คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #11 : Love Inspired....Chapter 11
Love Inspired...Chapter 11
.
.
.
บรรยากาศที่ดูอึมครึมชวนอึดอัดบนโต๊ะอาหารขนาดใหญ่ภายในคฤหาสถ์หลังงามของตระกูลคิม ทำให้แขกผู้มาใหม่ถึงกับนั่งตัวเกรง นัยน์ตากลมเหลือบมองไปทางซ้ายทีขวาทีอย่างหวาดระแวง
นึกแล้วก็ยังตกใจไม่หาย ที่จู่ๆก็ถูกพาตัวมาที่นี่โดยที่ยังไม่ทันได้ตั้งตัว จะว่าไปแล้วมันน่าเหลือเชื่อเหลือเกินในความคิดของอีทึก ถูกบอกรักอย่างกระทันหันจากคนที่ตัวเค้าเองไม่คิดว่าจะได้ยินคำๆนั้นออกมาจากปากของคังอิน นี่คือเรื่องที่หนึ่ง
อีกเรื่องหนึ่งนั่นก็คือที่ๆเค้ากำลังเผชิญชะตากรรมอยู่ในตอนนี้ พ่อของคังอินกำลังมองเค้าอย่างชนิดที่ไม่ใคร่จะสนใจมารยาทในเรื่องการพบกันครั้งแรก สายตาคมมองสำรวจตั้งแต่หัวจรดเท้าแล้วก็กลับมามองที่ใบหน้าหวานใหม่อีกรอบ
อีทึกลอบกลืนน้ำลายเหนียวหนืดลงคออย่างยากลำบาก ภายในใจเต็มไปด้วยความรู้สึกที่เรียกว่ากดดันอย่างหนัก ผิดกับคนตัวสูงที่ยังคงนั่งอย่างสบายอารมณ์ นิ้วเรียวเคาะโต๊ะไม้สักทองเนื้อดีไปมาพลางฮัมเพลงออกมาตอนรออาหารมาเสิร์ฟ ไม่ได้หันมาดูหน้าคนตัวเล็กเล๊ย ว่ามันซีดเหมือนกระดาษดับเบิลเอขนาดไหน
"บ้านอยู่แถวไหน" จู่ๆเสียงทุ้มดูมีอายุก็เอ่ยถามขึ้นมาหลังเล่นสงครามทางประสาทกันอยู่ครู่ใหญ่
"เอ่อ...คือ ถะ...แถวดงแดมุน..ครับ" ตอบเสียงสั่นเมื่อนัยน์ตาสวยเผลอไปสบเข้ากับสายตาคมที่มองมา แผ่นหลังบางเริ่มมีเหงื่อชื้นผุดขึ้นมาจนรู้สึกได้
"แล้วเรียนอยู่ชั้นไหนแล้วหล่ะ" ยิงคำถามออกไปอีกรอบ แต่ก็ลดน้ำเสียงอ่อนลงเล็กน้อยเมื่อเห็นว่าแขกพิเศษของลูกชายกำลังสั่นด้วยความกลัว
"ม. ปะ..ปลาย ปี.. 2 ครับ" นิ้วเรียวสะกิดเข้ากับต้นขาของร่างสูงอย่างขอความช่วยเหลือ คังอินเหล่ตามามองก่อนจะจับมือเล็กมากุมเอาไว้พลางตีแปะๆลงบนต้นขาตัวเองเป็นเชิงหยอกเล่น....มันไม่ได้ช่วยทำให้อีกคนรู้สึกดีขึ้นได้เลยนะคังอิน -_-"
"ม. ปลายปี 2 แก่กว่าคังอิน" เป็นประโยคบอกเล่าที่ทำเอาคนฟังถึงกับสะอึก คังอินกลั้นหัวเราะเอาไว้ทันก่อนที่ผู้เป็นพ่อจะหันมามอง พลางทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ต่อไปจนอีทึกสงสัยว่า...มันจะพาเค้ามาทำไมกัน.....
"คิดยังไงถึงได้มาคบกับลูกชายของฉัน" เป็นคำถามที่ทำเอาอีทึกรู้สึกเหมือนโดนมีดสปาต้าแทงเข้าที่ลิ้นปี่...ได้ข่าวว่าลูกลุงเองไม่ใช่เหรอคร๊าบบบบ ที่มาขอผมคบก่อนหน่ะ.....-*-
"คือผม..เอ่อ"เหมือนก้อนอะไรวิ่งขึ้นมาจุกอยู่บริเวณลิ้นปี่ อีทึกเบ้หน้าออกมาน้อยๆ ไม่ให้คนสูงวัยสังเกตเห็นก่อนจะตอบออกไป
"ผมคิดว่า.."
"พ่อเลิกแกล้งอีทึกได้แล้วหล่ะครับ ดูสิจะร้องไห้อยู่แล้วเนี่ย" จู่ๆเสียงสวรรค์ก็ดังขึ้นมา อีทึกหันหน้าไปมองอย่างขอบคุณสุดซึ้ง ก่อนจะก้มหน้างุดเมื่อชายวัยกลางคนกระแอมขัดขึ้นมาเสียก่อน
"อีทึก"
"ครับ" สะดุ้งโหยง รีบขานรับเสียงสั่น ใกล้จะหมดความอดทนแล้ว อิทึกคิด
"ทำตัวตามสบายเถอะ พ่อก็แกล้งไปแบบนี้นเเแหละ" จู่ๆ คนฟอร์มจัดก็ถึงกับต่อมฮาแตก อีทึกหันไปมองสองพ่อลูกที่หัวเราะกันออกมาโดยไม่คิดจะรักษาภาพพจน์ผู้ดีมีสกุลแล้วก็เข้าใจในทันที เค้าโดนสองพ่อลูกนี่แกล้งเหรอนี่!!....นิสัยเหมือนกันทั้งพ่อทั้งลูก......
"อย่าคิดมาก พ่อก็แกล้งไปตามประสาคนแก่นั่นแหละ เห็นเรานั่งนิ่งแล้วมันอดแกล้งไม่ได้" เอ่ยออกมาทั้งๆที่ยังไม่หยุดหัวเราะ อิทึกอึ้งไปครู่ใหญ่ก่อนจะยิ้มออกมาให้ตามมารยาท(นางฟ้า) แต่ในใจมันอยากจะหาอะไรเควี้ยงลงไปที่สมองช่างคิดนั่นนัก(อ้าวเวร...นางฟ้ากลายเป็นนางมารร้ายไปซะแระ)
"อ่า~~...งั้นหรอกเหรอครับ" ยิ้มหวานออกไปให้ก่อนจะตวัดสายตานางพญามารไปให้ร่างสูงที่นั่งอยู่ข้างๆ
"อ่า...อีทึกอ่า ขำๆน่าอย่าคิดมาก" มือแกร่งเอื้อมไปโอบเอวบางอย่างเอาใจก่อนจะโยกไปมาเพื่อของ้อคนตัวเล็กให้หายโกรธ
"อย่าไปโกรธเจ้ายองอุนมันเลย มันก็เป็นคนอย่างนี้แหละ" พูดพลางยกมือขึ้นวางกับพื้นโต๊ะ สายตาที่มองมาผิดกับครั้งแรกที่อีทึกเห็นอย่างสิ้นเชิง ในตอนนี้มีแต่สายตาที่เต็มไปด้วยความรักใคร่ เอ็นดู จนคนตัวเล็กรู้สึกใจชื้นขึ้นมาทีละน้อย (ก็แน่หล่ะ ว่าที่ลูกสะไภ้สวยซะขนาดนั้น : อันนี้ความคิดของคุณพ่อ)
"อ้อ..ไม่หรอกครับ ผมรู้นิสัยเค้าดี ว่าเป็นยังไง" พูดกัดออกมาเล็กๆ คังอินยู่หน้าขัดใจเล็กน้อยก่อนจะปล่อยมือออกจากเอวบางเมื่อเห็นผู้เป็นมารดาเดินลงมาจากห้องชั้นบน
"โทษทีที่ลงมาช้าแต่.." มองมาที่ร่างบางตาไม่กระพริบ ก่อนจะเดินมานั่งทางฝั่งตรงข้าม อีทึกนั่งอึ้งไปเล็กน้อยก่อนจะนึกขึ้นได้ ว่าควรจะทำอย่างไร
"เอ่อ...สวัสดีครับคุณหญิงผมปาร์ค จองซูครับ"
"แฟนยองอุนมันหน่ะ" คนเป็นพ่อช่วยเสริมต่อท้ายให้ อีทึกหน้าแดงเล็กน้อยก่อนจะก้มลงนั่งดังเดิม เมื่อผู้เป็นใหญ่ที่สุดในบ้านพยักหน้าให้นั่งลง
"แฟน??....ผู้ชาย??" ยกเสียงสูงอย่างไม่อยากจะเชื่อ สายตาเรียวไล่มองวงหน้าหวานลงมาเรื่อยๆจนถึงปลายเท้าก่อนจะเอ่ยขึ้นมาอีก
"เป็นแฟนของยองอุนงั้นเหรอ" ถามด้วยสุ่มเสียงดูถูกจนคนตัวเล็กหน้าถอดสี รวมทั้งคังอินก็ด้วย
"มันจะเป็นอะไรไป ไม่เห็นจะแปลก เดี๋ยวนี้เค้าก็มีกันตั้งเยอะแยะไป เชยจริงคุณนี่" กลายเป็นผู้เป็นพ่อที่เถียงขึ้นแทน คังอินเงยหน้าไปมองก่อนจะอมยิ้มออกมาน้อยๆ กับความทันสมัยของผู้เป็นพ่อ
"แปลกสิ แปลกมากเลยด้วย คุณไม่คิดเหรอว่าใครเค้าจะมองกันยังไง ที่ลูกชายเรา..."หยุดเว้นหายใจไปอึดใจใหญ่ก่อนจะพูดประโยคที่เหลือออกมา
"หน้าตาอย่างยองอุนมันจะหาแฟนได้น่ารักขนาดนี้เนี่ยคุณ" เป็นคำตอบที่ทำให้อีทึกถึงกับทำตาโตด้วยความผิดคาด ครอบครัวนี้น่ากลัวจริงๆ ตั้งแต่พ่อ..แม่...ยันลูกชาย ช่างเสี่ยมสอนกันมา T^T
"เห็นยองอุนคุยให้ฟังอยู่บ่อยๆ ไม่คิดว่าตัวจริงจะน่ารักกว่าที่คิดเอาไว้เสียอีก"เอ่ยชมเปราะ มือเรียวยกขึ้นปิดเสียงหัวเราะอันแหลมเล็กของตัวเองอย่างมีจริต อีทึกยิ้มแห้งๆ ตอบกลับไปก่อนจะทำหน้าเซ็งโลกออกมา มือบางยกขึ้นปาดเหงื่อชื้นที่ขมับเบาๆ มาบ้านนี้ไม่ถึงสองชั่วโมงก็มีอันต้องมึนไปแปดน็อค
...เล่นอำกันไม่ยั้งแบบนี้ ถึงกับไบ้กินกันเลยทีเดียว อยากเอาหัวโหม่งพื้นตายวันละแปดรอบจริงๆ....
.
.
.
สายลมเย็นๆที่ลอยมาประทะแก้มของร่างสูงที่ยังคงนั่งอยู่ตรงที่เดิม ณ สวนสาธารณะแห่งนี้ มือเรียวยกขึ้นบีบไหล่ตัวเองไปมา ความรู้สึกขัดตอนที่ถูกอีกคนเหวี่ยงลงไปนั่งกับพื้นยังไม่จางหายไปแต่อย่างใด
มือแกร่งล้วงลึกเข้าไปในกระเป๋าสะพายของตัวเองเพื่อหาพลาสเตอร์มาปิดแผลบริเวณอุ้งมือ ก่อนที่ปลายนิ้วจะสะดุดอยู่กับอะไรบางอย่างที่อยู่ในกระเป๋า
"อะไรเนี่ย" ยกจี้คอเส้นเล็กมาดู คิ้วเรียวขมวดเข้าหากันอย่างครุ่นคิด ของใครกัน?? แล้วมันมาอยู่ในกระเป๋าของเค้าได้ยังไงกัน??
เสียงโทรศัพท์ที่ดังขึ้นทำให้คยูฮยอนละสายตาออกจากจี้เส้นบางก่อนจะล้วงมือเข้าไปในกระเป๋ากางเกงแล้วควานหาเครื่องมือสื่อสารที่มันกำลังแผดเสียงอยู่อย่างไม่มีท่าทีว่าจะหยุด
"ว่าไงฮะ"เหล่ตาดูเบอร์ปลายทางก่อนจะกดรับแล้วถามออกไปอย่างเนือยๆ
"เย็นแล้วทำไมยังไม่กลับบ้าน อยู่ไหน??" เสียงแหลมที่กรอกมาตามสายทำให้คนรับยิ่งเบ้หน้าหนักเข้าไปอีก ความเงียบคือคำตอบที่ร่างสูงใช้เป็นประจำเวลาที่จะเลี่ยงคุยกับคนๆนี้
"พี่แกก็เหมือนกัน เดี๋ยวนี้ทำตัวพอกันทั้งพี่ทั้งน้อง.."
"แม่!! บ่นพอยังเนี่ย ถามสักคำมั๊ยว่าทำอะไรอยู่ เอาแต่ด่าๆ แล้วก็ด่า เดี๋ยวก็แก่ก่อนวัยอันควรหรอก" บ่นออกมาอย่างเหนื่อยใจ ปลายสายเงียบไปเล็กน้อยก่อนจะถามขึ้นใหม่ด้วยน้ำเสียงอ่อนลง
"เออ..แล้วทำอะไรอยู่ที่ไหนหล่ะ ทำไมยังไม่กลับบ้าน"
"ทำรายงายอยู่ที่โรงเรียน อีกสักพักก็กลับ" โกหกคำโตออกไป เพราะยังไม่อยากกลับบ้านในตอนนี้ รู้สึกอิจฉาคิบอมเป็นครั้งแรกที่ไม่ต้องมาทนฟังป้าจอมบ่นอยู่ที่บ้านตั้งแต่เลิกเรียนในตอนเย็นยันเข้านอนเหมือนเค้า เพราะอีกคนทำงานพิเศษ กว่าจะกลับก็ดึกพอควรอยู่
"อีกนานมั๊ย แม่จะได้รอ วันนี้พี่แกก็คงกลับค่ำอีกแล้ว เหลือแม่อยู่คนเดียวทั้งปี" พูดออกมาอย่างตัดพ้อ ถ้าอีกคนตั้งใจฟังดีๆแล้วหล่ะก็จะรู้ว่าน้ำเสียงนั้นเจือความน้อยใจไว้ขนาดไหน
ตั้งแต่ลูกชายคนโตเรียน ม. ปลายแล้ว คิบอมแทบจะไม่มีเวลามานั่งทานข้าวกับหล่อนเลย และตอนนี้ดูเหมือนว่าลูกชายคนเล็กก็กำลังจะเจริญรอยตามพี่ชายสุดที่รักไปแล้วซะด้วยสิ
"ใกล้แล้วฮะ แม่ไม่ต้องรอผมหรอก ทานไปก่อนได้เลย" ตอบออกไปอย่างไม่ใส่ใจ แต่ปลายสายก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะยอมง่ายๆ
"ไม่เป็นไร เอาเป็นว่าแม่จะรอแล้วกัน"พูดจบก็ตัดสายไป คยูอ้าปากค้าง ให้กับความเอาแต่ใจตัวเองของผู้เป็นแม่....ไม่รู้ว่าจะหาคำไหนมาเปรียบแล้วให้ตายเถอะ!!
มือเรียวรีบกดโทรหาพี่ชายคนดี หากแต่สัญญาณที่ขึ้นเตือนมาทำให้เค้ารู้ว่าคิบอมคงจะติดสายคุยกับใครบางคนอยู่...ทั้งปีทั้งชาติ ไม่เคยคุย ดันมาคุยเอาอิตอนที่เค้าโทรไปหา...ไอพี่บ้า (สรุปบอมผิด)
ยังไม่ทันจะเก็บเครื่องมือสื่อสารเครื่องจิ๋วลงในกระเป๋า เสียงเมโลดี้ที่แสนคุ้นเคยก็ดังมาเสียก่อน คิบอมโทรกลับมา
"พี่อยู่ไหนอ่ะ"
"โรงพยาบาล" ปลายสายตอบเสียงเรียบ ก่อนจะมีเสียงลากเตียงผ่านหูไป
"ไปทำไมอีกแล้วอ่ะ เพื่อนพี่ยังไม่หายดีรึไงกัน"
"ใช่ แต่ก็ใกล้แล้วหล่ะ"
"แต่ผมก็ไม่เห็นว่าพี่จะจำเป็นไปเยี่ยมเค้าทุกวันเลยนี่นา" พูดออกไปอย่างไม่เข้าใจ ก่อนจะได้ยินชื่อของใครบางคนที่คุ้นหูมาจากปลายสายอีกแล้ว
"ป้าของซองมินเค้าต้องไปดูงานที่ต่างจังหวัด พวกฉันก็เลยอาสาไปดูแลให้เอง"
"ซองมิน เพื่อนพี่ชื่อซองมินเหรอ??" ถามออกไปอย่างแปลกใจ หากแต่คิบอมก็ไม่ได้สงสัยอะไรไปกับน้ำเสียงนั้น
"อืม...ไม่มีอะไรแล้วใช่มั๊ย วันนี้ฉันไม่ได้ไปทำงาน คงกลับไม่ค่อยดึกเท่าไร แค่นี้นะ" พูดจบก็วางสายไป คยูฮยอนก้มลงมามองโทรศัพท์ของตัวเองเล็กน้อย คิ้วเรียวขมวดมุ่นก่อนจะส่ายหน้าอย่างหน่ายๆ ทำไมเค้าไม่ได้เป็นคนวางหูก่อนบ้างเลยนะ ให้ตายเถอะ!!
.
.
.
"กลับมาแล้วฮะ" เสียงทุ้มตะโกนบอกคนข้างในบ้านให้ได้ยินก่อนจะลากเท้ามาหยุดนั่งลงบนเก้าอี้ไม้ภายในครัว อาหารบนโต๊ะยังไม่พร่องไปเลยแม้แต่จานเดียว ทำให้ร่างสูงรู้ว่าผู้เป็นมารดาคงจะรอเค้าอยู่จริงๆ
"มาแล้วเหรอ ไปล้างมือเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนแล้วมาทานข้าวกัน" พูดอย่างกระตือรือร้น ดีใจที่นานๆทีจะได้หยุดงานแล้วมาทานข้าวกับลูกชายบ้าง
"ค๊าบบบบ" ตอบรับเสียงยานคางก่อนจะลากเท้าเดินขึ้นบันไดไป สักพักก็ลงมาในชุดอยู่บ้านสบายๆ
"ป้า มองอะไรอยู่เล่า ไม่กินข้าวเหรอ"หันไปถามมารดาเชิงตลก เมื่อเห็นคนเป็นแม่มองหน้าเค้าอย่างไม่วางตา
"เฮ้อ..นานๆจะได้ทานข้าวกับลูกชายที มันมีความสุขอย่างนี้เองน๊า~~ ถ้าคิบอมอยู่ด้วยก็คงจะดีมากกว่านี้" พูดออกมาอย่างเลื่อนลอย ก่อนจะหันมายิ้มให้คยูฮยอน
"เป็นไรไปรึป่าวเนี่ย รึว่าแม่ไม่สบาย" มือแกร่งเอื้อมไปอังที่แก้มผอมตอบ แต่ก็โดนอีกคนปัดออกอย่างไม่จริงจังนัก
"เฮ้อ....แม่ไม่ค่อยจะมีเวลาให้พวกเราเลย เข้าใจแม่ใช่มั๊ย" จู่ๆก็พูดขึ้นมา ทำเอาคยูฮยอนถึงกับหยุดค้างไปชั่วขณะ อะไรของป้าแกนะ??
"เป็นอะไรไปอีกหล่ะ เมื่อก่อนไม่เคยจะ..."
"หยุด!! นี่แม่จริงจังนะ กว่าจะหาวันหยุดได้สักทีหน่ะ " มองตาเขียวก่อนจะตักอาหารใส่จานของลูกชาย
"คร๊าบบบบ รู้แล้ว " ส่ายหน้าอย่างเซ็งๆ ก่อนจะก้มหน้าก้มตาทานข้าวต่อไปจนหมด โดยมีเสียงบ่นออกมาอยู่เป็นระยะๆ มันชินเสียแล้วหล่ะสำหรับคยูฮยอนคนนี้
ชินจนเค้าคิดไปแล้วว่าถ้าวันไหนที่คนเป็นแม่ไม่ได้บ่นอะไรออกมา วันนั้นหล่อนก็คงจะนอนไม่หลับอย่างแน่ๆ ถ้าไม่ได้บริหารปาก!!
.
.
.
.
TBC.......................................................................................
ไม่มีซีฮันโผล่มาเลย แค่ชื่อก็ไม่มี
รู้สึกว่าตอนนี้จะเป็นของคังทึกแล้วก็คยูฮยอนอย่างเดียวเลย
ขอบคุณทุกกำลังใจที่เม้นมาติชมกันนะครับ เราจะพยายามมาต่อให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเร็วได้
ขอบคุณอย่างใจจริง
ตอนนี้อาจจะสั้นไปนิด เป็นเพราะไรเตอร์ตาอักเสบ เพราะอ่าน NC มากไป อ่ะ..ไม่ช่ายแระ
อีกตอนคงจะเอามาลงในเร็ววันนี้แล้วหล่ะคะ เพราะแต่งรออยู่แล้ว
ไปแล้วนะคะ ตอนนี้ฝนตกบ่อยๆ ดูแลสุขภาพด้วยคะ...เป็นห่วง
บีาย...บาย...จุ๊บ =3= 3 ที
ให้คนอ่าน คนเม้น ค่ะ
ความคิดเห็น