ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Way For Love[Super Junior's Fiction::SiHan]

    ลำดับตอนที่ #1 : Chapter.1:::เหตุเกิดจาก....

    • อัปเดตล่าสุด 15 ม.ค. 51


    "Way  For  Love...

    ผมเป็นคนหนึ่งที่ไม่เชื่อในเรื่องของโชคชะตาและพรหมลิขิตชักพา มันฟังดูคล้ายๆกับเป็นนิยายน้ำเน่าหรือเรื่องราวเพ้อฝันที่มีอยู่แต่ในนิยายหรือในโลกแห่งความฝันและจินตนาการเท่านั้น
    ในโลกแห่งความเป็นจริง ความเป็นไปได้ในเรื่องราวต่างๆเหล่านี้ แทบจะเป็นไปไม่ได้สำหรับผม แต่แล้ว....ทุกๆอย่างที่ผมเคยคิดไว้ มันก็กลับแปรเปลี่ยนไป จนผมตั้งตัวแทบไม่ติดเลยทีเดียวเชียวหล่ะ
    ใครคนหนึ่งทำให้ผมได้รับรู้ว่า"โชคชะตา"และ"พรหมลิขิต"นั้นมันสามารถเกิดขึ้นได้เสมอ
    แล้วตัวคุณหล่ะเชื่อเรื่องแบบนี้มั๊ย???

    ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

    "นายพูดอย่างนี้หมายความว่าไง นายจะทิ้งฉันเหรอ???"แววตาที่ถูกส่งออกมาเต็มไปด้วยคำถามที่ยากแก่การตอบ ชายหนุ่มทำได้เพียงแค่ยืนฟังอย่างสงบนิ่ง ซึ่งอีกคนหมายรวมไปว่ามันคือคำตอบที่บอกว่า....ใช่......
    "ทุเรศที่สุด เห็นฉันเป็นอะไร คิดจะทิ้งก็ทิ้งกันง่ายๆแบบนี้" อีกคนยังคร่ำครวญไม่เลิก หยาดน้ำไสไหลอาบสองแก้มเนียน
    "มันไม่ใช่อย่างนั้นนะ ยุนอา คือฉันมีเหตุผล..."หยุดไว้แค่นั้น เพราะฝ่ามือบางของอีกคนกระแทกเข้าที่ใบหน้าอย่างแรง จนหันไปตามแรงตบ
    "คนอย่างนาย แค่นี้มันยังน้อยไป....ลาก่อน แล้วอย่าได้เจอะเจอกันอีกเลย"พูดจบก็สะบัดหน้าเดินหนีไป ปล่อยให้คนตัวสูงได้แต่ยืนมองอย่างเซ็งในอารมณ์
    "มือหนักชะมัด"พลางลูบแก้มข้างขวาที่โดนตบไปสดๆร้อนๆ นึกถึงเหตุการณ์ที่มันทำให้เลยเถิดจนถึงขั้นบอกเลิกกัน

    เค้ากับยุนอาคบกันมาได้เดือนกว่าแล้ว หญิงสาวเป็นดาวคณะส่วนเค้าก็ไม่น้อยหน้า จัดอยู่ในกลุ่มผู้ชายดอกไม้ของมหาลัย ซึ่งทุกคนต่างลงความเห็นกันว่าเป็นคู่ที่น่าอิจฉาที่สุด
    ในวันสิ้นปี เป็นวันที่ทุกคนควรจะมีความสุขแต่แล้ว.....
    "เอ่อ...ยุนอา พรุ่งนี้ฉันคงไปกับยุนอาไม่ได้แล้วหล่ะ คือ ฉันมีอะไรจะบอก" ร่างสูงอ้ำอึ้งอยู่ครู่ใหญ่จนคนฟังทนรอไม่ไหวจึงถามออกมา
    "มีอะไรรึป่าว"
    "คือ ตอนนี้ฉันคงไปไหนมาไหนกับยุนอาไม่ได้สักพัก"
    "เพราะอะไร???"ถูกถามออกมาทันควันเมื่ออีกคนพูดจบ
    "คือ..มีธุระนิดหน่อย" โกหกคำโต เพราะไม่อยากให้รู้เหตุผลที่แท้จริง
    "ธุระอะไรที่มันสำคัญกว่าฉันอีกห่ะ  ชีวอน" ร่างบางจ้องมาอย่างยากที่จะเข้าใจ
    "โธ่ ยุนอา เธออย่าเซ้าซี้ถามอะไรมากได้มั๊ย"ตะคอกกลับอย่างอารมณ์เสียทำเอาอีกคนถึงกับเหวอไป เค้าจะบอกได้ยังไงหล่ะว่าคุณชายอย่างเค้าต้องมาถูกตัดค่าขนมกับโดนยึดรถ เพราะพฤติกรรมที่คนครอบครัวต่างส่ายหน้าเอือมระอากันไปหมด ทั้งเกเรียน ทำตัวลอยไปลอยมาไปวันๆ  ไม่คิดที่จะทำอะไรเพื่อส่งเสริมวงศ์ตระกูลเลย ไม่เอาหรอกมันน่าอายจะตายไป
    "นี่นายกล้าตะคอกใส่หน้าฉันเหรอ"ชี้หน้าว่าอีกคนอย่างอดกลั้น ตั้งแต่เกิดมาไม่มีใครกล้าทำแบบนี้กับเธอเลยให้ตายสิ!!!!
    "ฉันขอโทษ....แต่ยุนอาก็ต้องเข้าใจฉันบ้างสิ"
    "นายพูดแบบนี้หมายความว่าไง" นี่แหละก็คือจุดเริ่มต้น เรื่องของเรื่องมันก็แค่ตอนนี้เค้าไม่สามารถทำอะไรได้ตามใจชอบเหมือนแต่ก่อนที่เรียกได้ว่าใช้เงินเป็นว่าเล่น ร่างบางอยากได้อะไรก็ได้ หากคนที่เค้าคบอยู่นี้ไม่ใช่พวกวัตถุนิยม เรื่องมันก็ไม่จบแบบนี้หรอก
    "เฮ้อ....เซ็งชะมัด"พลางเดินเตะปุยหิมะที่ทับถมกันตามทางไปเรื่อยๆจนมาหยุดอยู่ที่ร้านกาแฟร้านหนึ่ง ไหนๆก็ไม่มีที่ไปแล้วก็นั่งแช่มันอยู่ที่นี่สักพักละกัน
    "สวัสดีครับ ร้าน Le Cafe ยินดีต้อนรับครับ"เจ้าของร้านหนุ่มกล่าวทักทายเสียงใส
    "มาท่านเดียวนะครับ"เดินมายื่นเมนูให้ ร่างสูงรับมาอย่างลวกๆ พลางคิดไปถึงคำถามของเจ้าของร้าน มาท่านเดียวนะครับ ก็เออหน่ะสิ เห็นมา 8 คนรึยังไงกัน ถามมาได้ก็เห็นๆอยู่
    "Cappuchino Frape ที่หนึ่ง"สั่งโดยที่ยังไม่ทันเปิดเมนูที่อีกคนยื่นให้
    "รับของหวานทานเล่นด้วยมั๊ยครับ...."
    "ไม่" รีบตอบเพื่อจะให้ไปซะที รำคาญจะแย่
    "เอ่อ...รอสักรู่นะครับ" สักพักกาแฟที่ถูกสั่งไปก็มาเสิร์ฟตรงหน้า กลิ่นหอมที่ลอยมาเตะจมูกทำให้อารมณ์ดีขึ้นเล็กน้อย
    "อ๊ะ!!"ด้วยความรีบร้อน แก้วกาแฟที่เพิ่งจะยกลงจากถาดพร้อมที่จะเสิร์ฟเกิดไม่รักดี ทำขายหน้าหลุดมือหกลงไปกองแหมะอยู่ที่แขนเสื้อโค้ทสีตุ่นของชายหนุ่มอย่างจัง ดีที่มันเป็นกาแฟปั่น จึงไม่ร้อน แต่ก็ไม่ได้ทำให้คุณลูกค้าอารมณ์เย็นเหมือนกาแฟแต่อย่างใด
    "เสิร์ฟประสาอะไรของนายเนี่ย....เสื้อฉัน ฮึ้ย...."ตะคอกใส่หน้าคนที่ยืนทำหน้าเหลือแค่สองนิ้วอย่างโมโห พลางปัดเศษน้ำแข็งออกจากแขนเสื้อ
    "ข...ขอโทษครับ คือผม.."รนรานทำอะไรไม่ถูก ได้แต่โค้งขอโทษอยู่อย่างนั้น ก่อนที่จะคิดขึ้นได้ ผ้า...ต้องเอาผ้ามาเช็ดให้คุณลูกค้า ว่าแล้วก็วิ่งหายไปหลังร้านสักพักก็ได้ผ้าขาวสะอาดมาถือไว้
    "ขอโทษนะครับ คือผมซุ่มซ่ามไปหน่อย เลยทำให้คุณต้องเลอะขนาดนี้"พูดพร้อมกับก้มลงไปเช็ดน้ำแข็งที่เริ่มละลายตรงแขนเสื้อของชายหนุ่มอย่างสำนึกผิด
    ร่างสูงแปลกใจตัวเองไม่น้อย เมื่อยามที่กลิ่นหอมอ่อนๆจากร่างคนตรงหน้าลอยมากระทบจมูก จนเผลอจ้องเสี้ยวใบหน้าของอีกคนอยู่นาน ก็น่ารักดี ทำไมเมื่อกี้นี้เค้าไม่ทันสังเกตนะ จนอีกคนเช็ดเสร็จแล้วหันมาสบตาด้วย
    "อะ..เอ่อ มีอะไรติดหน้าผมหรือครับ" ถามออกไปอย่างซื่อๆ
    "ปะ..ป่าว" กลับมาสู่อารมณ์เดิม เพื่อกลบเกลื่อนเสียงหัวใจที่เต้นไม่เป็นจังหวะ แค่ได้กลิ่นก็ทำให้ใจเต้นขนาดนี้เลยหรือ???นี่เค้าเป็นอะไรไป
    "คือเสื้อของคุณเลอะหมดแล้ว ผมเลยเอาเสื้อโค้ทของผมให้คุณเปลี่ยนก่อน ส่วนเสื้อของคุณ เดี๋ยวผมจะซักแล้วส่งคืนไปให้คุณนะครับ"พูดแล้วยื่นเสื้อโค้ทน้ำเงินให้หวังว่าอีกคนจะรับมัน ทันทีที่ร่างสูงรับไปใบหน้าหวานของอีกคนถึงกับยิ้มออก
    "อ้อ...กาแฟของคุณ เดี๋ยวผมจะไปทำให้ใหม่นะครับ"พูดจบก็รีบเดินไปยังเคาน์เตอร์เพื่อทำกาแฟแก้วใหม่ ร่างสูงมองหน้าเจ้าของร้านสลับกับเสื้อโค้ทที่อยู่ในมืออย่างยากที่จะเข้าใจในความรู้สึกของตัวเอง
    "ได้แล้วครับ"คราวนี้เสิร์ฟด้วยความระมัดระวังมากกว่าเดิมหลายเท่าจนอีกคนนึกขำในท่าทางของร่างบาง
    "ไม่หกแล้วนะครับ" เงยหน้าขึ้นมามองอีกคนพร้อมกับส่งยิ้มสดใสให้ภายใต้หน้าตาที่อิดโรยอย่างสุดๆ ก็เพราะวันทั้งวันมานี่เค้าไม่ได้หยุดเลยหน่ะสิ ถึงแม้จะเป็นร้านกาแฟร้านเล็กๆ แต่ช่วงเทศกาลแบบนี้คนก็เข้าเยอะพอตัวเลยหล่ะ ยิ่งทำงานคนเดียวแบบนี้มันก็ต้องเหนื่อยกันเป็นธรรมดา
    "คุณทำอยู่คนเดียวหรือ"จู่ๆ คุณลูกค้าก็เอ่ยถามขึ้นมา ทำให้ร่างบางเอียงคอน้อยๆ ไม่เข้าใจในคำถามจนอีกคนต้องตั้งต้นถามใหม่อีกรอบ



    "หมายถึงว่า คุณทำไมไม่จ้างพนักงานมาช่วยงานหล่ะ ทำอยู่คนเดียวไม่เหนื่อยเหรอ" คราวนี้ขยายความให้ชัดเจนขึ้นไปอีก ไม่เข้าใจก็ไม่รู้จะว่ายังไงแล้ว
    "อ๋อ....คือผมคิดว่าร้านของผมมันเล็กหน่ะครับ ผมทำคนเดียวก็ไหว"
    "แต่หน้าคุณมันไม่เป็นอย่างนั้นนี่" ร่างบางได้แต่ยิ้มตอบกลับมา
    "มันก็แค่ช่วงเทศกาลเท่านั้นแหละครับที่จะยุ่งๆหน่อย พ้นช่วงนี้ไปก็น่าจะสบายๆแล้วครับ"เจ้าของร้านตอบเสียงใส มีความสุขเมื่อได้พูดถึงงานที่ตัวเองรัก
    "งั้นเหรอ....ตอนนี้ก็ไม่ค่อยมีคนแล้วนี่" หันไปมองรอบๆร้าน ที่เริ่มจะมีพื้นที่ว่างหลังจากลูกค้าคนอื่นๆถยอยกันกลับไปแล้ว ตอนนี้เหลือเพียงโต๊ะเค้าโต๊ะเดียวเท่านั้น
    "ครับ อีกสักพักก็จะปิดแล้ว ผมขอตัวไปเคลียร์ของก่อนนะครับ"ขอตัวอย่างสุภาพก่อนจะเดินหายไปหลังเคาน์เตอร์
    "โอ๊ะ....เที่ยงคืนแล้วหรือเนี่ย"พูดขึ้นมาหลังจากเหลือบไปเห็นนาฬิกาข้างผนังร้าน พลางหันไปมองร่างบางที่ทำความสะอาดโต๊ะอยู่ ถึงกาแฟจะหมดแก้วไปแล้วแต่ร่างสูงก็ยังไม่คิดจะเรียกเก็บเงิน ยังคงนั่งต่อไปจนจวบจนเวลานี้
    "ปกติคุณปิดร้านกี่ทุ่มเหรอ"
    "5 ทุ่มครับ"ตอบทั้งๆที่มือยังสาระวนอยู่กับการจัดโต๊ะให้เข้าที่
    "งั้นตอนนี้ก็ปิดแล้วสิ"
    "ก็ยังปิดไม่ได้หรอกครับ แต่พอจะเคลียร์อะไรได้ก็เคลียร์ไปก่อนโดยไม่กวนลูกค้าหน่ะครับ"ตอบย่างยิ้มๆ
    "แล้วทำไมคุณถึงยังไม่ปิดร้านหล่ะ ตอนนี้ก็ไม่มีลูกค้าแล้วนะ" ยังส่งคำถามต่อไป
    "ใครว่าหล่ะครับ ยังเหลือคุณอยู่อีกตั้งหนึ่งคน"กลั้วหัวเราะพร้อมกับคำตอบที่ทำเอาอีกคนสะอึก เออ...จริงสิยังเหลือเค้าอีกคนนี่หว่า
    "อ้อ...จริงด้วย เท่าไรเหรอ กาแฟหน่ะ" ยิ้มอย่างเหยๆพร้อมกับหยิบกระเป๋าเงินขึ้นมาเตรียมพร้อม
    "ไม่ต้องหรอกครับ แก้วนี้ฟรี แลกกับการที่ผมทำเสื้อคุณเลอะ"
    "เออใช่...แล้วคุณมีเสื้อใส่กลับเหรอ อากาศข้างนอกหนาวจะตาย"อีกคนถามขึ้นมาอย่างเป็นห่วง
    "ผมยังมีสำรองไว้อีกตัวข้างหลังหน่ะครับ"
    "แล้วคุณเจ้าของร้านชื่ออะไรเหรอครับ" ถามออกไป ชนิดที่คนถามยังแปลกใจตัวเองว่า แล้วจะไปถามชื่อเค้าทำไมกัน อีกคนมองกลับมาอย่างสงสัยแต่ก็ยอมบอกอย่างรักษามารยาท
    "ฮันคยองครับ"
    "เอ่อ...ผมชีวอนครับ"โค้งให้น้อยๆ แอบพอใจอยู่ลึกๆที่ในที่สุดก็ได้รู้จักชื่อเจ้าของร้านที่น่ารัก(?)คนนี้
    "คุณเคลียร์เสร็จรึยังครับ" ลุกขึ้นเดินมาหยุดยืนอยู่ข้างๆ แล้วใช้มือยันโต๊ะไว้ทั้งสองข้าง สายตาจ้องมองไปที่เสี้ยวหน้าหวานของอีกคน
    "ใกล้เสร็จแล้วหล่ะครับ"หันกลับมาตอบคำถามของอีกคน เป็นอีกครั้งที่หน้าของทั้งสองใกล้กันขนาดนี้ ปฏิกิริยาเดิมที่เกิดกับร่างสูงเมื่อครู่ใหญ่เริ่มกลับมาอีกครั้ง เอาอีกแล้วใจเต้นอีกแล้ว
    "มีอะไรรึป่าวครับ"ถามกลับไปเมื่อเห็นร่างสูงมีท่าทีแปลก
    "อ้อ  ป่าวหรอก คืองั้นผมช่วยคุณปิดร้านแล้วกันตอบแทนเรื่องกาแฟหน่ะ"พูดพร้อมกับแย่งถาดมาถือไว้ในมือ เดินไปหยิบแก้วของตัวเองที่กินหมดแล้วมาวางไว้ก่อนจะหันไปถามเจ้าของร้านที่ยืนมองอย่างอึ้งๆอยู่ไม่ไปไหน
    "คุณฮันคยองครับ เอาแก้วไปเก็บไว้ไหนเหรอ"
    "เอ่อ...ผมว่าผมทำเองดีกว่านะ"เดินไปหาพร้อมกับหยิบแก้วในถาดไปล้างแล้วเก็บเข้าที่อย่างรวดเร็ว
    "เสร็จแล้วใช่ม๊า~~"
    "อืม...."ถอดผ้ากันเปื้อนออกแล้วพับมันโยนมันลงตระกร้าใต้เคาน์เตอร์
    "ขอบคุณนะครับที่ช่วย ตอนนี้ผมว่ามันดึกแล้วคุณรีบกลับบ้านเถอะ เดี๋ยวพ่อแม่จะเป็นห่วงเอานะ"
    "งั้นก็ออกไปพร้อมกัน"
    "อืม...งั้นรอเดี๋ยวนะ"ร่างบางจัดการสวมเสื้อโค้ทของตัวเองก่อนจะทำการล็อคประตู ชีวอนมองเสื้อโค้ทในมือก่อนจะสวมมันลงไป...... อุ่นดีจัง หอมด้วย >~~<
    "คุณฮันคยองกลับยังไงเหรอ"
    "บ้านผมอยู่ไม่ไกลจากที่นี่เท่าไร เดินไปแป๊ปเดียวก็ถึง แล้วคุณหล่ะ"
    "อ๋อ....เหมือนกัน" โกหกอีกคน ทั้งๆที่บ้านเค้าห่างจากที่นี่เป็นกิโลเดี๋ยวโทรให้คนขับรถมารับเอาก็ได้
    "งั้นเราแยกกันตรงนี้นะ ลาหล่ะครับ"โค้งให้อย่างมีมายาทพร้อมกับเดินจากไปโดยไม่หันมามองอีกคนที่ยืนมองตาระห้อยอยู่
    "โอกาสหน้าไม่พลาดแน่ สาบานได้" ยกยิ้มเจ้าเล่ห์พร้อมสายตาที่มองไปที่แผ่นหลังบางที่เริ่มหายไปกับความมืด ชักจะติดใจคนๆนี้แล้วสิ
    TBC.........

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×