ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    *ปฏิบัติการณ์รักร้าย Ver. เจ้าชาย..กับนายตัวแสบ*by ozaka

    ลำดับตอนที่ #45 : CHAPTER 44 คนหน้าตาดีไม่สำบายยย

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 3.01K
      19
      1 ธ.ค. 54

     

    CHAPTER 44

     

    คนหน้าตาดีไม่สำบายยย

     

     

     

     

     

     

                    พี่ปีใหม่กลับไปแล้ว..

                    พี่โตเข้าชั้นเรียนเรียบร้อยแล้ว..

     

     

                    ส่วนไอ้กลอน…..มานอนอยู่ข้างหลังห้องผมนี่แหละ…….

     

     

                    กลนวิทย์ไปทำไรมา?”

                    อาจารย์กระซิบถามพวกเราราวกับจะไม่ให้ไอ้กลอนมันได้ยิน

                    ผมกับไอ้ไวน์มองหน้ากัน

                    ไม่สบายครับ”

                    แล้วไม่บอกเพื่อนให้ไปนอนห้องพยาบาล”

                    “..เตียงเต็มแล้วครับ”

                    “…แล้วนายเอกราช..เข้ามาทำไมน่ะ?”

                    “….รักอาจารย์ครับ  อยากเรียนวิชานี้”

                    ปั๊ด! เดี๋ยวปั๊ด!  พวกเธอสองคนพอกันเลย  ห้องเรียนมีไม่เข้าเรียน  เฮ้อ”  ‘จารย์แกก็ถามไปงั้นแหละ  เดินกลับไปสอนที่หน้าห้องต่อ

                    ผมหันไปมองไอ้เอ็กซ์  ยังดีที่มันไม่ตอบไปตามตรง… ‘มาเฝ้าเมียครับ’ …ได้ฮือฮาในหมู่อาจารย์แน่ (แค่นี้ก็ดังจะตายห่านอยู่แล้ว..คู่นี้..)  มันนั่งอยู่ข้างไอ้ไวน์อีกที  ลากเก้าอี้คนอื่นมานั่งน่ะ  โต๊ะเรียนเรากว้างกว่าโต๊ะเรียนโรงเรียนปกติเลยนั่งได้สบายหน่อย

     

                    ผมหันกลับมาเรียนเหมือนเดิม  และคิดทบทวนอะไรบางอย่างในชีวิตไปด้วย  ผมหยิบสมุดบันทึกเล่มเล็กที่ใช้จดเรื่องเล็กๆน้อยๆกันลืมออกมากาง  แล้วลองทดเลขคร่าวๆเพื่อคำนวนค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันของตัวเอง

     

                    สำหรับผม..วันนึงร้อยนึงอยู่ได้สบายๆ(ถึงแม้จะไม่ได้ข้าวเช้าข้าวกลางวันบ้านสีครามก็เหอะ)

                    รวมค่าหอค่าอะไรด้วย ตกเดือนละราวๆ8000…

                    ปีนึง..96,000….(เยอะว่ะ ผมเห็นตัวเลขแล้วเริ่มหน้าซีดลงอย่างเสียมิได้) ปกติผมจะทำงานพิเศษไปด้วยมันจะช่วยหักลบค่าใช้จ่าย  แต่ตอนนี้ยังอยู่ในช่วง2เดือนอันตราย..เลยห้ามทำ(เด็ดขาด..จากพี่ปีใหม่กับพี่สายสิญจน์)

                    อืม..เรื่องนั้นช่างมันก่อน…

     

                    เงิน3,300,000…..

     

                    ผมสามารถอยู่ได้ราวๆ33ปี…

                    ……………เรียกว่าจนแก่เลยเอ้า!!

     

     

                    มองใหม่”

     

                    ไอ้ไวน์เห็นผมเขียนแบบนั้นก็รื้อความคิด  มันจิ้มๆดินสอกดลงกระดาษผม  โยงไอ้ตัวเลขเหล่านั้นแล้วชี้ออกมาเขียนว่า ‘กานดา กาลโพธิ์’

                    แล้วมันก็พลิกอีกหน้า  เขียนประกาศไว้ก่อนว่า ‘สีคราม  โกสินทร์วิตรม’

                    จากนั้นก็ขีดย้ำๆๆๆๆๆๆหนักๆจนไส้หักตรงนามสกุลมัน  แล้วเขียนเลข8แบบแนวนอนไว้ข้างล่างชื่อ  วงกลมทั้งสองสัญลักษณ์ไว้ในกลุ่มเดียวกัน  เท่านั้นยังไม่พอ..มันขีดลากลูกศรออกมาเขียนว่า ‘3.3M’ แล้ววาดรูปขาคน..มีขนดกเยอะๆ….คือถ้าเล่นอักษรไขว้จะบอกได้ว่า….ขนหน้าแข้งดก….เท่ากับไม่ร่วงนั่นเอง…

                    ผมทำหน้าเหยเกใส่ไอ้ไวน์  แล้วตบกบาลมันไปที

     

                    ไงมันก็เงิน..!”

     

                    เพราะมึงเอาแต่คิดแบบนี้ไงเลยเครียด  เอาเป็น..อนาคตค่อยใช้คืนมันล่ะกัน  ถือว่าติดหนี้  ไม่ก็ยกยอดเป็นสินสอดไปป่ะ”

                    ไอ้คืนน่ะกูคืนแน่ๆ…เพียงแค่กูต้องมานั่งคิดว่าจะทำยังไงให้คืนได้ครบต่างหาก..หาไม่ได้ง่ายๆนะว้อย!”

                    “..งั้นมึงเปลี่ยนไปนอนอ้าขาให้สีครามมัน คิดครั้งละแสน..ป้าบๆๆ  แปปเดียว..ครบ…”

     

                    โป๊ก!!!

     

                    “’จารย์ครับ  เอกราชชวนเพื่อนคุย! ไล่มันออกไปเลย”

     

                    ผมมะเหงกมันทีนึงแล้วรีบยกมือบอกอาจารย์  มันแสร้งทำหน้าหงอยๆจนอาจารย์ต้องส่ายหน้า แต่ก็ยังไม่ยอมว่าอะไรมันสักแอะ  ผมงี้อารมณ์เสีย..หงุดหงิด..โกรธจนหน้าแดงไปหมดแล้ว  อาจารย์ยังไม่เข้าข้างมันอีก

                    ผมสะบัดตัวนิดหน่อยหมั่นไส้ไอ้คู่สามีภรรยาข้างๆ  เลยหันไปสนทนาวิชาการกับลาล่าแทน  ก็เหมือนปกติ..มียกมือถามอาจารย์บ้าง  ปรึกษากันเองบ้าง  ช่างเป็นวันเวลาปกติที่ผมไม่อยากสูญเสียไปจริงๆ

     

                    …….ไม่อยากสูญเสียเวลาเหล่านี้ไปจริงๆ……..

     

     

     

     

     

    = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = =

     

     

     

     

     

     

                    เอาสมุดบัญชีมึงออกมา!!”

     

                    อย่าหาว่าผมใจร้งใจร้ายอะไรเลยครับ..หมอนั่นเพิ่งฟื้นไข้ก็จริง  แต่ตอนนี้กำลังนอนกระดิกนิ้วเท้าสบายใจต่างกับเมื่อเช้าลิบลับอยู่บนเตียง  แถมเมื่อกี้ยังทำท่าจะโผเข้ามาตะครุบผมซะอีก! ไม่เจียมสังขาร! ช่างน่าหมั่นไส้จริงๆให้ดิ้นตาย..!!

                    มันเงยหน้าขึ้นมามองผมแบบงงๆ  หนำซ้ำไม่ยอมเดินไปหาให้ผมอีก

                    “..เอาออกมา” ผมแขวนเนคไทไว้ที่ราว  โยนกระเป๋าไว้บนเก้าอี้  แล้วย่างสามขุมเข้ามา  ร่างสูงไหวตัวนิดๆก่อนจะลอบยิ้มบาง

                    ทำไมอ่ะ?”

                    ..โหว  ดูสายตามัน..หื่นเต็มที่…เอิ่ม..คือกูเดินมาเพื่อจะเผ่นกบาลมึง  ไม่ใช่ปล้ำมึงว้อยยย!!!

                    ก็ไม่มีอะไร  จะดูว่ามีเงินเท่าไหร่”

                    “..หืม?” มันยิ้มกว้างขึ้น “ยังไม่ทันแต่ง..จะขอคุมการเงินแล้วหรอจ๊ะ?”

                    ผัวะ!

                    ปากนะปาก”

                    ผมตบแก้มมันเบาๆ(แต่เสียงเนี่ยไม่เบาเลย..)  แล้วชี้หน้าขู่  พยายามทำให้เหมือนประมาณว่า ‘ถ้าไม่เอาออกมา..เจอหนักกว่านี้แน่..’ ไม่ใช่ความหมายที่ว่า ‘ถ้าไม่เอาออกมา..กูไม่ยอมนอนด้วยแน่..’

     

                    ยังไม่เอาสมุดบัญชีไปอัพเดทน่ะ  เป็นปีแล้ว..”

     

                    มันเสด้วยการดึงผมลงไปกอดแล้วหอมฟอดใหญ่  และหัวเราะตอนที่ผมดิ้นขลุกขลักเพราะทรงตัวไม่ได้ในอ้อมแขนนั้น  เลยจัดการดีดมะกอกที่ลูกกระเดือกแม่งไปหนึ่งที  เป็นไง  เจ็บล่ะสิ ฮ่าๆๆ

                    เดี๋ยว..อย่าเพิ่งเปลี่ยนเรื่องไปตามมันสิ..

                    ในเมื่อไม่ยอมบอก  กูยิงลูกตรงก็ได้วะ!

     

                    เห็นบอกว่าสามล้านสาม”

     

                    ทันทีที่ได้ฟังคำนั้น  เจ้าตัวก็สะอึก  ยอมคลายอ้อมกอดหน่อยนึง

                    บูมบอกหรอ?”

                    มันไม่สำคัญที่ใครบอกไม่บอก  มันสำคัญที่ว่า..มึงเอาเงินขนาดนั้นมาใช้แบบนี้…”

                    “…มันจำเป็น”

                    ..ครับ  ผมรู้ว่ามันจำเป็น..เพราะถ้าไม่ทำให้เรื่องนี้จบๆกันไป  ไม่เพียงชีวิตผมเท่านั้นที่อันตราย..แต่ชีวิตเพื่อนด้วย…

                    “..กูรู้”

                    ผมตอบมันไปแบบเรียบๆ  แล้วดึงมือเขาออกเพื่อลุกไปถอดถุงเท้า  เขาปิดหนังสือที่อ่านอยู่ดัง ‘ฉับ’ แล้วเดินเข้ามากอดผมจากด้านหลัง  ซุกหน้าลงกับบ่าตอนที่ผมพาดเข็มขัดไว้บนโต๊ะพอดี

                    เกะกะน่า..”

                    “….อืม…”

                    เสียงลมหายใจมันดังฟึดๆ  ผมเลยเอ็ดต่อ

                    ยังไม่ได้อาบน้ำ  เหม็นเหงื่อ”

     

                    อาบด้วยกันนะ”

     

                    เชื่อมั้ยครับ..ตั้งแต่ที่ใช้ชีวิตร่วมกันมาเขาพูดคำนี้เป็นแค่ครั้งที่สอง(ครั้งแรกแหย่ผมเล่นในตอนก่อนๆ)..แค่ครั้งที่สอง!!  ครั้งที่สองเท่านั้น!!  รู้สึกเหมือนมีนักดนตรีมาเป่าแตรดีดพิณเต็มห้องนอนไปหมด.. ออกอารมณ์หวานชื่นมากกว่าอีโรติกซะอีก..นั่นแหละที่ทำให้ผมใจสั่น

                    ผมดันแขนเขาออกเบาๆพอเป็นพิธี  หมอนั่นก็ยอมทำตามง่ายๆ

                    ..แขนยังรุมๆอยู่เลยยังมีหน้ามาปากดี..

                    มึงอาบน้ำได้แล้วรึไง?  เดี๋ยวกูออกมาเช็ดตัวให้”

                    เขาดูจะเปรมกับข้อเสนอใหม่  แต่ก็แอบเห็นแววผิดหวังในดวงตาคู่นั้นลึกๆ

                    เลยจำยอมต้องพูดเสริมต่อ

     

                    “…รอให้มึงหายหวัดแน่ๆก่อนแล้วค่อยมาพูดคำนั้นใหม่ล่ะกัน”

     

     

     

     

     

    = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = =

     

     

     

     

     

     

                    ผมสะดุ้งตื่นขึ้นมาเมื่อได้ยินเสียงโครมครามอะไรบางอย่างในห้องน้ำ  เหลือบมองเวลาประมาณเกือบๆตีสามได้  และคนที่นอนอยู่บนเตียงก็ไม่อยู่..นั่นบอกให้รู้เลยว่าคนข้างๆผมนั่นเองที่เข้าไปทำธุระ..

                    แต่เสียงที่ดังออกมานี่ออกจะ..เกินไปนะ..

     

                    สีคราม  เป็นอะไรรึเปล่า?”

                    ผมลุกจากเตียงเพื่อเดินไปหน้าห้องน้ำ  แต่ก็ตะโกนถามเขาออกไปก่อน

     

                    แค่ก..!!  แค่ก!!!!”

                    สีคราม!”

     

                    พอเห็นร่างสูงนั่งทรุดอยู่กับชักโครกผมก็พอเข้าใจได้ในทันที  ผมตรงเข้าไปเพื่อลูบหน้าลูบหลังให้เค้า  สิ่งของที่ออกมาจากลำคอมีเพียงน้ำเปล่าๆ  ดูท่าของเมื่อเย็นจะลงไปกองกันที่คอห่านเรียบร้อย

                    เขาทิ้งตัวลงนั่งกับพื้นห้องน้ำแบบหมดเรี่ยวแรงสุดฤทธิ์  ผมก็ลงไปนั่งตามเขา  รู้สึกเหมือนสมองเบลอๆ  ลืมไปหมดเลยว่าต้องทำอะไรบ้าง

                    ไหวมั้ย?  เดี๋ยวกูตามพี่ส้ม…”

                    ไม่..อย่า….”

                    เสียงที่เขาบอกผมออกมามันแหบ..พร่า..จนน่ากลัว

                    “…ปลุกเค้าตอนนี้..มัน…แค่ก!!!”

                    มันหันหัวเข้าหาชักโครกอีกครั้ง  ผมลูบหลังเขาเบาๆ  ปล่อยให้อาเจียนออกมาจนหายอยาก  พอเสร็จก็เดินไปรินน้ำมาให้เค้าบ้วนปาก

                    ..ก็จริงของมันที่ลำบากคนอื่น…แต่…คนเรามันก็ต้องมีพึ่งกันบ้างไม่ใช่เรอะไง..

                    ผมพยุงร่างของเขาเดินโซซัดโซเซออกจากห้องน้ำ  เสื้อนอนหมอนี่เปียกหน่อยๆ..แล้วก็ตัวร้อนมาก  ก็เลยหยิบเสื้อมาเปลี่ยนให้  มันยากกว่าตอนเช้าหรือตอนเย็นเพราะสีครามไม่มีแรงเหลือเลยสักนิด  แล้วเอาผ้าขนหนูชุบน้ำมาซับเหงื่อให้เขาเพื่อลดไข้  หลังจากแปะเจลลดความร้อนที่หน้าผากเรียบร้อยก็ต้องหายากิน  ซึ่งก็อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล  หัวเตียงนั่นแหละ

                    กินยานะสีคราม”

                    “..อือ..แค่ก!!”

                    เสียงไอของเขาไม่ใช่แค่ ‘แค่ก’ แต่มันดังออกมาเป็น ‘โครก’ หรือ ‘โฮก’ เหมือนเสียงคำราม  ทุกครั้งที่เขาไอจะหอบโยนจนเตียงสะเทือน  และดังเหมือนจะกระชากตั้งแต่ลิ้นไก่  หลอดอาหาร  ยันลำไส้เล็กออกมาด้วยอย่างไงอย่างงั้น

                    ฟังเสียงของเขาแล้วผมรู้สึกเหมือนตับตัวเองถูกบีบไปด้วย..

                    ไหวมั้ย  ทานยานะ  ไหวใช่มั้ย?”

                    พอผมถามเขารัวๆ  เขาก็เงยหน้าขึ้นมายิ้มให้ผม  แล้วพยักหน้า

                    การหาจังหวะในการกินยาช่วงที่ไอหนักๆแบบนี้มันยากนัก  บางครั้งน้ำก็พุ่งออกมาจนผมต้องหยิบผ้ามาซับให้  แล้วประคองตัวเขาให้กินยาดีๆ  นี่เป็นข้อดีของการที่ผมเป็นผู้ชาย..เวลาแบบนี้ดูแลเขาได้เต็มไม้เต็มมือดี  เพราะไม่อ่อนแอเหมือนผู้หญิง

                    นอนนะ..”

                    กานดา..”

                    “…ไม่เอาไม่พูดแล้ว  เดี๋ยวไออีก…”

                    เขาไม่พูดตามที่ผมสั่ง  แต่เอื้อมมือซีดเผือดมาดึงชายเสื้อผมไว้

     

                    อืม  กูอยู่ตรงนี้  ไม่ไปไหนหรอก”

     

                    ผมทิ้งตัวลงนั่งบนพื้นข้างๆเขา  จับมือเขามาบีบไว้แน่น  เขามองผม..แต่เพราะอุณหภูมิใบหน้าที่ร้อยผ่าวทำให้หยาดน้ำใสๆไหลออกมาจากดวงตาคู่นั้น

     

                    ผมรู้สึกเจ็บจี๊ดขึ้นมาในอก..

                    พูดตามตรงแล้วผมไม่ค่อยได้มีโอกาสดูแลใครตอนไม่สบายนักหรอก  เพื่อนผมมันบ้าๆ  เค้าว่ากันว่าคนบ้ามักไม่ติดหวัด  แต่ก็พอมีความรู้พื้นฐานบ้างอะไรบ้าง  แต่ไม่เคยคิดว่าจะต้องมาเสียเวลานอนเพื่อดูแลใครคนหนึ่งอย่างใกล้ชิดขนาดนี้..

                    ติดจะทำไปตามอารมณ์..ตามความรู้สึก…

     

                    เพียงแค่อยากให้เขาหายดี..และกลับมายิ้มหวานๆให้ผมสดชื่นเหมือนเดิม…

     

     

     

                    จับมือไว้แบบนี้…”

     

                    ยกมือข้างนั้นขึ้นไปแนบแก้ม  มันร้อนผ่าว..จนผมอยากร้องไห้..

     

                    “..ตอนที่มึงตื่นขึ้นมา..ก็จะได้เห็นหน้ากูเป็นคนแรกไง..”

     

     

                    เขายิ้มหวานก่อนจะปิดเปลือกตาลง..

                    ผมถอนหายใจ  นี่ถ้าไม่มั่นใจว่าตัวเองไม่มีทางติดหวัดใครง่ายๆคงไม่กล้าพูดแบบนั้นออกไปหรอก  เพราะงั้น..ถ้าไม่ติดหวัดใครง่ายๆ…แค่ก้มลงไปหอมแก้มเบาๆก็คงไม่ติดหวัดหรอก….

                    แค่หอมแก้มเองง่ะ…….

     

                    ก็…….ตอนมันนอน…..มันเสือกหล่อเองทำไมล่ะ……………

     

     

     

     

     

     

     


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×