ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    SF SJ } Lover Strawberry HaeeuN

    ลำดับตอนที่ #5 : ❤ CONCERT

    • อัปเดตล่าสุด 11 ธ.ค. 57







    เรื่องนี้เคยอัพเมื่อนานมาแล้ว ในเวอชั่นวอนคยู แต่เราก็ลบบทความไปแล้ว
    เป็นฤกษ์งามยามดีที่เราจะกลับมาแต่งฟิค เลยได้หยิบเรื่องนี้มาอัพใหม่ หวังว่าคงชอบกันนะ






























     




     

     



     

    วันนี้เป็นวันที่ ELF ทั้งประเทศรอคอยในรอบหนึ่งปี นั่นก็คือวันคอนเสิร์ตของศิลปินดังอย่าง Super Junior ฮยอกแจเองก็เป็นหนึ่งในคนหมื่นๆคนที่รอคอยวันนี้เช่นกัน และนั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้คนน่ารักต้องมานั่งกอดเข่าเฝ้าหน้างานอยู่แบบนี้



    ฮยอกแจ หรืออี ฮยอกแจ เป็นนักเรียนม.ปลายปีสามโรงเรียนชื่อดังแห่งหนึ่ง ที่ชื่นชอบและติดตามผลงานของ Super Junior มาตั้งแต่สมัยประถม แรกๆก็แค่ติดตาม ฟังเพลง ซื้ออัลบั้มไว้บ้างถ้ามีตัง แต่พอโตขึ้นพ่อแม่เริ่มปล่อยฮยอกแจก็เริ่มมีโอกาสไปมีทติ้ง คอนเสิร์ต หรืองานต่างๆมากขึ้น



    แต่ถึงเป็น ELF มานาน และตามงานมากอยู่พอตัว แต่ถ้าพูดถึงเพื่อนที่เป็นเอลฟ์ด้วยกัน ฮยอกแจมีน้อยจนแทบหาไม่ได้เลยหละ อาจจะเพราะความขี้อายไม่ค่อยกล้าเข้าหาใคร และยิ่งขึ้นม.ปลายปีสุดท้าย ต้องเตรียมเข้ามหาลัย แทบไม่ได้ตามข่าวอะไรเลย เพื่อนที่มีน้อยอยู่แล้วก็ดูจะยิ่งน้อยลงไปอีก ถ้านับๆดูแล้ว ตอนนี้เพื่อนสนิทที่เป็นเอลฟ์ของเค้ามีแค่คนเดียวเท่านั้น



    Rrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrr


    ยูอี



    เสียงโทรศัพท์ที่ดังขึ้นทำให้ฮยอกแจหลุดจากภวังค์ แต่พอก้มมองหน้าจอโทรศัพท์ ชื่อที่โชว์ขึ้นก็ทำให้เค้าถึงกับยิ้มกว้าง พอคิดถึงก็โทรมาเลย



    ฮัลโหลยูอี



    ฮยอกเรามาถึงแล้ว ฮยอกอยู่ไหนอ่า เดี๋ยวเราเดินไปหา



                “ไม่ต้องๆ ยูอีรออยู่ตรงนั้นแหละ เดี๋ยวเราออกไปรับ ว่าแต่ตอนนี้ยูอีอยู่ไหน



                ‘เอางั้นหรอ โอเค เราอยู่........พอยูอีพูดจบฮยอกแจก็ลุกขึ้น หันไปบอกเพื่อนที่นั่งอยู่ใกล้ๆว่าฝากที่หน่อย ซึ่งเพื่อนก็ใจดีรับปาก ก่อนจะเดินไปยังที่ที่คนปลายสายอยู่



                ยูอี คือชื่อเพื่อนสนิทของฮยอกแจ รู้จักกันในทวิตเตอร์เพราะเป็นเอลฟ์เหมือนกัน เคยเจอกันครั้งแรกที่งานคอนสองปีที่แล้ว ส่วนครั้งนี้เป็นครั้งที่สี่แล้วที่เจอกัน ยูอีกับฮยอกแจถึงจะรู้จักกันในเน็ตแต่ก็คอยช่วยเหลือกันเป็นอย่างดีมาตลอด อย่างตอนจองบัตรตนไม่ว่างก็ได้เพื่อนคนนี้ที่ช่วยเป็นธุระให้ ส่วนวันนี้ฮยอกแจสะดวก ก็มาจองที่ให้ก่อนแล้วยูอีค่อยตามมา








    ไหนบอกอยู่ตรงนี้ไงร่างเล็กพึมพำกับตัวเอง เมื่อเดินมาถึงที่ๆเพื่อนบอก แต่กลับไม่เจอคนที่ตนนัดไว้ ฮยอกแจหันซ้ายหันขวา ก่อนจะขมวดคิ้วงุ่น หรือเค้าจะฟังผิดนะ



    จ๊ะเอ๋!!”



    ผี!!”แต่แล้วคนที่กำลังตามหาก็ฟุ่งเข้ามาหยอกล้อทำเอาฮยอกแจอุทานออกมาอย่างตกใจ ที่อุทานว่าผีนี่ไม่ได้คิดว่ายูอีเป็นผี แต่เพราะกลัวผีจนขึ้นสมอง เวลาตกใจมากๆจึงชอบอุทานคำนี้ออกมา



    ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ ฮยอกยังน่ารักเหมือนเดิมเลย ดูสิทำหน้าตกใจได้น่ารักชะมัดยูอีว่าแล้วเดินเข้ามาหยิกแก้มฮยอกแจอย่างหมั่นเขี้ยว ก็ภาพตรงหน้ามันผิดจากที่เค้าว่าซะที่ไหน ฮยอกแจตอนตกใจทำตาโต หน้าแดงๆ น่ารักที่สุดเลย



    ยูอีเลยแบบนี้ถ้าเราหัวใจวายตายไป เราจะมาหายูอีคนแรกเลยคนน่ารักกอดอกว่าอย่างไม่จริงจังนัก



    อะไรกัน เรานึกว่าฮยอกแจจะหายตัวเองแอบดูฮันคยองอปป้าอาบน้ำเป็นสิ่งแรกซะอีก



    ยูอีพูดอะไรแบบนั้นหนะคนตัวเล็กรีบยกมือมาปิดปากเพื่อนรักอย่างรวดเร็ว เดี๋ยวใครมาได้ยินก็คิดว่าเค้าเป็นโรคจิตพอดี



    ฮยอกแจอ่า ฉันแค่ล้อเล่น ยังใสซื่อไม่เปลี่ยนเลยนะ



                “แฮ่มระหว่างที่คนน่ารักทั้งสองกำลังหยอกล้อกัน ก็มีเสียงหนึ่งแทรกขึ้นมา ฮยอกแจหันไปมองตามเสียงพบกับชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลา ที่ยืนกอดอกมองเค้าทั้งสองอยู่ ไม่รู้คนๆนี้มาอยู่ตรงนี้นานรึยัง แต่ที่ดูคือฮยอกแจรู้สึกแปลกๆ



                “อ่อ ลืมแนะนำไปเลย พี่ทงเฮนี่ฮยอกแจเพื่อนที่ยูอีเล่าให้ฟัง ฮยอกแจนี่พี่ทงเฮพี่ชายเรา พ่อส่งให้มาตามดูแลเรา ไร้สาระชะมัดฮยอกแจว่าปะฮยอกแจโค้งให้คนอายุมากกว่าอย่างนอบน้อม ก่อนจะส่งยิ้มบางๆไปให้แล้วรีบก้มลงไม่ได้สนใจคำพูดยูอีเลยซักนิด ทำไมนะ ถึงเห็นหน้าแต่เพียงชั่ววูบ ฮยอกแจก็สัมผัสได้ว่าพี่ชายเพื่อนของตน ช่างมีเสน่ห์เหลือล้น



                “อย่าพูดมากน่ายูอี



                “อะไรเล่าพี่ทงเฮ ไปเถอะฮยอกแจ ป่านนี้โดนแซงแล้วมั้งพูดจบก็จัดการลากเพื่อนตัวเล็กไปยังที่นั่งที่คนตัวเล็กเพิ่งเดินจากมา ทงเฮที่เดินตามมาข้างหลังได้แต่อมยิ้มมุมปากอยู่คนเดียว



                ทำไมถึงรู้สึกว่าเพื่อนน้องสาวคนนี้



                น่ารักจัง

     




     

                เสน่ห์ของการมาดูคอนเสิร์ตนอกจากจะได้ดูศิลปินที่ตนชอบ บรรยากาศน่างานก็เป็นสิ่งนึงที่น่าจดจำเช่นกัน การเห็นผู้คนมากมายหลายวัยมารวมตัวกัน บ้างก็มีการนัดทำกิจกรรมของแต่ละบ้าน ถ่ายรูป แจกของ อีกอย่างนึงที่เรียกได้ว่าเป็นเอกลักษณ์เลยก็คือตลอดนัดหน้าคอน



    คนเยอะขนาดนี้แน่ใจหรอว่าจะเดินหนะยูอีคนตัวเล็กถามเพื่อนด้วยเสียงแผ่วเบา ใช่ว่าตนจะเป็นคุณหนูถึงขนาดเดินที่แบบนี้ไม่ได้ แต่รอตอนคนน้อยแล้วค่อยมาเดินไม่ดีกว่าหรอ ตอนนี้คนมันเยอะมากเลยนะ



    อะไรกันฮยอก น่าสนุกดีออก ไปเร็ว นางยังไม่มีผ้าเชียร์เลยไม่ใช่หรอ จะลงหลุมทั้งที อุปกรณ์ต้องจัดเต็มสิ



    ก็ได้พอตกลงกันเสร็จ ร่างเล็กทั้งสองก็ลากกันเข้าไปในโซนที่จัดไว้สำหรับขายของ โดยดีร่างสูงของทงเฮเดินตามดูทั้งสองอย่างเงียบๆไม่ได้ขัดอะไร



    ฮยอกแจกับยูอีเดินดูของโน่นนี่ไปเรื่อยๆ ถูกใจก็ซื้อ แต่ก่อนจะซื้อก็มีการเปรียบเทียบราคากันนิดนึง ถึงจะเก็บตังมานานเพื่องานนี้ แต่ยังไงก็ต้องเลือกสิ่งที่ดีที่สุดและคุ้มที่สุดละนะ



    เอ๊ะ นั่นฮยอนอานี่ระหว่างที่กำลังเดินเลือกของกันอยู่ ยูอีก็พูดขึ้นพร้อมมองไปที่สาวสวยที่เดินอยู่อีกด้านของตลาด ฮยอกแจมองตามแล้วก็ได้แต่ขมวดคิ้ว เพราะไม่รู้จักหญิงสาวคนนั้น




    ใครหรอ



    เพื่อนเราเอง รู้จักตอนไปมีทครั้งที่แล้ว เอางี้ ฮยอกแจรออยู่ตรงนี้แป๊บนึงนะ เดี๋ยวเราไปหาเพื่อนก่อน



    แต่



    เอาน่า เราไปแป๊บเดียว พี่ทงเฮเดี๋ยวยูอีมา ฝากฮยอกแจแป๊บนะยูอีจัดการดันฮยอกแจไปทางพี่ชายตนเอง ก่อนวิ่งดุ๊กดิ๊กหายเข้าในฝูงชน ยังไม่ทันจะฟังคำปฏิเสธของฮยอกแจด้วยซ้ำ



    เค้ากับพี่ชายยูอีไม่ได้สนิทกันซะหน่อย ให้อยู่ด้วยกันมันรู้สึกแปลกๆอะ



    ยูอีก็ดื้อแบบนี้แหละ ไม่ค่อยฟังใคร พูดเองเออเอง ฮยอกแจไม่ว่าอะไรใช่มั๊ยร่างสูงเอ่ยถาม พล่างเดินเข้าใกล้ร่างบางขึ้นเรื่อยๆ ท่าทางที่ดูเกร็งของฮยอกแจทำเค้าเอ็นดูมากเลยทีเดียว



    ไม่หรอกครับ ถึงยูอีจะพูดเองเออเอง แต่ยูอีก็เป็นเพื่อนที่ดีคนตัวเล็กยิ้มกว้างเมื่อนึกถึงเรื่องราวต่างๆที่ยูอีคอยช่วยเหลือตนเอง โดยไม่รู้เลยว่า รอยยิ้มสวยนั้นตกเป็นเป้าสายตาของใครบางคนเข้าแล้ว



    ครับ แล้วนี่ฮยอกแจอยากได้อะไรอีกรึเปล่า อีกไปเดินเล่นข้างนอกมั้ยคนจะได้ไม่เยอะทงเฮถามขึ้น ไม่รู้ว่าหวังดีหรืออยากหาเรื่องอยู่กับคนตัวเล็กกันแน่



                “แต่ยูอีบอกให้รอ



                “ไม่รู้รึไง เวลาสาวๆเค้าเจอกัน เรื่องเม้าจะเยอะมาก ถ้าให้เดาคงตามกันไปเม้าต่ออีกยาว ไปเดินเล่นตรงสวนแถวโน้นเถอะ



                “แต่ว่า



                “เชื่อพี่นะครับพี่จบคำ มือหนาก็คว้าเอามือบางของฮยอกแจจับไว้แล้วพาเดินออกจากพื้นที่คนชุกชุมเช่นนี้ โดนเจ้าของมือก็ไม่กว้าจะพูดขัดอะไร เพราะแค่คุมจังหวะหัวใจตัวเองไม่ให้เต้นดังจนกลัวอีกคนจะได้ยินก็ทำได้ยากแล้ว

     






     

                บริเวรด้านหน้าฮอลล์ที่ถูกจัดให้มีลักษณะเป็นสวน มีเหล่าผู้คนที่มารอเข้าชมคอนเสิร์ตนั่งอยู่ประปราย หนึ่งในนั่นเป็นร่างเล็กของฮยอกแจที่นั่งตัวเกร็ง โดยมีเจ้าของใบหน้าหล่อพี่ชายเพื่อนสนิทนั่งข้างๆ คอยแอบลอบมองใบหน้าน่ารักอย่างเอ็นดู



    ฮยอกแจรู้จักยูอีได้ยังไงหรอทงเฮที่อยากได้ยินเสียงหวานๆของคนข้างๆเอ่ยถามขึ้น คนที่ดูน่ารักเป็นธรรมชาติแบบฮยอกแจ ดูไม่เหมาะกับอาการเกร็งๆแบบนี้เท่าไหร่ ทงเฮจึงพยายามพูดคุยให้น้องหายเกร็ง



    รู้จักในทวิตครับ ผมเมนพี่ฮันคยอง ยูอีเมนพี่ฮีชอล แล้วเราก็ชอบจิ้นคู่ฮันชอลเหมือนกันเลยคุยกันถูกคอ ยิ่งอายุเท่ากันด้วย จากนั้นก็มีนัดเจอกันตามงานต่างๆ ยูอีคุยเก่ง ชวนผมคุยเรื่อยๆเลยทำให้เราไม่ค่อยมีระยะห่างกันมากนัก จนตอนนี้ก็รู้จักกันมาเกือบสี่พี่แล้วครับ....เอ่อ พี่ทงเฮเป็นอะไรรึเปล่าครับ



    ฮยอกแจถามเพื่อความแน่ใจเมื่อเห็นคนตรงหน้าเงียบไป หรือว่าเค้าพูดมากไปเลยทำให้อีกคนรำคาญ



    เปล่าครับ พี่แค่อยากตั้งใจฟังเราพูด เราดูเป็นคนพูดน้อยนะ แต่เวลาพูดดู....

     

     

     



     

    “……น่ารักมาก

     



     

    ฉ่า



    คนตัวเล็กที่เคยโดนชมตรงๆถึงกับไปไม่เป็น รู้สึกร้อนวูบกับถ้อยคำนั้นอย่างไม่เคยเป็น ดวงตาเรียวรีกระพริบถี่ๆ ริมฝีปากเม้มแน่น ส่วนใบหน้าขาวสุดใสตอนนี้มันแดงรามไปหมด เป็นอาการเขินที่น่ารักมากในสายตาทงเฮ



    เฮ่ พี่ทงเฮ ฮยอกแจ ตามหาตั้งนานมานั่งกันอยู่นี่เองเหมือนพระเจ้าจะรู้ว่าฮยอกแจกำลังทำตัวไปถูกจึงได้ส่งยูอีมาช่วยไว้ทันเวลา



    ก็ข้างในมันร้อนนี่ ดูเพื่อนเราตัวเล็กนิดเดียวในไปยืนเบียดกับคนอื่นอยู่ได้ทงเฮตอบทันที พลางส่งสายตาห่วงใยอยากเห็นได้ชัดไปให้อีกคน ฮยอกแจเองได้แต่ก้มหน้าซ่อนอาการเขินอายของตนเอง



    จริงด้วยแฮะ โอ๊ะดูสิ หน้าฮยอกแจแดงมากเลย ร้อนหรอ ย๊า ยูอีขอโทษนะ ปะๆไปนั่งพักข้างในร่มเถอะ เที่ยงแล้วด้วยจะได้ไปกินข้าวกันด้วย



    อื้อ เอางั้นก็ได้

     

     





     

    บริเวรหน้าประตูทางเข้าที่ถูกเปลี่ยนเป็นห้องนอนในบรรดาเอลฟ์ทั้งหลาย ถูกเนรมิตอีกครั้ง ให้กลายเป็นห้องอาหารขนาดใหญ่ ยูอี ฮยอกแจ และทงเฮเองก็เช่นกัน ตอนนี้ทั้งสามนั่งตั้งวงกินข้าวอยู่ที่พื้นไม่ต่างจากคนอื่นๆ



    ว๊าว ข้าวฮยอกแจน่ากินจังทันทีที่เปิดกล่องอาหารที่นัดกันไว้ว่าจะเตรียมมาขึ้น ยูอีก็ร้องทักขึ้นตาแบบฉบับตน ฮยอกแจได้แต่ส่งยิ้มเห่ยๆให้ ก็ยูอีพูดแต่ละทีคนมองแทบทั้งบริเวรเลย



    กินด้วยกันสิ เราทำมาเผื่อยูอีด้วยฮยอกแจพูด ที่พูดไปไม่ได้กะเอาหน้า แต่ตนทำมาเผื่อเพื่อนสาวพูดเก่งคนนี้จริงๆนั้นแหละ



    ฮยอกแจอ่า น่ารักที่สุดเลย



                “ใครเตรียมอาหารให้หรอฮยอกแจอีกคนที่นั่งเงียบอยู่นานเอ่ยถามขึ้น ให้ตรงๆคือเค้าอยากคุยกับคนตัวเล็กบ้าง



                “ทำเองครับ ตื่นมาทำก่อนมาที่นี่



                “อ่อทงเฮพยักหน้าเข้าใจ ไม่แปลกใจที่ได้ยินคำตอบเช่นนี้ กริยาเรียบร้อยน่ารักแบบฮยอกแจกับการทำอาหารดูน่าเข้ากันชะมัด ถึงฮยอกแจจะไม่ใช่ผู้ชายก็เถอะ



                “พี่ทงเฮไม่รู้อะไร เห็นเป็นผู้ชายฮยอกแจทำอาหารเก่งมากเลยนะ ทำงานฝีมือก็เก่ง เรียนก็เก่ง ยูอีอะเคยไปส่องเฟซฮยอกอยู่บ่อยๆเห็นรูปที่ไปแข่งโน่นนี่เยอะแยะเต็มไปหมด

               



    ส่วนเรื่องนิสัยนี่ก็ดีแสนดี เรียบร้อยน่ารัก ดูบอบบางน่าปกป้อง ส่วนหน้าตานี่ก็ อย่าให้พูดเลยเถอะ ตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยเจอผู้ชายที่ไหนน่ารักเท่านี้เลย ถ้าใครได้ฮยอกแจเป็นแฟนนะ ต้องโชคดีที่สุดในโลกแน่ๆ



    ยูอีพูดแล้วทำหน้าเพ้อฝัน ส่วนฮยอกแจก็ได้แต่เอามือปิดปากเพื่อนไว้ เค้าไม่ได้ดีขนาดนั้นซะหน่อย พูดแบบนั้นเดี๋ยวพี่ทงเฮก็หาว่าเค้าหลงตัวเองพอดี



    ยูอีอย่าเอาอิมเมจเคะที่ชอบอ่านมาเพ้อใส่เราน่า เราไม่ได้น่ารักขนาดนั้นซะหน่อย



    พี่ว่ายูอีพูดถูกทุกอย่างเลยนะร่างสูงพูดขัดขึ้นเมื่อเห็นคนน่ารักเริ่มแสดงท่าทางไม่มั่นใจ ฮยอกแจดูเป็นคนขี้อาย ผิดกับน้องสาวเค้าโดนสิ้นเชิง



    เห็นมะ เราบอกแล้ว เออนี่ลืมเลย พี่ทงเฮฮยอกแจเค้าอยากเรียนแพทย์แหนะ ถ้าฮยอกแจมีไรปรึกษาพี่ทงเฮก็ได้นะยูอีบอกเมื่อนึกถึงเหตุผลที่ช่วงนี้ไม่เห็นฮยอกแจมาทวิตอะไรเลย เพราะมัวแต่เตรียมตัวในการสอบเข้ามหาลัยมาเกือบๆปีแล้ว



    ฮยอกแจก็อยากเรียนหมอหรอ



    อ่าใช่ครับ นี่พี่ทงเฮ…”



    ครับ ผมนศพ.ชเวทงเฮ



    อ่าฮยอกแจเบิกตากว้างกับสิ่งที่ได้ยิน ผู้ชายตรงหน้าเค้าไม่ได้มีดีแค่หล่อจริงๆ พอคิดว่าพี่ทงเฮเรียนหมอ สมองก็พาจินตนาการไปถึงตอนที่ร่างสูงใส่เสื้อกราวแล้วคนที่หลงใหลในอาชีพนี้ยิ่งปลื้มไปกันใหญ่



    ว่าแต่ ถ้าคุณหมอมีแฟนเป็นคุณหมอเหมือนกัน จะดูแปลกๆมั๊ยนะ



    ฮยอกแจ!!”



    ห้ะ อะไรนะฮยอกแจสะดุ้งกับเสียงเรียบของยูอี ก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าตัวเองกำลังคุยกับเพื่อนอยู่ แต่กลับเพ้อไปเรื่องอื่นซะไกล แล้วไอ้ที่เค้าคิดเมื่อกี้อีก



    บ้าจริงเลยฮยอกแจ



    เป็นอะไรรึเปล่า ดูเหม่อๆนะเราทงเฮพูดด้วยความเป็นห่วง มือแกร่งเอื้อมไปอังหน้าฝากอีกคน เช็ดดูว่ามีไข้รึเปล่า ทำเอาคนที่ถูกสัมผัสสะดุ้งและรีบถอยหนีเพราะความไม่คุ้นชิน



                “เอ่อ ไม่เป็นไรครับ



                “อื้ม ไม่เป็นไรก็ดีแล้ว แต่ถ้ารู้สึกไม่โอเคบอกพี่นะ ตัวยิ่งเล็กๆอยู่



                “ครับ



                ฮยอกแจรับคำคนอายุมากกว่าแล้วก็รีบก้มหน้าก้มตากินข้าวต่อ ส่วนอีกคนก็ได้แต่อมยิ้มกับความน่ารักของเพื่อนน้องสาว โดยไม่ได้สังเกตเลยว่าอีกคนที่เงียบไปกำลังจับผิดอะไรตัวเองอยู่



                อ่า บางทีคนที่โชคดีที่สุดในโลก อาจจะอยู่ไม่ไกลจากตัวเค้าก็ได้



                ยูอีคิด

     

     






     

                ว่ากันว่าตอนเรามีความสุข เวลามักจะผ่านไปอย่างรวดเร็ว ฮยอกแจเพิ่งเข้าใจอย่างถ่องแท้ก็วันนี้เอง ตอนนี้เป็นเวลาสองทุ่มกว่า คอนเสิร์ตที่รอคอนมาเป็นปีจบลงอย่างประทับใจ สร้างความสุข รอยยิ้ม น้ำตา และความทรงจำมากมาย



                ฮยอกแจที่ตอนแรกกำลังโทรเรียกพ่อมารับ โดนขัดโดยทงเฮ โดยทงเฮยืนยันว่าจะไปส่ง ฮยอกแจเองก็ไม่ได้ขัดอะไร เพราะไหนๆแล้ว เค้าไม่สามารถยื้อเวลาจากกันระหว่างเค้ากับ SJ ได้ ก็ขอยื้อเวลาจากกันของเค้ากับพี่ทงเฮให้ได้หน่อยเถอะ



                “เฮ้อ เวลาผ่านเร็วชะมัด รู้สึกใจหายยังไงก็ไม่รู้ยูอีพูดขึ้นมาลอยๆพร้อมมองออกไปที่หน้าต่าง



    นั่นสิ เดี๋ยวเราก็จากกันแล้วฮยอกแจเอ่ยขึ้นบ้าง มักจะเป็นแบบนี้ทุกครั้งที่เค้ากับยูอีเจอกันแล้วต้องจากกัน แต่ครั้งนี้ความรู้สึกมันมากมายกว่าทุกครั้ง อาจจะเพราะคนข้างหน้าที่นั่งประจำเบาะคนขับด้วยละมั้ง



    อย่าพูดแบบนั้นสิ ฮยอกแจพูดแบบนี้ถ้าเราร้องไห้ไปจำยังไง



    ก็มันจริงนี่ ต้องคิดถึงมากแน่ๆเลยคนน่ารักพูด ก่อนสายตาจะหันไปกระทบกับสายตาอีกคนที่จ้องตนอยู่ผ่านกระจกมองหลัง ฮยอกแจคิดไปเองรึเปล่าว่าสายตาทงเฮเองก็ดูเศร้าอยู่ไม่น้อย



    ทั้งรถเงียบไม่มีใครพูดอะไรในขณะที่รถแล่นไปเรื่อยๆ ทงเฮกับฮยอกแจเองก็สบตากันไปเรื่อยๆจนถึงที่หมายเช่นกัน

     

     



     

    เวลาสามทุ่มเศษๆ รถของทงเฮก็เลื่อนมาจอดหน้าบ้านฮยอกแจ พ่อแม่ของคนตัวเล็กออกมารับและกล่าวขอบคุณทงเฮที่มาส่ง ก่อนที่เพื่อนทั้งสองจะกอดลากันเป็นครั้งสุดท้าย ทงเฮเองอยากจะทำแบบนั้นบ้างแต่ก็ไม่ได้ เลยทำได้เพียงกอดคนน่ารักทางสายตาเท่านั้น



    ครั้งหน้าเจอกันใหม่นะฮยอกแจ



    โอเค โชคดีนะยูอี ขอบคุณที่มาส่งนะครับพี่ทงเฮ เดินทางโดยสวัสดิภาพคนตัวเล็กพูดกับเพื่อนรักจบก็หันไปพูดกับพี่ชายเพื่อนต่อ พยายามทำเสียงให้ดูร่าเริงแต่สายตาดูไม่ทำตามเอาซะเลย



    ครับ แล้วหวังว่าเราจะพบกันอีก



    พอจบประโยค สองพี่น้องก็พากันขึ้นรถ เดินทางกลับบ้านซักที ฮยอกแจยืนมองรถคันงามวิ่งออกไปจนลับตาจึงหมุนตัวเข้าบ้าน อาบน้ำอาบท่าดั่งเช่นทุกวัน

     

     






















     

    การพบเจอครั้งนี้ ถึงจะสั้นแต่มันก็แสนจะประทับใจ ไม่รู้ว่าจะมีโอกาสพบกันอีกรึเปล่า แต่ฮยอกแจจะไม่ลืมวันนี้แน่ๆ.........

     


















     

    Rrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrr



    คนตัวเล็กที่กำลังนอนเขียนไดอารี่เล่มเล็กดั่งเช่นที่ทำทุกวันสะดุ้งกับเสียงโทรศัพท์ จัดการวางปากกาแล้วคว้าโทรศัพท์ของตนขึ้นมา หน้าจอปรากฏเบอร์แปลกๆที่ตนไม่รู้จัก แต่มือเรียวก็กดรับทันที



    ฮัลโหล สวัสดีครับถึงเบอร์โทรจะเป็นเบอร์ส่วนตัว ที่มีเฉพาะคนคุ้นเคยเท่านั้นที่รู้จัก แต่ฮยอกแจก็เลือกที่จะพูดจาอย่างสุภาพกับคนปลายสาย เพราะยังไม่รู้ว่าเป็นใคร หากเป็นผู้หลักผู้ใหญ่แล้วเผลอพูดจาไม่ดีคงจะไม่เหมาะ



    สวัสดีครับ ฮยอกแจรึเปล่าเสียงนุ่มทุ้มดูน่าฟังที่ตอบกลับมาในโทรศัพท์ทำเอาคนน่ารักเบิกตากว้าง หัวใจเต้นแรงอย่างมีความหวัง ภาพของใครบางคนที่ตนเพิ่งเจอลอยเข้ามาในหัว แต่ก็ยังไม่กล้าทำตัวแตกตื่น เพราะบางทีอาจจะไม่ใช่อย่างที่คิด



    เค้าอาจจะคิดถึง จนเพ้อไปเอง



    ชะใช่ครับ แล้วนั่น....



    พี่เอง พี่ทงเฮไม่ปล่อยให้ลุ้นรอคำตอบนาน อีกฝ่ายก็เฉลยขึ้นมา นอกจากวันนี้ฮยอกแจจะได้รู้จักกันคำว่าประทับใจที่สุดแล้ว ยังไม่รู้จักกันคำว่าดีใจที่สุดอีกด้วย



    คะครับ พี่ทงเฮแค่นั้น ฮยอกแจพูดได้มากสุดแค่นั้นจริงๆ เพราะตอนนี้หัวใจดวงเล็กมันเต้นแรงซะจนแทบจะควบคุมไม่ได้ มือด้านนึงกำโทรศัพท์แน่น ส่วนอีกด้านก็กำหมอนที่ใกล้ๆแน่นเช่นกัน



    คิดว่าจะไม่มีโอกาสเจอ โอกาสติดต่อกันแล้วซะอีก



    คือพี่แค่จะโทรมาบอกว่าพี่ถึงบ้านแล้วนะครับ



    อ่า พี่เพิ่งถึงแต่ผมอาบน้ำเสร็จแล้ว ขอโทษนะครับ เสียเวลาเพราะผมแท้ๆฮยอกแจว่าอย่างรู้สึกผิดเมื่อหันไปมองที่นาฬิกา เกือบเที่ยงคืน เพราะเค้าแท้ๆพี่ทงเฮคงเหนื่อยแย่



    ไม่นะครับพี่ถึงซักพัก ที่โทรมาได้ไม่ได้มาพูดให้รู้สึกผิดนะ อย่าคิดแบบนั้นสิ พี่แค่จะโทรมาบอกว่า....ฮยอกแจหายใจเข้าลึกๆรอฟังคำตอบอย่าลุ้นๆ



    นี่เบอร์พี่นะครับ มีอะไรก็ติดต่อมาได้ ทั้งเรื่องเรียน แล้วก็เรื่องยูอี แล้วนี่ เบอร์ที่ฮยอกแจใช้ปกติใช่มั๊ย



                “ชะใช่ครับ



                ‘ดีเลย ถ้าพี่จะติดต่อ ใช้เบอร์นี้ได้เลยใช่มั๊ย



                “ชะใช่ครับ



                ‘แล้วถ้าพี่อยากจะจีบฮยอกแจ พี่โทรมาเบอร์นี้ได้มั๊ย



                >//////////////////<



                คนตัวเล็กกำโทรศัพท์แน่นกว่าเดิมเป็นสองเท่า แก้มแดงปรั่งยิ่งกว่าเดิม ใครจะคิดว่าพี่ทงเฮจะโทรมาพูดแบบนี้ โอ๊ย ใจมันเต้นแรงจนจะระเบิดแล้วนะ



                ‘ได้มั๊ยครับ ฮยอกแจไม่รู้ว่าอยากจะย้ำชัดๆหรืออยากจะแกล้งคนกำลังเขินกันแน่ ถึงต้องทำเสียงอบอุ่นขนาดนั้น นาทีนี้สิ่งเดียวที่ฮยอกแจทำได้คือจิกหมอน ทบทวนประโยคนั้นในหัว ก่อนจะรวบรวมความกล้าตอบออกไป



    กะก็ ถ้าไม่เปลืองตังพี่

     

     






     

    ก็ได้ครับ

     

     

     

     














     

     


















     

     จบ 55555555555555555555555

    อย่าด่าเรา จริงๆมันดูไม่ค่อยจบ แต่เราอยากจบละ งั้นจบเถอะ 555555555555

    ใครอ่านจบ ขอให้เจอแบบนี้บ้าง

     



     

    Minor!
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×