คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : Love Undeniable Special 01 :อดีต ของ... [ยงกุก&แดฮยอน]
Love Undeniable รัก...ปฏิเสธไม่ได้
Chapter Special 01: อดีต ของ... [ยงกุก&แดฮยอน]
...คุณเคยแอบรักใคร ที่รู้ว่ามันผิด...แต่ก็ยังรัก รึป่าว?? ผมแหล่ะคนนึง ^^’
ผมเป็นแค่เด็กผู้ชาย อายุเพิ่งจะ 16 ปี เพิ่งเคยมีความรักเป็นครั้งแรก ผมได้ตกหลุมรักรุ่นพี่คนนึง มันคงไม่แปลกสำหรับเด็กรุ่นนี้...ก็ต้องมีบ้างเป็นธรรมดา แต่มันผิดตรงที่ว่า รุ่นพี่คนนั้นเป็นผู้ชายเหมือนกันกับผม มันผิดมากใช่มั๊ยที่เป็นแบบนี้ แต่ผมก็ยังรัก ถึงแม้จะรู้ว่ามันคงเป็นไปไม่ได้ที่พี่เค้าจะมารัก เด็กผู้ชายอย่างผม...
ณ โรงเรียนมัธยม มาโทกิ
วันนี้ทางโรงเรียนมีการซ้อมจบปีการศึกษาของเหล่านักเรียนชั้นม.6 ทำให้ทางโรงเรียนปิดการสอนเป็นเวลา 1 สัปดาห์ เพื่อเป็นการซ้อมใหญ่ ทำให้มีนักเรียนว่าง บ้างก็นั่งคุยกันเล่นกัน โรงเรียนเลยดูวุ่นวายเป็นพิเศษ
แต่ก็มีหนุ่มน้อยคนนึงที่ไม่ได้ทำเหมือนเพื่อนคนอื่นๆ เค้ากลับมานั่งมองดูการซ้อมของรุ่นพี่ ทำให้เพื่อนของเค้าอีก 2 คนรู้สึกเบื่อ ที่ต้องมานั่งดูอะไรแบบนี้
“แดฮยอน...กูว่าไปหาอะไรทำกันดีกว่าว่ะ เบื่อแล้วที่ต้องมานั่งดูอะไรแบบนี้หน่ะ กูปวดหัว” ยองแจ เพื่อนของเด็กหนุ่มพูดขึ้น เมื่อเค้าทั้ง3นั่งมองดูคนตรงหน้าเดินวนไปวนมา เกือบชั่วโมงแล้ว
แต่แดฮยอนกลับไม่สนใจเสียงของเพื่อน เอาแต่นั่งเหม่อ มองยิ้มและดูคนตรงหน้า อย่างมีความสุข
“เฮ้อ!” เสียงถอนหายใจของ จงออบ ที่นั่งมองดูเพื่อนของตัวเองมองรุ่นพี่คนนึงแบบไม่สนใจใคร
เพื่อนทั้ง 2 มองหน้ากัน ก่อนจะลากตัว แดฮอยออกมาจากรัศมีที่มีรุ่นพี่คนนั้นอยู่
“กูว่ามึงเป็นเอามากว่ะ พอเห๊อะ” ยองแจพูดขึ้นเมื่อเห็นเพื่อนของตัวเองกำลังจะวิ่งกลับไปที่เดิม
“ทำไมมึงไม่บอกพี่เค้าไปล่ะ” จงออบพูดขึ้น ทำให้แดฮยอนชะงักไปพักนึงก่อนจะหันมามองหน้าเพื่อนของตัวเอง
“มึงจะให้กูบอกพี่เค้ายังไง กูเป็นผู้ชายน่ะ” แดฮยอนตอบเพื่อนไป เพราะคิดว่า ไม่ดีแน่ ถ้าเค้าบอกรุ่นพี่ว่าชอบ ซึ่งเป็นผู้ชายเหมือนกัน “กูไม่ได้เป็นตุ๊ดน่ะเว้ย!”
“เออ! กูเชื่อ ว่ามึงไม่ตุ๊ด แต่ที่มึงเป็นอยู่ตอนนี้เพราะอะไร ช่วยบอกกูดิ๊” จงออบพูดต่อ เมื่อเห็นเพื่อนไม่ยอมรับกับการกระทำของตัวเอง
“’งั้นมึงบอกกูหน่อยว่ามึงคิดยังไงกับพี่เค้ากันแน่ มึงรักพี่เค้ารึป่าว” จากนั้น ยองแจก็เป็นฝ่ายพูดต่อ “มันไม่ผิดหรอก ถ้ามึงจะชอบพี่เค้าหน่ะ เดี๊ยวนี้มีออกถ่มไป มึงจะอายอะไรว่ะ อีกอย่างมึงไม่จำเป็นต้องเป็นตุ๊ดก็รักกันได้ ไม่มีใครถือกันแล้ว” แดฮยอนมองหน้าเพื่อนของเค้า ก่อนจะก้มหน้าลง และไม่รู้ว่าเค้ากำลังคิดอะไรอยู่...
“อืม! กูชอบพี่เค้าว่ะ แต่กูรู้สึกว่าตอนนี้ไม่ใช่แค่ชอบ” แดฮยอนตอบแบบไม่แน่ใจตัวเอง
ยองแจ กับ จงออบ จ้องมอง แดฮยอน แบบต้องการคำตอบที่ชัดเจนกว่านี้ แต่ แดฮยอน กลับนิ่งไม่พูดต่อ
“มึงก็บอกเค้าไปดิ ว่ามึงคิดยังไงกับเค้า มึงจะได้ไม่ต้องอึดอัด” จงออบ พูดขึ้นเพราะอยากให้เพื่อนเปิดใจ
“กูไม่กล้า มึงจะให้กูทำไง ถึงกูบอกไป มึงคิดว่าพี่เค้าจะชอบกูหรอ” แดฮยอนพูดขึ้น เพราะเค้าก็รู้สึกอึดอัดใจ
“แต่มึงอย่าลืมน่ะ ว่าปีนี้พี่เค้าก็กำลังจะจบแล้ว อีกไม่กี่วันแล้วหน่ะ มึงไม่คิดจะทำอะไรเลยหรอ อย่างน้อยให้พี่เค้ารู้ไว้ก็ไม่เสียหาย” ยองแจพูดให้เพื่อนคิด
“มึงก็พูดง่ายนิ ไม่มาเป็นกูดูบ้างล่ะ” ตอนนี้แดฮยอนพูดเหมือนน้อยใจเพื่อนทั้ง2
“งั้นมึงจะทำอะไรก็เรื่องของมึง แต่กูแค่จะบอกให้มึงรู้ว่าเวลาที่มึงจะได้เจอพี่เค้าอีก มันน้อยลงเต็มทีแล้ว” นั้นเป็นคำพูดครั้งสุดท้ายที่ จงออบ พูด จากนั้นเค้าก็เดินออกไป...
“มันก็จริงอย่างที่จงออบมันพูด เวลาของมึงที่จะสารภาพ มันไม่ได้มีมากพอที่จะให้มึงมานั่งมองเค้าอย่างนี้หรอกหน่ะ แต่ก็อยากจะบอกมึงน่ะว่า ยังไงไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม พวกกู2คนจะอยู่ข้างๆมึง ไม่ทิ้งมึงเด็ดขาด” จองแจพูดจบก็เดินออกมาเช่นกัน เค้าอยากให้เพื่อนของเค้าได่มีเวลาคิดทบทวนสิ่งที่พวกเค้า2คนพูด...
ระหว่างที่เด็กหนุ่มนั่งคิดอะไรอยู่นั้น เค้าก็ไม่เคยรู้ตัวเลยว่า มีสายตาอีกคู่ คอยมองเค้าอยู่เหมือนกัน เช่นเดียวกับที่เค้าเป็น...
...ตอนนี้เป็นเวลาเลิกเรียน พวกเค้าทั้ง3 ต่างก็แยกย้ายกันกลับบ้าน...
ระหว่างทางเดินกับบ้าบ เด็กหนุ่มที่วันนี้คิดได้จากคำพูดของเพื่อน พูดกับเพื่อนของเค้า เมื่อเค้าตัดสินใจได้แล้ว
“กูตัดสินใจแล้วว่ะ” คำพูดของเค้า ทำเอาเพื่อนทั้ง2ต่างก็หันหน้ามามอง และฟังเพื่อนพูดต่อ
“กูจะบอกพี่เค้า แต่...” ทั้ง2 ลุ้นอย่างใจจดใจจ่อ ว่าเพื่อนของเค้าจะพูดอะไร
“กูขอเป็นวันสุดท้าย ที่กูจะได้เจอพี่เค้า...”
“เพื่อ!...” คนทั้ง2 พูดพร้อมกัน เมื่อฟังเพื่อนพูดจบ และไม่เข้าใจในสิ่งที่เค้าพูด
“อย่างน้อย ถ้าพี่เค้าปฏิเสธกู กูก็จะได้ไม่ต้องอายที่จะเจอพี่เค้าอีก”
“แล้วถ้าเกิดว่าพี่เค้าก็คิดแบบเดียวกับมึงล่ะ” จงออบพูดขึ้น
“ใช่...แล้วมันจะไม่สายไปหรอว่ะ” ยองแจพูดต่อ
“.......................”
แดฮยอน เงียบ เพราะเค้าก็ไม่ทันได้คิดเรื่องนี้ เพื่อนทั้ง2 ไม่พูดอะไร ก่อนจะเดินเข้ามากอดคอของเพื่อนไว้ แล้วพูดให้กำลังใจ...
“ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นน่ะเว้ย มึงอย่าลืมล่ะ ว่ายังมีพวกกูอยู่ ที่เข้าใจมึง...” แดฮยอนยิ้มให้กับเพื่อนของเค้าทั้ง2
...พวกเค้าทั้ง3 ไม่รู้ว่าหลังจากนี้จะเกิดอะไรขึ้น จะเป็นเรื่องดี หรือเรื่องร้าย แต่พวกเค้าก็จะมีกันแบบนี้ตลอดไป...
ชายหนุ่ม ผู้เป็นที่หมายของผู้หญิงมากมาย แต่เค้าไม่เคยคิดที่จะเอาผู้หญิงที่คอยจะวิ่งเข้าหาเหล่านั้นมาระบายอารมณ์ หรือสนองความสุข ถึงแม้ในสายตาของคนอื่นจะมองว่าเค้าดูเหมือนผู้ชายเก็ก ปากจัด เจ้าชู้ก็ตาม เพราะหัวใจของเค้าไม่มีที่ว่างให้ใครอีกแล้ว เค้าตกหลุมรักเด็กหนุ่มคนนึงเข้าอย่างจัง แต่ติดที่ว่า ใจเค้าไม่กล้าพอที่จะสารภาพ ได้แต่เก็บไว้ไม่เคยบอกใคร...
ณ บ้านของ ยงกุก
“พี่ยงกุกฮะ อยู่รึป่าว ผมเข้าไปได้มั๊ย?” เสียงของจุนฮงร้องเรียกพี่ชายที่อยู่ในห้อง เค้าตกใจ เพราะกำลังนั่งมองรูปของใครคนนึงอยู่ ก่อนจะวางไว้บนโต๊ะ
“อืมๆ...มีอะไรหรอจุนฮง พี่อ่านหนังสืออยู่หน่ะ” เค้าตอบน้องชายไปทันที ถึงแม้จะไม่ได้อ่านหนังสืออยู่ก็ตาม
“พ่อเรียกไปคุยด่วนเลยฮะ เห็นบอกว่ามีธุระจะคุยกับพี่” ผู้เป็นน้องตะโกนบอกพี่ชายจากหน้าห้องที่ยังไม่ได้เปิด
“ได้ๆ งั้นเดี๊ยวพี่ลงไป” เค้าตอบน้องชาย ก่อนจะลุกขึ้นจากโต๊ะหนังสือในห้อง โดนไม่ลืมที่จะหันกลับมาเก็บรูปใครคนนั้นใส่ไว้ในกล้องแล้วเดินออกไป
ห้องทำงานของพ่อ
ชายร่างสูงเดินเข้าไปในห้องทำงาน โดนที่มีผู้เป็นพ่อนั่งทำงานอยู่
“มาแล้วหรอ...นั่งสิ พ่อมีเรื่องจะคุยกับลูกหน่ะ” ผู้เป็นพ่อเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นว่าลูกชายเข้ามา
เค้านั่งลงตรงข้ามที่โต๊ะทำงานของพ่อ ก่อนที่พ่อของเค้าจะเริ่มบทสนทนา
“คือ...มันเป็นเรื่องของ พ่อแม่ที่แท้จริงของลูกหน่ะ ตอนนี้เค้ามาคุยกับพ่อเพื่อที่จะขอลูกให้กลับไปอยู่กับเค้า ลูกจะว่าไง ถ้า...”
“ผมไม่ไป!” ผู้เป็นพ่อพูดไม่ทันจบ ยงกุก ก็ค้านขึ้นทันที ผู้พ่อรู้ดีว่ายงกุกจะไม่กลับไปแน่
“ฟังพ่อให้จบก่อนสิ...ที่พ่อจะพูดต่อก็คือ ถ้าพ่อจะขอให้ลูกอยู่กับน้องหน่ะ แล้วลูกจะว่าอะไรมั๊ย ถ้าพรุ่งนี้พ่อจะไปเจรจาขอซื้อตัวลูก และจะไม่ให้เค้ามายุ่งวุ่นวายกับลูกอีก” เมื่อผู้เป็นพ่อ ซึ้งไม่ใช่พ่อแท้ๆพูดจบ ยงกุกก็ได้แต่พยักหน้า ก่อนจะตอบผู้เป็นพ่อกลับไป
“ผมจะอยู่ที่นี่ ผมจะอยู่กับคนที่เลี้ยงผมมา ผมไม่มีทางกลับไปอยู่กับคนที่เคยทิ้งผมเด็ดขาด อีกอย่าง พ่อจะทำอะไรก็ทำ ผมไม่ห่วงอะไรทั้งนั้น นอกจากน้องชายที่ผมรัก ที่ผมต้องดูแล ผมทิ้งเค้าไม่ได้” พูดจบเค้าก็เดินออกไปจากห้องทันที...
ตอนนี้ผมนั่งอยู่ในห้องของตัวเองอย่างอารมณ์เสีย ทำไมต้องมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นกับผมด้วย
เท่าที่ผมจำได้ ตอนนั้นผมอายุแค่ 3 ขวบ พ่อแม่ที่แท้ของผม เอาผมมาฝากไว้กับเจ้านายของเค้า จากนั้นก็ไม่กลับมาหาผมอีกเลย เจ้านายคนนั้นก็คือคนที่ผมเรียกว่าพ่ออยู่ทุกวันนี้ เค้าไม่เคยทอดทิ้งผม กลับดูแลผมจนได้ดีถึงทุกวันนี้ แต่พอมีเซลโล่ หรือจุนฮง ซึ้งเป็นลูกที่แท้ของพ่อ ผมรู้...ว่าพ่อรักจุนฮงมากแค่ไหน แต่พ่อก็ไม่เคยทิ้งผม หรือรักผมน้อยกว่าลูกแท้ๆเลย และผมจะตอบแทนท่านเพื่อสิ่งนี้ ผมจะดูแลจุนฮงอย่างดี จะไม่ทำให้น้องที่ผมรักต้องมีเรื่องเสียใจเด็ดขาด เหมือนว่าจุนฮงเป็นน้องชายแท้ๆของผม...
เค้าหยิบรูปที่อยู่ในกล้องขึ้นมาอีกครั้ง ก่อนจะยิ้มออกมา...
...พอฉันเห็นหน้านายแล้ว ฉันก็รู้สึกดีขึ้นมาทันที นายช่างมีความหมายกับฉันมากน่ะ...’แดฮยอน’
วันนี้ผมมาโรงเรียนกับจุนฮง โดยที่มีพ่อกับแม่มาส่ง ก่อนพวกเราจะลงจากรถพ่อบอกว่าจะรีบไปทำธุระ ยังไม่รู้ว่าจะกลับตอนไหน ให้ผมกับจุนฮงกลับบ้านกันแอง ซึ่งผมรู้ดีว่าธุระที่พ่อว่าคือเรื่องอะไร เพราะคงเป็นเรื่องที่พ่อคุยกับผมเมื่อคืน...
“ครับ เลิกเรียนแล้วผมจะรีบพาน้องกลับ พ่อไม่ต้องเป็นห่วง” ผมตอบท่านไปเพราะไม่อยากให้ท่านต้องเป็นห่วง และกังวน เพราะผมรู้สึกว่า ท่านกลัวว่าจะเสียผมไป...
โรงเรียน มาโทกิ
วันนี้ก็เป็นเหมือนทุกวัน ที่นักเรียนทุกต่างก็ว่างกัน และผมก็ต้องไปซ้อม
“เฮ้ย! ยงกุก วันนี้มึงเป็นอะไรว่ะ ทำหน้าเหมือนใครตาย งั้นแหล่ะ” ไอฮิมชาน เพื่อนคนเดียวของผม ทักขึ้น เพราะเห็นผมทำหน้าบึ้งตลอดเวลาที่ซ้อม
“มึงดิตาย ทักกูซะตกใจ” ผมตอบมัน เพราะรู้สึกไม่ค่อยดี พอมันพูดเรื่องตายๆ เหมือนมีลางสังหรณ์อะไรก็ไม่รู้ผมก็อธิบายไม่ถูก
“ยงกุก!! ยงกุก!! เกิดเรื่องใหญ่แล้ว คุณครูเรียกให้ไปพบด่วน ที่ห้องกิจการนักเรียน” เสียงเรียกนั้น ทำให้ผมตกใจอย่างมาก เมื่ออยู่ดีๆมีเด็กคนนึงวิ่งมาหาผม
“มีเรื่องอะไรว่ะ?” ฮิมชานมันถามขึ้นเพราะไม่รู้ว่าไอเด็กคนนี้จะตกใจอะไรหนักหนา และจะเรียกผมไปพบเรื่องอะไร
“ผมว่า ให้คุณครูเป็นคนบอกพี่ดีกว่าน่ะ ผมพูดอะไรตอนนี้ไม่ได้หรอก” เด็กคนนั้นวิ่งออกไป แต่เค้าก็ต้องหันกลับมาบอกกับยงกุกอีกว่า
“อ่อ! ตอนนี้เซลโล่ก็อยู่ที่นั้น ผมว่าพี่รีบไปดีกว่า อาการคงหนักมากแล้ว” แล้วเด็กคนนั้นก็วิ่งกลับไปทันที
ยงกุกตกใจ เมื่อเด็กคนนั้นพูดถึงเซลโล่ แล้วบอกว่าอาการคงจะหนัก เค้าไม่อยากรอคำตอบอะไรอีกแล้ว ก่อนจะรีบวิ่งไปที่ห้องกิจการนักเรียน เพราะเป็นห่วงน้อง โดยที่มีฮิมชานวิ่งตามไปด้วย
ทันทีที่ยงกุกเข้าไปในห้อง เห็นน้องชายของตัวเองนั่งร้องไห้ และเมื่อเค้าหันมาเห็นพี่ชายก็ยิ่งร้องหนักมากกว่าเดิม
“เกิดอะไรขึ้นครับครู ใครทำน้องผม?” ผมถามขึ้นด้วยความโมโห ก่อนจะตกใจกับประโยคที่อาจารย์บอก
“ทำใจดีๆน่ะยงกุก อาจารย์รู้ว่านายคงจะทำใจยาก กับเรื่องที่ครูจะบอก”
“เรื่องอะไร ครูรีบบอกมาเลยดีกว่า ไม่ต้องอ้อม เพื่อนผมมันอยากรู้จะแย่อยู่แล้ว อย่าให้รู้น่ะใครทำน้องมัน ตาย!” เป็นฮิมชานที่ถามขึ้น และพูดอะไรที่ไม่น่าจะพูดในเวลานี้ เพราะเรื่องที่คุณครูของเค้าจะบอกนั้น ก็เป็นเรื่องตายนี่แหล่ะ
“งั้นครูจะพูดตรงๆน่ะ พ่อแม่ของนายเสียชีวิตแล้ว เมื่อเช้านี้ มีคนโทรเข้ามาแจ้งให้ครูทราบ ซึ่งครูได้ยินก็ตกใจมากกับเรื่องที่เกิดขึ้น ไม่รู้จะบอกพวกนายยังไงดี ครูเสียใจด้วยน่ะ ยงกุก เซลโล่”
ยงกุกกับฮิมชาน เมื่อ่ได้ยินเรื่องที่คุณครูบอกก็ตกใจ ทำอะไรไม่ถูก ส่วนเซลโล่เองเมื่อได้ยิน ก็ยิ่งร้องไห้เข้าไปใหญ่ เค้าไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น
“เกิดอะไรขึ้นครับครู ช่วยบอกผมหน่อย พ่อกับแม่ผมทำไมถึงได้...” ยงกุกไม่อยากจะพูดต่อยิ่งพูดเหมือนจะยิ่งทำให้น้องต้องร้องไห้ ก่อนจะหันไปพูดกับฮิมชาน
“ไอฮิมชาน มึงพาน้องกูไปรอด้านนอกก่อน กูมีเรื่องต้องคุยกับครู ไม่อยากให้เซลโล่ต้องร้องไปมากว่านี้” ฮิมชานมองเซลโล่ด้วยความสงสาร เค้าเด็กเกินที่จะรับรู้เรื่องแบบนี้ แถมยังต้องเสียพ่อแม่ไป ในเวลาเดียวกัน
ฮิมชานเข้ามาพยุงเซลโล่ออกจากห้องไปทันที แม้เซลโล่จะไม่ยอมก็ตาม แต่เค้าก็พาออกมาได้
ตอนนี้ในห้องมีแค่ครูกับยงกุก ครูเล่าให้ยงกุกฟังกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ว่าพ่อของเค้าได้ขับรถคว่ำ เพราะต้องรีบไปทำธุระ โดยไม่ทันระวัง ก็มีรถมาตัดหน้าทำให้รถเกิดพลิกคว่ำ และท่านทั้ง2ก็มาเสียชีวิตที่โรงพยาบาล เมื่อยงกุกรู้ว่าเป็นเพราะอะไร ก็เดินออกมาทันทีโดยที่ไม่พูดอะไรกับครูเลย
เค้าเดินออกมาเห็นฮิมชานนั่งอยู่ แต่ไม่เห็นน้องของตัวเอง เลยถามขึ้น
“ไอฮิมชาน น้องกูไปไหน?” ยงกุกถามเพราะตกใจ ในเวลานี้ ไม่อยากให้น้องชายต้องอยู่คนเดียว
“ไม่รู้ว่ะ พอกูพาออกมา น้องมึงก็วิ่งหายไปเลย กูเป็นห่วงมึงเลยไม่ได้วิ่งตามไป คอยมึงอยู่ตรงนี้แหล่ะ” คำพูดของฮิมชาน ยิ่งทำให้เค้ากลัว กลัวว่าน้องจะทำอะไรที่เค้าคิดไม่ถึง ก่อนจะรีบวิ่งไปหาน้องทันที
ตอนนี้ผมกำลังเดินกลับบ้านคนเดียว เพราะวันนี้ ไอยองแจ กับ ไอจงออบ มันไปหาอะไรกินกันต่อ ผมงอลไม่อยากไปเพราะน้อยใจพวกมันที่วันนี้ผมชวนพวกมันไปเป็นเพื่อนผมดูพี่ๆเค้าซ้อมกัน แต่พวกมันกับดึงไม่ให้ผมไปไหนเลย วันนี้ผมเลยไม่ได้ไปดูพี่ยงกุกซ้อม
ระหว่างทางที่ผมเดินคิดอะไรไปเรื่อย อยู่ๆผมก็ได้ยินเสียงเด็กร้องไห้ ผมกลัวมาก คิดว่าผีหลอกกลางวัน แต่ที่ไหนได้ ตอนนี้ก็6โมงกว่า ผมกวาดสายตามองไปรอบๆ ก็หันไปเห็นเด็กคนนึงกำลังนั่งร้องไห้อยู่ที่ริมสระน้ำของสวนย้อมทางกลับบ้านที่ผมเดินผ่านทุกวัน
ตอนแรกผมก็ว่าจะไม่สนใจอะไรหรอกน่ะ แต่ทว่า ผมเห็นเด็กคนนั้นกำลังทำท่าว่าจะเดินลงไปในสระ หน้าก็เหม่อลอย ร้องเรียกหาพ่อหาแม่ไม่หยุด
“น้องครับ หลงทางหรอ? บ้านอยู่ไหนล่ะ? ให้พี่ไปส่งมั๊ย?” ผมถามเพราะสงสัยว่าทำไมถึงมานั่งร้องไห้เรียกหาพ่อหาแม่แบบนี้
“ฮือ! ผมไม่มีบ้าน คนที่บ้านผมตายหมดแล้ว ผมไม่เหลือใครแล้ว เค้าทิ้งผมไปหมด ผมอยากไปอยู่กับพ่อกับแม่ ฮือๆ...” คำตอบของเด็กคนนี้ ทำเอาผมตกใจ เอาไงล่ะทีนี้ จะทำยังไงดี หาเรื่องใส่ตัวมั๊ยล่ะ อยู่ๆก็มาเจอเด็กแปลกหน้า แล้วไม่มีบ้านอยู่อีก แต่ เอ๊ะ! เหมือนว่าเด็กคนนี้จะอยู้โรงเรียนเดียวกับผมน่ะ แต่งกายแบบเดียวกับผมด้วย เอาว่ะ เป็นไงเป็นกัน ช่วยก่อน ยังไงก็ค่อยว่ากันอีกที
“งั้นไปบ้านพี่ ไปอยู่บ้านพี่ก่อนแล้วกัน อยู่ตรงนี้อันตราย นี่ก็เริ่มมืดแล้วด้วย” ผมพูด แล้วก็พยุงเด็กคนนี้ขึ้น
“อ่อ! ว่าแต่นายชื่อะไรล่ะ “ ผมถามก่อนจะพาเด็กคนนี้ไปที่บ้าน ก็จะให้ไปอยู่ที่บ้านโดยไม่ถามชื่อก็ยังไงอยู่
”ผมชื่อเซลโล่ฮะ” เค้าตอบและส่งยิ้มมาให้ผมแบบขืนๆ แล้วก็ร้องไห้ต่อ
...โอ้ย! วันนี้มันวันอะไรของผมเนี๊ย หน้าพี่ยงกุกก็ยังไมเห็น ไหนจะไม่กี่วันนี้ก็จะไม่ได้เจอพี่เค้าอีกแล้ว เฮ้อ!! ไม่มีอะไรได้ดั่งใจสักอย่าง แถมยังหาเรื่องใส่ตัวอีก กลับบ้านไปจะมีใครว่าอะไรมั๊ยนี่ อยู่ๆก็พาเด็กแปลกหน้าเข้าบ้านซะงั้น...
นี่ก็มืดมากแล้ว ตอนนี้ผมยังหาตัวจุนฮงไม่เจอ...
วันนี้ทั้งวัน ผมกับฮิมชานเราไม่ได้ซ้อมกันเลย ไหนจะยังจัดการเรื่องพ่อแม่ที่โรงพยาบาลบ้างหล่ะ มัวแต่ตามหาจุนฮงกันอยู่ เลยยังไม่ได้จัดการอะไรเลย
ผมร้อนใจมาก กลัวว่าจุนฮงจะทำอะไรไป โดยที่ไม่คิดถึงผม...
ตอนนี้โรงเรียนเลิกแล้ว ผมยิ่งร้อนใจมากกว่าเก่า ผมกลับไปที่บ้านก็ไม่เจอ ผมไม่รู้จะตามหาน้องของผมได้ที่ไหนแล้ว...
Rrrrrrr rrr!!
เสียงมือถือของผมดังขึ้น พอมองไปก็เป็นฮิมชานโทรมา ผมรีบรับทันที เพราะคิดว่ามันคงมีข่าวดีให้ผมบ้างหล่ะ
“เฮ้ย! ยงกุก กูมีข่าวดีว่ะ แต่ไม่มากน่ะเว้ย” มันที่รู้ข่าวจุนฮงก็รีบโทรมาหาผมทันที
“มึงรีบบอกมาเลย ว่าเรื่องอะไร” ผมรีบพูดทันที เพราะไม่อยากให้ช้าไปกว่านี้
“มีคนเห็นเด็กคล้ายๆเซลโล่ไปกับใครไม่รู้ว่ะ เห็นว่าอยู่โรงเรียนเดียวกันด้วย เพราะเค้าบอกว่าเห็นใส่ชุดนักเรียนเหมือนกันว่ะ”
“ที่ไหน? แต่ถึงยังไงก็ต้องลองไปหาดู เผื่อจะเจออะไรบ้าง”
จากนั้น ไอฮิมชานมันก็บอกสถานที่มา และผมก็ไม่รอช้า รีบไปหาน้องทันที...
ตอนนี้ผมกับฮิมชานอยู่ริมสระน้ำหน้าหมู่บ้านใกล้ๆโรงเรียน เพราะฮิมชานมันบอกผมว่ามีคนเห็นน้องผมอยู่แถวนี้...
“กูว่าใกล้จะหาเซลโล่เจอแล้วล่ะ มึงอย่ากังวลไปเลย ยังไงก็ลองถามคนแถวนี้ดูว่ามีนักเรียนที่เรียนที่เดียวกับเราอยู่แถวนี้บ้างรึป่าว แล้วเราก็ไปบุกบ้านเด็กนั้นกัน”
ผมเดินออกตามหาน้องไปเรื่อยถามคนที่เดินผ่านไปผ่านมาบ้างล่ะ บางคนก็บอกว่าไปทางนู้น บ้างก็บอกว่าไปทางนี้ ผมกับฮิมชานเลยออกแยกย้ายกันไปคนละทาง
คนที่บอกผม เค้าบอกว่า เห็นเด็กจ้ำม้ำๆ นั่งร้องไห้อยู่ที่ริมสระน้ำ หลังจากนั้นก็เดินไปกับเด็กผู้ชายอีกคนนึง น่าจะอยู่โรงเรียนเดียวกัน
แต่ที่ทำให้ผมดีใจกว่านั่นคือ เค้าบอกว่าเห็นเด็กคนนั้นบ่อย พอจะรู้ว่าบ้านอยู่ตรงไหน แล้วก็บอกทางผมทันที
ตอนนี้ผมมาถึงบ้านแล้ว พร้อมด้วยเด็กแปลกหน้าที่ผมพามาด้วย โดยที่เพิ่งรู้จักกันเมื่อไม่กี่นาทีก่อน
ผมพาเซลโล่เข้ามานั่งที่โซฟา ก่อนที่จะมองไปรอบๆบ้าน นี่คงไม่มีใครอยู่สิน่ะ ไปไหนกันหมดหน่ะ แต่ก็ดีเหมือนกัน พ่อกับแม่จะได้ไม่รู้ว่าผมพาคนแปลกหน้าเข้าบ้าน เอาเป็นว่าทางสะดวก (อย่าคิดลึก) ผมจะได้ไมโดยพ่อแม่ด่าเอา เท่านั้นเอง
“นี่! นาย เป็นอะไรมากรึป่าว ร้องไห้ไม่หยุดเลย มีอะไรเล่าให้พี่ฟังได้น่ะ” ผมถามไป เพราะตั้งแต่เข้ามา เซลโล่ร้องไห้ไม่หยุดตลอดทางที่ผมพามาที่บ้าน จนตอนนี้ก็ยังไม่หยุด
“วันนี้ครูบอกผมว่าพ่อกับแม่ผมเสียแล้ว ผมไม่เหลือใครแล้ว นอกจากพี่ชายคนเดียวของผม”
“อ่าว! แล้วพี่นายไปไหนล่ะ ทำไมถึงได้ทิ้งนายไว้แบบนั้น นี่ถ้าพี่ไม่ไปเจอนายก่อน ตอนนี้คงได้นอนเล่นอยู่ใต้แน่” ผมพูดเล่นออกไป เผื่อจะทำให้เซลโล่ เลิกร้องไห้ แต่ก็ยิ่งร้องหนักกว่าเดิม
“เอาล่ะๆ พี่จะไปหาอะไรมาให้กินแล้วกันคงหิวแย่แล้วสินะ” ผมเปิดทีวีไว้ แล้วรีบเดินเข้าไปในครัวทันที...เพราะผมนี่แหล่ะที่หิว ^^!
ก๊อกๆ ก๊อก ก๊อกๆ ก๊อก!!
อยู่ๆเสียงประตูก็ดังขึ้น มีคนมา ต้องเป็นพ่อกับแม่แน่ๆเลย เอาไงดีล่ะ จะบอกท่านว่าอะไรดี ผมรีบวิ่งไปเปิดทันที แต่ก็ไม่วายนึกคำตอบไปด้วย
“ผมแค่ช่วยน้องเค้าหน่ะฮะ พ่อกับแม่อย่าว่าผมเลย ผมทิ้งน้องเค้าไม่ได้จริงๆ น้องเค้ากำลังมีเรื่องเศร้า น้องเค้าต้องการที่ระบาย ให้น้องเค้าทำใจสักพักแล้วค่อยให้น้องเค้ากลับน่ะฮะ” เด็กหนุ่มรีบพูดไปทันทีที่เปิดประตู โดยที่ไม่มองหน้าคนที่ยืนอยู่หน้าประตู ว่าใช่พ่อกับแม่รึป่าว
“เอ่อ!” ชายหนุ่มที่มาใหม่ กำลังยืนอึ้งกับสิ่งที่เห็นอยู่ตรงหน้า เค้าตกใจกับบุคคลที่มาเปิดประตู ‘แดฮยอน’ เด็กผู้ชายที่เค้าไม่คิดว่าจะได้พบเจอแบบจังๆขนาดนี้
ส่วนแดฮยอนเอง ก็ต้องแปลกใจ เมื่อคนที่คิดว่าเป็นพ่อแม่ของเค้า ไม่มีการโต้ตอบ เค้ารีบเงิยหน้าขึ้นมอง แต่ต้องตกใจเมื่อคนที่ยืนอยู่นั้น คือรุ่นพี่ที่ตัวเค้าเองแอบชอบ และกำลังจะสารภาพรัก ในไม่กี่วันที่จะถึงนี้...
...รุ่นพี่ ‘ยงกุก’...
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
<<ไรเตอร์>>
** พาไปอ่ะดีแล้วแดแด้ บางทีวันนี้อาจได้เจอพี่บังแบบไม่ทันได้ตั้งตัวก็ได้น่ะ ## และแล้ว ทั้ง 2 ก็ได้เจอหน้ากันแบบจังๆซะที อิอิ+ ไม่อยากจะพูด ว่าจะเกิดอะไรต่อ 5555+ ลุ้นๆ เม้นๆ กันเน้อ ^^’’
** ว่าแต่สายตาคู่นั้นที่มองแดแด้อยู่ เป็นใครกันน่ะ? ## เฉลย: ไปแล้วน่ะ สายตาคู่นั้นคือของพี่บังจร้า ตอนนี้ความรู้สึกของน้องโล่ที่มีต่อแดแด้ยังไม่เกิดอ่ะ อ่าว! แล้วจะเกิดขึ้นตอนไหน? อย่าลืมติดตามล่ะ
ความคิดเห็น