[KyuMin] Our Feelings ♡ - [KyuMin] Our Feelings ♡ นิยาย [KyuMin] Our Feelings ♡ : Dek-D.com - Writer

    [KyuMin] Our Feelings ♡

    เมื่อผมคิดถึงคุณ ผมยังรู้สึกอบอุ่นอยู่เต็มหัวใจ

    ผู้เข้าชมรวม

    343

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    3

    ผู้เข้าชมรวม


    343

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    2
    หมวด :  นิยายวาย
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  25 ม.ค. 60 / 18:38 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น




    อยู่ดีๆก็หน่วงหัวใจจนเขียนฟิคออกมาได้ 1 ตอนสั้นๆ ภายในเวลา 1 ชั่วโมง ;___; 
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      Still -여전히 아늑해

      30 ธันวาคม 2016

      ... วันนี้แล้วสินะ วันที่ผมพยายามบอกตัวเองเสมอว่าอย่าไปจำ วันที่ผมพยายามบอกตัวเองเสมอว่ามันไม่ได้สำคัญอะไร อย่าไปเฝ้ารอ แต่สุดท้าย สิ่งที่เราพยายามไม่จำ มันกลับไม่หายไปจากสมองของเราเลย เพราะหัวใจต่างหากที่ทำหน้าที่เก็บความสำคัญของบางสิ่งไว้กับเราเสมอมา

      เมื่อคืนผมต้องเข้าร่วมงานประกาศรางวัลของช่อง MBC กว่าจะได้กลับไปนอนที่หอ เวลาก็ล่วงเลยไปจนเกือบๆจะตี3 ทั้งๆที่วันนี้ผมไม่มีตารางงาน แค่มีนัดกับเพื่อนสมัยมัธยมที่ปูซาน ซึ่งผมก็เลือกจะบินไปที่นั่นในตอนบ่ายเพื่อนอนค้าง 1 คืน และกลับมา countdown ที่โซลในช่วงเย็นของวันเสาร์ แต่น่าแปลกที่วันนี้ผมตื่นมาตั้งแต่7โมงเช้าทั้งๆที่เพิ่งนอนไปได้แค่ 4 ชั่วโมง ผมโทรหาพี่ยงซอนทันทีที่ผมตื่น และได้ความว่าเค้าต้องไปถึงปูชอนก่อนเก้าโมงเช้า ผมวิ่งออกไปเคาะประตูห้องเมเนเจอร์คนนึงที่อยู่ติดกัน เพื่อขอให้เค้าขับรถพาผมไปที่นั่น ...กรมทหารที่ 17 เมืองปูชอน 

      นับว่าเมเนเจอร์ของผมทำเวลาได้ดี เพราะเรามาถึงยังจุดหมายในเวลาเก้าโมงพอดิบพอดี ตอนนี้เบื้องหน้าของผมคือ เอลฟ์ แฟนคลับของซุปเปอร์จูเนียร์ที่มารอรับหนึ่งในสมาชิกของวงที่จะปลดประจำการในวันนี้ วันที่ 30 ธันวาคม แวบแรกที่ผมเห็นแฟนคลับมากมายอยู่ที่นี่ ผมยิ้มออกมาเบาๆอย่างโล่งใจ .. ไม่ใช่ผมคนเดียวที่รอเค้าสินะ แฟนคลับมากมายถือป้ายเชียร์ ถือแบนเนอร์ เพื่อรอพบคนที่คิดถึงมาตลอดระยะเวลาเกือบ 2 ปี มันเป็นภาพที่ดูอบอุ่นมาก จนผมอดคิดไม่ได้ว่า เหลือผมคนเดียวแล้วสินะตอนนี้ เมื่อวันของผมมาถึง ผมจะใจหายมากขนาดไหนกันนะ 

      ผมเลือกที่จะนั่งรอในรถ เพราะผมยังตอบตัวเองไม่ได้ว่า ผมมาที่นี่นั้นเพื่ออะไร แค่อยากเห็นหน้า หรืออยากพูดคุยด้วย หรือก็แค่อยากมารับ ... นั่งคิดกับตัวเองซักพัก เสียงดังมาจากด้านนอกทำให้ผมต้องหันไปมองอย่างตื่นเต้นพร้อมกับสอดส่ายสายตามองหาใบหน้าของคนที่ผมคิดถึงมาตลอด แต่เป็นเพราะเอลฟ์ที่มากันเยอะเกินไป ผมจึงได้เห็นเค้าแค่ตอนที่วิ่งมาขึ้นรถที่พี่ยงซอนจอดรอไว้เท่านั้น วินาทีที่ผมเห็นหน้าพี่ซองมิน เห็นรอยยิ้มปนขำของเค้าที่วิ่งหนีแฟนคลับมาขึ้นรถ ... ผม .. ผมบอกไม่ถูกเลยว่าความรู้สึกที่มันเกิดขึ้นคืออะไร หัวใจของผมบีบรัด ไม่รู้ว่ามันคือความตื่นเต้น ความดีใจ หรือความเจ็บปวด ....

      "ให้ตามรถพี่ยงซอนไปมั้ย"

      ..... ผมเงียบไปซักพักและพูดขึ้นว่า "กลับหอดีกว่า ผมง่วง อยากนอนต่ออีกซักหน่อย"

       

      ผมเลือกที่จะไม่ตามพี่ซองมินไป เพราะผมไม่รู้ว่าสุดท้ายแล้วพี่ยงซอนจะไปส่งพี่ซองมินที่ไหน ถ้าผมตามไปแล้วผมจะลงไปหาเค้าหรอ ผมจะพูดอะไรกับเค้า อีกอย่างเวลาแบบนี้มันควรจะเป็นเวลาของครอบครัวถึงจะถูก

       

      ผมกลับมาถึงโซลในตอนเย็นของวันเสาร์ ผมมีนัด countdown กับชางมินที่บ้านของผม หมอนั่นใช้ 80%ที่เป็นวันหยุดของมันกับผมนี่แหละครับ เราดื่ม กิน พูดคุย ถ่ายรูป ตามประสาคนโสดและเหงา ซึ่งมันก็เหมาะที่สุดที่จะเป็นมันกับผม2แค่คนฉลองกันในคืนก่อนวันปีใหม่แบบนี้ 

      หน้าจอไอโฟนบอกเวลา 0.00 ปี2017ได้เริ่มขึ้นแล้ว ผมมองหน้าจอที่สว่างพร้อมกับเครื่องที่สั่นรัวๆจากจากการแจ้งเตือนข้อความอวยพรวันปีใหม่ยที่ส่งกันมาผ่าน KakaoTalk แต่ผมก็ไม่คิดจะหยิบมันขึ้นมาเปิดอ่านหรือส่งข้อความdให้กับใคร 

      "มองอยู่นั่นแหละ ก็แค่ส่งคาทอคไป happy birthday นี่มันจะตายหรอวะ 2ปีละนะเว่ย เห็นหน้ามึงละหงุดหงิดว่ะ" ชางมินพูดขึ้นหลังจากเห็นผมนั่งมองหน้าจอมือถืออยู่ซักพักใหญ่

       

      "ไม่ได้จะตาย แต่ไม่อยากให้เค้ามีปัญหา" ผมละสายตาจากหน้าจอขึ้นมองหน้าชางมินนิ่งๆ แล้วพูดด้วยเสียงเรียบๆ

       

      หลังจากจบประโยคนั้นของผม ชางมินมันก็ชวนคุยเรื่องนั้นเรื่องนี้ และไม่พูดถึงประเด็นเรื่องที่ทำให้มันหงุดหงิดหน้าผมอีกเลย 

       

                            ----------------

      22 วันแล้วตั้งแต่ผมได้เห็นหน้าพี่ซองมินในวันปลดประจำการ และเป็น22วันผ่านไปที่ผมอุทิศเวลาทั้งหมดให้กับการซ้อมคอนเสิร์ต Japan tour ของผม วันนี้ผมรู้ดีว่าผมต้องได้เจอกับพี่ซองมินอีกครั้ง ซึ่งมันคงยาวนานและมากกว่าการนั่งมองจากในรถเหมือนกับครั้งนั้นอย่างแน่นอน เพราะเป็นตารางงานแรกของปีในฐานะวงซูเปอร์จูเนียร์ งาน Lotte fan meeting 

      ผมบินกลับจากญี่ปุ่นในช่วงเช้า ก่อนหน้านั้นผมมีคอนเสิร์ตที่โยโกฮาม่า 3วัน ผมทำมันอย่างเต็มที่เพื่อให้ทุกคนที่มาดูผมมีความสุขและประทับใจ แต่นั่นเลยเป็นเหตุที่ทำให้วันนี้ผมมีไข้ เจ็บคอ และเหมือนจะลืมเสียงทั้งหมดไว้ที่ญี่ปุ่น ผมต้องไปฉีดยาลดไข้และรักษาเส้นเสียงที่โรงพยาบาลทันทีที่ผมกลับถึงเกาหลี ผมมาถึงสถานที่จัดงานก่อนพี่ๆคนอื่น ผมนั่งเตรียมตัวเตรียมใจคนเดียวอยู่ซักพัก คนที่ผมรอจะพบหน้ามาตลอดก็มาถึง ผมยอมรับว่าผมไม่ได้เตรียมตัวที่จะเจอกับพี่เค้า2คนแบบนี้เลย

       

      "อ้าว คยูฮยอน ไม่เจอกันนานเลยนะ สบายดีใช่มั้ย" พี่ซองมินดูจะตกใจเล็กน้อยที่เห็นผมนั่งอยู่คนเดียว แต่ก็ยังเป็นฝ่ายเอ่ยทักทายผมก่อน

      "ครับ" คิดถึงพี่จัง

      "เอ๊ะ ไม่สบายหรอ?"

      แค่ผมพูดคำว่าครับเพียงคำเดียว พี่ซองมินก็รู้ทันทีว่าผมป่วย ผมไม่แปลกใจหรอกที่เค้าจะรู้ พี่ซองมินรู้ทุกอย่าง ช่างสังเกต และใส่ใจผมมาตลอดนั่นแหละ

       

      ผมก้มหน้าลงทันทีเมื่อพี่ซองมินเดินเข้ามาใกล้เพื่อจะดูอาการของผม ผมรีบพูดเพื่อไม่ให้เค้าถามอะไรผมมากไปกว่านี้

      "มีคอนที่ญี่ปุ่น3วันน่ะ เต็มที่มากไปหน่อย เสียงหายหมดเลย" ผมพูดเร็วๆ

      "แบบนี้นี่เอง พี่ก็เพิ่งกลับจากญี่ปุ่น รู้สึกไม่ค่อยสบายเหมือนกัน"

      ผมเงยหน้ามองพี่ซองมินทันที เมื่อกี้เค้าพูดว่าไปญี่ปุ่นหรอ?

       

      "เอ่อ .. ไปเที่ยวพักผ่อนน่ะ" 

      พี่ซองมินคงตกใจที่ผมมองเค้าแบบนั้น ถึงได้ตอบอย่างไม่เต็มเสียงนัก หลังจากพี่เค้าพูดเสร็จ ผมก็ไม่รู้จะพูดอะไรต่อ รู้สึกเหมือนยาที่ฉีดมามันจะทำให้ลำคอผมชามากขึ้น จนไม่สามารถเปล่งคำพูดออกมาได้อีก

      เสียงดังโวยวายนำทีมโดยพี่ฮีชอลทำให้รู้ว่าสมาชิกที่เหลือทั้งหมดมาถึงห้องแต่งตัวแล้ว พี่ซองมินเลยยิ้มให้ผมเบาๆ และเดินไปนั่งอีกฝั่งหนึ่ง พอทุกคนที่เพิ่งมาถึงรู้ว่าผมไม่ค่อยสบาย ก็เข้ามาบีบนวดให้ผมกันใหญ่ ไม่รู้ว่าจะช่วยผ่อนคลายหรือทำให้ผมเจ็บกว่าเดิม ผมรอจังหวะที่พี่เยซองยืนเช็คหน้าเช็คผมอยู่คนเดียว เพื่อเข้าไปบอกพี่เค้าว่า "บนเวที พี่ยืนข้างผมนะ"

       

      ผมน่าจะบอกพี่เยซองว่า พี่ต้องทั้งยืนทั้งนั่งข้างผมนะ เพราะพอมาถึงบนเวทีผมกลับต้องนั่งข้างพี่ซองมิน ผมพลาดไปจริงๆ ผมประหม่าขึ้นมาทันที ไม่รู้จะมองไปทางไหน หันข้างซ้ายพี่ฮีชอลก็หันไปเล่นแต่กับพี่อีทึก หันข้างขวาก็ไม่รู้จะทำหน้ายังไง ผมจึงมักก้มมองพื้น หรือมองตรงไปข้างหน้าเท่านั้น แต่มันก็มีบางช่วงที่ผมหันไปเพื่อแอบมองและเจอหน้าพี่ซองมินมองมาทางผม เลยต้องทำเหมือนมองเลยไปบ้าง มองเอียงๆบ้างเพื่อไม่ให้ภาพที่แฟนคลับรอถ่ายมันดูจงใจมากเกินไป ... ผมไม่อยากสร้างปัญหา

       

      ในช่วงของตอนเล่นเกมส์ ผมก็พาตัวเองไปยืนอยู่คนละฝั่งกับพี่ซองมิน ผมไม่อยากอยู่ใกล้ ไม่อยากให้เกิดการสัมผัสหรือโดนตัวกัน โชคดีที่ตอนร้องเพลงพี่เยซองจำคำขอของผมได้เลยมายืนข้างผม ทำให้ผมไม่ต้องกอดคอหรือจับมือกับพี่ซองมิน ผมกลัวความตั้งใจทั้งหมดมันจะพังลงถ้าเพียงแต่ผมได้จับมือเค้า เพราะผมไม่แน่ใจว่า ความรู้สึกที่มันปริ่มอยู่ตอนนี้ จะเอ่อล้นขึ้นมารึป่าว... ผมต้องระวังตัว 

      ตอนที่เราร้องเพลง our love ซึ่งเป็นเพลงที่ผมชอบมากเพลงนึง มันน่าตื่นเต้นและน่ากังวลที่แฟนๆจะตะโกนชื่อเมมเบอร์ที่ร้องระหว่างท่อนที่คนๆนั้นร้อง ผมกังวลในจังหวะของพี่ซองมินมาก ต้องขอบคุณเอลฟ์ทุกคนที่ตะโกนชื่อและบอกรักพี่ซองมินด้วยเสียงที่ดังก้อง ผมไม่รู้ว่าผมหลุดยิ้มไปมากน้อยขนาดไหน แต่ผมรู้สึกสบายใจจริงๆ 

       

      ผมยอมรับว่าผมบังคับตัวเองไม่ให้แอบมองพี่ซองมินไม่ได้หรอก ใช่ว่าเค้าใส่ใจผมแล้วผมไม่ใส่ใจเค้าเลย ผมรู้ว่าพี่ซองมินเครียดกับการยืนบนเวทีวันนี้ หลายครั้งที่ผมลอบมองแล้วผมเห็นรอยยิ้มที่ดูเกร็ง ดูประหม่าจากเค้า ...ใช่ ผมเป็นห่วงเค้ามาก

       

      หลังจบงาน เรามารวมตัวกันเพื่อถ่ายรูปในห้องพัก ผมเหนื่อยและรู้สึกไม่สบายหนักขึ้นไปอีก ในจังหวะที่พี่ๆทั้ง4คนกำลังถ่ายรูปเล่นกัน ผมที่ไม่มีแรงจึงปลีกตัวออกมานั่งหลับตาซักพัก ผมรู้สึกว่ามีใครเดินเข้ามานั่งข้างผม ผมลืมตาเล็กน้อยและหันไปมอง 

      "พี่ซองมิน...." เป็นเค้านั่นเอง

      "ไหวมั้ยคยู" พี่ซองมินเอื้อมมือมาแตะแขนผม ผมสะดุ้งเล็กน้อย แต่พี่ซองมินสังเกตได้ จึงปล่อยมือออก

       "ให้ยงซอกพากลับหอได้แล้ว"

      "........" ผมไม่ตอบ แต่สายตาของผมมันกลับจ้องเข้าไปที่ดวงตาของพี่ซองมิน

       "เอ่อ... พรุ่งนี้มีบินไปฟุกุโอกะใช่มั้ย รีบกลับไปนอนไป"

      " ..... ครับ" ผมอยากคุยกับเค้ามากกว่านี้ อยากถามนั่นถามนี่ อยากน้อยใจใส่เค้าที่ไปกินข้าวกับพี่ชีวอนแต่ไม่ชวนผมเลย อยากจับมือเค้า อยากกอดเค้า แต่ผมพูดได้แค่นี้จริงๆ

      "งั้น..... พี่ .. กลับบ้านก่อนนะ"

       

      พี่ซองมินกลับบ้านไปแล้ว แต่ผมยังไม่รู้สึกอยากลุกไปไหนเลย แค่เพียงเวลาไม่กี่นาทีที่ผมได้จ้องตา และมองหน้าพี่ซองมินนิ่งๆ ใกล้ๆ ช้าๆ ผมก็ได้คำตอบในสิ่งที่ผมพยายามที่จะไม่หาคำตอบมาตลอด...

       

      ผมคิดถึง........และผมยังรักพี่ซองมิน

       

      เวลากว่า2ปีที่ผ่านไปมันไม่ทำให้ผมเปลี่ยนใจ อาจเป็นเพราะผมบ้าทำงานจนไม่มีเวลาคิดเรื่องความรัก หรืออาจเป็นเพราะเวลามากกว่า7ปีของเรามันยาวนานและฝังลึกในใจจนยากที่จะลืม เหตุผลที่แท้จริงคืออะไรผมไม่รู้ แต่ผมรู้แล้วว่าตัวผม หัวใจของผม และความรู้สึกของผม ...ยังเหมือนเดิม 

       

      อีกไม่กี่เดือนต่อจากนี้ผมเองก็ต้องไป ไปทำหน้าที่ที่ผู้ชายเกาหลีทุกคนต้องทำ และก็จะเป็นอีก2ปีที่ผมและพี่ซองมินจะไม่ได้ทำกิจกรรมของวงร่วมกัน ผมไม่แน่ใจเลยว่ามันต้องใช้ระยะเวลามากเท่าไหร่กับการลืมว่าเคยรักใครซักคน ผมแค่นยิ้มให้กับตัวเองเบาๆ กับความคิดที่ว่า สงสัยผมต้องเลิกร้องเพลงช้าไปร้องเพลงแร็ปดูบ้าง เพื่อเยียวยาจิตใจของผมล่ะมั้ง 

       

      ไม่ต้องห่วงว่าผมจะร้องไห้นะครับ ผมเลิกร้องไห้ไปนานแล้ว เพราะไม่ว่าเมื่อไหร่ที่ย้อนกลับไปนึกถึง พี่ซองมินก็ยังเป็นความสุขของผมเสมอ :') 

       

      너를 생각하면 여전히 아늑해

      นอ รึล แซง กัก ฮา มยอน ยอ จอน นี อา นึก แค

      -เมื่อผมคิดถึงคุณ ผมยังรู้สึกอบอุ่นอยู่เต็มหัวใจ-

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×