ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    *ปฏิบัติการณ์รักร้าย Ver. เจ้าชาย..กับนายตัวแสบ*by ozaka

    ลำดับตอนที่ #22 : CHAPTER 21 พะบู๊ (ภาคต้น)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 3.71K
      24
      29 พ.ย. 54

    CHAPTER 21

     

    พะบู๊ (ภาคต้น)

     

     

     

     

     

     

                    ต่อไปเรามาเปิดขวด..ฉลองการแต่งงานของคู่รักข้าวใหม่ปลามันหน่อยเร๊ววววววว”

                เฮ......!!!!!!!!!!!!”

     

                    ไหงมันกลายเป็นแบบนี้ไปได้เนี่ย…

     

                    คงเป็นผมคนเดียวกระมังที่ไม่ยกมือเหยงๆแสดงความยินดีกับเจ้าภาพงาน….ซึ่งมันก็คือผมเอง!!  ไอ้บ้าเอ้ย!!

                    พวกมันถือวิสาสะใช้ห้องโถงกว้างๆในบ้านสีครามประดับสายรุ้งเต็มไปหมดกลบความหรูหราของเฟอร์นิเจอร์ไปฉิบ  แล้วสั่งให้ไอ้กรังทำป้ายแต่งงานเขียนว่า สีคราม*กานดา มาเสร็จสรรพเรียบร้อย  แล้วไอ้เชรี้ยนั่นก็เสือกทำมาจริง  เลยโดนผมหักทิ้งไม่เหลือเยื่อใย..ทว่ามันก็เอากาวมาซ่อม  แล้วติดไว้ซะเกือบชิดเพดาน  ชนิดที่ว่าผมเอื้อมไม่ถึงแน่ๆ

                    แสรดดดดด

                    แล้วแห่กันมาเยอะขนาดนี้ทำม๊ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย

                    (แม้กระทั่งไอ้ล่าก็มาด้วยน่ะครับ!   วันนี้มึงไม่มีเรียนพิเศษเหรอออออออ)

                    เรามาฟังเสียงของ ‘เจ้าสาว’ กันบ้างดีกว่า~  สวัสดีครับน้องกานดา  รู้สึกยังไงบ้างกับการฉลองงานแต่งครั้งนี้”

                    ผมหันไปพูดนิ่งๆ “เหี้ย”

                    โอ้โห  รู้สึกดีใจมากนั่นเอง!!  ขอคั่นเวลาโฆษณาสินค้านิดนึง  หันไปทางด้านซ้ายมือของท่าน.. มุมยาดองอีน้องจิ๊บเปิดแล้วนะครับ  วันนี้มีนารีรำพึงกับม้ากระทืบโลง..ใช่ป่าววะ?  เออนั่นแหละ!  ตามสบายนะค้าบบบบบบบบ”

                    ไอ้กลอน  โฆษกสภา(ทุกครั้งนะมึง..)แนะนำ  มือนึงถือกระป๋องไฮเนเก้น  ส่วนอีกมือถือไมโครโฟนเต็มที่  ยังดีที่บ้านมันใหญ่  เสียงคงไม่ดังออกไปข้างนอก

                    อ่ะครับ  มาทางฝั่งเจ้าบ่าวบ้างดีกว่า  มีอะไรจะพูดมั้ยครับ?”

                    สีครามหัวเราะนิดๆ  แล้วรับไมค์จากกลอนมาพูดเอง

                    ผมรู้สึกเป็นเกียรติและดีใจมากที่เพื่อนๆจัดงานฉลองให้เราสองคนแบบนี้  ขอบคุณมากจริงๆครับ”

                    โอ้ยย เรื่องปกติว่ะเพื่อนรัก..ว่าแต่..ชอบส่วนไหนของเจ้าสาวหรอครับ?”

                    ฮะๆ  ชอบทุกอย่างครับ  ชอบหมด  ตั้งแต่ใบ…..”

                    ผัวะ!!

                    หุบปากเลยนะมึง  ไม่ต้องพูดเลย  เอ้าๆๆๆ  เปิดขวดใหม่ได้แล้ว!!”

                    ผมรีบปัดไมโครโฟนที่อยู่ในมือแม่งทิ้ง  แล้วคว้าดอมเปริญองขึ้นมาเปิดอีกขวดเป็นการตัดไม้ตาย  พอรินใส่แก้วตัวเองเสร็จก็โยนโครมให้ไอ้กรัง  แล้วหันไปชนกับวุ่นราวกับว่าการสัมภาษณ์เมื่อกี้ไม่เคยเกิดขึ้น

                    ไอ้คุณ ‘เจ้าบ่าว’ ตัวดีปล่อยยิ้มหวานเปล่งออร่ามีความสุขที่สุดไปรอบห้อง

                    เขินหรอ?”

                    เขินบ้านแป๊ะอะไรละ!!”

                    เขาไม่เถียงผมอีก  ยกแก้วจิบเปปซี่ทั้งๆที่ยังยิ้มอยู่อย่างนั้น  ผมหมั่นไส้เลยดันก้นแก้วมันขึ้นไปหวังให้แม่งสำลักสักหน  แล้วสะบัดตูดเดินไปนั่งกับไอ้เอ็กซ์ไอ้ไวน์ที่ไม่ได้เจอกันมาเป็นอาทิตย์

                    แล้วนี่เชรี้ยบูมไปไหนวะ?”

                    คนบริเวณโซฟาเริ่มซาลงไปบ้างแล้ว  ไปหนาแน่นส่วนยาดองที่ไอ้จิ๊บมันคุมอยู่แทน

                    ไม่รู้มันว่ะ  กูโทรหาไม่ติด” เอ็กซ์ว่าพลางหยิบถั่วลิสงตราเจดีย์คู่ป้อนให้ไอ้ไวน์

     

                    วันนี้มันไปออกเดทกับคุณลูกหนู”

     

                    ไอ้ตั๊มโพล่งขึ้นจากด้านหลังโซฟา  มันเอนตูดพิงพนักคุยกับพวกผม

                    ห๊ะ? เดท!?!”

                    เออดิสัส” มันว่าแล้วยิ้มเจื่อน “แบบว่าวันนั้นอ่ะ  พวกมึงไม่มากันใช่ป่ะ  ไอ้กลอนมันเล่นพนันกับไอ้บูม  บอกให้แม่งออกไปบอกรักคนที่เดินผ่านหน้าห้องคนแรก  แล้วแจคพ็อตแตก  คนที่ไม่เค้ยไม่เคยเดินผ่านหน้าห้องกลับมาเดินผ่าน  เจอะคุณลูกหนูซะงั้น”

                    “..แล้วน้องแกก็แบบ คิดจริงจัง..ไอ้ครั้นจะปฏิเสธว่าล้อเล่นก็ไม่ได้  ไอ้บูมก็เคราะห์ร้าย..ต้องตามน้ำ  แต่ก็ไม่ถือว่าโชคร้ายสักเท่าไหร่นะ” ไอ้กลอนเดินมากระแทกแก้วกับกรัง  “มันมีสองทางให้เลือก  หนึ่งคือแดกลูกตะกั่วแล้วลงนรกไปซะ  กับสองคือกลายเป็นหนูตกถังข้าวสารกลายเป็นว่าที่เจ้าพ่อมาเฟียคนต่อไปแทน”

                    ผมฟังแล้วอึ้งนิดๆ  เถียงกลับ “ไอ้บูมไม่เป็นหรอก  เจ้าพ่งเจ้าพ่อ  มันจะเป็นหมอ”

                    ก็นั่นแหละประเด็น!  เสือกตายก่อนได้เป็นหมอทำไงละวะ!”

                    แต่แม่งก็เพี้ยนๆ  มันอาจยอมแดกลูกตะกั่วก็ได้นะ…”

                    แล้วถ้าเป็นพวกมึง  มึงจะเลือกอะไรฟะ”

                    ไอ้ตั๊มตอบแทบไม่ต้องคิด “เจ้าพ่อ!  รวยก็รวย  ถึงจะเถื่อนแต่ก็เท่ห์  แถมคุณลูกหนูก็สวยหยาดปานเทพธิดานางฟ้าแบบนั้น  หุ่นนี่ก็..อื้มมมม  มันไม่ดียังไงวะ”

                    “…เออ  กูไม่น่าถามมึงเลย”

                    ทุกคนส่ายหน้าพร้อมกัน  สงสัยแม่งจะกึ่มๆได้ที่ละ  พูดออกมาไม่ได้กลัวจะโดนเก็บบ้างเล้ยย

     

                    อยากกินไข่พะโล้ โปะ!!..’

     

                    ไอ้บูมว่ะ” เอ็กซ์บอกเรียบๆแล้วกดรับสาย “ว่าไงสัส  พวกูโทรหามึงเป็นร้อยมิสคอลล์..เออๆ  เรื่องนั้นกูรู้ละ  พวกกูมีปาร์ตี้บ้านไอ้คราม  รีบบิดมาเลยนะว้อย  ห๊ะ?  มาไม่เป็น..?  ไอ้โง่วววววววววววววววววววว  เดี๋ยวกูส่งคนไปรับปากซอยละกัน  เออๆ”

                    มันวางหู  แล้วตบกบาลไอ้ตั๊ม

                    ผัวะ

                    ไปรับสัสบูมปากซอยดิ๊”

                    อ้าวไอ้ห่า  มึงไม่ไปเองวะ?”

                    ได้ยินดังนั้น  ไอ้ไวน์รีบดึงคอเสื้อไอ้เอ็กซ์  กระแซะกระแนะกระแหนอิงซบไหล่กว้าง  แล้วว่า “เอ็กซ์มันต้องดูกูว่ะ  กูเมาาาาาา”

                    เหี้ยกวนนน!!!”

                    ตั๊มสบถพลางชี้หน้าแม่ง  ผมเห็นท่าทางมันจะมึนๆเมาๆก็เลยว่า

                    เออๆ  กูไปด้วยก็ได้วะ  อย่าบ่นสิแสรดดด  ฝากแก้วด้วย”

                    งั้นเดี๋ยวกูไปด้วย  อยากสูดอากาศหน่อย  ฮ่าๆๆ”

                    ไอ้กรังรีบพูด  ตั๊มมันสะบัดหัวแก้มึนแล้วโน้มตัวลงมาวางแก้วลงบนโต๊ะ  ไม่วายหันไปเผ่นกบาลไอ้เอ็กซ์แก้แค้นทีนึง  แต่กว่าที่แม่งจะหันไปด่า  คนเมาก็วิ่งแจ้นไปหน้าประตูห้องโถงซะแล้ว

                    เชรี้ยเอ้ยย”

                    เอาน่า  เดี๋ยวกูมา”

                    ผมตบบ่าเพื่อนหนึ่งทีแล้วละออกมา  เดินตามไอ้กรังที่วิ่งไปดูไอ้ตั๊มที่วิ่งออกนอกชานไปแล้ว  พวกเราหอบพากันลากสังขารเดินไปเซไปหน้าปากซอย

     

                    ซอยบ้านของสีครามเป็นละแวกผู้ดีมีอันจะกินครับ  ถนนสองด้านมีต้นไม้ขึ้นเต็มก่อนจะถึงรั้วบ้านแต่ละหลัง  มีเสากรีกโรมันตั้งแทนเสาไฟขึ้นไปตลอดทาง  ไฟอ่อนๆฉายชัดท่ามกลางความมืดมิดของยามราตรี  ถนนลาดยางยาวออกไปประมาณ300เมตรก่อนจะถึงบ้านโกสินทร์วิตรม

     

                    เชรี้ยบูมไม่เคยมาบ้านสีครามหรอวะ?”

                    ผมถามไอ้กรัง(ที่ยังมีสติดี ต่างกับคู่หูมันลิบลับ) 

                    อย่าว่าแต่มันเลย  พวกกูก็เพิ่งเคยมาบ้านไอ้ครามครั้งแรกเนี่ยแหละ  ปกติเวลาจัดจัดปาร์ตี้ต้องบ้านไอ้ไวน์ใช่ป่ะละ  เหล้าฟรีด้วย  นี่ก็ได้เอ็กซ์มันโทรบอกทางมา”

                    (..บ้านไวน์ทำโรงงานหมักเหล้ายี่ห้อดังของอิตาลีครับ  ตกทอดมาตั้งแต่รุ่นปู่ของปู่ของปู่มันแล้ว  นี่ก็ขยายสาขามาประเทศไทย  เพราะฉะนั้นอย่าไปสนใจเรื่องชื่อมันกับน้องเลย..)

     

     

                    อะ………อ่อกกกกกกกกกก”

     

                    เชรี้ยแล้ว!!!  เหี้ยตั๊มอ้วกกกก!!!!!!  เฮ้ยมึงถังขยะอยู่ทางนี้ว้อยยย  เมาขนาดนี้ทำไมไม่บอกกูก่อนออกจากบ้านวะพับผ่า!!”

     

                    ผมกระพริบตาปริบๆขณะมองไอ้เหี้ยตั๊มปล่อยของเมื่อเย็นออกมาแล้วลากไหลไปตามทางกว่าจะถึงถังขยะ  แล้วจึงรีบเดินไปลูบหลังมันทันที

                    เวรละ  งี้ไม่ถึงปากซอยแน่  มึงเอาเชรี้ยนี่กลับไปเก็บก่อนเหอะ  เดี๋ยวกูไปรับไอ้บูมเอง”

                    เออๆ  เฮ้ยไอ้ตั๊ม  เดินไหวป่าววะ”

                    หวายๆ…”

                    เดี๋ยวปั๊ดทิ้งไว้กับซากขยะแม่งเลย  เอ้า  ขึ้นหลังมา”

                    แล้วผมก็ช่วยมันจับไอ้ตั๊มขึ้นหลัง  แบกกลับบ้านสีคราม  ให้ตาย..แม่งไม่ได้กลัวเสื้อเลอะเลยรึไงฟะ?  ลืมไปว่าเพราะเป็นไอ้กรัง  แค่เสื้อเลอะ..ไม่ได้ช่วยให้ความซกมกมันเพิ่มขึ้นเท่าไหร่หรอก - -‘’

     

                    ระวังตัวนะว้อย” มันยังหันมาเป็นห่วงผม

                    มึงสิระวัง  แม่งอ้วกอีกแน่”

                    สาดด อย่าแช่ง”

                    กร๊ากกกกก”

     

     

                    พอเห็นพวกมันเดินไปไกลแล้วจึงหันกลับมาแล้วเดินต่อ  ป่านนี้ไอ้บูมร้องไห้อยู่บนมอไซค์เพราะหาทางมาไม่ถูกแล้วแน่นอน

     

     

                    อะ..

                    เชือกรองเท้าหลุด..

     

     

                    ฟึบ!

     

     

                    ผมก้มลงผูกเชือกรองเท้า  แล้วสัมผัสได้ถึงอะไรบางอย่างที่เฉี่ยวหัวไปผมไม่ถึงคืบ  ผมหมุ่นคิ้วแล้วหันหัวกลับไป

     

     

     

                    ..โดน ‘อุ้ม’ ไปแล้วมันจะลำบาก..

     

     

     

                    โค้ทหนังสีดำยาวครึ่งเข่ากับหมวกกันน็อคติดฟิล์มมืดสนิทมองไม่เห็นข้างใน  มือทั้งสองข้างสวมถุงมือสีดำรัดกุม  โดยมือข้างหนึ่งถือผ้าเช็ดหน้าสีขาวไว้เหมือนเตรียมพร้อม

     

                    เขายืนนิ่งเหมือนตกใจที่เห็นผมหันกลับไปมอง

                    ผมก็นิ่งเหมือนกันที่เห็นเขายืนอยู่ข้างหลัง

     

     

                    เหี้ย!!!”

     

                พลั่ก!!

     

     

                    ฝ่ายที่ไหวตัวก่อนเป็นฝ่ายได้เปรียบ  ผมถีบแม่งสุดแรงจนรองเท้าข้างที่เชือกหลุดกระเด็นตามไป  แล้วออกแรงทั้งคลานทั้งวิ่งไม่เหลียวหลังหันกลับไปมอง

                    สมองประมวลผล  เวรเอ้ย  ถ้าหากเชือกรองเท้ากูไม่หลุดมึงคงโปะยาสลบแล้วลากกูไปแล้วสินะครับ!?  ไอ้ห่ารากกกกกกก!!!!

                    ใจนึงนึกโทษตัวเองว่าทำไมไม่ระวังตัว  สถานการณ์ของตัวเองตอนนี้ก็ไม่ได้สู้ดีอะไรเล้ยยยยังมีหนังหน้าเดินเอ้อระเหยลืมตัวอยู่ในซอยเปลี่ยวอีก  ว่าแต่..มันเปลี่ยวจริงๆนะว้อย!! ไม่มีรถสักคันเลยรึไง  เบนซ์หรือลีมูซีนก็ได้ผ่านมาสักคันน่ะ!!!

                    มือใหญ่คว้าแขนผมไว้  ผมไม่รีรอที่จะหันกลับไปตั๋นหน้าแม่ง

     

                    ปั๊ก!!!

     

                    เชรี้ย!!! เจ็บ!!!!

                    ชกหมวกกันน็อคทำไมเล่าไอ้โง่วววววววววว!!!!!!

                    ผมไม่รอให้เขาหัวเราะกับความจ๊าดง่าวของผมหรอกครับ  ยกเท้าเปล่าๆนี่แหละถีบแม่งอีกครั้ง  ถีบจนกว่าเขาจะยอมปล่อยมือนั่นแหละ  แต่อนิจจา..หมอนั่นไม่ได้โง่  มันใช้อีกมือจับข้อเท้าผมไว้ซะอย่างงั้น  ทำให้ผมรู้ว่าไอ้ผ้าเช็ดหน้าชุบยาสลบที่มันคิดจะใช้กับผมน่ะหล่นลงไปตั้งแต่ลูกถีบครั้งแรกแล้ว

                    เพราะงั้น..ถ้ามันจะเอาเรื่องผมจริง..คงคิดจะฟาดผมให้สลบนั่นแหละครับ..

                    คิดแล้วก็กระโดดเหยงๆ  การทรงตัวด้วยขาเดียวนี่มันช่างอัปรีย์นัก

     

                    และเหมือนสวรรค์เข้าข้าง  ผมเห็นไฟสองดวงของรถคันนึงพุ่งตรงมาครับ  ผมรีบแหกปากลั่น

                    ช่วยด้วยค้าบบบบบบบบบ  ช่วยล่วยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย”

                    แล้วผมก็ชะงักเสียงลงอ้าปากค้าง  เมื่อเห็นว่าไอ้คันที่ขับมาหาผมด้วยความเร็วแสงน่ะมันไม่ใช่เบนซ์ ลีมูซีน ปอร์เช่ เฟอร์รารี่  หรือรถฐานะสูงส่งของใครที่ไหนในซอย  มันคือ…

                    รถตู้ครับ รถตู้!!!  อิสาดดดด มึงจะขนพวกมาอีกทำม๊ายยยยยยยยยยยยย

                    รถตู้คันนั้นโฉบเฉี่ยวฉวีวัดตะหวัดทีเดียวรวบตัวทั้งผมทั้งคู่กรณีขึ้นรถได้ไม่ยากเย็น  นอกจากไอ้คนที่จับผมอยุ่นี่แล้วยังมีคนอื่นอีก3คนในรถครับ

     

                    ปล่อยกรู๊วววววววววววว!!!!!!!!”

     

                    ผมแหกปากลั่น  พวกมันคนนึงพยายามดึงประตูรถตู้ที่เคลื่อนที่ประหนึ่งตัวเองเป็นแสงนั้นให้ปิดลง  ผมจะยอมหรอครับ  ทั้งถีบทั้งลากเอาตัวเองไปขวางให้ปิดไม่ได้  โดนประตูกระแทกเข้าไปเต็มๆ  วินิจฉัยได้ว่าพรุ่งนี้แม่งต้องเป็นแผลบวมเขียวแดงม่วงแน่นอน  แต่จะไปกังวลเรื่องนั้นทำซากอ้อยอะไรได้ละครับ  ตอนนี้ต่อให้ต้องกลิ้งไปตามถนนเพื่อรอดตายผมก็ยอมละ!!

     

                    ผมพยายามยื้อตัวลงให้ตูดโดนถนนให้มากที่สุด  แต่พวกแม่งก็พยายามลากผมเข้าไปข้างใน  ผมชะเง้อหน้ามองสถานการณ์ตรงหน้า  นั่นไง!!  เห็นรถมอไซค์โซนิกสีแดงสดของเหี้ยบูมกำลังวิ่งเข้ามา

                    ไอ้สาดบูมมมมมม  ช่วยกรูด้วยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย”

                    เป็นผลครับ  เพื่อนผมคนนั้นเปิดหน้าหมวกกันน็อคหรี่ตามอง  พอเห็นสภาพผมตอนนั้นละมันรีบจอดแล้วหมุนหน้ารถขวางทางไอ้รถตู้บ้านี่  แล้วคนขับจะทำอะไรได้หรอครับ  มันก็ต้องหักหลบอย่างเสียมิได้น่ะสิ!!

                    เอี๊ยดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด

                    เบรคยังไงผมไม่รู้ละ เพราะผมขับรถไม่เป็น  แต่ตอนนี้ร่างผมก็ลอยหลุดออกมาจากประตูรถหล่นตุ๊บห่างจากไอ้บูมไปไม่กี่เมตร

                    ปั๊ก!!

                    ถ้ากระดูกก้นกบผมเปราะบางกว่านี้คงจะหักไปแล้วละ  แต่เจ็บจะสะโพกเป็นบ้า  ข้อเท้าขวาก็ท่าจะเคล็ด  แต่ยังไงตอนนี้ผมก็หลุดจากรถตู้นั่นมาได้แล้วละ

                    สัสเดียร์!!  ขึ้นมา..!!”

                    มอไซค์ไอ้บูมก็มาจอดตรงหน้าผม  มันกระชากร่างระรวยรินของผมทีเดียวให้ลุกขึ้นกึ่งนั่งกึ่งยืน

                    เหี้ยไรวะเนี่ย”

                    กูไม่รู้”

                    ผมสั่นศีรษะ  ตอนนั้นคงหน้าซีดเผือดใช้ได้ละครับ

     

                    ผัวะ!!!!!

     

                    ไม้เบสบอลสีเงินสว่างฟาดเข้าตรงกลางขมับจนมันหล่นลงจากมอเตอร์ไซค์ลงข้างตัวผม  ผมเพิ่งยังลุกได้ไม่เต็มที่ก็ถูกเรดโซนิคทับจนล้มลงไปอีกคน  ไอ้บูมสั่นศีรษะของมันเหมือนมึนๆ  แต่ผมก็ไม่ได้ทันเป็นห่วงมันเท่าไหร่เพราะไอ้แบตเตอร์มือดีก็ย่างสามขุมเข้ามาแล้ว

                    มึงต้องการอะไรจากกู!!!”

                    วินาทีนั้นผมนึกถึงลาล่า  ถ้าหากพูดเพราะกับมันนิดหน่อยอาจจะลดหย่อนโทษไปนิดนึงก็ได้มั้ง..

                    มึงไม่มีสิทธิรู้”

                    เขาโต้กลับด้วยเสียงแหบทุ้ม  ฟังลำบากนิดหน่อยเพราะทุกคนสวมหมวกกันน็อคอยู่

                    แล้วกระชากผมลุกขึ้นจากมอไซค์  อะไรสักอย่างขูดจนผมเจ็บ  สงสัยจะได้เป็นแผลแน่นอน

     

                    เชรี้ยเอ้ย!!”

     

                    พลั่ก!!

                    ไอ้บูมสบถลั่นแล้วถอดหมวกกระป๋องมันออก  ลุกพรวดขึ้นมาชกคนที่จับผมเข้าที่ท้องซะเต็มเหนี่ยว  ด้วยความประมาทหรืออะไรไม่รู้มันเลยเซปล่อยแขนผมไปซะงั้น  แต่พวกมันอีกสามตัวก็ไม่รีรอหรอกครับ  ตรงเข้ามาจะจับผมท่าเดียว

                    วิ่งก่อน!!”

                    ผมกึ่งวิ่งกึ่งผลักเพื่อนให้ออกตัววิ่ง  มันสั่นศีรษะเหมือนยังมึนๆอยู่  ผมเห็นมันมีเลือดออกทขมับด้วย  ขนาดใส่หมวกกระป๋องยังบาดเจ็บได้ขนาดนี้  ไอ้สัสนั่นฟาดไม่ยั้งแรงเลยนี่หว่า

                    แม่งเป็นใครวะ!!”

                    กูไม่รู้”

     

     

                       ปัง!!!!

     

     

                    เสียงหนึ่งดังขึ้นในวินาทีเดียวกับที่ไอ้ผมทรุดตัวลงไปนั่งกองกับพื้น  ความเจ็บเสียดขึ้นมาจากต้นขาแล่นริ้วจนน้ำตาเล็ด  บูมมันหยุดวิ่งแล้วรีบกลับมาดูผมด้วยใบหน้าตื่นๆ

                    มันมีปืน!!

                    เราสองคนสบตากัน  ด้วยไอคิวระดับพวกเราแล้วไซร้…ยังไงก็หาทางออกไม่เจอหรอกว้อย

                    อย่าเข้ามานะว้อยยย!!!”

                    มึงขู่แล้วได้อะไรเล่าไอ้บูม  มึงอ่ะวิ่งไป!!”

                    สัส  ยังมีหน้ามาพระเอก”

                    “..เป้าหมายมันคือกู..!!!”

                มึงเป็นเพื่อนกู..!!!”

                    ผมจ้องตามัน  เพิ่งเคยเห็นมันมีแววตาจริงจังก็ครั้งนี้ครั้งแรกเนี่ยแหละ

     

                    ตืนขวาเคล็ด  ต้นขาซ้ายถูกยิง  เลือดออกที่หลังมือขวา  ศอกถลอกทั้งสองข้าง  ไอ้บูมโดนฟาดกบาล  ยังมีสติอยู่เนี่ยนับว่าเยี่ยมแล้ว..

                    บูมประคองผมที่เลือดไหลอาบขาซ้าย  เจ็บจนชา..และก็แทบไม่รู้สึกอะไรแล้ว

     

                    สมองผมมึนตึบๆ  คิดอะไรไม่ออก  ภาพตรงหน้าก็ดูพร่าเลือนเต็มที

     

     

                    รถตู้ไม่มีป้ายทะเบียน…

                    ไม่มีอะไรช่วยกูได้เลยรึไงนะวินาทีนี้…

     

     

     

                    ผมเพิ่งเคยรู้จักคำว่า.. ‘ความรู้ท่วมหัว เอาตัวไม่รอด’ ก็คราวนี้เองละครับ..

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×