คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #71 : CHAPTER 70 ...
'กูเป็นคนสั่งให้หมอนั่นไปตาย!!!'
..เสียงหวานที่ลอดมาตามสายโทรศัพท์นั้นสั่นเครือ..แต่หนักแน่นมากพอที่จะทำให้ผมรู้ว่าเขากำลัง 'โทษตัวเอง'...
ที่ผมเงียบไม่ใช่เพราะผมโกรธหรือเกลียดเขา...
ผมเงียบ..
..เพราะไม่รู้ว่าจะยกคำพูดสวยหรูอันไหนมาปลอบใจเขา..ปลอบหัวใจดวงน้อยๆของเขาที่ตอนนี้บอบช้ำเสียเกินทน...
…..ถ้าผมทำได้.....
..ผมอยากจะบินลัดฟ้าข้ามไปดึงร่างบางๆนั่นเข้ามากอด หรือไม่ก็ลอดตัวเองผ่านสัญญาณดาวเทียมเพื่อเช็ดน้ำตาให้เขา..
..มันไม่ใช่ความผิดเขาเลย..
..ปิ๊บ..
ก่อนที่ผมจะได้ทันเอ่ยอะไรออกไป เสียงกดวางจากปลายสายก็ดังกระแทกหู
ผมนิ่งเพื่อตั้งสติกับเสียง 'ตรู๊ดดด ตรู๊ดดดด' นั่นได้ไม่นาน..ก่อนจะลองโทรกลับเข้าเบอร์ของเขาอีกสักครั้ง..
'หมายเลขที่ท่านเรียก ไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้...'
………
ผมอยาก 'กอด' เขา…..
……………เดี๋ยวนี้เลย!!!
"..หืม? จะไปไหนน่ะลูก?"
คุณยายเปิดประตูเข้าห้องผมหลังจากเสียงเคาะได้ไม่นาน ผมหันไปฉีกยิ้มบางให้ท่าน..แล้วอธิบาย
"มีเรื่องด่วนน่ะครับ..จะซื้อตั๋วกลับคืนนี้"
"เอ๋ตายจริง หลานคนนี้นี่..มาอยู่ได้ไม่นานจะกลับอีกแล้ว.." ท่านเปรยขึ้นนิดหน่อย แล้วเดินกระท่อนกระแท่นไปแพคยาเม็ดใส่ถุงผ้าอย่างดีแล้วยื่นมาให้ผม
"..มาครั้งหน้าผมจะมานานกว่านี้แน่ฮะ ผมสัญญา"
"จ้ะๆ พ่อหนุ่มปากหวาน...เป็นเสียอย่างนี้สาวติดตรึมเลยล่ะสิ~"
ยายหัวเราะเมื่อผมสวมกอดท่านแน่นๆทีหนึ่ง แล้วหันกลับมาจัดกระเป๋าต่อ
"งั้นเดี๋ยวผมไปก่อนนะครับ"
"จ้ะ แล้วนี่ไม่รอพ่อกับแม่เค้ากลับมาก่อนหน่อยหรอ?"
"อ่อ…คง…ไม่ทันล่ะครับ เดี๋ยวผมค่อยโทรบอกท่านอีกที"
ไม่ว่าเปล่าสะพายกระเป๋าขึ้นบ่า หันไปบรรจงไหว้บนอกคุณยายครั้งหนึ่ง เงยหน้าขึ้นมายิ้มรับกับความเอ็นดูที่ท่านส่งต่อมาให้
"เดินทางดีๆนะลูก"
คำอวยพร ที่ผมได้แต่โบกมือรับตอนที่วิ่งออกจากตัวบ้าน
ครอบครัวทางฝ่ายแม่ของผมมาตั้งรกรากกันที่เบอร์มิงแฮมหลังจากแม่แต่งงานกับพ่อได้ไม่นาน แต่โดยสัญชาติแล้วตระกูลเราเป็นคนไทยแท้ครับ..ผมน่ะต้องรักษาตาที่พอร์ทแลนด์ มันก็ห่างๆกันอยู่ล่ะ ขับรถไปหลายชั่วโมงอยู่..แต่ก็ยังดีกว่าเสียค่าโรงแรมล่ะนะ..
ผมดันตัวเองขึ้นแท็กซี่เรียกตรงสู่airportโดยแทบไม่กลัวค่ามิเตอร์ ไม่มีสนามบินเป็นของตัวเองมันก็แบบนี้ละครับ..
มานั่งคำนวณเวลาดูแล้ว..ตอนนี้มันก็เพิ่งจะสามทุ่มของที่โน่น..ถึงอย่างเร็วที่สุดก็คงเที่ยง หวังว่าเขาคงหลับฝันดีแล้วค่อยตื่นตอนผมไปถึงนะ.....
'….Last X'mas, i gave you my heart…..'
ผมหยิบมือถือตัวเองขึ้นมาดู หน้าจอโชว์เบอร์นอกหรา...ถ้าจำไม่ผิดเนี่ยเป็นของไวน์กระมัง....
"ฮัลโหล ว่าไง?"
((สีครามมม!! มึงอยู่ไหนเนี่ย!!))
"..หืม? ก็…อยู่บนแท๊กซี่ เดี๋ยวจะกลับแล้ว คงถึงเช้าพวกมึงอ่ะ"
((เออ! กูจะบอกมึงว่าตอนนี้เดียร์มันปวดหัวหนักมาก! ร้องไห้แล้วก็โวยวายจนพวกกูเกือบเอาไม่อยู่เลย!))
"..!! แล้วกานดาเป็นอะไรมากมั้ย!?!?"
((ไม่เป็นไรแล้ว จับกรอกยาแก้ปวด..แล้วให้นอนไปเมื่อกี้......จะฟ้องด้วยว่าแม่งกินน้อยมาหลายวันละ ถ้าพ่วงโรคกระเพาะไปด้วยเนี่ยกูไม่แปลกใจเลยนะ...เวลาโทรมาก็สั่งสอนมันดีๆหน่อย....หืม? แปปนะมึง ไอ้บูมจะพูดด้วย))
"อะ..อืม"
ผมนิ่งฟัง รถแท๊กซี่จอดติดไฟแดงอยู่ครู่หนึ่งตอนที่ผมได้ยินเสียงก่อกแก่กตามสาย..ก่อนเสียงบูมจะดังตามมา
((..ฮัลโหล? สีครามแม่นบ่?))
"อืม กูเอง"
((….เดียร์เล่าให้มึงฟังรึยังเรื่อง 'ผู้ชายคนนั้น'))
ผมเลิกคิ้ว "มึงรู้?"
((เอิ่ม..พอดีตอนนั้นกูอยู่ในเหตุการณ์น่ะ...แหะๆ สรุปแม่งเล่าแล้วใช่ป่ะ?))
"..ใช่.." ผมตอบเสียงเบา "….กานดาโทษตัวเองอีกแล้ว"
((..อื้ม..ก็ตามนิสัยมันอ่ะนะ)) มันว่าเหมือนพยายามทำให้เป็นเรื่องตลก ((มึงรีบกลับมาเร็วๆล่ะกัน))
"เออ กำลังรีบอยู่..."
((แล้วก็คือ...ข่าวดีสุดๆสำหรับมึง!))
"หืม?"
((…สิ่งที่แม่งกังวลที่สุดไม่ใช่เรื่องโทษตัวเอง แต่เป็นเรื่องที่กลัวมึงจะมองมันไม่ดี แล้วก็พาลเกลียดมันต่างหาก...))
ผมอึ้งกับคำพูดนั้น..
ก่อนจะลอบยิ้มออกมา..ทั้งที่ไม่ใช่เรื่องน่ายินดีอะไร..
"…จะเกลียดได้ยังไง...เพราะทำตัวแบบนี้น่ะสิถึงได้รักขนาดนี้..."
((…..คือ…..กูไม่ใช่ไอ้เดียร์ ไม่ต้องมาเลี่ยนใส่กูนะ ขนลุก..บรื๋ออออ))
"ฮ่าๆ"
((แม่งกังวลเรื่องไม่เข้าเรื่องเนอะ....แต่กูรู้สึกเหมือนมันยังปิดบางเรื่องกับกูอยู่ว่ะ......เลยเซ็งนิดหน่อย))
"เรื่องไหนหรอ?"
((อ่าวเวร มึงไม่รู้หรอกเรอะ?))
"…เรื่องไหนล่ะวะ?"
((กูจะไปรู้มั้ยละไอ้ห่า..บอกอยู่แหม่บๆว่าไม่รู้ กร๊ากกกกกก))
((เชรี้ย! เปลืองค่าโทรกู!)) เสียงไวน์ลอดออกมาเบาๆ
((เออ รู้แล้วจ้ะ...งั้นแค่นี้ก่อนนะว้อยสีคราม อย่าลืมของฝากด้วยล่ะ บาย..))
"อืมๆ บายๆ"
ปิ๊บ..
…'บางเรื่อง' งั้นหรอ...?
ผมเม้มริมฝีปาก เหลือบตามองไปตามท้องถนนด้านข้าง
..ไม่เป็นไร..
….ถ้าเป็นกานดา...พอถึงเวลาต้องบอกแน่นอน...
= = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = =
ผมใช้เวลาบนเครื่องเกือบทั้งหมดไปกับการนอนพักผ่อน และตื่นขึ้นมาก่อนเครื่องจะลงได้ไม่นาน
สาวเท้าออกจากตัวตึกสุวรรณภูมิ โบกแท๊กซี่หยอยๆอีกรอบเพื่อตรงสู่หออย่างรวดเร็ว
นาฬิกาบอกเวลาเกือบๆเที่ยง..
ผมแทบจะกระโจนออกจากรถแท๊กซี่ทั้งยังไม่ได้รับเงินทอน ก่อนจะพยักหน้าให้ลุงยามนิดหน่อยพอเป็นพิธีแล้วกระโจนพรวดเข้าคานูปปี้..กดลิฟท์..และรอ..
ไม่นานเกินชั่วอึดใจก็ระเหินมาถึงหน้าห้องอันแสนคุ้นเคย
ก๊อกๆ
ผมเคาะประตู แล้วหมุนลูกบิดเพื่อเปิดเข้าไปเจอกับใบหน้าเหรอหราของไอ้เอ็กซ์กับไอ้ไวน์ที่หันมามองพอดี
"กลับมาแล้วหรอวะแสรด มันยังไม่หายปวดหัว..กูเพิ่งให้แดกยาแล้วหลับไปตะกี้เลย"
ไวน์ทักด้วยน้ำคำไพเราะสุดๆ ผมยิ้มแล้วพยักหน้าให้มัน
ถอดรองเท้า โยนกระเป๋าไว้ชิดกำแพงด้านหนึ่ง สาวเท้าเร็วๆเพื่อมาให้ถึงเตียงคู่ที่ยังวางเกะกะไม่เข้าช่องใดสักทีเพราะไม่มีที่นั่น
…ร่างเล็กๆนอนซุกอยู่ใต้ผ้าห่มสีครีมอ่อน ดวงหน้าที่เคยขาวบัดนี้แดงระเรื่อพร้อมขอบตาบวมช้ำ..พอจะรู้ได้เลยว่าอีกฝ่ายร้องไห้หนักมากขนาดไหน..
เพียงลมหายใจที่ผ่อนอย่างสม่ำเสมอนั่นก็พอให้ผมอุ่นใจ..
ผมยกมือเกลี่ยนเส้นผมสีอ่อนที่ปรกข้างแก้มให้เขา แล้วโน้มหน้าบรรจงจุมพิตบนหน้าผากมนเบาๆเป็นเชิงบอกว่าเขารู้ว่าผม 'กลับมาแล้ว'
"แล้วนี่ทานไรกันยัง?"
ผมหันมาถอดเสื้อโค้ทแขวนไว้ที่ราว ได้ยินเสียงเอ็กซ์ตอบชัดถ้อยชัดคำ
"ยัง! ก็รอคุณชายเสด็จกลับมาเลี้ยงข้าวพวกกูเนี่ยแหละ!!"
"ฮะๆ แล้วไอ้บูมล่ะ?"
"เพิ่งขึ้นห้องไปอาบน้ำเมื่อกี้...เดี๋ยวค่อยชวนไอ้เท่าฟ้าไปแดก......มึงจะอยู่ดูเดียร์ใช่ป่ะ?"
ผมพยักหน้า..มีแอบอมยิ้มนิดๆให้พวกมันผิวปากแซวกันนิดหน่อย
"งั้นกินไรป่ะ เดี๋ยวพวกกูซื้อมาฝาก"
"..อืม..แล้วแต่ ซื้อไรมาทานหมดล่ะ" ผมว่า "เอาแบบที่กานดาทานได้ด้วยนะ"
"จ้ะๆ พ่อคุณทูนหัว กูละหมั่นไส้จริง!"
บทสนทนาดำเนินต่อไปอีกเพียงไม่กี่ประโยค บูมกับเท่าฟ้าก็ลงมาชวนพวกมันไปทานข้าวข้างนอกกัน ผมเลยได้ทักทายกันนิดหน่อย..ก่อนที่พวกเขาทั้งหลายจะปล่อยให้ผมอยู่กับคนรักแค่สองคน..
เสียงปิดประตูดังขึ้นแล้ว..
ผมเดินอ้อมกลับมาจัดของฝากใส่ตู้เย็น และจัดเสื้อผ้าเก็บเข้าตู้เหมือนเดิม ทั้งห้องไม่มีเสียงอะไรนอกจากเสียงฝีเท้าผมกับเสียงแอร์ที่ดังหึ่งๆ อากาศเดือนตุลาคมไม่ได้ร้อนอะไรมากมายนัก(ติดจะเย็นด้วยซ้ำ) แต่ถ้ามีคนไม่สบายอยู่ก็ควรจะทำให้อุณหภูมิคงที่ซะก่อน..
…เขาคงจะเครียด...และร้องไห้หนักมากแน่ๆ...
หลังจากเก็บข้าวของเรียบร้อย ผมก็เดินกลับไปนั่งบนเตียงให้เงียบและเบาที่สุด สอดมือเข้าไปประคองอุ้งมือน้อยๆของเขาขึ้นมา...ข้อมือดูจะบางกว่าที่ผมเคยเห็น..น้ำหนักเขาลดเพราะไม่ยอมทานอะไรสินะ..
ผมจูบบนหลังมือเขาแนบแน่นสักที แล้วค่อยๆวางมันลงกลางอกเขา...
"…สี….คราม…"
ทันใดนั้นเอง..แพขนตาชื้นก็ปรือขึ้นตอนที่ผมไม่ทันตั้งตัว
"..ข-ขอโทษครับ ทำให้ตื่น..............หรอ......................"
ประโยคสุดท้ายกับเสียงขาดๆหายๆเพราะเรือนร่างโปร่งบางนั่นลุกขึ้นมาโอบคอผม พร้อมซุกศีรษะเข้ากับซอกคอทันทีโดยไม่ให้ทันได้เตรียมใจ..
การกระทำที่ทำให้ผมรู้เลยว่า..เขาแค่ละเมอไม่ได้สติ..!!
"กานดา?"
ผมเรียกชื่อเขา พร้อมแตะหลังเปราะนั่นยกขึ้นมากอดแน่น
"………….อย่า……………."
"..ครับ?"
"………..อึก……………"
เสียงหวานพูดอู้อี้จนผมฟังไม่รู้เรื่อง ก่อนศีรษะกลมๆนั่นจะส่ายไปมาแรงๆจนผมต้องกดมันไว้
"ปวดหัวรึเปล่าครับ?"
เขาส่ายหน้า แล้วใช้สองมือตะกายหลังผม..หวังจะกอดให้แน่นกว่าเดิม
ผมจึงสนองตอบเขาด้วยการดึงตัวเขาขึ้นมานั่งตัก..ปล่อยให้อีกฝ่ายทำตามใจตัวเองสักพัก (ผมยอมรับว่าผมก็มีส่วนได้กำไรอยู่บ้างละ...เยอะด้วย...) ถ้าเป็นกานดาในรูปแบบปกติคงไม่มีทางขึ้นมาอ้อนเหมือนลูกแมวแบบนี้แน่ๆ..
"ตัวร้อนรึเปล่า ไหนดูสิ.."
ยกหลังมือแตะบนหน้าผากเกลี้ยง พบว่าอุณหภูมิไม่ได้ต่างจากเดิมเท่าไหร่นักก็วางใจ
"…อึก…"
"หืม? ไม่เอาแล้วคนดีไม่ร้องแล้วนะ ผมอยู่ตรงนี้แล้วไง"
"……อย่าปล่อยนะ"
"อืม…ไม่ปล่อยหรอก นอนพักหน่อยนะครับ"
"……อย่าปล่อย......."
"…ไม่ปล่อยจ้ะ ไม่ปล่อย นอนทั้งอย่างนี้แหละเนอะ"
ผมว่า แล้วเอนหลังเข้ากับตัวเตียง พิงทับหมอนใบโตอีกทีหนึ่ง
"….อืม…." อีกฝ่ายหมุนตัวเองเพื่อซบบนไหล่ผม ส่วนมือก็เลื่อนมาทำแค่กอดเอวผมเอาไว้หลวมๆ
….น่ารักซะจนอดที่จะก้มลงไปจูบปากไม่ได้.....
กานดาไม่ได้ดันตัวออกหรืออะไร ปล่อยให้ผมจูบเบาๆ..แถมยังยื่นหน้าเข้าหาตอนที่จะละออกมาอีก.....น่ารักๆ....
ผมปิดท้ายด้วยการจูบบนไรผมชื้นเหงื่อนั่นแทน แล้วดึงผ้าห่มขึ้นมาห่มให้เขาจนมิดไหล่
"….สีคราม...."
"ครับ?"
"….ถึงจะรำคาญ..ก็ห้ามปล่อยนะ...."
"หืม? ใครจะกล้ารำคาญคนน่ารักแบบนี้ได้ละครับ?"
"….ไม่ยู้.." เขาว่าอู้อี้ แล้วหลับตาลง "….ห้ามโกรธด้วย..."
"จ้ะ ไม่มีทางโกรธเลยล่ะจ้ะ"
"…..ถึงจะโกรธ..ก็ห้ามปล่อย...."
"ครับๆ"
"……ห้ามปล่อยจนกว่าจะอนุญาต....."
..เอ๊ะ..มันชักจะยังไงละเนี่ย.. "ครับผม ต่อให้สั่ง..ก็ไม่ปล่อยหรอก"
อีกฝ่ายไม่ตอบอะไรต่อจากนั้น..
ผมดีใจที่เห็นเขาหลับลงไปอีกรอบ อย่างน้อยก็อยากให้ร่างที่ต้องแบกรับอะไรเกินตัวแบบนี้ได้พักผ่อนบ้างอะไรบ้าง..อย่างน้อยก็แค่ตอนที่อยู่กับผม..
….อยากให้เขาพึ่งพิงมากกว่านี้...
มากกว่านี้.....
…ถ้าเขาไว้ใจผมมากกว่านี้....
……คงจะบอกเรื่องที่เขาปิดบังผมออกมากระมัง.....
ความคิดเห็น