คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : คุณหนูขี้วีน กะ บอดี้การ์ดปากร้าย ตอนที่ 2
คุณหนูขี้วีน – นายน้อยจอมเหวี่ยง
“คุณป๋าอยู่ไหน” แทยอนถามกับแม่บ้าน เมื่อเธอและน้องชายกลับมาถึงบ้านแล้ว
“ท่านอยู่ในห้องทำงานค่ะคุณหนู” แม่บ้านตอบเสียงสุภาพ พร้อมกับก้มหน้าลงทันทีที่ตอบคำถามจบ ก็ใครจะกล้ามองล่ะ หน้าตาแต่ละคนพร้อมอาละวาดมาก
“ไปแบมแบม”
“จัดให้” สองพี่น้องมุ่งหน้าสู่ห้องทำงานของผู้เป็นพ่อทันที ตามมาด้วยสองบอดี้การ์ดหนุ่มรูปงาม ที่ตามมาทันพอดี
“แทบอกแล้วไงว่าไม่เอาบอดี้การ์ดน่ะ ทำไมคุณป๋าไม่เข้าใจ” ไม่มีการเคาะประตูใดๆทั้งสิ้น เปิดประตูได้คุณหนูใหญ่แห่งตระกูลคิมก็โพล่งใส่คนเป็นพ่อทันที
“นั่นสิ แบมบอกแล้วว่ามันไม่จำเป็น ทำไมคุณป๋าไม่ฟังบ้างล่ะครับ เราสองคนโตแล้วนะ ไม่ใช่เด็กที่ต้องมีคนคอยติดตามน่ะ” แบมแบมเองก็ไม่ต่างจากพี่สาวเลย ตอนนี้พร้อมเหวี่ยงมากนะ
“ไม่คิดจะเคาะประตูกันหน่อยหรือไงคุณหนูทั้งสอง มีมารยาทหน่อยสิครับ พ่อแม่ก็สั่งสอนไม่ใช่หรอ” ประมุขใหญ่แห่งตระกูลคิมเอ่ยเสียงเรียบ มองลูกชายลูกสาวด้วยใบหน้านิ่งๆ กับคำถามที่ทำให้แทยอนและแบมแบมหน้าบูดหนักขึ้นไปอีก
“มีเวลาสอนด้วยหรอครับ”
“แบมแบม ป๋าว่าเราต้องไปเรียนมารยาทใหม่จริงๆแล้วล่ะ”
“โอ๊ยย แบมไม่รงไม่เรียนอะไรทั้งนั้นแหล่ะ แล้วก็ช่วยยกเลิกสัญญาบอดี้การ์ดอะไรนี่ให้ด้วย แบมไม่เอา!”
“โอ๊ยย หยุดเถียงกันสักที แล้วที่แบมแบมบอกก็ช่วยจัดการให้พวกเราด้วยนะคะ แทกับน้องไม่ต้องการบอดี้การ์ดอะไรทั้งนั้น!”
“คำสั่งป๋าถือเป็นสิทธิ์ขาดในบ้านหลังนี้! ใครที่ป๋าเห็นสมควรว่าไม่จำเป็นต้องมีบอดี้การ์ดแล้วเท่านั้นถึงจะยกเลิกสัญญาได้” ประมุขของบ้านเอ่ยเสียงดังฟังชัด และน้ำเสียงที่เด็ดขาดนั่นก็ทำให้สองพี่น้องถึงกลับต้องหยุด สีหน้าและท่าทางที่ไม่พอใจสุดๆของลูกทั้งสองทำให้คนเป็นพ่อถึงกับปวดหัวและก็คิดหนักไปถึงสองบอดี้การ์ดมือดีที่คุณพ่อของเจสสิก้าแนะนำมาให้ว่าจะรับมือกับสองคนนี้ไหวหรือเปล่า
“แยกย้ายกันไปพักผ่อนได้แล้ว ป๋ามีงานต้องทำ” เมื่อคนเป็นพ่อพูดชัดแล้วพวกเขาก็ไม่จำเป็นต้องเถียงอะไรอีก แต่จะทำตามไหมนั่นมันก็เรื่องของพวกเขาเหมือนกัน สองพี่น้องทำท่าจะเดินออกจากห้องทำงานของคุณป๋าแต่ก็ต้องหยุดชะงักกับคำพูดของท่าน
“อ้อ ไปทำความรู้จักกับบอดี้การ์ดส่วนตัวด้วยล่ะ แล้วก็ไม่ต้องให้พูดซ้ำนะ!”
“อยากรู้จักจนตัวจะสั่นแล้วครับ” แบมแบมเอ่ยแกมประชดเสร็จสองพี่น้องก็พากันออกจากห้องทำงานของคุณป๋าไป เดินมาจนถึงห้องโถงรับแขกขนาดใหญ่ของบ้านก็พบเข้ากับคนที่ทำให้พวกเขาหัวเสียอยู่ตอนนี้ ทั้งคู่เลย
“ยังอยู่อีกหรอ บ้านช่องไม่กลับล่ะ” แบมแบมถาม ก่อนจะปรายตามองไปทางมาร์ค คนนี้ละมั้งไม่ค่อยอยากจะจำเท่าไหร่
“ก็นี่แหล่ะครับบ้านของพวกเรา” มาร์คตอบ โดยที่ไม่ได้หลบสายตาของแบมแบมอย่างที่คนเป็นลูกน้องควรจะทำ แต่เขาไม่ใช่ เขาเป็นบอดี้การ์ดส่วนตัว จำไว้
“หมายความว่ายังไง” แบมแบมถามอย่างไม่เข้าใจ ในขณะที่พี่สาวและบอดี้การ์ดอีกคนกำลังจ้องหน้ากันอย่างเอาเป็นเอาตาย เรียกว่าถ้ามีมีดคงแทงกันตายไปแล้วล่ะ
“ก็นายใหญ่ให้พวกเราสองคนย้ายเข้ามาอยู่ที่นี่แล้ว นับจากวันนี้เป็นต้นไป ที่นี่ก็คือบ้านของพวกเราครับนายน้อยแบมแบม” มาร์คตอบคำถามอย่างฉะฉาน จนคนฟังนึกหมั่นใส้หนักเข้าไปอีก
“มั่นหน้ามากที่กล้าพูดว่าบ้านของพวกเรา พวกนายแค่คนอาศัยต่างหาก” แบมแบมแขวะคนหน้าหล่อกลับ โดยไม่ได้สนใจว่าคำพูดของเขานั้นมันจะทำร้ายจิตใจของใครแค่ไหน ก็นี่ไม่ใช่บ้านพวกนายจริงๆนี่นา มาร์คชะงักไปเล็กน้อยกับคำพูดของคนตัวเล็กกว่า แต่ก็ไม่ได้ใส่ใจมากนัก เพราะรู้อยู่แล้วว่าเจ้านายคนใหม่ของตนนิสัยเป็นอย่างไร
“ครับ คนอาศัยก็คนอาศัยครับ เชิญนายน้อยไปนอนได้แล้วนะครับ”
“ฉันไม่ใช่เด็ก ไม่ต้องมาสั่ง!” แบมแบมมองหน้ามาร์คอย่างไม่พอใจ แต่ก็ยอมเดินขึ้นไปชั้นบนซึ่งเป็นห้องนอนของตัวเอง เบื่อ เซ็ง อารมณ์เสีย ตอนนี้แบมแบมรู้สึกแบบนี้จริงๆ
“เอ่อ จงฮยอนฉันไปตรวจรอบๆบ้านก่อนนะ ขอตัวนะครับคุณหนู” มาร์คเอ่ยกับบุคคลทั้งสองที่ยืนอยู่ใกล้ๆเขา แต่ก็ไม่มีแม้แต่เสียงอะไรตอบกลับมา มาร์คจึงตัดสินใจเดินออกมาเองเลยดีกว่า จ้องตากันจจนจะท้องแล้วมั้งนั่นน่ะ
“ไม่มีมารยาท นายมีสิทธิ์อะไรมายืนจ้องหน้าฉันไอ้คนขับรถ” แทยอนว่าคนที่ยืนจ้องหน้าเธอแบบไม่มีมารยาทมาสักพักแล้ว พร้อมกับเหน็บแนมคนตัวสูงด้วยตำแหน่งที่เธอเพิ่งจะคิดให้เขาแบบสดๆร้อนๆเลย
“ผมเป็นบอดี้การ์ด ดูปากจงฮยอนนะครับ ผม เป็น บอ ดี้ การ์ด” จงฮยอนเองก็ไม่ยอมเป็นฝ่ายถูกแซะอยู่คนเดียว ตอบกลับคุณหนูขี้วีนด้วยถ้อยคำและท่าทางแบบกวนๆ ทำเอาคุณหนูคิมถึงกับง้างมือเตรียมฟาดแล้วด้วย น่าโมโหที่สุด ไอ้บ้า!
“คนขับรถ หน้าที่นายคือคนขับรถ ไอ้บ้าจงฮยอน” แทยอนว่าจบก็เดินกระแทกไหล่? ของคนตัวสูงตรงหน้าเดินขึ้นบันไดเพื่อไปชั้นสองของบ้านทันที
“แสบนักนะยัยขี้วีน เดี๋ยวได้รู้กันคิมแทยอน” จงฮยอนได้แต่เข่นเขี้ยว หมั่นใส้กับท่าทางหยิ่งผยองของเจ้านายคนใหม่
“เช้านี้มีอะไรกินบ้างมินยอง” ประมุขใหญ่แห่งตระกูลคิม เอ่ยถามแม่บ้านคนสนิทที่คอยช่วยเขาดูแลจัดการทุกอย่างภายในบ้านหลังใหญ่หลังนี้
“เช้านี้ป็นข้าวต้มกุ้งค่ะ คุณท่านจะรับอย่างอื่นเพิ่มไหมคะ ดิฉันจะให้เด็กรีบทำให้” คุณแม่บ้านมินยองตอบด้วยความสุภาพ ก่อนจะถามความต้องการของผู้เป็นนายกลับบ้าง
“ไม่ล่ะ ขอแค่ข้าวต้มก็พอ แล้วนี่คุณหนูของเธอไปไหนก็หมดล่ะ หรือยังไม่ตื่นกันอีก” คิมมินโฮถามหาลูกสาวและลูกชายที่ตอนนี้ยังไม่เห็นหน้าเลย
“เดี๋ยวคงลงมาค่ะคุณท่าน งั้นดิฉันจัดโต๊ะให้คุณท่านก่อนเลยนะคะ” ประมุขของบ้านพยักหน้ารับ ก่อนจะหันไปสนใจข่าวสารในหน้าหนังสือพิมพ์ฉบับเช้าวันนี้ต่อ
“มินยองมีอะไรให้แบมกินบ้าง” แบมแบมส่งเสียงมาแต่ไกลเลย ทั้งๆที่เจ้าตัวยังเดินลงมาไม่ถึงชั้นล่างด้วยซ้ำ
“เสียงดังทำไมแบมแบม แล้วทำไมเรียกแค่มินยองเฉยๆ ป๋าเคยสอนให้ลูกปีนเกรียวผู้ใหญ่หรอ ถึงมินยองจะเป็นแม่บ้านก็ต้องเคารพในฐานะที่เขาอายุมากกว่า เข้าใจไหม” คนเป็นพ่อดุลูกชาย เขาไม่ดุจริงจังนัก แต่เลือกที่จะสอนแบมแบมมากกว่า แต่น้ำเสียงที่ใช้กลับทำให้ลูกชายคนเดียวหน้าบึ้งอย่างอดไม่ได้ เขาเคยทำอะไรถูกใจคุณป๋าบ้าง
“เข้าใจครับ แบมไปก่อนนะมินยอง” คนตัวเล็กเอ่ยลาแม่บ้านก่อนทำท่าจะเดินออกจากห้องอาหารไป
“เดี๋ยวสิคะนายน้อย ไม่ทานข้าวต้มกุ้งของโปรดก่อนหรอคะ” คุณแม่บ้านร้องเรียกเจ้านายคนเล็กเอาไว้อย่างเป็นห่วง แบมแบมคงไม่ค่อยพอใจคนเป็นพ่อเท่าไหร่นัก เธอคิดแบบนั้น
“ไม่ล่ะครับ แบมจะออกไปหาอะไรกินแถวๆที่ทำงาน” ตอบคำถามจบ แบมแบมก็ก้าวออกไปจากห้องอาหารทันที ครั้งนี้ถึงเรียกไว้เจ้าตัวก็คงไม่สนใจที่จะหันกลับมาแล้วล่ะ
“อ้าวคุณหนู ไม่ทานข้าวก่อนหรอคะ” คุณแม่บ้านหันมาเจอคุณหนูใหญ่ของบ้านก็รีบเรียกไว้อีกคน นี่จะไม่ยอมกินข้าวกับพ่อกันเลยใช่ไหม
“ไม่ล่ะมินยอง แทจะไปกินกับยัยเจส ไปนะ” ว่าจบก็เดินออกไปทันที แต่ก็ไม่วายหันไปสบตากับผู้เป็นพ่ออย่างที่ไม่มีใครยอมหลบตาให้ใคร ก่อนที่แทยอนจะเดินออกไปจนลับสายตา
“เฮ้ออ ฉันเลี้ยงลูกไม่ดี ขอโทษนะมินยอง”
“อย่าพูดแบบนั้นสิคะ คุณหนูกับนายน้อยก็เรียกดิฉันแบบนี้มาตั้งแต่เล็กๆแล้ว ดิฉันไม่ถือหรอกค่ะ” คุณแม่บ้านเอ่ยบอกกับผู้เป็นนาย เพื่อที่ท่านจะได้ไม่ต้องไปดุลูกทั้งสองอีก แค่นี้ก็แทบจะไม่คุยไม่มองหน้ากันอยู่แล้ว อย่าเพิ่มเรื่องที่บาดหมางใจกันอีกเลย
“อืม มีอะไรก็ไปทำเถอะมินยอง” คุณแม่บ้างโค้งก่อนจะเดินออกไปเพื่อทำหน้าที่ของตนเองต่อ ปล่อยให้ผู้เป็นนายใหญ่นั่งทานอาหารอยู่เพียงลำพัง
“นายน้อย เชิญครับ” เมื่อเห็นเจ้านายเดินออกจากประตูบานใหญ่มา มาร์คก็รีบเปิดประตูให้ทันที ซึ่งแบมแบมก็ไม่ได้ขัดอะไร ไม่มีอารมณ์!
“แวะร้านอาหารข้างๆที่ทำงานฉันด้วย นายคงรู้ว่าที่ทำงานฉันอยู่ที่ไหน” แบมแบมสั่งขึ้น หลังจากรถหรูเคลื่อนตัวออกจากประตูรั้วอันใหญ่โตมาแล้ว
“ทราบครับ” มาร์คแปลกใจเหมือนกันนะที่เจอเด็กจอมเหวี่ยงมาในโหมดเงียบขึม เดาใจยากแบบนี้เนี่ย
“อืม” แบมแบมตอบรับแค่นั้น ก่อนจะหันหน้าออกไปมองนอกหน้าต่างรถ อาการของคนตัวเล็กทำเอามาร์คอดถามออกมาไม่ได้
“นายน้อยไม่สบายหรือเปล่าครับ ให้ผมแวะคลีนิคข้างหน้าไหมครับ”
“ไม่ต้อง นายขับรถไปเถอะ ฉันอยากอยู่เงียบๆ” บทสนทนาจบลงเพียงเท่านั้น แบมแบมยังคงนั่งมองออกไปนอกหน้าต่างอย่างเดียวไม่ขยับเปลี่ยนท่าทางอะไรเลย ส่วนมาร์คก็ทำหน้าที่ของตัวเองต่อไป เมื่อเจ้าตัวยังไม่พร้อมเล่า เขาเองก็ไม่จำเป็นต้องรบเร้าอะไรให้มากความ
“นายน้อยโทรศัพท์ครับ นายน้อยรับโทรศัพท์ด้วยครับ นายน้อย!”
“นายจะตะโกนทำไม!” เมื่อมาร์คเสียงดังใส่ แบมแบมเองก็เสียงดังกลับไม่แพ้กัน คนยิ่งอยากอยู่เงียบๆมารบกวนอยู่ได้
“ขอโทษครับ พอดีผมเรียกนายน้อยหลายครั้งแล้ว แต่นายน้อยไม่สนใจ ผมเลยต้องเสียงดังใส่น่ะครับ” มาร์คอธิบายเหตุผลที่เสียงดังใส่แบมแบมให้ฟัง ซึ่งคนเป็นนายก็พยักหน้ารับรู้
“มีอะไร”
“โทรศัพท์ของนายน้อยดังประมาณสามรอบได้แล้วครับ ผมว่าอาจจะมีเรื่องสำคัญ”
“ขอบใจ ทีหลังไม่ต้อง” เพราะคำพูดนี้มาร์คถึงกลับต้องปล่อยเสียงหัวเราะออกมา เลยได้สายตาจิกกัดจากเจ้านายตัวเล็กไปอีกหนึ่งที ก่อนจะแยกย้ายกันทำหน้าที่ของตัวเองอีกครั้ง มาร์คตั้งใจขับรถต่อไป ส่วนแบมแบม
“ว่าไงยองแจ” แบมแบมต่อสายหาคนที่โทรเข้ามาหาเขาถึงสามสายอย่างที่มาร์คว่าจริงๆ
(ก็ไม่ว่าไง จะโทรถามว่าทานข้าวมาหรือยัง แจหิวอ่ะอยู่หน้าบริษัทแล้วแบมอยู่ไหน) คนปลายสายบอกความต้องการของตัวเองให้กับเพื่อนได้รับรู้ทันทีที่ติดต่อแบมแบมได้
“โทษทีนะพอดีไม่ได้ยินเสียงโทรศัพท์น่ะ ตอนนี้กำลังจะถึงบริษัทแล้วล่ะ รอแป๊บเดี๋ยวไปกินข้าวเช้ากัน”
(โอเค แจรอข้างหน้าเลยนะ)
“อืม เจอกัน” ยองแจวางสายไปแล้ว ส่วนแบมแบมก็เก็บโทรศัพท์เครื่องสวยเข้ากระเป๋าแล้วเช่นกัน ถึงเวลาแสดงอีกแล้วสินะคิมแบมแบม!
Talk.
ตอนที่ 2 มาแล้วค่าาา
ฝากติดตามด้วยค่ะ ^^
ความคิดเห็น