ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    SWEET CARAMEL - {SF/OS LUBAEK } -

    ลำดับตอนที่ #1 : [OS] Replay

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 723
      1
      5 ก.พ. 57

    PORCELAIN  THEMEs

                TITLE : Replay

                AUTHOR : ตัวตลกปริศนา

                NOTE : ฟิควันเกิด(?)ของนัท ดูเหมือนจะให้ล่วงหน้านานไปหน่อยนะ.. 55555555555555

     

     

     

     

     

                ...

    ..

    .

     

    คนเราทุกคนต่างต้องมีหนังสือบางเล่ม หรือหนังสักเรื่อง ที่ไม่น่าจะเปิดดูกี่ร้อยกี่พันครั้ง ก็ยังไม่เคยนึกเบื่อ ต่อให้รู้เรื่องทุกอย่าง จำได้แม้กระทั่งบทสนทนา แต่มันก็ยังเป็นสิ่งที่ทำให้มีความสุขเสมอ

     

    มันอาจจะไม่ได้ทำให้รู้สึกตื่นเต้น หรือวาบหวาม.. แต่ความอ่อนละมุนที่ซ่านอยู่ในหัวใจกลับมากล้นจนไม่อาจตัดใจได้..

     

    และสิ่งที่น่าเจ็บปวดก็คือ หนังสือเล่มโปรดของเราเล่มนั้น........มันไม่ได้เป็นของเราอีกต่อไปแล้ว ต่อให้อยากกลับไปอ่านมันมากแค่ไหน ก็ได้แต่เฝ้ามองมันอยู่ห่างๆ แม้อยากจะแย่งชิงมาไว้ในมือ แต่ก็ไม่อาจทำได้..

     

     

     

    ยังมีหนึ่งคนคนนี้..ที่รอตรงนี้..ที่เดิม..ไม่เคยเปลี่ยน แม้จะเข้าใจว่าเรื่องของเรานั้นมันจบไป แต่สุดท้ายยังคิดถึงเธอ...

     

     

     

     

     

    .

    .

    .

     

    บยอนแบคฮยอนไม่นึกโกรธใบหน้าตึงๆ กับนัยน์ตาไม่เป็นมิตรของคิมมินซอกที่จ้องเขม็งมาที่ตัวเอง เขาก็แค่ก้มหน้าก้มตาเดินตามหลังพี่ชายไปนั่งที่มุมหนึ่งในห้องอย่างเงียบๆ เท่านั้น สายตาหลายคู่จ้องมาอย่างไม่ปิดบัง น่าแปลกที่แบคฮยอนไม่ได้รู้สึกอะไรกับสายตานับสิบคู่นั้นเลย

     

    ยกเว้น......แต่นัยน์ตาสวยๆ ของคนๆ หนึ่ง...

     

    “แบคฮยอน เอาเหล้าไหม?”

     

    “ไม่ฮะ” คนที่นั่งก้มหน้าก้มตากดมือถืออยู่ข้างๆ โซฟาเอ่ยพลางยิ้มตาหยี ก่อนจะรู้สึกวูบไหวเมื่อเผลอสบตากับใครบางคนที่จ้องมาที่ตัวเอง

     

    “ไปไงมาไงหืม? ถึงมากับไอ้จงอินได้” จื่อเทาว่าพลางเดินอาดๆ มานั่งลงข้างๆ ใบหน้าคมเข้มนั้นผินมองคนตัวเล็กข้างกายก่อนจะเหลือบสายตาไปมองเพื่อนสนิทของตัวเองที่นั่งอยู่อีกฟากของบังกะโล

     

    “ที่บ้านผมไม่มีใครอยู่น่ะฮะ พี่จงอินเลยพามาด้วย” แบคฮยอนว่าพลางขยับตัวหนีจากสายตาที่มองมาอย่างไม่ลดละ ความอึดอัดทำให้รู้สึกอยากพุ่งออกจากบังกะโลกแล้วโบกรถกลับบ้าน

     

    ก็ถ้ารู้นะ..ว่ามีใครบางคนมาด้วย...เขาก็คงไม่มา อุตส่าห์หลบหน้ามาได้ตั้งสองปี อยู่ๆ ก็มาเจอกันแบบไม่คาดฝันซะอย่างนั้น แถมอีกฝ่ายยังมีแฟนใหม่แล้ว...

     

    “มีแฟนหรือยัง?” จื่อเทาเอ่ยเสียงเบา

     

    “เอ่อ..” แบคฮยอนอึกอัก เหลือบตามองคนถามก่อนจะส่ายหน้าเบาๆ แล้วก้มหน้าลงมองตักตัวเอง ก่อนจะตัดสินใจลุกขึ้นยืน “ผมออกไปเดินเล่นที่ทะเลนะฮะ”

     

    สายตาของทุกคนจ้องมาที่เขาเป็นตาเดียว แบคฮยอนเม้มริมฝีปากแน่นก่อนจะก้าวเท้าเร็วๆ ไปที่ประตูแล้วผลุนผลันออกไปโดยไม่สนใจว่าจะมีคนห้ามปรามไหม

     

    ทะเลของปูซานในเดือนกุมภาพันธ์ดูไม่ใช่เวลาที่น่าลงไปเล่นนัก อากาศยังคงหนาวอยู่ แม้จะไม่มากเท่าเดือนที่แล้ว แต่มันก็มากพอที่จะทำให้แบคฮยอนรู้สึกสั่นสะท้าน นัยน์ตาเรียวจ้องมองคลื่นที่ซัดสาดเข้าฝั่งอย่างเหม่อลอย ไอเย็นๆ ทำให้ปลายจมูกโด่งนั้นขึ้นสีแดงจัด

     

    แต่ก็ต้องยอมรับว่าความเย็นจัดนี้ทำให้เขารู้สึกดีมากกว่านัยน์ตาคู่สวยคู่นั้น....

     

    พี่เขา....คงจะสบายดีสินะ..

     

    แบคฮยอนแค่นยิ้มกับตัวเองแล้วก็ถอนหายใจออกมาดังๆ ความรู้สึกบางอย่างบีบรัดในอกแน่น เมื่อนึกถึงว่านัยน์ตาหวานซึ้งที่เขาชอบนั้นจะถูกใช้มองใครบ้าง..จะมีใครได้รับความอบอุ่น ความอ่อนโยนจากผู้ชายคนนั้นบ้าง..

     

    น่าอิจฉา..

     

     

    “ไม่ว่าจะกี่ปี...บยอนแบคฮยอนก็ยังเป็นเด็กขี้อิจฉา..” กลีบปากบางขยับพึมพำ ในขณะใช้เท้าเขี่ยทรายเล่น

     

    รู้ตัวว่าตัวเองไม่ใช่เด็กดีสักเท่าไหร่ ติดจะเป็นคนร้ายกาจด้วยซ้ำ แต่แบคฮยอนก็ต้องยอมรับ ว่าถ้าเป็นเรื่องของคนๆ นั้น... ความร้ายกาจที่มีมันกลับกลายเป็นแค่ฝุ่นผงที่ลอยไปในอากาศ

     

    ไม่ว่าเมื่อไหร่เขาก็แพ้...แพ้เสมอ...แพ้ต่อผู้ชายคนนั้น...

     

     

    “ทำไมไม่เข้าไปข้างใน”

     

    เสียงนุ่มที่คุ้นหูทำให้คนที่กำลังเขี่ยทรายเล่นอยู่นั้นชะงัก แบคฮยอนกลอกตาไปมา หัวใจเต้นระรัวจนแทบหลุดออกมาจากอก ใบหน้าสวยเงยขึ้นมองคนที่ยืนอยู่ข้างหลังตัวเองแค่เพียงเสี้ยวนาทีก่อนจะหลุบตาลงมองพื้นทราย

     

    “พี่ลู่หาน...”

     

    “เข้าไปข้างในเถอะ ข้างนอกมันหนาว” ลู่หานเอ่ยพลางมองหน้าสวยๆ ของคนอายุน้อยกว่าดุๆ

     

    แบคฮยอนส่ายหน้าจนแพรผมสะบัดไปมา “ผมอยากเดินเล่น”

     

    “อย่าดื้อ” คนตัวสูงกว่าเอ่ยเสียงเข้มก่อนจะจับที่ต้นแขนบาง “เข้าไปข้างในกับพี่”

     

    “ผมจะเดินเล่น”

     

    “แบคฮยอน”

     

    “ผมจะเดินเล่น พี่เข้าไปเถอะ เดี๋ยวแฟนพี่จะว่าเอานะ” แบคฮยอนว่าพลางบิดแขนตัวเองออกจากการเกาะกุม

     

    “งั้นเอานี่ไป..” ลู่หานถอดผ้าพันคอของตัวเองออก สาวเท้าเข้าไปใกล้แบคฮยอนที่ยืนนิ่งอยู่แล้วจับผ้ายาวๆ สีเขียวเข้มนั้นพันรอบคอของคนตัวเล็ก “เดี๋ยวจะเป็นหวัด..”

     

    แบคฮยอนเม้มริมฝีปากแน่น นัยน์ตาสั่นระริกเมื่อได้เห็นใบหน้าหล่อเหลาของแฟนเก่าในระยะประชิด ความคิดถึงที่เอ่อท้นเต็มหัวใจทำให้เผลอจ้องใบหน้าหล่อๆ นั้นไม่วางตา.. เผลอขยับตัวเข้าไปใกล้

     

    “พี่สบายดีไหม..”

     

    “อืม” ลู่หานครางตอบเสียงแผ่วเบา เผลอยกมือขึ้นลูบที่แก้มสีเรื่อของคนตัวเล็กเบาๆ “หายไปไหนมา..แบคฮยอน..”

     

    แบคฮยอนเผยอริมฝีปาก..คล้ายกับจะพูดบางอย่างออกมา ทว่าห้วงอารมณ์บางอย่างกลับทำให้กลืนประโยคที่จะพูดลงคอ ตัวเล็กๆ ยืดขึ้น แนบกลีบปากบางของตัวเองกับริมฝีปากของคนตัวสูงกว่าแผ่วเบา

     

     

    ไม่มีคำพูดไหน....ที่จะอธิบายความรู้สึกเขาได้ดีกว่านี้อีกแล้ว....

     

    คิดถึงนะ..คิดถึง...

     

     

    เค้าคิดถึงพี่หาน.......นะ

     

     

     

    ยาวนานเพียงใด ยังไม่เคยลืม

    และรูปเธอยังแขวนวางอยู่ตรงนั้น

    ยังเก็บจักรยาน ที่เราเคยซ้อนมาด้วยกัน

    ก็แม้นานสักเท่าไร

     

    และเบอร์ที่ใช้ก็ยังคงเบอร์เดิม

    ทุกอย่างยังเหมือนไม่มีอะไร หายไป

    ยังคงเฝ้ารอ ในวันที่เราต่างไม่มีใคร

     

     

     

    .

    .

    .

     

    หากจะมีสิ่งไหนในโลกที่เข้าใจยาก แบคฮยอนคงตอบได้ว่ามันคือความรัก ความรู้สึกที่เป็นบ่อเกิดทั้งความมหัศจรรย์ และโศกนาฏกรรม..

     

    นิยามของความรักมีเป็นล้านนิยาม.. แต่สำหรับแบคฮยอน ความรักของเขาเหมือนการปลูกดอกไม้.. ไม่จำเป็นว่าเขาจะต้องเด็ดมันมาเสียบไว้ในแจกันแล้วครอบครองไว้แต่เพียงผู้เดียว แค่ได้เฝ้าดูแลอยู่ห่างๆ ได้เห็นดอกไม้ดอกนั้นเบ่งบานอยู่บนพื้นดิน.. แม้จะไม่ได้ครอบครอง แต่มันก็ทำให้มีความสุขมากแล้ว..

     

     

    เสียงร้องเพลงดังลั่นไม่ได้ทำให้แบคฮยอนรู้สึกอยากจะเข้าไปร่วมด้วย แม้ตามปกติเขาจะไม่ใช่คนที่จะมานั่งอยู่เงียบๆ คนเดียวแบบนี้ แต่ท่าทางไม่เป็นมิตรของคนตัวเล็กที่นั่งอยู่ข้างๆ อดีตแฟนของเขากลับทำให้แบคฮยอนไม่อาจพาตัวเองไปสู้หน้าได้

     

    สุดท้ายก็ลงเอยด้วยการมานั่งพิงโซฟาอยู่ที่มุมห้องแล้วขยับขาตามเสียงเพลงเบาๆ เหล่ไปมองลูกพี่ลูกน้องอย่างคิมจงอินที่กำลังดวดเหล้าอย่างเมามันส์แล้วก็ได้แต่คว่ำปากใส่ พาเขามาเองแท้ๆ แต่กลับไม่เข้ามาดูแลเลย

     

    ไอโฟนสีขาวที่อยู่ในมือดูจะเป็นเพื่อนแก้เครียดหนึ่งเดียวที่แบคฮยอนมี ทว่ามันก็ไม่ได้ทำให้เขารู้สึกดีมากมายนัก ก็ถ้ารู้นะ.. ว่าต้องมาเจออะไรแบบนี้ เขายอมนอนกลัวผีอยู่ที่บ้านคนเดียว..

     

    “บ้าชะมัด” พึมพำเสียงเบาก่อนจะเลื่อนนิ้วสไลด์หน้าจอตัวเองไปมาแล้วยัดมันกลับลงกระเป๋า นิ้วเรียวยาวลูบที่ริมฝีปากของตัวเองแผ่วเบาก่อนจะเหม่อมองไปที่หน้าต่างที่เปิดกว้างอยู่

     

     

     

    บยอนแบคฮยอนก็แค่เด็กนิสัยไม่ดี...ที่ไม่รู้จักถนอมสิ่งมีค่าในมือ..

     

    และเมื่อมันหลุดลอยไปแล้ว...ก็ได้แต่เฝ้ามอง...โดยที่ไม่กล้าแม้แต่จะแย่งมา..

     

     

     

    เค้าทำถูกแล้วใช่ไหม.........

     

     

     

     

     

    ก็เผื่อว่าเธอจะเหงาเหมือนกันกับฉัน

    ก็เผื่อว่าดาวดวงนั้นพาใจ เธอล่องลอยมาพบกัน

    ในค่ำคืนที่มันเดียวดาย อยู่ตรงนี้

    ถ้าหากว่าเธอจะเหงาตรงกันสักครั้ง

    ยังมีหนึ่งคนคนนี้ที่รอตรงนี้ที่เดิม ไม่เคยเปลี่ยน

    แม้จะเข้าใจ ว่าเรื่องของเรานั้นมันจบไป

     

    แต่สุดท้าย..........ยังคิดถึงเธอ  

     

     

     

     

     

    .

    .

    .

     

    สองร่างที่ตระกองกอดกันอยู่ทำให้แบคฮยอนแอบเบ้ปาก ความรู้สึกบางอย่างมันทำให้อยากลุกขึ้นไปจับแยก ทว่าความผิดชอบชั่วดีที่มีอยู่ลึกๆ ก็ทำให้ได้แต่นั่งบ่นพึมพำเสียงแผ่วเบา แต่เมื่อทั้งลู่หานและคิมมินซอกเริ่มทำอะไรที่มากกว่าการกอด...แบคฮยอนก็ผุดลุกขึ้นแล้วก้าวเท้าเร็วๆ ออกจากบังกะโลโดยไม่สนใจสายตาของใครๆ ทั้งสิ้น

     

    “บ้าชะมัด!” สบถออกมาเสียงไม่เบานักก่อนจะเสยผมตัวเองอย่างหงุดหงิด นัยน์ตาเรียวมองค้อนต้นไม้ใหญ่ที่หน้าบังกะโลอย่างพาลๆ ก่อนจะไปนั่งขัดสมาธิที่ชิงช้า

     

    รู้หรอกนะว่าไม่มีสิทธิ์ไปหึงหรือหวง แต่แล้วทำไมละ? ขอแค่สิทธิ์หงุดหงิดน่ะได้ไหม? ไม่ได้เข้าไปเหวี่ยง หรือวีนนี่ แค่แอบมานั่งหงุดหงิดเองคนเดียวเงียบๆไม่ได้ผิดอะไรตรงไหนนี่! ใช่ไหม?!

     

    คนอื่นก็อยู่กันตั้งเยอะแยะ ยังจะกอดรัดกันฟันซะขนาดนั้น แล้วยังหน้าด้านจูบกันอีก....ชอบนักใช่ไหม จูบของคิมมินซอกน่ะ... ชอบมากกว่าจูบของเขาหรือเปล่า..

     

    แบคฮยอนเบิกตาโพลงมองฟากฟ้าสีเข้มที่ไร้ซึ่งดวงดาว รู้สึกเจ็บหน่วงๆ ในใจก่อนจะตัดสินใจลุกขึ้นเดินกลับเข้าไปในบังกะโล ไม่รู้จะหนีหน้าไปทำไมนะ.. เขาก็แค่จูบกัน..

     

    ร่างโปร่งบางของแบคฮยอนเดินไปนั่งข้างๆ กับโดคยองซูเพื่อนสนิทของพี่ชายอย่างคิมจงอิน ใบหน้าสวยที่บูดบึ้งทำให้คยองซูยิ้มขำก่อนจะเลื่อนแก้ววอดก้าแก้วเล็กๆ ไปให้แบคฮยอนอย่างรู้งาน

     

    “ย้อมใจ”

     

    แบคฮยอนหัวเราะก่อนจะดื่มเหล้าสีขาวใสจนหมดแก้ว ความร้อนผ่าวที่ลำคอทำให้อารมณ์ที่ขุ่นมัวรู้สึกดีขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก แบคฮยอนไม่ได้สนใจจะมองว่าลู่หานกับคนรักทำอะไรยังไงกันต่อ สิ่งที่สนใจตอนนี้มีเพียงน้ำสีใสตรงหน้า..

     

    เอาให้เมา...เมาให้ตายไปข้างเลย!!!

     

     

    แบคฮยอนเลิกกับลู่หานมาแล้วสองปี มันเป็นระยะเวลาที่ค่อนข้างนานจนไม่น่าแปลกใจหากจะมีใครไปมีแฟนใหม่ ทว่าระยะเวลาสองปีนั้น..กลับไม่ได้ทำให้ความรู้สึกของแบคฮยอนที่มีต่อลู่หานลดลง.. แม้คนที่บอกเลิกจะเป็นตัวเองก็ตาม..

     

    เขายังเด็กอยู่มาก..ตอนตัดสินใจบอกเลิก มันก็ไม่รู้จะอธิบายยังไงนะว่าทำไมถึงบอกเลิก มันอาจจะแค่ความบ้าบอของเด็กอายุสิบเจ็ด หรือเพราะจุดอิ่มตัวของความรัก

     

    แบคฮยอนชอบความน่าตื่นเต้น แต่เมื่อคบกับลู่หานไปได้นานเข้า...ทุกอย่างก็เรียบง่าย กราฟเป็นเส้นตรงจนทำให้รู้สึกเบื่อหน่าย... แบคฮยอนจึงตัดสินใจบอกเลิก เพื่อค้นหาความหวือหวา..

     

    แต่นั่นแหละ.. ไม่ว่าจะเจอความตื่นเต้น หรือหวือหวารูปแบบไหนก็ตาม คนเดียวที่แบคฮยอนคิดถึงเสมอก็คือลู่หาน.. เขาอยากจะกลับมาขอคืนดีแทบตาย แต่ก็ไม่กล้า.. จนได้มาเจอจังๆ ว่าอีกฝ่ายมีแฟนใหม่แล้ว..

     

    ก็คงได้แต่สมน้ำหน้าตัวเอง

     

    การได้มาซึ่งความรักน่ะมันไม่ง่าย ทว่าการรักษาความรักนั้นมันกลับยากกว่า..

     

    บอกแล้ว...บยอนแบคฮยอนก็แค่เด็กนิสัยไม่คนหนึ่ง...

     

     

     

    เวลาตีสองกว่าแล้ว.. สภาพของเด็กหนุ่มอายุยี่สิบต้นๆ หลายคนเริ่มเมามายจนคุมสติเอาไว้ไม่อยู่ นัยน์ตาหวานเยิ้มของเด็กหนุ่มคนหนึ่งที่กำลังนอนหนุนขาพี่ชายของตัวเองนั้นเหลือบมองที่ร่างสูงๆ ของคนๆ หนึ่ง และเมื่อเห็นใครคนนั้นเดินหายเข้าไปที่ห้องหนึ่งในบังกะโล แบคฮยอนก็ค่อยๆ ลุกขึ้นยืนแล้วเดินตามเข้าไปโดยไม่มีใครสังเกตเห็น

     

    แบคฮยอนเดินโงนเงนในความมืด เงาลางๆ ของคนที่กำลังก้มๆ เงยๆ อยู่แถวๆ เตียงนั้นทำให้สองแขนเล็กๆ อ้าออกแล้วกอดรัดรอบลำตัวของลู่หานเอาไว้เต็มอ้อมแขน

     

    “พี่หาน..........” น้ำเสียงหงุงหงิงเอ่ยขึ้นแผ่วเบา พร้อมกับที่ใบหน้าสวยฝังอยู่ที่แผ่นหลังกว้าง “เค้าคิดถึงพี่....”

     

    “แบคฮยอน..”

     

    “คิดถึง..คิดถึงจัง..” แบคฮยอนโถมตัวเข้าใส่จนลู่หานเซลงไปนอนแผ่บนเตียงโดยมีร่างเล็กๆ ที่กำลังเมามายนอนอยู่บนตัว “คิดถึง..เค้าคิดถึง..พี่..นะ”

     

    ใบหน้าสวยของแบคฮยอนฝังอยู่ที่แผ่นอกกำยำของลู่หาน ปลายจมูกเล็กๆ ถูไถกับสาบเสื้อเชิ้ตที่อีกฝ่ายใส่แล้วช้อนตาขึ้นมอง “พี่ไม่คิดถึงเค้าบ้างเหรอ...”

     

    ลู่หานยิ้มขำเมื่อเห็นท่าทางราวกับลูกแมวเชื่องๆ โดยไม่ได้ตอบอะไรออกไป จนคนเมาเบ้ปากอย่างขัดอกขัดใจ แบคฮยอนตีไหล่ของคนอายุมากกว่าแรงๆ แล้วโถมตัวกอดแน่น

     

    “ไม่คิดถึงกันแล้วละสิ ใช่สิ พี่หานมีแฟนใหม่แล้วนี่ ไม่รักเค้าแล้ว....”

     

    “...”

     

    “ใจร้าย..คนใจร้าย” เอ่ยตัดพ้อเสียงสั่นเครือ นัยน์ตาเรียวสวยมองค้อนคนตัวโตกว่า ก่อนจะสูดจมูกเสียงดัง รู้สึกอยากจะร้องไห้ แต่ความอุ่นซ่านที่สัมผัสได้กลับทำให้แบคฮยอนซุกตัวกับแผ่นอกของลู่หานนิ่ง

     

    ไม่อยากยกอ้อมกอดอุ่นๆ นี้ให้ใครแล้ว... ไม่อยากให้พี่หานไปกอดคนอื่นอีกแล้ว...

     

    ลู่หานไม่ตอบอะไรออกไป ทำแค่เพียงโอบรอบเอวบางเอาไว้หลวมๆ ปล่อยให้แบคฮยอนซุกหาไออุ่นจากตัวเองโดยไม่ได้ขัดขืน

     

    “หายไปไหนมา” เสียงนุ่มเอ่ยถามแผ่วเบา

     

    “ไม่ได้หาย..”

     

    “แล้วทำไมไม่มาหา”

     

    แบคฮยอนเม้มริมฝีปากแน่น นิ้วเรียวยาวเขี่ยแผงอกอีกฝ่ายเล่นเมื่อไม่รู้จะตอบอะไรออกไปดี นัยน์ตาเรียวลอบมองปลายคางของคนที่กอดตัวเองอยู่ก่อนจะหลุบตามองลงเสื้อสีเทา

     

    “ว่าไง? ตอบสิ”

     

    “ก็......” เสียงหวานอึกอัก ก่อนจะค่อยๆ ขยับริมฝีปากตอบ “ไม่กล้า...เค้ากลัวพี่จะไล่เค้านี่นา..”

     

    ลู่หานถอนหายใจออกมาเสียงดังเมื่อได้ยินคำตอบนั้น อย่าบอกว่าที่หลบหน้าหลบตาเขาอยู่ตั้งสองปีนี่เพราะกลัวเขาไล่? ให้ตายเถอะ.. เด็กบ้านี่

     

    “งี่เง่า”

     

    แบคฮยอนเบ้ปาก เงยหน้าขึ้นมองคนที่อัดคำว่างี่เง่าใส่เต็มๆ ที่หน้าตัวเองแล้วก็ก้มลงกัดที่ลาดไหล่หนาแรงๆ อย่างหมั่นไส้

     

    “โอ๊ย..นี่..”

     

    “ถึงเค้าจะงี่เง่าแต่ตลอดสองปีที่ผ่านมาเค้าก็ไม่เคยมีใครเลยนะ! เค้ารักแต่พี่ แต่ให้เค้าทำยังไงละ เค้าไม่กล้ากลับมาขอคืนดีนี่ แล้วพี่ก็มีแฟนแล้ว... พี่จะทำให้เค้าทำยังไงละ...” แบคฮยอนเม้มริมฝีปากแน่น นัยน์ตาสีนิลสั่นระริกด้วยคลื่นอารมณ์ที่ก่อตัวขึ้น ขอบตาร้อนผ่าว เมื่อนึกถึงภาพที่ลู่หานกอดคนตัวเล็กอย่างคิมมินซอก..

     

    มันทั้งหึง..ทั้งหวง.. แต่ก็ทำอะไรไม่ได้อยู่ดี..

     

    “รักแล้วบอกเลิกทำไม?”

     

    แบคฮยอนเม้มริมฝีปากแน่น สูดจมูกเสียงดังก่อนจะส่ายหน้ารัวๆ “ไม่รู้ เพราะเค้างี่เง่ามั้ง”

     

    “ลูกหมาเอ๊ย..”

     

    ใบหน้าหวานงอง้ำก่อนจะแนบแก้มตัวเองลงกับอกกว้าง “เค้าจะไม่แย่งพี่กลับคืนมาหรอกนะ แต่ถ้าพี่เลิกกับพี่มินซอกเมื่อไหร่.. เค้าจะไม่ยอมปล่อยให้พี่ไปหาใครอีกแน่ๆ”

     

    ลู่หานกระตุกยิ้มมุมปากก่อนจะพลิกตัวขึ้นคร่อม ใบหน้าหวานที่เห็นในความมืดสลัวแต่กลับกระจ่างชัดในความรู้สึกทำให้เขากดจูบที่พวงแก้มใสแรงๆ ไล่จูบไปเรื่อยจนถึงหน้าผาก ลงมาปลายจมูก แล้วกดย้ำๆ ที่กลีบปากบาง

     

    “อื้ออ..”

     

    “ทำไมไม่แย่งละหืม..” เสียงนุ่มเอ่ยชิดกลีบปากบาง ยังไม่ทันที่แบคฮยอนจะได้ตอบอะไร ลู่หานก็ขยับริมฝีปากลงไปแนบชิด ความอ่อนนุ่มทำให้ต้องค่อยๆ บดขยี้ลงไปอย่างเชื่องช้า ค่อยๆ ตักตวงความหวานล้ำจากริมฝีปากบาง

     

    “อื้ออ”

     

    ความหวานซ่านที่ปลายลิ้นจนไม่อาจหักใจผละออกมาได้ แต่อาการขืนตัวน้อยๆ ของแบคฮยอนก็ทำให้คนตัวสูงยอมถอนจูบออกมา ปลายจมูกโด่งนั้นไล้ไปตามแนวริมฝีปากที่บวมแดง ก่อนจะกดจูบแผ่วเบาลงไปอีกครั้ง

     

    แบคฮยอนช้อนตาขึ้นมองคนที่อยู่เหนือร่างของตัวเอง สบสายตากับนัยน์ตาหวานที่มองมาอยู่ก่อนแล้ว ก่อนจะค่อยๆ ยกมือขึ้นแตะที่สันกรามของอีกฝ่ายเบาๆ

     

    “เค้าจะรออยู่ที่เดิมนะ...วันไหนสักวัน..ถ้าพี่เดินกลับมาหาเค้าได้.....กลับมานะ...เค้าจะรอ..”

     

     

     

    ทุกอย่างยังเหมือนไม่มีอะไร หายไป

    ยังคงเฝ้ารอ ในวันที่เราต่างไม่มีใคร

     

    ก็เผื่อว่าเธอจะเหงาเหมือนกันกับฉัน

    ก็เผื่อว่าดาวดวงนั้นพาใจ เธอล่องลอยมาพบกัน

    ในค่ำคืนที่มันเดียวดาย อยู่ตรงนี้

    ถ้าหากว่าเธอจะเหงาตรงกันสักครั้ง

    ยังมีหนึ่งคนคนนี้ที่รอตรงนี้ที่เดิม ไม่เคยเปลี่ยน

     

    แม้จะเข้าใจ ว่าเรื่องของเรานั้นมันจบไป

    แต่สุดท้ายยังคิดถึงเธอ

     

     

     

     

    .

    .

    .

     

    แบคฮยอนขยับตัวขยุกขยิกอย่างอึดอัด ก่อนจะหรี่ตาขึ้นมองคนที่กำลังก่อกวนการนอนหลับอันแสนหวานในช่วงเช้า ใบหน้าหวานงอง้ำใส่คนคนที่กำลังนอนพิงหัวเตียงอยู่

     

    “เค้าจะนอน พี่อย่ามากวนเค้าได้ไหม? ฮื้อออออ” แบคฮยอนเบ้ปากเมื่อโดนบีบจมูก ขึงตามองคนตัวโตกว่าก่อนจะไล่งับมือหนา

     

    “หมาน้อย หึหึ” เสียงนุ่มเอ่ยเบาๆ ก่อนจะก้มลงไปฟัดพวงแก้มขาวแรงๆ

     

    “งื้ออออ..” แบคฮยอนครางออกมาอย่างรำคาญก่อนจะซุกใบหน้าลงกับแผ่นอกของคนรักแล้วโอบแขนรอบเอวหนา “พี่อย่าแกล้งเค้านะ เมื่อคืนเค้าก็ยอมทั้งคืนแล้วไง นิสัยไม่ดีอ่ะ!

     

    “ก็ยอมมาทั้งคืนแล้ว ยอมตอนเช้าด้วยจะเป็นไรไป?”

     

    แบคฮยอนหน้าแดง ฟาดมือลงที่ไหล่ของคนลามกแรงๆ อย่างหมั่นไส้ “คนบ้า!! ไอ้พี่หานบ้า!!!

     

    “หน้าแดงใหญ่แล้วนะ” ลู่หานหัวเราะเสียงต่ำๆ ก่อนจะจิ้มที่แก้มแดงๆ ของแฟนตัวเองเล่น แต่ยิ่งเมื่อสัมผัสแก้มขาวๆ ก็ยิ่งขึ้นสีจัดอย่างน่ารักจนอดที่จะก้มลงไปจูบที่แก้มแดงๆ นั้นไม่ได้

     

    “งื้ออ.. คนบ้า”

     

    “ลุกเร็วๆ วันนี้มีเรียนเช้านะ”

     

    แบคฮยอนทำไม่รู้ไม่ชี้ นอนซุกอกกว้างแล้วเขี่ยนิ้วเล่นบนแผ่นอกนั้นอย่างไม่สนใจ กลิ่นหอมอ่อนๆ ของลู่หานกับความอุ่นซ่านมันทำให้รู้สึกดีจนอยากจะกอดเอาไว้แน่นๆ ก็ไม่อยากปล่อยอะ เรื่องเรียนเอาไว้ทีหลังได้ไหม?

     

    “แบคฮยอน”

     

    คนโดนดุทำปากยื่นก่อนจะปล่อยแขนที่กอดเอวหนาเอาไว้ออกแล้วลุกขึ้นมานั่งบนเตียง “รู้แล้ว จะไปอาบน้ำเดี๋ยวนี้แหละ”

     

    ลู่หานหัวเราะในลำคอก่อนจะยื่นหน้าไปจูบที่ปากนิ่มเบาๆ นัยน์ตาพราวระยับจ้องมองที่แก้มแดงๆ ของคนรักแล้วดึงมานอนซุกที่อกตัวเอง

     

    “กอดทำไม ปล่อยเลย เค้าจะไปอาบน้ำ เค้าจะไปมหาลัย” แบคฮยอนบ่นงึมงำก่อนจะครางอือออกมาเมื่อคนตัวโตกว่ากดปลายจมูกลงที่แก้มแรงๆ ไรหนวดที่เสียดสีกับผิวนิ่มๆ มันทำให้รู้สึกขนลุกอย่างบอกไม่ถูก

     

    “งือ ปล่อยนะ! แล้วก็ลุกขึ้นมาเร็วๆ เค้าจะโกนหนวดให้!” คำสั่งดังลั่นออกมาอย่างที่ลู่หานได้แต่ถอนหายใจเซ็งๆ เพราะรู้ว่าคงปฏิเสธไม่ได้

     

    กะว่าจะจับหมาน้อยมาฟัดให้หายหมั่นเขี้ยวซะหน่อย..

     

     

     

     

    แบคฮยอนเบ้ปากเซ็งๆ เมื่อโดนจับให้มานั่งตรงซิงค์ในห้องน้ำ โดยมีคนตัวสูงกว่ายืนแทรกอยู่ตรงหว่างขา มือเรียวตีที่ต้นแขนล่ำแรงๆ เมื่อโดนมองด้วยสายตาพราวระยับแบบแปลกๆ

     

    “ยืนนิ่งๆ นะ ถ้าโดนมีดบาดนี่จะสมน้ำหน้าจริงๆ”

     

    “ครับผม” ว่าพลางแกล้งยื่นหน้าเข้าไปใกล้ๆ จนแบคฮยอนต้องจิกตามองอย่างหงุดหงิด

     

    “พี่นี่มัน.. ฮึ่ย! อยู่นิ่งๆ เลย” ว่าพลางมองค้อนแล้วค่อยๆ โกนหนวดออกให้แผ่วเบา กลัวว่าคมมีดมันจะบาดที่หน้าหล่อๆ ของแฟน ก็เลยต้องตั้งใจโกนหน่อย แต่ถ้ายังซนอยู่ละก็นะ.. จะเอาให้ได้แผลเลยคอยดูสิ!

     

    ยังไม่ทันไร แบคฮยอนก็ต้องถลึงตามองคนรักอย่างตกใจเมื่อฝ่ามือร้อนๆ แตะที่บั้นเอวของตัวเอง แถมยังบีบคลึงเล่นไปมา แบคฮยอนเม้มริมฝีปากแน่นก่อนจะตีที่ต้นแขนล่ำแรงๆ แล้วตั้งหน้าตั้งตาโกนหนวดต่อ พยายามไม่สนใจฝ่ามือร้อนที่เริ่มซุกซน กระทั่ง..

     

    “งือ ไอ้พี่หาน! หยุดนะ!” แบคฮยอนรีบตะครุบมือที่เลิกชายเสื้อของตัวเองขึ้น ก่อนจะถลึงตามองคนรักด้วยแก้มที่แดงเห่อ “อะ..อื้อออออ”

     

     

     

     

    หยุด? หยุดอะไรละ?

     

    หยุดโกนหนวดแล้วไปต่อที่เตียงน่ะเหรอ?

     

     

    หึหึ

     

    เดี๋ยวจัดให้!

     

     

     

     

     

     

    FIN

     










    ----------------------------------------------------------------------------


    มันก็ไม่มีอะไรมากนะ... นอกจากมิ้งๆ(เรอะ?) 55555555555555555555
    เอาเป็นว่า... ถ้ามันไม่ดีก็อย่าว่ากัน อ่านเพลินๆ เนอะะะ

    ส่วนเรื่องพี่หานกับมินซอก....ก็จิ้นเอาเองแล้วกันค่ะ ว่ามันจบยังไง พี่หานปล่อยให้น้องแบครอนานรึเปล่า
    เกรงว่าถ้ากล่าวถึงมันจะเยิ่นเย้อเกินควร (โอเอสที่ดีนี่จะยาวไม่ได้.. 55555555)

    เจอกันเรื่องหน้า...(ถ้ามีน่ะนะ)

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×