ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [U-Kiss] Fiction's Place

    ลำดับตอนที่ #3 : SF - A bad guy who never knew your heart

    • อัปเดตล่าสุด 18 ก.พ. 56








     
    A bad guy who never knew your heart
    AJ x Kiseop



    Jaeseop’s part

    แจซอบ เลิกกันเถอะ ถ้านายทำตาที่สัญญากันไว้ไม่ได้ เขาสะบัดแขนออกจากมือของผมที่ดึงรั้งข้อมือของเขาเอาไว้ มือเรียวผลักให้ผมต้องถอยห่างออกมา

    ฟังกันก่อนได้มั้ยกีซอบ  มันต้องไม่ใช่แบบนี้ผมพยายามขวางเข้าเอาไว้ตอนที่กำลังจะเดินออกจากห้องนอนของเราไป

    แบบนี้? แบบที่นายเคยเป็นไงล่ะ! นายไม่เคยพอ!”

    ฉันขอโทษ มันห้ามไม่ไหวจริงๆ...

    งั้นเชิญนายกลับไปเป็นอย่างเดิม กลับไปเป็นผู้ชายที่มีความสุขกับทุกๆคนที่เข้าหานายเถอะกีซอบกำลังโกรธ... ตากลมโตของเขาแดงเหมือนจะร้องไห้แต่กลับไม่มีน้ำตา

    ไม่ ฉันหยุดแล้ว ฉันหยุดที่นายผมพูดด้วยน้ำเสียงที่ฝืนให้นิ่งที่สุด ผมจะพูดเสียงแข็งๆไม่ได้ ตอนนี้เขากำลังโกรธ ต้องใช้น้ำเย็นเข้าลูบ และเขาก็นิ่งไป ตาแดงๆจ้องมาที่ตาของผมเหมือนต้องการจะพูดอะไรแต่แล้วจู่ๆก็ส่ายหน้า

    หยุดพูดเถอะเขาแทรกตัวออกจากผมและเลี่ยงเดินไปที่ประตู ผมรีบดึงเอวบางเข้ามากอดไว้จากด้านหลัง ใช้คางเกยไหล่ของคนในอ้อมแขนไว้

    อย่าทิ้งฉันไปนะ ได้โปรด...คำขอร้องจากผู้ชายที่ไม่ยอมอ่อนให้ใครแต่ตอนนี้ผมต้องการแค่เขาเท่านั้นจริงๆ

    อย่าทำแบบนี้ ปล่อยน้ำเสียงและตัวเขาสั่นน้อยๆ ผมได้ยินเสียงสะอื้นของเขา

    คงไม่ใช่ฉันที่นายจะหยุด ขอให้นาย ฮึก เจอเขาคนนั้นนะเขาแกะมือของผมออก ไม่รู้ทำไมมือของผมถึงหมดแรงที่จะรั้งเขาไว้ในอ้อมกอด เขาเดินจากไป ผมทำอะไรไม่ได้เลย ทำได้แค่ยืนยืนมองตามแผ่นหลังนั้นห่างออกไป จนกระทั่งประตูไม้สีขาวถูกปิดลง บังไม่ให้ผมได้เห็นเขาอีกต่อไป...

    กีซอบไปแล้ว...

    หัวใจของผมได้จากไปแล้ว ทุกอย่างตกอยู่ในความเงียบงัน ห้องเงียบจนได้ยินเสียงหายใจของตัวเอง ผมเดินอย่างล่องลอยกลับมานั่งที่เตียง ทบทวนทุกอย่างที่เกิดขึ้น มันรวดเร็วจนคิดว่าบางที ผมอาจจะฝันไป

    กีซอบอา นอนได้แล้วนะเสียงทุ้มเรียกอีกคนที่กำลังนั่งพิงหัวเตียงอ่านหนังสือให้รีบเข้านอน

    อีกนิดนึง~ กำลังสนุกเลยปากตอบแต่สายตายังไม่ละจากตัวหนังสือ ตากลมไล่อ่านแต่ละตัวอักษรอย่างตั้งใจ ราวกับหลุดเข้าไปในโลกของหนังสือเล่มนี้ คิ้วเข้มขมวดอย่างไม่ชอบใจเมื่อเห็นว่าอีกคนไม่สนใจตัวเอง ร่างสูงนอนเท้าแขนจ้องคนตรงหน้าที่ยังสนใจแต่หนังสือ

    เงียบจนผิดปกติ...

    ตาโตเลยชำเลืองมองที่ข้างตัวก็เห็นว่าอีกคนกำลังนอนจ้องเขาอยู่ จะแกล้งอ่านหนังสือต่อไปก็ไม่ได้ในเมื่ออีกคนเห็นแล้วว่าเขาเหลือบมอง เพราะเอาแต่จ้องหน้าของตัวเองอยู่ มือเรียวจัดการปิดหนังสือก่อนจะสอดตัวเข้าในผ้าห่มเตรียมตัวจะเข้านอน แกล้งทำเป็นนอนหลับตาไม่สนใจคนข้างๆที่ยังนอนเท้าแขนจ้องกันอยู่

    “…….” ร่างสูงยังคงเงียบคอยดูว่าอีกคนจะใจร้ายปล่อยให้เขานอนจ้องอยู่อย่างนี้ทั้งคืนเลยรึเปล่า... จนในที่สุดคนตัวเล็กกว่าก็นอนตะแคงหันมาทางเขา ตากลมจ้องแข่งกับตาคมของคนตรงหน้า

    จ้องแบบนี้ใครจะไปนอนหลับกันฮะแจซอบ?แก้มขาวพองลมน้อยๆอย่างขัดใจ ก็อีกคนเล่นจ้องจนจะแทบทะลวงทะลุตัวเขาเข้ามาอยู่แล้ว ใครจะไปหลับลงกัน

    ก็จ้องแฟนตัวเองผิดตรงไหน?พูดออกมาหน้าตาเฉยแต่กลับทำให้คนฟังแก้มแดงอย่างห้ามไม่ได้

    นอนได้แล้ว!”

    กีซอบอา นายยังไม่ได้ทำตามที่ตกลงกันทุกคืนเลยนะมือเรียวดึงผ้าห่มขึ้นคลุมหัวเอาไว้แต่ก็ถูกดึงให้เปิดออก ทั้งสองคนนอนเล่นยื้อแย่งผ้าห่มกันก่อนร่างสูงจะตัดสินใจขึ้นคร่อมอีกคนไว้

    เฮ้ยยย ลงไปนะแจซอบพอถูกขึ้นคร่อมก็ทำให้ร่างโปร่งตกใจ พยายามดิ้นออกจากการกักขังของคนด้านบน ร่างสูงค่อยๆยื่นหน้าเข้าไปใกล้

    ไม่เอาแจซอบ ไม่เล่นแบบนี้นะร่างโปร่งหลับตาแน่นด้วยความกลัวใบหน้าสวยเบี่ยงหลบจากปลายจมูกของอีกคน มือเรียวพยายามดันให้อีกคนออกห่าง ร่างสูงชะงักไปเมื่อเห็นท่าทีของอีกคน เขารู้ดีว่ากีซอบยังไม่พร้อม แค่อีกคนยอมมานอนด้วยกันที่ห้องของเขา ยอมให้เขานอนกอดทุกคืน แค่นั้นก็เกินพอแล้ว จมูกโด่งบรรจงหอมแก้มใสก่อนจะทิ้งตัวลงกลับไปนอนข้างๆร่างโปร่งตามเดิม แขนยาวดึงให้คนข้างกายเข้ามาอยู่ในอ้อมกอด

    ฉันรักนายนะกีซอบ รักแบบที่ไม่เคยรักใครมาก่อน

    รักนายเหมือนกัน..แม้ร่างโปร่งจะพูดเบาๆแต่เขาก็ได้ยินมันอย่างชัดเจน ข้อตกลงที่เราต้องทำทุกคืนคือบอกรักกัน

     

     

     

    ผมสะดุ้งตื่นในตอนเช้าพอดี ก่อนจะรีบคลำที่พื้นเตียงข้างๆตัวแต่มันเย็นเฉียบ แสดงว่าเมื่อคืนนี้ผมนอนบนเตียงนี้เพียงคนเดียว ไม่มีเขามานอนกอดกัน ไม่ได้บอกรักอย่างที่ตกลงกันไว้  กีซอบอา... ฉันคิดถึงนาย

    ผมรีบอาบน้ำแต่งตัวเพื่อจะไปตามหาเขา ท่าทางแล้วเขาน่าจะกลับไปที่ห้องของตัวเอง ผมอยากคุยกับเขา อยากขอโทษ อยาก...ให้เรากลับมาเป็นเหมือนเดิม  หลังออกแต่งตัวเสร็จผมรีบหยิบกุญแจรถและโทรศัพท์แต่จู่ๆก็มีสายเรียกเข้ามา

    ‘Beloved calling~’

    ผมรีบกดรับอย่างรวดเร็วเมื่อเห็นว่าเป็นเบอร์โทรเข้าจากเขาแต่เสียงปลายสายกลับไม่ใช่เสียงที่คุ้นเคย

    ฮัลโหล

    แจซอบหรอ นี่ฉันเควิ่นนะ

    อื้ม ว่าไง?

    ตอนนี้กีซอบอยู่ที่ห้องฉัน เมื่อคืนพอมาถึงก็เอาแต่ร้องไห้ไม่ยอมเล่าอะไรจนหลับไป พวกนายทะเลาะกันใช่มั้ย?

    ก็...นิดหน่อย

    ฉันไม่รู้หรอกนะว่าเพราะอะไร แต่ฉันไม่อยากเห็นเพื่อนต้องเป็นแบบนี้ รีบมาเคลียร์กันซะ

    ได้ ขอบคุณมากนะเควิ่น ฉันจะรีบไป

    หลังจากวางสายผมก็รีบไปที่ห้องของเควิ่นซึ่งอยู่ที่คอนโดเดียวกันกับกีซอบ  เมื่อขึ้นมาถึงชั้นที่พักของเควิ่นผมก็เจอเขายืนรออยู่หน้าประตูห้อง

    กีซอบหลับอยู่ข้างใน ฉันฝากห้องด้วยล่ะกัน เคลียร์กันให้ได้นะถึงจะดูเหมือนเควิ่นไม่ค่อยพอใจที่ผมทำให้เพื่อนของเขาเสียใจขนาดนี้แต่เขาก็ยังเป็นคนน่ารักที่ยิ้มให้กำลังใจก่อนจะเปิดประตูห้องให้ผมเดินเข้าไป ส่วนเขาเองบอกว่าจะออกไปทำธุระข้างนอก ผมเดินเข้ามาในห้องนอนของเควิ่นก็เห็นคนที่ผมกำลังตามหานอนหลับอยู่บนเตียงนุ่ม ตาแดงช้ำเพราะผ่านจากการร้องไห้อย่างหนัก เพียงแค่นั้นหัวใจก็หล่นวูบลง  

     

    Kiseop’s part

    หลังจากออกจากห้องของแจซอบมาผมก็ขับรถตรงกลับมาที่คอนโดของตัวเอง น้ำตามันไหลออกมาไม่หยุดเสียที ผมร้องไห้มาตลอดทาง ในตอนแรกผมอยากจะอยู่คนเดียวเงียบๆในห้องแต่พอมาถึงแล้วมันไม่ใช่แบบที่ต้องการ ผมไม่กล้าอยู่คนเดียว ไม่ชินกับการที่ต้องอยู่คนเดียวในความเงียบ มันยิ่งตอกย้ำว่าผมไม่เหลือใครอีกแล้วจนเดือดร้อนต้องไปเคาะประตูห้องของเควิ่นเพื่อนที่ผมรักมากที่สุด พอเขาเปิดประตูออกมาเจอผมก็ตกใจมาก รีบพาผมเข้าไปนั่งในห้อง เพื่อนรักพร่ำถามว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ผมก็ตอบเขาออกไปไม่ได้ ผมเอาแต่ร้องไห้ ร้องไม่ยอมหยุด จนในที่สุดผมเพลียและหลับไป  ตอนนี้ผมรู้สึกตัวแต่ยังไม่ได้ลืมตาขึ้น สัมผัสอบอุ่นจากมือของใครซักคนกำลังลูบหัวของผมอย่างอ่อนโยน มันเป็นสัมผัสที่คุ้นเคย สัมผัสที่คิดถึง มือของแจซอบงั้นหรอ? เขามาได้ยังไงกัน ผมไม่อยากจะเชื่อว่ามันเป็นไปได้ ผมค่อยๆลืมตาขึ้นมองดูและใช่เขาจริงๆ แจซอบกำลังอยู่บนเตียงที่ผมนอนอยู่ มืออุ่นๆของเขาลูบที่หัวของผมไปมา

    ตื่นแล้วหรอ? กีซอบอากลับไปด้วยกันนะ กลับไปอยู่ด้วยกันเขาพูดพร้อมกับยิ้มให้อย่างอ่อนโยน ทำเหมือนกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น

    ออกไป...เสียงของผมแหบพร่าคงเป็นเพราะเพิ่งตื่นนอน หัวก็ปวดหนึบๆด้วย ผมยังไม่พร้อมจะคุยอะไรกับเขาตอนนี้

    กลับไปด้วยกันเถอะนะเขาขอร้องผมด้วยน้ำเสียงที่ฟังแล้วใจหาย

    ฉันอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีนาย ฉันรักนายนะกีซอบมือหนาเลื่อนมาจับมือของผมไว้แน่น ผมได้แต่พยายามบิดมือออกแต่แรงตอนนี้คงจะสู้แรงเขาไม่ไหว ผมเงียบไม่พูดอะไร ผมตัดสินใจแล้วว่าจะไม่กลับไปอีก ไม่กลับไปหาคนที่ทำให้ผมเสียใจ คนไม่รักษาสัญญาที่ให้ไว้ ไม่เคยรู้จักพอ

    “….”

    อย่าเงียบแบบนี้ได้มั้ย? ฉันรู้นายยังรักฉันอยู่เหมือนที่ฉันรักนาย  เหมือนกัน? ผมไม่เชื่อหูตัวเองว่าเขาจะกล้าพูดออกมา ความรักของผมกับเขาเหมือนกัน 

    ถ้าความรักของนายกับฉันเหมือนกัน นายจะไม่มีทางทำทำแบบนี้แจซอบ

    ถ้าความรักของเราเหมือนกัน นายก็ควรรู้ว่าตอนนี้ฉันรู้สึกยังไง...เสียงของผมขาดห้วง กำลังจะร้องไห้อีกแล้ว ทำไมถึงได้อ่อนแอแบบนี้นะ ...

    นาย.. ฮึก ปล่อยฉันไปเถอะ ความรักของฉันคง.. ฮึก ไม่พอสำหรับนาย ฮือผมร้องไห้ต่อหน้าเขาจนได้ ปล่อยเสียงร้องจนเขาตกใจและดึงผมเขาไปกอดไว้ มืออุ่นๆของเขากดหัวของผมให้ซบไปที่ไหล่ของเขา ผมทุบที่ไหล่ของเขาไปหลายทีเพื่อต้องการจะให้เขาปล่อย แต่อ้อมกอดก็ยังรัดแน่นอยู่เหมือนเดิม

    ฉันขอโทษ กีซอบ ฉันขอโอกาสได้มั้ย? เสียงเข้มของเขามันฟังแล้วสั่นเครือไม่เหมือนปกติ ผู้ชายอย่างเขากำลังร้องไห้? น้ำตาของเขามันจะทำให้ผมใจอ่อน  ไม่ได้นะกีซอบ นายจะกลับไปให้เขาทำร้ายกันอีกทำไม..  ผมไม่ตอบอะไร ผมไม่ตกลง แต่ก็ยังไม่ปฏิเสธ ผมร้องไห้อยู่ในอ้อมกอดของเขา อ้อมกอดอบอุ่นที่ผมชอบมัน ขออยู่อย่างนี้ซักพัก เพราะคงจะเป็นครั้งสุดท้ายที่เราจะได้กอดกัน...

     

     

     

    Jaeseop’s part

    ตอนนี้ผมอยู่ที่อเมริกา มาเรียนต่อที่นี่ได้สองปีแล้วเพราะผมคงทนไม่ได้ที่จะอยู่โดยต้องเห็นหน้ากัน แต่กอดกันไม่ได้เหมือนอย่างเคย คืนนั้นกีซอบไม่กลับไปกับผม เราไม่ได้กลับมารักกัน หลังจากที่เรากอดกันร้องไห้กันพักใหญ่ ผมคิดว่าอาจจะมีหวัง เขาอาจจะคิดได้ว่าผมรักเขามากแค่ไหน แต่ไม่เลย เขาขอให้เราจบกัน ขอให้ผมกลับไปเป็นตัวของผมเอง เป็นเหมือนตอนที่เราไม่ได้รักกัน  ผมทนไม่ได้หรอกนะที่จะต้องกลับไปเป็นเพื่อนกันอย่างเดิม ผมรักเขามาก เขาคือคนที่ใช่แล้วสำหรับผม แต่ตอนนั้นผมพลาดเองที่ห้ามตัวเองไม่ได้ ปล่อยให้มันเป็นไปตามอารมณ์

    แจซอบ เรียนจบแล้วแกจะทำอะไรต่อว่ะ?เพื่อนร่วมชาติที่เป็นรูมเมทถามขึ้นในขณะที่เรากำลังทำโปรเจคชิ้นสุดท้ายที่ถือว่าเป็นใบจบของพวกเรา

    คงกลับเกาหลีไปทำงานกับพ่อแม่ผมตอบไปตามที่ได้รับข่าวมาว่า พ่อต้องการให้ผมกลับไปช่วยงานที่บ้าน อยากได้ผู้บริหารรุ่นใหม่ไปช่วยกันดูแลธุรกิจของบ้าน

    ทำไมทำหน้าเหมือนไม่อยากกลับอย่างงั้นเล่า?ผมไม่รู้เลยว่าสีหน้าของผมเป็นอย่างไรเขาถึงได้ถามออกมาแบบนี้ แต่ทุกครั้งที่พูดถึงเกาหลีผมก็คิดถึงใครคนนึงขึ้นมาตลอด สองปีแล้วนะ ทำไมผมยังลืมเขาไม่ได้ซักที...

    มีอะไรให้คิดถึงนิดหน่อยน่ะ รีบๆทำได้แล้ว เดี๋ยวไม่จบเว้ยผมบอกปัดๆไป ดีที่เพื่อนเองก็ไม่ได้สงสัยอะไรเราจึงเริ่มทำงานกันต่อให้เสร็จ

    ตั้งแต่เลิกกันไปและผมย้ายมาเรียนที่อเมริกาก็ดูเหมือนผมจะดีขึ้น จากที่เคยเจ้าชู้ก็เลิกไป ห่างไกลจากโลกแห่งแสงสี อยากเป็นคนดีคนที่คู่ควรกับเขา บางทีผมก็แอบคิดว่าถ้าเจอกันอีกครั้งและเขายังไม่มีใคร ผมก็จะกลับไปทำให้เขารักผมคนใหม่ที่จะไม่ทำให้เขาเสียใจอีก

    และในที่สุดวันจบการศึกษาของผมก็มาถึง พ่อกับแม่และเพื่อนสนิทที่อยู่เกาหลีบางคนบินมาแสดงความยินดีกับผมถึงทีนี่เมื่อจบงานผมและพ่อแม่ก็กลับเกาหลีมาพร้อมกัน เมื่อกลับถึงบ้านเกิดที่จากมา พ่อก็ใจดี อนุญาตให้ผมพักผ่อนเดือนหนึ่งแล้วจะได้เริ่มงานกันทันที ผมตัดสินใจมาพักผ่อนที่ทะเลอยากไปสูดกลิ่นสดชื่นผ่อนคลายของทะเลให้คลายเครียดหลังจากที่เรียนหนักมาสองปีเต็ม ผมเลือกไปพักผ่อนที่เกาะเชจู หลังจากพักผ่อนเต็มที่มาสองอาทิตย์เต็มๆ ผมก็ตัดสินใจกลับและคิดว่าจะหาสถานที่พักผ่อนแห่งใหม่ เช้าวันถัดมาก็ไปที่สนามบินเพื่อเดินทางกลับโซล หลังจากเช๊คอินเรียบร้อยและขึ้นมาบนเครื่อง ที่นั่งของผมติดกับใครอีกคนที่ตอนนี้เขานั่งอยู่ติดกับหน้าต่างซึ่งจริงๆแล้วมันเป็นที่ของผม

    ขอโทษนะครับ พอดีนี่มันที่นั่งของผมผมบอกให้อีกคนรู้ตัวอย่างสุภาพ คนที่กำลังเอาแต่หันไปมองข้างนอกหน้าต่างก็หันมาตามเสียงเรียกของผม  ทันทีที่เขาหันมาเหมือนกับโลกหยุดหมุนไป เป็นกีซอบที่นั่งอยู่ตรงที่ของผม เขาไม่เปลี่ยนไปเลยนอกจากสีผมที่ดูเหมือนจะทำให้เป็นสีอ่อนลงจากตอนนั้น ดูเหมือนเขาเองก็ตกใจที่เห็นผม ตากลมโตเบิกกว้าง ปากอิ่มอ้าน้อยๆดูตะลึงมากที่เห็นผม แต่แปปเดียวก็ดูเหมือนเขาจะตั้งสติได้ รีบลุกพรวดพราดจนหัวไปกระแทกกับช่องเก็บสัมภาระด้านบนเข้าอย่างจัง

    ปัง!”

    โอ๊ย!” ผมรีบเข้าไปรับอีกคน มือเรียวกุมหัวเอาไว้ใบหน้าเหยเกแสดงออกว่ามันเจ็บมากขนาดไหน ผมเห็นตากลมมีน้ำตาคลอ สงสัยว่าจะเจ็บมากจริงๆ

    กีซอบเจ็บมากมั้ย?ผมรีบจับมือที่กุมหัวของเขาเอาไว้ออก เพื่อจะดูว่ามีบาดแผลตรงไหนรึเปล่า แต่เขาก็ปัดมือผมออก

    ไม่ครับ ผมไม่เป็นอะไร ขอโทษด้วยที่ผมนั่งที่ของคุณเขาค่อยๆลุกขึ้นก่อนจะเดินผ่านผมออกมาเพื่อให้ผมเข้าไปนั่งในที่นั่งของตัวเอง ผมพูดอะไรไม่ออกเลยเดินเข้าไปนั่งด้านในตามที่เขาต้องการ ท่าทีห่างเหินราวกับคนไม่รู้จักกันมันทำให้ผมอึ้งไป นายไม่ต้องการรู้จักฉันขนาดนี้เลยหรอ คงเจ็บปวดกับฉันมากสินะ... หลังจากที่ผมนั่งลงเรียบร้อย เขาก็ค่อยนั่งลงตาม มือเรียวยังคงกุมที่ศีรษะและถูไปมาบริเวณที่กระแทกโดนเข้ากับช่องเก็บสัมภาระ จากนั้นเราก็นั่งเงียบตั้งแต่เครื่องเริ่มออกบิน ผมเหลือบมองเขาตลอดแต่ก็ไม่กล้าจ้องนาน กีซอบเลือกที่จะไม่สนใจผมด้วยการใส่เฮดโฟนเปิดเพลงฟังและอ่านหนังสือตลอดเวลาจนกระทั่งเครื่องลงจอด

    ขณะที่เรากำลังรอรับกระเป๋าอยู่ กีซอบยืนอยู่ข้างหน้า ผมยืนจ้องด้านหลังของเขาตลอดเวลา ในหัวของผมมันเหมือนกับมีเสียงบอกว่าให้เขาไปคุยกับเขา อยากฟัง อยากได้ยินเสียงแต่ในใจกลับไม่กล้าพอ เลยได้แต่ยืนมองอยู่แบบนี้  ดูท่าเจ้าตัวจะรู้ว่ากำลังถูกจ้องมองอยู่ เลยหันหลังกลับมาดู และเราก็สบสายตากันพอดี เพราะคิดอะไรไม่ทัน จะหลบตาก็ดูจะไม่เนียน ผมเลยส่งยิ้มให้ ปรากฏว่าเขากลับทำหน้าตึงใส่ผมแล้วรีบหันกลับไป  รอยยิ้มสุดจริงใจจากผมก็ต้องเก้อไป..

    แจซอบเอ้ยย เขาคงไม่อยากมองหน้าแกซักเท่าไหร่หรอกนะ ยังจะมีหน้าไปยิ้มให้อีก

    เมื่อได้รับกระเป๋าเดินทางเรียบร้อย กีซอบก็เดินออกจากเกทไปผมมองตามแผ่นหลังบางนั้นเดินจากไป ฟ้าคงมีโอกาสแค่ให้ผมได้เจอแต่คงไม่มีโอกาสได้รักกันอีกแล้ว ...

    หลังจากที่ผมเดินออกจากเกทก็เดินออกมาหารถของที่บ้าน ที่บอกเอาไว้ว่าให้มารับผมที่สนามบิน ไม่รู้ว่าฟ้าเป็นใจหรือจะแกล้งผมกันแน่เมื่อเห็นว่าคนตัวเล็กกว่ากำลังยืนรอรถอยู่ใกล้ๆกับที่นัดของผมพอดี  ผมค่อยๆเดินเข้าไปยืนข้างๆแบบเนียนๆไม่ให้อีกคนสังเกตเห็นจะได้ไม่เดินหนีผมไปยืนที่อื่น แล้วดูเหมือนเขาจะไม่เห็นผมจริงๆเพราะเจ้าตัวกำลังคุยโทรศัพท์อยู่

    ฮัลโหล ถึงแล้วนะฮะ

    ย๊า ผมไม่ใช่เด็กแล้วนะ

    รีบๆมารับนะฮะ

    รักเหมือนกันฮะ

    บทสนทนาของกีซอบทำเอาผมหูผึ่ง มันดูเป็นห่วงเป็นใยและน่ารักเกินกว่าจะเป็นของคนในครอบครัว ยิ่งคำหวานบอกรักในตอนท้ายนั้นยิ่งทำให้ผมจุกเข้าไปอีก ผมตัดสินใจเข้าไปทักร่างโปร่งตรงหน้า เพราะคิดแล้วว่ายังไงเขาก็คงไม่ได้รักผมแล้ว เขาคงจะมีใครคนใหม่ที่จะรักและดูแลเขาได้ดีกว่าผม

    กีซอบ สบายดีมั้ย?พอได้ยินเสียงของผมเขาก็หันมา สีหน้าตอนแรกดูตกใจและก็เปลี่ยนกับมาเป็นปกติ

    อ้าว แจซอบ ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ ฉันก็สบายดี นายล่ะ?

    อื้ม สบายดีนี่ฉันก็เพิ่งกลับจากไปเที่ยวมา

    นายไปเที่ยวคนเดียวหรอ?

    ก็ไม่มีแฟนนี่นา จะให้ไปเที่ยวกับใครล่ะ ฮ่ะๆผมตอบกลับไปและแกล้งหัวเราะ คนตรงหน้าดูจะตกใจที่ผมบอกว่ายังไม่มีแฟน กีซอบอา ฉันเปลี่ยนไปแล้วนะ ฉันไม่ใช่แจซอบคนเลวคนนั้นอีกแล้ว..

    ไม่น่าเชื่อเลยนะ คนอย่างนายเนี่ยเขาพูดด้วยน้ำเสียงที่แข็งขึ้นไม่รู้ว่าจะประชดประชันผมหรืออะไร แต่นั่นก็ทำให้ผมรู้สึกว่าผมกำลังอาจจะทำให้เขากลับไปคิดถึงเรื่องร้ายๆของเราสองคนอีกครั้งก็ได้ ผมไม่อยากให้เขาจดจำมันไว้ แค่นี้ผมก็รู้สึกผิดมาตลอดที่ทำร้ายคนที่รักที่สุด

    ฉันไม่ใช่เพลย์บอยแจซอบคนเดิมแล้วนะ ฉันดีขึ้นเยอะ...

    ดีแล้วล่ะ นายจะได้ไม่ต้องไปให้ใครเสียใจอีกเขายิ้มให้ผม ยิ้มที่เหมือนกับจะให้กำลังใจ นี่ผมคงไม่มีโอกาสครั้งที่สองเลยสิ่นะ อิจฉาคนๆนั้นที่ได้หัวใจของกีซอบไปจริงๆ  เขามัดใจกีซอบได้อยู่หมัด จนเหมือนคนตรงหน้าจะไม่เหลือเศษเสี้ยวในหัวใจไว้ให้ผมเลย

    ฉันดีขึ้นแล้ว แต่ฉันกลับมาช้าไป ฉันมาไม่ทันสินะกีซอบด้วยคำพูดของผมทำให้ตากลมจ้องมาที่ผม แววตาของเขาสั่นไหว

    ฉันขอให้นายมีความสุขนะ อ่า.. รถของฉันมารับแล้ว ไปก่อนนะสายตาของผมเหลือบไปเห็นรถจากที่บ้านพอดี เลยถือโอกาสลาร่างโปร่งตรงหน้า


    ก่อนจะจากกันอีกครั้ง ผมยิ้มให้เขาด้วยรอยยิ้มที่ผมคิดว่า ชาตินี้คงจะไม่มีวันยิ้มให้ใครได้ ยิ้มที่ผมจะเก็บไว้ให้เขาเพียงคนเดียว ...




    ................................


    ฟิคดราม่ามั้ย? อารมณ์ไหนไม่รู้เกิดอยากแต่งดราม่า
    เป็นฟิคลงต้อนรับเอเจของพวกเรากลับมา แต่ไหงทำไมให้เอเจดราม่า 55555555
    หวังว่าจะชอบกันนะ ส่วนตอนนี้กำลังพยายามแต่งสเปเชี่ยลของ you are my obsession อยู่ รอหน่อยน้าา ^^
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×