ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    *ปฏิบัติการณ์รักร้าย Ver. เจ้าชาย..กับนายตัวแสบ*by ozaka

    ลำดับตอนที่ #8 : CHAPTER 7 อันรักนั้น..ท่านได้..แต่ใดมา..?

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 6.36K
      41
      2 พ.ย. 54

    CHAPTER 7

     

    อันรักนั้น..ท่านได้..แต่ใดมา..?

     

     

     

     

     

     

     

                    แอดดดดด…

     

                    เอ็กซ์…เอกราชอยู่ป่ะ?”

     

                    ผมชะโงกหน้าเข้าไปในห้องชมรมฟุตบอล  ..อันที่จริงผมก็เข้ามาในนี้หลายรอบแล้วละ  แต่ก็ยังอดตื่นตะลึงกับความใหญ่โตมโหฬารไม่ได้จริงๆ..นักเรียนโควต้ากีฬาภาคฟุตบอลมีทั้งโรงเรียนแล้วรวมไม่ถึง40คน..แต่กลับประสบความสำเร็จด้านนี้เสีย90%  ไม่น่าแปลกใจที่มีสปอนเซอร์หมุนเวียนวงเงินเลย

                    น้องม.4คนหนึ่งที่ผมคุ้นๆหน้าสั่นศีรษะนิดๆ

                    พี่ม.5ไปรวมตัวกันหลังสนามแล้วครับ  .4ต้องเก็บของก่อนแล้วค่อยตามไป”

                    “..อ่อ..งั้นหรอ….ขอบใจนะ”

                    พี่กานดาจะเข้าไปดูหรอครับ?”

                    หา..เอ่อ..อืม  ก็คงงั้น”

                    ฮะๆ  มาแต่เช้าจังนะครับ”

                    “..แค่…อยากสูดอากาศน่ะ  แล้วพอมาเวลานี้กลายเป็นไม่ค่อยมีคนอยู่ในโรงเรียนซะงั้น”

                    ผมพยักเพยิดไปทางนาฬิกาบนฝาผนัง  มันยังไม่ทันบอกเวลาหกโมงเช้าดี..ซึ่งตอนนี้บูมมันคงนอนอืดอยู่หอสำบายใจไปละ

                    เดี๋ยวพวกผมจะไปพอดี  พี่ไปพร้อมกันเลยมั้ยครับ?”

                    อ่า..ก็ดี  เราชื่อไรน่ะ?”

                    “ ‘องศา’ ครับ..แหม  อย่าตกใจไปนะฮะว่าทำไมพวกผมถึงรู้จักพี่  พี่กานดาดังจะตาย อย่างตอนที่ร้องเพลงกันเมื่อวาน..เพื่อนๆพี่เค้าก็ร้องเพื่อพี่ใช่มั้ยละฮะ” เขายิ้มกวนตีนนิดๆแต่ดูน่ารักน่าเคี้ยวกับแม่บ้านทั่วไป  และทันใดนั้นเองผมก็พอจะจับเค้าได้ลางๆ..เอ่อ..หมอนี่เป็นหนึ่งในรักร้ายของม.4รึเปล่าหว่า..

                    อ่าฮะ..”

                    พี่เอ็กซ์กับพี่ไวน์ปลื้มพี่มากเลยนะฮะ  เวลาชวนคุยทีไรมี ‘เดียร์อย่างนั้น’ ‘เดียร์อย่างงี้’..อะ  ขอโทษฮะ  พี่ไม่ชอบให้คนอื่นเรียกว่า ‘เดียร์’ ใช่มั้ยฮะ  ผมลืมไป”

                    “..เรื่องนั้นช่างๆมันไปก่อนเหอะ”

                    “..ดีจัง!!  งั้นผมขอเรียกพี่ว่าพี่เดียร์บ้างได้มั้ยฮะ  ชื่อเพร๊าะเพราะ~  แหะๆ”

     

                    เอาเข้าจริง..พอมันเรียกผมไม่ยักกะโกรธแหะ  เลยทำเป็นลืมๆมันไปก่อน  ตอนนี้สิ่งที่สำคัญคืออย่าปล่อยให้ผมคิดอะไรไปเองคนเดียว..หรืออยู่คนเดียวฟุ้งซ่านเป็นอันขาด!  เพราะภาพอะไรๆมันมักจะแล่นเข้ามาทุกครั้งที่สมองว่าง..เมื่อคืน..ชีวะไม่เข้าหัวสักกะตัว

     

                    พอจำได้แล้ว..ตอนเจอหน้าหมอนั่นจะทำหน้ายังไงดีหว่า…

     

     

                    วันนี้ผมตื่นแต่เช้าครับ  คืออันที่จริง..นอนไม่ค่อยหลับ  ก็เลยเผ่นแนบออกจากหอ  แต่พอมาถึงโรงเรียนแม่งก็ไม่ต่างอะไรกับโรงเรียนร้าง  เลยตรงมายังชมรมกีฬาที่อยู่หลังตึก2ทันที  เพราะมั่นใจว่า..ไอ้พวกนี้มันต้องฟิตมาซ้อมเช้ากันแน่นอน

                    องศาและเพื่อนๆ..(ที่ผมอยากจะขอโทษ พี่จำชื่อไม่ได้..!!) ก็พาผมเดินเข้ามาในสนามซ้อม  เป็นสนามฟุตบาลที่เปิดให้บุคคลภายนอกเข้าได้เฉพาะเวลาที่กำหนดน่ะครับ  แต่ผมเส้นใหญ่ กร๊ากกกก  อันที่จริงสนามด้านนอกก็มีนะ  แต่ในนี้มันเป็นสนามหญ้า  เวลาล้มหรือนอนจะนิ่มกว่าสนามปูนมาก

                    นั่น..ไอ้ไวน์นั่งอ่านหนังสืออยู่บนอัฒจรรย์เหมือนเดิมเป๊ะๆ  กูอยากรู้จริงๆว่าพวกมึงจะตัวติดกันไปไหนเนี่ย..ขนาดเรียนคนละห้องกันนะ..

                    องศาเดินไปคุยกับเอ็กซ์ที่กำลังเหยียดขาอยู่กลางสนาม  ไวน์หันมาโบกมือให้ผมนิดนึงแล้วกระโดดยืนตัวตรงวอร์มอัพไปมา

     

                    อ้าวสัสเดียร์  ออกหากินแต่เช้าเลยนะวันนี้  จะไปขอส่วนบุญวัดไหนจ๊ะ”

                    วัดที่สุนัขในปากมึงอยู่กันน่ะ  วัดไหนละ” ผมโบกกบาลไอ้ไวน์ไปสักที  แล้วทิ้งตัวนั่งลงข้างๆ 

                    โอ้ย  คอกนี้เลี้ยงดีว้อย  ไม่ปล่อยไปอยู่ในวัดหรอกไอ้สัส”

                    “..อ้าวไอ้เชรี้ยรับมุขกูอีก…เมื่อคืนกูยังไม่ได้อ่านการหายใจระดับเซลล์เลยว่ะ  ขอสักบทดิ”

                    ไวน์รีบเลิกคิ้วสูง “ไอ้สัส! ไอ้เดียร์ยังไม่เริ่มอ่านหนังสือว้อยแม่เจ้า!!  พรุ่งนี้หิมะตกแน่!”

                    พ่อ..มึงสิ!  เมื่อคืนกูมึนๆว้อยเลยไม่ได้อ่าน  จะติวไม่ติวเนี่ย”

                    คร๊าบๆ  ติวจ้าติว  แปลกว่ะ  ปกติมึงต้องเป็นคนติวให้เพื่อนๆไม่ใช่หรอ  รู้สึกโชคดีชอบกล ฮ่าๆๆ”

                    หมอนั่นรื้อๆกองกระดาษข้างๆตัว  แล้วยัดเยียดตารางวงกลมๆ3วงให้ผมดู  ก่อนจะชี้นิ้วอธิบายเสร็จสรรพ  ผมพยักหน้าเออ ออไปตามเรื่อง  อันที่จริงเรื่องนี้ก็เรียนในคาบกันมารอบหนึ่งแล้วน่ะครับ  แต่ทบทวนเพื่อให้แม่นยิ่งขึ้น

     

     

                    ห้องเด็กทุนสายวิทย์มันมีความน่าโชคร้ายอยู่อย่างหนึ่ง  แม่งล่อมีเทสต์วัดระดับเกือบทุกวัน  ไอ้เทสต์เนี้ยไม่ได้เก็บคะแนนหรอกครับ  ไว้รักษาระดับมาตรฐานแล้วก็จำนวนเงินทุนที่จะได้น่ะ  สำหรับผมที่เป็นเด็กทุนเต็มอัตรา100%..ก็อย่าให้มันตกลงไปมากกว่านี้เลย  แค่นี้ก็ล่อแล่ล่ะ..

                    ทุน100% ให้แค่3คนครับ  ก็คือลาล่า บูม แล้วก็ผม..อันที่จริงไม่น่ากังวลมากเพราะคะแนนเราสามคนทิ้งห่างเพื่อนชั้นเดียวกันพอสมควร  อย่างไอ้ไวน์ก็ได้ทุน80%  แต่บ้านมันรวยอยู่แล้ว  บางทีผมเองก็สงสัยว่าทำไมมันไม่ไปอยู่ห้องเด็กเส้น  คำตอบง่ายๆคือตึกห้องเด็กเส้นมันอยู่เยื้องไปน่ะ..แต่ตึกของเด็กทุนสายวิทย์กับเด็กโควต้ากีฬามันตึกเดียวกัน..เอาง่ายๆคือมันอยากอยู่ติดกับผัวมันน่ะแหละ

     

     

                    ‘…อยากกินไข่พะโล้ โป๊ะ! กินกับแกงก๊ะหรี่ โปะ!...อยากกินกล้วยบวชชี….’

     

                    ปิ๊บ

                    โมชิโมชิ~  ว่าไงหนุ่มน้อย  ฮ่าๆ”

                    ไวน์กดรับไอโฟนมันอย่างสบายๆ  ริงโทนพิลึกเสียงเด็กร้องนั่นใช้เสียงเดียวกับไอ้เอ็กซ์ครับ  เห็นบอกกันว่ามันสองคนร้องด้วยกันตอนเด็กๆเลยเก็บเป็นริงโทน..โคตรบ่งบอกความสัมพันธ์แม่งเลย

                    “…อ่อ…อยู่สิ..อยู่ข้างๆนี่แหละ  อือ  สนามซ้อม  จะคุยมั้ยละ? กร๊ากกกก เขินรึไง  อือๆ  เดี๋ยวบอกให้  จ้า  หวัดดีคร๊าบบบ”

                    ผมไม่ต้องเสียเวลาเลิกคิ้วเป็นเชิงถาม..เพราะไอ้สัสนี่ก็รายงานอยู่แล้ว

                    คุณชายโทรมาแน่ะ  ถามว่ามึงอยู่ไหน  ไอ้บูมบอกไม่อยู่ที่หอ”

                    “…แล้วไงฟะ”

                    ก็เลยบอกจะมาหาที่นี่”

                    โอ้ยไอ้สัส!  กูยังไม่อยากเจอว้อย!!”

                    แต่คนฟังไม่ได้ใส่ใจกับคำด่า  แถมยังมีหน้ามายิ้มกรุ่มกริ่มอีกนะ

                    รู้มั้ย  ตอนนี้มึงทำหน้าได้อะไรสุดๆ?”

                    เหี้ยไรอีกล่ะ..”

     

                    “..เหมือนภรรยาที่กำลังหลบหน้าสามีเลยว่ะไอ้ห่า กร๊ากกกกกก ฮะฮะฮ่าาาา”

     

                    ไม่อยากจะนึกภาพว่าถ้าอยู่กันครบก๊วน..มันจะหัวเราะเสียงดังขนาดไหนเลยจริงๆสิพับผ่า!

                    ร่างโปร่งบางเขยิบเข้ามาประชิดตัวผม  ซึ่งไม่ต้องบรรยายก็น่าจะรู้ว่าผมทำหน้าเหมือนอมตูดหมามาจากไหน  แขนเรียวขาวๆของไอ้ไวน์ก็พาดปั๊กลงมาคร่อมบ่า  ตบแปะๆราวให้กำลังใจ

                    เน่ๆน้องเดียร์~  มึงก็รู้แล้วไม่ใช่หรอว่าไอ้ครามมันรู้สึกยังไงอ่ะ  แล้วยังจะมาเล่นตัวอีก..สมัยนี้เกย์เกลื่อนบ้านเกลื่อนเมืองนะว้อย ดีออก  ลดโลกร้อน”

                    กูไม่ใช่แบบมึงว้อยไอ้สัส!!”

                    “…เอ่อ..กูจะพูดแบบจริงจังครั้งแรกนะ  กูกับเอ็กซ์ไม่ได้เป็นแฟนกันว้อย  เพื่อนสมัยเด็ก!”

                    “…บอกตอนนี้ทุกคนคงเชื่อตายละ”

                    เออ  กูเองกูยังไม่เชื่อ”

                    “……มึงต้องการจะสื่อเหี้ยอะไรฟะเนี่ย…”

                    “..เรื่องของกูไว้ทีหลังน่าไอ้บ้า  เอาเรื่องของมึงก่อน”

                    ถ้ามึงไม่บอก มึงก็ไม่ต้องมายุ่งกับเรื่องของกู”

                    ผมชี้คำขาด  ไม่ได้อยากรู้อยากเห็นอะไรมากมายนัก..แต่ก็ยังดีกว่ารับคำปรึกษาเรื่องเสียตัวพรรค์นั้นแบบฟรีๆ  ทว่าไอ้ไวน์กลับถอนหายใจขณะเกาหัวแกรกๆ  แล้วมันก็ว่า

     

                    ถ้าไอ้เอ็กซ์ยังไม่เจอผู้หญิงที่ดี  กูก็ไม่ปล่อยมันไป  โอเค๊  เข้าใจอ๊ะยัง?”

     

                    ห๊ะ?  เดี๋ยวมึง..ยิ่งมึงพูดกูก็ยิ่งสับสนว่ะ  อะไรมันจะ…”

                    มันชักจะนอกประเด็นแล้วนะว้อย!  เรื่องคอขาดบาดตายประการแรกคือเรื่องของเจ้าชายแห่งเกษรวิทยาตะหาก….ฟังเสียงกรี๊ดนั่นสิ…BMWสีบลอนด์มาแล้วละมั้ง…”

     

                    จริงดั่งที่พูด  นักเรียนหญิง(ที่ไม่ได้รับอนุญาตให้เข้ามาในสนามซ้อม)ที่เมื่อครู่เกาะรั้วปีนดูพวกหนุ่มๆนักกีฬาซ้อมตอนเช้า  ตอนนี้หันหลังควับส่งเสียงจ้อกแจ้กอะไรบางอย่างจนน่าสงสัย

     

                    และคดีก็คลี่คลายเมื่อปรากฏตัวร่างสูงที่ขอบรั้ว  ดวงตาคู่ที่ผมจำได้ว่ามันสวยนักหนาปราดมองแปปเดียว  ก่อนจะยกมือโบกทักทาย

                    เฮ้ยน็อต!  สีครามมาอ่ะ  ไปเปิดประตูเด๊ะ!”

                    เสียงไอ้เอ็กซ์สั่งรุ่นน้องม.ต้นที่ยืนอยู่ห่างออกไป  เจ้าหนุ่มหัวเกรียนพยักหน้าหงึกหงักแล้วทำตามรับสั่ง  พอประตูรั้วเปิดเท่านั้นแหละ  หัวใจผมก็ดันเต้นโครมคราม

                    ไอ้เหี้ย..แม่งมาแล้วอ่ะ”

                    จะดีกว่านี้ถ้ามึงไม่ทำเสียงขยะแขยงนะ  แต่เอาเหอะ..ถ้ามึงไม่ชอบ  ก็บอกไปว่ามึงไม่ชอบ”

                    กู-ไม่-ชอบ”

                    “…ลืมไปว่ามุขนี้ไม่ได้ผลกับมึงว่ะ  งั้นเปลี่ยนใหม่  ถ้ามึงไม่ชอบ..ก็จงบอกว่ามึงชอบ”

                    อ้าวไอ้สัสนี่..”

                    ไวน์ผิวปาก “กูไม่รู้ววว  ก็มึงเป็นพวกปากกับใจไม่ใคร่จะตรงกันน่ะ”

                    ผมขมวดคิ้วรอบที่ล้าน  หันกลับไปมองสีครามที่โผล่เข้ามาใกล้  ทว่ากลับเลือกที่จะนั่งถัดจากไวน์ไปอีกข้าง

                    ทำไรอยู่น่ะ?”

                    ติวชีวะว่ะ  มีเทสต์วันศุกร์..ว่าแต่หนุ่มเอ๋ย  มีธุระประการใดเล่ามาแต่เช้าเชียว”

                    คนถูกถามยักไหล่จ๋า  เหลือบตามองผมครู่หนึ่งแล้วว่า

                    พอดีไปเบญจาฯ(ชื่อหอที่ผมอยู่น่ะ)  แล้วเจอไอ้บูมเลยรับมาด้วยกัน  ป่านนี้มันเข้าห้องซ้อมแล้วล่ะมั้ง”

                    อ่อ….” มึงไม่ต้องมองกูด้วยสายตาทำนองนั้นเลยไอ้ไวน์ “พอดีไปรับเค้า..แต่เค้าหนีมาใช่ป่ะ..”

                    ฮะๆ  นับว่าทายถูก”

     

                    -ไม่ได้หนีเว้ย!!”

                    ถึงคราวผมค้านประโยคแรกล่ะ  แล้วจะทำเสียงสั่นทำแป๊ะไรฟะเนี่ย!  หมอนั่น(ทั้งคู่แหละ..) หันมามองผมตาแป๋วราวมีเลศนัยอะไรสักอย่าง

                    กูไม่ได้หนีสักหน่อย!  ก็..ก็แค่ตื่นเช้ารับอากาศเย็นบ้างน่ะ  มาโรงเรียนแต่เช้าก็ดีอยู่แล้วนี่..ไม่ต้องยิ้มแบบนั้นเลยสัสไวน์  เดี๋ยวพ่อเอารองตีนยัดปากให้..แล้ว..!!  แล้วนายจะหัวเราะทำไมละสีคราม!!!  ไม่ใช่เรื่องน่าขำนะ..โธ่ว้อยประเทศไทย!!!”

     

                    อย่าอารมณ์เสียแต่เช้าสิกานดา  เดี๋ยวก็บูดไปทั้งวันหรอก”

                    เรื่องของกู!!”

                    เอาอีกแล้ว..รอยยิ้มแบบนั้นอีกแล้ว…

                    เรื่องของคนที่ผมรัก”

                    ..ถ้าหัวใจผมเป็นตัวเป็นตนคงออกมาเต้นสกาเรกเก้แล้วละครับ..

                    “…อะ…อ้วกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก  อย่ามาเลี่ยนแต่เช้าสิวะสัส”

                    ไวน์ยกมือจะปิดปากปิดจมูกทำท่าคว้ากระโถนเสียเต็มแก่  แต่มันก็ยังดีกว่าให้ผมยืนหน้าร้อนฉ่าโดยที่ไม่กล้าพูดคำใดๆออกจากปากก็แล้วกัน

                    เฮ้ยเล่นไรหนุกๆกันวะ?”

                    แล้วเอ็กซ์ก็ยื่นจมูกมาเจือกครับ  เมียมันได้ทีถลาเข้าไปหาใหญ่  รีบฟ้อง

     

                    “..อันน้ำเน่าเหม็นคละคลุ้งฟุ้งจิต  ฤๅจะคิดขวางมดสีม่วงได้  สรุปแล้วมึงเป็นเกย์จริงหรือไร  จะจีบกันก็จงไปไกลตีนกู…”

     

                    สีครามหัวเราะร่วน

     

                    กูน่ะใช่แต่เค้านั้นไม่ใช่  ทางที่ดีมึงไปแคะขี้หู  ฟังดีๆกูว่ามึงก็รู้  แท้ตัวกูรักเค้า..อยู่ฝ่ายเดียว”

     

                    อ๊ะจริงหรือที่กูฟังนั้นมันผิด  ลองนึกคิดสิ่งดูน่าหวาดเสียว  คนไม่ชอบจะทนได้อย่างไรเชียว  ประเดี๋ยวเดียวแม่งก็ตกหลุมมึงเอง”

     

                    กูก็คิดกูก็อยากเป็นดังฝัน  แต่ว่ามันดูฝืนใจให้โหวงเหวง  กูอยากให้ค่อยเป็นไปค่อยบรรเลง  ถ้าผิดพลั้งกูเองจะถอยมา”

     

                    โอ้ยไอ้สัสยิ่งฟังก็ยิ่งเน่า  อันคนเรามากกิเลสและตัณหา  อันที่จริงมึงอยาก-ปิ๊บ-ก็บอกมา  แล้วพวกข้าจะช่วยฉุดเหี้ยนั่นเอง….”

     

     

                    “............พวกมึงจะแต่งกลอนสดก็ไปให้พ้นโว้ยไอ้เหี้ยยย!!!”

     

                    ในที่สุดผมก็ทนไม่ไหว(ความอดทนสูงพอควรนะตัวผมเนี่ย..)ตัดสินใจตะโกนด่าชี้หน้าแม่งรายตัวข้อหาเปิดสอนวิชาครูลิลลี่นอกชั้นเรียน  หนำซ้ำยังมีวาจาหยาบโลนด่าบุคคลที่สามอย่างผมอีก  ไอ้สัสเอ้ย!  เจริญกันทั้งเมือง..

                    ฮะๆ  ขอโทษทีนะ  ไม่โกรธใช่มั้ย?”

                    และแทนที่มันจะสำนึก  หันมาพูดคำหวานใส่อีก  ไม่ต้องหันไปมองก็รู้ว่าสองแสบกำลังจะผิวปากชัดเจน

                    ฮิ้ววววว  รักกันจริ๊งงงงง”

                    แหะๆ”

                    โป๊ก!!

                    ไม่ต้องไป ‘แหะๆ’ กับมันว้อย!!  อยู่กับพวกมึงแล้วเสีย’รมณ์เป็นบ้า  กูกลับห้องละ”

                    ผมกระแทกเสียงรำคาญใส่  แน่นอนว่ามันยังไม่เลิกล้อเลียน  คว้ากระเป๋าได้ก็ตรงดิ่งสู่ขอบสนาม

     

                    อ้าวพี่เดียร์  กลับแล้วหรอฮะ?”

                    เอ้ออ”

                    ผมบอกองศาที่เดินสวนกันพอดีโดยไม่มองหน้า

                    พี่ครามก็อยู่ด้วยแหะ~”

                    ไงศา  ไม่เจอกันนานนะ..อ๊ะ  พี่ต้องไปแล้ว  บายๆ”

     

                    สีครามก็กุลีกุจอวิ่งตามผมมา  พอผมหันกลับไป  ก็เจอรอยยิ้มทอประกายแสงตะวันสู้แดดยามเช้าจนต้องรีบหันกลับมา

     

     

                    แล้วใส่เกียร์หมา..โกยแน่บทันที..!!!

     

     

     

     

     

    = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = =

     

     

     

     

     

                    หลังจากที่ไพรูวิกเอซิดผ่านไม่โทรคอนเดรีย  จะปล่อยคาบอนไดออกไซด์ออกมา”

                    นั่นก็เพื่อให้อะซิตอลดีไฮดที่เป็นเอทานอลอย่างหนึ่งเปลี่ยนเป็นอะซิติลโคเอนไซม์Aครับ โดยปล่อยไฮโดรเจนมา2ตัว  และมีNADไปรับ”

                    แล้วค่อยไปเข้าเครปไซเคิลใช่มั้ย?”

                    ใช่ครับ”

                    ผมพยักหน้าหงึกหงัก  จดยิกๆตามคำที่ลาล่าพูด  ซึ่งหนุ่มน้อยยังคงอธิบายต่อ

                    ขบวนการนี้เรียกว่า ‘Acetyl Co-enz A formation’ ครับ…เอ่อ..คุนกานดา..”

                    อืม…ขบวนการนี้ไม่ให้ATP  แต่ให้ซิตริคเอซิด……”

                    “..ครับใช่  มันเป็นสารตั้งต้นของเครปไซเคิลพอดี…เอ่อ…คุณกานดาครับ..”

                    “…อะไร?”

     

                    “…คุณสีคราม..มองอยู่ตั้งแต่เมื่อกี้นี้แล้วครับ?”

     

                    อ่อไม่เป็นไรหรอกลาล่า  ผมแค่มองเฉยๆน่ะ  ไม่ต้องกังวลหรอกนะ  ฮะๆ”

                    ป๊าบ!!

                    มองหาเตี่ยมึงเรอะ!”

                    หลังจากผมฟาดกระดาษชีทย่อยในมือลงหน้าหล่อๆนั่นแล้วจึงด่ายกใหญ่  ยังดีที่ภายในห้องสมุดห้ามส่งเสียงดัง  มิเช่นนั้นคงตะโกนไปแล้ว

                    หยา  แค่มองเองนะ”

                    ตามติดแบบนี้แถวบ้านเรียกสโตรคเกอร์ว้อย”

                    ฮ่าๆ  แต่ปรากฏตัวให้เห็นแบบนี้ไม่ได้โรคจิตนะ”

                    ไม่ต่างกันหรอก!”

                    ต่างสิ  เนี่ยแสดงความรู้สึกออกไปเต็มเปี่ยมและชัดเจนสุดๆเลยนะ”

                    ไม่ต้องมาแสดงให้กูเห็นโว้ย!!”

                    ถ้าไม่ให้กานดาเห็นแล้วจะให้หมาบ้านไหนเห็นละ”

                    หมาในปากไอ้ไวน์ก็ได้สัส!”

                    นั่นไม่ใช่หมาวัดหรอ?”

                    “…มันบอกเลี้ยงคอกนี้อย่างดี..สงสัยเปิดแอร์ให้แม่งนอนด้วยน่ะ….”

                    ฮะๆ  เป็นคฤหาสน์สุนัขเลยรึเปล่า..จะว่าไปอาจจะถามผลสรุปรวมผลิตภัณฑ์ทั้งหมดเลยก็ได้นะ”

                    นั่นก็ต้องถามอยู่แล้ว  ต้องเตรียมคำนวนด้วยว่าสารตั้งต้นเท่าไหร่ๆ”

                    อือหึ  แต่แก๊สส่วนใหญ่ไม่ได้ออกมาจากสมการ..แต่สามารถรียูสได้ใช่มั้ย”

                    ถูก  เก่งเหมือนกันนี่”

                    ก็เรียนม.เดียวกัน ก็ต้องเรื่องเดียวกันสิ..~”

     

                    “…เอ่อ….ถ้าผมเกะกะ….ผมไปนั่งโต๊ะโน้นก็ได้นะครับ…”

     

                    ลาล่าขัดบทสนทนาด้วยรอยยิ้มนิดๆพลางพยักเพยิดไปทางโต๊ะข้างๆ  ที่มีไวน์นั่งอ่านหนังสือเงียบๆและไอ้เอ็กซ์นอนหนุนตักสบายอยู่  นั่นเป็นจุดสนใจน่าดูเชียวละ..

                    ไม่ต้องเลย  นี่ก็ชวนคุยจัง  ถ้าจะรอก็นั่งเงียบๆ”

                    ผมเอ็ดแล้วพลิกหน้ากระดาษ  เปลี่ยนสีปากกา(ของลาล่า)ก้มเขียนงุดๆ  คนฟังพยักหน้าหงึกหงัก  ได้ยินเสียงมันขอตัวไปหยิบหนังสือมาอ่านฆ่าเวลาแล้วลุกออกไป

     

                    ธรรมดาแล้วห้องสมุดจะไม่ค่อยมีคนใช้หรอกครับ  เพราะมันมีห้องสื่อการเรียนรู้ของแผนกวิชาการต่างๆรองรับอยู่แล้ว  คนอื่นๆจะไปใช้ห้องนั้นกันเสียมากกว่า  เพราะหาหนังสือได้ง่ายกว่า  แต่พวกผมชอบมาใช้ห้องนี้  เพราะแอร์มันเย็นกว่าน่ะ (หัวเราะ)

                    เมื่อเช้าผมวิ่งหนีเกือบตายแต่กลายเป็นมันวิ่งสบายๆตามมา  และข้อสันนิษฐานคือช่วงขาที่ยาวกว่าผมทำให้มันดูไม่เหนื่อยเลยสักนิดทั้งๆที่ผมเหงื่อออกจะเป็นจะตาย  สุดท้ายกลายเป็นผมนั่งคอพับอยู่บนโต๊ะโดยมีไอ้คุณชายตัวดีโบกพัดให้เสร็จสรรพ

                    ผมไม่ชอบออกกำลังกายตอนเช้าเพราะเหงื่อมันจะออก  ทำให้ไม่มีสมาธิในการเรียนน่ะฮะ  เลยแอบนับถือพวกโควต้ากีฬาว่ามีแรงเหลือเฟือกันจริง

     

                    เพราะวันนี้เลิกเรียนเร็ว  เลยมีเวลามานั่งติวชีวะที่จะสอบพรุ่งนี้เช้ากันในตอนเย็น  เถียงเรื่องสถานที่ไปมาสุดท้ายตายรังที่เดิม  คือห้องสมุดนั่นเอง

     

                    เฮ้ยโย่!!”

                    บูมทักพลางเท้าแขนกับหัวลาล่า  กระดุมเสื้อถูกปลดถึงเม็ดที่สองกับเนคไทสีเทาที่ถอดพาดไว้บนบ่า  มันหอบหายใจเบาๆขณะทิ้งตัวลงนั่งเก้าอี้ตัวข้างๆ

                    วิ่งหนีตัวเหี้ยไรมาอีกวะสัส”

                    เชรี้ยกลอนดิ!  จู่ๆเอาแรงฟิตเหี้ยไรไม่รู้มาถล่มพวกกู  ตีจนปวดแขนมาเกือบสองชั่วโมงแล้วเนี่ย”

                    “..มิน่า  มึงเลยโดดคาบอังกฤษ”

                    ถูก! เสือกเรียกรวมเวลานั้นพอดี  นี่กูก็วิ่งมาตอนมันออกไปห้องน้ำนะเนี่ย..เหนื่อยชิบเป๋ง”

                    มันทั้งโบกทั้งพัด  ทั้งสะบัดเสื้อคลายร้อน  ก่อนเสียงจะดังตามมาอีก

                    โอ้ยพี่  โกยได้ไม่มียั้งแรงเลยนะฮะ”

                    รุ่นน้องสองคนวิ่งตามกันมา  ทั้งสองต่างคุ้นหน้าคุ้นตาผมอยู่แล้วเพราะเป็นพวกนักดนตรีของโรงเรียน  คนนึงน้องน้ำมนต์ม.4ห้องความสามารถฯ (น้องพี่สายสิญจน์..ฟังแล้วร้อนๆเลยแหะพี่น้องคู่นี้) อีกคนน้องโยจากห้องเดียวกัน

                    อ้าวกำ!  ไหงพวกมึงมาด้วยละเนี่ย”

                    พี่บูมเผ่นออกมาอย่างนั้นแล้วพวกผมจะนั่งรอทำแป๊ะอะไรละคร๊าบบบ”

                    โยพูดยียวนพลางทิ้งตัวนั่งลงกับพื้น  แสดงว่าเหนื่อยมาก

     

                    ทำไมบางทีมันถึงได้36ATPล่ะครับ? แทนที่จะเป็น38” ลาล่าเงยหน้าขึ้นมาถาม

                    ก็เพราะNADH+H+จากขบวนการไกลโคไลซิส  มันเข้าไปเปลี่ยนเป็นATP  แล้วเสือกมีตัวมารับไม่เหมือนกันน่ะ  เก็ทยัง”

                    ตัวมารับไปเป็นATPสินะครับ?”

                    ถือว่าถูก”

                    ผมพยักหน้าขณะที่ร่างสูงเดินเข้ามาพร้อมหนังสือวรรณคดีในมือ

                    อ้าวบูม  มาได้ไงเนี่ย”

                    หนีเหี้ยกลอนมาว่ะ  โอ้ยเหนื่อย…”  บูมตอบ  และยังไม่ทันจะได้เอ่ยประโยคอะไรต่อ  เสียงริงโทนโทรศัพท์ก็ดังขึ้น

     

                    ‘…ถ้าหากรักนี้..ไม่บอกไม่พูดไม่กล่าว..แล้วเค้าจะรู้ว่ารักหรือเปล่า….’

     

                    กลอนโทรหากูว่ะ” สีครามพึมพำบอกพลางทิ้งตัวนั่งลงข้างผม  บูมรีบยกมือทำเครื่องหมายกากบาทแล้วสั่นศีรษะพัลวัน  ลูกคู่ทั้งสองเห็นดังนั้นรีบยกตาม

                    ฮัลโหลครับ  หืม?..บูมหรอ??  ไม่เห็นนะ…ห๊ะ!  จะฟ้องพี่สายสิญจน์!?” ประโยคนี้แอบพูดเสียงดังให้น้องน้ำมันต์ได้ยิน  เจ้าตัวสะดุ้งเฮือกหันไปมองโยที่ยกมือกุมขมับ  “อ่าฮะ..ได้  ถ้ากูเจอแล้วจะบอกให้ละกัน..อืมครับ ครับ…”

                    ถ้าพี่สิญจน์รู้กูทำไงเนี่ย!!”

                    น้องน้ำมนต์พูดขึ้นทันทีที่ไอ้ครามวางสาย  ไอ้โยรีบปลอบ

                    “…คืนนี้หลบภัยบ้านกูก่อนมั้ย…?”

                    “..พี่เค้ารู้บ้านมึงแล้วอ่ะ”

                    เวรละ!  กูก็ซวยไปด้วยสิวะ!!”

                    หอพี่มั้ย?”

                    หอพี่บูมยิ่งแล้วหนักเลยพี่….พี่สิญจน์โคตรจะสนิทกับเจ้าของหอเบญจาฯง่ะ….”

                    น้ำมนต์ครางเสียงหงอยจนผมต้องเหลือบตามอง  เด็กอะไรฟะ..หน้าใสฉิบ  แถมไอ้ตอนทำท่าจะร้องไห้แบบนั้นยิ่งน่าเอ็นดูเข้าไปใหญ่  ติดเสียว่าเป็นมือเบสชั้นยอดเลยเท่ห์ไปนิด  ใครๆก็บอกแท้ๆว่ามันไม่เหมาะ

                    กลับกัน..หน้าตากวนประสาทอย่างสัสโยนี่เสือกเล่นคีย์บอร์ดครับ…

                    โธ่!!  ทำไมพี่กลอนต้องเอาพี่มาอ้างด้วยเนี่ย ว๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกก”

                    เฮ้ย  ทุกปัญหามีทางแก้เว้ย”

     

                    ไปค้างบ้านพี่มั้ยจ๊ะน้องน้ำมนต์~”

     

                    เสียงใสตะโกนมาจากโต๊ะที่อยู่ถัดไปสามโต๊ะ  จิ๊บและผองเพื่อนแก๊งค์ยาดองนั่งกันเกลื่อน

                    “…ไอ้จิ๊บ…เคี้ยวเด็ก”

                    ไรยะ!!”

                    ได้หรอครับพี่!”

                    ได้สิจ๊ะ  บ้านพี่รับหนุ่มๆอยู่แล้ว”

                    เช็ดน้ำลายด้วยเพื่อน”

                    ตาหวานเยิ้มไปป่ะ”

                    หยุดแซว  น้องน้ำมนต์นั่นสเปคกูนะว้อย!!” มันเริ่มโวยวายหลังจากที่ทุกคนแซวสนั่น

     

                    ไอ้ไวน์ที่นั่งเงียบอยู่นานเพราะกลัวเอ็กซ์จะตื่น  กลับมาเข้าบทเดิม

     

                    มาจะกล่าวบทไป  ถึงฝ่ายแม่ไก่ยาดองจ๋า  เตรียมเคี้ยวเด็กไม่ให้เหลือครณา  โอ้น้องยาเสร็จพี่เสียดีดี”

     

                    ได้ที  สาวผิวเข้มผู้ถูกอ้างอิงถึงกับยกขาวางบนเก้าอี้ไม่เป็นกลุสตรี  แถมยังชี้นิ้วกรีดกรายตบขาตามตำราเป๊ะๆ

     

                    ยังมีหน้ามาด่ากูอีกนะสัส  บ้านว่างจัดมากนักหรือประเทืองศรี  แล้วไอ้ที่นอนตักเหมือนไม่มี  กลับไปดูผัวมึงดีๆเทอดเอย”

     

                    อีลำยองตกไทยใช่ไหมนั่น  เสียงซะพันตีกันให้มึนหัว  นี่ผัวกูกูยอมรับไม่ได้กลัว  รักจนมัวเมาหลง..ไม่ต้องยุ”

                    มันว่ากลับทั้งรอยยิ้ม  ไอ้จิ๊บถึงกับสบถออกมาไม่ได้ศัพท์  วุ่นเพื่อนรักเลยช่วยเสริม

     

                    ที่ด่าไปอันที่จริงพวกกูชอบ  ดูมึงปลอบกอดกันแล้วสุขี  ไม่ได้ด่าว่าเกย์มันไม่ดี  ความรักมันอยู่ที่หัวใจคน”

     

                    ค่อยดีหน่อยมีไอ้วุ่นคอยร่วมช่วย  ไม่งั้นซวยจิ๊บพาเมาเศร้าขัดสน  กูก็ปลื้มมึงไม่ด่าว่าสัปดน  แต่บางคน.. ‘แถวนี้’ …น่าจะฟัง”

     

     

                    ผมวางปากกา  รู้สึกได้ถึงการปรายหางตามาของคนครึ่งห้องสมุด

     

                    ที่กูไม่ไม่ใช่ว่ากูรังเกียจ  กูก็เครียดคิดมากในพักหลัง  พวกมึงก็รวมตูดด่ากูกันจัง  กูลำพัง…คิดหนัก..อยู่ผู้เดียว”

     

     

                    จริงปะ?”

                    เสียงไอ้ครามขัดขึ้น  ผมชะงัก  อ้าวไอ้เหี้ย..เผลอตัวพูดไป

                    เค้าต่อกลอนกันอยู่สัส  มาถามขัดเหี้ยไร”

                    จริงรึเปล่ากานดา?”

                    เออ”

                    คิดมากหรอ?”

                    เออ”

                    “….พวกพี่เป็นเกย์กันจริงดิ?”

                    เสียงไอ้โยขัดขึ้นหน้าเหรอหรา  เออถูก  ขัดประโยคได้โดนใจจอร์จมากน้อง  หลังจากนั่งเงียบฟังโต้วาทีไอ้พวกนี้อยู่นานน่ะนะ

                    สีครามไม่ตอบ  หันไปยิ้มกรุ่มกริ่มให้แทน  พวกผู้หญิงก็หัวเราะลั่น  ปล่อยให้ลาล่าเสริม

                    พี่ก็งงเหมือนกันครับน้องโย  ไม่รู้เล่นหรือจริง”

                    สรุปเล่นหรือจริงอ่ะ?”

                    โยมันหันมาเซ้าซี้บูมที่กำลังนอนทำท่าเซ็งเป็ดอยู่กับโต๊ะ  และแทนคำตอบ..กลายเป็นไอ้บูมคว้าไอ้โยไปหอมแก้มหนึ่งฟอดแล้วยิ้มหวาน

                    คิดว่าไงล่ะโย?”

                    กรี๊ดดดดดด~  เขินนนนนนน~”

                    “…ไอ้แรด”

                    คำนี้ทุกคนแถวนั้นพูดพร้อมกันด่ารุ่นน้องตัวแสบ  พวกผมหอมแก้มกันเป็นปกติเรียกเรตติ้งอยู่แล้วเลยไม่ค่อยว่าอะไรมากมายเท่าไหร่  สาวๆในห้องก็รู้จักกันดีพอจะไม่คิดอะไรแล้ว  แต่น้องน้ำมนต์นี่อึ้งค้างไปเลย..

                    ทำอะไรกันน่ะฮะ!  ไม่อายผีสาง!!”

                    พูดจาไม่สมหน้าตาน่ารักเลยนะน้องน้ำมนต์…

                    หนุ่มน้อยหน้าแดงซ่านจนจับสังเกตได้  แต่กลายเป็นน่าแกล้งไปฉิบ  รู้ตัวอีกทีไอ้บูมก็กระโดดปลุกปล้ำน้ำมนต์โดยมีโยคอยเสริมเสียแล้ว

     

                    เสียงร้องโวยวายของผู้ถูกกระทำดังขึ้นนิดๆจนทุกโต๊ะเริ่มให้ความสนใจ  จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ห้องสมุดเป่านกหวีดปรามเหตุการณ์จึงสงบลง

     

                    ผมกับลาล่าจึงหันมาสนใจบทเรียนกันอีกครั้ง  แต่คราวนี้สีครามเขยิบเข้ามาใกล้พร้อมรอยยิ้มหวานๆ

                    กานดาครับ”

                    อย่าพูดเพราะ…สมองผมว่างไปวูบหนึ่งทุกครั้งที่เขาพูดว่า ‘ครับ’อย่างนั้นอย่างนี้

                    พูดจริงรึเปล่า? คิดอยู่ใช่มั้ย?”

                    “…..-ปฏิกิริยาขั้นที่1,2,3 เกิดที่นอบใช่มั้ยลาล่า?”

                    ผิดแล้วเกิดที่Cytosalต่างหาก..ไม่มีสมาธิแล้วนะกานดา  ตอบผมก่อนสิ..”

                    กูบอกว่าอย่าพูดเพราะ!!!  สมองกูขาวโพลนแล้ว!!!

                    พอเห็นผมไม่ตอบ  เขาตัดสินใจเอนหลังพิงผนักแล้วถอนหายใจ

                    “…กูทำให้ลำบากใจหรอ?”

                    “…นิดหน่อย”

                    จะตอบแบบรักษาน้ำใจแม่งทำไมเนี่ย!!  ผมนึกอยากตบปากตัวเองตะหงิดๆ  เหลือบหางตามองก็เห็นแววตาที่เคยอารมณ์ดีทุกครั้งดูหมองหม่นเล็กน้อย

                    แค่นิดหน่อย  จะเอาไรกะกูมากวะ”

                    นิดหน่อย?”

                    เออ นิดเดียว  นิดหน่อย”

                    เท่านั้นแหละใบหน้าคมสวยนั่นก็ฉีกยิ้มร่า

     

                    ต่อให้โดนบอกลาหรือว่ากล่าว  เรื่องอื้อฉาวมากมายใครจะสน  ก็จะรักอยู่เสมออย่ากังวล..ผมจะทนตลอดกาล…นะ ‘กานดา’”

     

                    ไม่รู้รู้สึกไปเองรึเปล่าที่ครั้งนี้เขาเน้นชื่อผมกว่าทุกครั้ง  เสียงทุ้มๆเข้มๆนั่นกดเฉพาะตรงปลายประโยค  เจาะจงสะกดให้ชัดเจนกับ…

                    ชื่อที่แปลว่า.. ‘ที่รัก’ ….

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×