ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    FIC The Heroes of Olympus

    ลำดับตอนที่ #1 : [S.Fic The Heroes of Olympus] Sleepwalker {Jasico}

    • อัปเดตล่าสุด 18 ก.ค. 59


    Pairing : Jason Grace/Nico di angelo - [Jasico]

    Fandom : The heroes of Olympus : The house of Hades

    Rating : PG+

    Author : Hankaoxing

    ****มีสปอยล์ของซีรีย์ The heroes of Olympus : The house of Hades อยู่นิดหน่อยนะคะ****

    ****เนื้อหาเป็นชายรักชาย หากไม่มีเลือดวาย กรุณาไปซื้อมาให้เรียบร้อยก่อนนะคะ ฮา****

    ****ฟิคนี้เป็น AU Fic(รึเปล่านะ?) ดังนั้น 0.5/4 เป็นออฟฟิเชียล ส่วนอีก3.5ที่เหลือมาจากฟิลลิ่งทั้งนั้นค่ะ ๕๕๕****


    เจ้าจักถูกความมืดของเจ้ากลืนกินนิโค ดิแองเจโล..

     

    ‘นั่นใคร?!’

     

    เจ้าจักถูกความมืดของเจ้ากลืนกินให้หายไปจากโลกใบนี้ไปตลอดกาล..

     

    ‘แกกำลังพูดเรื่องอะไร..’

     

    เจ้าจักไม่มีวันสมหวังในทุกสิ่งที่เจ้าต้องการ..

     

    ‘ฉันไม่ได้ต้องการอะไรทั้งนั้น!’

     

    ทุกสิ่ง..รวมไปถึงบุตรแห่งโพไซดอน...

     

    ‘หยุด..’

     

    ...โค..

     

    ‘ไปให้พ้น..’

     

    ...นิโค..

     

    ‘ฉันบอกว่า..’

     

    “นิโค!!!”

    ...เขารู้สึกตัวแล้ว นิโคพยายามกะพริบตาถี่ๆเพื่อปรับโฟกัส เขามองไปรอบๆตัวเขา มันเป็นห้องเล็กๆที่ไร้การตกแต่งใดๆเหมือนกับห้องนอนของเขาบนเรืออาร์โกสอง.. แต่มันไม่ใช่เนี่ยสิ! ข้างนอกยังมืดสนิท เขาได้ยินเสียงคลื่นคลอเบาๆพร้อมกับเสียงลมที่เสียดสีกับแผ่นไม้ มันเลยทำให้เขาค่อนข้างมั่นใจ(และโล่งใจ)ว่าเขายังคงอยู่บนเรืออาร์โกสองอยู่ แต่ที่สำคัญก็คือ ถ้านี่ไม่ใช่ห้องนอนของเขา แล้วมันเป็นของใครล่ะ?

     

    “นิโค!” เสียงเรียกจากเบื้องล่างทำให้เด็กหนุ่มหลุดออกจากภวังค์ความคิดทันที “โอ เหล่าเทพเจ้า” เขาอุทานออกมาอย่างช่วยไม่ได้ บุคคลเบื้องล่างที่เขากำลังนั่งทิ้งน้ำหนักตัวลงไปอยู่ก็คือเจสัน เกรซ บุตรแห่งจูปิเตอร์ (หรือซุส.. หรือจะอะไรก็ช่าง) 

    “ฉันดีใจนะที่ในที่สุดนายก็รู้สึกตัวสักทีน่ะเพื่อน ทีนี้ นายช่วยเอาดาบสีดำน่าขนลุกของนายออกไปจากคอของฉันสักทีจะได้มั้ย” เจสันชี้ไปที่คอของตัวเอง นิโคมองตามมือเรียวยาวนั่น เขาแทบจะอุทานว่า โอ เหล่าเทพเจ้า ออกมาอีกสักรอบ(แต่เขาก็ตัดสินใจที่จะไม่ทำ)

    ที่คอของเจสันมีรอยแดงช้ำเป็นแถบยาวอยู่ และต้นเหตุที่ทำให้เกิดรอยแดงนั่นก็คงไม่ใช่อะไรอื่น ดาบสไตเจียนของเขานั่นเอง 

    นิโครีบชักดาบของเขากลับทันที “ฉ..ฉันขอโทษ! ฉัน..ฉันไม่ได้ตั้งใจ จริงๆแล้ว ฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามันเกิดอะไรขึ้น..” นิโคพูดความจริง เขาจำได้แค่ว่า หลังจากที่เขาทานอาหารเย็นพร้อมกับคนอื่นๆเสร็จแล้ว เขาก็รู้สึกอยากจะงีบซักหน่อย เขาเลยกลับมาที่ห้องพักของเขาและหลับไปแทบจะทันที เขาฝัน แล้วพอรู้ตัวอีกทีก็.. อืม.. เป็นอย่างที่เห็น 

    “มันเกิดอะไรขึ้น ทำไมฉันถึง..” เขาถามออกไป เขาพยายามอย่างมากที่จะไม่ให้เจสันเห็นว่ามือของเขามันสั่นขนาดไหน

    “อืม.. ก็หลังจากที่นายและคนอื่นๆหลับไปได้..น่าจะประมาณ2ชั่วโมง นายก็เดินเข้ามาในห้องของฉันตอนที่ฉันกำลังอาบน้ำอยู่ พอฉันเดินออกมาจากห้องน้ำ ฉันก็เห็นนายยืนก้มหน้านิ่งอยู่ตรงกลางห้อง ฉันพยายามถามว่านายมาทำอะไรที่นี่แต่นายก็เงียบ แล้วจากนั้นนายก็ผลักฉันลงกับเตียง นายคร่อมฉัน จริงๆมันเกือบจะดูอีโรติกแล้วถ้านายไม่ดันหยิบดาบสไตเจียนของนายออกมาแล้วพยายามที่จะปาดคอฉันซะก่อน” เจสันชี้ไปที่รอยแดงตรงคอของเขาราวกับจะตอกย้ำนิโค 

    “แล้วทำไมนายไม่ต่อยฉันหรืออะไรแบบนั้นเล่า!!” นิโคสวนกลับ อย่างเขาเนี่ยนะจะเป็นพวกชอบนอนแล้วเดินละเมอ อย่างเขาเนี่ยนะ?! 

    เจสันหัวเราะ “ถ้าฉันทำได้ฉันก็ทำไปนานแล้วล่ะ คืองี้ จู่ๆนายก็เหมือนกับมีพรแห่งมาร์สเหมือนแฟรงก์หรืออะไรเทือกนั้นอยู่ในตัวของนายขึ้นมากระทันหัน.. แค่เปรียบเปรยน่ะ ประเด็นก็คือฉันสลัดนายไม่หลุด ฉันต้านแรงของนายไม่ได้ แต่ก็เหล่าเทพเจ้าช่วยล่ะนะ นายตื่นขึ้นและฉันก็ยังอยู่!”

    นิโคพยายามทำความเข้าใจกับคำพูดเหล่านั้นของเจสัน แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ไม่สมเหตุสมผลเอาซะเลยที่ว่าทำไมจู่ๆเขาถึงเดินละเมอมาที่ห้องนอนของเจสันแล้วจากนั้นก็ผลักเขาลงกับเตียงเพื่อพยายามที่จะฆ่าเขา?

     

    แต่ก่อนที่นิโคจะได้คิดอะไรไปมากกว่านั้น เจสันก็พลิกตัวนิโคลงกับเตียงแล้วกดนิโคไว้ด้วยน้ำหนักของเขาแทน “นายจะทำอะไรของนายน่ะ?! ปล่อยฉันนะ!” นิโคพยายามดิ้นให้หลุดจากพันธนาการ แต่เจสันเพียงแค่จับข้อมือของนิโคให้ไขว้กันเหนือศีรษะแล้วทิ้งน้ำหนักตัวลงให้มากกว่าเดิมเท่านั้น 

    “ฮ่าฮ่า” เจสันหัวเราะ “ยอมรับเลยว่าก่อนหน้านี้นายน่ะ น่ากลัวชะมัด!” เจสันใช้มืออีกข้างที่ยังว่างอยู่เชยคางของนิโคให้หันมามองหน้าเขาตรงๆ

    “แต่ว่านะ” เจสันยื่นหน้าเข้ามาใกล้เรื่อยๆจนสันจมูกโด่งของเขาแนบชิดกับแก้มเนียนซีดที่เริ่มจะขึ้นสีของเด็กหนุ่มเบื้องล่าง

    นิโคสามารถได้กลิ่นยาสีฟันกลิ่นมินต์จากเจสันได้


    “ตอนนี้น่ะ..” นิโคพยายามเบือนหน้าหนีสัมผัสจากเจสันที่ข้างแก้มของเขา เด็กหนุ่มหลับตาแน่นเพื่อปลอบตัวเอง

     

    ให้ตายสิ..

     

    “นายน่ารักชะมัด”

     

    เจสันเลิกเสื้อยืดสีดำของนิโคขึ้น แล้วกัดลงไปที่หน้าท้องแบนราบนั่นด้วยความหมั่นเขี้ยว 

    “อึ่ก! มันเจ็บนะ! ทำอะไรของนายน่ะเจ้าบ้า!” เป็นอีกครั้งที่เขาพยายามดิ้นให้หลุดจากพันธนาการอย่างไร้ความหวัง เขาไม่รู้ว่าตอนนี้เขาหน้าแดงแค่ไหนแล้ว แต่เขาคิดว่ามันต้องแดงยิ่งกว่าเลือดของอสูรกายทุกตนที่เขาเคยกำจัดมาแน่ๆ 

    เมื่อเจสันเห็นปฏิกิริยาของนิโค มันทำให้เขาอดที่จะหัวเราะออกมาไม่ได้ “ฮ่าฮ่าฮ่า ก็นายบังอาจพยายามที่จะสังหารแม่ทัพแห่งกองทหารโรมัน ก็ต้องเจอบทลงโทษแบบนี้ล่ะ!” เขาถอนหน้าออกมาจากนิโคเพื่อที่จะดูผลงานที่ตัวเองทำไว้แบบชัดๆ

    มันเป็นรอยกัดขนาดย่อมบริเวณหน้าท้องทั้งๆที่เขาออกแรงกัดเพียงแค่นิดเดียวเท่านั้น แต่มันกลับสามารถเห็นได้ชัดบนหน้าท้องขาวซีดของนิโค .. ไม่รู้เพราะอะไรเจสันถึงรู้สึกพอใจกับมัน

    “พอใจรึยัง” นิโคถามเจสัน เขาทำหน้าเหมือนกับแมวที่กำลังอารมณ์เสียตัวหนึ่ง เจสันพยายามอย่างมากที่จะไม่หัวเราะออกมา

    “อืม..จริงๆแล้วฉันอยากจะทำให้ทั่วตัวนายเลย นายจะอนุญาตฉันมั้ยล่ะ?” เจสันยิ้มหยันให้นิโค

    “ใครมันจะไปอนุญาตกันเล่าเจ้าบ้า! ทีนี้ก็ปล่อยฉันได้แล้ว!” นิโคพยายามออกแรงดิ้นอีกครั้ง เจสันปล่อยมือจากข้อมือของนิโค

    “นั่นก็เพราะนายผอมกะหร่องเป็นลีโอหมายเลขสองแบบนี้ไงล่ะนายเลยถูกฉันจับเอาได้ง่ายๆ คราวหลังก็กินให้มันเยอะๆหน่อยสิ ทุกครั้งฉันก็เห็นนายเอาแต่กินแค่ทับทิมหนึ่งผลตลอด” เจสันเอ็ดนิโค

    “ไม่ใช่กงการอะไรของนายน่า!” นิโคสวนกลับ จริงๆแล้วเขาก็ไม่ได้โกรธอะไรเจสันหรอก ถ้าเปรียบเทียบระหว่างรอยกัดที่เจสันทำกับรอยแดงช้ำจากดาบสไตเจียนที่คอของเจสัน.. รอยกัดของเจสันกลายเป็นเด็กๆไปเลย 

    “...ยังไงก็ตาม ขอโทษสำหรับรอยที่คอนายนะ” นิโคพูดโดยไม่หันมามองเขา

    “เฮ้ นายคิดมากเกินไปแล้วไอ่น้องชาย ฟังนะ มันไม่เป็นไร ดูสิ” เขาจับมือของร่างบางตรงหน้าให้มาสัมผัสกับรอยแผลที่คอของเขา “เห็นมั้ย มันไม่ลึกมาก แค่รอยถลอกเล็กๆน้อยๆเอง กินอาหารทิพย์นิดหน่อยก็หาย!” ...ให้ตายสิ เจสันยิ้มชนิดที่ว่าถ้าให้ลืมความจริงที่ว่าอะพอลโลเป็นเทพเจ้าแห่งดวงอาทิตย์ไป แล้วให้ทายว่าใครกันแน่ที่เป็นเทพเจ้าแห่งดวงอาทิตย์... นิโคคงจะตอบเจสัน

    “แต่… อ้ะ!” นิโครู้สึกถึงสัมผัสอุ่นที่บริเวณหน้าท้องของเขา.. มือของเจสัน

    “ฮ่าฮ่า ฉันบอกแล้วไงว่ามันไม่เป็นไร! งั้นเอางี้ นายก็ถือซะว่ารอยพวกนี้เป็นสัญลักษณ์ว่า ตอนนี้เราเป็นเพื่อนกันแล้วนะ เป็นไง! แบบว่าฉันทำแบบนี้ก็เพื่อที่จะได้เจ๊ากับที่นายทำกับฉัน อะไรประมาณนั้นล่ะนะ”  เอาอีกแล้ว.. เจสันยิ้มแบบฉัน-นี่-แหละ-คือ-ดวง-อา-ทิตย์! ให้นิโคอีกแล้ว

    นิโคพยายามก้มหน้าเพื่อซ่อนใบหน้าแดงฉ่าของตัวเอง “เพื่อน..หรอ” เขาพึมพำกับตัวเองออกมา งั้นตอนนี้เจสันกับเขาก็เป็นเพื่อนกันแล้วงั้นสินะ..?

    “ฮ่าฮ่า จะดีใจเกินไปแล้วนะไอ่น้องชาย ตอนนี้นายอย่างกับผลทับทิมสุกแน่ะ!” เจสันหัวเราะ

    “ค..ใครบอกว่าฉันดีใจกัน! การเป็นเพื่อนกับนายมันไม่เห็นจะน่าดีใจเลยสักนิด!” เจสันหัวเราะอีกครั้ง เขาเชยคางของร่างเล็กตรงหน้าขึ้น “ฉันจะปกป้องนาย แล้วก็คนอื่นๆในเรืออาร์โกสองให้ได้” นั่นเป็นสิ่งที่เจสันพยายามและตั้งใจทำมาโดยตลอด การปกป้องทุกคนบนเรือเป็นหน้าที่ของเขา

    “หึ อย่ามาพูดอะไรหลงตัวเองหน่อยเลยท่านแม่ทัพ อย่างนายจะไปทำอะไร..---” เจสันไม่รอให้นิโคพูดจบ เขาเลื่อนใบหน้าให้เข้าไปใกล้นิโคจนทั้งคู่สามารถสัมผัสได้ถึงลมหายใจของกันและกัน .. เจสันไล่ริมฝีปากไปทั่วใบหน้าของนิโค หน้าผาก สันจมูก แก้มที่ขึ้นสีทับทิมนั่น และริมฝีปากบาง ..

    “อ่ะ-- เจสัน ห..ยุด--” นิโคใช้มือบางนั่นในการพยายามผลักเจสันออกไป

     

    “เอ่อ.. ฉันมาขัดจังหวะอะไรรึเปล่า..” ลีโอยืนมองดูทั้งคู่อยู่ตรงประตูห้องของเจสัน เขาใส่เสื้อยืดสีส้มที่เขียนว่า ทีมลีโอผงาด! กับกางเกงนอนลายจุด

     

    …..นิโคแทบอยากจะแทรกแผ่นดินหนีแล้วไปโผล่ที่นรกทาร์ทารัสตอนนี้ให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย

     

    “อ้าว ลีโอ นายมาได้ยังไงเนี่ย” เจสันเดาะลิ้นอย่างไม่สบอารมณ์ แต่ก็ลุกออกจากเตียงพร้อมกับทักทายเพื่อนสนิทอย่างเคยชิน

    “เอ่อ..ฉันแค่นอนไม่ค่อยหลับน่ะ ก็เลยกะจะมาเดินเล่นที่ดาดฟ้าเรือสักหน่อย แต่พอฉันเดินผ่านห้องนาย ฉันก็ได้ยินเสียงนิโคตะคอกอะไรสักอย่างใส่นาย ฉันก็เลยกะจะเข้ามาช่วย แต่…ก็นะ” ลีโอยักไหล่แล้วทำหน้าแบบก็-รู้-รู้-กัน-อยู่ 

    “ม..มันไม่ใช่อย่างที่นายคิดนะ!! เราแค่..” นิโคเดินตามมาและมองเจสันด้วยสายตาประมาณว่า ช่วยกันหน่อยสิ! 

    เจสันทำเป็นไม่เห็นสายตานั่น “อ้อใช่! เรากำลังจูบกันน่..--” ไม่ทันที่จะได้พูดจบ นิโคก็เตะเข้าไปที่ท้องของเจสันอย่างแรงพร้อมกับด่าทางสายตาว่า ไอ่บุตรจูปิเตอร์งี่เง่าเอ้ย!!

    เจสันทรุดลงไปโอดครวญกับพื้นราวกับว่าจู่ๆพื้นไม้ของเรืออาร์โกสองก็กลายเป็นอาจารย์โฮมรูมของเขาขึ้นมา

    “ฉันไปล่ะ!” จากนั้นนิโคก็เดินกระฟัดกระเฟียดออกไปพร้อมกับด่าร่างที่กำลังโอดครวญอยู่ที่พื้นไปด้วยในใจ เจ้าบ้าเจสัน!

     

    หลังจากที่ร่างเล็กเดินออกไปแล้ว “เอ่อ...แล้วสรุปพวกนายเป็น..?”

    เจสันคิดว่าสีหน้าของลีโอตอนนี้เหมือนกับตำรวจที่กำลังบอกให้เขาบอกลักษณะของโจรขโมยส้มมา 

    “เป็นเพื่อน! แน่นอนอยู่แล้ว!” .. แล้วเขาก็ถอนหายใจ “ไม่รู้สิเพื่อน ฉันก็ไม่แน่ใจ คือจริงๆแล้ว ฉันพึ่งจะบอกเขาไปเองว่าเราจะเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน...แต่พอรู้ตัวอีกที ฉันก็พบว่าฉันกำลังจูบเขา ฉันคิดว่าบางทีการที่พ่อแม่กำลังสับสนในตัวตนของตัวเอง.. อืม แค่เดานะ มันอาจจะส่งผลมาถึงลูกด้วยก็ได้” ลีโอสามารถสังเกตได้ว่าพายุในนัยน์ตาของเจสันเริ่มที่จะตีกันเองแล้ว

     

    “...นายกำลังจะบอกว่านายไม่รู้ว่าตัวเองกำลังทำอะไรอยู่งั้นสิ?”

     

    “ฉันก็ไม่แน่ใจ”

     

    ...

     

    “......นายอยากให้ฉันบอกไพเพอร์มั้ย”

     

     

    “......นายไม่อยากบอกเธอแน่นอนเพื่อน”

     



    ....จบแบบดื้อๆเลยค่ะ ฮ่าาา

    คือหนังสือ The house of Hades เข้าไทยตั้งแต่ตุลาคมปีก่อนค่ะ แต่พึ่งมาอ่านจบเอาตอนปีใหม่2015 เย่ ดองไว้แรมปี

    คือติ่งแตกมากตอนนี้ ถ้าใครได้อ่านเล่มนี้แล้วจะรู้ว่านิโคเล่มนี้แบบ น้องแม่งน่ารักมากค่ะ ฮือออ คือถึงเจสันจะรู้ความลับของนิโคแล้วแต่เจสันก็ยังคงเทคแคร์นิโคดีมาก..มากขึ้นกว่าเดิมด้วยซ้ำอ่ะ55555 ก็เลยเกิดเป็นฟิคนี้ขึ้นค่ะ 5555555555555555555555555555555 ส่วนความฝันของนิโคที่ได้ให้ไว้ตอนเริ่มฟิค อันนั้นเป็นสปอยล์ของเล่มสุดท้ายค่ะ แล้วจะสปอยล์ทำเตี่ยไร

    ยังไงก็ตาม ขอบคุณทุกท่านที่ได้หลงเข้ามานะคะ <3

    สำหรับรูปปกฟิคนะคะ http://minuiko.tumblr.com/

     
      CR.SHL
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×