คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ชิ้นที่ 1
ชิ้นที่1
“พี่ฮานะ~”
“ว่าไงนัชชี่” หญิงสาวผมประบ่าในชุดแซคสีชมพูอ่อนหันมาตามเสียงเรียก
“เดี๋ยวอาร์คาน่าจะขึ้นเล่นแล้วนะ! ไม่ไปดูเหรอ??” นัชชี่ถาม เด็กสาวที่มีส่วนสูงน้อยกว่าทำสีหน้าตื่นเต้น
“อื้อ! ไปสิ ไม่ดูได้ไง” เธอตอบพร้อมทั้งเดินนำนัชชี่ไปยังบริเวณหน้าเวที ผู้คนมากมายยืนเบียดกัน ส่วนใหญ่เป็นเด็กสาวๆทั้งนั้น ทำให้เธอตัดสินใจดึงนัชชี่ออกมาวงนอก
“โห... ตัดใจจริง... เด็ดขาดมาก เชื่อแล้วล่ะว่าพี่เลิกชอบทาคุมิ” นัชชี่เอ่ยถึงมือกีตาร์วงคัฟเวอร์ที่ชื่อว่า ‘อาร์คาน่า’ ชายหนุ่มลูกครึ่งญี่ปุ่นในมาดแบดบอยสุดเท่ห์ - - - ทาคุมิ ที่เฟลอร์เคยรักเสียมากมาย
‘เฟลอร์’ เจ้าของชื่อ ‘ฮานะ มัตซึโมโตะ’ ชื่อที่เธอใช้ในวงการ ไม่ว่ากี่คนๆ ก็เรียกเธอว่าฮานะจนแทบจะกลายเป็นชื่อของเธอไปจริงๆเสียแล้ว
“ฮะฮะฮะ อยู่แล้วล่ะ! แต่พี่ก็ไม่เลิกดูอาร์คาน่าหรอกนะ...... อ๊ะ! ขึ้นเวทีมากันโน่นแล้ว” เฟลอร์รีบชี้ไปทางเวที หนุ่มหล่อ5คนที่มีบุคลิกแสนโดดเด่นค่อยๆเดินขึ้นมาบนเวทีก่อนเข้าประจำตำแหน่งของตัวเองท่ามกลางเสียงกรี๊ดที่กระหึ่มไปทั่วลานกว้าง - - - นัชชี่เหลือบมองดูเธอ ใบหน้าของเฟลอร์มีรอยยิ้มและความชื่นชมในประกายตา ในที่สุดเธอก็ยิ้มได้อย่างนี้ ทั้งๆที่เบื้องหน้าคือภาพของทาคุมิแท้ๆ หากเป็นเมื่อก่อน เฟลอร์จะดูอาร์คาน่าด้วยสีหน้าเหงาๆเสมอมา... จากท่าทางของเฟลอร์ในวันนี้ เป็นเครื่องยืนยันเรื่องความรู้สึกของเธอได้ดีเลยทีเดียว
“จริงสิ... นัชชี่... พี่ชาล่ะ ไม่เห็นเลย” เฟลอร์หันมาถามหลังจากจบเพลงแรก
“คงถือน้ำเตรียมรออัยย์อยู่หลังเวทีละมั้ง”
ทั้งสองคนกำลังพูดถึง ‘ชา’ หรือ รวิชา รุ่นพี่ของเฟลอร์ ที่เพิ่งจะคบกับ ‘อัยย์’ นักร้องนำรูปหล่อประจำวงอาร์คาน่า เจ้าของฉายาคุณชายสตรอว์เบอร์รี่
“นัชชี่...” เฟลอร์เรียกหลังจากเหล่าหนุ่มๆทั้ง5เดินลงจากเวที
“ว่าไงหือ”
“เดี๋ยวคอยดูอะไรด้วยนะ จะได้รู้ว่าพี่เข้มแข็งขึ้นแล้ว” เธอวิ่งไปข้างหลังเวทีทันทีที่พูดจบ นัชชี่ได้แต่วิ่งตามไปอย่างงงๆ ไม่อาจจะเข้าใจได้ว่ารุ่นพี่สาวคนนี้คิดอะไรอยู่
“ทาคุมิ~” เฟลอร์เรียกเสียงใส เด็กหนุ่มร่างสูงเจ้าของชื่อหันมามองนิ่งๆ นัชชี่เห็นเฟลอร์ส่งยิ้มให้พร้อมกับโบกมือทักทายพลางเดินเข้าไปหาอย่างไม่กลัวเหล่าแฟนๆที่ยืนอยู่แถวนั้น
“...?” ไม่ว่าเมื่อไหร่ก็ยังคงความนิ่งที่ดูราวคนเย็นชาไว้ได้เสมอ... นัชชี่คิดเช่นนั้น
“เมื่อกี๊โซโล่กีตาร์สุดยอดเลยค่ะ! ไม่มีหลุดเลย >w<” นัชชี่ตกใจนิดหน่อยกับท่าทางสดใสเริงร่าของเฟลอร์... ทั้งๆที่งานเมื่อเดือนที่แล้ว ยังไม่กล้าที่เข้าไปหาทาคุมิเลยด้วยซ้ำ แล้วนี่มันเกิดอะไรขึ้น
“แน่นอน...” ทาคุมิตอบด้วยน้ำเสียงของคนมั่นใจ100%
“ถ่ายรูปได้ไหมคะ” นัชชี่อึ้งกำลังสอง ไอ้ท่าทางไม่กล้าเข้าไปถ่ายรูปเมื่อ2-3งานที่ผ่านมาคืออะไร น่าแปลกใจสำหรับคนอย่างเฟลอร์ที่จะก้าวข้ามความรู้สึกอะไรสักอย่างในเวลาอันรวดเร็วอย่างนี้ - - - ทาคุมิยืนนิ่งๆให้เฟลอร์ได้ถ่ายรูปตามใจ
“เรียบร้อยแล้ว ขอบคุณค่า~ ฮานะจะไปวิ่งเล่นต่อแล้วนะคะ แล้วเดี๋ยวคงได้เดินผ่านกันอีก” เฟลอร์ยิ้มลา แล้วปลีกตัวออกมาพร้อมๆกับนัชชี่... และทันทีที่ออกมาจนถึงบริเวณที่ไม่ค่อยมีผู้คนพลุกพล่าน
“พี่... ไอ้ที่พี่บอกว่าเลิกชอบ ตัดใจ แต่ยังดูอาร์คาน่า... นี่รวมไปถึงปกติสุขปานนี้เลยเรอะ”
“........ ประมาณนั้น....”
“นึกว่าจะเข้าขั้นเกลียดไม่อยากเห็นหน้าเลยเสียอีก”
เฟลอร์ถอนหายใจเบาๆก่อนจะยิ้มให้เด็กสาวตรงหน้า
“เกลียดทำไมล่ะ... ทาคุมิไม่ได้ทำอะไรแย่ๆให้พี่รู้สึกเกลียดนี่นา... ก็แค่เลิกรัก... แต่ให้ตัดออกไปจากชีวิตพี่คงทำไม่ได้หรอก.......” สายตาเฟลอร์ทอดไปไกลแล้วเอ่ยต่อ
“ก็รักมากมาตั้งสองปี... ยังไงก็ตัดจากชีวิตไม่ได้หรอก...... ถ้าไม่มีทาคุมิ... พี่คงลืมไปแล้วว่ามีหัวใจ”
นัชชี่ไม่ถามอะไรต่อ เธอหย่อนตัวลงนั่งข้างๆเฟลอร์ หากพูดอะไรซี้ซั้วออกไป แล้วคำพูดนั้นเผลอไปสะกิดใจเข้า เฟลอร์อาจร้องไห้ออกมาได้... แค่หนเดียวที่เกือบได้เห็นน้ำตาของเธอต่อหน้าก็เกินพอ นัชชี่ไม่อยากให้มันมีหนที่สอง
“เออใช่... วันนี้พี่ต้องรีบกลับบ้านนี่นา... กี่โมงแล้วเนี่ย” จู่ๆหญิงสาวก็ลุกพรวดขึ้น ยกข้อมือขึ้นดูเวลา
“ดีนะเนี่ยที่วันนี้อาร์คาน่าขึ้นไม่เลท... งั้นเดี๋ยวพี่กลับบ้านก่อนแล้วล่ะนัชชี่... จะทำอะไรต่อรึเปล่าเราน่ะ” เธอหยิบกระเป๋าขึ้นสะพายไหล่ก่อนจะหันมาถาม
“ไม่อะ... พี่กลับเราก็กลับ...”เด็กสาวตัวเล็กลุกขึ้นตามพร้อมกับเป้สะพายหลัง
“เดี๋ยวถึงบ้านเมื่อไหร่ ทำอะไรเรียบร้อยแล้วจะโทรไปเมาท์นะ”
“โอเช”
เฟลอร์ขึ้นรถไฟฟ้ากลับมาถึงบ้านเธอซึ่งอยู่ไม่ห่างจากสถานีรถไฟฟ้าหมอชิตนัก หญิงสาวค่อยๆเดินไปเรื่อยๆ... เพราะวันนี้ไม่ได้กลับค่ำ จึงสามารถเดินจากปากซอยเข้ามาบ้านของเธอได้
“!” ร่างของเธอหยุดชะงัก มือเรียวยกขึ้นทาบบนหน้าอกด้วยความตกใจ - - - จู่ๆก็รู้สึกเหมือนมีใครมาบีบที่หัวใจ
“... อะไรเนี่ย” เฟลอร์รู้สึกถึงลางสังหรณ์แปลกๆบางอย่างที่เกิดขึ้น - - - แบบเดียวกับที่เกิดขึ้นก่อนที่จะได้รับโทรศัพท์แจ้งข่าวการตายของคนๆนั้น
“คงไม่มีอะไรหรอกน่า” หญิงสาวเอ่ยเบาๆเป็นการปลอบใจตัวเอง
“กลับมาแล้วค่า~”
“เฟลอร์~ มาดูนี่เร็วลูก... พ่อถ่ายรูปมัตซึโมโตะมาให้แล้ว” เสียงพ่อเธอตะโกนเรียกมาจากชั้นสอง แจ้งข่าวภารกิจสำเร็จ
‘มาซากิ มัตซึโมโตะ’ หรือที่พ่อของเธอเรียกสั้นๆว่ามัตซึโมโตะคือหนุ่มญี่ปุ่น ซึ่งเป็นผู้จัดการร้านอาหารญี่ปุ่นที่กำลังจะเปิดใหม่ ที่พ่อของเธอเป็นสถาปนิกรับผิดชอบการออกแบบร้านนี้ - - - เฟลอร์ไม่นึกว่าพ่อจะถ่ายรูปมาให้ตามที่เธอบอก เหตุเพราะว่าพ่อและแม่ของเธอเคยพบกับมัตซึโมโตะที่ว่านี้ แล้วเกิดถูกใจเข้า เลยยุยงให้ลูกสาวที่อายุ20ปีแล้วได้ไปพบเจอ แต่การตัดสินใจอะไรให้แบบนั้น เฟลอร์ไม่เคยคิดว่ามันดี จึงบอกว่าให้ถ่ายรูปมาให้ดูก่อนแล้วเธอจะตัดสินใจว่าไปพบดีไหม
พ่อส่งกล้องดิจิตอลมาให้
“เปิดดูเลยลูก”
หน้าจอสีดำสนิทค่อยมีตัวอักษรภาษาอังกฤษซึ่งเป็นชื่อยี่ห้อของกล้องดิจิตอลตัวนี้ปรากฏขึ้น เฟลอร์กดปุ่มเพลย์ เพื่อจะดูรูปที่อยู่ในเอสดีการ์ด
...
เฟลอร์ได้ยินเสียงพ่อถามอะไรสักอย่าง แต่คล้ายกับเสียงพ่ออยู่ไกลออกไปจนฟังแทบไม่ได้ยิน ภาพในหัวของเธอขาวโพลนไปหมด ราวกับทุกอย่างรอบตัวหยุดนิ่ง รวมไปถึงหัวใจของเธอด้วย
ภาพที่ปรากฏบนหน้าจอเริ่มพร่ามัวเพราะน้ำใสๆที่ก่อตัวขึ้น เฟลอร์เรียกสติคืนมาแล้ววางกล้องคืนบนโต๊ะ
“เฟลอร์ไปอาบน้ำก่อนนะคะ” ไม่รอคำตอบจากพ่อ เธอรีบวิ่งขึ้นไปบนห้องนอนของเธอซึ่งอยู่ชั้นสามด้วยความรวดเร็ว ประตูห้องถูกปิดลงพร้อมกับร่างกายที่ทรุดนั่งลงกับพื้นห้อง น้ำตาค่อยๆหลั่งไหลลงอาบแก้ม
ภาพของชายหนุ่มรูปร่างสูงโปร่ง ใบหน้าที่ดูเอาจริงเอาจังภายใต้กรอบแว่น ผมที่ตัดสั้นไม่มาก รูปหน้าที่เธอคุ้นเคยเป็นอย่างดี
คาซุคุง...
To be continue...
ความคิดเห็น