ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    *ปฏิบัติการณ์รักร้าย Ver. เจ้าชาย..กับนายตัวแสบ*by ozaka

    ลำดับตอนที่ #29 : CHAPTER 28 อเมริกา

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 3.52K
      25
      29 พ.ย. 54

    CHAPTER 28

     

    อเมริกา

     

     

     

     

     

     

                    แกรก..

     

                    เสียงประตูเปิดอย่างเงียบกริบเรียกผมให้สะดุ้งตื่นจากภวังค์  ผมปรือตามองไปทิศประตู  แล้วตกใจแทบสิ้นสติเมื่อเห็นคุณพยาบาลสาวหน้ามนยกมือปิดปาก  เท่านั้นยังไม่พอ  เจ้าหล่อนโกยอ้าวไปที่ประตูแบบไม่คิดชีวิต

                    ไอ้ผมน่ะหรืออยากโกยอ้าวเหมือนกันครับ  แต่ไม่ใช่ที่ประตู..เป็นอยากกระโดดออกไปทางหน้าต่างแทน  เนื่องจากภาพที่คุณพยาบาลเห็นในที่นี่มันช่างบัดสีสิ้นดี!!!

     

                สีคราม!!!!  ตื่น!!!!”

     

                    ผมแหกปาก  ..อื้ม..หลังจากครางมาทั้งคืนเสียงก็กลับมาเป็นปกติแล้วสินะ

                    หมอนั่นงัวเงียบลุกขึ้นตามที่ผมสั่ง  นาฬิกาบอกเวลาเจ็ดโมงตรงเป็นเวลาคุณพยาบาลมาดูแลเช็ดเนื้อตัวคนไข้พอดี!!  และให้ตาย..มันไม่ต้องเช็ดแล้วมั้งครับ..ผมกับมันยังเปลือยกายนอนก่ายกันอยู่บนเตียงทั้งคู่

                    ไอ้เหี้ยยยยยยยยยยยยย!!!!!!!!

                    สงสารคุณพยาบาลนั่นขึ้นมาตะหงิดใจ

                    ร่างสูงคว้าบ็อกเซอร์มาสวมให้ตัวเอง  แล้วสวมกางเกงวอร์มทับ  หยิบเสื้อยืดสีดำมียี่ห้อมาใส่  มันยังดูอึนๆงงๆอยู่แต่คงเป็นปฏิกิริยาอัตโนมัติที่ต้องสวมเสื้อผ้า  แล้วมันก็ก้มเก็บชุดคนป่วยของผมที่ตกอยู่บนพื้นทั้งสองตัวมา  และเตรียมใส่ให้ผม

                    เมื่อกี้…มี…คนเข้ามา…”

                    ผมอธิบายสถานการณ์ให้มันง่ายๆ  แต่เขาก็แค่ปรือตามองผม  แล้วหาวหวอด

                    ปั๊ก!!

                    ตื่นแล้วฟังกู!!  เมื่อกี้มีคนเห็นเราสองคน!!!”

                    อื้ม..ใครล่ะ..?”

                    เขาพยักหน้าง่ายๆแล้วกำลังสวมเสื้อให้ผม

                    คุณพยา….บาล…..”

                    ทำไมผมต้องลากเสียงน่ะหรือ?  ก็เพราะตอนนี้คุณหมอหน้าตากลมแป้นหยุดยืนอยู่ตรงตำแหน่งเดียวกับที่พี่พยาบาลคนเมื่อกี้เป๊ะๆ  แต่ครั้งนี้ดีหน่อยที่เขายังมีมารยาทพอที่พูดคำว่า

     

                    อย่าออกกำลังกันมากนักละ  เดี๋ยวแผลเปิด”

     

                    ..เปิดไปแล้วครับคุณหมอ..

     

                    เอ้ย!!  ไม่ใช่สิ!!!  คุณหมอครับ!!  กลับมาก่อนนนนนนนนนนน  มึงอ่ะออกไปเลย!!!”

     

                    ผมถีบหัวไล่ส่งคุณชายสีครามที่อุตส่าห์เฝ้าไข้ผมทั้งคืนให้ออกนอกห้อง  รีบๆคว้ากางเกงมาใส่ใต้ผ้าห่ม  ก่อนจะเงยหน้าฉีกยิ้มเจื่อนรับคุณหมอที่เหมือนจะทำใจรับสถานการณ์ได้ดีเกินมนุษย์ปกติทั่วไป

                    เปล่าหรอกครับ  หมอแค่มาดูตามที่คุณพยาบาลเรียกเท่านั้นแหละ  ตรวจจริงแปดโมงครึ่ง ตามสบายเถอะ อ่ะ  คุณสีครามครับ  เรื่องตา…”

     

                    สีครามหันควับมาทำเสียงจุ๊ใหญ่เหมือนกลับชาติมาเกิดเป็นจิ้งจก  เหลือบตามามองผมแว่บหนึ่ง  ก่อนจะเชิญคุณหมอออกนอกห้องอย่างรวดเร็ว

                    ตา..?

                    ตาที่เป็นผัวยายรึเปล่า?

                    หรือว่าตาข้างที่เจ็บของสีคราม??

                    ผมกำลังคิดแบบมึนๆอึนๆ  เสียงเปิดประตูก็ดังอีกครั้ง  ครั้งนี้เป็นแม่กับพ่อ  แล้วคนที่เดินตามมาข้างหลังนั่น..

     

                    พี่ปีใหม่!?!”

     

                    ไฮหนุ่ม” เขาทักเรียบๆแล้วยื่นตะกร้าผลไม้เยี่ยมไข้ให้แม่  อย่ามาหาว่าผมโง่นะ..คิดหรอว่าผมจะไม่เห็นผ้าพันแผลบนหัวพี่แกน่ะ!?!

                    โดนอะไรมาอ่ะพี่?”

                    พี่ปีใหม่ทำท่าจะจุดบุหรี่  แต่สำนึกได้ว่าจุดไม่ได้  เลยหยิบปากกาในกระเป๋าเสื้อมาควงเล่นแทน “ก็รถทัวร์มันคว่ำ  แต่ไม่ต้องห่วง  ไม่มีคนตาย”

     

                    นั่นทำให้หัวใจผมหล่นวูบ  ไอ้พงษ์(ลูกพี่น่ะ ลูกพี่)มันบอกว่าหัวหน้าแก๊งค์จะตามไปเก็บพี่ปีใหม่ด้วยตัวเอง  และพี่ปีใหม่ดูเหมือนจะรู้เรื่องนั้น  แค่ไม่อยากอธิบายให้ผมฟัง

                    ตามคอนเซ็ปท์  ให้ผมรู้เฉพาะเรื่องที่ควรรู้  ก็เท่านั้น

     

                    ถึงเรื่องของเดียร์มันเป็นแค่การเตือนก็จริง..แต่เราเล่นล่อไปขนาดนั้น…  ไม่น่าเชื่อว่าSaturdayจะอยู่เกษรวิทยา  แต่ก็ไม่น่าแปลก…หมอนั่นตัวอันตราย  ต่อไปอย่าพยายามไปยุ่งอีก  พี่เลยประสานไปกับพรรคที่มันสังกัด..กลายเป็นว่าไม่มีใครออกมารับผิดชอบสักคน  แล้วก็..ไม่มีหลักฐาน..”

                    ถึงผมกำลังทำหน้าเหมือนมีเครื่องหมายเควสชั่นมาร์คแปะอยู่กลางกบาลก็เหอะ  แน่นอนว่าพี่แกไม่คิดจะตอบคำถามหรอกครับ  เลยตุตะเอาเองว่าSaturday เป็นโค้ดเนมของพี่ดาวเสาร์..ได้ข่าวมาลางๆเหมือนกันว่าพี่แกอยู่โลกมืด  แต่ไม่นึกว่าจะถึงขนาดต้องสั่งห้ามคบหาด้วย

                    ช่วงนี้ก็ระวังหน่อย  ถ้าประมาทอีกมันคงไม่ปล่อยไว้ล่ะ”

                    เขาว่า  แล้วหันไปหาแม่กับพ่อ  ที่ผมเพิ่งสังเกตว่าวันนี้ท่านมีสีหน้าลำบากใจเป็นพิเศษ

                    พ่อกระทุ้งสีข้างแม่ให้บอกผม  แม่เองก็ตกใจและหวั่นใจ  แต่ก็พูดออกมาว่า

                    แม่คืนเงินเค้าไปหมดแล้วนะ”

                    ห๊ะ!!!!”

                    เท่านั้นแหละผมอ้าปากค้างเห็นไปถึงลิ้นไก่

                    แม่ขายสวนหรอ!?”

                    แม่ส่ายหน้าปฏิเสธ  แต่พอเห็นว่าพ่อกับแม่จะพูดเองก็ลำบากอยู่  ยิ่งมาพูดให้เด็กอย่างผมฟังด้วย  พี่ปีใหม่เลยพูดแทน

                    กู้ธนาคารแบบถูกกฏหมายแทน  แต่วงเงินกู้ไม่ถึง..ก็เลยลงชื่อพี่ไปไม่กี่ล้าน  ยังไงก็ยังดีกว่าล่อเป้าให้ไอ้พวกนั้นตามจับเราง่ายๆน่ะแหละ  เข้าใจ๊”

                    เห็นพี่แกนั่งกระสับกระส่ายอยู่นาน  ในที่สุดเขาก็ลุกขึ้นเมื่อพูดจบ

                    ผมขอตัวก่อนละกันครับ”

                    ..คือพูดง่ายๆ..อยากนิโคตินแหละครับ..

     

                    ร่างสูงใหญ่หันกลับออกไปทางประตู  สวนทางกับสีครามเข้ามาพอดี  เฮียแกหยุดยืนมองหมอนั่นตั้งแต่ศีรษะจรดเท้า  จนคนถูกมองชะงักกระพริบตาปริบๆ  หันมามองผมทีนึง  แล้วจึงเดินกลับเข้ามาพูดใหม่

     

                    ตรวจเลือดทุก3เดือนด้วยนะ”

     

                    เท่านั้นแหละครับผมแทบจะหาอะไรสักอย่างขว้างหัวไอ้พวกที่อ่านคนง่ายแบบนั้นเสียสักที  แต่พี่แกก็เดินตัวปลิวออกนอกห้องไปฉิบโดยไม่พูดจาเสริมส่งหรืออะไร  พ่อผมกำลัง งงกับคำพูดนั้น  แต่แม่เนี่ยเริ่มมองสีครามตั้งแต่หัวจรดเท้าแล้ว

                    “..ไม่ต้องตรวจหรอกมั้ง  ดูท่าแกไม่ได้มั่ว”

                    แม่หันไปกระซิบกับพ่อ  พ่อก็ยังยืนบื้ออยู่  แต่นั่นเรียกให้เลือดสูบฉีดสู่หน้าผมจนร้อนผ่าวๆ

                    ไม่ต้องหันไปมองก็รู้ว่าสีครามกำลังยิ้มจ๋า  เขายกมือไหว้พ่อกับแม่เรียบร้อยน่ารักราวต้องการฝากตัวเป็นลูกเขยยังไงยังงั้น  ผมหมั่นไส้เลยเรียกมันมาตบหัวทีนึง

     

                    ห่า…

     

                    ยังไม่ได้ให้แม่มาขอ  กูยังไม่ให้เป็นผัวว้อย!

     

     

     

     

     

    = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = =

     

     

     

     

     

                    และความหวังของผมก็เป็นจริงในมีกี่วันต่อมา

     

     

                    พี่มายด์กลับมาหา  พอเห็นหน้าผมปุ๊บแทบจะถลาเข้ามาอุ้มชูเหมือนเด็กๆ  แต่งานนี้พี่แกหนีบสาวจากอิสราเอลกลับมาด้วย  หล่อนเป็นคนไทยเนี่ยแหละครับ  บ้านอยู่โคราช  ผมพยามแซวแล้วแซวอีกแต่พี่มายด์ก็โกรธเป็นฟืนเป็นไฟ  บอกว่าไม่ใช่แฟน  แต่สาวเจ้างี้เขินยกใหญ่

                    พี่มีโปรแกรมจะไปอิตาลีต่อจากนี้  เพราะญาติของผู้หญิงคนนั้นเปิดร้านอาหารอยู่อิตาลี  ผมกลับมาคิดแล้วคิดอีกก็พบว่าชีวิตแบบพี่มายด์ก็ดีเหมือนกัน  พี่เป็นคนเก่ง  แต่แค่ไม่ชอบเรียน  จบม.3ก็ออกมาช่วยงานในไร่  ไปๆมาๆโกอินเตอร์ได้ไงไม่รู้..-0-‘

     

                    สรุปว่าพี่มายด์อยู่กับผมได้แค่คืนเดียว  เพราะต้องไปคุยงานต่อที่โคราช  ล่ำลาด้วยการหอมแก้มแล้วหอมแก้มอีก  จนผมสงสัยนักหนาว่าแม่งจะหอมอะไรเยอะแยะ  ไอ้บูมไอ้ไวน์ก็ชอบหอมจังเลย  มันก็แก้มคนนะว้อย (แถมเป็นตัวผู้ด้วย)

     

                    แต่ประเด็นอยู่ที่ว่า..

     

                    “….ใครวะ?”

     

                    พี่มายด์ถามเสียงเข้มเมื่อเห็นสีครามเดินถือทาโกยากิเข้ามาในห้อง  สีครามเองก็งงเหมือนกันเลยตอบไปว่า

                    สีครามครับ  เพื่อนกานดา..”

                    พี่มายด์มองลอดแว่นกรอบบางของตัวเอง  ปราดมองสีครามตั้งแต่หัวจรดเท้า

     

                    ไอ้ผมงี้สันหลังวาบ  โชคยังช่วยที่พี่เค้าไม่ได้เซ้นส์แรงเท่าไหร่  เลยจากไปอย่างสงบ..  ปกติเวลาผมจะเลือกคบเพื่อนแต่ละคนเนี่ยต้องผ่านการกลั่นกรองจากพี่มายด์ก่อนครับ  อย่างไอ้เอ็กซ์..คู่กัดขาประจำเลยละ…  ไอ้ที่ถูกชะตาพี่มายด์ก็เห็นจะเป็นไอ้บูม  เพราะรายนั้นไม่เคยคิดเหี้ยอะไรในหัว  ง่ายๆสบายๆ  เลยถูกใจคนเอาแต่ใจอย่างพี่มายด์ซะงั้น

                    ระวังไว้นะเดียร์..พี่ว่ามันมองมึงแปลกๆ  ไม่รู้คิดไปเองเปล่า”

                    ผมค่อนข้างมั่นใจว่าพี่มายด์ไม่น่ารู้เรื่องระหว่างเราหรอกนะครับ  แต่เพราะไอ้หมอนั่นเสือกทำหน้าตาแสดงออกโจ่งแจ้งขนาดนั้นน่ะสิ!!

     

     

                แต่พอหลังจากคืนนั้นผ่านไปทุกอย่างก็เข้าสู่สภาวะปกติ

     

     

                    เนื่องจากผมยังต้องพักฟื้นอยู่ในโรงพยาบาลต่อ  แต่สีครามสามารถไปโรงเรียนได้แล้ว  หมอนั่นก็แว่บมาเล่นทุกเย็น  พอมันมาถึงแม่ก็อ้างว่าจะออกไปหาไรกินทู๊กกกกที (พ่อผมยัง งงๆอยู่ แต่ก่อนจะเก็ทก็โดนแม่ลากออกไปละ)  เลยต้องยอมปล่อยให้มันมานัวเนียสักพัก 

                    พอกินอิ่ม(…ได้โปรดอย่าถามว่ากินอะไรอิ่ม) เจ้าชายก็เสด็จกลับบ้านตอนค่ำๆ

     

                    วันเวลาชีวิตอันแสนจะเรื่อยเปื่อยของผมก็เป็นไปตามทำนองนี้

     

     

                    จนกระทั่งวันที่ผมจะออกจากโรงพยาบาลนั่นแหละ

     

     

     

     

              ก๊อกๆๆ

     

     

     

                    ค่า”

                    แม่เดินไปเปิดประตูเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายไม่มีทีท่าจะเข้ามา  แต่แล้วแม่ก็ชะงัก  แล้วหันหน้ามามองผมแบบงงๆ

                    ผมเองเลยทำไม่ถูก  มองตอบแม่ไปแบบงงๆเช่นกัน =_=’’

     

                    สวัสดีค่ะ  ห้องหนูกานดาใช่มั้ยเอ่ย?”

     

                    ชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในห้องพร้อมช่อดอกไม้ช่อใหญ่  ทั้งคู่อยู่ในชุดที่ดูเรียบร้อย..ถึงไม่ได้ฟุ้งเฟ้อหรูหราอะไรมาก  แต่เพราะบุคลิกหลังตรงท่าทางสง่าผ่าเผยมันทำให้ผมรู้ได้ว่าเขาสองคนต้องเป็นผู้ดีมาจากที่ไหนสักแห่ง

                    ต้องขอโทษจริงๆนะครับที่มาเยี่ยมช้า  พอดีเพิ่งกลับจากต่างประเทศ  ได้ข่าวว่าวันนี้จะออกจากโรงพยาบาลใช่มั้ยครับ”

     

                    แม่รับช่อดอกไม้แล้วพยักหน้า “ค่ะ  ใช่..เอ่อ..”

                    อ่อ  ผมชื่อสักรินทร์ครับ  นี่ศิตา  ภรรยาผม”

                    ค่ะ  สวัสดีค่ะ”

                    แม่ก็รับคำแบบงงๆ  ชายคนนั้นเป็นผู้ชายร่างสูงมาก  ผิวสีเข้ม  บนใบหน้ายังมีริ้วรอยไม่มากนอก  จมูกโด่งคมและรอยยิ้มอบอุ่นเป็นกันเอง  ส่วนผู้หญิงรูปร่างติดจะท้วมนิดๆ  แต่ผิวขาวเหมือนหยวก  จมูกเล็กๆปากเล็กๆ  และมีดวงตาคู่สวยแบบที่ผมเคยเห็นที่ไหนมาก่อน..

                    เอ๊ะ..

                    เดี๋ยวก่อนนะ..

     

                คุณพ่อกับคุณแม่..ของสีครามหรอฮะ?”

     

                    ถ้ามัวแต่งงอยู่คงไม่ได้เรื่องได้ราวอะไร  เลยถามไปตรงประเด็นแม่งเลย

                    พวกเขายิ้ม  แล้วพยักหน้าให้ผม

                    เป็นไงบ้างคะ  หายดีแล้วรึยัง?” คุณแม่ของสีครามเดินเข้ามาถาม  ผมเปลี่ยนเป็นชุดไปรเวทเตรียมกลับบ้านเรียบร้อยแล้ว  เลยพยักหน้าตอบกลับไป

                    ขอโทษที่ป้ามาเยี่ยมช้านะคะ  พอดีเพิ่งกลับมาจากอียิปต์  แล้วมีเรื่องตาของสีครามอีก  ก็เลยวิ่งวุ่นต้องกลับไปอเมริกาต่อ  ต้องขอโทษจริงๆนะคะ”

                    หล่อนยิ้มให้ผมจนผมต้องยิ้มตอบอย่างเสียมิได้  แล้วฉุกใจคิด

     

                    ตา..?  ตาของสีคราม?  เป็นอะไรงั้นหรอครับ?”

     

                    อุ้ยตายจริง!”

                    คุณแม่ยกมือปิดปากตัวเองเหมือนเพิ่งนึกได้ว่าลืมตัวพูดออกไป  แต่เมื่อมันสายไปแล้ว..คุณพ่อเลยเดินมาอธิบายแทน

     

                    สีครามไม่ให้บอกหนูน่ะ  แต่ลุงคิดว่าบอกไว้ก็ไม่น่าจะเสียหายอะไร”

     

     

     

                    “.....สีครามต้องเข้ารับการผ่าตัดที่อเมริกา”

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×