ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    SF SJ } Lover Strawberry HaeeuN

    ลำดับตอนที่ #8 : ❤ LIBRARY

    • อัปเดตล่าสุด 11 ก.พ. 58
















    LIBRARY












                       ถ้าพูดถึงห้องสมุด คุณจะนึกถึงอะไร

                       หนังสือเป็บชั้นๆ ที่มากมายแต่ไม่น่าอ่าน

                       บรรณารักษ์แก่ๆ ที่ไม่น่ามอง

                       เสียงที่เสียงสงบ ที่ไม่น่าพิศมัยเอาเสียงเลย

                      

     





     

                       "คืนหนังสือช้าไปหนึ่งอาทิตย์ เอาไปดองไว้แบบนี้เธอกะจะไม่ให้ใครอ่านเลยหรือไงกัน ไม่ต้องมาทำหน้ามึน ชื่ออะไร อีทงเฮใช่มั๊ย เย็นนี้มาจัดหนังสือเลยนะ ถือเป็นการทำโทษ ถ้าไม่มานะ เธอโดนดีแน่"




                       เสียงบรรณารักษ์แก่ๆ บ่นเสียงดังจนนักเรียนที่มาใช้บริการห้องสมุดของโรงเรียนหันมองเป็นระยะ ห้องสมุดควรเป็นที่ที่เงียบเหมาะแก่การอ่านหนังสือ แต่อย่างว่าแหละ ห้องสมุดโรงเรียนต้องดังบ้างเป็นธรรมดา ยิ่งมีบรรณารักษ์โหดยิ่งกว่าครูฝ่ายปกครอง บ่นนักเรียนได้ทั้งวันแล้วยิ่งไม่ต้องพูดถึง




                       ทงเฮถอนหายใจอย่างรู้สึกอ่อนล้ายามเดินออกมาจากห้องสมุด คุณครูบรรณารักษ์รักนั่นไปเก็บกดมาจากที่ไหน ใส่เค้าเป็นชุด เล่นเอาเถียงแทบไม่ทัน แต่ถึงทันก็คงไม่เถียง เพราะตอนนั้นเค้ารู้สึกอยากจะออกไปจากห้องสมุดนี้ไวๆเหลือเกิน ก็ดูสายตาแต่ละคนที่มองเค้า




                       เฮ้อ




                       นึกแล้วก็รู้สึกเซงขึ้นมาตะหงิดๆ ที่มันเป็นแบบนี้เพราะไอ้เพื่อนบ้าชเว ซีวอนคนเดียว




                         Rrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrr





                       ซีวอน




                       นั่นไง นึกถึงก็โทรมาเลยไอ้เพื่อนเวร




                       'เฮ่ เพื่อนรัก ไงไปจีบบรรณารักษ์สำเร็จรึเปล่า'



                       "สำเร็จพ่อง ไอ้เหี้ยซีวอน ทำไมมึงไม่บอกกูว่ามึงยืมหนังสือไปเกินเวลา แล้วใช้ชื่อกูแบบนั้นกูต้องซวยมาจัดหนังสือตอนเย็นมึงรู้บ้างมั๊ย"ทงเฮใส่เป็นชุด




                       'แหมมึงก็ นิดหน่อยน่า ก็มันสำคัญนี่หว่า'



                       "สำคัญเหี้ยอะไร ตำราจีบหญิงเนี้ยนะ"



                       'โถ่มึง'




                       "หุบปาก เดี๋ยวกูจะไปจัดการกับมึง แค่นี้แหละ"



                       'ครับๆ กระผมขอโทษครับ'




                       วางสายเสร็จ ทงเฮก็ได้แต่ทำหน้าเซงกับชีวิต จะโทษใครไม่ได้นอกจากไอ้ซีวอน ที่เกิดบ้าอยากอ่านหนังสือจีบสาวปัญญาอ่อนอะไรนั่น แต่มันยืมหนังสือไปทำรายงานจนเต็มโควต้าเลยมาให้ทงเฮยืมให้แทน แล้วนี่ดันลืมคืน พอเค้าเอามาคืนก็โดนอย่างที่เห็น บรรณารักษ์โหดนี่ก็เหลือเกิน ชื่อใครคนนั้นต้องรับผิดชอบ แล้วไอ้หนังสือจีบหญิงนั่นก็เหมือนกัน มันควรจะมีในห้องสมุดโรงเรียนหรือไง





                       ให้ตายเถอะ คนหล่อเซง

     

     






     






     

                      

                       "เธอที่คืนหนังสือช้าใช่มั๊ย กำลังจะให้คนไปตามพอดี โน่นเลยไปทางโน้นเลย จัดให้เรียบร้อย หนังสือต้องเข้าชั้นทุกเล่ม หมวดหมู่ต้องให้ถูก เดี๋ยวจะส่งผู้ช่วยบรรณารักษ์ไปคุม"




                       "ครับ"ทงเฮรับคำก่อนจะเดินไปด้านในสุดตามที่บรรณารักษ์จอมโหดบอก อดจะทำหน้าหมั่นไส้กับคำพูดดคำจาคุณบรรณารักษ์ไม่ได้ สั่งๆๆๆอย่างกับคุณนาย แล้วไอ้คำว่าผู้ช่วยบรรณารักษ์นี่น่าหมั่นไส้โคตรๆ





                       ทงเฮมาหยุดอยู่หน้าชั้นหนังสือ มองหนังสือที่วางระเกะระกะอยู่ในชั้น นี่จัดทุกวันไม่ใช่หรอวะ แล้วมันนึงมันมีนักเรียนมาใช้บริการเยอะขนาดที่ทำให้ชั้นเละเทะได้ขนาดนี้เลยหรอวะ โอ๊ยย อยากจะบ้าตาย ไอ้ซีวอน เพราะมึงเลยไอ้เพื่อนเลว




                       "ต้องทำไงวะ"




                       "ก็แค่จัดหนังสือที่มันนอนๆอยู่ให้เข้าที่เข้าทาง"ทงเฮที่ยืนพูดคนเดียว สะดุ้งเล็กน้อยกับเสียงใสที่ดังขึ้นด้านหลัง หันไปมอง เป็นนักเรียนชายหน้าตาน่ารัก ตัวเล็กดูบอบบาง ดูจากดาวบนปกเสื้อก็ทำให้ทงเฮรู้ว่าเจ้าของเสียงเป็นนักเรียนรุ่นเดียวกัน ทงเฮทำหน้าประหลาดใจเล็กน้อยแต่ก็ไม่ได้พูดอะไร




                       "คุณครูบรรณารักษ์ให้ฉันมาดูนาย"คนตัวเล็กเป็นฝ่ายพูดขึ้นก่อน พอได้ยินแบบนั้นทงเฮก็พยักหน้ารับอย่างเข้าใจ ก่อนจะเดินเข้าไปที่ชั้นหนังสือแล้วเริ่มจัดให้มันเข้าที่เข้าทาง




                       พอเห็นทงเฮเริ่มทำงาน คนตัวเล็กก็เดินไปนั่งรอที่เก้าอี้ใกล้ๆ

     










     

                       "นี่ มันเรียงยังไงก็ได้ใช่ปะ"ไม่มีใครพูดอะไร จนเวลาผ่านไปทงเฮเลยถามข้อสงสัยของตนเองขึ้นมา ฮยอกแจนั่งเพลินๆสะดุ้งเล็กน้อย ก่อนจะส่ายหน้า




                       "ต้องดูตามเลขหมวดข้างๆนั่นด้วย เวลามาหาอ่านจะได้หาง่ายๆ"ร่างเล็กตอบเหมือนเป็นเรื่องคุ้นเคย ทงเฮร้องอ๋อก่อนจะจัดการกองหนังสือเหล่านั้นต่อไป

     








     

                       แต่ก็จัดไปได้ยังไม่นาน ผู้ช่วยบรรณารักษ์ตัวเองที่นั่งอยู่ที่โต๊ะก็เปลี่ยนตำแหน่งมายืนข้างๆทงเฮแทน ร่างสูงสงสัยไม่น้อยเลยหันไปมองเป็นเชิงถาม ว่าเค้าจัดอะไรผิดรึเปล่า สีหน้าของทงเฮ ทำให้ฮยอกแจยิ้มนิดหน่อย ก่อนจะหยิบหนังสือในชั้นมาแล้วเอ่ย




                       "เดี๋ยวช่วย"ทงเฮขมวดคิ้วอย่างุนงง พอเห็นแบบนั้นแล้วฮยอกแจก็อดตลกหน้าทงเฮไม่ได้




                       "ไม่ต้องงงหรอก คุณครูบรรณารักษ์ไปข้างนอกแล้ว แอบช่วยได้"ทงเฮหันไปมองตามที่ฮยอกแจพูด บรรณารักษ์จอมโหดไม่อยู่แล้วจริงๆ พอหันมา ทงเฮก็ปะทะเข้ากับรอยยิ้มสดใสของฮยอกแจ นาทีนั้นทงเฮรู้สึกเหมือนโดนแอคแทคยังไงไม่รู้






                       ถ้าคุณครูบรรณารักษ์เปรียบเหมือนแม่มดในห้องสมุด




                       ร่างบางนี่ก็คงเปรียบเหมือนนางฟ้าในห้องสมุดเช่นกัน

     

     







     

                      






                       "ขอโทษด้วยนะฮยอกแจที่วันนี้ไม่ได้อยู่ช่วยอะ เดี๋ยววันหลังทำชดเชยให้เลย"มินอาบอกขอโทษขอโทษฮยอกแจเสียงยกใหญ่ เพราะมินอากับฮยอกแจต้องทำหน้าที่ผู้ช่วยบรรณารักษ์คู่กัน แต่วันนี้ตนเองมีธุระต้องกลับก่อน




                       "ไม่เป็นไรๆ ไม่ต้องคิดมาก รีบกลับไปทำรายงานเถอะ เดี๋ยวพรุ่งนี้เจอกันนะ"




                       "จ๊ะ ขอโทษอีกทีนะฮยอกแจ เรากลับละ บาย"




                       หลังจากมินอาเดินออกไป ฮยอกแจก็จัดการพาตัวเองมานั่งหน้าเคาน์เตอร์แทน ปกติแล้วฮยอกแจกับมินอาจะแบ่งกะกัน กลางวันฮยอกแจอยู่หน้าเคาน์เตอร์ ส่วนมินอาช่วยดูแลข้างหลัง ตอนเย็นมินอาอยู่หน้าเคาน์เตอร์ ฮยอกแจดูแลข้างหลัง แต่วันนี้มินอาไม่อยู่เลยเป็นหน้าที่ของเค้าแทน




                       "โทษนะ"ฮยอกแจกำลังก้มหน้าทำงานอยู่โดนขัดด้วยเสียงนักเรียนที่มาใช้บริการยืมหนังสือ ร่างเล็กวางงานในมือเลยแล้วเงยหน้าขึ้นมามอง



                       เพื่อนคนที่โดนทำโทษเมื่อวาน




                       เห็นแบบนั้นแล้วคนมีไมตรีจิตแบบฮยอกแจก็อดจะส่งยิ้มบางๆให้ไม่ได้ แต่ไม่รู้ว่าคิดไปเองรึเปล่า ท่าทางของคนตรงหน้าดูจะทำตัวไม่ถูกเล็กน้อยเมื่อฮยอกแจยิ้มให้




                       "มายืม"คนตรงหน้าพูดสั้นๆแค่นั้น ก่อนจะยื้นหนังสือให้ฮยอกแจ ส่วนมือก็ยกขึ้นเกาท้ายทอยอย่างไม่รู้จะเอามันไปวางไว้ตรงไหน พอเห็นว่าเพื่อนมายืมหนังสือ คนมีหน้าที่อย่างฮยอกแจก็รู้หน้าที่ตัวเองดี รับหนังสือมาสแกนบาร์โค้ดเหมือนทุกที



                       "เลขประจำตัว"



                       "73798"



                       "อี ทงเฮ"



                       "หื้ม รู้จักฉันด้วยหรอ"ทงเฮถาม ทันทีที่ฮยอกแจเอ่ยชื่อออกไป เล่นเอาฮยอกแจถึงกับกลั้นขำไว้แทบไม่ได้



                       "ฉันไม่ได้เรียก แค่จะถามว่าใช่ชื่อนายมั๊ย"ฮยอกแจอธิบาย พร้อมชี้ที่คอมที่ร่างบางกำลังทำบันทึกยืมหนังสือ ไม่ถึงต้องหันหน้าคอมให้ดู แต่ก็คงพอดูออกว่าฮยอกแจกำลังทำอะไร เล่นเอาคนหน้าแตกได้แต่ส่งยิ้มเห่ยๆให้



                       "เสร็จแล้ว คืนวันนี้ 14 มิถุนานะ ส่งให้ทันกำหนดละ เดี๋ยวจะโดนจัดหนังสืออีก"ฮยอกแจส่งหนังสือคืนให้ทงเฮ ซึ่งทงเฮก็พยักหน้ารับรัวๆ ก่อนจะค่อยๆเดินออกไปช้าๆ ไม่รู้ว่าฮยอกแจคิดไปเองรึเปล่า เหมือนทงเฮไม่อยากออกไปจากตรงนี้เลย






                       แต่ที่แน่ๆที่ฮยอกแจไม่ได้คิดไปเองคือ ทงเฮน่ารักดีเนอะ

     

     





     

     






     

                       "คืนหนังสือหรอ เอาหนังสือมาสิ นาย เฮ้ ฟังกันอยู่รึเปล่า"ฮยอกแจนั่งติดกระดาษสีบอกหมวดหนังสืออยู่เงยหน้ามองไปที่เคาน์เตอร์ตามเสียงมินอา เห็นมินอากำลังพยายามจะดึงหนังสือจากนักเรียนที่ดูท่าว่าจะมาคืนหนังสือ แต่ก็จะจับหนังสือไว้ไม่ยอมปล่อย แถมตายังมองไปทางอื่นเหมือนไม่ได้สนใจมินอา




                       แล้วฮยอกแจก็คงก้มลงไปทำงานต่อ ถ้าสายตานั่นมันไม่ได้กำลังพยายามมองมาที่เค้า แล้วคนๆนั้นไม่ใช้เพื่อนคนที่โดนทำโทษวันนั้น



                       ชื่อทงเฮใช่มั๊ย น่าจะใช่มั้ง



                       "อ่อ อะนี่ๆ"พอโดนมองคืน เลยทำให้ทงเฮได้สติ เลยปล่อยหนังสือในมือให้มินอาสแกนบาร์โค้ด พอเสร็จ ทงเฮก็เดินไปด้านในห้องสมุดเพื่อไปอ่านหนังสือเล่มอื่นต่อ มั้ง

     












     

                       ไม่รู้คิดไปเองรึเปล่า แต่ตลอดการนั่งทำงาน ฮยอกแจรู้เหมือนโดนมองตลอดเวลา แล้วทุกครั้งที่เงยหน้าขึ้นไป ก็มักจะปะทะกับสายตาทงเฮที่มองอยู่ก่อนหน้าแล้ว



                       จนเวลาล่วงเลยมาถึงห้าโมงครึ่ง ห้องสมุดกำลังจะปิด ทงเฮจึงลุกขึ้นมาที่เคาน์เตอร์เป็นรอบที่สองของวัน ซึ่งตอนนั้นมินอาออกไปรับโทรศัพท์พอดี ฮยอกแจเลยมาทำหน้าที่แทน



                       "ยืม"คำพูดสั้นๆที่บอกเจตนาได้อย่างดี ฮยอกแจรับหนังสือในมือทงเฮมา เป็นหนังสือภาษาเยอรมัน ซึ่งฮยอกแจคาดว่าทงเฮคนเรียนศิลป์เยอรมันเลยอ่านเล่มนี้



                       "73798"ฮยอกแจพยักหน้ารับ รอบนี้ไม่ถามชื่อเพราะฮยอกแจจำได้แล้ว ร่างบางจัดการทำหน้าที่อย่างคล่องเคว้งจนเสร็จ แล้วจัดการส่งหนังสือคืนให้ทงเฮ



                       ทงเฮรับหนังสือไปในมือ แต่แทนที่จะเดินออกไป ร่างหนากลับยืนนิ่งไม่ขยับไปไหน การกระทำนั้นทำให้ฮยอกแจสงสัยเลยเอ่ยถามไป




                       "มีอะไรรึเปล่า"



                       "คือ จะถามว่าทำทุกวันหรอ"แต่คำพูดที่ดูไม่ค่อยเคลียร์ของทงเฮยิ่งทำให้ฮยอกแจจงหนักกว่าเดิม




                       "หมายถึงมาเฝ้าเคาน์เตอร์แบบนี้ทุกวันเลยหรอ"



                       "อ่อ ใช่ แต่เฉพาะตอนกลางวันนะ ตอนเย็นหน้าที่มินอาเค้า"ฮยอกแจว่า พร้อมชี้ไปทางมินอาที่เพิ่งเดินเข้ามา พอได้ยินแบบนั้นทงเฮก็พยักหน้ารับ ก่อนจะเดินออกไป

                      






     








                       จากวันนั้น ช่วงเวลายืมหนังสือของทงเฮก็เปลี่ยนไป จากปกติที่จะมาตอนเย็น กลายเป็นว่ามายืมและคืนตอนกลางวันที่ฮยอกแจเป็นคนเฝ้า ส่วนตอนเย็นก็แค่เข้ามานั่งเฉยๆแล้วกลับ จากวันเป็นสัปดาห์ จากสัปดาห์เดือน จนตอนนจะปิดเทอมหนึ่งแล้ว ทงเฮก็ยังคงมาห้องสมุดอย่างสม่ำเสมอเช่นเดิม




                       จากข้อสันนิษฐานวันนั้นว่าทงเฮน่าจะอยู่ศิลป์เยอรมัน ฮยอกแจก็รู้ว่าไม่ใช่ เพราะดูจากในประวัติ ทงเฮอยู่ห้อง 9 ศิลป์คำนวน ตอนแรกๆฮยอกแจก็แอบสงสัยว่าอยู่ศิลป์คำนวนทำไมอ่านภาษาเยอรมันออกด้วย




                       แต่ก็ต้องยิ่งงงไปกว่านั้น เพราะวันต่อมาทงเฮดันยืมหนังสือภาษาจีน ต่อมาก็ภาษาสเปน บางวันก็ยืมหนังสือวิทย์ เรียกได้ว่าเนื้อหาที่ยืมนี่มันดูไม่ได้มาด้วยกันเลยแม้แต่วันเดียว ที่สำคัญหนังสือทุกเล่มมันเล่มใหญ่ แต่ทงเฮเลือกคืนวันต่อวัน ทั้งๆที่เล่มนึงยืมได้ตั้งอาทิตย์นึง ฮยอกแจอดสงสัยไม่ได้ ว่าอ่านจบได้ไงทุกวัน

     

     

                       "ยืม"วันนี้ก็เป็นเหมือนทุกวัน ตอนกลางวันทงเฮมายืมหนังสือเหมือนเดิม แถมวันนี้ยืมสองเล่มด้วย



                       "73798"ไม่ใช่เสียงทงเฮแต่เป็นเสียงฮยอกแจ ที่ว่าไปก็กดเลยไป ก็ทงเฮมายืมบ่อยซะจนเค้าจำได้หมดแล้ว



                       ท่าทางจำได้ของฮยอกแจ ทำให้ทงเฮอดจะยิ้มไม่ได้ แล้วพอเห็นทงเฮยิ้ม ฮยอกแจก็ยิ้มตาม




                       ฮยอกแจจัดการลงบันทึกหนังสือเล่มแรกให้เรียบร้อยแล้วส่งคืนให้ทงเฮ แต่ก่อนจะจัดการเล่มสอง ฮยอกแจก็ดันเห็นชื่อเรื่องซะก่อน




                       คู่มือเลี้ยงเด็ก        



             

                       "เอ่อ จะยืมเล่มนี้จริงหรอ"ฮยอกแจถามออกไปอย่างมีมารยาท ถึงจะเจอกันทุกวัน แต่ก็นั่นแหละ วันนี้ละสองสามนาทีมันไม่ทำให้เราสนิทกันเหมือนเพื่อนในกลุ่มอะไรแบบนี้หรอก



                       ทงเฮขมวดคิ้วกับคำถามของฮยอกแจ ก่อนจะก้มลงมองหนังสืออีกแล้วที่ยังไม่ได้ทำรายการยืม ก่อนจะทำหน้ากรุ้มใจกับมึนของตัวเอง           



                       "เฮ้ย ไม่ต้องๆ สงสัยหยิบผิด"ทงเฮรีบปฏิเสธพัลวัน ก่อนจะคว้าหนังสือแล้วเดินออกไป ทิ้งให้ฮยอกแจนั่งขำอยู่คนเดียว

                      










                       "นั่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่คนเดียวอีกแล้วฮยอกแจ"มินอาแซวขึ้น ทำเอาฮยอกแจรีบหุบยิ้มแล้วหันไปตีหน้ามึนใส่



                       "ใครยิ้ม"



                       "แหม อย่ามาเฉไฉเลย ทงเฮนี่น่ารักเนอะ มาหาฮยอกแจทุกวันเลย"มินอาพูดอย่างหยอกล้อ ฮยอกแจทำตาลุกวาวแล้วโบกมือไปมาปฏิเสธข้อกล่าวหา



                       "ไม่ใช่ซะหน่อย เค้ามายืมหนังสือหรอก"



                       "มายืมหรอ มายืมทำไมต้องมาแต่ตอนฮยอกแจเฝ้า แล้วทำไมหนังสือที่ยืมมันดูคนละแนวเหมือนหยิบมามั่วๆแค่จะเอามาบังหน้า แล้วทำไมถึงยืมทุกวัน เล่มเก่าอ่านจบแล้วหรอ แล้วไหนจะไอ้พฤติกรรมที่มานั่งเฉยๆตอนเย็นอีก ดูก็รู้ว่ามาส่องฮยอกแจ"มินอาร่ายยาว



                       ฮยอกแจได้แต่ฟังเงียบๆไม่ได้พูดอะไร จริงๆก็อยากจะเถียง แต่ก็ไม่รู้จะเถียงทำไม เพราะในใจลึกๆก็อยากให้เจตนาทงเฮเป็นอย่างนั้นจริงๆ

     
     

     

     
     

     

     




     

                       หลังจากจัดหนังสือและปิดห้องสมุดเสร็จ ฮยอกแจกับมินอาก็แยกย้ายกับกลับบ้าน แต่ปัญหามันอยู่ตรงที่วันนี้ฝนดันตก แล้วตอนนี้ฮยอกแจก็นั่งรอให้ฝนซาอยู่ที่ป้ายรถเมล์แบบนั้นมาจะยี่สิบนาทีแล้ว




                       ตึก ตึก ตึก



                       เสียงเท้าวิ่งมาทางป้ายรถเมล์ที่ฮยอกแจ ทำให้อดจะอยากเห็นหน้ามนุษย์บ้าบิ่นที่วิ่งลุยฝนมาในเวลานี้ไม่ได้



                       "แฮ่กๆ ติดฝนอยู่จริงด้วย"มนุษย์บ้าบิ่นที่วิ่งลุยฝนเข้ามายืนหอบและพูดเสียงพึมพำที่ฮยอกแจได้ยินไม่ค่อยชัดเท่าไหร่ แล้วมนุษย์คนนั้นคือทงเฮ



                       "ทงเฮ O.O"



                       "นายโอเครึเปล่า"ทงเฮถามทั้งที่ยังดูเหนื่อยๆ ดูจากชุดที่ทงเฮใส่ มันเป็นชุดอยู่บ้าน คาดว่าคงกลับถึงบ้านไปแล้ว แล้ววิ่งกลับมาทำไม แล้วถามว่าโอเครึเปล่านี่ถามเค้าหรอ ควรถามตัวเองดีกว่ามั๊ยที่วิ่งลุยฝนมาแบบนี้



                       "นายแหละ ทำไม?"



                       "ช่างเถอะ อะนี่ร่ม"ทงเฮยื้นร่มพับมาให้ฮยอกแจ ฮยอกแจมองร่มมือแล้วยิ่งมีคำถามเพิ่มขึ้นมาอีกมากมาย มีร่มแล้วทำไมไม่กาง รีบวิ่งมาขนาดนั้นเลยหรอ แล้วเอามาให้เค้าเนี่ยนะ



                       "อย่าเพิ่งงงสิ รับไปเถอะ นี่ฉันมีอีกอัน แล้วตามมา ฝนเริ่มซาแล้ว เดี๋ยวไปส่ง"ทงเฮยังคงพูดเองเออเอง ยัดร่มใส่มือฮยอกแจก่อนจะกางร่มในมือตัวเองออก แต่พอเห็นฮยอกแจยืนนิ่ง เลยหยิบร่มฮยอกแจมากางเกงแล้วยัดใส่มือฮยอกแจ ก่อนจะเดินนำออกมา แต่ฮยอกแจก็ยังยืนเฉย ทงเฮเลยเดินกลับเขาไปจับมือฮยอกแจ แล้วออกแรงเดินนำไป



                       ฮยอกแจเดินตามเงียบๆไม่ได้พูดอะไร ถึงจะสงสัยอยู่ไม่น้อยว่าทงเฮรู้จักบ้านเค้าได้ยังไง



                       แต่ช่างเถอะ ตอนนี้ไม่มีเวลามาสนหรอก ฮยอกแจแค่กำลังรู้สึกว่า ฝนตกขนาดนี้ แต่มือทงเฮมันอุ่นดีเนอะ ถึงจะไม่ได้อยู่ในร่มคันเดียวกันแบบในหนัง แต่จับมือกันแบบนี้มันโรแมนติกกว่าในหนังสือซะอีก

     






     

     




     

                       "มายืมหรือมาคืนค่ะ"นักเรียนหญิงหน้าตาจิ้มลิ้มที่นั่งอยู่ในเคาน์เตอร์ถามทงเฮที่เอาแต่ยืนชะเง้อมองหาอะไรบางอย่าง ไม่ยอมส่งหนังสือในมือมาให้ แถมไม่ยอมบอกว่าจะมาทำอะไร



                       "พี่ค่ะ..."



                       "แล้วฮยอกแจละ"



                       "อ่อ ไม่ได้มาทำแล้วค่ะ แล้วตกลงพี่จะมะ....อ้าว"พอได้คำตอบ ทงเฮก็ไม่ได้สนใจจะยืมจะคืนอะไรอีกต่อไป ร่างหนาพร้อมกับหนังสือในมือเดินหนีออกไปปล่อยให้นักเรียนหญิงนั่งงงอยู่อย่างนั้น

     




     

                       วันนี้ทงเฮรู้สึกเฟลไม่น้อยที่ไม่ได้เจอหน้าร่างบางที่ตนชอบมอง ไม่เข้าใจคำว่าไม่มาทำแล้วค่ะของน้องคนนั้นเท่าไหร่ ทงเฮเลยคิดไปเองว่าวันนี้ฮยอกแจคงไม่ว่าง จนถึงตอนเย็นทงเฮก็กลับไปห้องสมุดอีกแล้ว แต่ก็ไม่พบวี่แววของฮยอกแจเลย

     






     














     

                       หนึ่งอาทิตย์แล้ว ที่ทงเฮมานั่งรอฮยอกแจที่ห้องสมุดทุกวัน แต่ร่างบางก็หายหน้าไปเลย ไม่ใช่แค่ฮยอกแจ แต่มินอาก็ด้วย ตอนนี้มีนักเรียนมาดูแลใหม่สองคน



                       คิดถึง อยากเห็นหน้า อยากคุย อยากถามว่าหายไปไหน ไปทำอะไร



                       คิดแล้วมันรู้สึกเหมือนจะเป็นบ้า จริงๆก็ยังอยู่โรงเรียนเดียวกัน แต่เคยมั๊ยเวลาไม่อยากเจอกลับเจอ แต่เวลาอยากเจอแทบตาย แต่แม้แต่จะบังเอิญเดินสวนกับยังไม่มี ทงเฮไม่รู้ว่าฮยอกแจอยู่ห้องไหน ไม่รู้จะไปถามใคร บ้านฮยอกแจก็เคยไปดักรอวันนึงแต่ก็มึดก่อน ที่บ้านโทรตามกลับสุดท้ายก็ไม่ได้เจอ




                       ฟ้าคิดจะเข้าข้างเค้าบ้างมั๊ยนะ



                       "อยู่นี่เอง"ทงเฮที่กำลังข่มตาหลับยกมือขึ้นลูบหัวตัวเอง ดูสิว่าคิดถึงขนาดไหน ถึงขนาดเก็บไปฝันไปเพ้อ



                       "นี่ ไม่คิดจะพูดกันหน่อยหรอ"คราวนี้ไม่ได้มาแค่เสียง ภาพฮยอกแจลอยมาอยู่ตรงหน้า ร่างบางกำลังกอดอกมองทงเฮอยู่



                       "ทงเฮ!"คราวนี้ไม่ได้มีแค่ภาพ มีเอามือมาแตะด้วย แต่เฮ้ย เดี๋ยวนะ หรือว่า



                       "ฮยอกแจ นายจริงๆหรอ"ทงเฮเด้งตัวลุกขึ้น คว้าตัวฮยอกแจมาจับไว้แล้วหมุนไปหมุนมา ใจจริงอยากจะกอดเลยด้วยซ้ำ



                       "โอ๊ย พอก่อน อย่าหมุนดิเวียนหัว"



                       "นายจริงๆด้วย"ทงเฮว่าด้วยเสียงดีใจออกนอกหน้า ใบหน้าหล่อเหลาที่มันจะส่งยิ้มสดใสให้ฮยอกแจวันนี้ดูจะยิ้มมากกว่าทุกวัน



                       "ก็ฉันนะสิ นี่ทำไมต้องดูดีใจขนาดนั้นด้วย"ฮยอกแจพูดไปกลั้นขำไป ไม่ใช่ว่าจะไม่ได้รู้ แต่อดแซวไม่ได้ เห็นน้องที่มาทำหน้าที่แทนบอกว่าพี่ทงเฮชอบมานั่งทำหน้าหงอยในห้องสมุดทุกวัน



                       คำพูดของฮยอกแจทำให้ทงเฮเงียบ ไม่ใช่โกรธแต่มันไม่รู้ว่าควรพูดอะไรต่อ พอเห็นทงเฮเงียบฮยอกแจเลยเป็นฝ่ายเอ่ยขึ้นก่อน       



                       "ฉันไม่ได้ช่วยงานที่ห้องสมุดเลย จริงๆฉันได้ทุนเลยต้องบำเพ็ญประโชยน์ ตอนนี้ชั่วโมงบำเพ็ญประโยชน์ก็ครบแล้ว เลยมีรุ่นน้องมาทำห้องสมุดแทน แต่ก็มีแวะไปช่วยดูบ้าง"ทงเฮยืนฟังฮยอกแจเงียบๆ เค้าเพิ่งรู้ครั้งแรกว่าฮยอกแจมาเป็นผู้ช่วยบรรณารักษ์เพราะทำชั่วโมงทุน แต่พอนึกๆดูแล้วไม่ใช่แค่เรื่องนี้หรอกที่ทงเฮไม่รู้ ห้องฮยอกแจทงเฮก็ไม่รู้ ชอบเค้ามาครึ่งปี ได้แค่นี้เองหรอวะ



                       เค้าใช้เวลาทบทวนตัวเองนานไปรึเปล่า ควรจะเริ่มรุกจริงจังได้แล้วรึเปล่าวะ



                       ท่าทางที่เหมือนฟังแต่ก็เหมือนกำลังคิดอะไรอยู่ของทงเฮทำให้ฮยอกแจทำตัวไม่ถูก เลยพูดต่อไป



                       "แล้วที่ฉันมาหายวันนี้ก็เพราะนายค้างส่งหนังสือของห้องสมุด ตั้งแต่...วันนี้ที่ฉันทำหน้าที่วันสุดท้าย"

                      

                       "เอ่อ ฉันมาบอกแค่นี้แหละ ยังไงก็เอาหนังสือไปคืนด้วยก็แล้วกันนะ"ฮยอกแจพูดเสียงเบาลงก่อนจะค่อยๆถอยออกมา จริงๆเค้าเอาเรื่องหนังสือเป็นข้ออ้าง แต่ดูอาการเดาไม่ถูกของอีกฝ่ายแล้วฮยอกแจก็ทำตัวไม่ถูก เลยขอถอยไปตั้งหลังก่อนดีกว่า



                       พอฮยอกแจหันหลังเดินออกไปทงเฮถึงเพิ่งนึกได้ว่าตัวเองมัวแต่คิดอะไรโน่นนี่จนทำให้ร่างบางเดินหนีไปแบบนั้น พอคิดได้ดังนั้นร่างหนาจะวิ่งตามฮยอกแจไป



                       "ฮยอกแจเดี๋ยว"ขาเรียวที่กำลังทอยเดินไปตามหาหยุดลง ก่อนจะหันกลับไปมองข้างหลัง เป็นทงเฮที่วิ่งตามมา



                       "มีอะระ......"



                       "จริงๆที่ฉันไปห้องสมุดทุกวันฉันไม่ได้อยากไปยืมหนังสือหรอก ฉันไม่เคยสนใจจะอ่านมันเลยด้วยซ้ำ มันก็แค่ข้ออ้างของคนขี้ขลาด จริงๆแล้วฉันอยากไปหานาย ไปนั่งมอง ไปอยู่พูดคุย ถึงจะได้พูดแค่คำว่ายืมแล้วก็เลขประจำตัวก็เถอะ"



                       พอมาถึง ทงเฮก็ร่ายยาวจนฮยอกแจเองยังตกใจ ร่างบางตัวแข็งนิ่งเหมือนโดนสต๊าฟไว้ รู้สึกว่าใบหน้ามันร้อนๆ ป่าวนี้แก้มเค้ามันต้องกลายเป็นสีแดงแล้วแน่ๆ



                       "แต่พอรู้ว่านายจะไม่มาเป็นเจ้าหน้าที่ที่ห้องสมุดเลยฉันรู้สึกเหมือนทางกำลังตันเลย ทั้งๆที่กำลังคิดว่าจะเริ่มจีบอย่างจริงจังแท้"คำสารภาพที่ค่อยๆหลุดออกมาทำให้คนน่ารักเริ่มยืนไม่อยู่ มือบางๆผสารกันแน่นแบบไม่รู้ว่าจะวางมันไว้ตรงไหน สายตาก็มองทาทีมุ่งมั่นของทงเฮอย่างเขินอาย






















                       "ถ้าไม่ลำบากฉันขอเบอร์นายได้มั๊ย ถือว่าเพิ่งช่องทางในการจีบให้ฉันก็ได้"

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

                       ฟอด



                       "อื้อ อะไรเนี้ย"ร่างบางนุ่มนิ่มที่นอนฟุบหลับอยู่บนโต๊ะในหอสมุดของคณะร้องโวยวายเบาๆเมื่อโดนขโมยหอมแก้มตอนหลับ



                       "ก็ปลุกไง"จอมโจรขโมยจุ๊บตอบหน้าตา เห็นแบบนั้นฮยอกแจอดจะตีแขนล่ำๆนั่นไปด้วยความหมั่นไส้ไม่ได้เลย



                       "ทะลึ่ง แล้วนี่เรียนเสร็จแล้วหรอ"



                       "ครับผม พอเรียนเสร็จก็รีบมาเลย กลัวคนน่ารักจะรอนาน"พอโดนชมว่าน่ารักก็ไม่วายฟาดแขนคนชมอีกที ไอ้อาการเขินแล้วตบตีนี่แก้ไม่หายจริงๆ



                       "แล้วรู้ได้ไงว่าอยู่ที่นี่ ยังไม่ได้บอกเลย"



                       "จะไม่รู้ได้ไง ก็ฮยอกแจของผมชอบห้องสมุดจะตาย ก็ตอนมัธยมได้ข่าวว่าพบรักกับแฟนที่ห้องสมุดไม่ใช่หรอ ถ้าให้เดานะ แฟนฮยอกแจต้องหล่อมากแน่เลย"



                       "แหวะ"ฮยอกแจแกล้งทำหน้าจะอ้วกทันทีที่ได้ยิน แฟนเค้าก็ตัวเองไม่ใช่หรือไง



                       คนอะไร หลงตัวเองชะมัด

                      





     

     

                       ถ้าเป็นเมื่อก่อน เวลามีคนถามผมว่า ถ้าพูดถึงห้องสมุด คุณจะนึกถึงอะไร 

                       ผมคงตอบไปว่า
                       หนังสือเป็บชั้นๆ ที่มากมายแต่ไม่น่าอ่าน

                       บรรณารักษ์แก่ๆ ที่ไม่น่ามอง

                       เสียงที่เสียงสงบ ที่ไม่น่าพิศมัยเอาเสียงเลย

                       แต่ถ้าถามตอนนี้ เวลาพูดถึงห้องสมุด ผมนึกถึงแต่ ฮยอกแจ

     






     






    จบเถอะ อารมณ์ไม่มีแต่อยากแต่ง ดีบ้างไม่ดีบ้างเนอะ 55555555555555
     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×