คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : Part 2 - Love equal Obsession [end]
You are my obsession AJ x Kiseop
“กีซอบ! ทำไมเหม่อแบบนี้ล่ะ?” เสียงใสๆของเควิ่นปลุกให้เพื่อนสนิทที่กำลังจมอยู่กับความคิดของตัวเอง ขึ้นมารับรู้โลกภายนอก
“ห๊ะ? อะไรเควิ่น มีอะไร?” กีซอบที่รู้สึกตัวหลังจากโดนเรียกหันไปตามต้นเสียง แต่ก็เห็นว่าเพื่อนของเขากำลังทำหน้าบึ้งใส่เขาอยู่
“อ่า ทำไมทำหน้าแบบนั้นล่ะ?”
“นี่นายเหม่อทั้งชั่วโมงเลยนะซอบบี้ ดูสิ่เค้าเลิกคลาสกันแล้วเนี่ย” คนตัวบางชี้ให้ดูเพื่อนๆร่วมชั้นเรียนที่เริ่มเก็บของทยอยออกจากห้องเลกเชอร์
“จริงเหรอ ขอโทษที ฉันไม่รู้ตัวเลย” ร่างโปร่งยกสองมือขึ้นมาประกบขอโทษเพื่อนรักที่ยังทำหน้าบึ้งใส่เขาอยู่ ก่อนจะเข้าไปเขย่าแขนง้อคืนดี
“อย่างอนน้า เดี๋ยววันนี้ซอบบี้จะพาเคบิ้นไปกินเค้ก โอเคมั้ย?” งัดของโปรดคนตรงหน้ามาง้อกันขนาดนี้ มีหรือที่จะพลาด
“หายโกรธก็ได้! รีบไปกินเค้กกันได้แล้ว หิวแล้ว!”
“ไม่กินข้าวก่อนหรอ? ”
“ไม่ล่ะ จะเก็บท้องไปกินเค้ก จะสั่งให้นายจนเลยคอยดู” ร่างบางชี้หน้าอย่างคาดโทษ คนข้างๆได้แต่หัวเราะยอมรับการลงโทษแต่โดยดี ทั้งคู่เลยเก็บของออกจากห้องเลกเชอร์ไป
ทั้งสองคนถือได้ว่าเป็นหน้าตาเป็นตาและเป็นที่สนใจของคณะ คนหนึ่งมีใบหน้าน่ารักหวานราวกับผู้หญิงส่วนอีกคนก็มีดวงตากลมโตกับใบหน้าได้รูปที่ดูทั้งหล่อและสวยก็ได้
พวกเขามาถึงร้านในช่วงที่คนค่อนข้างพลุกพล่านเพราะเป็นช่วงเที่ยงที่เหล่านักศึกษาจะมารวมตัวกัน
“คนเต็มเลยอ่ะซอบบี้ จะมีโต๊ะนั่งมั้ยเนี่ย” คนอยากกินเค้กเกิดอาการร้อนใจกลัวจะไม่ได้กิน
“กีซอบ! เควิ่น! ทางนี้ๆ” เสียงคุ้นหูของพี่รหัสเรียกให้ทั้งคู่สนใจ กีซอบเลยดึงมือให้เพื่อนรักเดินไปที่โต๊ะ
“พี่แจฮโย ผมขอนั่งด้วยน้า ผมอยากกินเค้กแต่ไม่มีที่จะให้นั่งเลยอ่ะ” เควิ่นขอความเห็นใจจากรุ่นพี่ตัวสูงซึ่งก็ไม่ได้ปฏิเสธแต่อย่างใด ในเมื่อเขาตั้งใจเรียกให้น้องๆมานั่งด้วยกันอยู่แล้ว
“เอาสิ่ๆ นั่งเลย” มือหนาผายเชิญให้ทั้งคู่นั่งลงนั่นทำให้กีซอบเพิ่งสังเกตเห็นว่ามีใครอีกคนนั่งร่วมโต๊ะอยู่ด้วย แต่ยังไม่ทันได้สงสัย เพื่อนตัวบางก็นั่งลงตรงข้ามกับพี่รหัสของเขาจึงเหลือที่นั่งข้างๆพี่รหัส ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับคนที่เขาไม่เห็นหน้าเพราะเจ้าตัวกำลังก้มหน้าอ่านหนังสือในมืออยู่
“ใครอ่ะฮยอง?” ร่างโปร่งหันไปกระซิบถามพี่ชาย
“อ๋อ เพื่อนฮยองเอง เฮ้ย แจซอบ! ทักทายน้องๆหน่อยดิ่ว่ะ” แจฮโยเรียกให้เพื่อนเงยหน้าขึ้นมาจากหนังสือ ทำให้กีซอบเห็นหน้าอีกคนอย่างชัดเจน ตากลมเบิกกว้างด้วยความตกใจ ร่างสูงหันไปยิ้มให้เควิ่นที่นั่งด้านข้างตัวก่อนจะหันกลับมามองคนตรงหน้า
ตกใจที่เจอกันขนาดนี้เลยหรอครับนางฟ้า หึหึ น่ารักจัง
ตาคมส่งสายตาที่ทำให้คนถูกมองรู้สึกแปลกๆไปให้ ก่อนปากบางจะยกยิ้มเหมือนกับยิ้มที่ส่งให้เควิ่นก่อนหน้านี้ แจฮโยที่มองแอบมองเหตุการณ์อยู่รีบทำหน้าที่พี่รหัสที่ดี(?) ด้วยการชวนเพื่อนของน้องรหัสที่ไม่ได้รวมอยู่ในแผนการไปซื้อเค้ก
“เอ้อ! เควิ่นจะกินเค้กใช่ป่ะ ไปดูเค้กกัน พี่ก็เริ่มหิวล่ะ” แจฮโยเรียกให้อีกคนลุกเดินตามกันไป เควิ่นเลยได้แต่เดินตามไปแบบงงๆแต่ก็ไม่ได้เอะใจอะไร เมื่อเหลือกันแค่สองคนที่โต๊ะแล้ว ร่างโปร่งก็ไม่กล้าจะสบตาตรงๆกับคนตรงหน้า เขาแกล้งทำเป็นมองไปรอบๆร้านราวกับว่าไม่เคยมาที่นี่มาก่อนและกำลังสำรวจโดยรอบ
“ทำไมไม่มองหน้าพี่บ้างล่ะ?” จู่ๆร่างสูงก็พูดขึ้นทำให้อีกคนต้องกลับมาสนใจคนตรงหน้าอย่างเลี่ยงไม่ได้
“เอ่อ... พี่... พี่ชื่อแจซอบหรอครับ?” ร่างโปร่งตัดสินใจถามออกไป แจซอบได้แต่หัวเราะน้อยๆก่อนจะพยักหน้า
“ใช่แล้ว พี่ชื่อแจซอบ เราน่ะชื่อกีซอบสิ่นะ”
“ใช่ฮะ” ไม่รู้ว่าเพราะอากาศร้อนหรือคนตรงหน้ากันแน่ที่ทำให้หน้าของร่างโปร่งแดงอย่างเห็นได้ชัด ในหัวของเขาตอนนี้มีแต่ภาพของเขากับคนตรงหน้ากำลังเต้นด้วยกันอยู่ในผับ ไม่รู้ว่าควรจะคุยกันแบบไหนดีทั้งอายทั้งเขินแบบนี้
“อืมม ไม่เขียนตาแล้วตาก็กลมน่ารักดีเนอะ” ร่างสูงจ้องหน้าอีกคนก่อนจะยกตัวขึ้นจากเก้าอี้แล้วยื่นหน้าเข้าไปใกล้ๆอีกคน
“แต่เขียนตาแล้วเซ็กซี่ดี พี่ชอบ” ทิ้งระเบิดไว้ลูกใหญ่ก่อนจะกลับไปนั่งที่ตามเดิมเป็นจังหวะเดียวกับที่แจฮโยและเควิ่นเดินกลับมาที่โต๊ะพอดีพร้อมกับขนมเค้กและเครื่องดื่มในมือ
“สองคนนี้คุยอะไรกัน ดูดิ่กีซอบหน้าแดงใหญ่เลย พี่แจซอบจีบเพื่อนผมหรอ?” เควิ่นที่เห็นว่าเพื่อนของตัวเองกำลังนั่งหน้าแดงก้มหน้าจนคางแทบจะชิดกับอกก็เลยแซวเข้าให้
“ฮ่าๆ ก็แค่ทักทายนิดหน่อยเอง ตามภาษาคนรู้จักกันน่ะ แจฮโยกูไปก่อนนะ พรุ่งนี้เจอกัน” แจซอบบอกกับรุ่นน้องก่อนจะลุกขึ้นเตรียมตัวกลับ แต่ไม่ลืมที่จะพูดอะไรบ้างอย่างที่ทำให้คนที่ได้ฟังสงสัยยกเว้นกีซอบที่เขานั้นรู้ความหมายดี...
“กีซอบ คืนนี้เจอกันนะ”
.
ตอนนี้เป็นเวลาสามทุ่มแล้วเป็นเวลาที่เขาควรจะนอนหลับได้แล้ว แต่ทำไมถึงได้แต่นอนพลิกไปพลิกมาแบบนี้กันล่ะ
“อืมม ไม่เขียนตาแล้วตาก็กลมน่ารักดีเนอะ”
“แต่เขียนตาแล้วเซ็กซี่ดี พี่ชอบ”
“กีซอบ คืนนี้เจอกันนะ”
ในหัวของเขามีแต่คำพูดของคนๆนั้น ทำให้ร่างโปร่งนอนไม่หลับเสียที
เลิกคิดถึงได้แล้วนะลีกีซอบ! แต่... พี่เขาบอกว่าเจอกันคืนนี้นะ เพราะงั้นเขาต้องรออยู่แน่ๆเลย ทำยังไงดี
คิดแบบนั้นร่างโปร่งก็ลุกขึ้นจากที่นอนและตรงไปยังห้องน้ำ จัดการธุระส่วนตัวอย่างรวดเร็วก่อนจะออกมาแต่งตัวและรีบออกจากห้องไป
“ลีกีซอบเอ้ยยย ทำไมเป็นคนแบบนี้เนี่ย มาจนได้สิ่หน่า” ร่างโปร่งได้แต่บ่นกับตัวเองเมื่อมายืนอยู่หน้าผับ ‘Jouir’ ทั้งๆที่เมื่อคืนก็เพิ่งมาที่นี่
“รักแรกพบงั้นหรอ? ตลกรึเปล่า มันจะมีอยู่จริงๆในโลกนี้รึเปล่าเถอะ” ถึงจะดูว่ากีซอบเป็นคนท่าเริงสดใสและมองโลกในแง่ดี แต่ลึกๆแล้วเรื่องความรักของกีซอบกลับไม่ได้ดูสดใสอย่างที่ควรจะเป็น เขาไม่ค่อยเชื่อมั่นในความรัก ยิ่งความรักแบบ Love at first sight แบบนี้
ความหลงใหลกับความรักมันมีแค่เส้นบางๆกั้นไว้
“นึกว่าจะไม่มาซะแล้ว” เสียงทุ้มดังขึ้นจากทางด้านหลังก่อนจะเห็นว่าแจซอบกำลังนั่งลงที่เก้าอี้ข้างๆเขา เพราะวันนี้กีซอบมาคนเดียวก็เลยมานั่งอยู่บาร์เครื่องดื่ม นั่งอยู่ได้ไม่นานอีกคนก็เดินเข้ามาทักทาย
“ไม่รู้สิ่ฮะ เหมือนรู้สึกว่ามีใครรอผมอยู่ ผมเลยต้องมา” ตามกลมหันไปหาคนข้างกายก่อนจะส่งรอยยิ้มหวานไปให้ นิ้วเรียวเขี่ยวนรอบปากแก้วเครื่องดื่มสีสวยของตัวเอง
“หึ เก่งจังนะ รู้ตัวด้วยว่ามีคนรออยู่”
“พี่รอผมจริงๆหรอ? ทำไมล่ะ”
“เพราะพี่กำลังรอนางฟ้าของพี่ไง ไม่ว่าจะนานแค่ไหนพี่ก็ต้องรอ” ร่างสูงพูดประโยคที่ดูจะทำให้อีกคนแปลกใจไม่รู้ว่านี่มันเป็นประโยคประเภทไหนกันแน่ ตอบคำถามหรือบอกเล่า ?
“นี่พี่พูดอะไรของพี่เนี่ย?”
“พี่ว่าพี่ชอบกีซอบนะ แบบรักแรกพบน่ะ เคยได้ยินมั้ย?” ร่างโปร่งมองอีกคนอย่างไม่แน่ใจ ที่ดูจะพูดอะไรที่ตรงกับใจเกินไป เพิ่งรู้จักชื่อกันไม่ถึงวันแต่คนตรงหน้าก็มาบอกชอบเขาซะแล้ว
“จะใช่หรอฮะ? ไม่ใช่ว่าพี่แค่หลงใหลผมหรอ ถ้าแค่นั้นพอพี่เจอใครใหม่ผมก็แย่สิ่” ร่างสูงดึงมือเรียวเข้าใกล้ๆก่อนจะจุมพิตที่หลังมือขาว
“ถ้างั้นให้พี่ลองพิสูจน์ได้มั้ยครับ?”
มือหนาจับจูงให้อีกคนเดินตามเขาออกจากผับไป ก่อนจะพากันไปที่รถคันหรูของแจซอบ
“เชิญครับ” ประตูรถถูกเปิดออกเชื้อเชิญให้ร่างโปร่งเข้าไปนั่ง มือเรียวกับประตูกรถเอาไว้กันไม่ให้อีกคนปิดประตูก่อนจะถามเจ้าของรถ
“พี่จะพาผมไปไหนกันเนี่ย?”
“เดทแรกไงครับ” พูดจบก็ปิดประตูรถให้เรียบร้อยก่อนจะเข้าไปนั่งประจำที่คนขับและจัดการออกรถ บรรยากาศแสงสียามค่ำคืนของเมืองใหญ่ทอดเงาผ่านกระจกสีดำมืดของรถสปอร์ตคันหรู
“พี่ชอบผมตั้งแต่เห็นผมครั้งแรกจริงๆหรอฮะ?” จู่ๆร่างโปร่งที่นั่งเงียบมาตลอดทางก็ถามขึ้น ใบหน้าสวยหันไปมองหน้าคนขับรถ
“ใช่สิ่ ตั้งแต่ครั้กแรกที่เห็นหน้าเลยล่ะ” ร่างสูงตอบโดยที่ยังไม่ละสายตาจากท้องถนนตรงหน้า จากนั้นก็เอาแต่ยิ้มไม่ยอมบอกอะไรต่อกับอีกคน กีซอบที่รู้สึกไม่เข้าใจแต่ก็ไม่อยากจะซักไซ้อะไรมากเลยหันกลับไปมองข้างทางแทน ล้อรถเคลื่อนมาหยุดที่สวนสาธารณะแห่งหนึ่ง ที่อยู่ไกลจากผับของแจซอบพอสมควร
“ลงมานั่งคุยกันหน่อยดีมั้ย?” เมื่อรถจอดสนิท ร่างสูงจัดการปลดเข็มขัดนิรภัยก่อนจะหันไปถามคนข้างตัว กีซอบที่กำลังไม่เข้าใจความคิดของร่างสูงซักเท่าไหร่แต่ก็พยักหน้าตกลง ทั้งคู่พากันมานั่งที่เก้าอี้ในสวนสาธารณะที่เงียบสงบเพราะตอนนี้เป็นเวลาเที่ยงคืนกว่าๆแล้ว
“ผมจะถามพี่อีกครั้งนะฮะ พี่ชอบผมตั้งแต่แรกเห็นเลยหรอ? ”
“อื้ม”
“แต่เราเพิ่งเจอกันครั้งแรกที่ผับ”
“ไม่ใช่ เราไม่ได้เจอกันครั้งแรกที่ผับ”
“อะไรนะ..” ร่างโปร่งอึ้งไปเมื่อรู้ว่า ครั้งแรกที่เขาสองคนพบกันไม่ใช่ครั้งนั้นที่ผับของแจซอบ
“ครั้งแรกที่เราเจอกัน คือตอนที่นายกำลังเล่นกิจกรรมของคณะอยู่ไง…”
“ตอนนั้นพี่กำลังว่าง เลยไปนั่งดูพวกไอ้แจฮโยมันจัดกิจกรรมให้รุ่นน้องปีหนึ่ง” ร่างสูงเล่าย้อนถึงตอนเปิดเทอมแรกๆที่แต่ละคณะจะจัดกิจกรรมไว้ต้อนรับนักศึกษาใหม่ในแต่ละปี
“จำเกมส์ปิดตาได้มั้ย ที่กีซอบต้องปิดตาตามจับตัวพี่รหัสน่ะ แต่เรากลับ...”
“พอแล้ว! ผมจำได้แล้ว! หลุดเล่าเลยนะ!” พอนึกขึ้นได้มือเรียวก็รีบเอื่อมไปปิดปากของคนกำลังพูดอยู่ แก้มขาวขึ้นริ้วแดงๆด้วยความอายเมื่อคิดถึงวีรกรรมของตัวเอง จะบอกว่าของเขาก็ไม่ถูกเท่าไหร่ ต้องบอกว่าเป็นวีรกรรมของพี่รหัสสุดที่รักแจฮโยต่างหาก
โอย คิดแล้วยิ่งอาย พี่แจซอบคือรุ่นพี่คนนั้นสิ่นะ ทำไมถึงจำไม่ได้นะ สงสัยมัวแต่ก้มหน้าวิ่งหนีเลยไม่ได้มองหน้าพี่เขาแน่
“พี่แจซอบคือรุ่นพี่คนนั้น...” ร่างโปร่งรู้สึกเหมือนกับว่ามีอะไรติดอยู่ที่คอจนต้องกลืนน้ำลาย อีกคนพอเห็นปฎิกิริยาของคนตัวเล็กกว่าก็หัวเราะอย่างห้ามไม่ได้ในความน่ารักของอีกคน
“เด็กโง่เอ้ย... จำพี่ไม่ได้จริงๆหรอ แย่จังเลยนะ” มือหนาขยี้ผมแดงของอีกคนอย่างหมั่นเขี้ยว ร่างโปร่งพยายามหลบหัวจากมือของอีกคน ก่อนจะยู่ปากใส่คนตรงหน้า มือหนาเลื่อนจากกลุ่มผมแดงลงมาสัมผัสที่แก้มขาว ตาคมจ้องลึกเข้าไปในตากลมใส
“ตอนนั้นน่ะ พี่ชอบเรามากเลย พี่มองเห็นเราชัดเจนมากท่ามกลางเด็กปีหนึ่ง เหมือนกับว่ามีออร่าอยู่ในตัว”
“ตาโตๆกับยิ้มหวานๆ มันทำให้พี่ละสายตาไปจากเราไม่ได้เลย...”
“พี่แจซอบ...”
“ให้พี่ได้ดูแล ได้เป็นเจ้าของ รอยยิ้มกับดวงตาคู่นี้ได้มั้ยครับ? ดูแลตลอดไป..” ริมฝีปากทั้งสองค่อยๆประกบกัน แจซอบค่อยๆจูบเม้มริมฝีปากอิ่มของอีกคน เน้นทุกสัมผัสที่เขาต้องการบอกกับคนตรงหน้า ให้มันเป็นแค่จูบที่อบอุ่นไม่มีการล่วงล้ำเข้าไป แต่มันก็ทำให้ร่างโปร่งแทบหลอมละลาย....
ความหลงใหลกับความรักมันมีแค่เส้นบางๆกั้นไว้ แต่ตอนนี้เขาได้ก้าวข้ามเส้นนั้นมาแล้ว ความรักอาจใช้เวลาแค่เพียงชั่ววัน ความรักมันไม่มีนิยามตายตัวสำหรับใคร อยู่ที่ว่าเราจะนิยามมันไว้อย่างไร...
End...
เนื่องจากตอนสุดท้ายมันสั้นไปมาก เลยขอรวบมาตัดจบเป็นสองตอนแทนนะคะ
ใครอยากรู้มั้ยว่าพี่แจซอบกับกีซอบเจอกันได้ยังไง ขอคอมเม้นมาบอกมาให้กำลังใจกันหน่อยน้าาา ขอบคุณที่ติดตามฮับ !
ความคิดเห็น