ได้แค่นี้ก็ดีแล้ว
แค่ได้รักเธอ ก็ดีแค่ไหน
ผู้เข้าชมรวม
190
ผู้เข้าชมเดือนนี้
3
ผู้เข้าชมรวม
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ผมชื่อ ดรีมครับ ตอนนี้กำลังศึกษาอยู่ชั้น ม. ๖ ครับ ผมมีเพื่อนสนิทคนหนึ่ง เธอชื่อ ควีน เธอเป็นคนน่ารัก และเป็นที่รักของทุกคน รวมทั้งผมด้วย อุ๊บ OoO ความลับแตกแล้วซิ ใช่ครับผมแอบชอบเธอ แต่มันก็ไม่มีวันเป็นไปได้หรอก เพราะควีนมีแฟนแล้วครับ แต่แฟนเธอค่อนข้างเจ้าชู้มาก
“นั้นวันนี้เอาไว้แค่นี้ก่อน” สิ้นเสียงของอาจารย์ นักเรียนคนอื่นๆต่างก็ทยอยออกจากห้อง เหลือเพียงผมกับควีนที่นั่งเก็บของอยู่ มันมักจะเป็นอย่างนี้ประจำตั้งแต่เมื่อก่อน ก่อนที่เธอจะมีแฟน แต่หลังๆนี้ก็มีบ้างที่หายไป
“ดรีมวันนี้ว่างรึเปล่า” ควีนหันมาถามผมหลังจากที่เธอเก็บของเรียบร้อยแล้ว ทำให้ผมเงยหน้าขึ้นมอง
“หืม ว่างซิ ทำไมเหรอ”
“เราว่าจะไปซื้อของขวัญให้ภัทรซะหน่อย” ควีนว่าอย่างอารมณ์ดี ผิดกับผมที่รู้สึกเจ็บปวดไปทั้งใจ อ้อ...แล้วภัทรที่ควีนพูดถึงก็คือ แฟนของเธอนั่นเอง (ไม่ค่อยอยากพูดถึงตัวประกอบซักเท่าไหร่)
“อืม เอาซิ” พูดมาก็ถึงนี่ ก็อยากตบปากตัวเอง ทำไมเป็นคนแบบนี้วะ
@ พารากอน
“ดรีมซื้ออันนี้ ภัทรจะชอบไหมนะ” ควีนว่าพลางหยิบกำไลหนังขึ้นมาให้ดู
“อืม สวยดี” ผมพูดไปทั้งๆที่ตาไม่อยากจะหันไปมองมันด้วยซ้ำ เพราะรู้ว่า ยังไงซะก็ไม่ใช่ของผม
“ว้าว อันนี้ก็สวยอ่ะ” โน่นมาอีกอันแล้วไง ผมจึงเดินเลียงไปอยู่ที่อีกโซนหนึ่ง แล้วสายตาก็ไปปะทะกับตุ๊กตาไขลานตัวหนึ่ง เป็นรูปเด็กผู้ชายนั่งอยู่บนเก้าอี้และมีดวงจันทร์อยู่ด้านบน มันช่างเหมือนกับตัวผมที่โดดเดี่ยว
“ดรีมอ่ะ...อันนี้สวยจัง” และแล้วตัววายร้ายก็ตามมาป่วนอีกจนได้ ควีนแย่งไขลานนั้นไปจากมือผม
“ตกลงเราซื้ออันนี้ให้ภัทรดีกว่า” สิ้นคำพูดของควีน ผมก็แทบหมดแรงล้มลงไปเลย แม้แต่ตุ๊กตาไขลานเขาคนนั้นก็ยังจะแย่งชิงไป แล้วอย่างนี้จะมีอะไรให้ผมคนนี้ได้หวังอีกล่ะ
“ตามใจซิ” ผมบอกอย่างหงุดหงิดก่อนจะเดินออกมาคอยที่หน้าร้าน ไม่นานเธอก็เดินตามออกมา
“อะไรกันน่ะ หิวข้าวรึไง” ควีนแหย่ผม
“.................” ผมไม่พูดอะไร แล้วเบือนหน้าหนี
“โอ๋ๆ เราพาไปกินข้าวนะ” ว่าแล้วเธอก็จัดการควงแขนผมเสร็จสรรพและลากไปที่ร้านอาหารที่เธอชอบ
“ขอเป็นส้มตำกุ้งสด ไก่ย่าง ลาบหมู แล้วก็บลาๆๆๆๆๆ” ควีนจัดการสั่งอาหารอย่างรวดเร็ว โดยไม่จำเป็นต้องดูเมนู หลายคนอาจจะเข้าใจว่า เราจะต้องกินอาหารต่างชาติแน่ แต่ก็เปล่า นี่แหละคือ ชีวิตจริงของพวกเรา
“ซักครู่นะคะ” พนักงานเสิร์ฟรับเมนูเสร็จและเดินกลับเข้าไปหลังร้าน
“หายหงุดหงิดรึยังจ๊ะ” ควีนยื่นหน้ามาใกล้ผม ทำให้ผมรีบถอยหลังทันที
“อะไรกันยังไม่หายอีกเหรอ”เธอทำหน้ามุ่ย อยากบอกว่า เธอน่ารักมากครับ
“เราไม่ได้หงุดหงิดอะไรซักหน่อย” ก็เธอน่ารักขนาดนี้ใครจะไปโกรธลงล่ะ
“น่ารักจริงๆเลย” ควีนตรงเข้าหยิกแก้มผม แล้วจู่ๆเธอก็ชะงักค้างอยู่กับที่ จนทำให้ผมต้องหันไปมองตามสายตาของเธอ และพบกับภัทร แฟนของควีน มากับผู้หญิงคนหนึ่ง ซึ่งหน้าตาสะสวยจนแม้แต่ผมยังตกตะลึง แต่ไม่ได้แปลว่าผมชอบเธอนะครับ เพราะผมชอบควีนได้คนเดียว และภัทรเอง ก็ตกใจเหมือนกันที่เห็นควีนอยู่ที่นี่
“ควีน เป็นอะไรรึเปล่า”
“ควีน คือ ไม่ใช่อย่างที่ควีนคิดนะ” เสียงแรกนั้นเป็นของผมที่ถามอย่างเป็นห่วง ส่วนเสียงที่สองไม่ต้องถามก็คงจะรู้กัน มันเป็นเสียงของภัทรนั่นเอง
“นี่เหรอที่ภัทรบอกว่า ไปซ้อมดนตรีกับเพื่อน”ควีนพูดออกมาพร้อมทั้งน้ำตาที่เริ่มไหลอาบแก้มนวล
“ควีน ภัทรอธิบายได้นะ”
“งั้นอธิบายมาซิ” ควีนบอก เธอไม่ใช่ผู้หญิงอ่อนแอขนาดที่ไม่จำเป็นต้องฟังคำอธิบายใดๆก็วิ่งหนีไป
“เอ่อ...คือ...” ภัทรทำท่ากระอักกระอวน
“เห็นไหมล่ะ ภัทรก็อธิบายไม่ได้ ดรีมถ้านายไม่หิวซักเท่าไหร่ เราว่าพวกเราเปลี่ยนร้านดีกว่า” ว่าแล้วก็หันมามองผม แล้วเดินนำออกไป ผมจึงลุกขึ้นจะตามไปด้วย แล้วก็พบควีนกำลังนั่งร้องไห้อยู่ที่ม้านั่งตัวเล็กๆที่หน้าพารากอน ผมหยุดยืนอยู่ตรงหน้าเธอ
“ดรีม ทำไมภัทรต้องทำอย่างนี้กับเราด้วย...ฮือๆๆ” เธอร้องไห้โฮออกมา ทำให้ผมอดไม่ได้ที่จะดึงเธอเข้ามากอด ทำไมคนดีๆอย่างควีนต้องมาเจอเรื่องร้ายๆแบบนี้ด้วย ต่อให้ผมต้องเจ็บแทนเธอแลกกับการที่เธอมีความสุขผมก็ยอม
“บางทีอาจจะไม่ใช่อย่างที่ควีนคิดก็ได้นะ” ผมพยายามปลอบ
“ดรีมก็เห็นนี่นา ว่าภัทรอธิบายเรื่องที่เกิดไม่ได้”ควีนยังคงแย้ง
“บางทีเขาอาจจะยังไม่สามารถอธิบายได้ตอนนี้ ก็เป็นไปได้” ผมพยายามโน้มน้าวให้เธอคิดในทางที่ดี
“ดรีมเข้าข้างภัทรนี่นา” ว่าแล้วเธอก็ผลักผมออกห่าง
“อะไรกัน วายร้ายของดรีมร้องไห้ขี้มูกโป่งเหรอเนี่ย กลับบ้านดีกว่า” ผมพูดแหย่ แล้วแกล้งกลับหลังเดิน
“เดี๋ยวซิ รอเราด้วยซิ”ควีนยกมือขึ้นขยี้จมูก แล้ววิ่งตามหลังมา ผมจึงแกล้งวิ่งหนี พลางล้อเธอ
“วายร้ายขี้มูกโป่งขี้มูกโป่งๆๆๆ”
“หยุดเดี๋ยวนี้นะ ดรีมบ้า หยุดนะ” เราทั้งคู่วิ่งไล่ไปหัวเราะไปกัน จนถึงรถ วันนี้ก็เลยจบอย่างสวยงาม
หลายวันผ่านไป(ไวเหมือนโกหก) ควีนก็เอาแต่ซึม ไม่ยอมพูดจากับใคร แม้ว่าบางครั้งเธอจะยิ้มออกมา แต่ผมก็รู้ว่า เธอเจ็บปวดแค่ไหน เพราะว่า ผมก็เจ็บแบบนั้นมาตลอดเหมือนกัน ผมคิดว่า ผมคงต้องทำอะไรซักอย่าง
“ดรีม” เสียงที่ผมเกลียดที่สุดดังขึ้น ภัทรนั่นเอง แต่ก็นั่นแหละผมเป็นคนที่นัดเขามาเอง เพราะผมทนไม่ได้ที่จะเห็นควีนต้องเจ็บปวด
“นั่งก่อนซิ” ผมบอก
“ควีนเป็นไงบ้าง” มาถึงก็ถามถึงควีนเลย ฟังจากน้ำเสียงแล้ว ภัทรเองก็คงจะรักควีนมากเช่นกัน
“นี่แหละ คือ เรื่องที่ฉันเรียกนายมา”
“ความจริงแล้ว เรื่องนี้...”
“เดี๋ยวก่อนคนที่นายต้องอธิบายไม่ใช่ฉัน” ผมยกมือขึ้นห้าม และพอดีกับที่ควีนเดินเข้ามา ใช่ ผมเป็นคนที่นัดเธอมาเอง อย่างที่บอกผมยอมเจ็บ ถ้าจะทำให้ควีนมีความสุข
“ดรีม นัดเรามามีอะ...” ควีนต้องผงะ เมื่อสายตาไปปะทะกับภัทร เธอทำท่าจะหันหลังกลับ แต่ผมก็ลุกขึ้นไปจับมือเธอไว้
“คุยกันซะ เราไปก่อนนะ” ผมลากควีนมานั่งลงที่ที่ผมลุกขึ้น ซึ่งตรงข้ามกับภัทร ผมยิ้มให้กับทั้งคู่ ก่อนจะเดินถอยหลังออกมา ทันทีที่พ้นจากที่แห่งนั้น น้ำตาของผมที่มาจากไหนไม่รู้หลั่งไหลออกมาอย่างไม่ขาดสาย ผมยิ้มให้กับน้ำตานั้นอย่างมีความสุข พอแล้วล่ะ กับความเจ็บปวดนี้ ได้แค่นี้ก็ดีแล้ว........
ผลงานอื่นๆ ของ FanXing ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ FanXing
ความคิดเห็น