ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic B.A.P] OrcusKiller ผู้ชายอันตราย

    ลำดับตอนที่ #6 : OrcusKiller :CHAPTER 5

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 52
      0
      6 เม.ย. 58


    แสงแดดยามเช้าค่อยๆลอดผ่านผ้าม่านเข้ามาภายในห้อง คนตัวบางค่อยๆลืมตาตื่นขึ้นเพราะแสงที่รบกวนการนอน

    อื้อ..ฮิมชอลบิดตัวไปมาก่อนจะลุกขึ้นนั่งและมองไปที่น้องชายพร้อมกับยิ้มออกมาอย่างอ่อนโยน คนตัวบางรู้นิสัยน้องชายตัวเองดีว่าขี้เซาแค่ไหน แสงแดดแค่นี้ไม่มีทางรบกวนการนอนของฮิมชานได้

    “ ขี้เซาไม่เปลี่ยนจริงๆ” ฮิมชอลส่ายหน้าเบาๆก่อนจะลุกขึ้นเดินออกจากห้องไป คนตัวบางเดินตรงไปเปิดตู้เย็นและหยิบน้ำออกมาดื่ม

    “ ตื่นแล้วหรอ” เสียงของผู้มาใหม่เอ่ยทักขึ้น คนตัวบางที่ไม่ทันสังเกตเห็นอีกคนถึงกับสะดุ้งตกใจจนสำลักน้ำ

    “ แค่กๆ.. ตะ ตื่นแล้ว แค่กๆ” ฮิมชอลหันไปตอบร่างโปร่งแต่ก็ยังคงไอไม่หยุด

    “ เฮ้ย! โทษทีๆ ไม่ได้จะทำให้ตกใจ” ยงนัมเมื่อเห็นว่าคนตัวบางสำลักน้ำและไอไม่หยุดรีบวิ่งเข้าไปดู

    “ แค่ก.. ไม่เป็นไร” ฮิมชอลที่เริ่มดีขึ้นพูดพร้อมกับส่งยิ้มให้ร่างโปร่ง

    “ ดีขึ้นแล้วใช่ไหม” ยงนัมถามคนตัวบางด้วยความเป็นห่วง

    “ อื้อ ดีขึ้นแล้วล่ะ” ฮิมชอลพยักหน้า

    “ แล้วนี่น้องชายนายยังไม่ตื่นหรอ” ยงนัมถามคนตัวบาง

    “ ยังเลย รายนั้นน่ะตื่นยาก” ฮิมชอลพูดพร้อมกับยิ้มขำ

    “ ฮ่าๆๆๆๆ ฉันเชื่อ” ยงนัมหัวเราะเมื่อนึกไปถึงเหตุการณ์เมื่อคืนที่ฮิมชานโวยวายยกใหญ่เพราะโดนยงกุกผลักตกเตียง

    “ ฮ่าๆๆ แล้วนี่น้องชายนายก็ยังไม่ตื่นหรอ” ฮิมชอลถามกลับ

    “ ยงกุกมันตื่นไปทำธุระตั้งแต่เช้าแล้ว” ยงนัมพูดพร้อมกับเปิดตู้เย็นเพื่อหยิบน้ำออกมาดื่มบ้าง

    “ อ่า.. ตื่นเช้ากันจัง งั้นฉันคงต้องรีบไปปลุกฮิมชานแล้วล่ะ” พูดจบฮิมชอลก็เดินกลับไปที่ห้องทันที แต่ยังไม่ทันทีคนตัวบางจะเอื้อมมือไปเปิดประตูห้องประตูก็เปิดออกซะก่อนพร้อมกับร่างบางที่เดินงัวเงียออกมา

    “ ตื่นแล้วหรอฮิมชาน” ฮิมชอลมองน้องชายอย่างงงๆ

    “ อื้อ.. ทำไมนายตื่นแล้วไม่ปลุกฉัน” ฮิมชานมองพี่ชายอย่างมึนๆเพราะร่างบางยังตื่นไม่เต็มตา

    “ ก็เห็นนายกำลังหลับสบายอยู่นี่นา ว่าแต่ทำไมวันนี้ตื่นเองเร็วจัง” ฮิมชอลถามด้วยความสงสัย

    “ ก็ฉันกลัวจะโดนไอ้บ้านั่นมาปลุกแบบเมื่อคืนอีกน่ะสิ” ฮิมชานพูดจบก็เบ้ปากอย่างไม่พอใจเมื่อนึกถึงเหตุการณ์เมื่อคืน

    “ ฮ่าๆๆๆๆ” เสียงหัวเราะของฮิมชอลและยงนัมดังขึ้นพร้อมกัน ทั้งสองคนไม่คิดว่าฮิมชานจะกลัวการปลุกของยงกุกจนฝืนตัวเองตื่นเช้าแบบนี้

    “ หัวเราะอะไรกันเล่า!” ฮิมชานที่เห็นว่าตัวเองโดนหัวเราะเยาะก็พองแก้มอย่างงอนๆ

    “ ฮ่าๆ นี่นายกลัวไอ้ยงกุกมันขนาดนั้นเลยหรอ” ยงนัมยังคงขำไม่หยุด

    “ ใคร ใครกลัว?!” ฮิมชานถามเสียงดังเพื่อกลบเกลื่อนความรู้สึก

    “ ก็นายไง” ยงนัมมองฮิมชานแล้วยิ้มขำกับท่าทางอีกคน

    “ ฉันไม่ได้กลัวไอ้ขี้เก๊กนั่นซะหน่อย! ฉันแค่ไม่อยากเจ็บตัว” พูดจบร่างบางก็กอดอกเชิดหน้าอย่างมั่นใจ

    “ งั้นหรอ..” และแล้วคนที่ทุกคนกำลังเอ่ยถึงก็พูดขึ้นมาเสียงเรียบ ร่างบางทั้งสองคนหันไปมองยงกุกอย่างตกใจ ต่างจากยงนัมที่หันไปยักคิ้วให้น้องชายเป็นการทักทาย

    “ กะ.. ก็ใช่น่ะสิ” ฮิมชานพูดเสียงตะกุกตะกักอย่างหวั่นๆ ไอ้บ้านี่ มันเป็นผีรึไง คิดจะโผล่ก็โผล่มาเฉยๆ หัวใจเกือบวาย ร่างบางคิดในใจ

    “ เรียบร้อยแล้วใช่ไหม” ยงนัมเอ่ยถามน้องชาย

    “ อื้อ” ยงกุกพยักหน้าก่อนจะหันไปมองแฝดร่างบางทั้งสองคน

    “ นายสองคนไปเตรียมตัวได้แล้ว..” พูดจบร่างสูงก็เดินเข้าห้องไป

    “ เดี๋ยวฉันสองคนจะพาพวกนายไปซื้อเสื้อผ้าก่อนไปที่บ้าน อาบน้ำทำอะไรเสร็จแล้วก็มารอตรงนี้แล้วกัน” ยงนัมพูดพร้อมกับยิ้มให้แฝดร่างบางทั้งสองคน

    “ อื้อ” ฮิมชอลพยักหน้าก่อนจะลากฮิมชานกลับเข้าห้องเพื่อไปอาบน้ำแต่งตัว เมื่อเห็นว่าร่างบางทั้งสองเข้าห้องไปแล้ว ร่างโปร่งก็เดินตามน้องชายเข้าห้องไปบ้าง

    เวลาผ่านไปประมาณหนึ่งชั่วโมง ตอนนี้ทั้งสี่คนมารวมตัวกันอยู่ที่โถงห้องพักและพร้อมที่จะออกเดินทาง

    “ พร้อมแล้วก็ไปกันเถอะ” ยงนัมพูดก่อนจะลุกขึ้นยืนและเดินนำทุกคนออกจากห้อง เมื่อมาถึงบริเวณล็อบบี้ร่างโปร่งก็เดินเอากุญแจห้องไปคืนแล้วทั้งสี่คนก็เดินไปขึ้นรถที่พนักงานรับรถนำมาจอดไว้ให้หน้าโรงแรม ทั้งสี่คนขึ้นไปนั่งประจำที่ของตัวเองแล้วยงนัมก็ขับออกไป ใช้เวลาไม่นานนักทั้งสี่คนก็มาถึงห้างสรรพสินค้าชื่อดัง

    “ อยากได้อะไรก็บอกล่ะ” หลังจากที่จอดรถเสร็จแล้วเดินเข้ามาในห้างยงนัมก็หันไปบอกกับแฝดร่างบางทั้งสองคน

    “ ขอโทษที่ต้องรบกวนนะ” ฮิมชอลเอ่ยขึ้นอย่างรู้สึกแย่ คนตัวบางรู้สึกไม่ดีที่จะต้องมาเป็นภาระคนอื่นแบบนี้

    “ ฮ่าๆๆ ขอโทษทำไม นายสองคนก็เป็นเหมือนน้องชายฉัน พ่อแม่เราเป็นเพื่อนรักกันจำไม่ได้รึไง” ยงนัมหยุดเดินและหันไปมองฮิมชอล

    “ ถึงอย่างนั้นฉันก็ยังอยากขอโทษอยู่ดี.. ก่อนออกมาจากที่นั่นฉันน่าจะหยิบของที่จำเป็นออกมาด้วย” ฮิมชอลก้มหน้าอย่างรู้สึกผิด

    “ คิดมากน่า” ยงนัมเดินเข้าไปใกล้ๆคนตัวบางแล้วยกมือขึ้นยีผมอีกคนเบาๆ ก่อนจะหันกลับไปทางเดิมและเดินตรงไปยังร้านเสื้อผ้าผู้ชายที่อยู่ใกล้ๆ ร่างโปร่งไม่ได้สังเกตเลยว่าสิ่งที่ตัวเองทำนั้นจะส่งผลอะไรต่อคนตัวบางบ้าง

    ตึกตึก ตึกตึก..

    เสียงหัวใจของฮิมชอลเต้นแรงจนเจ้าตัวยังรู้สึกได้ ตอนนี้ใบหน้าของคนตัวบางแดงจนน้องชายที่ยืนอยู่ข้างๆยังสังเกตเห็น

    “ ฮิมชอล เป็นอะไรรึป่าวทำไมหน้าแดงๆ” ฮิมชานเอ่ยถามพี่ชายด้วยความเป็นห่วง

    “ ปะ.. ป่าวๆ ฉันไม่เป็นอะไร” ฮิมชอลหันไปปฏิเสธน้องชายในทันควันก่อนจะยกมือขึ้นจับแก้มทั้งสองข้างของตัวเอง

    “ แน่ใจนะ” ฮิมชานถามย้ำอีกครั้งพร้อมกับเอียงคอมองหน้าพี่ชาย

    “ อะ.. อื้อ ฉันไม่เป็นไร” ฮิมชอลพยักหน้าแล้วยิ้มบางให้กับฮิมชาน

    “ ไม่เป็นไรก็ไม่เป็นไร งั้นรีบไปกันเถอะ สองคนนั้นเดินเข้าไปในร้านเสื้อผ้าแล้ว” พูดจบฮิมชานก็ดึงมือพี่ชายเดินตามยงกุกกับยงนัมเข้าร้านไป

    “ ชอบตัวไหนก็หยิบมาเลยนะ” ยงนัมที่เห็นว่าร่างบางทั้งสองเดินเข้ามาในร้านแล้วเอ่ยขึ้นพร้อมกับยิ้มให้ ร่างบางทั้งสองคนพยักหน้ารับรู้ก่อนจะเดินไปเลือกเสื้อผ้าในแบบที่ตัวเองชอบ

    “ เอาตัวไหนดีนะ..” ฮิมชอลพูดกับตัวเองอย่างคิดหนักมองเสื้อยืดสองตัวที่ตัวเองถืออยู่

    “ เลือกไม่ได้ก็เอาไปทั้งสองตัวเลยสิ” ยงนัมที่ยืนมองคนตัวบางเลือกเสื้อผ้าอยู่นานพูดขึ้น

    “ ยงนัม.. มายืนตรงนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่” ฮิมชอลหันไปมองร่างโปร่งที่ชอบมาไม่ให้ซุ่มให้เสียงอย่างตกใจ

    “ ขี้ตกใจจริงนะ ฮ่าๆๆๆ ฉันก็มายืนอยู่ตรงนี้ตั้งนานแล้ว” ยงนัมหัวเราะกับนิสัยขวัญอ่อนขี้ตกใจของคนตรงหน้า

    “ แล้วนี่ฮิมชานกับยงกุกไปไหนล่ะ” ฮิมชอลถามด้วยความสงสัยพร้อมกับหันซ้ายหันขวามองหาน้องชายตัวเองกับแฝดคนน้องของร่างโปร่ง

    “ อยู่นู่นไง” ยงนัมพยักหน้าไปทางโซนเสื้อเชิ้ตเพื่อให้คนตัวบางมองตาม

    “ งื้ออ.. ฮิมชานนะฮิมชาน แทนที่จะมาช่วยกันเลือก” ฮิมชอลมองไปยังน้องชายก่อนจะเอ่ยออกมาอย่างงอนๆ

    “ ฮ่าๆๆ ทำหน้าเป็นเด็กน้อยไปได้” ยงนัมหัวเราะกับท่าทางของคนขี้งอน

    “ หัวเราะอะไรเล่า” ฮิมชอลพูดด้วยน้ำเสียงงอนๆใส่ยงนัมก่อนจะพองแก้มและหันกลับไปเลือกเสื้อผ้าต่ออย่างไม่สนใจร่างโปร่งข้างหลัง

    “ โอ๋ๆ เด็กน้อย ไม่งอนนะครับ ฮ่าๆๆๆ” ยงนัมเอ่ยง้อคนตัวบางพร้อมกับเดินไปยืนข้างๆแล้วยกมือขึ้นยีผมอีกคนเบาๆ

    “ งื้อออ ฉันไม่ใช่เด็กนะ” ฮิมชอลปัดมืออีกคนออกเบาๆก่อนจะหันไปยู่ปากใส่

    “ ฮ่าๆๆๆ มาๆเดี๋ยวฉันช่วยเลือก” พูดจบร่างโปร่งก็หันไปช่วยคนตัวบางเลือกเสื้อผ้า ฮิมชอลเป็นคนที่ไม่ค่อยเรื่องมากเรื่องการแต่งตัวมากนัก ส่วนใหญ่คนตัวบางก็จะเลือกแต่สีที่ตัวเองชอบและแบบเสื้อผ้าที่ดูใส่สบาย จึงใช้เวลาในการเลือกเสื้อผ้าไม่นานนัก

    ด้านฮิมชานกับยงกุก..

    ร่างสูงของยงกุกกำลังยืนกอดอกมองฮิมชานที่ใช้เวลาเลือกเสื้อผ้าไปเกือบครึ่งชั่วโมง แต่เพิ่งเลือกเสื้อผ้าได้แค่สองตัว ร่างสูงเริ่มรู้สึกเบื่อหน่ายกับการรอคอย จึงตัดสินใจเดินเข้าไปหาร่างบาง

    “ ขี้เกียจรอแล้ว..” ยงกุกพูดด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งก่อนจะหยิบเสื้อผ้าที่อยู่ตรงนั้นสี่ห้าชุดแล้วลากร่างบางไปที่เคาเตอร์จ่ายเงินที่ยงนัมกับฮิมชอลยืนรออยู่แล้ว

    “ อะไรของนายเนี่ย! ฉันยังเลือกไม่เสร็จเลยนะ” ฮิมชานโวยวายเสียงดัง ร่างบางพยายามสะบัดมือร่างสูงออกจากข้อมือตัวเองพร้อมกับทำหน้าไม่พอใจ

    “ ขืนรอนายเลือกเสร็จวันนี้ก็ไม่ต้องทำอย่างอื่นแล้ว” ยงกุกพูดโดยไม่หันไปมองฮิมชาน ร่างสูงวางเสื้อผ้าของร่างบางที่ตัวเองถือมาลงบนเคาเตอร์และหันไปมองพี่ชายที่ยืนรออยู่แล้ว

    “ จ่ายเงินเลย..” ร่างสูงหันไปพูดกับพี่ชาย ยงนัมพยักหน้าตอบรับก่อนจะยื่นบัตรเครดิตให้กับพนักงาน

    “ ไอ้บ้ายงกุก! ไอ้คนเย็นชา! ไอ้คนเผด็จการรรรรร!!!” ฮิมชานยังคงโวยวายไม่หยุด เป็นเหตุให้ร่างสูงบีบข้อมือของร่างบางแน่นขึ้นเพื่อให้ร่างบางรับรู้ว่าเค้าเริ่มหงุดหงิด

    “ โอ๊ย!” ฮิมชานร้องออกมาด้วยความรู้สึกเจ็บที่ข้อมือก่อนจะค่อยๆเงยหน้าสบตากับร่างสูงที่หันมามองด้วยสายตาเย็นชา ร่างบางรู้สึกได้ถึงความไม่พอใจในสายตาคู่นั้นที่ส่งมาให้จึงเงียบเสียงลงและหยุดโวยวายในทันที

    “ เรียบร้อยแล้ว ไปกินข้าวกันเถอะ” ยงนัมที่จ่ายเงินเสร็จแล้วรับของมาถือไว้ก่อนจะหันไปพูดกับทั้งสามคนที่เหลือ ยงกุกปล่อยมือจากฮิมชานก่อนจะเดินนำออกไป ตามด้วยยงนัม ฮิมชอลเดินไปหาน้องชายก่อนจะจับมือบางให้เดินไปด้วยกัน

    “ เจ็บมากรึป่าวฮิมชาน..” ฮิมชอลหันไปถามน้องชายด้วยความเป็นห่วง

    “ ไม่เจ็บเท่าไหร่แล้วล่ะ..” ฮิมชานส่ายหน้าเบาๆพร้อมกับยิ้มบางส่งไปให้พี่ชาย คนตัวบางรู้ดีว่าสิ่งที่น้องชายพูดก็แค่ให้ตัวเค้าสบายใจ เพราะจากที่ดูแล้วข้อมือของฮิมชานยังคงมีรอยแดงอยู่อย่างเห็นได้ชัด แต่คนตัวบางก็ไม่อยากทำให้น้องชายรู้สึกไม่ดีไปมากกว่านี้

    “ งั้นกินข้าวกันเถอะ ฮิมชานต้องกินเยอะๆด้วย โอเคไหม” ฮิมชอลส่งยิ้มหวานให้กับน้องชายเพื่อหวังให้อีกคนรู้สึกดีขึ้น

    “ แต่ฉันไม่ค่อยหิว..” ร่างบางตอบกลับเสียงเบา

    “ ง่า.. ฮิมชานอ่า กินข้าวเยอะๆนะ นะนะ” เมื่อเห็นว่าพูดธรรมดาไม่ได้ผล ฮิมชอลจึงเปลี่ยนมาอ้อนน้องชายแทน

    “ ฮ่าๆๆ ก็ได้ๆ” ในที่สุดฮิมชานก็แพ้ลูกอ้อนของพี่ชายผู้น่ารักและยอมตกลงอย่างโดยดี

    “ ดีมากน้องชาย” ฮิมชอลยิ้มตาหยีอย่างดีใจ

    “ กินร้านนี้แล้วกัน” ยงนัมที่เดินนำอยู่ข้างหน้าหยุดยืนอยู่หน้าร้านราเมนชื่อดังภายในห้างแห่งนี้ก่อนจะหันมาพูดกับร่างบางทั้งสองคนที่เดินตามมา

    “ ราเมนนน อยากกินอยู่พอดีเลย” ฮิมชอลตาลุกวาวอย่างดีใจ คนตัวบางรีบดึงมือน้องชายให้เดินตามตัวเองเข้าไปในร้าน

    “ ฮ่าๆๆ เด็กน้อยชะมัด” ยงนัมหัวเราะออกมาก่อนจะเดินตามแฝดร่างบางทั้งสองคนเข้าไปในร้าน ตามมาด้วยยงกุก ฮิมชอลเลือกเดินเข้าไปนั่งโต๊ะในสุดติดริมกระจกโดยตัวเองเข้าไปนั่งติดริมกระจกและให้ฮิมชานนั่งติดริมทางเดิน ส่วนยงนัมก็เลือกเข้าไปนั่งตรงข้ามกับฮิมชอล และยงกุกก็นั่งตรงข้ามกับฮิมชาน พนักงานเดินเอาเมนูมาให้ ทั้งสี่คนเลือกสั่งราเมนที่ตัวเองชอบ รอไม่นานในที่สุดราเมนทั้งสี่ชามก็มาวางอยู่ตรงหน้าทุกคน

    “ น่ากินจังเลยเนอะฮิมชาน” ฮิมชอลมองชามราเมนของตัวเองแล้วพูดขึ้น

    “ อะ.. อื้ม” ฮิมชานพยักหน้าเบาๆ ร่างบางรู้สึกถึงสายตาของร่างสูงที่มองมาที่ตัวเอง แต่ก็ไม่กล้าเงยหน้าขึ้นไปสบตา จึงทำเป็นไม่สนใจและตั้งหน้าตั้งตากินราเมนของตัวเอง เวลาผ่านไปสักพักในที่สุดทั้งสี่คนก็กินราเมนกันจนอิ่ม ฮิมชอลยิ้มอย่างมีความสุขที่ได้กินในสิ่งที่ตัวเองอยากกิน ยงนัมที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามเมื่อได้เห็นรอยยิ้มของคนตัวบางก็ยิ้มตามไม่หุบ

    “ อิ่มแล้วก็กลับกันเถอะ” ยงนัมพูดก่อนจะยกมือขึ้นเรียกพนักงานมาเก็บเงิน เมื่อจ่ายเงินเสร็จแล้วทั้งสี่คนก็พากันเดินออกจากร้าน โดยครั้งนี้ทั้งสี่คนเดินอยู่ข้างๆกัน ยงนัมเลือกเดินข้างฮิมชอลและยงกุกเดินข้างฮิมชาน แฝดร่างสูงทั้งสองคนรับรู้ได้ถึงสิ่งผิดปกติตั้งแต่เดินออกจากร้านเสื้อผ้า แต่ทั้งสองคนก็ยังคงทำตัวปกติเพราะคิดว่าคงไม่มีอะไร แต่ในตอนนี้ร่างสูงทั้งสองคนมั่นใจแล้วว่ามีคนคอยตามพวกเค้าทั้งสี่คนอยู่..

    -----------------------------------------------------------------------------------------

    เย่!!!!!!! ในที่สุดไรท์เตอร์ก็ได้มาอัพตอนนี้หลังจากที่ใช้เวลาในการเรียบเรียงอยู่นาน และไรท์เตอร์ก็เพิ่งจะหายจากการเป็นตากุ้งยิง (นี่ไรท์ไม่ได้แอบดูใครนะ -3-) ไรท์ไม่ได้หายนะ ก็พยายามคิดเนื้อเรื่องและแต่งให้อย่างเร็วที่สุดเท่าที่ทำได้ เพราะไม่อยากให้รีดเดอร์ที่รออ่านเรื่องนี้ต้องรอนาน ยังไงก็ช่วยให้กำลังใจไรท์เตอร์คนนี้กันต่อไปด้วยนะคะ สำหรับแท็กฟิคก็มีแล้วนะคะ #ฟิคผชอตร แท็กนี้เลยเพื่อใครยังไม่รู้ ฮ่าๆๆๆๆ ฝากตอนนี้และตอนต่อไปที่ไรท์กำลังเรียบเรียงอยู่ด้วยนะคะ รักรีดเดอร์ทุกคนนนน ^__^

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×