คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : หมีอืด บทที่ 3
Paper’s Secret
T hree
โดคยองซูไม่เคยพร้อมจะเผชิญหน้ากับบยอนแบคฮยอนเลยสักวัน(ยกเว้นวันที่พร้อมเอาต้นฉบับปาใส่หน้าคุณบรรณาธิการปีศาจนะ) มันเหมือนเป็นอะไรที่ทำจนชินไปซะแล้ว กับการไม่ยอมให้คุณบรรณาธิการปีศาจนั่นเข้าห้องมาได้ง่ายๆ (รังของหมีห้ามปีศาจเข้า)
จริงๆ คยองซูก็ไม่ค่อยเข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าจะหนีไปทำไม ในเมื่อเขาไม่เคยรอดพ้นจากเงื้อมมือของอีกฝ่ายไปได้เลย ต่อให้เขาไม่เปิดประตูให้ แบคฮยอนก็จะสรรหาสารพัดวิธีที่จะเข้ามาในห้องของเขาจนได้ (ซึ่งบางครั้งเขาก็ยอมใจอ่อนให้อีกฝ่ายเข้ามาได้ง่ายๆ เอง)
สามปีที่ผ่านมา ไม่เคยมีวันไหนเลยที่บยอนแบคฮยอนทำพลาด
ใช่!! ตลอดสามปีที่ผ่านมา โดคยองซูเป็นฝ่ายพ่ายแพ้มาโดยตลอด
-3-
ฟังดูแย่มากใช่ไหม? เขาก็อยากจะชนะบยอนแบคฮยอนบ้าง แต่จนแล้วจนรอด คุณบรรณาธิการปีศาจคนนั้นก็ไม่เคยเพลี่ยงพล้ำเลยสักครั้ง!
แต่มันต้องไม่ใช่วันนี้แน่นอน! (นึกภาพหมีประกาศกร้าวตาม จะได้ฟีลลิ่งมาก)
โดคยองซูยกยิ้มมุมปากกับความตั้งใจของตัวเอง เมินเสียงเคาะประตูที่ดังมาได้สักพัก ก่อนจะดึงเอาหูฟังมาใส่แล้วเปิดเพลงโปรดของตัวเองจากไอพอด ตัวเล็กๆ ยกขาขึ้นมาขัดสมาธิพลางคว้าเอาหมอนอิงใบโตขึ้นมาวางบนตัก ริมฝีปากรูปหัวใจขยับพึมพำตามเสียงเพลงที่ฟังอยู่เบาๆ ในขณะที่มือเริ่มแกะห่อขนมปังลูกเกดช้าๆ อย่างไม่เร่งรีบ
คยองซูเหล่ตามองโทรศัพท์ที่สั่นน้อยๆ ของตัวเอง ก่อนจะเอาลิ้นดันกระพุ้งแก้มแล้วคว่ำหน้าจอโทรศัพท์ลง ริมฝีปากคลี่เป็นรอยยิ้มแสนสะใจก่อนจะหันไปฮัมเพลงงุ้งงิ้งอย่างอารมณ์ดี พลางกัดขนมปังเนื้อนุ่มเข้าปากคำโต
โทรได้ก็โทรไปเลยนะบยอนแบคฮยอน! มีแรงเคาะประตูก็เคาะไปเลย ตามสบาย!
คยองซูฟังเพลงมามากกว่าสิบเพลงแล้วตอนนี้.. แต่สถานการณ์ก็ยังไม่ปลอดภัยอยู่ดี..
ศีรษะเล็กขยับไปมาตามจังหวะเพลงที่เปิดอยู่ ขยับมือไปกดเพิ่มเสียงเพลงให้ดังขึ้นเมื่อแว่วเสียงทุบประตูปังๆ จากหน้าห้อง พลางยัดขนมปังที่เหลืออยู่เข้าปากจนแก้มพองออกเป็นก้อนกลมๆ
คยองซูเคี้ยวขนมปังในปากหยับๆ พลางเหลือบตาไปมองประตูน้อยๆ ก่อนจะหยิบไอโฟนที่สั่นอยู่ขึ้นมาดู แล้วก็ต้องถอนหายใจเบาๆ เมื่อเห็นว่าหน้าจอยังแสดงสายเรียกเข้าเป็นชื่อเดิมอยู่..
ปีศาจแมลงสาบพันปี Calling
ทำไมบยอนแบคฮยอนถึงได้เป็นคนมีความอดทนสูงกว่ามนุษย์ทั่วไปแบบนี้เนี่ย!? นี่มันครึ่งชั่วโมงแล้วนะ ครึ่งชั่วโมงแล้ว!! เลิกโทรหา เลิกเคาะประตู แล้วกลับไปนั่งกินกาแฟที่สำนักพิมพ์โน่นไป!
บ้าจริงๆ เลย งานการอย่างอื่นไม่มีทำหรือไง ถึงได้ถ่อมากวนชาวบ้านชาวช่องเขาได้ทุกวี่ทุกวัน ชิ!
คยองซูกลืนขนมปังในปากลงคอ ยกนมร้อนขึ้นจิบ ก่อนจะเหวี่ยงสายตาไปมองบานประตูแล้วถอดหูฟังออกอย่างงุ่นง่านใจ เสียงเคาะประตูยังคงดังอยู่อย่างเป็นจังหวะเช่นเดิม ซึ่งตั้งแต่ที่มันเริ่มดังขึ้นนั้น เวลาก็ผ่านมากว่าครึ่งชั่วโมงแล้ว..
นี่เขาไม่ได้เป็นห่วงเลยนะ! แต่คิดดูสิ มือคนต้องมาเคาะประตูไม้แข็งๆ อยู่เป็นครึ่งชั่วโมง มันจะเจ็บ จะแดง ขนาดไหน?!
นี่บยอนแบคฮยอนห่วงแค่เงินโบนัสหรือไง ทำไมไม่รู้จักห่วงตัวเองบ้าง!
ย้ำอีกทีนะ นี่เขาไม่ได้เป็นห่วงคุณปีศาจพันปีนั่นเลยนะ เขาไม่ได้เป็นห่วงเลยจริงๆ นะ!
“ย๊า! บยอนแบคฮยอน!” คยองซูหน้างอง้ำขณะที่ถลึงตามองบานประตูอย่างหงุดหงิด “เคาะให้ตายไปเลย ฉันไม่ห่วงนายหรอก จะมือแดง มือเจ็บขนาดไหนก็ช่างนาย”
มือเล็กยกนมร้อนขึ้นมาจิบขณะที่ตาโตยังจดๆ จ้องๆ อยู่ที่บานประตู จนในที่สุดคยองซูก็กระแทกแก้วเปล่าลงกับโต๊ะตัวเตี้ยอย่างหัวเสีย หงุดหงิดตัวเองที่เอาแต่นึกถึงมือเรียวของใครบางคนที่มันจะขึ้นสีแดงช้ำ นึกอยากจะเอาหัวโหม่งกับโซฟานุ่มๆ สักสามที ทำไมเขาต้องเป็นห่วงคนที่ห่วงเงินมากกว่าตัวเองด้วยเนี่ย?
คนอย่างบยอนแบคฮยอนนี่ใครได้ไปเป็นแฟนนะ โคตรซวยอ่ะบอกเลย!
ตัวเล็กๆ ผุดลุกขึ้นจากโซฟาก่อนจะเดินหน้าบึ้งไปที่ประตู เขาไม่มีเหตุผลอะไรต้องกลัวแบคฮยอนนี่ ในเมื่อเขาเพิ่งยัดต้นฉบับไปเกือบครึ่งร้อยหน้าใส่มืออีกฝ่ายไปเมื่อวานนี้แท้ๆ แถมยังเหลือเวลาอีกตั้งเกือบสองเดือนถึงจะถึงวันเดธไลน์
ก็ทั้งๆ ที่มันเป็นแบบนั้น บยอนแบคฮยอนทำไมถึงยังถ่อจากสำนักพิมพ์มาหาเขาที่ห้องอีกละ ทำไมไม่เอาเวลาไปตรวจต้นฉบับ เผื่อมีอะไรที่เขาต้องเอากลับมาแก้ก่อนจะเริ่มแต่งต่อ
มาทำไมเนี่ย มาทำไม!?
ไปทำงานสิไป!
“บ้าชะมัด นายมันตัวทำลายความสุขยามเช้าของฉันชัดๆ บยอนแบคฮยอน” คยองซูบึนปากใส่บานประตู ก่อนจะค่อยๆ เอื้อมมือออกไปแตะประตูแล้วเปิดออกช้าๆ
“เปิดช้า” คุณบรรณาธิการเอ่ยสั้นๆ ออกมาเมื่อเห็นหน้างอง้ำของคุณนักเขียนตัวเล็ก ร่างโปร่งดันประตูออกให้อ้ากว้างก่อนจะถือวิสาสะเดินผ่านไหล่แคบๆ ของคยองซูเข้าไปในห้อง
“มาหาฉันทำไม” คยองซูเอ่ยถามขณะที่เดินตามแผ่นหลังกว้างๆ ของแบคฮยอนต้อยๆ
“ไม่ได้จะมาทวงต้นฉบับหรอกน่า” แบคฮยอนเอ่ยพลางหัวเราะเบาๆ ก่อนจะสะบัดมือของตัวเองไปมา
“ไม่ได้มาทวงต้นฉบับแล้วเป็นบ้าหรือไง มายืนเคาะห้องคนอื่นอยู่ได้ตั้งนาน เจ็บมือเลยละสิ สมน้ำหน้า” คยองซูเบ้ปาก ก่อนจะนั่งลงข้างๆ แบคฮยอน พลางคว้ามือเรียวที่กำลังสะบัดมาดู หลังมือนั้นแดงเถือกอย่างที่เขากำลังคิดอยู่จริงๆ ด้วย
“นายนี่มันจริงๆ เลย” ริมฝีปากอิ่มขยับบ่นพลางคลึงมือเรียวนั้นเบาๆ อย่างนุ่มนวล นัยน์ตาโตๆ มองค้อนแบคฮยอนที่หัวเราะเบาๆ “หัวเราะอะไร เจ็บตัวแล้วมีความสุขเหรอ โรคจิต”
“มีความสุขที่มีคนเป็นห่วงต่างหาก” คุณบรรณาธิการปีศาจที่โดนเอาคำว่าโรคจิตพ่วงท้ายฉายาพูดเสียงนุ่ม ก่อนจะเบ้ปากเมื่อโดนนิ้วเล็กๆ บิดที่เอวเสียเต็มแรง
ดูเอาเถอะ คยองซูจะทำตัวเป็นหมีหงอย หมีน่ารัก หมีว่าง่าย เฉพาะเวลาที่เขามาทวงต้นฉบับเท่านั้นแหละ เมื่อไหร่ก็ตามที่ปั่นต้นฉบับได้จนเขาไม่ต้องคอยทวงละก็ อีกฝ่ายไม่เคยรีรอที่จะเอาคืนเขาด้วยการทำร้ายร่างกายเลยสักครั้ง
“แล้วมาทำไม” คยองซูถาม พลางกอดอกมองคุณบรรณาธิการของตัวเอง
ถ้าแบคฮยอนเริ่มต้นพูดอะไรที่คล้ายจะทำให้เขาต้องเหนื่อยกับการปั่นต้นฉบับออกมาละก็.. เขาจะเอาหมอนใบโตนี่ปิดหน้าให้ขาดอากาศหายใจตายไปเลย!
ถึงเขาจะขี้ใจอ่อน(ผิดกับคุณปีศาจที่ใจแข็งซะยิ่งกว่าหิน) แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าเขาจะโอนอ่อนผ่อนตามบยอนแบคฮยอนทุกอย่างนะ แล้วเขาก็ไม่ใช่ทาส(หมี)ในเรือนเบี้ยของอีกฝ่ายด้วย ที่จะมาสั่งโน่น สั่งนี่ ขอนั่น ขอนี่ได้ตามใจชอบ
-3-
“จะพาไปเลี้ยงข้าว”
“เอ๋?” คยองซูขมวดคิ้ว ช้อนตาขึ้นมองอีกฝ่ายอย่างงุนงง
ปีศาจจะพาหมีไปเลี้ยงข้าว?
เอาจริงดิ?!
แบคฮยอนไม่ได้พาเขาไปเลี้ยงข้าวนานมากกกกกกกกกกกแล้วจริงๆ ถ้าจำไม่ผิดก็ราวๆ สามสี่เดือนก่อน ซึ่งเลี้ยงทำไมนั่นเขาลืมไปแล้วละ เพราะปกติคุณบยอนจะซื้อของมาที่ห้องเขาซะมากกว่า (คุณบรรณาธิการปีศาจทำอาหารอร่อยมาก คยองซูคอนเฟิร์ม)
“จะพาไปเลี้ยงข้าว อยากกินไอติมด้วยไหม? หรือจะดูหนัง?”
ตัวเล็กๆ กระพริบตาปริบๆ อยู่สามสี่ครั้ง ก่อนจะยึดไหล่ของแบคฮยอนเอาไว้มั่นแล้วยื่นหน้าเข้าไปใกล้ๆ
“พูดจริงเหรอ?”
ถ้าบอกว่าไม่จริงจะข่วนหน้า! (หมีมีขู่ด้วยแฮะ..)
“อือฮึ ถ้าจะไปก็ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าไป”
“ไปเดี๋ยวนี้แหละ!!” คนตัวเล็กผุดลุกขึ้นพลางร้องเสียงดัง ก่อนจะวิ่งเร็วๆ ไปทางห้องนอนของตัวเองอย่างเร่งรีบ ทิ้งไว้ให้ใครบางคนมองตามด้วยสายตาที่อ่อนลงโดยไม่รู้ตัว
.
.
.
ย่านการค้าที่แบคฮยอนพาคยองซูมานั้นคนยังไม่พลุกพล่านมาก คงเพราะช่วงนี้เด็กมัธยมกับมหาลัยยังไม่ปิดเทอม และวันนี้ก็เป็นวันที่วัยทำงานยังอยู่ที่ทำงาน ส่วนมากที่เดินสวนกันจึงเป็นนักท่องเที่ยวเสียมากกว่า
คยองซูที่ไม่ได้ออกจากคอนโดมาเดินเล่นนานแล้วมองซ้ายขวาอย่างสนอกสนใจ เกือบๆ ครึ่งปีแล้วที่ไม่ได้ออกมาเดินเล่นในย่านการค้าแบบนี้ นานๆ มาทีก็รู้สึกเพลินดีเหมือนกันนะ
“มันหนาวนะ จะกินไอติมเหรอ?” คยองซูสะกิดแขนเสื้อของแบคฮยอนเมื่อทั้งคู่เดินมาหยุดที่หน้าร้านไอศกรีมโฮมเมดร้านหนึ่ง
จริงๆ คยองซูก็อยากกินอะไรเย็นๆ หวานๆ นะ แต่แบบว่า...
“อยากกินบิงซู” แบคฮยอนเอ่ยเนิบๆ ช่วงนี้เขาทำงานจนหัวปั่นไปหมด เวลาพักผ่อนแทบไม่มี เพราะนอกจากงานประจำที่ต้องเป็นบรรณาธิการของคยองซูแล้ว เขายังรับงานแปลเล็กๆ น้อยๆ มาทำเพิ่มด้วย พอทำงานมากๆ เข้า ก็รู้สึกร่างกายมันตึงเครียดไปหมด ถ้าได้กินอะไรหวานๆ ก็คงดีไม่น้อย
“อากาศหนาวจะตาย!” คยองซูว่าพลางส่ายหน้าไปมา “ไม่เอาอ่ะ ไม่ให้กิน ไปกินอย่างอื่นดีกว่า”
มือเล็กๆ คว้าที่ต้นแขนของแบคฮยอนแล้วออกแรงลากไปทางอื่น แต่แบคฮยอนก็ขืนตัวไว้ไม่ยอมให้คยองซูลากไปจากตรงนี้ง่ายๆ
“ไม่เห็นเป็นอะไร ฉันอยากกินอะไรหวานๆ”
“เดี๋ยวเป็นหวัดนะ” คยองซูว่า ตาโตจ้องมองคนตัวสูงกว่ากึ่งดุกึ่งเป็นห่วง
“ไม่ดีเหรอ ฉันจะได้ไม่ต้องไปกวนเวลาของนายไง” คุณบรรณาธิการว่าพลางยิ้มมุมปาก นัยน์ตาเรียวจ้องมองคนตัวเล็กด้วยแววตาที่คยองซูไม่กล้าสบตา
“ถึงฉันจะไม่อยากโดนนายกวน แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าอยากเห็นนายป่วยนี่ คนบ้า อย่าดื้อนะ ไปทางอื่นกับฉันเดี๋ยวนี้เลย” คยองซูบ่นยาวๆ ก่อนจะออกแรงลากแบคฮยอนไปทางอื่น ซึ่งคราวนี้ยอมโดนลากอย่างไม่ขัดขืนอีก
“นั่นสิ แค่ฉันเคาะประตูจนมือแดง นายยังทนไม่ได้เลยนี่นะ หึ” แบคฮยอนพึมพำเบาๆ นัยน์ตาที่ประกายด้วยความรู้สึกบางอย่างเหลือบมองเสี้ยวหน้าของคยองซู
“ว่าไงนะ?” ตาโตเหลือบมองแบคฮยอนเมื่อได้ยินอีกฝ่ายพูดอะไรบางอย่างที่ฟังไม่ถนัด
“เปล่านี่ แล้วจะไปกินอะไรละ?”
คยองซูกลอกตาไปมาอย่างใช้ความคิด มือที่เคยเกาะต้นแขนแบคฮยอนแน่นก็เปลี่ยนเป็นคล้องแขนเอาไว้หลวมๆ ขณะที่เดินเคียงข้างกันไปตามทางเดิน
“อยากกินพาสต้า”
“ไหนว่ากินขนมปังจนอิ่มแล้วไง”
“งืม.. ก็อิ่มแล้ว แต่อยากกินพาสต้าอ้ะ” คยองซูพึมพำเสียงอ่อย ก่อนจะช้อนตาขึ้นมองแบคฮยอน “ทำไงดีอ่ะ”
แบคฮยอนหัวเราะ มืออีกข้างที่ว่างอยู่ยกขึ้นมาลูบศีรษะเล็กแล้วเคาะเบาๆ สองสามที
“ไปหาอะไรเบาๆ กินก่อน ดูหนังเสร็จเดี๋ยวพาไปกินพาสต้า”
“อ๊ะ จริงสิ แบบนั้นก็ได้นี่นา งั้นไปกินแพนเค้กกันก่อนดีป้ะ?” คยองซูเอ่ยอย่างร่าเริง นัยน์ตากลมโตเป็นประกายขึ้นมาเมื่อนึกถึงแพนเค้กเนื้อนุ่ม
อากาศเย็นๆ กับแพนเค้กหวานๆ อ๋า.. ต้องเข้ากันมากแน่ๆ เลย
“กินอะไรที่มันเบาๆ บ้างเถอะ เดี๋ยวก็อืดกว่านี้พอดี” แบคฮยอนบ่นอย่างไม่จริงจังนัก
“ก็นายบอกว่าอยากกินอะไรหวานๆ นี่ งั้นก็สั่งมากินด้วยกันสิ” คยองซูว่าพลางช้อนตาขึ้นมองคนจ่ายเงินอย่างอ้อนๆ
“ครับ ครับ ไปร้านแพนเค้กกันครับ”
คยองซูยิ้มร่าเมื่อวันนี้คุณบรรณาธิการปีศาจใจดีผิดหูผิดตา ถ้อยคำร้ายๆ ที่อีกฝ่ายชอบยกขึ้นมาเหน็บแนม หรือไซโคเขาก็ไม่มีหลุดออกมา ดูเหมือนวันนี้จะเป็นวันพักผ่อนธรรมดาๆ ของบยอนแบคฮยอนกับโดคยองซู มากกว่าจะเป็นการมากินข้าวกันของคุณบรรณาธิการบยอน กับนักเขียนในความดูแล
เขาชอบแบคฮยอนแบบนี้มากกว่าแบบคุณบรรณาธิการปีศาจนั่นเยอะ...มาก!!
แบบนี้สิถึงจะสมกับฉายาคนเลี้ยงหมี เวอร์ชั่นปากร้ายนั่นมันไม่ใช่คนเลี้ยงหมีแล้ว นั่นมันคนทารุณหมีต่างหาก -3-
ฮือ ขอแบคฮยอนแบบนี้ตลอดไปเลยได้ไหม ใครก็ได้ช่วยไปฆ่าเวอร์ชั่นปีศาจทิ้งที เขาชอบแบคฮยอนเวอร์ชั่นนี้!
“อ่านต้นฉบับรึยังอ่ะ” คยองซูเอ่ยถามแบคฮยอนเสียงเบา ขณะที่เดินเข้าไปในร้านแพนเค้กด้วยกัน ซึ่งทั้งคู่เลือกที่จะนั่งข้างกันที่โต๊ะ แทนที่จะนั่งตรงข้ามกันแบบคนอื่นๆ
“ยัง ทำงานอย่างอื่นให้หัวหน้าอยู่ เดี๋ยวจะกลับไปอ่านที่บ้านเย็นนี้” แบคฮยอนตอบพลางยื่นเมนูที่พนักงานส่งมาให้คยองซู ก่อนจะจัดการถอดเสื้อโค้ทของตัวเองออกแล้วแขวนไว้ที่เก้าอี้
“เอาชาร้อนไหมอ่ะแบคฮยอน” คนตัวเล็กเอ่ยถามด้วยที่ไม่มองหน้า นัยน์ตากลมกวาดตามองเมนูอย่างจริงจัง “ไม่ให้สั่งกาแฟนะ”
“อยากกินน้ำปั่น” แบคฮยอนตอบพลางนั่งเท้าคางมองคยองซูที่กำลังง่วนอยู่กับเมนู
“ไม่ให้กิน”
แบคฮยอนหลุดเสียงหัวเราะออกมาเบาๆ เมื่อคยองซูสวนกลับเสียงห้วนมาทันทีที่เขาบอกว่าอยากกินน้ำปั่น
“อยากกิน สั่งมากินนะ กินด้วยกันก็ได้” เอ่ยด้วยน้ำเสียงออดอ้อนพลางโน้มตัวเข้าไปใกล้คยองซู วาดแขนโอบไหล่แคบแล้วชะโงกหน้าไปมองเมนูที่อีกคนกำลังดูอยู่
“ชาเขียวปั่นไหม” คยองซูเอ่ยออกมาเบาๆ เมื่อขี้เกียจเถียงกับคนที่อยากกินอะไรเย็นๆ ในวันที่อากาศหนาวอย่างนี้ นิ้วป้อมๆ ชี้ให้แบคฮยอนดูรายการเครื่องดื่ม พลางหันหน้าไปมองคนที่โน้มหน้ามาใกล้จนแทบจะติดกันเป็นเชิงถาม
“นมสดปั่นดีกว่า อยากกินอะไรหวานๆ”
“แพนเค้กก็หวานจะตาย เอาอะไรหวานๆ มาอีกก็เลี่ยนพอดี” คยองซูว่าพลางหันหน้ากลับไปมองเมนูตามเดิม
“งั้นเอามอค..”
“ไม่ให้กินกาแฟ” คยองซูเอ่ยตัดบท ก่อนจะยืดตัวขึ้นมองพนักงานทั้งที่แขนของแบคฮยอนยังโอบไหล่ของตัวเองอยู่
“เอานี่ฮะ” นิ้วเล็กๆ จิ้มไปที่แพนเค้กราดช็อกโกแลต โปะหน้าด้วยวิปปิ้งครีมกับสตรอเบอร์รี่สองลูก “แล้วก็เอาชาเขียวปั่นด้วยฮะ”
“อย่างละที่นะคะ” พนักงานเอ่ยย้ำเสียงหวาน ก่อนจะเก็บเมนูคืนแล้วเดินกลับไปที่เคาน์เตอร์เมื่อคยองซูฉีกยิ้มพร้อมกับพยักหน้าหงึกหงัก
“หมีเผด็จการ” แบคฮยอนเอ่ยบ่นเบาๆ อย่างไม่จริงจังเมื่อพนักงานเดินจากไป
“เดี๋ยวคืนนี้นายก็กลับไปกินกาแฟที่บ้านตัวเองอยู่ดี จะกินทำไมเยอะแยะ มันไม่ดีต่อร่างกายนะ” คยองซูว่าพลางบึนปากใส่แบคฮยอนน้อยๆ
แบคฮยอนส่ายหน้า ปลายนิ้วชี้เกลี่ยผมนุ่มของคนตัวเล็กเล่น ไม่ได้เอ่ยอะไรออกไป เพราะพูดไปก็เถียงกันเสียเปล่าๆ หมีตัวเล็กนอกจากจะอืดมาก แล้วยังขี้เป็นห่วงมากอีกด้วย
“พรุ่งนี้ไม่เข้าไปหานะ อืดให้สบายละ” แบคฮยอนเอ่ยออกมาพลางชักมือที่โอบไหล่คยองซูไว้กลับมา มือเรียวล้วงสมาร์ทโฟนของตัวเองออกมากดเล่น
คยองซูเหลือบมองคนที่ง่วนกับการกดโทรศัพท์แล้วก็นั่งเขี่ยโต๊ะเล่น ไม่ได้ถามกลับว่าทำไมถึงจะไม่เข้ามา เพราะการที่อีกฝ่ายไม่มากวนน่ะถือว่าดีแล้ว ดีมากด้วย!
วันนี้วันพฤหัส พรุ่งนี้วันศุกร์ ถ้าแบคฮยอนไม่เข้ามาบุกห้อง ก็แสดงว่าเขาจะมีเช้าที่สดใสตั้งสามวันเชียวนะ! เพราะเสาร์อาทิตย์แบคฮยอนไม่เข้ามาหาเขาที่ห้องอยู่แล้ว ถ้าหากไม่มีธุระเร่งด่วนจริงๆ
อีกฝ่ายก็ต้องมีเวลาอยู่กับพ่อแม่ เล่นกับหมา สังสรรค์กับเพื่อน หรือแม้แต่เดทกับสาวๆ บ้างละน่า ใครจะมีเวลามาวุ่นวายกับนักเขียนในความดูแลได้ตลอดทั้งสัปดาห์กัน
นี่พูดเฉยๆ นะ ไม่ได้แฝงความนัยอะไรทั้งนั้น
-3-
“หัวหน้าอยากรู้ว่าเรื่องต่อไปนายจะเขียนเกี่ยวกับอะไร” หลังจากนั่งเงียบๆ กันมาร่วมห้านาที แบคฮยอนก็วางโทรศัพท์ลงแล้วหันไปมองคยองซูที่นั่งเขี่ยโต๊ะเล่น
นักเขียนชื่อดังชะงักกับคำถามนั้น ก่อนจะไหวไหล่เบาๆ “ไม่รู้สิ ยังเลือกไม่ได้”
อยากจะพูดต่อจริงๆ ว่ารอให้เรื่องที่กำลังปั่นอยู่นี่จบก่อนไหม แล้วค่อยมาพูดถึงนิยายเรื่องใหม่นั่นน่ะ!
“นายปั่นสองเรื่องไปพร้อมกันไม่ได้เหรอคยองซู..”
“นี่ถ้าที่นายพาฉันมาเลี้ยงข้าว เลี้ยงหนัง เลี้ยงขนม เพื่อจะมาเริ่มต้นพูดเรื่องปั่นนิยายไปพร้อมกับหลายๆ เรื่องละก็.. ฉันจะเดินออกจากร้านเดี๋ยวนี้แหละ!”
แบคฮยอนถอนหายใจเบาๆ ก่อนจะพยักหน้าแล้วขยี้กลุ่มผมนุ่มของคยองซูเบาๆ อย่างหมั่นเขี้ยวเป็นเชิงยอมแพ้ ดูสิ ดูทำหน้าทำตาเข้า ยังกับว่าจะเข้ามาตะปบเขาให้ตายคามืออย่างนั้นแหละ
ตาโตๆ ของคยองซูมันก็น่ารักดีอยู่หรอก เวลาหงอยๆ ก็ดูน่าสงสารมาก แต่เวลาที่เริ่มจะหงุดหงิดนี่สิ.. เหมือนเขากำลังจะโดนกินหัวยังไงยังงั้น
“โอเค ไม่พูด จะไม่พูดเรื่องงานแล้ว นี่เป็นเวลาของบยอนแบคฮยอนกับโดคยองซู ไม่มีเรื่องงานมาเกี่ยวข้อง”
คยองซูเบ้ปากก่อนจะเอื้อมมือไปสางผมที่โดนขยี้ของตัวเองแล้วพิงศีรษะลงกับไหล่ของแบคฮยอน “ฉันเหนื่อยนะ ลองมาเป็นฉันบ้างไหมละ มันยากจะตายกว่าจะปั่นนิยายได้ทีละหน้า บางวันฉันพิมพ์ได้แค่ชั่วโมงละตัวด้วยซ้ำ”
“รู้แล้วน่าว่าเหนื่อย แต่เช็คที่ได้ตอนแต่งจบน่ะ มันไม่ทำให้นายหายเหนื่อยหรือไง”
“นั่นมันก็.. งื้อ... แบคฮยอนอ่ะ!” คยองซูบ่นเสียงงุ้งงิ้งก่อนจะเขี่ยต้นขาของอีกฝ่ายเล่น
“งานของนายมันดี และมันจะดีมากถ้านายรักษาคุณภาพของตัวเองเอาไว้ให้มันได้ตลอดรอดฝั่ง เมื่อไหร่นายจะเป็นมืออาชีพสักทีนะคยองซู เป็นนักเขียนมาสามปีแล้วนะ”
“ขี้บ่นเป็นตาแก่ไปได้” คนตัวเล็กพึมพำเสียงเบา อดที่จะเบ้ปากไม่ได้เมื่อโดนอีกฝ่ายว่า
ไม่ชอบเลยจริงๆ เวลาที่โดนอีกฝ่ายว่า มันทำให้เขารู้สึกเหมือนตัวเองตัวหดเหลือแค่สองนิ้ว ทั้งๆ ที่แบคฮยอนก็รู้ว่าเขาไม่ชอบ แต่ก็ยังทำไม่หยุด ปีศาจนี่ยังไงก็ปีศาจจริงๆ
“นายก็เลิกอืดอาดเป็นยายแก่ๆ สักทีเถอะ”
“แหงละสิ ถ้าฉันขยัน แต่งหนังสือได้ปีละสี่ห้าเล่ม โบนัสของนายมันคงอื้อซ่าเลยละสิ”
นี่เขาไม่ได้เหน็บแหนมนะ แต่บยอนแบคฮยอนน่ะหน้าเลือดจริงๆ หายใจเข้าเป็นเงิน หายใจออกเป็นโบนัสตลอด เชอะ ไม่เคยจะมีเขาในสายตาบ้างหรอก ในหัวของบยอนแบคฮยอนก็มีแต่เงินๆๆๆ นั่นแหละ
“เลิกว่าฉันสักทีเถอะน่า” แบคฮยอนว่าพลางถูกจมูกกับกลุ่มผมนุ่มของคยองซูอย่างหมั่นเขี้ยว “ขาดฉันแล้วนายจะรู้สึก”
“รู้สึกดีน่ะสิ”
แบคฮยอนเบ้ปาก รู้สึกอยากจะดึงแก้มยุ้ยๆ นั่นแรงๆ สักสามที แต่ยังไม่ทันจะได้ตอบอะไรกลับไป พนักงานก็เอาแพนเค้กกับชาเขียวปั่นมามาเสิร์ฟที่โต๊ะ คยองซูจึงยืดตัวขึ้นนั่งดีๆ พลางมองแพนเค้กสีน้ำตาลอ่อนอย่างสดใส
“เห็นของกินดีกว่าฉันตลอด” แบคฮยอนบ่น ก่อนจะรีบอ้าปากงับแพนเค้กที่อีกฝ่ายจิ้มมาป้อน
“อร่อยเนอะ” ตัวเล็กๆ เมินที่อีกฝ่ายบ่น พลางตัดแพนเค้กเข้าปากคำโต ทำหน้าตาเคลิบเคลิ้มกับความอร่อย แล้วจึงหันไปตัดแพนเค้กมาจ่อที่ปากของแบคฮยอนอีกครั้ง
“อืม อร่อยดี” แบคฮยอนพูดเบาๆ ริมฝีปากคลี่ออกเป็นรอยยิ้มขณะที่เอื้อมมือไปหยิบแก้วชาเขียวปั่นมาดูดแล้วยื่นไปให้คยองซูดูดบ้าง สองสายตาสบกันอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่คยองซูจะก้มลงดูดชาเขียวปั่นแล้วจิ้มสตรอเบอร์รี่ใส่ปากแบคฮยอน
ไม่รู้ว่าคิดไปเองหรือเปล่า แต่ชาเขียวปั่นกับแพนเค้กราดช็อกโกแลตธรรมดาๆ ที่กินไปวันนี้ มันอร่อยกว่าทุกวันที่แบคฮยอนเคยกิน..
.
.
.
แบคฮยอนอยากดู X-MEN
แต่คยองซูอยากดู Edge of Tomorrow
หนึ่งบรรณาธิการ กับอีกหนึ่งนั่งเขียนยืนจ้องหน้ากัน ก่อนที่คยองซูจะเป็นฝ่ายเดินเข้ามากอดแขนแบคอยอนแล้วเอาแก้มถูๆ ต้นแขนของคุณบรรณาธิการอย่างออดอ้อน
“แบคฮยอนอ่า.. ฉันอยากดูทอม ครูซซซซ”
“ฉันยอมนายมาทั้งวันแล้วนะคยองซู” แบคฮยอนเอ่ยเสียงแข็ง ขมวดคิ้วน้อยๆ ก่อนจะส่ายหน้าเมื่อเห็นสายตาอ้อนๆ ที่อีกฝ่ายส่งมาให้ “แล้วฉันก็เป็นคนจ่ายตังด้วยนะ”
คยองซูแอบเบ้ปาก ก่อนจะจับมือแบคฮยอนมาเขี่ยเล่น “แบคฮยอนใจร้าย”
“เดี๋ยวซื้อมันฝรั่งกับชีสให้ โคล่าด้วยเอ้า”
“อย่าเอาของกินมาล่อฉันนะ” คนตัวเล็กทำแก้มป่องก่อนจะดึงนิ้วแบคฮยอนระบายอารมณ์เล่น ฝ่ายคนโดนแกล้งก็ได้แต่มองปลงๆ ยอมโดนหมีดึงนิ้วตัวเองเล่น
ก็นะ แค่โดนดึงนิ้ว ไม่ได้เอาเข้าปากสักหน่อยนี่
แต่จริงๆ ก็อยากเห็นคยองซูเอามันเข้าปากดูสักทีอยู่เหมือนกัน
หึหึ
“แล้วจะเอาไม่เอา?”
“เอาก็ได้” คยองซูตอบอุบอิบ “เห็นแก่ว่าวันนี้ยอมฉันมาเยอะแล้วหรอกนะ”
“น่ารักมากครับคุณนักเขียน” คนตัวสูงกว่าว่าพลางฉีกยิ้มให้คนตัวเล็กกว่า ก่อนจะคว้าที่ข้อมือของอีกฝ่ายแล้วเดินไปทางเคาน์เตอร์ขายตั๋วหนัง
คยองซูแอบเบ้ปากอีกครั้ง รู้สึกหัวใจเต้นผิดจังหวะเมื่อคุณบรรณาธิการที่ปกติชอบทำหน้าตาบึ้งตึงใส่มายิ้มหล่อให้แบบนี้
แต่พูดก็พูดเถอะ ต่อให้แบคฮยอนหล่อกว่านี้มันก็ไม่ทำให้เขาเลิกอืดหรอก!
ช่างเรื่องอืดไปก่อนแล้วกัน สนเรื่องหนังดีกว่า จะว่าไปแล้วเอ็กซ์เม็นก็น่าดูอยู่นะ แต่เขางงๆ กับไทม์ไลน์ของเรื่องนิดหน่อย ตั้งแต่ภาคเฟิร์สคลาสแล้ว ไม่รู้ภาคนี้จะมาอีท่าไหน ถ้าดูแล้วงงนี่เขาจะฟาดแบคฮยอนรัวๆ เลย จะไม่ยอมให้เข้าห้องด้วย
อ๊ะ รู้สึกเมื่อกี้เขาเห็นโปสเตอร์ Maleficent แว้บๆ ถ้าเข้าแล้วชวนแบคฮยอนมาดูดีกว่า เรื่องนี้ก็น่าดูเหมือนกัน โจลี่ดูสวยปนสยองๆ ดี
อ๋า..
แล้วทำไมเขาต้องอยากมาดูกับบยอนแบคฮยอนด้วยละเนี่ย...
บ้าชะมัดเลย ฮือ T///////T
2 b con
------------------------------------------------------------------------------
มาอัพแล้วค่ะะะ >_________________<
ช้านิดหน่อยน้าา ฮือออ อย่างที่บอกไปว่าเรากำลังอยู่ในช่วงอกหัก กว่าจะเข็นออกมาได้เลยนานนิดนึง
บทนี้ก็ไม่รู้ว่ามันจะมิ้งหรือเปล่านะ เพราะอารมณ์เรามันก็ค่อนข้างสีเทา ฮือ
แต่เราพยายามจะให้มันมิ้งที่สุดแล้วน้าาา .______.
เอ้า... มีใครอยากเดากันบ้างไหมคะว่าคยองแต่งฟิคแนวไหน? 555555555555555
ตอนหน้า(มั้ง)เราจะมาเฉลยค่ะว่าตกลงคุณหมีอืดแต่งฟิคแนวไหน
อ๊ะ ใช่ ลืมแนะนำตัวไปเลย เราอายุยี่สิบต้นๆ นะคะ #เลขดับเบิ้ลค่ะ
ส่วนมากคนจะเรียกเราว่าตัวตลกค่ะ =_= ส่วนชื่อเล่นจริงๆ ชื่อมดตะนอย 55555555555
เรียกสั้นๆ ว่ามดก็ได้ หรือจะเรียกตามนามปากกาก็ได้ค่ะ เอาที่สะดวก
ติดต่อเราได้ที่ @__MonaLis จะมาคุยเรื่องฟิค หรือทวงฟิค หรือคุยเล่นก็ได้ค่ะ เราไม่กัด แฮ่..
ขอบคุณที่ชอบฟิคเราน้าา ตกใจมากเลยที่เห็นเม้นต์กับเฟบขึ้นเร็วมาก
ทั้งดีใจ ทั้งกดดันเลยค่ะ 55555555555555555555
เจอกันตอนหน้านะคะ!
หวังว่าจะได้มาอัพในเร็วๆ นี้ #กราบไหว้ฟ้าดิน
อย่าลืมติดแท็ก หากท่านขี้เกียจเม้นต์ในเด็กดี #ฟิคหมีอืด
รักคนอ่านทุกคนค่ะ เยิ้บบบ
ความคิดเห็น