คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : ❤ SPORT DAY
SPORT DAY
เสียงร้องเพลงเชียร์ดังสนั่นไปทั่วบริเวร นักเรียนแต่ละคนอยู่ในโรงเรียนแต่ไม่แต่งชุดนักเรียนเช่นทุกวัน บางคนอยู่เสื้อกีฬาของสีตนเอง บางคนอยู่ในชุดนักกีฬา บางคนอยู่ในชุดแฟนซีของขบวนพาเหรด บางคนแต่งชุดผู้นำเชียร์ ดรัมเมาเยอร์ หรือแม้แต่คนถือป้าย
โรงเรียนสถานที่ราชการที่เคยน่าเบื่อ ถูกเนรมิตกลายเป็นสถานที่แห่งสีสันต์ สแตนธรรมดาๆที่เคยตั้งอยู่เฉยๆ ถูกเนรมิตด้วยของตกแต่งมากมายตามคอนเซ็ปของแต่ละคณะสี เหล่าคณะจารย์ที่ปกติใส่เสื้อผ้าดูเป็นทางการตีสีหน้าโหด อยู่ในชุดคอนเซ็ปสี ทิ้งคาบคนที่เคยสั่งการบ้านนักเรียนจนท่วมหัวไปเลย
ใช่แล้ว นี่คืองานกีฬาสี
กีฬาแห่งศักดิ์ศรี ที่เหล่านักเรียนจะได้ประกาศศักดาความยิ่งใหญ่
กีฬาที่ทุกสีต้องแข่งกันอย่างสมน้ำสมเนื้อ อย่าไม่มีใครยมแพ้
“นี่ถ้าไม่มาเห็นกับตานี่กูแทบจะไม่เชื่อเลยนะ ว่างานกีฬาสีโรงเรียนซานฮวาจะอลังการขนาดนี้”น้ำเสียงชื่นชมปนแปลกใจดังขึ้นจากปากผู้ชายตัวสูงโย่ง ชเว ซีวอน
“เงียบน่า ขบวนพาเหรดมาแล้ว”
ถ้าพูดถึงกีฬาสีในจังหวัดนี้ ชื่อโรงเรียนมัธยมแห่งแรกๆที่คนมักพูดถึงคงไม่พ้น งานกีฬาสีของโรงเรียนมัธยมซานฮวา ที่ไม่ว่าจะปีไหนก็ไม่เคยทำให้คนที่เข้ามาชมผิดหวัง ซ้ำยังดูยิ่งใหญ่ขึ้นทุกปี จึงไม่แปลกที่จะเปิดให้คนนอกเข้าชมความยิ่งใหญ่ และไม่แปลก ถ้าใครๆก็อยากจะมาเข้าชมงานกีฬาสีที่โรงเรียนแห่งนี้
อี ทงเฮเองก็เช่นกัน
ทงเฮนักเรียนม.ปลายปีสุดท้ายของมัธยมชานซองที่ปีนี้มีหน้าที่อันยิ่งใหญ่กับตำแหน่งผู้เชิญธงของคณะสี ก็อดไม่ได้ที่จะโดดเรียนมาเพื่อดูความเป็นมืออาชีพของผู้เชิญธงของมัธยมซานฮวา ไม่ได้มีเจตนามาลอก แต่คนมันไม่เคยเป็นเลยต้องขอมาดูเป็นวิทยาทางในงานกีฬาสีของตนเองที่กำลังจะเกิดขึ้นอีกไม่กี่อาทิตย์นี้ซักหน่อย
“หูย ดูดรัมเมเยอร์ไม้แรกดิ สวยไปไหนวะ”ส่วนไอ้เสียงที่เห่าหอนนี่ก็ไม่ใช่ใครที่ไหน ชเวซีวอนเด็กวงโยเพื่อนสนิทที่อาสามาเป็นเพื่อน ทงเฮหันไปมองตามที่ซีวอนพูด อื้ม ก็จริงแฮะ
ไม่ได้คิดไปเองนะ แต่ดูนักเรียนโรงเรียนนี้หน้าดีทุกคนยังไงก็ไม่รู้ ขบวนพาเหรดที่เดินเข้ามาในโรงเรียน ถูกนำมาด้วยวงโยธวาทิต และผู้นำวงโยธวาทิตก็ไม่ใช่ใครที่ไหน ก็คนถือป้ายและดรัมเมเยอร์ที่ซีวอนมันเอ่ยชมนี่แหละ
“เฮ้ยนี่ ดูสีชมพูดิ คอนเซ็ปเดียวกันสีเราเลย ก๊อปด่วนเลยทงเฮ”
ป๊าบ
“หุบปากซักทีเถอะมึง”อดไม่ได้ที่จะตบป๊าบลงที่กบาลมันซักที ชเวซีวอนมันพูดมากเหลือเกิน ทงเฮอยู่สีฟ้า คอนเซ็ปสีปีนี้คือโลกวรรณคดี เห็นเพื่อนๆพวกว่าจะให้พวกเดินแฟนซีแต่งตัวเป็นนางในวรรณคดีกัน ซึ่งมันก็บังเอิญตรงกับสีชมพูของโรงเรียนซานฮวาที่เดินเข้าโรงเรียนมาเป็นสีแรก
ขบวนพาเหรดของโรงเรียนซานฮวาดูสวยงานและยิ่งใหญ่จนทำให้คนมองอย่างทงเฮขนลุกไปหมด แต่ก็ยังไม่ลืมหน้าที่ของตนเองคือการคอยสังเกตการเดินของคนถือธง ซึ่งก็ไม่ได้มีอะไรยากแบบพวกดรัมเมเยอร์ ก็แค่ถือไปเดินไป ไม่มีอะไรมาก
“เหยด”เสียงเชียร์ดูจะดังขึ้นเป็นพิเศษทันทีที่ขบวนพาเหรดของสีม่วง ซึ่งเป็นสีสุดท้ายเคลื่อนขบวนพาเหรดเข้ามา มีเสียงตะโกนเรียกชื่อคนดังไปทั่วบริเวณ ซึ่งทงเฮฟังไม่ถนัดว่าชื่ออะไร
สีนี้แตกต่างจากสีอื่นตรงที่ดรัมเมเยอร์สีอื่นจะมีทั้งหญิงและชาย แต่ดรัมเมเยอร์สีม่วงมีเพียงแค่ผู้ชาย และที่เรียกสายตาทงเฮได้มากที่สุดคงจะไม่พ้นดรัมเมเยอร์ไม้หนึ่งที่มาในชุดที่สวยไม่แตกต่างจากคนอื่น แต่ความดูดีของคนๆนี้ช่างโดนเด่นแตกต่างจากคนอื่น จะว่าไป ดรัมเมเยอร์สีม่วง ดูสวยน่ามองมากกว่าดรัมเมเยอร์ไม้หนึ่งของโรงเรียนซะอีก
“นี่ทงเฮมึงดูนั่นเห็นป่ะดรัมเมเยอร์ไม้หนึ่งอะ ชื่อฮยอกแจ คนนี้พวกไอ้จงฮยอนมันชอบพูดถึงอะ เหี้ย อย่างแจ่ม นี่กูเห็นแล้วยังเคลิ้มเลย”
ฮยอกแจ ชื่อนี้อีกแล้ว ไม่คิดว่าทงเฮจะได้มีโอกาสเจอตัวจริง ทงเฮเคยได้ยินเพื่อนผู้ชายในห้องชอบพูดถึงบ่อยๆ เห็นว่าเป็นเดือนของซานฮวาที่มีคนมาจีบเยอะกว่าดาวซะอีก คนแบบนี้แล้วไม่แปลกใจเลยซักนิด ฮยอกแจอะไรนี่สวยมากจริงๆ สีม่วงที่ดูหม่นๆถ้าเทียบกับสีข้างๆคือสีเหลือง แต่ฮยอกแจกลับใส่ชุดสีม่วงได้โดนเด่นกว่าดรัมเมเยอร์สีข้างๆซะอีก
ขบวนพาเหรดของสีม่วงเคลื่อนตัวไปเรื่อยๆจนมาใกล้ๆจุดที่ทงเฮยืนอยู่ ฮยอกแจนอกจากจะสวยมากๆแล้วยังขาวมากๆจริงๆ ตอนนี้เสียงคนรอบข้างมันดังไปหมด ได้ยินคนเรียกชื่อฮยอกแจจากทั่วทุกสารทิศ ชั่ววูบทงเฮแอบเห็นดรัมเมเยอร์คนสวยมองมาทางเค้าด้วย
คนอะไรร้ายชะมัด แค่สบตาก็ทำให้คนอย่างเค้าใจเต้นได้แล้ว
หลังจากจนการเดินขบวนพาเหรดก็เป็นการแสดงเชียร์ในรอบเช้า ผู้นำเชียร์แต่ละคณะสีก็ต่างพากันออกลีลากันเต็มที่สมกับที่ซ้อมมาเป็นเวลานาน เช่นเดียวกับเหล่านักเรียนม.ต้นที่ต้องขึ้นสแตน ก็ออกลีลาการทำท่า และแปลอักษรเต็มที่ตามที่ฝึกซ้อมมา ก่อนจะเริ่มการแข่งขันต่างๆ ส่วนใหญ่ก็จะเน้นไปทางวิ่งซะมากกว่า
ทงเฮกับซีวอนเองที่นัดเพื่อนไว้ในตอนสิบโมงก็ต้องส่งสายตาล่ำลาให้สาวสวยรอบๆตัว การมาดูกีฬาสีในโรงเรียนซานฮวาวันนี้ ถึงจะเป็นเวลาไม่นาน แต่ถือว่าสุดยอดมาก
“ซีวอน กูปวดฉี่วะ รอแป๊บนะ”
“อื้ม เร็วๆนะมึง”ทงเฮบอกเพื่อนก่อนจะปลีกตัวไปเข้าห้องน้ำ
ขณะทำธุระอยู่ทงเฮก็แอบได้ยินเสียงคุยกันดังมาจากหน้าประตูห้องน้ำ ชื่อที่ได้ยินทำเอาทงเฮถึงกับขมวดคิ้ว จะใช่รึเปล่านะ
“เมื่อเช้าพี่ฮยอกแจเด่นมากเลยคะ หนูถ่ายรูปพี่ไว้เยอะเลย”
“ขอบคุณครับ”
“แล้วทำไมพี่ฮยอกแจเปลี่ยนชุดไวจังค่ะ แต่งตัวสวยทั้งทีไม่ไปถ่ายรูปเล่นแบบคนอื่นหรอ”
“พี่ร้อนหนะ ขอตัวเข้าห้องน้ำก่อนนะ”
“ค่ะ”ทันทีที่เสียงด้านนอกพูดคุยกันจบทงเฮก็รีบจัดการรูดซิบแล้วย้ายตัวเองมาล้างมือที่อ่างล้างมือแทน ได้ยินเสียงเท้าเดินเข้ามา ทงเฮเงยหน้ามองคนอีกคนจากในกระจก ใช่จริงด้วย
ดรัมเมเยอร์สีม่วง
ทันทีที่เห็นว่าเป็นใคร ทงเฮก็ก้มลงล้างมือต่อ ตอนนี้ดรัมเมเยอร์คนสวยที่ตอนแรกมาในชุดสีม่วงขาว ตอนนี้เปลี่ยนเป็นเสื้อกีฬาสีแบบธรรมดาเหมือนคนอื่น ใบหน้าที่แต่งแต้มไปด้วยเครื่องสำอางถูกล้างออกหมด ไม่แต่งก็ยังดูดี ทงเฮพยายามไม่สนใจสายตาอีกคนที่มองมา แล้วหมุดตัวออกจากห้องน้ำโดนด่วน
แต่......
“เดี๋ยวสิ”สองขาที่กำลังก้าวหยุดชะงักกับเสียงที่เอ่ยเรียก บางทีอาจจะหูฝาก หรือไม่ฮยอกแจอาจจะไม่ได้เรียกตนเอง ทงเฮจึงตัดสินใจเดินต่อ
“นายนั่นแหละนายเสื้อเทา”คราวนี้คงไม่ผิด ทั้งห้องน้ำมีแต่ทงเฮและฮยอกแจ และเค้าเองก็ใส่เสื้อเทา
“มีอะระ.....”
“ขอเบอร์หน่อยสิ”
วันนี้ทั้งวัน ทงเฮรู้สึกเหมือนคนที่วิญญาณไม่อยู่กับร่างทั้งวัน ไม่ว่าจะเดิน นั่ง หรือแม้แต่กินอะไร เหมือนมันไม่มีสติอยู่ตลอดเวลา
เพราะแม่ดรัมเมเยอร์คนสวยนั่นคนเดียวเลย
ไม่รู้ว่าเพราะอะไร ฮยอกแจอะไรนั่นถึงมาขอเบอร์เค้า แล้วมันก็แย่ที่สุดตรงที่ทงเฮไม่แน่พอจะปฏิเสธ ได้แต่ยืนทำหน้ามึนๆ จนคนตัวเล็กนั่นเหมือนจะขัดใจเลยเอาโทรศัพท์เค้าไปยิงหาเบอร์ของตนเองเลยเดินหนีไป ทิ้งให้ทงเฮค้างอยู่แบบนี้แหละ
ทงเฮสะบัดไล่ความคิดบ้าๆของตนเอง บางทีฮยอกแจแจอาจจะเห็นเค้าทำหน้ามึนๆแล้วนึกอยากจะแกล้งอาจจะไม่มีอะไร ยืนขึ้นเต็มความสูงแล้วเดินเข้าห้องน้ำหวังจะไปอาบน้ำหลังเหนื่อยมาทั้งวัน
Rrrrrrrrrrrrrrrrrrrr
เสียงโทรศัพท์ที่ดังขึ้นจากห้องนอน ทำเอาคนที่กำลังอาบน้ำวิ่งออกมารับแทบไม่ทัน
“ฮัลโหล”
‘แหมวันนี้รับเร็วนะเว้ยทงเฮ’แต่แล้วเสียงของคนปลายสาย ก็ทำเอาทงเฮอยากจะโยนโทรศัพท์ทิ้ง โทษฐานทำให้เค้ารีบออกมารับแทบตาย แต่ดันเป็นไอ้ซีวอนซะได้
เอ๊ะ ถ้าไม่อยากให้เป็นซีวอนแล้วอยากให้เป็นใครละ
บ้าไปแล้วมึง ทงเฮมึงบ้าไปแล้ว
“มีไรว่ามา อย่าพูดมาก”ทงเฮกรอกตาไปมาออย่างเซงๆกับนิสัยของเพื่อนรัก
‘โหดตลอด ใช่ซิ้ กูมันไม่ใช่สาวๆสวยๆนี่’
“หุบปากแล้วพูดธุระมา ไม่งั้นกูจะวาง กูอาบน้ำอยู่ ไม่ว่างพล่าม”
‘โอเคๆ กูเคจะโทรมาบอก ว่าพรุ่งนี้ยูรินัดทำอุปกรณ์สิบโมง ห้ามช้า’
“เออ”
ติ๊ด
อี ทงเฮเป็นผู้ชายที่ไร้มารยามในการคุยโทรศัพท์มากที่สุดในโลกกดวางสายซีวอนอย่างไม่แยแส นี่เค้ารีบออกมารับโทรศัพท์แต่กลับโดนใช้ให้ไปทำอุปกรณ์เชียร์ นี่มันแย่ชะมัด ทงเฮกำลังจะเดินกลับไปอาบน้ำอีกครั้ง แต่ก็ต้องชะงักเมื่อได้ยินเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นเป็นรอบที่สอง
Rrrrrrrrrrrrrrrr
ซีวอน มึงไม่จบใช่มั๊ย
“กูรู้แล้ว มึงจะพูดเหี้ยอะไรเยอะแยะว่ะ เหี้ย กูจะรำคาญมึงละนะซีวอน”ทงเฮใส่ไม่ยั้ง ซีวอนเพื่อนเค้ามีนิสัยเหมือนโรคจิต ชอบพูดมาก ชอบโทรจิกทุกคน
‘อ่า อย่าเพิ่งดุกันสิ’เสียงหวานเอ่ยบอกเบาหวิว ทงเฮคิ้วกระตุก นี่ไม่ใช่เสียงซีวอนแน่ๆ ผละออกมาดูเบอร์ ไม่คุ้นเลยซักนิด
“ใคร?”ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าตอนถาม ทงเฮใจเต้นจนแทบจะระเบิด รู้สึกมีความหวังแปลกๆ แต่เค้าหวังอะไรอยู่ อันนี้ก็ไม่รู้ตัวเองเหมือนกัน
‘ทำไมนายลืมเร็วจัง เราเพิ่งเจอกันวันนี้เองนะ’ยิ่งได้ยินคำตอบทงเฮยิ่งใจเต้นแรง เพิ่งเจอกัน วันนี้ทงเฮเจอคนเยอะแยะไปหมด แต่หนึ่งในคนที่ทงเฮนึกเห็นหน้า ก็คงไม่พ้นดรัมเมเยอร์สีม่วงของมัธยมซานฮวา
“นี่ อย่าเล่นน่า ตกลงว่าใคร”ทำเสียงดุ ทั้งทีใจมันเต้นรัว
‘ฉันฮยอกแจ คนที่ขอเบอร์นายไปเมื่อตอนเช้า ที่ห้องหน่ะ นายยุ่งอยู่หรอ ขอโทษที่โทรมากวนนะ งั้นวางก่อนก็ได้ ขอโทษจริงๆนะ.........’
“ไม่ได้ยุ่งอย่าวางนะ!!”อยากจะตบปากตัวเองแรงๆ นี่เค้าเผลอตะโกนใส่คนน่ารักไปได้ยังไง แล้วนี่พูดไปได้ยังไงว่าว่าง เค้ยังอาบน้ำไม่เสร็จเลยนะ
‘เอ่อ’
“โทษที เมื่อกี้ฉันดุแมวนะ”เป็นการแถที่ไม่เข้าถ้าเลยซักนิด แล้วนี่เค้าไปเพราะอะไร อยากคุยกับฮยอกแจนานๆหรอ
‘แล้วนายชื่ออะไร’
“ทงเฮ อีทงเฮ แล้วว่าแต่นายมีอะไรรึเปล่า ขอเบอร์ฉันไปทำไม?”
‘อ่า’อยากจะตบปากตัวเองแรงๆ นี่เค้าเผลอถามคำถามอะไรออกไป ถามแบบนี้มันเหมือนไม่อยากคุยเลยซักนิด แต่ทำไงได้ละ ความอยากรู้มันมีมากกว่านี่
“ฉันแค่ถามนะ อย่าไปคิดอะไรมาก”
‘ฉันไม่ได้ว่าอะไรนี่ เป็นใครก็แปลกใจ อยู่ๆใครก็ไม่รู้ขโมยเบอร์ไปแถมยังโทรมาหาแบบนี้อีก’
“.........”
‘จริงๆจะบอกว่าตอนฉันเดิน ฉันเห็นนายยืนมองอยู่ฉันเลยหันไปมอง’คงเป็นตอนที่เค้านั้นแน่ๆ ตอนที่ฮยอกแจหันมามอง นี่เผลอจ้องมากไปจนโดนจับได้ล้วใช่มั๊ย
“คือฉัน”
‘ตอนนั้นฉันเสียสมาธิมากเลยนะ เกือบจะเดินผิด ยิ่งตอนโดนไม้นะ ภาพตอนที่นายมองมันก็ลอยเข้ามา ฉันเกือบจะพลาด เพราะนาย’นี่คนน่ารักคนไม่ได้ขอเบอร์เค้าเพื่อจะโทรมาด่าใช่มั๊ย
“.........”
‘รู้มั๊ยทำไม แววตานายมันไม่เหมือนคนอื่น ฉันชอบเวลานายมอง’
“หมายความว่าไง?”
‘ฉันไม่ได้เว่อร์นะ ถึงเราจะเคยเจอกันแค่ครั้งเดียวแล้วก็แค่แป๊บเดียว แต่ฉันก็รู้สึก ว่าฉัน....’
‘ชอบนาย’
ฮยอกแจ เป็นคนที่น่ากลัวที่สุดในโลก คือความคิดของทงเฮในตอนนี้ ตอนนี้ทงเฮกำลังเรียนวิชาประวัติศาสตร์เกาหลีอยู่ แต่ความรู้ก็ดูจะไม่ได้เข้าหัวเลยซักนิด ทั้งง่วงทั้งเบลอ ที่เป็นแบบนี้เพราะเมื่อคืนทงเฮไม่ได้นอนเลยทั้งคืน สาเหตุก็ไม่ใช่ใครที่ไหน
ฮยอกแจ
เค้าเอาแต่คิดถึงคำพูดของฮยอกแจซ้ำแล้วซ้ำเล่า ไม่รู้จะขำหรือยังไงดี ทงเฮผู้ชายธรรมดาๆโดนฮยอกแจหนุ่มน้อยสุดฮอต เดือนมัธยมซานฮวาบอกชอบ นี่มันจะตลกไปรึเปล่า
“ทงเฮ เป็นไรวะมึง เหม่อทั้งวันเลย”เป็นเพื่อนซี้คนเดิมที่ถามถึงอาการของทงเฮ ทงเฮส่ายหน้าบอกกับซีวอนว่าไม่เป็นไร ก่อนจะหันออกไปนอกหน้าต่างต่อ
ใช่ว่าจะไม่เคยมีคนมาบอกชอบ ถึงทงเฮจะไม่ได้เด่นไม่ได้ดังอะไร แต่ก็มีคนชอบอยู่ไม่น้อย แต่ไม่เคยมีใครน่ารักเท่าฮยอกแจซักคน แถมไม่เคยมีใครทำให้ทงเฮเป็นแบบนี้ได้เลยซักคน ฮยอกแจชักจะร้ายเกินไปแล้ว
ติ๊ด
ฮยอกแจ
อรุณสวัสดิ์ตอนบ่ายๆ ทำอะไรอยู่ คิดถึงนายจัง > <
“แม้ง”ไม่อยากจะคิดหน้าตัวเองตอนนี้เลยซักนิด ผู้ชายกล้ามโตๆกำลังเขินเนี้ยนะ รับไม่ได้เลยวะ
“ยิ้มไรวะทงเฮ แล้วเมื่อกี้อะไร ใครส่งข้อความมา”
“อย่ายุ่งน่า”
จากวันนึง
สองวัน
สามวัน
หนึ่งอาทิตย์
หนึ่งเดือน
จนตอนนี้เข้าเดือนที่สองแล้ว ที่ฮยอกแจคอยโทรมาหา ส่งข้อความ หรือคุยไลน์กับทงเฮ มันถือว่าไม่ได้แย่เลยสำหรับคนที่เคยเจอกันแค่ครั้งเดียว
ทุกครั้งที่ฮยอกแจโทรมา ฮยอกแจจะบอกกับทงเฮเสมอว่าโทรมาจีบ แล้วการจีบของฮยอกแจก็ดูจะแปลกๆไปซักนิด เพราะนอกจากคำว่าคิดถึง กับชอบ ฮยอกแจก็ไม่เคยหยอดคำหวานอะไรกับทงเฮเลย ซึ่งทงเฮก็คิดว่าดีแล้ว ถ้าผู้ชายตัวโตๆแบบเค้าต้องมาโดนคนตัวเล็กน่ารักแบบนั้นหยอดคำหวานมันคงแปลก ของแบบนั้นมันต้องเป็นหน้าที่ทงเฮมากกว่า
ทุกครั้งที่ฮยอกแจโทรมา สิ่งที่ฮยอกแจจะพพูดก็ไม่มีอะไรมาก ทงเฮทำอะไรอยู่ว่างคุยรึเปล่า ถ้าว่างก็ยาว ฮยอกแจเป็นคนขี้บ่นคนนึงเลย ชอบมาบ่นเรื่องเพื่อน เรื่องโน่นเรื่องนี้ให้ฟัง ซึ่งแทนที่ทงเฮจะรำคาญคนขี้บ่น แต่ทุกอย่างมันกลับตรงข้าม บางวันฮยอกแจจะสอบย่อย ก็จะโทรมาให้ทงเฮติวให้ ติวทางโทรศัพท์
คุยกันมากๆจนเป็นนิสัย ทุกวันนี้วันๆทงเฮก็ไม่ทำอะไร รอโทรศัพท์ฮยอกแจอย่างเดียว อาจจะดูไม่แมนที่ให้ฝั่งโน้นโทรหาก่อน แต่สถานะตอนนี้คือฮยอกแจจีบทงเฮ เพราะฉะนั้นให้ทงเฮโทรหาก่อนก็เสียฟอร์มแย่สิ แบบนี้แหละดีแล้ว
ฮยอกแจ
ถึงร้านรึยังทงเฮ ไม่ให้เราไปช่วยเลือกจริงหรอ วันนี้เราเลิกเร็วนะ
ทงเฮ
ไม่เป็นไร เรามีเพื่อนช่วยเลือกแล้ว
ฮยอกแจ
โอเค เสร็จแล้วถ่ายรูปมาให้เราดูด้วยนะ
ทงเฮอมยิ้มเล็กน้อย ก่อนจะเก็บโทรศัพท์เข้ากระเป๋า วันนี้เค้าบอกฮยอกแจว่าจะไปลองชุดวันกีฬาสีที่จะเกิดขึ้นในอีกประมาณสองวัน แต่ความจริงแล้วไม่ใช่เลย ถือธงใส่ชุดนักกีฬาเหมือนกันทุกสีจะลองทำไม ความจริงแล้วทงเฮกำลังไปหาฮยอกแจตะหาก
วันนี้ทงเฮมาโรงเรียนตามปกติ แต่ได้ยินซีวอนมันพูดเรื่องกีฬาสีของซานฮวาที่ไปดูมาด้วยกัน วันนี้เป็นวันที่ 16 ครบรอบหนึ่งเดือนพอดีที่ทงเฮคุยกับฮยอกแจ อารมณ์เหมือนครบรอบเป็นแฟนกัน ทงเฮเลยอยากจะมาหาฮยอกแจซักหน่อย อีกอย่างตั้งแต่ตอนนั้นเราก็ยังไม่ได้เจอกันอีกเลย คนคุยกันแทบจะตลอดเวลา แต่ไม่ได้เจอกันเลย มันแปลกๆอยู่นะ
ทงเฮนั่งรถเมล์มาถึงหน้าโรงเรียนของฮยอกแจซึ่งอยู่ไกลจากทงเฮพอสมควร จัดการแลกบัตรเข้าโรงเรียน โรงเรียนฮยอกแจเป็นโรงเรียนขนาดใหญ่ คนนอกสามารถเข้าได้ ต่างจากโรงเรียนทงเฮที่ห้ามคนนอกเข้า ทงเฮจัดการเดินไปตามทางที่ตามนักเรียนแถวนั้นมา ฮยอกแจบอกว่าเลิกเรียนแล้ว แต่ทำเวรอยู่ห้องญี่ปุ่น
“อะไรกันฮยอกแจ พูดกับพี่ดีๆสิ ทีกับไอ้คนในโทรศัพท์ละยิ้มน้อยยิ้มใหญ่”เสียงจากด้านในห้อง ทำเอาทงเฮชะงัก ถ้าได้ยินไม่ผิด ชื่อที่ได้ยินคือชื่อของคนที่เค้ามาหา
“พี่ชานมงอย่าเข้ามา ฮยอกแจจะทำเวร”เสียงโวยวายที่ดังขึ้นทงเฮจำได้ดีว่าคือเสียงฮยอกแจ
“โถ่ อย่าใจร้ายกับพี่นักสิฮยอกแจ”
“ถ้าพี่เข้ามาฮยอกแจจะโกรธจริงๆด้วย”
ปัง!!!!
ฮยอกแจร้ายกาจมากจริงๆ ร้ายกาจที่ทำให้ทงเฮรู้สึกห่วงได้มากขนาดนี้
ตอนนี้ทั้งทงเฮและฮยอกแจกำลังนั่งกินไอศกรีมกันอยู่ในร้านไอศกรีมใกล้ๆโรงเรียนฮยอกแจ ที่ฮยอกแจบอกว่าเป็นร้านโปรด ทงเฮกำลังนั่งทำหน้าไม่พอใจ ส่วนฮยอกแจก็ก้มหน้าก้มตากินไม่ได้สนใจอะไรเลย
เหตุการณ์เมื่อกี้คือทงเฮกระโดนถีบประตูเข้าไปสุดแรงเพราะเป็นห่วงคิดว่าฮยอกแจโดนทำร้าย ที่ไหนได้ฮยอกแจกำลังซ้อมบทละครเวทีกับเพื่อนตั้งห้า หกคน ที่สำคัญไอ้คนที่ทำเสียงเหมือนกำลังจะลวนลามฮยอกแจมันเป็นตุ๊ด สาวซะยิ่งกว่าฮยอกแจซะอีก
“ทำไมทำหน้าบึ้งแบบนั้นหละ ไม่อร่อยหรอ”ทงเฮหลุดจากภวังค์หันมามองคนตัวเล็กที่ถามมาด้วยหน้าตาน่ารัก นี่โกรธอยู่ยังมาทำหน้าตาน่ารักอีกนะ
“ฉันโกรธนะ นายทำให้ฉันเป็นห่วง”คำพูดตรงๆของทงเฮทำให้ฮยอกแจอดจะยิ้มจนตาหายไม่ได้ มาโกรธกันได้ไง เค้าสิต้องโกรธที่โดนทงเฮหลอก แต่ไม่เป็นไร รู้ว่าทงเฮห่วง ฮยอกแจก็ดีใจ
“ไม่ต้องห่วงหรอกน่า ฉันไม่ยอมให้ใครทำอะไรหรอก ฉันนะ จะดูแลตัวเองไว้รอให้ทงเฮทำคนเดียวแหละ”
“ฮยอกแจ”ทงเฮเงยหน้าขึ้นมามองฮยอกแจแทบไม่ทัน รู้สึกหน้ามันร้อนขึ้นยังไงก็ไม่รู้
ชักจะตรงไปแล้วนะฮยอกแจ
“ไม่เห็นต้องทำหน้าแบบนั้นเลย พูดเล่นน่า”
“เฮ้อ”โล่งอก
“แต่ถ้าทงเฮจะทำจริงฉันก็พร้อมนะ *3*”
กินไปคุยไป ไม่สิ จะพูดให้ถูกต้องบอกว่าฮยอกแจกินคนเดียวส่วนทงเฮนั่งมอง จนตอนนี้เป็นเวลาทุ่มกว่าแล้ว ฮยอกแจบ่นว่ายังไม่อยากกลับ นานๆเจอกันทีไปเดินเล่นด้วยกันก่อน ทงเฮก็ตามใจ ตอนนี้ทั้งสองเลยเดินเล่นอยู่ที่ริมแม่น้ำแถมๆโรงเรียนฮยอกแจ
“ฮยอกแจมาที่นี่บ่อยหรอ”น้ำเสียงสบายๆถูกถามออกไป คนตัวเล็กหันมาส่งยิ้ม พยักหน้าน้อยๆก่อนจะหันไปมองแม่น้ำต่อ
“เมื่อก่อนหนะ เดี๋ยวนี้ไม่ค่อยได้มาหรอก”
“ทำไมละ ที่นี่ดูสบายดีนะ”ทงเฮพูดไปตามที่คิด ไม่คิดว่าแถวโรงเรียนฮยอกแจจะมีที่แบบนี้ด้วย เหมือนจะเป็นแม่น้ำแต่ไม่ใช่ คล้ายเป็นที่ที่ไว้ให้มาเดินเล่นผ่อนคลายเหมือนสาธารณะอะไรพวกนี้มากกว่า
“ช่วงหลังๆยุ่งเรื่องกีฬาสี พอจบกีฬาสีก็มีงานเลือกประธานสีรุ่นหน้า นี่กำลังจะมีงานละครเวทีต่ออีก หาเวลาแทบไม่ได้เลย อีกอย่าง เห็นพวกนั้นมั๊ย”มือเล็กชี้ไปที่ผู้ชายกลุ่มหนึ่งที่กำลังนั่งสูบบุหรี่อยู่
“อื้ม ทำไมหรอ”
“เห็นคนที่ทำผมตั้งๆป่ะ รุ่นพี่ที่โรงเรียน ครั้งล่าสุดที่ฉันมาเค้ามาบอกชอบฉัน แถมชอบแอบมองด้วย ฉันไม่ชอบเลยไม่ค่อยได้มา”ทงเฮมองไปที่ไอ้คนนั้นอีกครั้ง ตอนนี้คนผมตั้งที่ฮยอกแจว่ากำลังมองมาทางเค้าทั้งสอง
สงสัยที่ฮยอกแจว่ามันจะจริง
“แล้วนี่เค้าจะโกรธจนตามฆ่าฉันรึเปล่า”ทงเฮพูดติดตลก
“ไม่รู้สิ อาจจะนะ แต่ทงเฮก็อย่ายอมนะ ห้ามตายด้วย ฉันไม่กลายเป็นหม้าย”
“แก่แดกจริงๆ”ทงเฮอดจะบีบจมูกอีกคนด้วยความหมั่นเขี้ยวไม่ได้ และคำตอบที่ได้กูคือสายตาค้อนๆแต่น่ารักน่าหยิก
ทงเฮกับฮยอกแจเดินกันไปเรื่อยๆจนมาหยุดที่ม้านั่งตัวเล็กพอดีสำหรับคนสองคน ปกติโดนนิสัยทงเฮไม่ชอบอะไรแบบนี้เลยซักนิด เดินเล่นชมธรรมชาติ มันไม่ใช่เค้าเลย แต่ครั้งนี้รู้สึกชอบมากๆ เพราะตนข้างๆรึเปล่านะ
“ฮยอกแจมีคนมาชอบเยอะมากเลยหรอ”ทงเฮเอ่ยถามคนข้างๆที่นั่งมองโน่นมองนี่ไปเรื่อย
“อ่า ก็ไม่รู้สิ อาจจะเยอะมั้ง เพื่อนบอกว่าเยอะ แต่ฉันไม่ได้รู้สึกอะไร มันชินแล้วหน่ะ”คำตอบของฮยอกแจทำให้ทงเฮครุ่นคิด ไม่น่าถามอะไรโง่ ขนาดที่โรงเรียนเค้าคนยังชอบฮยอกแจเยอะขนาดนั้น แล้วคนโรงเรียนเดียวกันที่ได้ใกล้ชิด ได้รู้นิสัยของคนๆนี้จะไม่ชอบได้ยังไง
“...........”
“ทงเฮถามทำไมหรอ”
“ก็แค่สงสัยหนะ”
“สงสัยอะไร”
“สงสัยว่าทำ ฮยอกแจมีคนชอบตั้งเถอะ ถึง..เอ่อ”
“ถึงชอบทงเฮ?”
“อื้ม ใช่”ความเงียบปกคลุมทันทีที่ทงเฮพูดจบ นี่คือสิ่งที่เค้าสงสัย ไม่ใช่ว่าเพิ่งสงสัย แต่สงสัยนานมาแล้ว ฮยอกแจน่ารัก สดใส ใครๆก็ชอบ แล้วทงเฮละมีอะไร มีอะไรดีให้ฮยอกแจมาชอบ
“ต้องมีเหตุผลด้วยหรอ แค่รู้ฉันชอบมันก็น่าจะพอแล้วนะ ฉันไม่รู้หรอกว่าทำไมถึงชอบทงเฮ ฉันแค่รู้ว่ามีทงเฮแล้วฉันรู้สึกมีความสุข แค่นี้พอให้ฉันชอบทงเฮได้รึยัง”
สี่ทุ่ม
ฮยอกแจกับทงเฮนั่งคุยกันจนถึงสี่ทุ่ม หลังจากทงเฮได้คำตอบที่พอใจ ก็พาฮยอกแจเปลี่ยนเรื่องไปคุยกันเรื่องอื่น ตั้งแต่เรื่องเรียนไปถึงเรื่องทงเฮถือธง จนทงเฮเห็นว่าเค้าทั้งสองสมควรที่จะกลับบ้านได้แล้ว จึงเดินมาส่งฮยอกแจที่บ้าน
“นี่บ้านฮยอกแจหรอ”สองคนที่ยืนอยู่หน้าบ้านสีฟ้าหันมามองหน้ากัน ฮยอกแจพยักหน้าแล้วส่งยิ้มเศร้าๆให้ ไม่อยากให้เวลาเดินต่อไปเลยจริงๆ
“ขอบคุณนะที่มาส่ง ขอบคุณที่วันนี้ทงเฮมาหาฉันด้วย ดีใจมากเลย มีความสุขที่สุดเลย ถ้าทงเฮยังไม่เบื่อคุยกับฉัน แล้วถ้ายังมีโอกาสคงได้เจอกันอีก”คนตัวเล็กพูดออกไปอย่างแผ่วเบา ทงเฮเห็นแบบนั้นได้แต่ยิ้มเอ็นดูก่อนจะยกมือขึ้นหยิกแก้มคนน่ารักไปทีนึง
“ไม่เห็นต้องทำหน้าตาน่าสงสารขนาดนั้นเลย ถ้าอยากเจอกันอีก มะรืนนี้ก็ไปงานกีฬาสีโรงเรียนฉันสิ จะได้เจอกันไง”ทงเฮพูดยิ้มๆ ได้ยินแบบนั้นฮยอกแจยิ่งหน้ามุ่ยไปใหญ่ นี่มันแย่กว่าเดิมอีก
“ได้ไง โรงเรียนทงเฮไม่ให้คนนอกเข้าไม่ใช่หรือไง ไม่เห็นต้องพูดให้ดีใจเลย เฮ้อออ ฉันเข้าใจ ฉันจะไม่งอแงแล้ว ทงเฮกลับเถอะ ฉันก็จะเข้าบ้าน”คนตัวเล็กทำหน้ามุ่ยกว่าเดิม กัดปากล่างแบบชั่งใจคิดครู่นึง ก่อนจะตัดสินใจบอกลาทงเฮ ทงเฮมองขำๆ
“ไม่เห็นต้องกลัวเลย เดี๋ยวฉันแอบพาเข้าก็ได้ จะกลัวอะไรฮยอกแจไม่ใช่คนนอกซะหน่อย”
“อย่าพูดไปเรื่อยน่าทงเฮฉันจะเข้าบ้านละ.....”
“จริงๆนะ เป็นแฟนคนถือธงมันคนนอกตรงไหน”
อ่า
“เป็นแฟนกันนะฮยอกแจ”
ก็เพราะทงเฮหล่อแล้วยังน่ารักแบบนี้ไง
ฮยอกแจถึงไปไหนไม่รอด
END
แบบว่าโรงเรียนเรากีฬาสีเพิ่งจบเลยเกิดแรงบันดาลใจขึ้น
พล็อตมั่วมาก แต่งไปคิดไป แบบว่าสมองไม่พร้อม แต่อยากแต่ง
ความคิดเห็น