็กหนุ่มดึงเข้าไปในอ้อมแขนพร้อมกับฝังจมูกโด่งเข้าที่แก้มใส กักเก็บความหอมหวานเข้าไปเสียเต็มปอดก่อนที่จะปล่อยมือออกจากเอวบางที่ยืนตัวแข็งทื่อเพราะความตกใจอยู่ให้เป็นอิสระ
"อะ....ไอ้"พูดตะกุกตะกัก ใบหน้าหวานแดงซ่าน มือเรียวยกขึ้นถูบริเวณที่ถูกขโมยหอมแก้มแรงๆ ไม่นึกว่ามันจะจู่โจมมาแบบไม่ทันได้ตั้งตัวแบบนี้....ถึงกับพูดไม่ออกเลยทีเดียว
"ถูแรงเดี๋ยวก็ช้ำหมดสวยนะพี่....ไว้เจอกันที่บ้านพี่นะฮะ" เผยยิ้มทรงเสน่ห์ให้อีกคนก่อนจะรีบวิ่งหันหลังกลับเข้าบ้านโดยไม่หันไปมองคนที่ยังยืนตัวสั่นอยู่ข้างนอก....กลัวของแถมที่อาจจะลอยมา หากยังขืนยืนอยู่ตรงนั้น
.....ไอ้เด็กฉวยโอกาส แกอย่าหวังว่าจะได้ตายดีเลย!!!...............
.
.
.
"ยังอร่อยเหมือนเดิมเลยนะฮะ"ออกปากชมฝีมือ(ว่าที่)แม่(ยาย)ฮันคยองไม่หยุดปาก มือหนาลูบหน้าท้องแกร่งไปมา พลางเอนตัวเข้ากับพนักพิงอย่างสบายใจ
ตั้งแต่ทานข้าวมา ฮันคยองแทบจะไม่มองหน้าเค้าเลย เรียกว่าไม่สนใจเลยต่างหาก ร่างบางเอาแต่ก้มหน้างุดตักข้าวใส่ปากพลางบ่นงุบงิบไปด้วย ไม่บอกก็รู้ว่าคงบ่นเรื่องเค้าอยู่แน่นอน ล้านเปอร์เซนต์ -*-
"ม๊าฮะ ผมขอขึ้นข้างบนก่อนนะฮะ อยู่แถวนี้แล้วอึดอัดพิกล" เชิดหน้าใส่พร้อมกับเดินขึ้นบันไดไป....ไม่ลืมที่จะประทับฝ่าเท้างามๆลงไปที่หลังเท้าของอีกคนเต็มแรง สำหรับการขโมยหอมแก้มไปเมื่อตอนเย็น....เชอะ!!
"โอ๊ะ!!"ลงไปกุมหลังเท้าตัวเองที่โดนประทุษร้าย พร้อมๆกับเสียงหัวเราะที่ลอยตามลมมา ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าสะใจแค่ไหน
"คุณป้าฮะ ผมว่าพี่เค้าคงจะไม่สบายแน่ๆเลย ผมขอขึ้นไปดูได้มั๊ยฮะ" ส่งรอยยิ้มพิมพ์ใจให้กับผู้เป็นป้า ประจบประแจงจนอีกคนเคลิ้มไปกับมารยาที่เจ้าเด็กเจ้าเล่ห์หว่านมา ไม่รักไม่หลงก็ไม่รู้จะว่ายังไงแล้ว (น่าจับมาเป็นลูกเขยซะจริงๆ( อ๊ะ....ม๊าคิดอะไรออกไป))
"ตามสบายเถอะจ้ะ ป้าฝากด้วยนะ หมู่นี้ไม่รู้เป็นไร มองอารมณ์เสียบ่อยจัง"
"เหรอฮะ...งั้นเดี๋ยวผมขอตัวเลยนะฮะ" โค้งให้อย่างขออนุญาต ดีใจที่ผู้เป็นป้าเปิดทางให้อย่างโจ่งแจ้ง สนับสนุนกันขนาดนี้แล้ว เดี๋ยวจะเสียน้ำใจกันซะเปล่าๆ
.
.
เสียงเคาะประตูที่ดังขึ้น ทำให้ร่างโปร่งบางที่กำลังอาบน้ำอยู่ต้องเงี่ยหูฟัง ทั้งๆที่รู้อยู่ว่าห้องไม่ได้ล็อกม๊าจะเคาะทำไม ??
"ประตูไม่ได้ล็อกฮะ" ตะโกนออกไปสุดเสียง ไม่ได้เอ่ะใจอะไรเลย เสียงประตูที่ปิดลงทำให้ฮันคยองแน่ใจว่าผู้เป็นแม่คงเข้ามาในห้องหรือไม่ก็ออกไปแล้ว มือเรียวจัดการคว้าผ้าขนหนูผืนหนามาห่อหุ้มร่างกายท่อนล่างทันทีที่ชำระร่างกายเสร็จ
"เฮ้ย...เข้ามาได้ไงหน่ะ"สะดุ้งสุดตัวถอยหลังไปหนึ่งก้าวทันทีที่เปิดประตูห้องน้ำออกมาแล้วเห็นไอ้เด็กร่างสูงนอนกลิ้งอยู่บนที่นอนของเค้า ใบหน้าหล่อเหลาฝังลงไปบนหมอนนุ่มเสียกว่าครึ่ง
"อาบน้ำเสร็จแล้วเหรอ ปล่อยให้ผมรอตั้งนานแน่ะ"กวาดสายตาไปยังร่างขาวผ่องที่ยังมีเกล็ดน้ำเกาะพราวระยับอยู่ตามตัว.......มันยั่วกันเห็นๆ ถึงจะเคยเห็นไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง และทุกๆครั้งมันก็ทำให้ใจของเค้าเต้นแรงซะจนกลัวว่ามันจะหลุดออกมาจากตัวเสียให้ได้เลยทีเดียว
"ใครอนุญาตให้เข้ามามิทราบ" เสียงหวานเอ่ยขึ้นพร้อมกับถอยกรูดไปจนติดตู้เสื้อผ้า ใบหน้าหวานเริ่มขึ้นสีระเรื่อ มือบางเอื้อมไปคลำสะเป่ะสะปะ หากแต่สายตายังคงจับจ้องอีกคนอย่างไม่ไว้วางใจ....แล้วทำไมจะต้องกลัวมันขนาดนั้นด้วยนะ ฮันคยอง??
"ก็พี่ไง"ยืดตัวขึ้นนั่งพิงหัวเตียง ชอบใจที่ได้แกล้งคนตัวเล็กให้รนรานเล่น ฮันคยองเมื่อคว้าเสื้อผ้ามาได้แล้วก็รีบเดินตรงเข้าไปในห้องน้ำทันทีก่อนจะออกมาในชุดนอนลายหมีน้อย
"นี่พี่ยังไม่เลิกใส่ชุดนี้อีกเหรอ" อมยิ้มอย่างขบขัน สองปีแล้วกระมังที่เค้าเห็นฮันคยองเอาแต่ใส่ชุดนี้ แต่น่าแปลกที่สภาพของมันยังดูดีอย่างเหลือเชื่อ
"แล้วยุ่งอะไรด้วยหล่ะ ฉันจะใส่ชุดไหนมันก็เรื่องของฉัน" เดินเลี่ยงๆมากระแทกตัวนั่งบนเก้าอี้โต๊ะเครื่องแป้งที่ตั้งอยู่ฝั่งตรงข้าม ต้องรักษาระยะห่างเอาไว้ หากเกิดอะไรขึ้นจะได้ตั้งท่าวิ่งหนีได้ทัน
"ก็ไม่มีอะไรหรอก ก็แค่คิดว่าผมก็ซื้อให้พี่ตั้งนานแล้วก็เท่านั้นเอง" ตอบหน้านิ่ง จนอีกคนนึกขึ้นมาได้.....เออ จริงด้วยสิ ชุดนี้ชีวอนเป็นคนซื้อให้เค้านี่นา
"ฮึ้ย.....แล้วทำไม จะเอาคืนรึไง" พูดตอกกลับไปในมาดนักเลง หาเรื่องอีกคนเหมือนเด็กๆ
"ผมไม่ใช่เด็กน้อยนะที่จะมาทวงของที่ให้ไปเนี่ย" ส่ายหัวเหนื่อยใจกับคนตรงหน้าซะจริง ไม่ยอมโตจริงๆให้ตายเถอะ!
"ผมกลับคิดว่าดีซะอีกที่พี่ใส่มันบ่อยๆ มันเหมือนกับผมกอดพี่ทางอ้อมยังไงไม่รู้" 0 o O โอ้!!หมอนี่มันคิดได้ แทบจะถอดชุดนอนออกมาปาใส่หน้าไอ้คนกวนตรีนนี้เสียจริง หากไม่กลัวว่ามันจะไม่ดีต่อสวัสดิภาพความปลอดภัยของเค้าหล่ะก็ จึงทำได้แต่เพียงนั่งกำหมัดนิ่งเพื่อระงับสติอารมณ์อยากฆ่าเด็ก
"พี่ว่ามั๊ย" เดินมาหาพร้อมกับยื่นหน้าเข้ามาใกล้หน้าหวานของอีกคนอย่างไม่กลัวตาย และแล้วความอดทนที่มีอยู่ก็ขาดพึ่ง
อ๊ากกกกกกกกกก....แก..........ตายซะเถอะ!!!!
.
.
.
.
TBC..................................................................................
เสียงตะโกนร้องเพลงที่ดังขึ้น จนคิดว่าอีกไม่นานไอ้คนร้องมันคงจะกล่องเสียงอักเสบกันไปข้าง ทำให้ใครบางคนที่เพลิดเพลินกับการนอนกลางวันอย่างฮันคยองต้องจำใจตื่นขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้
"เลิกตะโกนแหกปากสักที คนจะนอนโว้ย" เดินกระทืบเท้าไปหยุดยืนตะโกนอยู่หน้าระเบียงที่อยู่ตรงกันข้ามกับห้องของไอ้เด็กกวนประสาท
วันหยุดแบบนี้แทนที่จะได้พักอย่างสบายใจ แต่ตราบใดที่ยังมีไอ้เด็กบ้านี้อยู่ข้างบ้านแล้วหล่ะก็
....มันก็คงเป็นวันหยุดที่สุดแสนจะทรมานที่สุดเลยก็ว่าได้.......
"พี่เลิกนอนได้แล้ว มาฟังผมร้องเพลงดีกว่า"ชีวอนตะโกนตอบกลับมากวักมือเรียก ไอ้เสียงที่มันแหกปากร้องอยู่ก็ไม่เท่าไรหรอก แต่ไอ้เสียงกลองที่มันทำดนตรีคลอไปด้วยนี่มันอาร๊ายยยย
......หนวกหูชะมัด!!!........
"ให้ฉันฟังหมามันเห่ายังดีกว่าให้ฉันฟังนายร้องเพลงซะอีก"ตอกกลับไปอย่างแสบๆคันๆ ชอบใจที่เห็นชีวอนยืนทำแก้มป่อง ปากยื่น คำด่าเมื่อกี้นี้คงจะได้ผลสินะ แต่อีกสักพักมันก็กลับมากวนเหมือนเดิม
"งั้นผมก็ยอมเป็นหมาก็ได้ พี่จะได้ฟังผมร้องเพลงไง" ไอ้คนที่ยืนทำหน้าบูดอยู่เมื่อตะกี้นี้สวนกลับมาซะจนฮันคยองต้องกระทืบเท้าเร่าๆอีกรอบ ไม่เคยเถียงชนะมันได้เลยให้ตายเถอะ!!
"จะคนหรือจะหมา ฉันก็ไม่ฟังทั้งนั้นแหละ หนวกหู แล้วก็หยุดแหกปากด้วย คนจะนอน" ชี้นิ้วขึ้นขู่อย่างอาฆาต ถ้าไม่ฟังกันก็มีเฮกันบ้างหล่ะทีนี้
"แหม คนสวยดุจัง"
"ไอ้ชีวอน อย่าเรียกฉันแบบนี้นะ" ถลึงตาใส่ไอ้คนปากดี แต่ดูท่ามันจะไม่กลัวเลยแหะ
"ก็ได้ พี่จะนอนก็นอนไปเถอะ ผมไม่กวนแล้ว ว่าแต่จะให้ผมไปนอนเป็นเพื่อนมั๊ย" ยืนยกมือขึ้นเท้าระเบียง ยกยิ้มมุมปากอย่างเป็นต่อ รู้ดีว่าอีกคนคงอยากจะหาอะไรเควี้ยงใส่หัวอยู่ลอมล่ออยู่แล้ว แต่คนมันสุขใจที่ได้แกล้ง เล็กๆน้อยๆก็ยังดี
"ฮึ้ย.......ไอ้บ้า"สะบัดหน้าเดินหนี ปล่อยให้ไอ้เด็กบ้ายืนชะโงกมองอยู่อย่างอารมณ์ดี วันพระไม่ได้มีหนเดียวหรอกนะไอ้ชีวอน ฝากไว้ก่อนเถอะ!!!!
.
.
.
"ฮันคยอง....ไปซื้อของให้ม๊าหน่อยสิจ๊ะ" เสียงผู้เป็นมารดาตะโกนมาจากข้างล่าง ทำเอาคนที่จะหลับแหล่มิหลับแหล่สะดุ้งตื่นขึ้นมาอย่างอารมณ์เสีย
"ฮะ...."ขานรับเสียงยานคาง ขยี้ผมอย่างขัดใจจนหัวฟู ยังไม่ทันได้นอนหลับเต็มตาก็ต้องมาโดนใช้อีกแล้ว เพราะไอ้ชีวอนคนเดียวแท้ๆ ที่ทำให้เค้าหลับไม่เป็นสุขแบบนี้
.
.
.
"โอ๊ย..ทำไมมันหนักอย่างนี้วะ เมื่อยแขนเป็นบ้า" บ่นเป็นกระสาย พลางเดินกระแทกเท้าอย่างพาลๆ นัยน์ตากลมเหล่ไปมองถุงข้าวของที่เพิ่งจะเลือกซื้อมันมาจากซุปเปอร์มาเก็ตที่อยู่ห่างจากบ้านที่เค้าอยู่ร่วม 800 เมตร งานนี้มีแต่เดินกับเดินลูกเดียว
ไอ้ขาไปมันก็ไม่เท่าไรหรอก แต่ขากลับนี่สิ มันมีของที่ถ้ารวมน้ำหนักแล้ว มันหนักรวมกันไม่น้อยกว่า 3 กิโลกรัม ผลมันก็เลยออกมาเป็นอย่างที่เห็น เดินเป๋ไปเป๋มาอย่างกะปูเดิน ไม่ตรงทางสักทีเพราะน้ำหนักที่มันคอยชุดรั้งแขนเล็กให้ลู่ตกลงไปแนบอยู่กับลำตัวชนิดที่ขยับไปไหนแทบไม่ได้เลยทีเดียว
ฟึ่บ.................................
จู่ๆ ก็มีมือปริศนามาดึงถุงข้าวของที่ฮันคยองถือไปจากมือเรียว ร่างบางหันไปมองข้างหลังอย่างตกใจ โจรขโมยกับข้าวงั้นเหรอ!!!!!
"ชีวอน!!"อุทานออกมาอย่างโล่งอก นึกว่าถูกโจรขโมยกับข้าวไปเสียแล้ว
"ก็ใช่หน่ะสิ คิดว่าเจ้าชายที่ไหนหล่ะ"ยังกวนประสาทอีกคนได้อย่างต่อเนื่อง มือหนากระชับถุงให้อยู่ในท่าที่ถือได้อย่างสะดวก
"ไอ้เด็กบ้า ฉันก็นึกว่าขโมยที่ไหนมา ฉกของฉันไปแล้วซะอีก ทีหลังมาหน่ะ หัดให้สุ่มให้เสียงกันบ้างสิ" ขมวดคิ้วเป็นโบว์สวย มือเรียวจิ้มไปที่ศีรษะทุยๆของอีกคนอย่างเอาเรื่อง
"ผมเรียกพี่แล้วนะ พี่นั่นแหละเอาแต่บ่นอยู่ ก็เลยไม่ได้ยินที่ผมเรียกเอง" เถียงขาดใจ จนอีกคนทำหน้างอ
"เอามานี่ ฉันถือเองได้" เชิดหน้าพลางยื่นมือไปแย่งถุงที่อีกคนถือมันไว้แน่นไม่ยอมปล่อย ไม่ได้ขอให้ช่วยสักหน่อย......ชิ
"เมื่อกี้นี้ ใครน๊า~~ บ่นว่าหนักอย่างนั้น เมื่อยแขนอย่างนี้มาตลอดทางเลย อย่าทำเป็นเก่งไปเลยน่า ดูสิมือแดงหมดแล้ว"คว้ามืออีกคนมาจับเอาไว้ พลางถูไปที่มือนิ่มอย่างหยอกล้อ
"ฮึ้ย...นี่นายตามฉันมาตลอดเลยเหรอ"หันขวับไปถลึงตาใส่ไอ้คนที่ยังจับมือเค้าไม่ยอมปล่อย ทั้งๆที่ในมือก็ยังถือถุงหนักๆไว้อยู่ มันสามารถ.....ชเว ชีวอนสามารถ!!!
"ก็ประมาณนั้น"ยักคิ้วให้อย่างมีเชิง แต่อีกคนกลับโกรธจนหน้าบิดเบี้ยว
"แล้วนายไม่คิดจะเดินเข้ามาช่วยถือเลยใช่มั๊ย ปล่อยให้ฉันถือไอ้พวกนี้มาตั้งแต่ซุปเปอร์ฯ โดยที่นายเดินมองเฉยๆ เนี่ยนะ ไอ้คนไม่มีน้ำใจ" ตะโกนใส่หน้าอีกคน ด้วยเสียงที่ชีวอนคิดว่าถ้าเค้ายกมือปิดหูไม่ทัน ทั้งกระดูกโกลน ทั่ง ค้อนในหูคงจะได้ย้ายมาเต้นระบำรวมกันอยู่ที่เดียวกันแน่ๆ....น่ากลัวชะมัด
"ก็ผมบอกแล้วว่าผมเรียกพี่ตั้งนาน พี่ก็ไม่ได้ยิน แล้วพอผมมาช่วยก็กลับโดนด่าอีก พี่นี่มัน....."มองหน้าอีกคนอย่างระอา ทำไมถึงอารมณ์ร้ายอย่างนี้นะ
"ฉันมันทำไม" ยืนเท้าเอวอย่างเอาเรื่อง ยิ่งขัดใจเข้าไปอีกเมื่ออีกคนทำท่าจะเดินหนี
"ชีวอน นายว่าฉันทำไม ฉันมันทำไมพูดให้เคลียร์" คว้าแขนของอีกคนไม่ให้เดินหนีไปอย่างใจหวัง พลางยืนกั้นกางแขนกันอย่างเอาแต่ใจ
"พี่...หยุดได้แล้ว ไร้สาระน่า รีบกลับกันดีกว่า เดี๋ยวคุณป้าจะรอนาน" เอาม่ามี๊สุดที่รักของอีกคนมาอ้าง ฮันคยองได้แต่ทำปากบ่นงุบงิบๆ แต่ก็ยอมถอยเปิดทางให้แต่โดยดี พอจะสงบศึกชอบเอาบุพการีมาอ้างทุกที ไอ้เด็กเจ้าเล่ห์
"ก็แค่นี้" บ่นกับตัวเอง ไม่ให้อีกคนได้ยิน เดี๋ยวมันจะเป็นเรื่องขึ้นมาอีกรอบ แล้วจะไม่ได้กลับกัน
.
.
.
"อ้าว...ชีวอน ไปเป็นเพื่อนพี่เค้าซื้อของเหรอจ๊ะเนี่ย" หันไปทักเด็กหนุ่มที่เดินเข้าบ้านมาพร้อมๆกับลูกชายตัวเอง ทั้งๆที่ มือเรียวยังซอยผักอยู่อย่างชำนาญ
"เปล่าหรอกครับ เราเจอกันกลางทางหน่ะฮะ"ยิ้มให้อย่างนอบน้อม จนอีกคนรู้สึกหมั่นใส้
"มาแล้วก็อยู่ทานข้าวด้วยกันเลยนะจ๊ะ วันนี้ป้าทำกับข้าวไว้เยอะเลย เหมือนรู้ว่าชีวอนจะมาทานด้วยเลยแหน่ะ" พูดอย่างมัดมือชก แต่ก็ทำเอาแขกพิเศษถึงกับยิ้มหน้าบานเป็นจานดาวเทียมเลยทีเดียว
"ดีเหมือนกันครับ ผมไม่ได้ทานฝีมือคุณป้ามานานแล้ว วันนี้คุณแม่ไปต่างจังหวัดด้วย งั้นผมขอฝากท้องไว้ที่นี้เลยนะครับ เดี๋ยวผมไปอาบน้ำก่อน แล้วจะรีบมาชิมฝีมือ" พูดอย่างประจบประแจงจนลูกชายแท้ๆอย่างฮันคยองอยากจะอ้วกออกมาเป็นภาษาจีน
"แหม....ปากหวานเหมือนเดิมนะจ๊ะ งั้นก็ตามสบายเถอะจ๊ะ"ลูบศีรษะเจ้าเด็กขี้ประจบอย่างเอ็นดู แล้วหันไปสั่งให้ลูกชายแท้ๆเดินไปส่งชีวอนที่บ้าน ทั้งๆที่หน้าบ้านก็หันหน้าชนกันแค่นี้
"แต่ม๊าฮะ บ้านชีวอนก็อยู่แค่นี้ ทำไมต้องให้ผมเดินไปส่งหมอนี่ด้วยหล่ะ" ชี้ไปที่ตัวคนที่ยืนยิ้มไม่หุบอยู่อย่างอารมณ์เสีย มีขาก็เดินไปเองสิฟระ!!!
"ฮัน อย่าดื้อสิลูก น้องเค้าอุตส่าห์ช่วยถือของ อย่าใจดำไปหน่อยเลย" ดุเสียงเข้ม จนฮันคยองที่หน้างออยู่แล้วยิ่งงอเข้าไปอีกเท่าตัว เวลานี้ทุกคนที่บ้านถูกเจ้าเด็กนี่ล้างสมองให้ไปเป็นพวกเดียวกับมันหมดแล้วรึไงนะ....อาป๊ากลับมาช่วยผมด้วย!!!
"ก็ได้ฮะ" สะบัดหน้าแล้วเดินนำไปโดยไม่หันกลับไปมองไอ้คนที่เดินตามต้อยๆ อยู่ข้างหลัง
"พี่...ไม่เข้าไปข้างในเหรอ" เดินมาดักข้างหน้า เมื่อเห็นว่าคนที่เดินมาส่งกำลังจะหันหน้าเดินกลับไปทันทีที่มาส่งถึงหน้าบ้านแล้ว
"ไม่!! ตอบอย่างเสียงดังฟังชัด จนอีกคนเบ้หน้าทำปากยื่น
"เข้าไปพักเหนื่อยก่อน" พยักหน้าเอื้อมมือไปรั้งแขนอีกคนจูงให้เดินตามเข้าไปในบ้านอย่างเอาแต่ใจ
"ไม่โว้ย!! บ้านก็อยู่แค่นี้ กะอีแค่เดินมาแค่นี้มันจะเหนื่อยอะไรกัน"สะบัดแขนให้หลุดออกจากการเกาะกุม แต่อีกคนกลับกระชับจับแน่นไม่ยอมให้ข้อมือเล็กหลุดหนีไปได้
"พี่นี่....พูดไม่เพราะเลยนะ พูดแบบนี้เดี๋ยวก็หาสามีไม่ได้หรอก พูดให้มันนุ่มนวลซะบ้างสิ"ทำดุเสียงเข้ม อ่อนใจกับการใช้คำพูดของคนเป็นพี่ซะเหลือเกิน หน้าตาก็ออกจะน่ารักขนาดนี้ แต่การพูดการจาทำไมมันไม่เหมือนใบหน้าหวานๆนี้เลย......ช่างเมะซะจนน่าอ่อนใจ
"อะไรของนาย พูดอะไรของนาย ฉันผู้ชายนะโว้ยจะมาหาสามงสามีอะไร...แล้วถ้าไม่พูดอย่างนี้แล้วจะให้พูดยังไง" ยืดอกยืนเถียงคำไม่ตกฝาก มันน่าจับมาจูบซะให้สิ้นฤทธิ์กันไปข้าง
"เหรอ...."ยกยิ้มมุมปากอย่างขบขัน ถ้ามีกระจกอยู่ในมือตอนนี้อยากจะส่องให้คนอวดดีได้เห็นหน้าตัวเองซะจริงๆว่าพยายามเก๊กแมนขนาดไหน ขอบอกไว้เลยว่าถึงจะพยายามขนาดไหนมันก็ไม่แมนขึ้นหรอกครับพี่!!!
"พี่จะไม่เข้ามาจริงๆใช่ม๊ะ" ถามขึ้นอีกรอบ ฮันคยองเลิกคิ้วให้อย่างกวนๆเป็นคำตอบ
"ดี....งั้นก็" ยังไม่ทันได้ตั้งตัว ก็ถูกเด็กหนุ่มดึงเข้าไปในอ้อมแขนพร้อมกับฝังจมูกโด่งเข้าที่แก้มใส กักเก็บความหอมหวานเข้าไปเสียเต็มปอดก่อนที่จะปล่อยมือออกจากเอวบางที่ยืนตัวแข็งทื่อเพราะความตกใจอยู่ให้เป็นอิสระ
"อะ....ไอ้"พูดตะกุกตะกัก ใบหน้าหวานแดงซ่าน มือเรียวยกขึ้นถูบริเวณที่ถูกขโมยหอมแก้มแรงๆ ไม่นึกว่ามันจะจู่โจมมาแบบไม่ทันได้ตั้งตัวแบบนี้....ถึงกับพูดไม่ออกเลยทีเดียว
"ถูแรงเดี๋ยวก็ช้ำหมดสวยนะพี่....ไว้เจอกันที่บ้านพี่นะฮะ" เผยยิ้มทรงเสน่ห์ให้อีกคนก่อนจะรีบวิ่งหันหลังกลับเข้าบ้านโดยไม่หันไปมองคนที่ยังยืนตัวสั่นอยู่ข้างนอก....กลัวของแถมที่อาจจะลอยมา หากยังขืนยืนอยู่ตรงนั้น
.....ไอ้เด็กฉวยโอกาส แกอย่าหวังว่าจะได้ตายดีเลย!!!...............
.
.
.
"ยังอร่อยเหมือนเดิมเลยนะฮะ"ออกปากชมฝีมือ(ว่าที่)แม่(ยาย)ฮันคยองไม่หยุดปาก มือหนาลูบหน้าท้องแกร่งไปมา พลางเอนตัวเข้ากับพนักพิงอย่างสบายใจ
ตั้งแต่ทานข้าวมา ฮันคยองแทบจะไม่มองหน้าเค้าเลย เรียกว่าไม่สนใจเลยต่างหาก ร่างบางเอาแต่ก้มหน้างุดตักข้าวใส่ปากพลางบ่นงุบงิบไปด้วย ไม่บอกก็รู้ว่าคงบ่นเรื่องเค้าอยู่แน่นอน ล้านเปอร์เซนต์ -*-
"ม๊าฮะ ผมขอขึ้นข้างบนก่อนนะฮะ อยู่แถวนี้แล้วอึดอัดพิกล" เชิดหน้าใส่พร้อมกับเดินขึ้นบันไดไป....ไม่ลืมที่จะประทับฝ่าเท้างามๆลงไปที่หลังเท้าของอีกคนเต็มแรง สำหรับการขโมยหอมแก้มไปเมื่อตอนเย็น....เชอะ!!
"โอ๊ะ!!"ลงไปกุมหลังเท้าตัวเองที่โดนประทุษร้าย พร้อมๆกับเสียงหัวเราะที่ลอยตามลมมา ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าสะใจแค่ไหน
"คุณป้าฮะ ผมว่าพี่เค้าคงจะไม่สบายแน่ๆเลย ผมขอขึ้นไปดูได้มั๊ยฮะ" ส่งรอยยิ้มพิมพ์ใจให้กับผู้เป็นป้า ประจบประแจงจนอีกคนเคลิ้มไปกับมารยาที่เจ้าเด็กเจ้าเล่ห์หว่านมา ไม่รักไม่หลงก็ไม่รู้จะว่ายังไงแล้ว (น่าจับมาเป็นลูกเขยซะจริงๆ( อ๊ะ....ม๊าคิดอะไรออกไป))
"ตามสบายเถอะจ้ะ ป้าฝากด้วยนะ หมู่นี้ไม่รู้เป็นไร มองอารมณ์เสียบ่อยจัง"
"เหรอฮะ...งั้นเดี๋ยวผมขอตัวเลยนะฮะ" โค้งให้อย่างขออนุญาต ดีใจที่ผู้เป็นป้าเปิดทางให้อย่างโจ่งแจ้ง สนับสนุนกันขนาดนี้แล้ว เดี๋ยวจะเสียน้ำใจกันซะเปล่าๆ
.
.
เสียงเคาะประตูที่ดังขึ้น ทำให้ร่างโปร่งบางที่กำลังอาบน้ำอยู่ต้องเงี่ยหูฟัง ทั้งๆที่รู้อยู่ว่าห้องไม่ได้ล็อกม๊าจะเคาะทำไม ??
"ประตูไม่ได้ล็อกฮะ" ตะโกนออกไปสุดเสียง ไม่ได้เอ่ะใจอะไรเลย เสียงประตูที่ปิดลงทำให้ฮันคยองแน่ใจว่าผู้เป็นแม่คงเข้ามาในห้องหรือไม่ก็ออกไปแล้ว มือเรียวจัดการคว้าผ้าขนหนูผืนหนามาห่อหุ้มร่างกายท่อนล่างทันทีที่ชำระร่างกายเสร็จ
"เฮ้ย...เข้ามาได้ไงหน่ะ"สะดุ้งสุดตัวถอยหลังไปหนึ่งก้าวทันทีที่เปิดประตูห้องน้ำออกมาแล้วเห็นไอ้เด็กร่างสูงนอนกลิ้งอยู่บนที่นอนของเค้า ใบหน้าหล่อเหลาฝังลงไปบนหมอนนุ่มเสียกว่าครึ่ง
"อาบน้ำเสร็จแล้วเหรอ ปล่อยให้ผมรอตั้งนานแน่ะ"กวาดสายตาไปยังร่างขาวผ่องที่ยังมีเกล็ดน้ำเกาะพราวระยับอยู่ตามตัว.......มันยั่วกันเห็นๆ ถึงจะเคยเห็นไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง และทุกๆครั้งมันก็ทำให้ใจของเค้าเต้นแรงซะจนกลัวว่ามันจะหลุดออกมาจากตัวเสียให้ได้เลยทีเดียว
"ใครอนุญาตให้เข้ามามิทราบ" เสียงหวานเอ่ยขึ้นพร้อมกับถอยกรูดไปจนติดตู้เสื้อผ้า ใบหน้าหวานเริ่มขึ้นสีระเรื่อ มือบางเอื้อมไปคลำสะเป่ะสะปะ หากแต่สายตายังคงจับจ้องอีกคนอย่างไม่ไว้วางใจ....แล้วทำไมจะต้องกลัวมันขนาดนั้นด้วยนะ ฮันคยอง??
"ก็พี่ไง"ยืดตัวขึ้นนั่งพิงหัวเตียง ชอบใจที่ได้แกล้งคนตัวเล็กให้รนรานเล่น ฮันคยองเมื่อคว้าเสื้อผ้ามาได้แล้วก็รีบเดินตรงเข้าไปในห้องน้ำทันทีก่อนจะออกมาในชุดนอนลายหมีน้อย
"นี่พี่ยังไม่เลิกใส่ชุดนี้อีกเหรอ" อมยิ้มอย่างขบขัน สองปีแล้วกระมังที่เค้าเห็นฮันคยองเอาแต่ใส่ชุดนี้ แต่น่าแปลกที่สภาพของมันยังดูดีอย่างเหลือเชื่อ
"แล้วยุ่งอะไรด้วยหล่ะ ฉันจะใส่ชุดไหนมันก็เรื่องของฉัน" เดินเลี่ยงๆมากระแทกตัวนั่งบนเก้าอี้โต๊ะเครื่องแป้งที่ตั้งอยู่ฝั่งตรงข้าม ต้องรักษาระยะห่างเอาไว้ หากเกิดอะไรขึ้นจะได้ตั้งท่าวิ่งหนีได้ทัน
"ก็ไม่มีอะไรหรอก ก็แค่คิดว่าผมก็ซื้อให้พี่ตั้งนานแล้วก็เท่านั้นเอง" ตอบหน้านิ่ง จนอีกคนนึกขึ้นมาได้.....เออ จริงด้วยสิ ชุดนี้ชีวอนเป็นคนซื้อให้เค้านี่นา
"ฮึ้ย.....แล้วทำไม จะเอาคืนรึไง" พูดตอกกลับไปในมาดนักเลง หาเรื่องอีกคนเหมือนเด็กๆ
"ผมไม่ใช่เด็กน้อยนะที่จะมาทวงของที่ให้ไปเนี่ย" ส่ายหัวเหนื่อยใจกับคนตรงหน้าซะจริง ไม่ยอมโตจริงๆให้ตายเถอะ!
"ผมกลับคิดว่าดีซะอีกที่พี่ใส่มันบ่อยๆ มันเหมือนกับผมกอดพี่ทางอ้อมยังไงไม่รู้" 0 o O โอ้!!หมอนี่มันคิดได้ แทบจะถอดชุดนอนออกมาปาใส่หน้าไอ้คนกวนตรีนนี้เสียจริง หากไม่กลัวว่ามันจะไม่ดีต่อสวัสดิภาพความปลอดภัยของเค้าหล่ะก็ จึงทำได้แต่เพียงนั่งกำหมัดนิ่งเพื่อระงับสติอารมณ์อยากฆ่าเด็ก
"พี่ว่ามั๊ย" เดินมาหาพร้อมกับยื่นหน้าเข้ามาใกล้หน้าหวานของอีกคนอย่างไม่กลัวตาย และแล้วความอดทนที่มีอยู่ก็ขาดพึ่ง
อ๊ากกกกกกกกกก....แก..........ตายซะเถอะ!!!!
.
.
.
.
TBC..................................................................................
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น