ลำดับตอนที่ #3
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : 2
2
ตั้งแต่ที่แทฮยองจำความได้ เวลานอนของเขาจะเดียวดายอยู่เสมอ แต่ก็มีคืนแห่งความทรงจำอยู่คืนหนึ่งที่เขาได้แชร์เตียงกับเด็กชายอีกคน
และมันทำให้เขารู้สึกถึงไออุ่นที่เขาไม่เคยรู้ตัวเลยว่าเขาต้องการ
เสียงเคาะประตูกลางดึกที่ผิดปกติปลุกแทฮยองให้ตื่นขึ้น ความฉงนแทรกผ่านความสะลึมสะลือในหัวขององค์ชายใหญ่ก่อนจะนึกกลัวไปว่ามีอะไรไม่ดีเกิดขึ้นจึงรีบไปเปิดประตูทันที
"ฮยองงี่..."
เด็กน้อยที่กอดตุ๊กตากระต่ายสีชมพูแน่นกำลังร้องไห้เรียกหาเขา แทฮยองไม่เข้าใจอะไรสักอย่างจนกระทั่งร่างเล็กสะดุ้งเพราะเสียงฟ้าผ่าเกรี้ยวกราดที่ดังมาจากด้านนอก
"ฮึก!"
เขาดึงมือจองกุกให้เข้ามาในห้อง ชโลมเด็กตัวเล็กด้วยความอุ่นใจ ประตูถูกปิดลงอย่างเบาเสียงเพื่อไม่ให้เด็กเสียขวัญไปมากกว่านี้
"กลัวเหรอ?"
"งือ..."
"ทำไมไม่ไปหาท่านพ่อท่านแม่ล่ะ?"
"ตาหวานไม่รู้ว่าพวกท่านอยู่ไหน ข้างนอกมันมืด มันน่าก-กลัว แต่ตาหวานจำได้ว่าฮยองงี่เข้ามาในห้องนี้ ก็เลย..." น่าตกใจที่จองกุกไม่ได้สนใจว่าบิดามารดาของตัวเองไปไหน แต่กลับมองแทฮยองอยู่ตลอดจนรู้ว่านี่คือห้องนอนของเขา
"ให้พี่พาไปไหม?"
แทฮยองเอียงคอเมื่ออีกฝ่ายส่ายหน้า
"ตาหวานอยากนอนกับฮยองงี่มากกว่า"
"ฮยองงี่...ไม่กลัวบ้างเหรอ?" เสียงเด็กเอ่ยถามในขณะที่คนพี่ลูบศีรษะกลมอย่างปลอบประโลม คนน้องยังคงสะดุ้งอยู่เป็นระยะเมื่อได้ยินเสียงคำรามอันโหดร้ายจากฟากฟ้า แต่น้ำตาได้หายไปจากดวงตากลมใสแล้ว
"กลัวทำไมล่ะ ก็แค่ก้อนเมฆทะเลาะกัน"
"จริงเหรอ?!"
"จริงสิ แล้วก้อนเมฆก้อนหนึ่งที่โดนตะคอกใส่ก็เสียใจจนร้องไห้ตกลงมาเป็นฝนไง"
"ก้อนเมฆอีกก้อนใจร้ายจัง" แทฮยองหัวเราะให้กับความใสซื่อของเด็กน้อยและเรื่องที่เขาเคยเชื่อเมื่อตอนที่เขายังเด็กเท่าจองกุก
เขาอยากให้จองกุกได้มีประสบการณ์วัยเยาว์แบบเดียวกับเขาโดยการแบ่งปันส่วนหนึ่งของตัวเขาเองให้อีกฝ่าย
"เดี๋ยวพวกเขาก็ดีกัน พอดีกันแล้วท้องฟ้าก็จะยิ้มอย่างแจ่มใสเองแหละ" องค์ชายใหญ่กอดเด็กตัวนุ่มนิ่มแน่นพร้อมตบหลังบางเบา ๆ ให้จองกุกรู้สึกปลอดภัยในที่ตรงนี้ ในแขนของเขา
"นี่ ๆ ฮยองงี่" ดูท่าทางเจ้าชายน้อยจะร่าเริงขึ้นมากแตกต่างจากก่อนหน้านั้นโดยสิ้นเชิง
เพราะเวทมนตร์ในเรื่องเล่าของแทฮยองหรือเปล่านะ
"อะไรครับ"
"เล่านิทานให้ฟังหน่อยได้มั้ย?"
แทฮยองมีนิทานแค่ไม่กี่เรื่องที่จะมอบให้ได้ เขาเลือกเทพนิยายคลาสสิกที่ใคร ๆ ก็รู้จักแต่ดัดแปลงและเล่าในสไตล์ของเขาจนน่าสนใจสำหรับคนฟัง เดินทางมาจนถึงตอนจบของเรื่องที่ถูกคาดเดาไว้แล้วก็เห็นเปลือกตาที่กำลังต่อสู้กับความเหนื่อยล้า เสียงงัวเงียเอ่ยถามขึ้น
"ถ้าตาหวานกินแอปเปิลอาบยาพิษเข้าไป ฮยองงี่จะจูบตาหวานไหม?"
"จูบสิ" คนถูกถามตอบโดยไม่คิด อาจจะเพราะเขาแค่ต้องการบอกสิ่งที่คิดว่าอีกฝ่ายอยากฟัง
ไม่ได้คิดว่าในประโยคนั้นมีความหมายแอบแฝงซ่อนอยู่ที่เขาเพิ่งจะรู้ก็ตอนที่เวลาล่วงเลยไปนานแล้ว
"ฮยองงี่เพ้อเจ้อ ถ้าตาหวานกินยาพิษเข้าไปตาหวานก็ตายน่ะสิ จูบไปก็ไม่ฟื้นหรอก" เด็กน้อยหัวเราะคิกคักล้อเลียนคนพี่อย่างชอบอกชอบใจ แต่ในแววตาที่ระยิบระยับนั้นฉายความดีใจที่ได้ยินเช่นนั้นอย่างชัดเจน
แทฮยองขมวดคิ้ว ก่อนที่จะได้โต้กลับก็ถูกขัดจังหวะโดยเสียงหาวของคนที่นอนข้าง ๆ จองกุกเขยิบเข้ามาซุกใต้คางของเขาก่อนจะนิ่งเงียบ
ความง่วงโจมตีคนทั้งสอง ริมฝีปากหนาวาดรอยยิ้มที่ประทับบนเรือนผมคนที่ชิงหลับไปก่อนแล้ว คำอวยพรให้นอนหลับฝันดีดังแผ่ว ก่อนที่แทฮยองจะตามอีกคนเข้าสู่แดนนิทราไป
แสงอาทิตย์สาดส่องเข้ามาทางหน้าต่าง จองกุกตื่นขึ้นมาพบเสียงนกร้อง ความอบอ้าวในยามเช้ากับผ้าห่มที่ถูกเตะจนไปกองที่ปลายเตียงอย่างยับยู่
และพื้นที่ด้านข้างที่ว่างเปล่า
"ฮยองงี่?"
เด็กน้อยหยิบตุ๊กตาตัวเองมากอด หันหัวไปรอบ ๆ เพื่อมองหาร่างของอีกคนแต่ทั้งห้องสะท้อนความเงียบกลับมา ก่อนที่คนตัวเล็กจะได้ลุกจากเตียงเสียงเปิดประตูก็ดังขึ้นและปรากฏคนที่จองกุกตามหา
แทฮยองกลับมาพร้อมกับเหตุผลที่เขาหายตัวไปแต่เช้าตรู่
"พี่มีของจะให้"
แหวนเพชรแวววาวถูกยกขึ้นมาเล่นกับแสง เด็กน้อยตาโตจับจ้องไปที่ของขวัญอย่างไม่วางตา
"ไปเอามาจากไหนน่ะ?" ความสงสัยลอยอยู่เต็มใบหน้าอ่อนเยาว์ วงแหวนถูกสวมที่นิ้วโป้งเนื่องจากขนาดของเครื่องประดับใหญ่เกินไปสำหรับนิ้วอื่น
วันนี้ตาหวานจะเดินทางกลับแคว้น เขาอยากให้ของแทนใจกับอีกฝ่ายไว้ อยากให้เป็นที่ระลึกเผื่อเวลาจองกุกคิดถึงเขา
เหนือสิ่งอื่นใดเขาอยากครอบครองคนตรงหน้า
เพราะความรักและความโง่เขลาของเขาทำให้แทฮยองไม่ได้คิดไตร่ตรองเลยว่าความสุขชั่วคราวนี้จะต้องแลกมาด้วยความเจ็บปวดที่ฉีกหัวใจคนทั้งสองออกเป็นชิ้น ๆ
"ขโมยมา...จากห้องท่านแม่"
"ฮยองงี่นิสัยไม่ดีจริง ๆ ด้วย!" ดวงตากลมฉายความไม่อยากเชื่อแต่วินาทีต่อมาเสียงหัวเราะก็เติมเต็มทั้งห้อง
"ตาหวานบอกพี่ว่าคนที่มีเหลือเฟือก็ควรแบ่งปันไม่ใช่หรือไง? ท่านแม่พี่มีเครื่องเพชรเยอะแยะ"
"แต่ฮยองงี่ซื้อเองก็ได้นี่!"
"เอาวงนี้ไปก่อน ไว้คราวหน้าพี่จะพาไปซื้อที่ตลาด ที่นี่มีเครื่องประดับสวย ๆ เพียบเลย"
"จริงนะ?!"
"อื้อ"
มือสีแทนลูบหัวคนน้องที่ดูเหมือนมีหูกระต่ายล่องหนตั้งขึ้นบนนั้นอย่างอ่อนโยน เอ่ยคำสัญญาที่ทำให้อีกฝ่ายรอที่จะกลับมาอีกในเร็ววันอย่างตื่นเต้น
เพชรสีขาวเม็ดเล็กเป็นประกายแพรวพราวบนมือของจองกุกตอนที่ราชวงศ์จอนกำลังขึ้นรถม้า หลังจากวันนั้นแทฮยองถามตัวเองอยู่ทุกวันว่าเมื่อไรพวกเขาจะได้เจอกันอีก
เพราะพอจองกุกไม่อยู่แล้ว เตียงของเขาก็รู้สึกหนาวขึ้นมาอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
เพราะตอนที่จองกุกจากไป จองกุกเอาหัวใจของเขาไปด้วย
จดหมายที่ถูกอ่านแล้วถูกพับเก็บใส่ซองไว้อย่างเดิม แทฮยองระบายยิ้มก่อนจะวางมันลงบนกองจดหมายที่มีรูปร่างแบบเดียวกันที่เขาสะสมไว้
จากผู้ส่งคนเดียวกัน
พวกเขาแลกเปลี่ยนจดหมายกันตั้งแต่วันนั้น ส่งมอบความคิดถึงให้กันและกันตลอดเวลาสองปีที่ผ่านมา ช่วงแรก ๆ ตาหวานเขียนได้แค่คำง่าย ๆ แต่ไม่ว่าจะเป็นแค่ชื่อของเขาที่มีหัวใจล้อมรอบหรือแค่ข้อความสั้น ๆ ที่ว่า 'ตาหวานไม่กลัวฟ้าร้องแล้วนะ' ลายมือขยุกขยิกของเด็กน้อยที่บอกเล่าเรื่องราวก็ทำให้แทฮยองอมยิ้มได้ทุกครั้งที่เห็น
คราวนี้จองกุกเขียนว่าจะมาหาเขาวันนี้ เป็นเหตุที่ทำให้แทฮยองอารมณ์ดีกว่าทุกวัน
เด็กชายที่กำลังย่างเข้าสู่วัยรุ่นเดินไปที่ห้องสมุดเพื่อเตรียมหนังสือเล่มโปรดของเขาแต่ระหว่างทางกลับถูกตามตัวโดยทหารองครักษ์นายหนึ่ง
"องค์ชายครับ ราชวงศ์ปาร์คจากแคว้นเทียร์มาขอเข้าพบท่านครับ"
เจ้าชายวัยแปดปีค่อย ๆ ลืมตาขึ้นเมื่อถูกเรียก เขามองไปนอกหน้าต่างของรถม้าที่กำลังเคลื่อนที่ แยกยิ้มกว้างเมื่อเห็นปราสาทอันคุ้นตาอยู่ใกล้ ๆ
เขาและแทฮยองไม่ค่อยได้เจอกันมากนักเนื่องจากพระราชาไม่อยากให้ลูกชายไปรบกวนเจ้าชายของอีกแคว้นถึงแม้ทางนั้นจะต้อนรับดีแค่ไหนก็ตาม บวกกับระยะทางที่ห่างไกลต้องใช้เวลาเป็นวันในการเดินทางทำให้ทั้งสองฝ่ายไม่สามารถไปมาหาสู่กันได้บ่อย ๆ แต่จองกุกก็อ้อนวอนขอพ่อแม่มาเยี่ยมแทฮยองได้สำเร็จหลังจากที่เพิ่งมาหาอีกฝ่ายเมื่อเดือนที่แล้ว
ซอกจินพาเขาลงจากรถม้าเมื่อยานพาหนะจอดอยู่กับที่ เด็กน้อยรีบวิ่งนำหน้าไปก่อนเพราะอยากเจอพี่ชายใจดีจะแย่ แต่เท้าเล็กทั้งสองต้องหยุดชะงักเมื่อเห็นคนที่เขาอยากพบยืนอยู่กับท่านลุงและท่านป้ากับเด็กผู้หญิงอีกคนที่มีผู้ใหญ่สองคนยืนอยู่ด้านหลัง
จองกุกรู้จักคนพวกนั้น เพราะพวกเขามาทำความรู้จักกับจองกุกก่อนหน้านี้ พระราชากับพระราชินีของแคว้นเพื่อนบ้าน
แล้วก็เจ้าหญิงปาร์คจีซูที่เป็นพระธิดา
ดวงตาใสแอบสอดส่องอยู่ห่าง ๆ มีเสียงแว่วเข้าหูว่าผู้มาเยือนกำลังจะกลับถิ่นของตน
หากแต่ไฟริษยาถูกจุดขึ้นในใจด้วยมือของเจ้าหญิงที่ถูกยกขึ้นจุมพิตโดยคนโปรดของเขา สายตาและรอยยิ้มอ่อนโยนที่ทั้งคู่ส่งไปมาทำให้เด็กน้อยเบือนหน้าหนีเพราะทนมองต่อไปไม่ได้
"ตาหวาน เป็นอะไร..."
เมื่อมีแค่พวกเขาสองคนตามลำพัง สิ่งที่คาใจก็ถูกพูดออกไป จองกุกทำหน้าบูดบึ้งมาตลอดตั้งแต่ที่เห็นหน้าเขาและเขาเดาไม่ออกว่าเป็นเพราะเหตุใด ทั้ง ๆ ที่อีกฝ่ายควรจะดีใจที่ได้เจอกันแท้ ๆ
"ฮยองงี่ชอบเจ้าหญิงเหรอ?"
เด็กน้อยที่นั่งยอง ๆ หันหลังให้เขาขณะเด็ดดอกไม้ไปด้วยบอกความในใจ ใบหน้าของแทฮยองฉายความมึนงง หัวสมองเชื่อมโยงคำถามกับเรื่องที่เขาสงสัยเข้าไม่ได้ราวกับจิ๊กซอว์สองตัวที่ไม่เข้ากัน
"ทำไมถึงถามแบบนั้น?"
"ตาหวานเห็นฮยองงี่จูบมือเจ้าหญิง"
เสียงหัวเราะถูกควบคุมไม่ให้หลุดออกมาหลังจากที่ใบหน้าเศร้าสร้อยหันมาทางเขา
"มันเป็นมารยาท"
"เจ้าหญิงก็มาหาตาหวานเหมือนกัน ตาหวานไม่เห็นต้องทำเลย!"
และต่อให้เขาโตขึ้น เขาก็จะไม่ทำ จองกุกคิดในใจ
เพราะเขาจะจูบแค่คนที่เขาชอบเท่านั้น
"เป็นเด็กเป็นเล็กหัดหึงเหรอเราน่ะ"
แทฮยองย่อตัวลงนั่งข้าง ๆ คนน้อง จองกุกไม่เข้าใจว่าแทฮยองหมายถึงอะไรแต่คงจะเป็นความรู้สึกของเขาในตอนนี้กระมัง
"หึง คืออะไร?"
"ก็...ประมาณว่าหวง"
จองกุกไม่เคยรู้สึกหวงของมาก่อน ไม่เคยรู้มาก่อนว่าการที่ไม่อยากให้ใครมาแตะต้องของของเขามันเป็นอย่างไร
แต่ตอนนี้เขารู้แล้ว
และเขาไม่ชอบเลย
ถ้าจะให้เขาใช้คำที่ฮยองงี่ใช้ เขาก็จะบอกว่า
"ใช่ หึง! หึงมาก"
รอยยิ้มเปี่ยมไปด้วยความเอ็นดูถูกกลั้นไว้ไม่อยู่ แทฮยองยกมือไปยีผมทุย ๆ ของจองกุกจนยุ่งในขณะที่อีกฝ่ายเอียงหัวหนี
"พี่ไม่ได้ชอบเจ้าหญิง"
องค์ชายเล็กหรี่ตามองคนพี่อย่างระแวง
"แต่พี่ชอบตาหวานนะ "
"ไม่เชื่อหรอก!"
จองกุกพรวดพราดลุกขึ้นพร้อมกับออกตัววิ่ง แทฮยองส่ายหน้าแต่ก็หุบยิ้มไม่ได้
เพราะเขาเห็นใบหน้าหวานขึ้นสีแดงเรื่อ อะไรที่จองกุกพยายามกลบเกลื่อนไม่ให้เขาเห็น
ก่อนจะลุกยืนและวิ่งตามคนเด็กกว่าไป
"จับตัวได้แล้ว"
"ฮิๆ"
สองแขนที่รวบรัดตัวเด็กไว้เรียกเสียงหัวเราะจากคนถูกจับ ทั้งสองล้มตัวลงนอนบนสนามหญ้าด้วยความเหนื่อยจากการเล่นวิ่งไล่จับ จองกุกมองดอกไม้ที่บานสะพรั่งอยู่รอบ ๆ กาย หลับตาสูดรับกลิ่นหอมฟุ้งทั่วบริเวณ
"ฮยองงี่รู้หรือเปล่า?"
"หือ?"
"ว่าการปลูกดอกไม้ทั้งสวนให้ใครสักคนหมายถึงความรักนิรันดร์"
"ใครบอก?"
"ตาหวานเองแหละ!" เสียงหัวเราะร่าของจองกุกสดใสแข่งกับแสงอาทิตย์อันอบอุ่นของฤดูใบไม้ผลิ
"งั้นเหรอ..."
"ฮยองงี่ปลูกดอกไม้ให้ใครหรือเปล่า?"
"เปล่า แค่งานอดิเรกน่ะ"
"ลองปลูกให้ใครสักคนสิ"
จะให้เขาเริ่มปลูกดอกไม้ทั้งสวนใหม่ตั้งแต่ต้นน่ะเหรอ? แค่จินตนาการแทฮยองก็ไม่มีแรงแล้ว เจ้าชายเหม่อมองดอกไม้อันที่รักของเขา หวนนึกถึงวันในอดีตที่เขาเริ่มปลูกดอกไม้ทีละเล็กละน้อยตั้งแต่อายุแปดขวบเป็นเวลาสามปีกว่าจะมีดอกไม้เต็มสวนขนาดนี้
"ฮยองงี่ นี่ดอกอะไรสวยจัง ตาหวานไม่เคยเห็นเลย"
จองกุกชูดอกไม้สีฟ้าที่กำไว้ในมือตั้งแต่ตอนที่เริ่มวิ่งให้เขาดู
"ไม่รู้เหมือนกัน"
เรียวคิ้วหนาขมวดอย่างครุ่นคิด เขาไม่เคยเห็นดอกไม้ลักษณะนี้ จำไม่ได้เลยว่าเคยปลูกมัน
และเป็นไปไม่ได้ที่จะมีดอกไม้ในโลกนี้ที่เขาไม่รู้จัก
"ฮยองงี่ไม่รู้เหรอ? งั้นตาหวานขอตั้งชื่อให้มันได้ไหม?"
"เอาสิ"
จองกุกเงียบไปชั่วครู่ หมุนดอกไม้ในมือไปมาก่อนจะยิ้มแล้วพูดว่า
"สเมราลโด"
แทฮยองยิ้มตอบ
"งั้นก็สเมราลโด"
"ตาหวานเด็ดมันมาจากตรงนู้น เสียดาย...มีแค่ไม่กี่ดอกเอง" เจ้าชายน้อยยิ้มบาง ๆ พลางยกดอกไม้ขึ้นมาทัดหู สีฟ้าอ่อนกับผิวขาวเนียนทำให้เด็กชายดูบริสุทธิ์ขึ้นไปอีก
ในชั่ววินาทีนั้นแทฮยองคิดจะเนรมิตทั้งสวนให้เต็มไปด้วยดอกสเมราลโด
"เบื่อแล้ว เล่นซ่อนหากันดีกว่า ฮยองงี่!"
จองกุกพูดโพล่งก่อนจะยืนขึ้น มือนิ่มดึงมือของเขาให้ลุกขึ้นตาม แทฮยองตอบตกลงเพราะมันคือการละเล่นโปรดของจองกุก แม้เขาจะรู้ว่าเด็กนี่น่ะขี้โกง
ครั้งแรกที่พวกเขาเล่นด้วยกัน แทฮยองเข้าไปหลบในบ้านไม้เล็ก ๆ ที่ตั้งอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ ผ่านไปได้สักระยะก็ได้ยินเสียงเด็กร้องไห้จ้าจนทั้งซอกจินและเขารีบมาดูว่าเกิดอะไรขึ้นกับจองกุก
'เป็นอะไรไป?'
อ้อมกอดของคนตัวเล็กกว่ามาพร้อมกับเสียงร่ำไห้ที่ดังกว่าเดิม
'ฮยองงี่ไปอยู่ไหนมา?! ตาหวาน—ฮึก ตาหวานหาฮยองงี่ไม่เจอ นึกว่าฮยองงี่ถูกปิศาจจับตัวไปแล้ว ฮือ...'
สิ่งหนึ่งที่แทฮยองไม่ชินสักทีแม้ว่าจะเห็นมันบ่อยแค่ไหนก็ตาม
คือน้ำตาบนใบหน้าน่ารักของจองกุก
ทุกครั้งที่จองกุกร้องไห้ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม แทฮยองจะรู้สึกเหมือนหัวใจของเขาถูกบีบและเขาอยากจะทำทุกอย่างเพื่อให้หยาดน้ำหยุดไหลจากดวงตาคู่นั้น
เขาสาบานกับตัวเองว่าแขนของเขาจะคอยโอบอุ้มและปลอบโยนเสมอในยามที่จองกุกเสียใจ และไม่ว่าอะไรที่ทำให้คนคนนี้มีความสุขแม้จะแค่เล็กน้อยก็ตาม แทฮยองก็จะทำ
องค์ชายใหญ่เดินผ่านกลุ่มดอกสเมราลโดที่มีอยู่เพียงสามดอก พลันนึกถึงดอกไม้ที่เสียบอยู่เหนือใบหูเล็กและสีหน้าเศร้าของจองกุกยามที่พูดว่าดอกไม้ที่ตัวเองค้นพบมีอยู่เพียงน้อยนิด
เขาจะเล่นซ่อนหากับจองกุกต่อให้อีกฝ่ายจะแอบดูว่าเขาไปซ่อนที่ไหน เพราะเขาไม่อยากให้จองกุกร้องไห้เหมือนเมื่อตอนที่หาเขาไม่เจอ
เขาจะเรียกดอกไม้สีฟ้านี้ว่าสเมราลโด ถึงมรกตมันจะเป็นสีเขียว เพราะจองกุกอยากเรียกมันว่าแบบนั้น
และถ้าจองกุกอยากให้เขาปลูกดอกไม้ทั้งสวนให้ แม้ว่ามันจะเหนื่อยแค่ไหน เขาก็จะปลูก
เพราะจองกุกคือคนที่เขาอยากมอบความรักที่ไม่มีวันสลายให้
✿
เรื่องยาวเราดราม่าทุกเรื่องค่ะไม่ต้องลุ้น ตอแหลไปว่าฟีลกู้ดแต่ดูก่อนว่าใครแต่ง 55555 ต้มมาม่ารอเลย
เรื่องหน้าที่จะอัปคือ #เสพติดsexวีกุก มีคนทวงละ
สกรีมแท็กด้วยเด้อ แห้งเหลือเกิลล
#ficsmeraldovk
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น