คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #60 : CHAPTER 59 ตรงสู่บ้านเกิด (ภาคปลาย)
พระอาทิตย์ตกดินแล้วตอนที่เราเข้าภาคเหนือ(เป็นการเดินทางที่ช้านรก....-___-'') หลงบ้าง กลับรถบ้าง บลาๆๆ กว่าจะมาถูกทาง(..เพราะตามรถบัสกรุงเทพฯ-เชียงใหม่มา....)
สีครามผิวปากสบายใจตอนขยับพวงมาลัยเลี้ยวตามโค้ง แน่ละ..มีไกด์นำอยู่ด้านหน้าไม่ต้องกังวลอะไรนี่หว่า... พอเห็นผมมองมันก็หันมายิ้มหวานๆให้
ผมเลยหยิกแก้มมันด้วยความหมั่นไส้ไปทึ "ยิ้มอารายยยยย"
"ฮ่าๆ มีความสุขน่ะ..มากๆเลย"
หลังจากโดนรอยยิ้มบาดตานั่นกระแทกใส่อีกครั้งก็เลยยกหลังมือปาดข้างแก้มหลบสายตาจับผิดว่า..กูกำลังยิ้มอยู่..
ด้านหลังหลับกันหมดเรียบร้อย เราเลยหรี่เพลงให้คลอเบาๆแทน
"เรียนคุณแม่ท่านไว้รึยังว่าจะพาเพื่อนไป?"
"..บอกไว้แล้ว..แม่ดีใจใหญ่..แต่บ้านกูเล็กอ่ะ อาจจะนอนกันไม่พอ" ผมแอบบ่นเรื่องที่กังวลมาตลอดการเดินทาง
ถามว่าพื้นที่น่ะใหญ่มั้ย? ก็ใหญ่นะครับ..30กว่าไร่..แต่เป็นสวนซะส่วนใหญ่ โซนที่พักอาศัยมีอยู่เท่าตูดเป็ด......นอกจากกล้วยไม้แล้วจะปลูกผลิตภัณฑ์เกษตรไว้กินเองด้วยน่ะครับ(เพื่อลดรายจ่าย)
..แต่เดิมแล้วปู่ผมก็เป็นคนใหญ่คนโตครับ พื้นที่มีเป็นร้อยไร่..พอท่านเสียพ่อผมก็ขึ้นรับมรดก...แต่จู่ๆน้องชายของพ่อที่หายไปตั้งแต่ยังเป็นวัยรุ่นก็กลับมา พร้อมหนี้สินจำนวนมหาศาลดังกล่าว...เลยต้องขายที่ทอดตลาดบ้าง เปิดเช่าบ้าง..เพราะงั้นก็ไม่ได้จนตั้งแต่แรกแล้วล่ะ..
ปริ้นๆ!!
เสียงบีบแตรรถคันด้านข้างดังขึ้นเรียกความสนใจของเราไปครับ รถยนต์ที่ผมไม่ทราบรุ่นสีดำสนิทคันนึงวิ่งมาเทียบเรา หน้าต่างรถเปิดออกเผยหน้าของผู้ชายคนหนึ่งที่ทำท่าเหมือนจะพูดอะไรสักอย่าง
"ใครอ่ะ?"
"ไม่รู้เหมือนกัน..."
สีครามตอบผมแล้วกดเปิดกระจกรถบ้างเพื่อรอฟัง
…แต่สิ่งที่ไม่น่าจะเกิดก็เกิดขึ้นครับ....
กระดาษแผ่นใหญ่เขียนคำว่า 'จอดรถ' ถูกชูขึ้นมาให้ทั้งผม(ที่ชะโงกไปดู)และคนข้างๆเห็นชัดๆ
พร้อมวัตถุสีดำมะเมื่อมที่ผมคุ้นหน้าคุ้นตากับมันอย่างดีในมืออีกฝ่าย..
..ปลายของมันยังอยู่ในตัวรถคันนั้น..แต่ปากกระบอกพุ่งตรงมาที่พวกผมแสดงเป้าหมายอย่างชัดเจน....
….ชิบหายแล้ว.....
เอี๊ยดดดดดดดดดดดดดดดด..........!!!!!!!!!!!!!!!!
เบรคที่ถูกเหยียบจนมิดทำเอาหัวผมโขกคอนโซลหน้ารถอย่างช่วยไม่ได้ ตามมาด้วยเสียงตุ๊บตั๊บจากข้างหลังเพราะข้าวของเอนเอียงหล่นกระจาย
ผมเงยหน้าขึ้นมาพบว่ารถคันดังกล่าวกำลังจะเบรคเหมือนกัน แต่สีครามก็กดเปลี่ยนเกียร์แล้วพุ่งตรงไปด้านหน้าซิ่งหนีทันที...ยังดีที่ไม่ค่อยมีรถคันอื่นตามหลังมา
"เฮ้ยยยยยยย"
"ไรวะ! เกิดอะไรขึ้น!?!"
…ผมเองก็ตอบคำถามของพวกมัน(ที่ตะโกนจากข้างหลัง)ไม่ได้เหมือนกัน...
"กานดา! โทรศัพท์!!"
เสียงหมอนั่นตะคอกสั่ง ซึ่งผมก็ไม่มีเวลาน้อยใจกับเสียงดังๆนั่นหรอก
ผมคว้ามือถือด้วยมือที่สั่นระริก รู้สึกว่าหัวตัวเองคงจะโนเพราะกระแทกเมื่อครู่แน่ๆ
"หาใคร? หาใคร?"
"..พี่ดาวเสาร์!"
ปิ๊บๆๆๆ
อยู่ดีๆเหงื่อก็ไหลออกมาจากที่ไหนไม่รู้ตั้งมากมาย
ผมกดโทรออกหาคนเดียวที่น่าจะช่วยพวกเราได้...
ตรู๊ดดดดดด..ตรู๊ดดดดดดดดดดดด.....
"ติดมั้ย?"
"ไม่..ไม่ติด...ไม่รับ...."
"ว้อย!"
มองผ่านทางกระจกข้าง ไฟหน้ารถดังกล่าวยังตามมาแบบไกลๆ..
"เร็วกว่านี้ไม่ได้! เราไม่ชินทาง!!!"
"รู้แล้ว รู้แล้ว" สีครามตอบผมเสียงต่ำ มือใหญ่กำพวงมาลัยแน่นจนเส้นเลือดสีเขียวขึ้น "กานดา คาดเข็มขัด"
ผมทำตามอย่างว่าง่าย ทั้งๆที่รู้สึกว่าตัวสั่น..
ภายในรูกระบอกปืนมันมืด..ดำมืดกว่าผิวหนังด้านนอกมาก..
…จนแทบไม่อาจจินตนาการออกได้เลยว่าอะไรที่จะออกมาจากปล้องนั้น..ถ้าหากว่าไม่เคยได้รับ 'ความเจ็บปวด' มาแล้วครั้งหนึ่ง...
….ตัวสั่น.....
สีครามเหลือบมามองผม..แต่มือเขาไม่อาจละออกมาจากพวงมาลัยได้...
"…ไม่เป็นไร...กานดา…ไม่เป็นไร...."
"พวกมัน...พวกมันเป็นใคร?"
"……ไม่เป็นไรครับ...ใจเย็นๆนะ....โทรหาพี่ดาวเสาร์ก่อน..." เขาพร่ำบอกผม "...ไม่เป็นไร...ทุกคนอยู่ตรงนี้ ใจเย็นๆนะ.."
ผมพยักหน้าตามที่เขาบอก พยายามกดเบอร์โทรออกซ้ำๆกันหลายๆรอบ
"…พวกมันหรอ?"
เสียงไอ้ไวน์ถามขึ้นจากด้านหลัง
"…..คงงั้น......พวกมึงคาดเข็มขัดกันซะ ไอ้บูม...พี่สิญจน์...."
"กูกำลังโทรอยู่"
…เข็มวัดความเร็วชี้อยู่ระหว่าง120-140...
สำหรับผม..ผมว่ามันมากเกิน...
…..แต่…ไฟของรถคันดังกล่าวกลับตามมาเรื่อยๆ...
"…เดี๋ยวนะ.........นี่เรากำลังโดนตามอยู่หรอ...!?!"
วุ่นมันร้องอย่างสรุปสถานการณ์ไม่ได้ ผมไม่รู้หรอกว่ามันคาดเข็มขัดรึเปล่า...เพียงแค่พยายามฟังเสียง ตรู๊ดดด ตรู๊ดดดดด เท่านั้น…
"…จังหวัดอะไรแล้ว??"
"…….ลำปาง……….."
"เชรี้ยเอ้ย!! อีกตั้ง2-3ชั่วโมง..!!!"
..มีหลายคนเริ่มสติแตก..
"ใจเย็นๆ! ฟังนะ...อีก30กิโลจะมีด่านตรวจความเร็ว!" กลอนร้องบอก มันคงจะมีมือถือรายงานหรืออะไรสักอย่างน่ะแหละ..
"พูดจริงใช่มั้ย?"
"จริงดิ! ตามทางหลักเนี่ยแหละ....เอาให้รอด....!!!"
"…..แต่กูว่าไม่แน่........."
สีครามพูดขึ้นพร้อมเกร็งมือที่จับพวงมาลัยแน่น..
"..พวกมันมีปืน.."
..คำ..ที่ทำเอาบรรยากาศภายในรถอื้อลงทันควัน..
ผมกลืนน้ำลายกับคำพูดบอกเหตุการณ์นั้น อันที่จริงมันเป็นเรื่องที่ทำให้ผู้โดยสารทั้งหมดหวั่นใจมากกว่า..แต่เพราะเรายังเป็นวัยรุ่น..แบกรับคนเดียวมันคงไม่ได้ช่วยอะไร..สีครามคงเข้าใจในเรื่องนี้แล้ว..
"คุณพระช่วย" ไอ้จิ๊บพูดเสียงเบา "…นี่พวกมึงเจอเรื่องแบบนี้กันมาตลอดเลยหรอ...?"
..ความคิดมันทำให้ผมอึ้งไปพอตัว..
แทนที่จะหวั่นใจว่ากำลังจะตายห่า มันยังมีหนังหน้ามาขุดคุ้ยเรื่องอดีตเพื่อเป็นห่วงพวกผม..
"ถ้า..ถ้าอย่างนั้นมันคงไม่กล้าทำอะไร.." วุ่นเสนอขึ้นมาบ้าง เสียงมันสั่นๆเหมือนกล้าๆกลัวๆ.. "ยังมีรถคันอื่นอยู่บ้าง...."
"..กลัวว่ามันจะสังหารหมู่แล้วพลีชีพตามน่ะสิ.."
"มึงอย่าพูดอะไรน่ากลัวๆแบบนั้นได้ป่ะ......"
'….สุดท้ายยยยยยยยยย......'
ปิ๊บ!!!
ทันทีที่ริงโทนโทรศัพท์ผมร้องออกมาผมก็กดรับด้วยปฏิกิริยาอัตโนมัติ แต่ปรากฏว่าคนที่โทรมาไม่ใช่พี่ดาวเสาร์ครับ..
"…แม่….."
((เฮ้ย นี่พ่อเอง ตอนนี้อยู่ไหนแล้วเนี่ย? หลงทางรึเปล่า?))
เสียงพ่อยังคงร่าเริงออกมาตามโทรศัพท์ ผมนึกภาพตอนที่เขาหัวเราะออกเลยล่ะครับ..
"..พ่อ..พ่อ……เดียร์…….." ผมเหลือบมองสีครามแว่บหนึ่ง "..เดียร์…ถูกไล่ตามอ่ะ......"
((………..ไล่ตาม?.......นี่ลูกพูดถึงอะไร?))
"………มีรถขับตามมา...........เป็น 'พวกมัน'.........."
ผมไม่รู้ตัวว่าเสียงสั่นรึเปล่า..แต่สัมผัสได้ว่าน้ำตาไหลออกมาแล้ว...
"………ไม่รู้….ทำไมต้องเป็นพวกมันด้วยอ่ะ เดียร์นึกว่าเรื่องจบไปแล้ว....เรื่องมันน่าจะจบไปแล้ว...พวกมันต้องการอะไร...ต้องการชีวิต..หรืออะไรกันแน่......"
((เดียร์..ใจเย็นๆ ฟังพ่อนะลูก))
"ฮะ..…"
((ตอนนี้อยู่ไหน?))
"…ลำ..ลำปาง…."
((…ถือโทรศัพท์ไว้นะ....นั่งรถอะไรกันมา..?))
"รถตู้..สีขาวฮะ"
((…มองไปรอบๆสิ..เห็นอะไรบ้าง?..))
ผมมองตาม.. "ป่าครับ..ป่า..เพื่อนบอกว่าอีกสัก30กิโลจะถึงด่านตรวจ..."
((…โอเค….พ่อเห็นแล้ว))
"เอ๊ะ??"
((บอกสีครามว่าให้ชะลอรถ))
"….ห๊ะ?"
((บอกไปเหอะ...))
ผมพยักหน้าหงึกหงัก แล้วหันไปบอกคนข้างๆ "พ่อบอกให้ชะลอรถ.."
หมอนั่นเลิกคิ้วเหมือนไม่ค่อยเข้าใจ..แต่ก็ยอมปล่อยเท้าออกจากคันเร่งแล้วเปลี่ยนเกียร์รับหน้าที่
ฟึบ!!!
ทันใดนั้นรถกระบะสีแดงคุ้นหน้าคุ้นตาก็ขับสวนเลนข้างๆไป ผมชะงักแล้วรีบหมุนตัวมอง...บ้าเอ้ย!!! นั่นมัน...........
ทุกคนในรถมองตามที่ผมมอง เพราะมันค่อยข้างมืดและมีไฟอยู่เพียงไม่กี่ดวง..แต่เพราะสีที่สดมากของรถคันนั้นทำให้เห็นได้ลางๆในความมืด
จู่ๆมันก็หันเลี้ยวขวางถนนไว้ด้านหลังผม ก่อนจะเดินเกียร์ถอยหลังปรื้ดเดียวหลบเลนพ้น ส่วนไอ้คันที่ตามมาก็หักหลบด้วยความเร็วจนพุ่งทะยานลงข้างทางชนตู๊มกับผาเขา..
ตู๊ม!!!!
เศษชิ้นส่วนของรถด้านหน้าบี้แบนจนผมต้องยกมือปิดปากอุทานออกมาแทบไม่เป็นภาษา สีครามชะลอรถจนรถจอดที่ข้างทางแล้วเปิดหน้าต่างชะโงกหน้าออกไปดู..
รถกระบะสีแดงคันที่ช่วยชีวิตพวกเรา(..แต่คงคร่าชีวิตอีกฝ่าย..)เลี้ยวกลับมาประหนึ่งไม่มีอะไรเกิดขึ้น แล้วจอดเทียบข้างกับรถของเรา..
"..ฮ่วย เกือบไม่ทันแล้วนะเนี่ย"
..ใช่ หน้าตาคุ้นๆแบบนั้น..มีเพียงคิ้วเรียวที่มักขมวดบ่อยๆไม่ว่าจะทุกข์หรือสุขนั่นเท่านั้นที่เหมือนผม..เค้าโครงหน้าส่วนใหญ่จะคล้ายพี่มายด์มากกว่า..ตบด้วยรอยยิ้มกว้างๆกับหนวดเคราบางๆนั่นแหละ...
..ผู้ชายคนนั้นเอ่ยทักทาย..ตอนที่ผมกดวางโทรศัพท์...
ครับ…
ผู้ชายคนนั้นก็คือ.....
..พ่อของผมเอง..
= = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = =
"ทำไมไม่บอกแม่ล่ะว่าหลงทาง! ดูสิกลับมาป่านนี้..เอ้าๆ เข้าบ้านๆ เหนื่อยสินะ? แล้วนี่ทานอะไรกันมารึยัง?"
แม่วิ่งออกมาในชุดเสื้อเชิ้ตกางเกงขาสั้นแบบที่ท่านชอบใส่ ผมตรงยาวสีอ่อนรวบเป็นมวยไว้ด้านหลัง..และไอ้คำพูดเชิงเอ็ดเมื่อครู่ก็แค่แสดงความเอ็นดูแบบที่เห็นปกติ
"สวัสดีครับแม่"
ผมยกมือไหว้ นั่นทำเอาพวกที่เหลือร้อง 'หวัดดีคร้าบบบ' ออกมายาวเป็นกระพรวน...
พ่อเอารถไปจอดข้างโอ่งน้ำ สีครามก็เอารถตู้ไปต่อท้ายเหมือนกัน แล้วจึงเดินกลับเข้ามา
บ้านผมเป็นบ้านผสมระหว่างบ้านไม้กับบ้านอิฐปูนครับ เรือนไม้ใหญ่เป็นหลังเก่าแล้วมาต่อเติมอีกทีนึง ก็ไม่ได้หรูเลิศสวยงามอะไรเว่อร์มากมายแต่ก็พออยู่ได้น่ะแหละ
"มึงบอกว่าแคบ..แต่กูว่ากว้างดีออก"
นั่นเป็นคำที่ไอ้กรังว่า
เราลากของกันมาตรงเก้าอี้ไม้ยาว ช่วยแม่เอาของที่ฝากซื้อมาจากกรุงเทพฯเข้าไปเก็บในตู้ ทักทายคนงานที่ออกมารับผมนิดหน่อย
ป้าน้อยบอกว่าเด็กๆจะอยู่รอรับผมด้วย..แต่หลับกันไปหมดแล้ว (ก็มันห้าทุ่มแล้วน่ะ..)
"งั้นเดี๋ยวหนูสองคนไปนอนเรือนเล็กกับป้านะหนู"
"ค่า~" ไอ้จิ๊บไอ้วุ่นส่งเสียงจ้ะจ๋ารับแบบที่พวกผมไม่เคยเห็น เลยทำท่าจะอาเจียนกันอยู่พักใหญ่น่ะแหละ
น้านงค์ยกน้ำมาให้ดื่มแก้กระหายตอนที่พวกเรากำลังทำตัวให้ชินกับบ้าน
"รู้งี้น่าให้พ่อขับไปรับเสียตั้งนานแล้ว" แม่ว่า "ขับกันมาเองแบบนี้น่ากลัวอันตรายตอนกลางคืนอยู่นะ"
"ก็เจอมาแล้วจ้ะแม่" พ่อตอบน้ำเสียงกลั้วหัวเราะ
"เจอ?"
"…พวกมันตามมา..."
คำพูดของพ่อทำให้แม่เงียบไปชั่วอึดใจ แล้วกอดอกขมวดคิ้วมั่น
"หนอย! ไอ้พวกเวร! เอาเถอะ..เข้าเขตเชียงใหม่ก็ไม่มีคนกล้าทำอะไรเราแล้วล่ะ!! ล้มล้างให้หมดๆไปก็ไม่ได้..จองล้างจองผลาญกันอยู่นั่น..."
"..เคยมีคนบอกมั้ยว่ามึงเหมือนแม่?"
"…..บ่อยเลยล่ะ" ผมกระซิบตอบ
หลังจากสนทนากันได้ครู่หนึ่ง ก็เห็นว่าสีครามง่วงแล้ว(..ไม่แสดงออกชัด..แต่ถ้ามันตาปรือๆน่ะใช่เลย) พวกผมก็เลยจะขึ้นชั้นบนอาบน้ำนอนกัน เลยแยกกับพวกสาวๆตรงนั้น..
ห้องของผมเป็นเตียงสองชั้นครับ เพราะผมนอนกับพี่มายด์..แต่พอขึ้นม.ต้นก็ไปเรียนกรุงเทพฯแล้ว เลยไม่ค่อยได้นอนห้องเดียวกันอีก....ในห้องก็เต็มไปด้วยชั้นหนังสือมากมายทั้งของผมและของพี่ปนๆกันไป มากจนไอ้ตั๊มสบถออกมาอย่างไม่พอใจเชียวละ
เนื่องจากผมเป็นเจ้าบ้าน ผมเลยนอนเตียงชั้นบน.......
แต่ก่อนที่มันจะได้เลือกอะไรกันต่อผมก็คว้าแขนไอ้ไวน์หมับ! แล้วบอกว่าผมจะนอนกับมันล่ะ...ไวน์มันก็เลยคว้าแขนผมตอบแล้วแทบจะกระโจนเข้าที่นอนพร้อมกัน
"เฮ้ยไอ้สัส! ผัวเมียก็นอนด้วยกันดิวะ!!"
เอ็กซ์แม่งคว้าคอเสื้อไอ้ไวน์ไว้ได้ทันครับ ไม่อยากจะหันไปถามจริงๆว่ามึงหมายถึงคู่ไหน....
"ต-เตียงมันแคบว้อยยยย กูนอนกับไวน์อ่ะถูกแล้ว! แล้วก็ให้ไอ้ตั๊มกับไอ้กลอนนอนชั้นล่างไป..พวกตัวควายๆนอนฟูกล่างไปป่ะ..!!"
"……โหย เซ็ง"
เอ็กซ์สบถหยาบๆออกมาอีกยาวเหยียดครับตอนที่ยอมนอนบนฟูก มันอาบน้ำเหลืือเกงบอลตัวเดียวโปะแป้งเย็นจนหน้าท้องและแผ่นอกขาววอก -_-'' ส่วนคนอื่นๆก็อยู่ในสภาพไม่ต่างกันมากนัก..
สำหรับอากาศแถวบ้านผมมันก็ออกจะเย็นๆนิดหน่อยครับ แม่บอกว่าฝนเพิ่งหยุดตกไปเมื่อหัวค่ำ อากาศเลยสบายดี..มีพัดลมเพดานหมุนอยู่บนหัวตัวเดียวเอาอยู่ทั้ง8ชีวิต.....
………8?………….
..ทำไมกูนับได้7วะ...?
ผมขมวดคิ้วตอนมองย้ำอีกรอบ "สีครามไปไหนวะ?"
"..มันอาบน้ำคนสุดท้ายน่ะ น่าจะเสร็จได้แล้วมั้ง.." ไอ้กรังงัวเงียตอบกลับมา คือตอนนี้มันใช้ขาไอ้เอ็กซ์เป็นหมอนข้างเรียบร้อยแล้วนะครับ..ท่านอนก็..อื้ม..พอตัว......
"นอนเหอะมึง เดี๋ยวมันก็เข้ามาเอง" ไวน์ปลอบพลางผลักหัวผมลงนอน
ไอ้บูมเดินไปปิดไฟชึบ! ห้องมืดลงทั้งห้อง
…ทุกคนทิ้งตัวเองลงในห้วงนิทราอย่างรวดเร็วเพราะเหนื่อยกันมาทั้งวัน...
แอด…
พอมีเสียงประตูเปิดอย่างแผ่วเบาที่สุดผมก็สะดุ้งเหลือบตาขึ้นมามอง
"สีคราม?"
"..ฮะ โชคดีจังที่กานดายังไม่หลับ" เสียงทุ้มๆนั้นว่า เขาขยับร่างปีนบันไดลิงขึ้นมายืนข้างเตียงชั้นสอง แล้วเอื้อมมือมาลูบหัวผมเบาๆ
"หืม?"
"..ตรงไหนครับ..ที่เจ็บ?.." เขาถามเสียงแผ่ว "ทายาไว้ก่อน เดี๋ยวจะโนนะ..ตะกี้ลงไปขอยากับคุณแม่ท่านมาน่ะ"
"ไม่เห็นต้อง..อะ!"
"ตรงนี้หรอ? ขอโทษนะขอโทษ"
นิ้วอุ่นๆนั้นป้ายยามานวดเบาๆตรงที่ผมเจ็บ เขาบอกว่ามันนูนๆขึ้นมานิดหน่อย
"..ตอนนั้นพวงมาลัยมันสั่น..เลยปล่อยมือมารับไม่ได้...ขอโทษนะครับ.."
"……….ไม่ใช่ความผิดของมึง...."
เขาไม่ได้เถียงอะไร "ปวดมากรึเปล่า?"
"….ไม่เท่าไหร่น่ะ.....ไปนอนได้แล้วไป......"
เขาหมุนฝาปิดหลอดยา ก่อนจะโน้มหน้าลงมากดจูบลงบนหว่างคิ้วผมแน่นๆทีนึง
"..ราตรีสวัสดิ์นะครับ.."
เชื่อมั้ยว่าในที่สุดผมก็คิดได้.....
....ผู้ชายคนนี้เป็น 'เจ้าชาย' จริงๆ…..
ความคิดเห็น