ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [B.A.P] Love undeniable รัก...ปฏิเสธไม่ได้

    ลำดับตอนที่ #5 : Love Undeniable Special 02 :อดีต ของ... [ยงกุก&แดฮยอน]

    • อัปเดตล่าสุด 22 ธ.ค. 57


    **เนื่องด้วยถูกแบน เราเลยต้องลบ NC ออก ใครอยากอ่าน NC คอมเม้นขอมาแล้วกันน่ะค่ะ หรือไปทวงได้ที่ทวิตเตอร์ค่ะ

    Love  Undeniable รัก...ปฏิเสธไม่ได้

    Chapter Special 03: อดีต ของ... [ยงกุก&แดฮยอน]


         เหมือนฝัน คนที่ผมไม่ได้เห็นหน้ามาทั้งวัน ตอนนี้เค้ากลับมายืนอยู่ตรงหน้าผม แล้วผมควรจะทำยังไงดี?...

         “น้องพี่อยู่ที่นี่รึป่าว?พี่เค้าถามถึงน้องงั้นหรอ หรือว่าคนที่นั่งอยู่ในบ้านผม คือน้องของพี่ยงกุก

         “พี่หมายถึงเซลโล่หรอ ถ้างั้นก็คงใช่อ่าน่ะผมตอบ ก่อนที่ร่างสูงตรงหน้าจะรีบวิ่งเข้าไปในบ้านผมทันที ผมเมื่อตั้งสติได้ก็รีบเดินตามเข้าไป

         ผมเดินมาหยุดอยู่หน้าห้องรับแขก เมื่อสิ่งที่เห็นตรงหน้าบ่งบอกว่าคนทั้ง2 มีเรื่องที่จะต้องคุยกัน และผมก็ได้แต่ยืนมองอยู่ห่างๆ จนกระทั้งผมนึกอะไรขึ้นได้...แล้วพ่อแม่ผมหายไปไหนล่ะเนี๊ย?

         ผมเดินออกมาอย่างเบาที่สุด เพื่อไม่ให้เป็นการรบกวนคนทั้ง2 ก่อนที่จะรีบโทรหาพ่อกับแม่ที่ยังไม่กลับบ้าน

         ว่าไง แดฮยอน มีอะไรรึป่าวถึงได้โทรมาหาพ่อ เสียงจากปลายสายรับขึ้นทันที โดยที่ผมไม่ต้องรอสาย และเสียงจากปลายสายนั้นคือพ่อของผมเอง

         “จะว่าไงล่ะ ก็ตอนนี้ผมอยู่ที่บ้าน แล้วป๊ากับม๊าล่ะอยู่ไหน ทำไม่ยังไม่กลับนี่ก็จะ 2 ทุ่มแล้วน่ะ ผมถามขึ้น ตอนนี้ผมยืนอยู่ในครัว มองซ้ายมองขวาเพื่อหาอะไรกิน

         อ่อ! เมื่อเช้าพ่อคงยังไม่ได้บอกลูกสินะ ว่าพ่อต้องมาจัดการเรื่องงานที่ปูซาน พ่อก็เลยชวนแม่มาด้วยให้แม่จัดการเรื่องบ้านอีกทีหน่ะ เสาร์อาทิตย์นี้พ่อกับแม่คงยังไม่ได้กลับบ้าน ลูกคงอยู่คนเดียวได้น่ะ พ่อตอบ เรื่องงานของพ่อผมยังเข้าใจ แต่เรื่องบ้านนี่สิทำไมต้องจัดการมีอะไรรึป่าว?

         “ผมอยู่ได้...แต่ว่าเรื่องบ้านทำไมต้องให้แม่จัดการด้วยล่ะ?ผมถามด้วยความสงสัย

         ลูกดีใจไว้เลยน่ะ ตอนนี้พ่อกำลังจะได้กลับมาทำงานที่ปูซานบ้านเกิดของลูกไง พ่อก็เลยต้องหาบ้านเอาไว้ ไว้โรงเรียนลูกปิดเมื่อไหร่ เราจะรีบย้ายกันทันที

         “ย้ายบ้าน!” ผมตะโกนออกมาด้วยความตกใจกับสิ่งที่พ่อบอก ต้องย้ายโรงเรียนด้วยงั้นหรอผมถามพ่อ ตอนนี้ผมเหมือนจะล้มทั้งยืน นี่มันอะไรกัน ทำไมเพิ่งมาบอกผมตอนนี้ ย้ายบ้านยังพอว่า แต่ย้ายโรงเรียนนี่สิ จะให้ผมอยู่หอพักหรืออยู่ที่ไหนก็ได้ แต่ขออย่างเดียวอย่าให้ผมต้องย้ายโรงเรียนเลยน่ะ

         ใช่แล้ว เรื่องโรงเรียนแม่ของเราจะจัดการให้หลังจากกลับไปบ้านน่ะ

         “ครับผมตอบแค่สั่นๆเพราะพูดอะไรต่อไม่ออก ก่อนที่พ่อจะวางสายไป

         ผมจะทำยังไงดี ผมต้องย้ายไปจากที่นี่ ที่ๆผมรู้สึกมีความสุข ทั้งที่บ้าน และโรงเรียน ไหนจะเพื่อนของผมอีกล่ะ เราสัญญาว่าจะอยู่ข้างๆกัน จะไม่ทิ้งกัน แต่ผมเองสิน่ะที่ต้องเป็นคนผิดสัญญา และอีกคนที่ผมยังไม่ได้เริ่มอะไรเลย จนตอนนี้เหมือนเวลามันยิ่งบอกผมว่ามันเหลือน้อยเต็มที...

     


     

         ผมไม่ได้ตั้งใจจะแอบฟังหรอกน่ะ แค่เห็นเจ้าของบ้านหายออกไปไหนไม่รู้ เลยตั้งใจจะออกมาตามเฉยๆ และดันมาได้ยินเรื่องที่ทำเอาหัวใจของผมตกวูบลงทันที เค้ากำลังจะย้ายบ้านงั้นหรอ แล้วไหนจะโรงเรียนอีก ผมจะไม่ได้เจอหน้าของเค้าอีกแล้วสิน่ะ

         มาอยู่นี่เองผมทักขึ้นทันทีเมื่อเดินเข้ามาในห้องครัว เค้าที่เงียบไปหลังจากการวางสายเมื่อกี้ ตกใจเมื่อผมทักขึ้น

         เอ่อ! พี่มาอยู่ตรงนี้ตั้งแต่เมือ่ไหร่ แล้วมีอะไรรึป่าว?ผมรู้สึกอ่อนไหวกับสายตาคู่นั้น ที่ผมไม่เคยได้มองมันแบบชัดเจน สายตาของเค้าตอนนี้ดูเศร้าๆ

         ก็เพิ่งเข้ามา และที่มาเพราะฉันกับน้องยังไม่ได้กินอะไรเลย ช่วยทำไรให้กินหน่อยสิผมพูดทั้งๆที่ยังไม่หิว ก็แค่อยากจะให้คนตรงหน้าได้หาอะไรทำเพื่อหายเศร้า ผมรู้ว่าเค้าก็คงจะเสียใจกับการที่เค้าจะต้องย้ายไปจากที่นี่ แต่...เพราอะไรผมก็ไม่รู้น่ะ

         หลังจากนั้นผมก็เดินกลับมาที่ห้องรับแขกทันที ไม่อยากอยู่ให้หัวใจผมต้องทำงานหนักหรอกน่ะ เห็นหน้าเค้าไกล้ๆแล้ว หัวใจผมยิ่งเต้นแรงขึ้นทุกที

         อ่าว! นี่น้องผมหลับไปแล้วหรอ คงเหนื่อยมากสิน่ะ หยุดร้องปุ๊บก็หลับปั๊บ ผมนั่งลงที่พื้นข้างโซฟาที่จุนฮงหลับอยู่ ผมมองหน้าเค้าอย่างเศร้าๆ หน้าที่เต็มไปด้วยคาบน้ำตาและตาที่บวมจนขนาดหลับยังมองออก นี่รอบข้างของผมมีแต่คนที่รู้สึกเศร้ากันอยู่ทั้งนั้นสิน่ะ ไม่เว้นแม้แต่ตัวผมเอง

         ผมสับสนว่าตอนนี้ผมกำลังเศร้าเรื่องอะไรกันแน่ เรื่องพ่อแม่ที่เสียไป เรื่องจุนฮง หรือเรื่องที่ผมเพิ่งจะได้ยินมาเมื่อไม่กี่นาทีก่อน...

         แต่ผมก็ไม่วายคิดถึงใครอีกคน ฮิมชานนี่ก็ 2 ทุ่มกว่า ผมยังไม่ได้โทรบอกมันเลยว่าเจอน้องแล้ว ผมรีบโทรบอกมันทันที กลัวว่ามันจะเป็นห่วง กำลังหาจุนฮงอยู่ยังไม่ได้กลับบ้าน

         หลังจากโทรหาฮิมชานผมก็กลับมานั่งที่เดิม หันไปมองไอตัวดื้อที่นอนอยู่ตรงโซฟา หาเรื่องให้คนอื่นมีปัญหาอยู่เรื่อย เพราะรู้สึกว่าไอฮิมชานจะเป็นห่วงน้องผมยิ่งกว่าผมซะอีก อย่าคิดว่าผมไม่รู่ ว่ามันก็แอบเหล่ๆน้องผมอยู่เหมือกัน นี่ถ้าไม่ติดว่ามันเจ้าชู้หรอกน่ะ ผมจะให้มันดูแลน้องผมแล้วล่ะ ยิ่งน้องผมซนมันก็ยิ่งน่ารัก...

     


     

         ผมตกใจมากที่จู่ๆพี่ยงกุกเข้ามาแบบไม่ทันตั้งตัว พี่เค้าคงไม่ได้ยินที่ผมคุยกับพ่อหรอกน่ะ แต่ถึงได้ยิน พี่เค้าก็คงไม่ได้รู้สึกอะไรนักหรอก พี่เค้าไม่ได้สนใจเราสักหน่อย

         ในครัววันนี้ก็คงไม่มีอะไรมาก มีก็แต่รามยอลไม่กี่ห่อ คงไม่น่าเกลียจหรอกมั้งถ้าจะทำรามยอลให้พี่ยงกุกกับเซลโล่กิน เพราะแม่ไม่อยู่ ไอเราก็ทำอะไรไม่เป็น เป็นแต่กินอย่างเดียว...

         ผมถือถาดที่มีรามยอลมาเสริฟให้กับคนที่สั่ง ตอนนี้คงหิวมากแล้วสิน่ะ ผมตั้งใจทำเป็นพิเศษ จะหาเวลาแบบนี้ได้ที่ไหน นี่ก็เหลือเวลาไม่มากแล้ว ต้องรีบทำอะไรให้พี่เค้าประทับใจสักหน่อย แล้วค่อยสารภาพรัก ผลจะเป็นยังไงก็ตามผมไม่สน เพราะยังไงผมก็ต้องไปอยู่ดี

         พอเดินมาถึงห้องรับแขก ผมหยุดมอง ดูก่อนว่าใช่เวลาที่ผมจะเดินเข้าไปเลยรึป่าว

         แต่สิ่งที่ผมเห็น ทำให้ผมรู้สึกเศร้าลงทันที พี่เค้ากำลังนั่งมองหน้าผู้ที่เป็นน้องชายอย่างเอ็นดู สายตาของพี่เค้าดูเศร้าๆ สักพักน้ำใสๆจากดวงตาที่คมนั้นก็ไหลลงมาที่แก้ม พี่เค้าคงเศร้าเรื่องพ่อแม่ที่เพิ่งจะเสียไปสิน่ะ แล้วผมต้องทำยังไงต่อล่ะ จะเข้าไปดีมั๊ย หรือจะยืนมองเฉยๆ

         แต่แล้วผมก็ตัดสินใจเดินเข้าไป วางถาดรามยอลลงบนโต๊ะเตี้ยหน้าโซฟา แล้วนั่งลงข้างๆพี่ยงกุก ก่อนที่จะเอามือของผมเองวางลงบนไหล่กว้าง เสียใจด้วยน่ะครับ พี่ยะ...” ผมพูดไม่ทันจบก็ต้องตกใจ เมื่อจู่ๆร่างตรงหน้าพรุ่งเข้ามากอดผมไว้แน่น โดยที่ผมไม่ทันได้ตั้งตัว

          “พี่จะทำอะไรน่ะ! ปล่อยผมนะ!” ผมพยายามพลักหน้าอกกว้างของพี่เค้าออกเพราะตกใจ

     

         ขออยู่แบบนี้สักพักได้มั๊ย ให้ความเศร้าของเราหายไปแล้วค่อยปล่อย

     

         ผมหยุดทันทีที่ได้ยิน คำพูดนั้นเหมือนเป็นมนต์สะกด ความเศร้าของเรางั้นหรอ พี่เค้ารู้ว่าผมกำลังเศร้า และผมก็รู้ว่าพี่เค้ากำลังเสียใจ ผมไม่พูดอะไร และมือของผมที่พยายามจะพลักดันพี่เค้าออก เปลี่ยนเป็นอ้อมกอดให้พี่เค้าแทน

         พี่ยงกุกยิ่งกอดผมแน่นกว่าเดิม ผมอยากหยุดเวลาไว้ตรงนี้ ไม่อยากจากพี่ไปไหน แต่คงเป็นไปไม่ได้ น้ำตาของผมไหลออกมาแบบไม่รู้ตัว ตอนนี้เป็นผมแล้วสิน่ะที่ละบายความรู้สึกที่อักอั้นออกมา มันทำให้ผมยิ่งกอดพี่เค้าแน่นขึ้น นี่คงเป็นกอดแรกแล้วกอดครั้งสุดท้าย เพราะมันคงจะไม่มีวันเกิดขึ้นอีก...ระหว่างผมกับพี่

         เรากอดกันอยู่นานก่อนที่จะเป็นผมเองที่ต้องปล่อยอ้อมกอดอันอบอุ่นนั้นออก และพี่เค้าก็ยอมปล่อยเช่นกัน ผมรีบปาดน้ำตาที่อยู่บนหน้าออก พี่ยงกุกก็เช่นกัน เรามองหน้ากันอย่างเขินๆ แล้วก็ขำ ผมก็ไม่รู้ว่าทำไม่ถึงได้ขำ อาจจะเป็นเพราะจะกลบเกลื่อนอาการอายมั้ง...

         รีบกินสิ รามยอลร้อนๆก็อืดกันพอดี นี่ก็ดึกมากแล้ว ไหนพี่จะต้องกลับบ้านอีก ผมพูดเพื่อตัดบท เพราะทำอะไรไม่ถูก ก่อนที่จะยกรามยอลบนโต๊ะส่งให้คนตรงหน้า

         พี่ค้างที่นี่ได้ไหม?รามยอลในมือผมเกือบจะตกไปกองกับพื้น ดีที่พี่ยงกุกมารับเอาไว้ก่อน

         พี่ยงกุกจะค้างที่บ้านผมหรอ เอ่อ! แล้วผมจะตอบว่าไงล่ะ ไม่! หรือว่า ได้! ...

         ผมไม่รู้จะตอบว่าไง เลยเปลี่ยนเป็นเงียบแทน แล้วก้มหน้าก้มตากินรามยอลเพื่อเลี่ยงคำถามนั้น ก็ไม่รู้จะตอบยังไงนิ

         พี่ยงกุกยิ้มก่อนจะก้มลงมากระซิบที่ข้างหูผมเบาๆ

        ไม่ตอบแสดงว่าตกลงแล้วกันน่ะทำเอาผมสำลักรามยอลที่กำลังกินอยู่

         เล่นกันแบบนี้เลยหรอ ที่ผมไม่ตอบไม่ได้หมายความว่าตกลงสักหน่อย คิดเอาเองทั้งนั้น แต่ผมก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ เพราะในใจผมก็อยากให้พี่ยงกุกอยู่ต่อ

         ผมรีบลุกขึ้นเอาถ้วยไปเก็บ เพราะไม่อยากให้พี่ยงกุกเห็นว่าตอนนี้หน้าผมมันแดงมากจนผมเองยังรู้สึกได้

         ผมยืนอยู่ในครัวนานพอสมควร ก็จะให้ผมทำไงต่อล่ะ มันทำอะไรไม่ถูกแล้วตอนนี้

         พี่ฮะ ถ้วยนี่เอาไว้ตรงไหนหรอฮะเสียงนั้นทำเอาผมตกใจ เซลโล่ ที่อยู่ๆก็เดินถือถ้วยที่กินเสร็จแล้วมาเก็บในครัว

         อ่าว! นายตื่นแล้วหรอ? ผมถาม เพราะก่อนผมออกมาก็เห็นยังหลับอยู่เลย

         ฮะ! ก็กลิ่นรามยอลหอมขนาดนี้ ไม่ตื่นก็อดกินสิฮะ ว่าแต่ผมยังไม่ถามชื่อพี่เลย พี่ชื่ออะไรหรอ?เซลโล่ถาม ก็เมื่อกี้เอาแต่ร้องไห้ไม่ได้ถามชื่อผมสักคำ

         พี่ชื่อ จอง แดฮยอนผมตอบก่อนที่จะรู้สึกขำกับท่าทางของเซลโล่

         แดฮยอน!” เซลโล่พูดออกมาพร้อมกับทำท่าทางเหมือนกำลังคิดอะไรอยู่

         เหมือนผมเคยได้ยินชื่อนี้ที่ไหน มันคุ้นๆแต่ผมคิดไม่ออกเซลโล่พูดออกมาเหมือนจะรู้สึกหงุดหงิง

         จะมาคุ้นชื่อผมได้ไงล่ะ ก็เซลโล่เพิ่งจะได้ยินชื่อผมครั้งแรกวันนี้

         เฮ้อ! ไม่ต้องคิดหรอก คิดไปก็เสียเวลาเปล่า ไปๆเดี๊ยวพี่ไปหาที่นอนให้ผมเหนื่อยใจกับเด็กคนนี้จริงๆ ก่อนจะเดินออกมาจากครัว โดยมีเซลโล่เดินตามผมออกมา

         อ๋อ! จำได้แล้วว่าเคยได้ยินชื่อพี่ที่ไหนเซลโล่ตะโกนออกมา เล่นเอาผมกับพี่ยงกุกตกใจ

         ผมจะหัวใจวายตายกับ2คนพี่น้องนี้จริง วันนี้ทำผมตกใจกี่รอบแล้วก็ไม่รู้

         อะไรของนายน่ะ จุนฮงเป็นพี่ยงกุกที่ถามขึ้น พี่เค้าลุกขึ้นมาจากโซฟาก่อนจะเดินมาหาเซลโล่ที่ยืนอยู่ข้างๆผม

         ก็ชื่อพี่แดฮยอนไง ผมจำได้แล้วว่าเคยได้ยินที่ไหน

         “ที่ไหนหรอ?ผมถามทันที ก็จะไม่ให้ผมสงสัยได้ไงล่ะ ก็เซลโล่จะไปเคยได้ยินชื่อผมที่ไหนกันในเมื่อผมเพิ่มบอกเซลโล่

         ก็พี่ยะ...”

         “พี่ว่าไปหาที่นอนกันดีกว่า ตอนนี้พี่เริ่มง่วงแล้วสิ

         เซลโล่ไม่ได้ทันตอบ พี่ยงกุกก็พูดขึ้นมาซะก่อน ก่อนที่เจ้าตัวจะเดินไปปิดทีวี แล้วลากเซลโล่ขึ้นไปชั้นบน

         อ่าวเฮ้ย! นี่มันบ้านใครกันแน่เนี๊ย ทำอย่างกับเป็นบ้านตัวเองซะงั้น คิดจะทำอะไร ไม่ถามเจ้าของบ้านก่อนหรือไง

         ผมหันไปมองพี่น้องคู่นั้น ที่ขึ้นไปชั้นบนโดยที่ไม่สนใจผมที่เป็นเจ้าของบ้านเลย

         “เฮ้อให้มันได้แบบนี้สิผมถอนหายใจเป็นครั้งที่ร้อยกับพี่น้องคู่นี้จริงๆ ก่อนจะเดินกลับเข้าไปล้างจาน ในเมื่อไม่เกรงใจก็ปล่อยไป คิดว่าเป็นบ้านตัวเองเลยก็ได้น่ะ แต่ผมคงจะพูดช้าไป

     


     

         ผมรีบพาจุนฮงเดินขึ้นมาชั้นบนโดยที่ไม่สนใจเจ้าของบ้าน ก็จะให้ทำไงได้ล่ะ จู่ๆเซลโล่เกือบจะพูดสิ่งที่เป็นความลับของผมขึ้นมาซะงั้น ก็เรื่องชื่อนั้นแหล่ะ ผมเคยพูดชื่อคนที่ผมชอบไป ทั้งๆที่ผมเคยหลุดปากไปแค่ครั้งเดียว แล้วก็นานมากแล้ว แต่ไม่คิดว่ามันจะยังจำได้

         พี่คิดว่าผมไม่รู้หรือไง ว่าพี่กำลังกลบเกลื่อนสิ่งที่ผมจะพูดหน่ะ

         “อะไร กลบเกลื่อนอะไรของแก่ ไม่เห็นจะมีอะไรสักหน่อย...มั่ว!”

          หรอ! พี่ชอบพี่เค้าล่ะสิ

         “ที่ไหน...มั่วแล้ว พี่ไม่เคยบอกเราสักคำว่าชอบเด็กนั้น

         หรอ! อย่ามาปากแข็งหน่อยเลย ผมจำได้แหล่ะที่ผมเคยหรอกถามพี่หน่ะ ถึงจะได้ยินไม่ชัด ไหนจะห้องพี่ที่ไม่เคยให้ใครเข้าไปอีก คอยดูสักวันผมจะแอบเข้าห้องพี่ให้ได้ อยากรู้นักว่ามีอะไรทำไมถึงได้ห่วงนักห่วงหนาคำพูดนั้นทำเอาผมตกใจ แต่ก็ยังฝืนยิ้มให้กับน้องชายจนมันเริ่มจะอารมณ์เสียขึ้นมา ที่ผมไม่ยอมรับ

         “ไม่มีวันหรอก ตราบใดที่ยังมีพี่อยู่ผมตอบไปกวนๆให้น้องชายสุดที่รัก

         อย่าเผลอก็แล้วกัน พี่ยงกุก ผมจะทำให้พี่พูดออกมาให้ได้เลย คอยดู

         ผมไม่พูดอะไรแล้วยิ้มให้กับคำพูดเซลโล่แทน เหมือนมันไม่มีอะไร ทั้งๆที่ในใจผมตอนนี้เต้นแรงเหมือนกลัวคำที่มันพูดว่าสักวันผมจะเก็บความลับของผมไว้ไม่อยู่ เซลโล่ชอบทำอะไรที่ผมคิดไม่ถึงซะด้วยสิ

     


     

         ตอนนี้ผมยังนั่งอยู่ชั้นล่าง ไม่อยากขึ้นไปรบกวนแขกที่ไม่ได้ตั้งใจจะมาอาศัย เพราะผมตัดสินใจว่าจะไปนอนที่ห้องของพ่อ ให้ทั้ง2คนนอนที่ห้องของผม นี่ก็นานมากแล้วชั้นบนก็รู้สึกเงียบๆ คงหลับกันแล้วสิน่ะ

         ผมเดินขึ้นมาชั้นบน เดินไปที่ห้องของผม ก่อนจะเปิดประตูเบาๆ ดูว่าคนที่อยู่ข้างในนั้นหลับกันหรือยัง เพราะผมจะเข้าไปเอาเสื้อผ้าแล้วไปอาบน้ำ ผมเห็นว่าคนในห้องหลับกันหมดแล้วเลยเดินเข้าไปเงียบๆเพราะไม่อยากให้ใครรู้สึกตัว

         แต่ไม่รู่อะไรดลใจให้ผมเดินเข้าไปหาพี่ยงกุกที่กำลังหลับอยู่ ผมก้มลงมองหน้าพี่เค้าใกล้ๆ จนรู้สึกได้ถึงลมหายใจที่ล้นออกมา ผมยิ้มนิดก่อนจะสูดลมหายใจเข้าไปใหม่ ใกล้ๆแก้มของพี่ยงกุก ใจผมก็อยากจะหอมแก้มพี่เค้าเต็มๆอยู่หรอกน่ะ ถ้าไม่กลัวว่าพี่เค้าจะรู้สึกตัว

         ผมเดินไปเอาเสื้อผ้าแล้วเดินออกมาจากห้องทันที ว่าจะไปอาบน้ำที่ห้องของพ่อแล้วนอนที่นั้นเลย จะได้ไม่เสียเวลา และรบกวนคนในห้องนี้

         แต่ทว่า ห้องของพ่อดันล็อกนี่สิ และผมก็ไม่มีกุญแจ เอาแล้วไงนี่ผมต้องกลับไปอาบน้ำและนอนห้องของตัวเองใช่มั๊ย?
     

         วันนี้ผมเหนื่อยมาทั้งวัน ทั้งกายและใจ ผมนอนแช่ร่างอยู่ในอ่างน้ำมานานพอสมควรเพราะคิดว่าไม่ได้รีบอะไร พรุ่งนี้ก็วันเสาร์ไม่ได้ไปโรงเรียนจะนอนดึกบ้างก็ไม่เห็นจะแปลก อยู่ในนี้ก็รู้สึกสบายตัวดี ถ้านอนในนี้เลยก็ยังได้ ถ้าไม่กลัวจะเป็นปวดบวมตายไปก่อน

         ผมรู้สึกว่าตัวเองสิงอยู่ในห้องน้ำมานานมากแล้ว ถึงเวลาที่จะต้องเสร็จสักที ผมออกจากห้องน้ำด้วยผ้าขนหนูที่มัดรอบเอวไว้ กับผ้าขนหนูผืนเล็กที่พาดไว้บนบ่าสำหลับไว้เช็ดผม

         ผมลืมบอกไปว่า ตอนนี้ผมอยู่ในห้องน้ำที่เป็นห้องของผมเอง เพราะห้องของพ่อถูกล็อคไว้และผมก็เข้าไปไม่ได้ จึงต้องกลับมาอาบน้ำนอนที่ห้องของตัวเอง ที่มีแขกผู้ที่ไม่คิดมาก่อนว่าจะมานอนอยู่ในห้องของผมได้

         ผมออกมาจากห้องน้ำโดยไม่ได้มองอะไร ไฟในห้องก็ยังปิดอยู่ มีแค่ไฟที่ส่องออกมาจากห้องน้ำเพราะไม่อยากรบกวนคนที่หลับไปแล้ว ผมที่ก้มหัวยุ่งอยู่กับการเช็ดผม ก็ต้องตกใจเมื่อเงิยหน้าขึ้นมา เห็นพี่ยงกุกมายืนอยู่หน้าห้องน้ำตั้งแต่เมื่อไหร่ ร่างของผมห่างจากพี่เค้าไม่กี่ก้าว พี่เค้าไม่ได้หลับไปหรอกหรอ

         ผมทำอะไรไม่ถูก เหมือนโดนสาบเป็นหิน เมื่อเห็นสายตาของพี่ยงกุกมองมาที่ผม จะทำอะไรก่อนดี เดินไปแต่งตัวหรอ หรือว่ายืนอยู่แบบนี้ต่อไป หรือจะพูดอะไรออกไปดี ตอนนี้ใจผมรู้สึกกลัวอะไรก็ไม่รู้ ผมก็บอกไม่ถูก ก่อนที่จะพูดออกไปแบบไม่เต็มคำนัก

         พะ พี่...มายืนตรงนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่?...จะเข้าห้องน้ำหรอ?

         ร่างสูงไม่ได้ตอบอะไร ก่อนจะเดินเข้ามาใกล้อีกร่างที่ยืนอยู่ตรงหน้า กลิ่นของร่างบางที่มีกลิ่นหอมของสบู่จางๆเพราะเพิ่งอาบน้ำมาเสร็จไม่นาน ร่างสูงอดใจไม่ไว้ที่จะเข้าใกล้ ทำเอาร่างบางตกใจ เมื่อร่างสูงพลักเข้าไปในห้องน้ำอีกรอบ

         ปัง!!

          ประตูห้องน้ำถูกปิดด้วยมือของคนที่พลักเข้ามา แดฮยอนตกใจเมื่อเห็นการกระทำที่ไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นได้

         “พะ พี่ ยงกุก...จะทำอะไร? ปล่อย ผะ...” ร่างบางพูดไม่ทันจบก็ถูกมือหนาขึ้นมาปิดปาก ก่อนจะทำปากจุ๊ๆ เหมือนจะให้เงียบๆ

         หลังของร่างบางถูกยันไว้กับผนังห้องน้ำ โดยมีอีกร่างกันอยู่ด้านหน้า และแขนทั้งสองข้างกั้นไว้ไม่ให้หนี

         นายมายั่วพี่เองน่ะ พี่กะจะไม่ทำอะไรแล้วเชียวร่างสูงพูด ก่อนจะสูดกลิ่นหอมจางของสบู่ที่ซอกคอของร่างบาง

         “ผะ ผม...ไปยั่วอะไรพี่? ผมยังมะ ไม่ได้...ทำอะไรเลย?เสียงของร่างบางเอ่ยสั่นออกมาด้วยความกลัว

         แอบทำอะไรอย่าคิดว่าพี่ไม่รู้...อยากได้เต็มๆมั๊ยล่ะ พี่ให้ได้น่ะร่างสูงเอ่ยอย่างเรียบๆข้างๆหูของร่างบาง

         มือก็ไล่ไปตามหน้าและไหล่ของร่างบางลงไปเรื่อยๆจนถึงเอว ก่อนจะดึงเข้ามาใกล้จนไม่เหลือช่องว่าง

         แดฮยอน หน้าขึ้นสีแดงกล่ำพูดอะไรไม่ถูก ก่อนอาบน้ำยงกุกไม่ได้หลับ และรู้ว่าแดฮยอนแอบเข้าไปทำอะไร ถึงจะไม่โดนแต่ก็รู้สึก

         ผะ ผม...ไม่ได้ทำอะไรเลย...” ร่างบางยังคงปฏิเสธ ก่อนจะส่งสายตาและคำพูดอ้อนๆ จริงๆน่ะแต่ก็ต้องหลบสายตาอีกครั้ง เพราะไม่สามารถสู้สายตาที่จ้องกลับมาได้

         ฮึ!! ยังไม่ยอมรับ...แบบนี้ต้องโดนลงโทษสักหน่อยแล้วสิ

    ,
    ,
    ,
    ,
    ,
    ,
    ,
    ,
    ,
    ,
    ,
    ,
    ,
    ,
    ,
    ,
    ,
    ,
    ,
    ,
    ,
    ,
    ,
    ,
    ,
    ,
    ,


    [ NC 
    ]

    ,
    ,
    ,
    ,
    ,
    ,
    ,
    ,
    ,
    ,
    ,
    ,
    ,
    ,
    ,
    ,
    ,
    ,
    ,
    ,

    ,

    ,
    ,




     



           ช่างน่าเอ็นดูซะจริงๆ มือหนาค่อยๆลูบใบหน้าหวานที่หมดแรงอยู่ที่หน้าอกของเค้า มองหน้าที่หลับอยู่อย่างไม่เข้าใจ ว่าตอนที่เค้าหลับทำไมแดฮยอนถึงได้เข้าไปหาเค้า แล้วแอบสูดลมหายใจใกล้ๆ โดนที่ไม่โดนหน้าเค้าสักนิด จนบางทีเค้าคิดว่าแดฮยอนก็อาจจะชอบเค้าเหมือนกัน

         ยงกุกจัดการแต่งตัวให้แดฮยอนทั้งๆที่เจ้าตัวไม่รู้สึกตัวเลยสักนิด แล้วอุ้มร่างบางมานอนข้างน้องชายตัวเองที่หลับอยู่ ก่อนจะก้มลงกดจูบที่หน้าผากของแดฮยอน และพาตัวเองมานอนอีกฝั่ง โดนมีจุนฮงนอนคั่นกลางไว้

         ยงกุกลืมไปเลยว่า จุนฮงนอนหลับอยู่ ไม่รู้ว่าจะรู้สึกตัวขึ้นมาได้ยินเค้ากับแดฮยอนรึเปล่า คิดแล้วก็อายเหมือนกันที่ทำอะไรไปโดนไม่คิดทั้งแดฮยอนด้วย ถึงพรุ่งนี้จะเป็นยังไงก็ค่อยว่ากันอีกที 

    ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------


    <ไรเตอร์>

    * ตอนหน้าคิดว่ายังเป็นตอน Special และก็คงเป็นตอนจบของ Special ทำทีเดียวจบเลยดีกว่า กลัวสีดเดอร์ไม่เข้าใจ (ก็ไรเตอร์ชอบทำอะไรซับซ้อนงี้แหล่ะ)

    ปล. พี่บังมีสำติงกับน้องแด้ก็ยังปฏิเสธรักน้องอีก ทำไม! ทำไมถึงทำแบบนี้ล่ะพี่บัง อยากรู้ ห้ามพลาด

    คำเตือน : ไม่เม้น NC จะไมบัญเกิดในหัวไรเตอร์ (ไรต์เถื่อนตามพี่บัง) 55555555+

    Chillin' Theme
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×