กาลเวลา น้ำตา และหัวใจ - กาลเวลา น้ำตา และหัวใจ นิยาย กาลเวลา น้ำตา และหัวใจ : Dek-D.com - Writer

    กาลเวลา น้ำตา และหัวใจ

    ความรักระหว่างพี่น้อง

    ผู้เข้าชมรวม

    207

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    2

    ผู้เข้าชมรวม


    207

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    0
    หมวด :  ซึ้งกินใจ
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  10 ธ.ค. 56 / 20:15 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น

    เสียงไวโอลีนดังก้องกังวานไปทั่วทั้งห้อง เป็นท่วงทำนองช้าๆแผ่วเบา อัดแน่นไปด้วยความรู้สึกดีๆ ภายในห้องแห่งนี้ มีหญิงสาวคนหนึ่ง ผมสีน้ำตาลอ่อนดัดเป็นลอนเล็กๆ นัยน์ตาสีดำสนิทรับกับใบหน้าขาวกระจ่าง ริมฝีปากบางเฉียบสีกลีบกุหลาบ กำลังยืนเล่นไวโอลีนอยู่ด้วยใบหน้าที่เบิกบาน กลางห้องนั้น มีชายหนุ่มอีกหนึ่งคนนั่งอยู่ ร่างผอมบาง มีผมสีดำสนิทซอยยาวระต้นคอ ซึ่งใบหน้านั้นเหมือนกับหญิงสาวที่เล่นไวโอลีนอยู่แบบถอดพิมพ์เดียวกันมา นั่นก็เพราะว่าทั้งคู่เป็นพี่น้องฝาแฝดกัน ใบหน้านั้นซีดเซียวจนแทบจะไม่มีเลือด เนื่องจากเป็นโรคหัวใจมาตั้งแต่กำเนิด แต่ถึงอย่างนั้น ใบหน้านั้นก็ยังคงปรากฏรอยยิ้มตลอดเวลา

            แค่กๆๆ...แค่กๆๆเสียงไอของชายหนุ่มดังขึ้น ส่งผลให้หญิงสาวหยุดเล่นโดยทันที และรีบวิ่งมาหาชายหนุ่ม

            “กาแฟ เธอไหวไหมหญิงสาวถามด้วยความเป็นห่วง

            เราไม่เป็นไร เธอเล่นต่อเถอะกาแฟส่ายหน้าพลางส่งยิ้มบางๆมาให้

            ไม่ได้นะ เธอต้องไปพักผ่อนน้ำชาพยุงชายหนุ่มให้ลุกขึ้นเดินไปที่ห้อง

            จ้าๆ ^^” เขายอมทำตามที่หญิงสาวบอกแต่โดยดี โดยไม่มีการขัดขืนใดๆทั้งสิ้น เพราะรู้ว่าถึงยังไงเธอก็จะต้องหาวิธีพาเขาไปให้จงได้

     

     

            ทุกๆเย็น น้ำชาและกาแฟมักจะมานั่งรวมตัวกันอยู่ในห้องนั่งเล่น เพื่อบอกเล่าเหตุการณ์ในแต่ละวันของกันและกัน เนื่องจากว่าน้ำชานั้นต้องไปเรียนในโรงเรียนปกติ ส่วนกาแฟนั้น เพราะอาการป่วย ทำให้ไม่สามารถไปเรียนปกติได้ จึงมีครูพิเศษมาสอนที่บ้านแทน และวันนี้ก็เช่นกัน

            กลับมาแล้วค่ะหลังจากที่น้ำชากลับบ้านมา เธอก็ตรงดิ่งไปยังห้องนั่งเล่น ซึ่งในขณะนี้กาแฟเองก็กำลังนั่งวาดรูปอะไรบางอย่างอยู่ในห้อง

            ทำอะไรอยู่เหรอจ๊ะ น้องชายจ๋าน้ำชาทักพร้อมทั้งชะโงกหน้าไปมองดูภาพ ส่งผลให้คนที่กำลังใช้สมาธิอยู่นั้นตกใจรีบยกมือขึ้นปิดภาพโดยทันที

            น้ำชาอย่าเข้ามาเงียบๆอย่างนี้ซิ เราตกใจหมดเลยกาแฟพูดทั้งๆที่ยังไม่ยอมลดมือลงมาจากภาพ

            วาดภาพอะไรอยู่เหรอ ขอเราดูหน่อยซิน้ำชาดึงมือของชายหนุ่มออก

            ไม่มีอะไรหรอก อ่ะ!” กาแฟพยายามบังไว้ แต่มีเหรอ แรงคนป่วยจะสู้แรงของคนปกติได้ สุดท้ายเขาจึงใจต้องเอามืออกพลางก้มหน้างุด ซึ่งภาพที่เขากำลังวาดอยู่ ก็ไม่ใช่อะไรที่ไหน แต่เป็นภาพของน้ำชา ที่กำลังนั่งเล่นไวโอลีน

            นี่เธอวาดภาพเราเหรอ

            “อืม กะจะให้ตกใจเล่นซะหน่อย ดันมาเห็นซะก่อนจนได้ซิ เฮ่ยยยยยยๆๆชายหนุ่มพุดพลางยกมือขึ้นทึ้งหัวตัวเอง

            เอ๊ะ! ในโอกาสอะไรเหรอ

            “ลอยกระทงมั้งจ๊ะ

            “ยังอีกหลายวัน ขอเป็นสงกรานต์ก่อนได้ไหมจ๊ะ

            “จ้ากาแฟตอบสั้นๆพลางหันกลับไปวาดภาพต่อ

    บรืนนน เอี๊ยดด!

    เสียงรถที่ดังออกมาจากหน้าบ้าน บ่งบอกว่า พ่อและแม่ของทั้งคู่ได้เดินทางกลับจากที่ทำงานเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

    เอ๊ะ! ทำไมวันนี้พ่อกับแม่กลับบ้านมาเร็วจังน้ำชาพูดอย่างสงสัย ในขณะที่กาแฟ ทำเพียงแค่หันไปมองที่ประตูและหันกลับมามองหน้าน้ำชา แล้วก็กลับไปทำกิจกรรมของตนต่อ

    งั้น เดี๋ยวเราไปดูก่อนนะ

    อืมชายหนุ่มพยักหน้า โดยไม่แม้แต่จะละสายตาหันมามอง

    เมื่อได้รับคำตอบเช่นนั้นแล้ว น้ำชาก็วิ่งเข้าไปในห้องครัว แล้วกลับมาอีกทีพร้อมกับถาดน้ำยกตรงไปที่ห้องรับแขกส่วนหน้าของบ้าน

    ทำไมต้องเป็นอย่างนี้ด้วยคะคุณเสียงร้องไห้ที่ดังขึ้นของผู้เป็นมารดา ทำให้หญิงสาว ถึงกับชะงักอยู่ที่หน้าห้อง เธอหลบไปข้างประตู เพื่อฟังว่าแม่เธอกำลังพูดเรื่องอะไร (เป็นการกระทำที่ไม่ดี ห้ามปฏิบัติตามเด็ดขาด>>>ด้วยความปรารถนาดีจากนักเขียนนะจ๊ะ)

    เอาน่าคุณ ตอนนี้กาแฟก็ไม่ได้เป็นอะไรซักหน่อยผู้เป็นพ่อพูดขึ้น ทำให้น้ำชาตกใจอย่างมาก แต่ก็พยายามจะฟังต่อ

    ตอนนี้ไม่เป็น แล้วต่อไปล่ะคะแม่ของเธอยังคงสะอึกสะอื้น

    น่านะ คุณต้องเชื่อผมสิว่าแกต้องไม่เป็นไรผู้เป็นพ่อจึงรวบเอาแม่เข้ามากอดไว้

    คุณก็ได้ยินไม่ใช่เหรอคะ ที่หมอบอกว่าแค่ครั้งเดียวเท่านั้น แค่ครั้งเดียวแกก็อาจจะ...ฮืออออ

    เพล้ง!

    ไม่จำเป็นต้องพูดต่อให้จบ น้ำชาก็รู้โดยทันทีว่าแม่ของเธอนั้นกำลังพูดอะไร หญิงสาวถึงกับมืออ่อนเท้าอ่อน ถาดน้ำที่อยู่ในมือร่วงลงแตก ส่งผลให้คนที่อยู่ข้างในนั้นหันมามองโดยทันที

    น้ำชา ลูกมาตั้งแต่เมื่อไหร่

    หมายความว่าไงคะแม่ ที่แม่บอกว่าแค่ครั้งเดียวน้ำชาเขย่าแขนผู้เป็นแม่ ซึ่งท่านก็ทำเพียงแค่ร้องไห้โฮออกมาไม่หยุด

    กาแฟไม่เป็นไรหรอกลูก อาหมอเองก็จะช่วยรักษาเป็นอย่างดีผู้เป็นพ่อตอบแทนแม่ของเธอ

    แต่ตลอดมา อาหมอก็ดูแลเป็นอย่างดี แล้วทำไมน้องถึงยังเป็นแบบนี้ล่ะคะ

    น้องแข็งแรงออกขนาดนี้ ไม่เป็นอะไรง่ายๆหรอกลูกพ่อของเธอดึงแม่และเธอมากอดไว้แน่น จนเธอเริ่มรู้สึกดีขึ้น

    กาแฟ ขอร้องล่ะนะ เธออย่าเป็นอะไรนะ เธอต้องอยู่กับเรานะ น้ำชาคิดขึ้นในใจ

     

     

     

    หลังจากวันนั้น ก็ผ่านมาได้อาทิตย์กว่าแล้ว ทุกๆวันก็ยังคงเหมือนเดิมและผ่านไปอย่างเชื่องช้า แต่ดูเหมือนวันนี้จะแตกต่างไปจากทุกวัน เมื่อน้ำชากลับมาเธอก็ตรงไปที่ห้องนั่งเล่น โดยทันที แต่กลับไม่พบคนที่เธอกำลังหา วันนี้ครูสอนพิเศษไม่ได้มาสอนที่บ้าน ซึ่งปกติกาแฟจะต้องมานั่งวาดภาพอยู่

    ก๊อกๆๆ

    น้ำชาตัดสินใจเดินไปเคาะประตูที่หน้าห้องของกาแฟ แต่กลับไม่มีปฏิกิริยาจากเจ้าของห้อง หญิงสาวตัดสินใจหมุนลูกบิดดู ก็พบว่า ห้องไม่ได้ล็อกไว้ ซึ่งเกิดจากความเคยตัวของเขา เธอถือวิสาสะเดินเข้าไปในห้อง และก็พบว่า สาเหตุที่กาแฟไม่สามารถมาเปิดประตูได้นั่นก็เป็นเพราะว่า ตอนนี้ร่างผอมนั้น ล้มหมดสติอยู่ที่ข้างเตียง โดยที่กล่องสีและภาพวาดตกอยู่ระเนระนาดข้างๆตัว น้ำชาตรงเข้าไปเขย่าตัวกาแฟ

    กาแฟๆตื่นซิน้ำชาตบที่แก้มของกาแฟเบาๆเพื่อเรียกสติ แต่ร่างนั้นกลับไม่มีการตอบสนองใดๆเกิดขึ้นทั้งสิ้น

    พ่อคะ แม่คะน้ำชาตัดสินใจตะโกนเรียกพ่อกับแม่ของเธอในที่สุด ไม่นานทั้งสองท่านก็มาถึง ผู้เป็นแม่รีบวิ่งมาประคองศีรษะของกาแฟขึ้นวางบนตัก และสั่งให้ผู้เป็นสามีรีบโทรเรียกรถพยาบาล และรีบปั้มหัวใจโดยเร็ว

    แค่กๆๆๆกาแฟเริ่มได้สติ และอาเจียนออกมาอย่างหนัก

     

     

     

    หลังจากที่กาแฟได้สติ ไม่นานนัก รถโรงพยาบาลก็มาถึง ชายหนุ่มถูกนำตัวส่งเข้าห้องฉุกเฉินโดยด่วน ชายในชุดกราวด์สีขาวเดินออกมาจากห้อง ด้วยสีหน้าที่ไม่ดีนัก

    อาการของผู้ป่วยค่อนข้างอันตรายมากครับ เราคงจะต้องให้เขาพักฟื้นที่นี่ เพื่อดูอาการคุณหมอพูดแล้วเดินจากไป

    ก๊อกๆๆ

    เสียงเคาะประตูดังขึ้น ส่งผลให้ชายหนุ่มในห้องที่นั่งเหม่ออยู่  หันกลับไปมองที่ประตู

    กาแฟเป็นไงบ้าง เราซื้อน้ำแตงโมปั่นมาฝากด้วยน้ำชานั่นเอง ทุกๆเย็น เมื่อเลิกเรียนแล้ว เธอจะแวะมาเยี่ยมกาแฟก่อนเสมอ และบ่อยครั้งก็จะซื้อของกินมาฝาก แต่มันก็ไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้นเลย ทุกครั้งที่เธอมา กาแฟมักจะเอาแต่นั่งเหม่อลอย ไม่พูดไม่จากับใครทั้งสิ้น บางครั้งเขาก็จะแสดงอาการหงุดหงิดออกมา

    วันนี้เรามีข่าวดีจะบอกด้วยนะน้ำชาเปิดประเด็น

    ...................กาแฟไม่พูดอะไร และยังคงหันไปมองหน้าต่าง

    ไม่ฟังจริงๆเหรอหญิงสาวคะยั้นคะยอ แต่ผลก็เช่นเดิม กาแฟยังคงเงียบ

    โด่! เรารึจะมาบอกข่าวดี ถ้าเธอไม่ฟังเราไปนะน้ำชาเตรียมหันหลังเดินกลับ ซึ่งในความจริงแล้วมันเป็นแค่แผนของเธอ และก็เป็นดังที่เธอคิด ชายหนุ่มจับมือเธอไว้ก่อนจะดึงเข้าไปใกล้

    พูดมาซิและนั่นคือ ประโยคแรกที่กาแฟพูดออกมา แม้ว่ามันจะแผ่วเบาก็ตาม

    ฉันได้ไปสอบสัมภาษณ์มหาลัยดนตรีด้วยล่ะ

    งั้นเหรอกาแฟส่งยิ้มบางๆอย่างยินดีให้กับน้ำชา

    ใช่แล้วล่ะ แล้วต่อไปฉันก็จะได้เป็นนักไวโอลีนก้องโลกคำพูดของน้ำชา ทำให้ชายหนุ่มอดที่จะขำไม่ได้

    นั่นแน่ะ หัวเราะแล้ว เธอต้องรีบหายนะ แล้วต้องไปดูฉันแสดงให้ทุกเวทีเลย สัญญานะน้ำชายื่นนิ้วก้อยไปหาชายหนุ่มตรงหน้า แต่คนตรงหน้ากลับมองนิ้วนั้นอย่างไม่มั่นใจ เพราะเขารู้ดีว่า สภาพร่างกายของเขาตอนนี้ แค่หายใจก็ยังลำบาก ถ้าเป็นอย่างนั้นจริง เขาอาจจะไม่สามารถทำตามสัญญาได้

    เร็วๆซิ กาแฟน้ำชายังคงเร่งรัดชายหนุ่ม ซึ่งไม่นานกาแฟก็ยกมือขึ้น น้ำชายิ้มอย่างดีใจและต้องตกใจ เมื่อมือนั้นไม่ได้มาเกี่ยวกับนิ้วของเธอ แต่กลับยกมาจับตรงหน้าอกด้านซ้าย ซึ่งเป็นตำแหน่งของหัวใจ

    ฮึก! แฮ่กๆใบหน้าของกาแฟซีดขึ้นทันที หายใจอย่างเหนื่อยหอบจนหน้ากลัว

    กาแฟ เธอเป็นอะไรน้ำชาร้องขึ้นด้วยความตกใจ

    ฮึก...ฉันหะ...หายใจ...มะ...ไม่ออก โอ๊ย!” ชายหนุ่มร้องด้วยความเจ็บปวด แทบจะขาดใจ น้ำชารีบวิ่งไปขอความช่วยเหลือจากพยาบาลโดยด่วน หลังจากนั้นพยาบาลสี่ห้าคนก็วิ่งเข้ามาในห้อง แล้วจัดการครอบออกซิเจนให้ร่างที่กำลังทรมานอยู่โดยเร็ว ก่อนที่เขาจะถูกส่งต่อไปที่ห้องไอซียู

     

     

     

    ในเวลาต่อมาพ่อและแม่ของทั้งคู่ก็มาถึงโรงพยาบาลอย่างรีบร้อน  และวิ่งตรงมาที่ห้องไอซียูซึ่งมีน้ำชานั่งอยู่แล้ว ตอนนี้เธอร้องไห้ออกมาแทบจะหมดตัว เธอเฝ้าอธิษฐานอย่าให้เกิดอะไรขึ้นกับกาแฟเลย ถ้าปาฏิหาริย์มีจริงเธอก็ขอให้เธอและกาแฟได้กลับมาใช้ชีวิตร่วมกันเหมือนเช่นเมื่อก่อน ตอนนี้สิ่งที่เธอทำได้คงจะมีแค่นี้

    กว่า ๕ ชั่วโมงที่กาแฟอยู่ในห้องนี้ มันอาจจะเร็วสำหรับใครหลายๆคน แต่สำหรับน้ำชาแล้วมันเนิ่นนานมาก มากเสียจนเธอเกือบรู้สึกว่า มันผ่านไปทั้งวัน คุณหมอหน้าตาเช่นเดิมเดินออกมาจากห้องด้วยสีหน้าที่ไม่ดีนัก ผู้เป็นมารดาตรงเข้าเขย่าตัวหมอแล้วถามอาการโดยทันที หมอเงียบไปซักพัก ก่อนจะเงยหน้าขึ้นแล้วพูดประโยคที่ทำให้ทุกคนเข่าทรุด

    ขอโทษครับ ผมอยากให้พวกคุณทำใจ

    หมายความว่ายังไงหมอผู้เป็นพ่อตรงเข้ากระชากคอเสื้อของหมอ

    บางที เอ่อ...อาการของคนไข้ตอนนี้อันตรายมากครับ บางทีอาจจะอยู่ได้แค่คืนนี้เท่านั้น หมออยากให้พวกคุณทำใจและดูแลเขาให้ดีที่สุดจนถึงวินาทีสุดท้ายน้ำชาปล่อยโฮออกมาทันที ในขณะที่แม่ของเธอเป็นลมล้มพับไป เนิ่นนานกว่าเธอจะทำใจและก้าวเข้าไปในห้อง แล้วก็ต้องชะงักนิ่ง เมื่อเห็นสภาพของกาแฟผู้เป็นน้องชาย ร่างผอมบางนั้นซีดเซียวจนมองเห็นเส้นเลือด สายต่างๆระโยงรยางค์ไปทั่วทั้งเตียง ลมหายใจนั้นแผ่วเบา น้ำชาตรงเข้าเขย่าร่างของกาแฟ

    กาแฟ เธอตื่นขึ้นมาซิหญิงสาวเริ่มลงมือทุบตีร่างนั้น แต่กลับไม่มีการตอบสนองใดๆทั้งสิ้น

    ตื่นขึ้นมาซิ เธอได้ยินเราไหม...ฮือๆๆๆๆ

    ...........

    เธออย่าล้อเล่นแบบนี้ซิ ฮืออออออ

    ...........

    เธอจะทิ้งเราไว้คนเดียวเหรอ คนใจร้าย! ...ฮือ...ฮึก

    ...........

    ฮือๆๆๆๆ

    ทุกอย่างยังคงเงียบงัน ในห้องแห่งนี้แทบจะไม่ได้ยินเสียงใดเลย นอกจากเสียงร้องไห้ของน้ำชาและเสียงของเครื่องวัดชีพจรที่บอกว่า ร่างที่อยู่บนเตียงนั้นยังมีชีวิตอยู่ หญิงสาวขยับเข้าไปนั่งบนเก้าอี้ใกล้เตียงของกาแฟ สองมือจับประคองมือของกาแฟไว้แนบแก้ม เธอหันไปมองหน้าซีดเซียวของกาแฟอีกครั้ง ก็พบว่าที่หางตาของชายหนุ่มมีหยาดน้ำตาไหลซึมออกมา บ่งบอกว่า สิ่งที่น้ำชาได้พูดออกมานั้น เขาได้รับรู้ถึงสิ่งนั้นแล้ว นั่นยิ่งทำให้น้ำตาของเธอไหลออกมาอีกครั้ง เธอจับมือเขาไว้เนิ่นนาน ร่างที่นอนอยู่บนเตียงนั้นเริ่มตอบสนองไม่ได้ ร่างกายตั้งแต่ปลายนิ้วเริ่มชาเสียแล้ว เครื่องวัดชีพจรเองจากที่เคยเต้นตามจังหวะ ก็เริ่มดังเป็นเสียงที่ผิดปกติ

    ตื้ดดดดดดดดดดดดดดด

    สิ้นเสียงเครื่องวัดชีพจร ก็เท่ากับว่า สิ้นเสียงของหัวใจ ลมหายใจซึ่งเคยแผ่วเบา ก็ขาดห้วงลง ความทุกข์ทรมานที่มีต่อโรคนี้ก็จบลงซะที

    กาแฟ!”น้ำชาร้องเรียกร่างนั้น ตอนนี้มือที่เธอจับอยู่นั้นได้ร่วงตกลงแล้ว หญิงสาวตรงเข้าเขย่าร่างของกาแฟอย่างแรง ไม่มีปาฏิหาริย์อีกแล้ว

    ........How Do I*

    Get Through The Night Without You

    If I Had To Live Without You

    What Kind Of Life Would That Be...........

    (........ฉันจะทำอย่างไร

     จะผ่านคืนนี้โดยไม่มีเธอได้อย่างไร

     ถ้าฉันต้องใช้ชีวิตโดยการไม่มีเธอ

     ชีวิตของฉันจะเป็นอย่างไรนะ............)

            กาแฟ...ฮือๆๆๆน้ำชากอดร่างนั้นไว้แน่น พ่อและแม่ของเธอเปิดประตูเข้ามาในห้อง และร้องไห้โฮ พ่อของเธอถึงกับทรุดนั่งลง

    ..............I Need You in My Arms Need You to Hold

    You're My World My Heart My Soul

    If You Ever Leave

    Baby You Would Take Away Everything Good in My Life..................

    (.............ฉันอยากจะมีเธออยู่ในอ้อมแขน และอยากมีเธอโอบกอดไว้

     เธอคือ โลกของฉัน คือหัวใจของฉัน คือจิตวิญญาณของฉัน

     ถ้าเธอจากไปตลอดกาล

     นั่นเท่ากับเธอนำพาทุกสิ่งที่ดีๆในชีวิตฉันไปด้วย ............)

    ไม่นานนัก หมอและพยาบาลก็เริ่มทยอยเข้ามาในห้องมากมาย แต่ตอนนี้ในหัวของน้ำชาขาวโพลนไปหมด มันชาไปทั้งตัว

     

     

     

     


    หลังจากวันที่กาแฟตายไปก็ผ่านมา ๒ เดือนแล้ว ทุกๆวันผ่านไปอย่างช้าๆ วันนี้เป็นวันที่พิเศษกว่าวันอื่น เพราะมันคือวันเกิดของสองแฝดประจำบ้าน ซึ่งในปีนี้เหลือเพียงคนเดียวเท่านั้น คือ น้ำชา วันนี้เธอตื่นแต่เช้า ระหว่างที่เธอกำลังหาของอยู่นั้น สายตาของเธอก็ไปปะทะกับซองกระดาษบางอย่าง เมื่อเปิดดูก็ทำให้หญิงสาวถึงกับร้องไห้ออกมา มันคือกระดาษคำใบ้ที่เธอกับกาแฟเคยเล่นกัน น้ำชาจึงตัดสินใจเดินไปตามคำใบ้ต่างๆ ก่อนจะมาหยุดลงที่โต๊ะวาดภาพของกาแฟ ในห้องนั่งเล่น เธอเปิดเข้าไปดูในลิ้นชักก็พบกล่องใบใหญ่ใบหนึ่ง น้ำชานำกล่องนั้นขึ้นมาตั้งบนโต๊ะและเปิดออก ภายในนั้นมีรูปภาพอยู่จำนวนหนึ่งซึ่งทุกภาพล้วนแต่เป็นภาพของเธอ และอีกสิ่งหนึ่งที่อยู่ในนั้น ก็คือ เอ็มพีสามขนาดเล็กสีแดงที่กาแฟมักนำติดตัว หญิงสาวรีบเปิดฟังสิ่งที่อยู่ในนั้นทันที เสียงแรกที่เธอได้ยิน คือ เสียงของกาแฟ

    ~ หวัดดี น้ำชา เธอสบายดีรึเปล่าเอ่ย บางทีตอนที่เธอได้ฟังเสียงนี้เราอาจจะไม่ได้อยู่กับเธอแล้วก็ได้ เราเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าตัวเองจะอยู่ได้นานขนาดไหน นั่นซิ แล้วนี่จะเราพูดไป เศร้าไปทำไมเนี่ย น้ำชา ขอบคุณมากนะสำหรับทุกสิ่งทุกอย่าง ขอบคุณที่ดูแลน้องชายคนนี้มาโดยตลอด ขอบคุณที่เธอไม่เคยทอดทิ้งเรา เราซะอีก...เราขอโทษนะตลอดเวลาที่ผ่านมา ที่เราเคยทำตัวไม่ดี ขอโทษที่เราทำเป็นไม่สนใจเธอ และขอโทษด้วยที่เราไม่สามารถอยู่กับเธอได้ดังที่เธอต้องการ สุดท้ายนี้ เขินชะมัด ผมรักพี่นะครับ ไปละ~

    ทันทีที่เสียงของกาแฟดับลง น้ำชาก็ถึงกับทรุดลงร้องไห้โดยทันที แต่ความรู้สึกวันนี้มันไม่เหมือนวันนั้น ไม่ใช่ความรู้สึกของการอาลัยจาก แต่เป็นความรู้สึกของความยินดี ยินดีที่เธอได้เกิดมาพร้อมกับน้องชายที่รัก มีความทรงจำดีๆร่วมกัน

    พี่เองก็รักเธอนะกาแฟ เธอจะอยู่ตรงนี้ตรงหัวใจของเราตลอดไปนะ กาแฟ เราจะไม่มีวันจากกันไปไหนน้ำชาพูดกับอากาศในห้อง โดยที่ไม่รู้เลยว่า ในอากาศนั้นมีบางสิ่งบางอย่างอยู่ กำลังโอบกอดเธออยู่ และจะเฝ้ามองดูเธอ ตั้งแต่นี้และตลอดไป

     
     

     

     

     


    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×